Share

บทที่ 170

Author: เซียงปู้อี๋
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
เผยชิงมองไปที่เย่หนานโจวอีกครั้ง “เลขาเวินบอกว่ามันอยู่ฝั่งซ้ายของตู้เสื้อผ้า ให้คนรับใช้หาให้ครับ”

เย่หนานโจวขมวดคิ้ว “แล้วเสื้อคลุมล่ะ? สีน้ำตาลอ่อนตัวนั้น”

“เสื้อคลุมตัวนั้นแขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้า” เวินหนี่ตอบ

“ฉันไม่อยากใส่สเวตเตอร์แล้ว ฉันอยากใส่ชุดสูทและเนคไทสีน้ำเงินอันนั้น” เย่หนานโจวกล่าวขึ้นอีกครั้ง

เวินหนี่ขมวดคิ้ว “มีเนคไทสีน้ำเงินตั้งมากมาย คุณอยากใส่อันไหน?”

“แถบแนวตั้ง”

เวินหนี่ตอบกลับไป “อยู่ในช่องที่ 28 ของกล่องเนคไท”

เพื่อป้องกันไม่ให้เย่หนานโจวถามอะไรอีก เวินหนี่จึงพูดออกมาทุกอย่าง “ประธานเย่ นอกจากชุดที่นำไปซักแห้ง ชุดทั้งหมดอยู่ในตู้เสื้อผ้าค่ะ คนรับใช้สามารถหามันได้ ส่วนเสื้อผ้าหน้าหนาวฉันเก็บไว้ในห้องเก็บเสื้อ ฉันแยกประเภทเอาไว้แล้ว คนรับใช้สามารถหาได้ง่ายเช่นกัน ส่วนเนคไทก็รวมอยู่ที่เดียวกัน วางไว้ในแต่ละล็อคและแยกสีไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่น่าจะมีข้อผิดพลาดอะไร…”

ไม่ว่าเย่หนานโจวจะถามอะไร เวินหนี่ก็สามารถตอบโต้ได้อย่างรวดเร็ว

ไม่ว่าจะเป็นเสื้อโค้ทหรือเสื้อสเวตเตอร์ รวมถึงเนคไทที่มีลวดลายทุกอันเธอก็จำได้อย่างชัดเจน

เธอสามารถท่องได้อย่างคล่องแคล่วโดยไม่ต้องกล
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP

Related chapters

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 171

    “ครับ รบกวนคุณด้วยนะครับ” เผยชิงกล่าวอย่างสุภาพ เมื่อมองไปที่เย่หนานโจว สีหน้าของเขาก็ดูอ่อนลงเล็กน้อย และเผยชิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกเดิมทีเวินหนี่ต้องการทานอาหารเย็นกับพ่อแม่ของเธอมื้อนี้คงไม่ได้กินเสียแล้ว เมื่อเห็นเติ้งจวนกำลังจัดเตียง เธอจึงเดินเข้าไปแล้วพูดว่า “แม่คะ หนูต้องออกไปข้างนอกสักหน่อย คงไม่ได้อยู่ทานข้าวเย็นกับแม่และพ่อนะคะ”เติ้งจวนเงยหน้าขึ้น “เกิดอะไรขึ้น?”“เรื่องงานน่ะค่ะ”เติ้งจวนเดินไปหาเวินหนี่แล้วพูดว่า “หนีหนี่ ถ้าลูกอยากเปลี่ยนงานก็เปลี่ยนเถอะนะ บนโลกนี้มีงานดี ๆ ตั้งมากมาย”เธอคิดแทนเวินหนี่ เพราะหากพวกเขาหย่ากัน และเธอยังคงทำงานกับเย่หนานโจว มันคงจะอึดอัดน่าดู “ค่ะแม่”เวินหนี่เองก็คิดเอาไว้แล้ว หากหย่าแล้วเธอก็คงไม่สามารถอยู่เคียงข้างเย่หนานโจวต่อไปได้คงจะดีกว่าที่จะตัดขาดและแยกทางทันที เธอออกจากบ้านและกลับไปที่คฤหาสน์ตระกูลเย่ เมื่อเธอกลับไปคนรับใช้ก็ยังคงเรียกเธอว่า “คุณหญิง” ด้วยความเคารพมันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเวินหนี่ถอดรองเท้าออกแล้วถามคนรับใช้อีกครั้งว่า “หาเสื้อสเวตเตอร์ไม่เจอเหรอ?”คนรับใช้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอดูสับสน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 172

    เวินหนี่เห็นการกระทำของเธอ แม้ว่าการแต่งงานของเธอกับเย่หนานโจวจะพังทลาย แต่เตียงนั้นก็เป็นเตียงที่เธอนอน เธอไม่ชอบให้ใครแตะต้องมัน ดังนั้นจึงก็คว้ามือของโจวเสี่ยวหลินไว้ “เธอรู้เหรอว่าเป็นตัวไหน?”โจวเสี่ยวหลินชะงักชั่วคราวและคิดว่ามันง่ายมาก “ก็แค่สเวตเตอร์ตัวเดียวไม่ใช่เหรอ? ฉันเอาไปส่งให้ก็ได้เหมือนกัน”สิ่งที่เวินหนี่ทำได้ เธอเองก็สามารถทำได้เช่นกันสีหน้าของเวินหนี่ไร้อารมณ์ “เธอต้องการนั่งในตำแหน่งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับว่าเธอมีคุณสมบัติเหมาะสมหรือเปล่า” เธอมองไปที่เตียงขนาดใหญ่ “เย่หนานโจวชอบอะไร ไม่ชอบอะไรเธอต้องแยกแยะให้ได้อย่างชัดเจน ไม่ใช่แค่สเวตเตอร์ตัวเดียว แต่ต้องแยกว่าวันนี้เขาจะสวมสีขาวหรือสีดำ เพราะถ้าเขาไม่ชอบ...มันจะแย่มาก”“อย่ามาหลอกฉันซะให้ยาก!” โจวเสี่ยวหลินไม่เชื่อ ครั้งก่อนเวินหนี่ก็เตือนเธอแบบนี้ เพียงเพราะอยากให้เธอคิดว่ามันยากและยอมถอยมากกว่า “อากาศเริ่มหนาวแล้ว พี่หนานโจวแค่อยากใส่เสื้อผ้าหนา ๆ ทำตัวให้อุ่นก็พอ จะต้องมีเงื่อนไขอะไรมากมาย?”เธอเปิดตู้เสื้อผ้าออกเสื้อผ้าด้านในจัดไว้อย่างชัดเจน มองเห็นได้อย่างง่ายดายเธอคว้าเสื้อสเวตเตอร์หนา ๆ ก่อนจะหยิบเสื้

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 173

    เวินหนี่มักจะดูเย็นชา ไม่สนโลกและไม่ค่อยโกรธใครไม่ว่าโจวเสี่ยวหลินจะข้ามเส้นมากแค่ไหน เธอก็ไม่สนใจและไม่เคยจะพูดอะไรเลย และก็เพราะแบบนี้เวินหนี่ โจวเสี่ยวหลินจึงกล้าที่จะอวดดีถึงขั้นที่เธอคิดว่าเวินหนี่ไม่มีสถานะใดในตระกูลเย่และอยู่ต่ำกว่าเธอเสียด้วยซ้ำ ทำให้เธอมีความมั่นใจมากพอที่จะคิดว่าจะสามารถกดเวินหนี่ได้ผลคือจู่ ๆ เวินหนี่ก็ระเบิดและตบหน้าเธอโจวเสี่ยวหลินทำอะไรไม่ถูกเล็กน้อย เย่หนานโจวอยู่ในห้องพัก เธอจะทะเลาะกับเวินหนี่ไม่ได้และต้องแสดงความอ่อนแอเท่านั้น เธอทำได้เพียงพูดด้วยท่าทางเสียใจและดวงตาแดงก่ำ “ฉัน...ฉันเปล่านะคะ”แน่นอนว่าเวินหนี่รู้จักอุบายแสร้งทำเป็นผู้ถูกกระทำนี้ดีเธอไม่อยากทนอีกต่อไปแล้วเพราะสุดท้ายแล้วมันไม่ได้มีประโยชน์อะไร กลับจะทำให้คนอื่นคิดว่าเธอกลัวและจะหาเรื่องมาทำให้เธอลำบาก “เมื่อกี้เธอไม่ใช่แบบนี้นี่ บอกว่าฉันจงใจวางแผนร้ายกับเธอไม่ใช่เหรอ เธอมองตัวเองสูงเกินไปแล้ว กลับไปส่องกระจกที่บ้านซะ ดูว่าเธอมีอะไรที่ทำให้ฉันต้องวางแผนร้ายใส่บ้าง? พอได้เข้ามาในตระกูลเย่ก็คิดว่าตัวเองเป็นนายงั้นเหรอ มากสุดเธอมันก็แค่ผู้หญิงที่ไม่ทราบที่มาที่ไปเท่านั้น”เม

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 174

    “ฉันเอามันมาให้คุณแล้ว” เวินหนี่หยิบมันออกมาจากถุง “ตัวนี้ใช่ไหมคะ”เดิมทีเย่หนานโจวอารมณ์เสียมาก แต่เมื่อเขาเห็นว่าเธอเอามันมาเองไม่ได้ให้คนอื่นเอามาสีหน้าของเขาก็เบาลงมาก แต่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะถามว่า “เธอเอามาแล้วทำไมยังต้องให้หล่อนมา?”เวินหนี่มองไปที่โจวเสี่ยวหลิน “ถามเธอเองสิคะ เธอยืนกรานที่จะมาที่นี่เองหรือเปล่า แถมยังไม่ฟังคำแนะนำของฉัน อย่าโยนความผิดมาที่ฉัน”เย่หนานโจวมองไปที่โจวเสี่ยวหลินอีกครั้งเดิมทีโจวเสี่ยวหลินต้องการแสดงความอ่อนแอเพื่อทำให้เย่หนานโจวงสารเธอ แต่เมื่อถูกมองด้วยสายตาแบบนั้นเธอก็รู้ว่าตัวเองทำพลาดครั้งใหญ่ จึงพูดขึ้นอย่างระมัดระวัง “ฉัน... ฉันแค่อยากจะดูแลคุณ ฉันขอโทษค่ะ มันเป็นความผิดของฉันเองที่ไม่เข้าใจ ต่อไปฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วและฉันจะฟังคำแนะนำของคุณค่ะ”ดวงตาของเย่หนานโจวเย็นชา “ไสหัวออกไป”นี่เป็นครั้งแรกที่โจวเสี่ยวหลินถูกเย่หนานโจวปฏิบัติอย่างเย็นชา เขาไม่เหมือนผู้ชายที่คุยกับเธอในวิลล่าเลยตอนนั้นเขายังสงสารเธอและอยากช่วยให้เธอได้เรียนมหาวิทยาลัยเธอคิดว่าในที่สุดโลกนี้ก็มีคนที่สงสารเธอสักที แต่มันกลับกลายเป็นความสวยงามในช่วงเวลาสั้น ๆ เ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 175

    “จะไม่ให้ฉันกังวลได้ยังไง? พี่เข้าโรงพยาบาลเลยนะคะ พี่อย่าทำให้ฉันกลัว ครั้งก่อนพี่ก็ทำให้ฉันตกใจไปแล้ว!” ลู่ม่านเซิงพูดทั้งน้ำตา “ฉันไม่อยากเห็นพี่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยอีก มันทำให้ฉันกินไม่ได้นอนไม่หลับ การถ่ายทำไม่สำคัญเท่ากับพี่ ฉันไม่อยากถ่ายแล้ว ขอเฝ้าอยู่ข้าง ๆ พี่ดีกว่า”เมื่อเธอพูดแบบนั้นเย่หนานโจวก็จำได้ทันทีว่าเขาเคยได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก่อนครั้งนั้นเกือบจะคร่าชีวิตเขาแล้ว ลู่ม่านเซิงคือผู้ที่ช่วยชีวิตเขาไว้เย่หนานโจวตอบไปว่า “จะไม่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอีก”ลู่ม่านเซิงยังคงไม่สบายใจและจ้องมองเขาด้วยน้ำตา “พี่เคยสัญญากับฉันแล้ว ถ้าไม่อยากเห็นฉันโศกเศร้า พี่ก็ต้องไม่ปล่อยให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บอีก พี่อย่าลงโทษฉันด้วยร่างกายของพี่เลยนะคะ!”เขาคือคนที่ผ่านนรกมาแล้วตอนนั้นลู่ม่านเซิงอยู่กับเขาเป็นเวลาเจ็ดวันเจ็ดคืนโดยไม่ได้นอนพักเลยจากนั้นเป็นต้นมาเมื่อใดก็ตามที่เขาได้รับบาดเจ็บ ลู่ม่านเฉิงก็นอนไม่หลับทั้งคืนเธอกลัวว่าเขาจะหมดสติไปอีกครั้งด้วยเหตุนี้เธอจึงรีบออกมาจากกองถ่ายทันทีหลังรู้ข่าวเธอไม่สามารถสูญเสียเขาไปได้อีกแล้วและเธอก็ต้องการบอกให้เขารู้ว่า ไม่ว่าจะมีค

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 176

    “เสี่ยวหยวน อย่าพูดให้มันมาก” ลู่ม่านเซิงขัดขึ้น ก่อนจะหันไปพูดกับเย่หนานโจว “ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ”เย่หนานโจวเหลือบมองข้อเท้าที่แดงขึ้นมาของอีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยว่า “เผยชิง พาเธอไปหาหมอ”“ครับท่านประธาน” เผยชิงเดินเข้ามาตามคำสั่งลู่ม่านเซิงจึงรีบบอกว่า “ไม่ต้องไปหาหมอก็ได้ค่ะ แค่เจ็บนิดหน่อย พ่นยาแล้วก็น่าจะพอบรรเทาได้ ตอนที่อยู่กองถ่ายฉันเจ็บตัวแบบนี้บ่อย ๆ เผยชิง ช่วยไปซื้อยาให้ฉันหน่อยนะ”เผยชิงหันไปมองเย่หนานโจวเพื่อรอให้เขาตัดสินใจเย่หนานโจวจึงตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า “งั้นก็ไปซื้อยา”“ครับ ท่านประธาน” เผยชิงรีบวิ่งออกไปทันทีแม้ห่างหายไปนานแต่ลู่ม่านเซิงยังคงคิดถึงเขาอยู่ เธอพยายามระงับความรู้สึกนั้นเพื่อมุ่งเน้นไปที่การงานตรงหน้าและอาจจะยังคงน้อยใจที่เขาทำให้เธอเสียหน้าเพราะเวินหนี่แต่การมาครั้งนี้ก็ไม่ไร้ประโยชน์ อย่างน้อยเย่หนานโจวก็ยังจำได้ว่าเธอเคยดีกับเขาอย่างไรแบบนี้มันทำให้หัวใจของเธอรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้างลู่ม่านเซิงหยิบมีดขึ้นมาเพื่อจะปอกแอปเปิ้ลให้เขา “คุณบาดเจ็บก็ไม่โทรมาบอกฉันเลย ถ้าไม่ใช่เพราะคุณป้า ฉันคงไม่รู้เรื่องนี้แน่”เธอรอให้เขาพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับไม่

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 177

    เวินหนี่ดับเครื่องยนต์และรอให้ลู่ม่านเซิงเดินเข้ามาลู่ม่านเซิงถือถุงอาหารที่เวินหนี่นำมาให้ ก่อนจะยิ้มเย็น ๆ แล้วพูดขึ้นว่า “ทำไมไม่เข้าไปล่ะ? เห็นฉันคุยกับหนานโจวแล้วรู้สึกไม่สบายใจหรือไง?”“มีธุระอะไรหรือเปล่า?” เวินหนี่เอียงศีรษะมองลู่ม่านเซิงที่เดินเข้ามาใกล้“เธอยังไม่ได้ตอบคำถามฉันเลยนะ”เวินหนี่ละสายตากลับ พูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ว่า “เธอก็รู้ว่ามีคนประเภทหนึ่งที่ไม่มีอะไรแต่กลับแกล้งทำเป็นว่ามี ยิ่งโอ้อวดมากเท่าไรก็จะยิ่งไม่ได้มา”เธอรู้ดีว่าลู่ม่านเซิงต้องการใช้โอกาสนี้เยาะเย้ยเธอทั้งหมดก็แค่อยากจะโอ้อวดต่อหน้าเธอเท่านั้นใบหน้าของลู่ม่านเซิงแข็งกระด้างขึ้นทันที เธอเกลียดท่าทีสงบนิ่งของเวินหนี่มาก “เธอแกล้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไรใช่ไหม? แต่จริง ๆ แล้วในใจเธอต้องเจ็บปวดมากแน่ ๆ ต่อให้ฉันกับหนานโจวจะห่างกันแค่ไหน ในใจของเขาก็ยังมีที่สำหรับฉันเสมอ”“เธอก็รู้ดีว่าหนานโจวตั้งบริษัทบันเทิงเพราะฉัน ฉันชอบเล่นละคร เขาก็จัดหาบทที่ดีที่สุดให้ทันที ในใจเขามีฉัน นี่คือหลักฐานที่ชัดเจนที่สุด ส่วนเธอเวินหนี่ ในที่สุดเธอก็เป็นแค่เบี้ยที่เย่หนานโจวพร้อมจะเขี่ยทิ้งได้ทุกเมื่อ!”เมื่อได้ย

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 178

    เย่หนานโจวกลับเลี่ยงที่จะพบใครโดยให้เผยชิงยืนขวางที่หน้าประตูไว้ เมื่อเห็นผู้มาเยือนเขาก็เอ่ยด้วยท่าทีสุภาพ “คุณหนูลู่ ประธานเย่พักผ่อนแล้วครับ เขาบอกว่าไม่ต้องกังวล คุณเองก็กลับไปที่กองถ่ายเถอะนะครับ”ลู่ม่านเซิงตอบว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันขอลางานไว้เรียบร้อยแล้ว ผู้กำกับก็อนุญาตแล้วด้วย รอจนกว่าเขาจะออกจากโรงพยาบาล ฉันค่อยกลับไปก็ยังไม่สาย”เผยชิงเริ่มรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย จึงพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ประธานเย่ต้องการพักผ่อนครับ”หญิงสาวมองไปที่ห้องพักผู้ป่วยแล้วก็เข้าใจในสิ่งที่เผยชิงต้องการจะสื่อ แต่เธอไม่ได้โกรธและพูดต่อว่า “งั้นช่วยเอานี่ไปให้หนานโจวด้วยนะคะ ฉันจะกลับไปเอาอาหารที่คุณป้าทำมาให้เขา”“ได้ครับ คุณหนูลู่”เผยชิงรับเอกสารมา เมื่อเห็นคำใหญ่ ๆ บนหน้าปกก็รู้สึกตกใจเช่นกันลู่ม่านเซิงกล่าวลาแล้วเดินจากไปผู้ช่วยจึงถามขึ้นว่า “พี่เซิง ทำไมไม่เข้าไปล่ะ นาน ๆ จะได้โอกาสแบบนี้นะคะ”“ไม่ต้องรีบหรอก” ลู่ม่านเซิงตอบ “วันข้างหน้ายังมีโอกาสอีกมาก ตอนนี้กลับไปที่ตระกูลเย่ก่อนดีกว่า”เธอมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องทำในห้องพักผู้ป่วย เผยชิงยืนลังเลอยู่สักพักไม่แน่ใจว่าจะควรมอบเอ

Latest chapter

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 468

    “ไม่ใช่ค่ะ” เวินหนี่ตอบสีหน้าของเย่หนานโจวเปลี่ยนไปและเขาก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “ใกล้จะเป็นอดีตภรรยาแล้วครับ!”คุณหมอถึงกับตกตะลึงเมื่อได้ยินคำตอบ เขาจึงรีบตอบไปว่า “ผู้ป่วยมีอาการกระทบกระเทือนเล็กน้อยและกระดูกมือร้าว เธอจะหายดีหลังจากพักผ่อนสักระยะหนึ่ง พวกคุณไม่ต้องกังวลมากเกินไป”นี่เป็นเรื่องที่ดี เวินหนี่ตอบไปทันที “ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ”“ด้วยความยินดีครับ”ทั้งสองตามเย่จื่อเข้าไปในวอร์ดเวินหนี่เห็นว่าริมฝีปากของเย่จื่อดูแห้งผาก ดังนั้นจึงรีบหาน้ำอุ่นมา และชุบด้วยสำลีก่อนจะเช็ดให้ชุ่มชื้นเย่หนานโจวเฝ้าดูจากด้านข้างในวอร์ดมีคนไม่มากนัก เพื่อป้องกันไม่ให้รบกวนการพักผ่อนของผู้ป่วยเวินหนี่ไม่วางใจ ดังนั้นเธอจึงนั่งลงตรงข้ามเขาอีกครั้ง โดยมุ่งเน้นไปที่การเฝ้าเย่จื่อหลังจากที่เฝ้าได้สักพัก เธอก็รู้สึกง่วงจนเปลือกตาสั่น จากนั้นเธอก็เผลอฟุบหลับไปเมื่อเวินหนี่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะความตกใจ เธอฝันว่ามันมืดสนิทและอยู่ในพื้นที่แคบ ๆกลัวอะไรก็ได้อย่างนั้น แม้แต่ในความฝันก็ยังไม่ปล่อยเธอไป เธอมักจะฝันแบบนี้ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลยเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่ามีเสื้อคลุม

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 467

    หรือว่าเขาจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว?เธอเคยได้ยินเย่จื่อพูดอยู่หลายครั้ง แต่เธอก็ยังไม่ได้คิดถึงเหตุผลบางทีเย่หนานโจวอาจรู้มานานแล้ว จึงเข้าใจโดยปริยาย“เวินหนี่”ลู่เซินเข้ามาหาเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พักสักหน่อยไหม เดี๋ยวร่างกายจะทนไม่ไหวเอานะ”เวินหนี่ยืนนานแล้วและรู้สึกปวดหลัง แต่เธออยากรอให้เย่จื่อออกมา จึงนั่งลงข้าง ๆ “ฉันอยากรอจนกว่าคุณอาจะฟื้น”“ผมจะรอเป็นเพื่อนคุณเอง” ลู่เซินพูดขึ้นอีกครั้งเวินหนี่พยักหน้าไปทางเขาร่างสูงของเย่หนานโจวเอนตัวไปที่กรอบประตูและเหลือบมองความกังวลของลู่เซินที่มีต่อเวินหนี่ ดวงตานั้นแทบจะมีน้ำล้นออกมาได้ และเวินหนี่ก็ดูเหมือนพร้อมยอมรับน้ำใจของเขาคลื่นแห่งความกระสับกระส่ายโจมตีร่างกายของเย่หนานโจวอีกครั้งดวงตาของเขาเย็นขึ้นและจงใจเตะเก้าอี้ข้าง ๆ ให้มีเสียงนั่นคือเก้าอี้ที่ลู่เซินนั่งอยู่ เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมอง เย่หนานโจวก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “โทษที บังเอิญเตะโดนเข้าน่ะ!”“ไม่เป็นไร” ลู่เซินไม่ได้ติดใจอะไรเย่หนานโจวกลับพูดขึ้นอีกว่า “ตรงนี้คือพื้นที่รอสำหรับญาติ ไม่ทราบว่าคุณลู่มาที่นี่ทำไมกัน ที่บริษัทของคุณไม่ยุ่งเหรอครับ?”

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 466

    เขาไม่ได้โต้เถียงกับเธอ และเพิกเฉยต่อเสียงร้องไห้ของเธอสำหรับเขา น้ำตาของเย่ซูเฟินนั้นไร้ค่าเย่ซูเฟินในฐานะผู้หญิง เมื่อเห็นความเฉยชาของสามี มันก็ค่อย ๆ ทำลายแนวป้องกันในใจของเธอทีละน้อยและโวยวายขึ้นอย่างอารมณ์ร้อน “พูดมาสิ ทำไมถึงไม่พูดล่ะ ในสายตาของคุณ เย่จื่อสำคัญกว่าฉันใช่ไหม ฉันเป็นภรรยาของคุณนะ เย่เหว่ยถิง คุณจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้!”เธอร้องไห้จนตาแดง อยากให้สามีเอาใจใส่เธอบ้างแค่หันมามองเธอสักครั้งก็สามารถสงบความโกรธและความกังวลของเธอได้เย่เหว่ยถิงเงียบและทำเหมือนเย่ซูเฟินคือคนแปลกหน้าอย่างเย็นชาเย่หนานโจวมองการอยู่ร่วมกันของพวกเขา เขาเห็นสิ่งนี้จนชินจึงไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆสำหรับเขา พวกเขาคือพ่อแม่ของตนเพียงในนามเท่านั้นการเติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ทำให้เขาชินมานานแล้วถึงขั้นทำให้เขารู้สึกไม่แยแสเย่เหว่ยถิงทนเย่ซูเฟินไม่ไหวแล้ว ดังนั้นจึงลุกขึ้นและพูดกับเย่หนานโจวว่า “ฉันจะลงไปแล้ว ถ้าเย่จื่อฟื้นค่อยบอกฉัน!”เย่หนานโจวลดสายตาลงด้วยสายตาเย็นชาและไม่ตอบอะไรเย่เหว่ยถิงเองก็ไม่ได้รอคำตอบจากเขา เขาไม่ได้คาดหวังอะไรกับเย่หนานโจว เขารู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 465

    เมื่อเห็นความเฉยเมยของเขา เย่ซูเฟินจึงพูดขึ้นว่า “หนานโจว!”เย่หนานโจวไม่ต้องการฟังเธออีกและเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เย็นชาเย่ซูเฟินต้องการพูดอะไรบางอย่างกับเย่หนานโจว แต่ลู่ม่านเซิงร้องไห้และถูกรังแก เธอจึงไปไหนไม่ได้ และทำได้เพียงเดินไปพยุงลู่ม่านเซิง “เซิงเซิงลุกขึ้นเถอะ หยุดร้องไห้ได้แล้ว”ลู่ม่านเซิงถูกพยุงขึ้น เธอซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเย่ซูเฟิน “คุณป้า หนูมันน่ารำคาญมากจนทุกคนไม่ชอบใช่ไหมคะ!”“ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ ฉันชอบเธอ ทุกคนต่างก็ชอบเธอ”เย่ซูเฟินตบหลังลู่ม่านเซิงเพื่อปลอบเธอลู่ม่านเซิงยังคงร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของเย่ซูเฟินเห็นแบบนี้ แม้ว่าเธอจะเป็นฝ่ายผิด แต่ก็ดูเหมือนเป็นผู้ถูกกระทำ ใครจะกล้าไปว่าอะไรเธอได้ ถ้าที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลและมีคนอยู่มากมาย เวินหนี่คงอยากจะฉีกหน้ากากของลู่ม่านเซิงออกเพื่อดูว่าเธอจะเสแสร้งได้สักแค่ไหน แน่นอน เธอรู้ดีว่าไม่ว่าลู่ม่านเซิงจะจริงหรือเท็จแค่ไหน เย่ซูเฟินก็จะยังคงปกป้องเธอความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอดูเหมือนไม่ชัดเจนเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังขึ้น “เย่จื่อเป็นยังไงบ้าง?”เวินหนี่เงยหน้าขึ้นมองและเห็นเย่เหว่ยถิงเดินเข้ามาเขาสวมชุดสูทแ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 464

    ขณะที่เย่ซูเฟินกำลังปกป้องลู่ม่านเซิง เวินหนี่ก็พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เย็นชาเมื่อเย่ซูเฟินเห็นเวินหนี่พูดแบบนั้น เธอจึงพูดขึ้นว่า “เวินหนี่ เซิงเซิงเป็นถึงขนาดนี้แล้ว อย่าอาศัยโอกาสนี้ซ้ำเติมเธออีก!”ปฏิกิริยาแรกของเธอคือปกป้องคนที่อ่อนแอไว้เวินหนี่เดินเข้าไป เห็นลู่ม่านเซิงร้องไห้หนักและดูอ่อนแอจนเกินบรรยาย “ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ พวกคุณมีใครกังวลเกี่ยวกับคุณอาบ้าง สิ่งที่คุณกังวลคือกลัวว่าลูกชายจะไม่เอา ส่วนลู่ม่านเซิงเธอกล้วว่าถูกกล่าวโทษเลยมาเสแสร้งทำเป็นน่าสงสารที่นี่ ฉันเห็นกับตาตัวเองว่าคุณผลักคุณอาลงมา และลู่ม่านเซิงก็น่าจะเป็นผู้ที่ยุยง!”คุณอาถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทำให้เวินหนี่ไม่ต้องการไว้หน้าพวกเธอ “อย่ามาพูดจาไร้สาระ!” เย่ซูเฟินตวาด “ฉันผลักเย่จื่อก็จริง แต่ฉันแค่ผลักเบา ๆ ทำไมเธอถึงไม่คิดบ้างล่ะว่าเย่จื่อจงใจล้มลงไปเอง”เวินหนี่มองไปที่เย่ซูเฟิน “แรงผลักของคุณมันไม่ได้เบา เราทุกคนต่างก็เห็น”เมื่อเย่ซูเฟินเห็นท่าทีของเวินหนี่ น้ำเสียงของเธอก็ดังมากยิ่งขึ้น “เวินหนี่ เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับฉันแบบนี้ ยังไงฉันก็ถือว่าเป็นผู้อาวุโส เป็นแม่สามีขอ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 463

    “ไม่ใช่นะ…” เย่ซูเฟินกล่าว “ลูกยังเป็นลูกชายของแม่ แม่เสียใจมากและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชดใช้ให้ลูก…”“ผมไม่ต้องการมันแล้ว” ดวงตาของเย่หนานโจวเย็นชา “การเรียกคุณว่าแม่มันคือความอดทนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม และคุณก็ควรจะพอใจได้แล้ว!”เย่ซูเฟินอดไม่ได้ที่จะถอยกลับไปสองสามก้าวและพูดขึ้นอย่างดุเดือด “ลูกจะทำกับแม่แบบนี้ไม่ได้นะ อย่าเป็นเหมือนพ่อของลูก ไม่อย่างนั้นแม่พาลูกกลับมามันจะมีความหมายอะไร!”เย่หนานโจวพูดอย่างเย็นชา “หากมีผม การเอาชนะใจสามีของคุณมันถึงจะมีความหมาย แต่น่าเสียดายที่ความพยายามทั้งหมดของคุณมันไร้ประโยชน์!”ทุกคำพูดเหมือนมีดที่ทิ่มแทงใจของเย่ซูเฟินในตอนนั้นการแต่งงานของเธอกับเย่เหว่ยถิงนั้นค่อนข้างน่าขัน เป็นเพียงเพราะเธอดื้อดึงที่จะแต่งงานกับเขาเย่เหว่ยถิงไม่ได้รักเธอเลย ตรงกันข้ามเขาเกลียดเธอเธอคิดว่าตราบใดที่เธอแต่งงานกับเขา เย่เหว่ยถิงก็จะเป็นของเธอเมื่อเรื่องราวมันเลยจุดที่จะเข้าไปแก้ไขได้ มีอะไรที่จะผ่านไปไม่ได้อีก?แต่เธอคิดง่ายเกินไป เย่เหว่ยถิงไม่กลับบ้านและปล่อยให้เธออยู่คนเดียวในห้องที่อ้างว่างเธอใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเอาชนะใจสามีแม้กระทั่ง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 462

    “หนานโจว”ในระหว่างที่โต้เถียงกับเย่จื่ออยู่นั้นเย่ซูเฟินก็สังเกตเห็นเขา และเธอก็ตกใจเล็กน้อยเวินหนี่เองก็มองไปและเห็นเย่หนานโจวยืนอยู่ข้างหลัง ดวงตาของเขาเย็นชาและดูเหมือนจะไม่แปลกใจกับสิ่งที่พวกเธอพูดกลับกัน เขากลับยอมรับความจริงนี้อย่างสงบนิ่งเย่จื่อตกใจเมื่อเห็นดวงตาของเย่หนานโจวในขณะนี้ สิ่งที่เธอเสียใจคือการที่เธอหุนหันพลันแล่นพูดออกไปว่าเขาไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเย่ซูเฟิน เพราะมันถือเป็นการโจมตีเขาเธอมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของเธอมองเพียงเย่หนานโจว “หนานโจว…”เย่หนานโจวไม่ได้พูดอะไรมากเขาเพียงแค่รู้ว่าพวกเธอมาที่สุสานและอาจจะเกิดเรื่องขึ้น เขาจึงเป็นกังวลและแวะเข้ามาดูหน่อยเท่านั้น เย่ซูเฟินโกรธมากขึ้น “เย่จื่อ เธอกำลังพูดอะไร เธอจะให้ฉันมีความสุขไม่ได้เลยใช่ไหม เธอมันสมควรตายจริง ๆ!”เธอผลักเย่จื่ออย่างแรงความสนใจของเย่จื่อมุ่งไปที่เย่หนานโจว ความโกรธของเธอลดลงมากและลดความเกรี้ยวกราดลง ในใจคิดแต่ว่ามันจะสร้างบาดแผลให้เขาหรือไม่เธอไม่ทันได้สังเกตเห็นการกระทำของเย่ซูเฟินและเธอก็ถูกผลักลงบันไดไปทันทีสติของเวินหนี่ยังไม่ทันกลับมาจากการที่เย่หนานโจวไม่ใช่ลูกแท้

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 461

    “ดังนั้นเธอจึงทำทุกอย่างเพื่อทำลายครอบครัวทีละครอบครัว! เธอไม่เคยคิดถึงความผิดของตัวเองเลย!”“ฉันไม่ผิด!” เย่ซูเฟินพูดอย่างเดือดดาล “ทั้งหมดเป็นเพราะพวกเธอบีบบังคับฉันเอง!”เมื่อเห็นว่าทุกคนอารมณ์ร้อน ลู่ม่านเซิงจึงเกลี้ยกล่อมจากด้านข้าง “คุณอา อย่าเถียงกับคุณป้าเลยค่ะ เธอแค่หุนหันพลันแล่นไปเท่านั้น ฉันไม่เป็นไรค่ะ และฉันก็ไม่ได้โทษคุณอาเลย คุณป้าพวกคุณต่างก็ถอยคนละก้าวเถอะนะคะ”“ไม่ใช่เรื่องของเธอ!” เย่จื่อมองไปที่ลู่ม่านเซิง และพูดขึ้นอย่างดุเดือด “ถ้าเธอไม่ได้โทษฉัน แล้วจะเล่าให้เย่ซูเฟินฟังทำไม เธออยากให้เย่ซูเฟินออกหน้าให้ไม่ใช่เหรอ? เสแสร้งแกล้งทำ ภายนอกดูใสซื่อ แต่ภายในคิดไม่ซื่อ ฉันล่ะเกลียดคนแบบเธอที่สุด!”เมื่อเห็นแบบนั้นเย่ซูเฟินก็ผลักเธอทันที “เธอกำลังดุใคร รู้ว่าเซิงเซิงสูญเสียการได้ยิน แต่ยังแอบพูดไม่ดีลับหลังเธอ เธอมันชั่วร้ายแค่ไหนกัน?!”“ถึงฉันจะชั่วร้ายแต่ก็ไม่ได้ขาดคุณธรรมเหมือนเธอ!” เย่จื่อก็ผลักกลับคืนไปเช่นกัน“เธอลงมือกับฉันงั้นเหรอ?”เย่ซูเฟินจ้องเธอด้วยความโกรธ “วันนี้มีเธอก็ไม่มีฉัน!”“ลองดูสิว่าฉันจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ ไหม!”เย่จื่อไม่พูดพล่ำทำเพลงเข้าไปต

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 460

    เย่จื่อไม่คาดคิดว่าเย่ซูเฟินจะโทรมาหาเธอ ซึ่งทำให้เธออารมณ์เดือดขึ้นทันที "ทำไม? หรือว่าเป็นลู่ม่านเซิงที่บอกอะไรกับเธอ ฉันจัดการเธอแล้วยังไงล่ะ!""ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?" เย่ซูเฟินพูดด้วยความโกรธ เพราะอยากจะจัดการกับเย่จื่อให้ได้"ฉันต้องบอกด้วยเหรอ? คิดว่าเธอเป็นใคร!" เย่จื่อไม่สนใจที่จะเคี้ยวเมล็ดแตงโมแล้ว ปัดมันออกไปพร้อมกับกำลังมองหาที่ระบายความโกรธเย่ซูเฟินหัวเราะเยาะ "กลัวสินะ กลัวฉันจะหาตัวเจอ ฉันรู้แล้วว่าโรงงานเสริมความงามของเธอโดนพังเสียหายหมด ตอนนี้ถึงกับต้องหลบซ่อนตัวเหมือนเต่าหดหัวแล้ว!""ฉันเนี่ยนะกลัว? ฉันเคยกลัวเธอสักครั้งไหม! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอแต่งงานกับเย่เว่ยถิง ฉันไม่เคยนับเธอเป็นคนของตระกูลเย่ด้วยซ้ำ!" เย่จื่อตอบกลับอย่างกระแทกกระทั้น"งั้นก็ออกมาสิ มาสู้กันต่อหน้า!" เย่ซูเฟินท้าทาย"ก็ได้ ออกมาก็ออกมา เย่ซูเฟิน ถ้าเธออยากจะตัดขาดกับฉันจริง ๆ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจแล้ว!" พูดจบ เย่จื่อก็ตัดสายทิ้งและหยิบกระเป๋าขึ้น เตรียมออกไปข้างนอกทันทีเมื่อเห็นเช่นนั้น เวินหนี่รีบพูดขึ้น "คุณอาคะ คุณอาจะไปไหนคะ หนูจะไปด้วย"เย่จื่อหันมามองเวินหนี่ "เธอไม่ต้องไป เย่ซูเฟิ

DMCA.com Protection Status