แชร์

บทที่ 373

ผู้แต่ง: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-01 18:00:23
“ไม่ได้ยินสิ่งที่เวินหนี่พูดเหรอ เธอก็ตกลงไปในทะเลเหมือนกัน ทำอย่างกับว่าลูกสาวของคุณเป็นผู้ถูกกระทำ เวินหนี่ของพวกเราต่างหากที่เป็นเหยื่อ เรายังไม่ทันได้พูดถึงลูกสาวของคุณเลย แต่คุณกลับร้อนตัว ใส่ร้ายคนอื่นขึ้นมาก่อนซะแล้ว!” ถังเยาเห็นว่าเธอคนนั้นไม่มีเหตุผล จึงอดไม่ได้ที่จะตะโกนใส่เธอ

แม่ของเจียงซิงถงพูดขึ้นอีกว่า “ลูกสาวของฉันจะทำร้ายคนอื่นได้ยังไง ตอนนี้เธอยังนอนอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่เลย แต่ผู้หญิงคนนี้กลับไม่เป็นอะไร นั่นก็หมายความว่าเธอทำร้ายลูกสาวของฉัน ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะพลาดตกลงไปทะเลอย่างแน่นอน! บางทีอาจเป็นเพราะเธอตั้งใจจะปกปิดความผิดของตัวเองเลยบอกว่าเธอก็ตกลงไปในทะเลด้วยเหมือนกันก็ได้!”

เธอเชื่อว่าเวินหนี่อิจฉาลูกสาวของเธอ และผลักลูกสาวของเธอลงทะเล

เพราะมันไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ ดังนั้นเวินหนี่จะพูดโกหกยังไงก็ได้

“คุณมันไร้เหตุผลสิ้นดี แจ้งความกับตำรวจแล้วให้ตำรวจมาตรวจสอบด้วยตัวเองไปเลย!” ถังเยากล่าว

“เอาสิ ตรวจสอบเลย ฉันก็อยากเห็นเหมือนกันว่าเธอจะเสแสร้งอะไรอีก!” นางเจียงพูดอย่างหยิ่งผยอง

เวินหนี่มองไปที่นางเจียงและพูดอย่างเรียบนิ่ง ”ฉันโทรแจ้งตำรวจเรียบร้อยแล้ว อีกเ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 374

    เจียงซิงถงพูดพลางหลั่งน้ำตาและจับมือแม่ของเธอด้วยท่าทางหวาดกลัวเวินหนี่ สิ่งนี้กระตุ้นการปกป้องของคนเป็นแม่ เธอกอดเจียงซิงถงและมองเวินหนี่ด้วยความเกลียดชัง “เธอจะแก้ตัวยังไงอีก ลูกสาวของฉันชี้ตัวแล้วว่าเป็นเธอ เธอนั่นแหละที่ทำร้ายลูกสาวของฉัน ยัยผู้หญิงโหดร้าย เห็นว่าลูกสาวของฉันเก่งก็เลยอิจฉาริษยาเธอใช่ไหม!”นายเจียงเองก็ดูมั่นอกมั่นใจ เขามองไปที่เย่หนานโจวก่อนจะพูดขึ้นเสียงเย็น “ลูกสาวของผมฟื้นแล้ว เธอดิ้นไม่หลุดแน่ หากคุณเก็บผู้หญิงใจอสรพิษคนนี้ไว้ข้างกาย มันก็มีแต่จะสร้างปัญหาให้กับคุณเท่านั้น!”และแล้วตำรวจก็มาถึง เมื่อนางเจียงเห็นตำรวจ ก็เหมือนได้เห็นผู้ช่วยชีวิต เธอรีบวิ่งไปคว้าเสื้อของตำรวจทันที “คุณตำรวจ พวกคุณมากันสักที ผู้หญิงคนนี้ทำร้ายลูกสาวของฉัน รีบจับเธอเข้าคุกทีค่ะ อย่าปล่อยให้เธอไปทำร้ายคนอื่นอีก!”แต่ตำรวจไม่ได้ไร้เหตุผล เขากวาดตามองผู้คนที่อยู่ตรงนั้นแล้วถามว่า “เมื่อกี้ใครเป็นคนโทรแจ้งตำรวจครับ?”เวินหนี่ยืนขึ้นมองตำรวจแล้วตอบว่า “ฉันเป็นคนแจ้งความเองค่ะ”ตำรวจหยิบปากกาและสมุดจดบันทึกขึ้นมาพร้อมกับถามว่า “พวกเราทราบสิ่งที่คุณแจ้งทางโทรศัพท์แล้ว แต่รบกวนแจ้

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 375

    เพื่อทำตามคำขอของเจียงซิงถง นายเจียงจึงกล่าวขึ้นว่า “คุณตำรวจ พวกเราออกไปคุยกันข้างนอกเถอะครับ คุณเวินเชิญออกไปด้านนอก ที่นี่ไม่ต้อนรับคุณ!”เวินหนี่มองไปที่เจียงซิงถงที่กำลังเสแสร้งทำเป็นอ่อนแอ ดูไม่เหมือนคนบ้าอำนาจที่มีความมั่นใจเหมือนตอนที่อยู่ที่ท่าเรือเลยสักนิดแน่นอนว่าเธอรู้ว่าเจียงซิงถงกำลังเสแสร้งทำเป็นน่าสงสาร และทำให้ทุกคนคิดว่าเธอเป็นเหยื่อ เวินหนี่เยาะเย้ย “เธอกลัวฉัน หรือว่ากลัวความผิด? กลัวว่าฉันจะเปิดเผยเธอ หรือคิดว่าแค่การนอนอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลและแสร้งทำตัวเป็นผู้ถูกกระทำ แล้วฉันจะไม่มีวิธีจัดการเธอแล้วอย่างนั้นเหรอ?!”เจียงซิงถงยังคงมีความหวัง เพราะมันไม่มีหลักฐานอะไรเลย และเธอก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสมากกว่าเวินหนี่ ดังนั้นจึงสามารถแถไปได้แต่เธอกังวลว่าหากพูดมากเกินไปจะเป็นการเปิดเผยตัวเอง และที่สำคัญที่สุดคือเธอรู้สึกกลัวความผิดในใจ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอทำอะไรแบบนี้เธออยากให้มันรีบผ่านพ้นไป และทางที่ดีที่สุดคือเวินหนี่ถูกจับเข้าคุก และเธอไม่ไม่มีความผิด แบบนั้นเธอถึงจะสบายใจลงได้ “แม่คะ รีบไล่เธอออกไปทีค่ะ หนูไม่อยากเห็นหน้าเธอแล้ว!” เจียงซิงถงจับมือแ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 376

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่ลึกล้ำ ตอนแรกเขากังวลว่าเวินหนี่จะถูกเอาเปรียบไม่ว่าเธอจะผลักเจียงซิงถงจริงหรือไม่ก็ตาม เขาก็จะอยู่ฝั่งเธอหากตระกูลเจียงคิดจะจับเธอเข้าคุก เขาก็จะใช้ทุกวิธีในการข่มขู่ตระกูลเจียงเพื่อพาเธอออกมาเพราะเวินหนี่ขอให้เขาเงียบ เขาจึงปิดปากมาจนถึงตอนนี้ เขาโล่งใจที่เธอสามารถเอาตัวรอดด้วยตัวเองได้ ตำรวจหยิบเครื่องบันทึกเสียงขึ้นมาและมองสองแม่ลูกตระกูลเจียง “หากนี่เป็นสถานการณ์จริง นั่นเท่ากับว่าเป็นการจงใจฆาตกรรม แม้ว่าผู้เสียหายจะปลอดภัยดี แต่คุณก็ยังจะต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดี!”เมื่อได้ยินตำรวจพูดแบบนั้น นางเจียงก็คิดว่าพวกเขาเข้าข้างเวินหนี่ “คุณตำรวจ คุณยังไม่ทันได้ตรวจสอบอย่างชัดเจนเลยนะคะ ผู้หญิงคนนี้ต่างหากที่เป็นคนร้าย มันไม่เกี่ยวอะไรกับลูกสาวของฉันเลย พวกคุณกำลังร่วมกันปกปิดความผิด คิดว่าพวกเราไม่ได้อาศัยอยู่ในประเทศแล้วจะรังแกเรายังไงก็ได้อย่างนั้นเหรอ พวกเราคุณทำเกินไปแล้ว!”คำพูดของนางเจียงค่อนข้างรุนแรง จนตำรวจอดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนสีหน้า “คุณกำลังตั้งคำถามกับพวกเราอยู่งั้นเหรอ?”พ่อของเจียงซิงถงรู้ว่าเรื่องราวกลับตะละปัดแล้ว คลิปเสียงต่

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 377

    “คุณเจียง เชิญครับ”ตำรวจเองก็มองออกว่านายเจียงแสร้งทำเป็นพูดดีเพราะไม่ต้องการรับผิดชอบต่อเรื่องนี้พวกเขาปฏิบัติตามขั้นตอน ไม่มีการเห็นอกเห็นใจใครทั้งสิ้นเจียงซิงถงยังคงปฏิเสธ ดังนั้นตำรวจจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเข้าไปเชิญเธอด้วยตัวเองเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงสองคนเดินเข้าไปและอุ้มตัวเจียงซิงถงขึ้นมาทันทีเจียงซิงถงหวาดกลัวและร้องไห้เสียงดัง “ไม่ ฉันอยากไปสถานีตำรวจ แม่คะช่วยหนูด้วย หนูไม่อยากไป!”“ปล่อยลูกสาวของฉันนะ อย่ามาแตะต้องเธอ!” นางเจียงปกป้องลูกสาวของตนตำรวจอีกคนดึงนางเจียงออกไปเจียงซิงถงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงยกลงมาจากเตียง เธอร้องไห้อย่างหนัก เมื่อเห็นว่าแม่ของตนไร้ประโยชน์จึงหันไปมองพ่อของเธอ “พ่อคะ ช่วยหนูด้วย หนูไม่อยากติดคุก ได้โปรด ช่วยหนูด้วย!”แล้วเธอก็ถูกตำรวจพาตัวออกไปนายเจียงไม่ต้องการให้เป็นแบบนี้ แต่ตำรวจยืนกรานที่จะทำเช่นนี้ และเวินหนี่ก็ไม่ยอม ซึ่งทำให้เขาทั้งโกรธทั้งอัดอั้น เขาหันไปมองเวินหนี่แล้วพูดขึ้นเสียงเย็น “คุณเวิน คุณไม่ไว้หน้าผมเลยจริง ๆ !”เวินหนี่พูดขึ้นว่า “คุณเจียง คุณอยากปกป้องลูกสาวตัวเองฉันเข้าใจได้ แต่ไม่ว่าลูกสาวของคุณทำผิดอะไรม

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 378

    “เมื่อก่อนน่าสงสาร แต่ตอนนี้ยังน่าสงสารอยู่ไหม?” นายเจียงพูดต่อ “นั่นคือเย่หนานโจวในอดีต ตอนนี้เย่หนานโจวเป็นผู้ถือหางเสือเรือของตระกูลเย่ เราอยู่ต่างประเทศ แต่คุณลองดูสิว่าผู้คนในเมืองหลวงต้องคอยดูสีหน้าของเย่หนานโจวหรือเปล่า ดูเย่เหว่ยถิงสิ เขามีสิทธิ์พูดอะไรไหม?”นางเจียงพูดไม่ออกและเริ่มร้องไห้อีกครั้ง “พวกเราทำได้แค่มองดูซิงถงทนทุกข์ทรมานอย่างนั้นเหรอ? แบบนั้นให้ฉันไปรับโทษแทนลูกยังจะดีซะกว่า!”เจียงซิงถงเป็นลูกสาวของพวกเขา และพวกเขาต้องหาทุกวิถีทางเพื่อช่วยเธอแต่ข้างหลังของเขายังมีเจียงกรุ๊ป มีคนจำนวนมากที่ฝากปากท้องไว้กับเขา เขาไม่สามารถเพิกเฉยต่อคนเหล่านั้นได้ เขาต้องคิดถึงผลระยะยาวณ สถานีตำรวจ เวินหนี่ได้ทำการบันทึกปากคำเรียบร้อยแล้วเครื่องบันทึกเสียงก็ได้รับการรับรองความถูกต้องว่ามันไม่ใช่การตัดต่อในโลกนี้ไม่มีอาชญากรรมที่สมบูรณ์แบบแม้ว่าเจียงซิงถงจะทำลายกล้องวงจรปิด และคิดว่าจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แต่หลักฐานก็จะถูกตรวจพบได้ตราบใดที่ใช้กลอุบายไม่นานตำรวจก็ตรวจพบว่าคนขับรถของเจียงซิงถงเป็นคนทำลายกล้องวงจรปิดให้เธอ เมื่อนำตัวคนขับรถมาสอบปากคำ ความจริงก็ถูกเปิ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 379

    เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เวินหนี่ก็รู้สึกเข้าอกเข้าใจเจียงซิงถงมาก เธอเองก็ตกหลุมรักเขาเพราะเขาช่วยชีวิตเธอเอาไว้ แต่เธอไม่ได้มีอาการรุนแรงเท่ากับเจียงซิงถงหากเย่หนานโจวไม่ได้แต่งงานกับเธอ เธอก็อาจจะยอมแพ้ ใครจะอยากแขวนคอตายบนต้นไม้กันล่ะ?ตอนนี้เธอคิดขึ้นอีกว่า หากเขาไม่แต่งงานกับเธอ ก็คงไม่มีเกิดเรื่องขึ้นมากมายขนาดนี้“ก่อนหน้านี้การช่วยคนเป็นหน้าที่ของกองทัพ มันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตัวฉัน ใครจะยอมเสี่ยงชีวิตกัน นั่นมันคือความเชื่อและความรับผิดชอบในตอนนั้น ถ้าหากเรื่องไม่เป็นอย่างนั้น ฉันก็คงไม่อยู่ในกองทัพ และคงไม่มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายแบบนี้” เย่หนานโจวตั้งสมมติฐานให้กับตัวเอง หากเขาอยู่ในตระกูลเย่ เขาก็คงไม่ต้องเข้าร่วมกองทัพและเสี่ยงชีวิตตัวเองแบบนี้ สำหรับเขามันไม่ใช่ความรุ่งโรจน์ แต่คือจุดตกต่ำในอดีต“ฉันรู้” เวินหนี่มองเขาแล้วยิ้ม “เรื่องมันผ่านมาแล้ว ฉันเองก็จะไม่คิดถึงมันอีก”เธอรู้มานานแล้วว่าการที่เย่หนานโจวช่วยเธอไว้เป็นเพียงคำสั่งและความรับผิดชอบเท่านั้น ซึ่งนั่นก็เป็นสาเหตุที่เขาจำเธอไม่ได้เลยเย่หนานโจวจ้องเธอ แม้ว่าเธอจะยิ้มและดูสงบนิ่ง แต่เขาก็รู้สึกแปลก

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 380

    ขณะที่เขากอดเธอ ร่างกายของเวินหนี่ก็แข็งทื่อ ภายในไม่กี่วินาทีต่อมา เธอก็วางหม้อที่กำลังปรุงอยู่ลงแล้วถามขึ้นว่า “เป็นอะไรไปคะ? ฉันใกล้ทำเสร็จแล้วล่ะค่ะ”แต่เย่หนานโจวก็กอดเธอแน่นขึ้นเรื่อย ๆ และซุกหน้าลงในเส้นผมของเธอ กลิ่นหอมที่คุ้นเคยทำให้เขาผ่อนคลายลงทันที “เปล่า ฉันแค่อยากอยู่กับเธอ แบบนี้ฉันถึงจะรู้สึกสบายใจขึ้น”ดวงตาของเวินหนี่เป็นประกาย และเธอยังคงผัดอาหารในหม้อต่อ “ในห้องครัวมีควันเยอะ มันไม่เหมาะกับคุณ”เย่หนานโจวกล่าว “ถ้าได้อยู่กับเธอ ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น”หากเป็นเมื่อก่อนเวินหนี่คงจะรู้สึกอบอุ่นและตื่นเต้นอยู่ข้างในแต่ตอนนี้เธอใจนิ่งดั่งน้ำ ราวกับว่าคำพูดหวาน ๆ ของเย่หนานโจวนั้นไร้ผลบางทีอาจเพราะเคยคาดหวังมากเกินไป จนหัวใจเธอมันชินชาไปแล้ว เธอไม่ได้ผลักเขาออก ไม่ได้ปฏิเสธ และไม่พูดอะไรอีก เพียงแค่อยู่ด้วยกันอย่างเงียบ ๆเธอรู้ดีว่า พวกเธอไม่ค่อยมีโอกาสแบบนี้และโอกาสแบบนี้ก็มีไม่มากนัก เมื่อเธอทำอาหารเสร็จแล้ว ถึงได้ดึงมือของเย่หนานโจวออก เธอมองย้อนกลับไปที่เขา แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “ออกไปเถอะค่ะ อาหารเสร็จแล้ว เดี๋ยวจัดใส่จานก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว”“ทำไมต้องพิถีพิถ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 381

    เมื่อได้ยินแบบนั้น เย่หนานโจวก็ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะฟังยังไงเขาก็รู้สึกเหมือนว่าเธอกำลังเหน็บแนม เขามองไปที่เวินหนี่ที่อยู่ตรงข้ามเขา แต่รู้สึกว่าเธออยู่ห่างไกลเขาเหลือเกิน ระยะห่างทำให้เขารู้สึกว่างเปล่า ก่อนที่เขาจะพูดขึ้นด้วยเสียงทุ้มลึก “เวินหนี่ เขยิบเข้ามาใกล้อีกหน่อย”เวินหนี่ไม่ได้ปฏิเสธ และขยับเก้าอี้มาข้าง ๆ พร้อมทั้งคีบอาหารให้เขา “เย็นหมดแล้ว ทำไมยังไม่กินอีกล่ะคะ หรือเป็นเพราะว่าฉันทำไม่อร่อยเหรอ?”เย่หนานโจวเฝ้าดูเธอตักอาหารใส่ชามของเขา พลางชะงักไปครู่หนึ่ง เขามองเวินหนี่อีกครั้ง ก่อนจะหยิบตะเกียบขึ้นมา “ก่อนจะทำอาหารฉันก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอ ขอแค่เธอเป็นคนทำฉันก็กินหมดอยู่แล้ว”เขาคีบอาหารที่เวินหนี่ใส่ไว้ในจานของตัวเองขึ้นมาต่อหน้าเธอ แล้วใส่เข้าไปในปากพร้อมทั้งพยักหน้าอย่างถูกใจ “อืม ไม่เลว เธอมีพรสวรรค์ในการทำอาหารจริง ๆ!”เขากินอาหารจานเดียวกันอีกสองคำเมื่อเวินหนี่เห็นว่าเขาดูเหมือนจะชอบ อารมณ์ของเธอก็ผันผวน เธอยิ้มพร้อมกับพูดขึ้นว่า “ไม่มีทาง ไหนฉันขอชิมดูหน่อย มันจะอร่อยขนาดนั้นอย่างที่คุณพูดหรือเปล่า”เธอวางตะเกียบลงในจานอีกใบแล้วคีบกินคำเล็ก ๆ “มันก็เ

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 468

    “ไม่ใช่ค่ะ” เวินหนี่ตอบสีหน้าของเย่หนานโจวเปลี่ยนไปและเขาก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “ใกล้จะเป็นอดีตภรรยาแล้วครับ!”คุณหมอถึงกับตกตะลึงเมื่อได้ยินคำตอบ เขาจึงรีบตอบไปว่า “ผู้ป่วยมีอาการกระทบกระเทือนเล็กน้อยและกระดูกมือร้าว เธอจะหายดีหลังจากพักผ่อนสักระยะหนึ่ง พวกคุณไม่ต้องกังวลมากเกินไป”นี่เป็นเรื่องที่ดี เวินหนี่ตอบไปทันที “ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ”“ด้วยความยินดีครับ”ทั้งสองตามเย่จื่อเข้าไปในวอร์ดเวินหนี่เห็นว่าริมฝีปากของเย่จื่อดูแห้งผาก ดังนั้นจึงรีบหาน้ำอุ่นมา และชุบด้วยสำลีก่อนจะเช็ดให้ชุ่มชื้นเย่หนานโจวเฝ้าดูจากด้านข้างในวอร์ดมีคนไม่มากนัก เพื่อป้องกันไม่ให้รบกวนการพักผ่อนของผู้ป่วยเวินหนี่ไม่วางใจ ดังนั้นเธอจึงนั่งลงตรงข้ามเขาอีกครั้ง โดยมุ่งเน้นไปที่การเฝ้าเย่จื่อหลังจากที่เฝ้าได้สักพัก เธอก็รู้สึกง่วงจนเปลือกตาสั่น จากนั้นเธอก็เผลอฟุบหลับไปเมื่อเวินหนี่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะความตกใจ เธอฝันว่ามันมืดสนิทและอยู่ในพื้นที่แคบ ๆกลัวอะไรก็ได้อย่างนั้น แม้แต่ในความฝันก็ยังไม่ปล่อยเธอไป เธอมักจะฝันแบบนี้ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลยเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่ามีเสื้อคลุม

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 467

    หรือว่าเขาจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว?เธอเคยได้ยินเย่จื่อพูดอยู่หลายครั้ง แต่เธอก็ยังไม่ได้คิดถึงเหตุผลบางทีเย่หนานโจวอาจรู้มานานแล้ว จึงเข้าใจโดยปริยาย“เวินหนี่”ลู่เซินเข้ามาหาเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พักสักหน่อยไหม เดี๋ยวร่างกายจะทนไม่ไหวเอานะ”เวินหนี่ยืนนานแล้วและรู้สึกปวดหลัง แต่เธออยากรอให้เย่จื่อออกมา จึงนั่งลงข้าง ๆ “ฉันอยากรอจนกว่าคุณอาจะฟื้น”“ผมจะรอเป็นเพื่อนคุณเอง” ลู่เซินพูดขึ้นอีกครั้งเวินหนี่พยักหน้าไปทางเขาร่างสูงของเย่หนานโจวเอนตัวไปที่กรอบประตูและเหลือบมองความกังวลของลู่เซินที่มีต่อเวินหนี่ ดวงตานั้นแทบจะมีน้ำล้นออกมาได้ และเวินหนี่ก็ดูเหมือนพร้อมยอมรับน้ำใจของเขาคลื่นแห่งความกระสับกระส่ายโจมตีร่างกายของเย่หนานโจวอีกครั้งดวงตาของเขาเย็นขึ้นและจงใจเตะเก้าอี้ข้าง ๆ ให้มีเสียงนั่นคือเก้าอี้ที่ลู่เซินนั่งอยู่ เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมอง เย่หนานโจวก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “โทษที บังเอิญเตะโดนเข้าน่ะ!”“ไม่เป็นไร” ลู่เซินไม่ได้ติดใจอะไรเย่หนานโจวกลับพูดขึ้นอีกว่า “ตรงนี้คือพื้นที่รอสำหรับญาติ ไม่ทราบว่าคุณลู่มาที่นี่ทำไมกัน ที่บริษัทของคุณไม่ยุ่งเหรอครับ?”

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 466

    เขาไม่ได้โต้เถียงกับเธอ และเพิกเฉยต่อเสียงร้องไห้ของเธอสำหรับเขา น้ำตาของเย่ซูเฟินนั้นไร้ค่าเย่ซูเฟินในฐานะผู้หญิง เมื่อเห็นความเฉยชาของสามี มันก็ค่อย ๆ ทำลายแนวป้องกันในใจของเธอทีละน้อยและโวยวายขึ้นอย่างอารมณ์ร้อน “พูดมาสิ ทำไมถึงไม่พูดล่ะ ในสายตาของคุณ เย่จื่อสำคัญกว่าฉันใช่ไหม ฉันเป็นภรรยาของคุณนะ เย่เหว่ยถิง คุณจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้!”เธอร้องไห้จนตาแดง อยากให้สามีเอาใจใส่เธอบ้างแค่หันมามองเธอสักครั้งก็สามารถสงบความโกรธและความกังวลของเธอได้เย่เหว่ยถิงเงียบและทำเหมือนเย่ซูเฟินคือคนแปลกหน้าอย่างเย็นชาเย่หนานโจวมองการอยู่ร่วมกันของพวกเขา เขาเห็นสิ่งนี้จนชินจึงไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆสำหรับเขา พวกเขาคือพ่อแม่ของตนเพียงในนามเท่านั้นการเติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ทำให้เขาชินมานานแล้วถึงขั้นทำให้เขารู้สึกไม่แยแสเย่เหว่ยถิงทนเย่ซูเฟินไม่ไหวแล้ว ดังนั้นจึงลุกขึ้นและพูดกับเย่หนานโจวว่า “ฉันจะลงไปแล้ว ถ้าเย่จื่อฟื้นค่อยบอกฉัน!”เย่หนานโจวลดสายตาลงด้วยสายตาเย็นชาและไม่ตอบอะไรเย่เหว่ยถิงเองก็ไม่ได้รอคำตอบจากเขา เขาไม่ได้คาดหวังอะไรกับเย่หนานโจว เขารู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 465

    เมื่อเห็นความเฉยเมยของเขา เย่ซูเฟินจึงพูดขึ้นว่า “หนานโจว!”เย่หนานโจวไม่ต้องการฟังเธออีกและเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เย็นชาเย่ซูเฟินต้องการพูดอะไรบางอย่างกับเย่หนานโจว แต่ลู่ม่านเซิงร้องไห้และถูกรังแก เธอจึงไปไหนไม่ได้ และทำได้เพียงเดินไปพยุงลู่ม่านเซิง “เซิงเซิงลุกขึ้นเถอะ หยุดร้องไห้ได้แล้ว”ลู่ม่านเซิงถูกพยุงขึ้น เธอซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเย่ซูเฟิน “คุณป้า หนูมันน่ารำคาญมากจนทุกคนไม่ชอบใช่ไหมคะ!”“ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ ฉันชอบเธอ ทุกคนต่างก็ชอบเธอ”เย่ซูเฟินตบหลังลู่ม่านเซิงเพื่อปลอบเธอลู่ม่านเซิงยังคงร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของเย่ซูเฟินเห็นแบบนี้ แม้ว่าเธอจะเป็นฝ่ายผิด แต่ก็ดูเหมือนเป็นผู้ถูกกระทำ ใครจะกล้าไปว่าอะไรเธอได้ ถ้าที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลและมีคนอยู่มากมาย เวินหนี่คงอยากจะฉีกหน้ากากของลู่ม่านเซิงออกเพื่อดูว่าเธอจะเสแสร้งได้สักแค่ไหน แน่นอน เธอรู้ดีว่าไม่ว่าลู่ม่านเซิงจะจริงหรือเท็จแค่ไหน เย่ซูเฟินก็จะยังคงปกป้องเธอความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอดูเหมือนไม่ชัดเจนเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังขึ้น “เย่จื่อเป็นยังไงบ้าง?”เวินหนี่เงยหน้าขึ้นมองและเห็นเย่เหว่ยถิงเดินเข้ามาเขาสวมชุดสูทแ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 464

    ขณะที่เย่ซูเฟินกำลังปกป้องลู่ม่านเซิง เวินหนี่ก็พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เย็นชาเมื่อเย่ซูเฟินเห็นเวินหนี่พูดแบบนั้น เธอจึงพูดขึ้นว่า “เวินหนี่ เซิงเซิงเป็นถึงขนาดนี้แล้ว อย่าอาศัยโอกาสนี้ซ้ำเติมเธออีก!”ปฏิกิริยาแรกของเธอคือปกป้องคนที่อ่อนแอไว้เวินหนี่เดินเข้าไป เห็นลู่ม่านเซิงร้องไห้หนักและดูอ่อนแอจนเกินบรรยาย “ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ พวกคุณมีใครกังวลเกี่ยวกับคุณอาบ้าง สิ่งที่คุณกังวลคือกลัวว่าลูกชายจะไม่เอา ส่วนลู่ม่านเซิงเธอกล้วว่าถูกกล่าวโทษเลยมาเสแสร้งทำเป็นน่าสงสารที่นี่ ฉันเห็นกับตาตัวเองว่าคุณผลักคุณอาลงมา และลู่ม่านเซิงก็น่าจะเป็นผู้ที่ยุยง!”คุณอาถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทำให้เวินหนี่ไม่ต้องการไว้หน้าพวกเธอ “อย่ามาพูดจาไร้สาระ!” เย่ซูเฟินตวาด “ฉันผลักเย่จื่อก็จริง แต่ฉันแค่ผลักเบา ๆ ทำไมเธอถึงไม่คิดบ้างล่ะว่าเย่จื่อจงใจล้มลงไปเอง”เวินหนี่มองไปที่เย่ซูเฟิน “แรงผลักของคุณมันไม่ได้เบา เราทุกคนต่างก็เห็น”เมื่อเย่ซูเฟินเห็นท่าทีของเวินหนี่ น้ำเสียงของเธอก็ดังมากยิ่งขึ้น “เวินหนี่ เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับฉันแบบนี้ ยังไงฉันก็ถือว่าเป็นผู้อาวุโส เป็นแม่สามีขอ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 463

    “ไม่ใช่นะ…” เย่ซูเฟินกล่าว “ลูกยังเป็นลูกชายของแม่ แม่เสียใจมากและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชดใช้ให้ลูก…”“ผมไม่ต้องการมันแล้ว” ดวงตาของเย่หนานโจวเย็นชา “การเรียกคุณว่าแม่มันคือความอดทนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม และคุณก็ควรจะพอใจได้แล้ว!”เย่ซูเฟินอดไม่ได้ที่จะถอยกลับไปสองสามก้าวและพูดขึ้นอย่างดุเดือด “ลูกจะทำกับแม่แบบนี้ไม่ได้นะ อย่าเป็นเหมือนพ่อของลูก ไม่อย่างนั้นแม่พาลูกกลับมามันจะมีความหมายอะไร!”เย่หนานโจวพูดอย่างเย็นชา “หากมีผม การเอาชนะใจสามีของคุณมันถึงจะมีความหมาย แต่น่าเสียดายที่ความพยายามทั้งหมดของคุณมันไร้ประโยชน์!”ทุกคำพูดเหมือนมีดที่ทิ่มแทงใจของเย่ซูเฟินในตอนนั้นการแต่งงานของเธอกับเย่เหว่ยถิงนั้นค่อนข้างน่าขัน เป็นเพียงเพราะเธอดื้อดึงที่จะแต่งงานกับเขาเย่เหว่ยถิงไม่ได้รักเธอเลย ตรงกันข้ามเขาเกลียดเธอเธอคิดว่าตราบใดที่เธอแต่งงานกับเขา เย่เหว่ยถิงก็จะเป็นของเธอเมื่อเรื่องราวมันเลยจุดที่จะเข้าไปแก้ไขได้ มีอะไรที่จะผ่านไปไม่ได้อีก?แต่เธอคิดง่ายเกินไป เย่เหว่ยถิงไม่กลับบ้านและปล่อยให้เธออยู่คนเดียวในห้องที่อ้างว่างเธอใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเอาชนะใจสามีแม้กระทั่ง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 462

    “หนานโจว”ในระหว่างที่โต้เถียงกับเย่จื่ออยู่นั้นเย่ซูเฟินก็สังเกตเห็นเขา และเธอก็ตกใจเล็กน้อยเวินหนี่เองก็มองไปและเห็นเย่หนานโจวยืนอยู่ข้างหลัง ดวงตาของเขาเย็นชาและดูเหมือนจะไม่แปลกใจกับสิ่งที่พวกเธอพูดกลับกัน เขากลับยอมรับความจริงนี้อย่างสงบนิ่งเย่จื่อตกใจเมื่อเห็นดวงตาของเย่หนานโจวในขณะนี้ สิ่งที่เธอเสียใจคือการที่เธอหุนหันพลันแล่นพูดออกไปว่าเขาไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเย่ซูเฟิน เพราะมันถือเป็นการโจมตีเขาเธอมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของเธอมองเพียงเย่หนานโจว “หนานโจว…”เย่หนานโจวไม่ได้พูดอะไรมากเขาเพียงแค่รู้ว่าพวกเธอมาที่สุสานและอาจจะเกิดเรื่องขึ้น เขาจึงเป็นกังวลและแวะเข้ามาดูหน่อยเท่านั้น เย่ซูเฟินโกรธมากขึ้น “เย่จื่อ เธอกำลังพูดอะไร เธอจะให้ฉันมีความสุขไม่ได้เลยใช่ไหม เธอมันสมควรตายจริง ๆ!”เธอผลักเย่จื่ออย่างแรงความสนใจของเย่จื่อมุ่งไปที่เย่หนานโจว ความโกรธของเธอลดลงมากและลดความเกรี้ยวกราดลง ในใจคิดแต่ว่ามันจะสร้างบาดแผลให้เขาหรือไม่เธอไม่ทันได้สังเกตเห็นการกระทำของเย่ซูเฟินและเธอก็ถูกผลักลงบันไดไปทันทีสติของเวินหนี่ยังไม่ทันกลับมาจากการที่เย่หนานโจวไม่ใช่ลูกแท้

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 461

    “ดังนั้นเธอจึงทำทุกอย่างเพื่อทำลายครอบครัวทีละครอบครัว! เธอไม่เคยคิดถึงความผิดของตัวเองเลย!”“ฉันไม่ผิด!” เย่ซูเฟินพูดอย่างเดือดดาล “ทั้งหมดเป็นเพราะพวกเธอบีบบังคับฉันเอง!”เมื่อเห็นว่าทุกคนอารมณ์ร้อน ลู่ม่านเซิงจึงเกลี้ยกล่อมจากด้านข้าง “คุณอา อย่าเถียงกับคุณป้าเลยค่ะ เธอแค่หุนหันพลันแล่นไปเท่านั้น ฉันไม่เป็นไรค่ะ และฉันก็ไม่ได้โทษคุณอาเลย คุณป้าพวกคุณต่างก็ถอยคนละก้าวเถอะนะคะ”“ไม่ใช่เรื่องของเธอ!” เย่จื่อมองไปที่ลู่ม่านเซิง และพูดขึ้นอย่างดุเดือด “ถ้าเธอไม่ได้โทษฉัน แล้วจะเล่าให้เย่ซูเฟินฟังทำไม เธออยากให้เย่ซูเฟินออกหน้าให้ไม่ใช่เหรอ? เสแสร้งแกล้งทำ ภายนอกดูใสซื่อ แต่ภายในคิดไม่ซื่อ ฉันล่ะเกลียดคนแบบเธอที่สุด!”เมื่อเห็นแบบนั้นเย่ซูเฟินก็ผลักเธอทันที “เธอกำลังดุใคร รู้ว่าเซิงเซิงสูญเสียการได้ยิน แต่ยังแอบพูดไม่ดีลับหลังเธอ เธอมันชั่วร้ายแค่ไหนกัน?!”“ถึงฉันจะชั่วร้ายแต่ก็ไม่ได้ขาดคุณธรรมเหมือนเธอ!” เย่จื่อก็ผลักกลับคืนไปเช่นกัน“เธอลงมือกับฉันงั้นเหรอ?”เย่ซูเฟินจ้องเธอด้วยความโกรธ “วันนี้มีเธอก็ไม่มีฉัน!”“ลองดูสิว่าฉันจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ ไหม!”เย่จื่อไม่พูดพล่ำทำเพลงเข้าไปต

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 460

    เย่จื่อไม่คาดคิดว่าเย่ซูเฟินจะโทรมาหาเธอ ซึ่งทำให้เธออารมณ์เดือดขึ้นทันที "ทำไม? หรือว่าเป็นลู่ม่านเซิงที่บอกอะไรกับเธอ ฉันจัดการเธอแล้วยังไงล่ะ!""ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?" เย่ซูเฟินพูดด้วยความโกรธ เพราะอยากจะจัดการกับเย่จื่อให้ได้"ฉันต้องบอกด้วยเหรอ? คิดว่าเธอเป็นใคร!" เย่จื่อไม่สนใจที่จะเคี้ยวเมล็ดแตงโมแล้ว ปัดมันออกไปพร้อมกับกำลังมองหาที่ระบายความโกรธเย่ซูเฟินหัวเราะเยาะ "กลัวสินะ กลัวฉันจะหาตัวเจอ ฉันรู้แล้วว่าโรงงานเสริมความงามของเธอโดนพังเสียหายหมด ตอนนี้ถึงกับต้องหลบซ่อนตัวเหมือนเต่าหดหัวแล้ว!""ฉันเนี่ยนะกลัว? ฉันเคยกลัวเธอสักครั้งไหม! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอแต่งงานกับเย่เว่ยถิง ฉันไม่เคยนับเธอเป็นคนของตระกูลเย่ด้วยซ้ำ!" เย่จื่อตอบกลับอย่างกระแทกกระทั้น"งั้นก็ออกมาสิ มาสู้กันต่อหน้า!" เย่ซูเฟินท้าทาย"ก็ได้ ออกมาก็ออกมา เย่ซูเฟิน ถ้าเธออยากจะตัดขาดกับฉันจริง ๆ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจแล้ว!" พูดจบ เย่จื่อก็ตัดสายทิ้งและหยิบกระเป๋าขึ้น เตรียมออกไปข้างนอกทันทีเมื่อเห็นเช่นนั้น เวินหนี่รีบพูดขึ้น "คุณอาคะ คุณอาจะไปไหนคะ หนูจะไปด้วย"เย่จื่อหันมามองเวินหนี่ "เธอไม่ต้องไป เย่ซูเฟิ

DMCA.com Protection Status