แชร์

บทที่ 229

ผู้เขียน: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-09-24 19:04:13
เธอไม่รู้ว่าเย่หนานโจวต้องการทำอะไร

แต่เธอก็ไม่อยากรอคอยความตายอยู่ที่นี่

เธอไม่เหมาะจะเป็นนกคีรีบูนหรือนกในกรง

และเธอก็ไม่ต้องการเช่นกัน

เย่หนานโจวมองเธอ เธอมีอารมณ์อ่อนไหวและดูระมัดระวังเขามาก

เขาขมวดคิ้วและพูดว่า “เวินหนี่ เธอต้องเข้าใจว่าเธอเป็นภรรยาของฉัน ทำไมถึงได้เรียกตัวเองว่าสัตว์เลี้ยง มันเป็นเรื่องปกติที่จะอยู่กับฉันไม่ใช่หรือไง”

เมื่อก่อนพวกเขาก็เคยอยู่ด้วยกันแบบนี้ ไม่เคยเห็นเธอตื่นตระหนกขนาดนี้มาก่อน

เหตุผลที่ทำให้เธอเปลี่ยนไปคืออะไร เขาไม่เข้าใจสักนิด

เวินหนี่กำผ้าปูที่นอนแน่นแล้วถามว่า “เราจะไปหย่ากันที่สำนักงานเขตเมื่อไหร่?”

“เธอรีบมากหรือไง?”

“ค่ะ” เวินหนี่ตอบ “ในเมื่อตกลงกันไว้แล้ว ก็ไม่ควรเลื่อนเวลาแล้วเลื่อนเวลาอีก คุณเข้าใจไหม?”

เย่หนานโจวจ้องมองเธอด้วยดวงตาคมเข้ม เธอพูดออกมาราวกับไม่มีควมรู้สึก นี่ไม่ใช่เวินหนี่ในเมื่อก่อนอีกต่อไป

ตอนนี้เธอเพียงแค่อยากจะหนีจากเขา ซึ่งทำให้เขาเดาว่า “เป็นเพราะผู้ชายที่ชื่ออาจ้านใช่ไหม?”

เวินหนี่ชะงักไปครู่หนึ่ง ตอนนี้สถานการณ์นี้มันไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว เธอจึงยอมรับไป “ใช่ คุณก็รู้ว่าฉันมีคนอยู่ในใจชื่ออาจ้าน”

ใบหน้
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 230

    ทันใดนั้นน้ำเสียงของเขาก็เปลี่ยน และพูดด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง “เธอจะไม่บอกก็ไม่เป็นไร งั้นก็อย่าคิดพูดถึงเรื่องหย่าอีก อยู่ที่นี่ไป!”เวินหนี่ในเย็นวาบ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ เธอเริ่มมีอารมณ์พุ่งขึ้นอีกครั้ง “เย่หนานโจว คุณหมายความว่ายังไง!”“ทำตัวดี ๆ”เย่หนานโจวกระซิบพร้อมกับลูบผมของเธอ “เธอยังไม่ได้กินอะไร คงหิวแล้วใช่ไหม ฉันสั่งให้คนใช้ทำอาหารโปรดของเธอไว้ให้ ลงไปกินเถอะ”เวินหนี่ไม่คาดคิด เขาไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลยดูเหมือนว่าเธอจะไม่เข้าใจเย่หนานโจวดีนัก หรือเธอจะมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสไตล์ของเขากันนะเธอคิดว่าเขาจะโกรธมาก และทนไม่ไหวที่ว่าเธอมีคนอื่นในใจจนจะหย่ากับเธอทันทีเสียอีกเพราะพวกเธอต่างก็มีคนรักในใจแต่เขายอมกักขังเธอไว้ดีกว่าที่จะหย่ากับเธอเวินหนี่กังวลมาก เธอต้องการหย่า ไม่ใช่อยู่ข้างกายเขาต่อไป “เย่หนานโจว ทำไมคุณไม่ยอมหย่า? บอกฉันทีต้องทำยังไงคุณถึงจะหย่า?”เย่หนานโจวจับมือเธอ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาสงบนิ่ง และริมฝีปากบางของเขาขยับเล็กน้อย “บอกแล้วไงว่าช่วงนี้ฉันไม่มีเวลา”“งั้นคุณก็ต้องมีเวลาที่ว่างบ้างสิ” เวินหนี่เดินเคียงข้างเขาไปเย่หนานโจวตอบ “ตำแหน่งขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 231

    “ไม่เป็นไรค่ะ ใครเป็นคนทำอาหารก็อร่อยเหมือน ๆ กัน เพียงแค่วันนี้ฉันหิวก็เลยกินเยอะเป็นพิเศษเท่านั้น” เวินหนี่ไม่อยากรบกวนเขามากเกินไปการที่เขาเอาใจใส่เธอมากเกินไปมันไม่ดีนักยิ่งเขาเอาใจใส่เธอมากเท่าไร เธออาจต้องจ่ายมากยิ่งขึ้นเท่านั้น“ฉันเหนื่อยแล้ว ขอไปพักผ่อนได้ไหม?” เวินหนี่ถาม“อืม” เย่หนานโจวตอบเบา ๆเวินหนี่โล่งอกและรีบขึ้นไปชั้นบนอีกครั้งพรุ่งนี้พอตื่นขึ้นมาเธอก็ต้องไปที่บริษัท บางทีเธออาจจะไม่ต้องอยู่ที่นี่แล้วก็ได้หลังเลิกงานเธอก็จะได้กลับบ้านเมื่อกลับมาที่ห้อง เวินหนี่ก็ผ่อนคลายขึ้น แต่ใครจะคิดว่าเย่หนานโจวจะตามเข้ามาเมื่อเห็นประตูเปิดออก เวินหนี่ก็ก้าวถอยหลังและถามขึ้นว่า “ทำไมคุณถึงเข้ามาล่ะ?”“นี่คือห้องนอนใหญ่ ถ้าฉันไม่มาที่นี่ แล้วฉันจะไปที่ไหน?” เย่หนานโจวพูดราวกับมันเป็นเรื่องปกติเวินหนี่พูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปนอนที่ห้องรับแขก”เธออยากจะออกไป แต่เย่หนานโจวก็คว้ามือเธอไว้ เขามองเธอก่อนจะพูดขึ้นว่า “จำเป็นต้องหลีกเลี่ยงฉันแบบนี้เหรอ? เราอยู่ด้วยกันมาตั้งนาน เคยนอนแยกห้องกันเมื่อไหร่?”เขารู้สึกว่าเขาและเวินหนี่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยตราบใดที่ไม่หย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 232

    เธอดูตื่นตระหนกมากจนเย่หนานโจวอดไม่ได้ที่จะสงสัย “เป็นอะไรไป?”เวินหนี่รู้สึกลนลานเล็กน้อย เธอลูบท้องตัวเอง นี่ท้องของเธอใหญ่ขึ้นจริง ๆ เหรอ? ตามหลักแล้วมันยังไม่ถึงเวลานี่นาเวินหนี่มองไปที่เย่หนานโจว เห็นเขามองเธออย่างสงสัย จึงรู้สึกกังวลมากยิ่งขึ้นและตอบไปว่า “ฉันคงจะกินอิ่มเกินไป ฉันง่วงแล้วนอนกันเถอะค่ะ”พูดจบเวินหนี่ก็เอนตัวลงนอนและหลับตาลง เธอไม่อยากเผชิญกับคำถามของเย่หนานโจวเย่หนานโจวมองดูรูปร่างที่อวบอิ่มของเธอ มันดูสวยกว่ารูปร่างผอมแห้งของเธอเมื่อก่อนมากจริง ๆแต่ปฏิกิริยาของเวินหนี่นั้นดูรุนแรงเกินไปจนทำให้เขารู้สึกสงสัยเวินหนี่แตกต่างไปจากเดิมก็จริงแต่ตอนนี้สิ่งที่เธอเปลี่ยนไปนั้นมีเยอะมาก อย่างเช่นเธอไม่ได้ทุ่มเทกับเขาอย่างสุดใจ แต่กลับต้องการหย่าและคิดที่จะลาออกจากงานดูเหมือนว่าจู่ ๆ เธอก็เปลี่ยนไป มันทำให้เขารู้สึกไม่คุ้นชินจริง ๆเย่หนานโจวเอนตัวลงนอนโดยกอดเวินหนี่ไว้ในอ้อมแขนเขาพบว่าการกอดเธอแบบนี้นั้นค่อนข้างสบาย แถมยังทำให้เขานอนหลับได้อย่างสบายใจมากขึ้นอีกด้วยบางทีชีวิตเขาคงจะขาดเธอไม่ได้จริง ๆ …เวินหนี่ตื่นเช้า เธออยากรีบไปบริษัทเธอคิดแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 233

    เวินหนี่หันไปมองที่สมุดบันทึก ในนั้นเขียนไว้ว่า “เสื้อยืดสีขาว” เธอจำได้ว่านี่ไม่ได้ผิดเมื่อก่อนเขาเคยเป็นแบบนี้ เขาชอบชุดที่เรียบง่ายที่สุด และเป็นชายหนุ่มที่มีชีวิตชีวาทำไมเธอถึงจดมันลงในสมุดบันทึกกันนะ?เธอมีสมุดบันทึกเล่มนี้มานานสักพักแล้ว บางทีเธอคงจะลืมขีดออกไป“พี่เวินคะ?”ฉู่ซวงสังเกตเห็นท่าทางเหม่อลอยของเวินหนี่ จึงเรียกเธออีกครั้งเวินหนี่ดึงสติกลับมาแล้วยกยิ้มเบา ๆ “ขีดออกเลยไปเลยค่ะ ฉันน่าจะจดผิด”“ค่ะ”ฉู่ซวงตอบเธอก็ว่าทำไมผู้บริหารใหญ่อย่างประธานเย่จะมีนิสัยขอบสวมเสื้อยืดสีขาวได้อย่างไรฉู่ซวงเป็นเด็กจบใหม่ แต่เธอมีความสามารถในการเรียนรู้ที่น่าประทับใจเวินหนี่คิดว่าผู้ช่วยคนนี้เหมาะกับเย่หนานโจวมากหากเธอพบคนที่เหมาะที่จะทำงานกับเย่หนานโจว เขาก็คงปล่อยเธอไปได้แล้วขณะที่เวินหนี่นั่งเหม่ออยู่ที่โต๊ะทำงานของตัวเองฉู่ซวงก็สังเกตเห็นว่าเวินหนี่กำลังมองมาที่ตนจึงถามขึ้นว่า “พี่เวิน พี่ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าคะ?”เวินหนี่ยิ้มให้เธออย่างใจดี “เปล่าค่ะ คุณทำงานไปเถอะ”ทันใดนั้นก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากไกล ๆ“เลขาเวิน เตรียมพร้อมด้วยครับ อีกเดี๋ยวจะจัดการประชุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 234

    เย่หนานโจวส่งสัญญานให้กับกลุ่มคน “ตามความเห็นของพวกคุณ แสดงว่าการที่ผมรับสมัครพนักงานใหม่เข้ามา ก็ต้องได้รับความยินยอมจากผู้บริหารระดับสูงอย่างพวกคุณก่อนใช่ไหม?”“พวกเราไม่ได้พูดแบบนั้นนะครับ”ฉู่ซวงที่ยืนอยู่ข้างหลัง เมื่อเธอได้ยินเย่หนานโจวเอ่ยถึงตัวเองจึงพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ “สวัสดีทุกคนค่ะ ฉันเป็นพนักงานใหม่ชื่อฉู่ซวงค่ะ ยินดีที่ได้พบกับผู้บริหารระดับสูงทุกท่านค่ะ”พวกเขาอดไม่ได้ที่จะมองฉู่ซวงด้วยความสงสัยและคิดในใจว่าเด็กผู้หญิงคนนี้มาจากไหน เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดที่นี่?เมื่อเห็นพวกเขามองมาที่ตัวเอง ฉู่ซวงก็ยิ่งใจกล้ามากขึ้นและพูดต่อ “ประธานเย่คือผู้นำ ที่ประธานเย่จัดการประชุมครั้งนี้ก็เพราะเคารพต่อทุกท่าน แต่สุดท้ายแล้วอำนาจในการตัดสินใจยังคงอยู่ที่ประธานเย่ จุดประสงค์โดยรวมของประธานเย่ก็เพื่อประโยชน์ของบริษัท และที่พวกคุณติดตามประธานเย่ก็คงเพราะมองเห็นความสามารถของเขา แล้วทำไมถึงยังสงสัยเกี่ยวกับการกระทำของเขาล่ะคะ คงไม่ใช่ว่าพวกคุณคิดไม่ซื่อหรอกใช่ไหมคะ?”เมื่อได้ยินแบบนั้น เย่หนานโจวก็หรี่ตาลงคำพูดของฉู่ซวงทำให้ทุกคนรู้สึกเหมือนถูกกดดันเวินหนี่รู้สึกว่าฉู่ซวงคนนี้ม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 235

    ดวงตาสีดำของเย่หนานโจวมีความหนาวเย็น “ไปหาคนมาจากไหน?”เธอหาพนักงานใหม่ได้อย่างรวดเร็วและขั้นตอนต่อไปคือการไปจากเขาเขายังไม่อนุญาตด้วยซ้ำ แต่เธอก็จัดการทุกอย่างอย่างสมบูรณ์แบบ!เวินหนี่คิดว่าเธอทำอะไรให้เขาขุ่นเคืองกัน ไม่คิดเลยว่าเป็นเรื่องนี้เวินหนี่ผลักเขาออก “ด้วยการคัดเลือกและคัดกรองตามปกติค่ะ ประธานเย่คุณเองชื่นชมเธอมากไม่ใช่เหรอคะ?”“ถ้าเธอไม่อยากทำงานฉันจะอนุญาตให้เธอลาออก ทำหน้าที่เป็นแค่คุณหญิงเย่อยู่ที่บ้านก็พอ” เย่หนานโจวพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาเขาออกแรงแค่นิดหน่อย เวินหนี่ก็ถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้น ในขณะนี้ดวงตาของทั้งสองต่างสบกันเวินหนี่พูดอย่างไม่พอใจ “ทำไมคะ? คุณคิดว่าฉันไม่อยากทำงานและอยากเป็นคุณหญิงเย่อยู่ที่บ้านอย่างนั้นเหรอ? คุณลืมไปแล้วเหรอว่าคุณพูดอะไรกับฉันตอนแต่งงานกัน คุณบอกให้ฉันเจียมตัวและอย่าข้ามเส้น เมื่อครบสามปีเราก็จะหย่ากัน!”“หุบปาก!”เย่หนานโจวกัดฟันกรามกรอดและระงับความอดทนอันน้อยนิดของเขาเอาไว้เขาไม่อยากได้ยินคำว่าหย่าอีกเวินหนี่ขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงกับเขา เธอแค่ทำหน้าที่ของตัวเอง “เอาล่ะค่ะ ประธานเย่ ตอนนี้เป็นเวลาทำงาน ถ้าไม่มีอะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 236

    "ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเหตุผลเลย แต่ต้องบอกว่าเลขาเวินเนี่ยหน้าตากับหุ่นช่างงามหยาดเยิ้มจริง ๆ!"…เวินหนี่ยังไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนจับตามองอยู่ เธอกำลังทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการดูแลฉู่ซวงผู้เป็นพนักงานใหม่ฉู่ซวงที่ตามเวินหนี่ไปด้วย รู้ว่าวันนี้เวินหนี่ไม่ค่อยสบายจึงเสนอตัวช่วยรับหน้าที่ดื่มแทน นั่นก็เพราะฉู่ซวงเองเป็นคนที่ดื่มเก่งมาก อีกทั้งยังมีความสุภาพและสง่างามอีกด้วยเวินหนี่นั้นไม่ดื่มและการที่ฉู่ซวงเข้ามารับหน้าที่แทนก็ช่วยแบ่งเบาภาระของเย่หนานโจวได้มากทีเดียว ฉู่ซวงยังสามารถตอบคำถามจากฝ่ายคู่ค้าได้อย่างคล่องแคล่ว จนทำให้คู่ค้าหลายคนหันมาให้ความชื่นชมและยกย่องเธอ ซึ่งทั้งหมดก็เป็นผลดีกับเย่หนานโจว"ประธานเย่ คุณไปเจอของดีแบบนี้จากที่ไหนอีกแล้ว?”"ประธานหลิน คุณพูดแบบนี้ไม่รู้ว่าคุณเคยได้ยินคำพูดนี้ไหม 'หินของภูเขาลูกอื่นนำมาขัดเกลาหยกได้' หรือเปล่าล่ะคะ?" ฉู่ซวงตอบเลี่ยงคำชมไปอย่างมีมารยาทคำพูดนี้เป็นการเปรียบเทียบตัวเองเป็นเพียงหินก้อนหนึ่ง ที่ถูกเวินหนี่และเย่หนานโจวเจียระไน และยังเป็นการยกย่องประธานหลินด้วย ว่าหากเขาต้องการ เขาก็สามารถฝึกฝนและพัฒนาคนมีความสามารถได้เช่นกันคำพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 237

    ข้อมือของเธอจู่ ๆ ก็ถูกดึงอย่างแรง แรงที่มากกกว่านั้นกระชากร่างบางเซไปด้านหลัง ในเสี้ยววินาทีถัดมาเวินหนี่ก็เข้าไปในอ้อมกอดที่อบอุ่น กลิ่นเข้มของเหล้าชั้นดีและกลิ่นบุหรี่จาง ๆ ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดในทันที"จางเซียว ฉันยังไม่ตายเลยนะ"เสียงเย็นชาที่แฝงไปด้วยความเฉียบขาดดังขึ้นเหนือศีรษะของเวินหนี่เมื่อจางเซียวหันไปเห็นเย่หนานโจวยืนอยู่ตรงข้ามก็ถึงกับตกตะลึง มีคนมากมายที่ต่างก็วิจารณ์เวินหนี่ลับหลัง แถมเย่หนานโจวยังพาเลขาคนใหม่ที่จะเป็นตัวแทนเวินหนี่มาด้วยแต่เย่หนานโจวกลับมาปกป้องเวินหนี่อยู่ตรงนี้แทน?ไม่ว่าจะยังไง ตอนนี้สิ่งสำคัญคือการเผชิญหน้ากับเย่หนานโจวตรง ๆ!จางเซียวสบตากับดวงตาดำสนิทของชายหนุ่มตรงหน้า มุมปากของเขาฝืนยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย "ประธานเย่ แม้เราจะไม่ได้ทำธุรกิจร่วมกัน แต่ในอนาคตก็ไม่แน่นอนหรอกนะครับ"ได้ยินอย่างนั้นเย่หนานโจวไม่ได้ตอบอะไร ริมฝีปากบางเม้มแน่นเป็นเส้นตรง ดวงตาดำที่เย็นชาเต็มไปด้วยความแข็งกร้าวเวินหนี่มองออกว่านี่เป็นสัญญาณว่าเย่หนานโจวกำลังโกรธ!เธอกลืนน้ำลายอย่างกระวนกระวายและกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่ทันได้พูดเย่หนานโจวก็หยิบขวดเหล้าข้าง ๆ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-24

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

DMCA.com Protection Status