แชร์

บทที่ 176

ผู้เขียน: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-09-15 18:00:00
“เสี่ยวหยวน อย่าพูดให้มันมาก” ลู่ม่านเซิงขัดขึ้น ก่อนจะหันไปพูดกับเย่หนานโจว “ฉันไม่เป็นอะไรค่ะ”

เย่หนานโจวเหลือบมองข้อเท้าที่แดงขึ้นมาของอีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยว่า “เผยชิง พาเธอไปหาหมอ”

“ครับท่านประธาน” เผยชิงเดินเข้ามาตามคำสั่ง

ลู่ม่านเซิงจึงรีบบอกว่า “ไม่ต้องไปหาหมอก็ได้ค่ะ แค่เจ็บนิดหน่อย พ่นยาแล้วก็น่าจะพอบรรเทาได้ ตอนที่อยู่กองถ่ายฉันเจ็บตัวแบบนี้บ่อย ๆ เผยชิง ช่วยไปซื้อยาให้ฉันหน่อยนะ”

เผยชิงหันไปมองเย่หนานโจวเพื่อรอให้เขาตัดสินใจ

เย่หนานโจวจึงตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า “งั้นก็ไปซื้อยา”

“ครับ ท่านประธาน” เผยชิงรีบวิ่งออกไปทันที

แม้ห่างหายไปนานแต่ลู่ม่านเซิงยังคงคิดถึงเขาอยู่ เธอพยายามระงับความรู้สึกนั้นเพื่อมุ่งเน้นไปที่การงานตรงหน้าและอาจจะยังคงน้อยใจที่เขาทำให้เธอเสียหน้าเพราะเวินหนี่

แต่การมาครั้งนี้ก็ไม่ไร้ประโยชน์ อย่างน้อยเย่หนานโจวก็ยังจำได้ว่าเธอเคยดีกับเขาอย่างไร

แบบนี้มันทำให้หัวใจของเธอรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้าง

ลู่ม่านเซิงหยิบมีดขึ้นมาเพื่อจะปอกแอปเปิ้ลให้เขา “คุณบาดเจ็บก็ไม่โทรมาบอกฉันเลย ถ้าไม่ใช่เพราะคุณป้า ฉันคงไม่รู้เรื่องนี้แน่”

เธอรอให้เขาพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับไม่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 177

    เวินหนี่ดับเครื่องยนต์และรอให้ลู่ม่านเซิงเดินเข้ามาลู่ม่านเซิงถือถุงอาหารที่เวินหนี่นำมาให้ ก่อนจะยิ้มเย็น ๆ แล้วพูดขึ้นว่า “ทำไมไม่เข้าไปล่ะ? เห็นฉันคุยกับหนานโจวแล้วรู้สึกไม่สบายใจหรือไง?”“มีธุระอะไรหรือเปล่า?” เวินหนี่เอียงศีรษะมองลู่ม่านเซิงที่เดินเข้ามาใกล้“เธอยังไม่ได้ตอบคำถามฉันเลยนะ”เวินหนี่ละสายตากลับ พูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ ว่า “เธอก็รู้ว่ามีคนประเภทหนึ่งที่ไม่มีอะไรแต่กลับแกล้งทำเป็นว่ามี ยิ่งโอ้อวดมากเท่าไรก็จะยิ่งไม่ได้มา”เธอรู้ดีว่าลู่ม่านเซิงต้องการใช้โอกาสนี้เยาะเย้ยเธอทั้งหมดก็แค่อยากจะโอ้อวดต่อหน้าเธอเท่านั้นใบหน้าของลู่ม่านเซิงแข็งกระด้างขึ้นทันที เธอเกลียดท่าทีสงบนิ่งของเวินหนี่มาก “เธอแกล้งทำเป็นไม่รู้สึกอะไรใช่ไหม? แต่จริง ๆ แล้วในใจเธอต้องเจ็บปวดมากแน่ ๆ ต่อให้ฉันกับหนานโจวจะห่างกันแค่ไหน ในใจของเขาก็ยังมีที่สำหรับฉันเสมอ”“เธอก็รู้ดีว่าหนานโจวตั้งบริษัทบันเทิงเพราะฉัน ฉันชอบเล่นละคร เขาก็จัดหาบทที่ดีที่สุดให้ทันที ในใจเขามีฉัน นี่คือหลักฐานที่ชัดเจนที่สุด ส่วนเธอเวินหนี่ ในที่สุดเธอก็เป็นแค่เบี้ยที่เย่หนานโจวพร้อมจะเขี่ยทิ้งได้ทุกเมื่อ!”เมื่อได้ย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-16
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 178

    เย่หนานโจวกลับเลี่ยงที่จะพบใครโดยให้เผยชิงยืนขวางที่หน้าประตูไว้ เมื่อเห็นผู้มาเยือนเขาก็เอ่ยด้วยท่าทีสุภาพ “คุณหนูลู่ ประธานเย่พักผ่อนแล้วครับ เขาบอกว่าไม่ต้องกังวล คุณเองก็กลับไปที่กองถ่ายเถอะนะครับ”ลู่ม่านเซิงตอบว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันขอลางานไว้เรียบร้อยแล้ว ผู้กำกับก็อนุญาตแล้วด้วย รอจนกว่าเขาจะออกจากโรงพยาบาล ฉันค่อยกลับไปก็ยังไม่สาย”เผยชิงเริ่มรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย จึงพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ประธานเย่ต้องการพักผ่อนครับ”หญิงสาวมองไปที่ห้องพักผู้ป่วยแล้วก็เข้าใจในสิ่งที่เผยชิงต้องการจะสื่อ แต่เธอไม่ได้โกรธและพูดต่อว่า “งั้นช่วยเอานี่ไปให้หนานโจวด้วยนะคะ ฉันจะกลับไปเอาอาหารที่คุณป้าทำมาให้เขา”“ได้ครับ คุณหนูลู่”เผยชิงรับเอกสารมา เมื่อเห็นคำใหญ่ ๆ บนหน้าปกก็รู้สึกตกใจเช่นกันลู่ม่านเซิงกล่าวลาแล้วเดินจากไปผู้ช่วยจึงถามขึ้นว่า “พี่เซิง ทำไมไม่เข้าไปล่ะ นาน ๆ จะได้โอกาสแบบนี้นะคะ”“ไม่ต้องรีบหรอก” ลู่ม่านเซิงตอบ “วันข้างหน้ายังมีโอกาสอีกมาก ตอนนี้กลับไปที่ตระกูลเย่ก่อนดีกว่า”เธอมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องทำในห้องพักผู้ป่วย เผยชิงยืนลังเลอยู่สักพักไม่แน่ใจว่าจะควรมอบเอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-16
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 179

    จางลี่หงไม่ยอมให้เวินหนี่เดินหนีไป เธอคว้าตัวเวินหนี่ไว้ด้วยความโกรธจนแทบอยากจะฆ่าให้ตาย“ฉันรู้อยู่แล้วว่าแกมันตัวซวย! ถ้าไม่มีแก ทุกอย่างก็คงจะดี พี่ชายฉันคงช่วยเหลือฉันได้ ครอบครัวของเราคงได้มีชีวิตที่มีความสุข แกนี่แหละที่เป็นตัวปัญหา ทำให้พี่ชายทอดทิ้งพวกเรา แกมันนางมารใจดำ ฉันจะฆ่าแกให้ตาย!”จางลี่หงกระชากผมเวินหนี่จนยุ่งเหยิง หญิงสาวจึงพยายามหลบและผลักหล่อนออกโดยสัญชาตญาณ แต่เล็บยาว ๆ ของจางลี่หงกลับข่วนเข้าที่แก้มของเวินหนี่จนเป็นรอยขีดหลายรอยตำรวจที่เห็นเหตุการณ์รีบเข้ามาเตือนอย่างเข้มงวด “คุณผู้หญิงที่นี่คือสถานีตำรวจ การกระทำของคุณ เราสามารถควบคุมตัวคุณได้นะครับ!”จางลี่หงโกรธจนขาดสติ ตะโกนลั่นว่า “จะควบคุมตัวก็จับไปสิ! ขอแค่ให้ฉันได้ฆ่ามันก่อน ถึงฉันตายก็ยอม! ฉันจะลากมันลงนรกไปด้วยกัน!”จางลี่หงพยายามดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง ตำรวจจึงต้องเข้ามาจับตัวเธอและกดลงกับพื้นทันทีแม้จะถูกควบคุมตัวไว้แล้ว แต่สายตาเธอยังคงมองเวินหนี่ด้วยความโกรธแค้นเวินซู่หน้าซีดเผือด น้ำตาไหลพราก “แม่อย่าทำแบบนี้เลย ถ้าแม่ถูกจับ หนูจะทำยังไง”เธอทรุดตัวลงคุกเข่าต่อหน้าเวินหนี่และอ้อนวอนอย่างสิ้น

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-16
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 180

    เย่ซูเฟินรีบพูดขึ้นว่า “ในเมื่อเคยเจอกันแล้วก็ดีเลย เซิงเซิง เด็กคนนี้ชื่อว่าโจวเสี่ยวหลิน”“และนี่คือคุณลู่ม่านเซิง”โจวเสี่ยวหลินจ้องมองลู่ม่านเซิงอย่างละเอียด ทันใดนั้นเธอก็เข้าใจอะไรบางอย่าง ใบหน้าของเธอจึงเริ่มซีดลงเล็กน้อย “คุณป้า หรือว่าคนนี้คือ… คนที่พี่หนานโจวรักมาตลอด”เธอเคยคิดว่าเมื่อเย่ซูเฟินยอมรับลูกของเธอ ก็จะยอมรับตัวเธอด้วยแต่ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเธอคิดไปเองลู่ม่านเซิงรู้สึกชอบคำเรียกนั้นไม่น้อย เธอจึงพูดด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร “สวัสดีจ้ะ คุณป้าเล่าเรื่องของเธอให้ฉันฟังแล้ว บอกว่าเธอกำลังท้องลูกของหนานโจวและกำลังพักผ่อนอยู่ที่บ้านนี้ด้วยกัน”โจวเสี่ยวหลินมีความกังวลโดยสัญชาตญาณ จึงเอามือกุมท้องไว้ กลัวว่าพวกเธออาจจะทำร้ายลูกของตัวเองได้ลู่ม่านเซิงสังเกตเห็นความกังวลจึงพูดต่ออย่างอ่อนโยนว่า “ไม่ต้องกลัวหรอก ในเมื่อลูกในท้องเป็นลูกของหนานโจว ฉันก็จะดูแลอย่างดี เธอไม่ต้องห่วงเลย รอให้เธอคลอดลูกแล้ว ชีวิตของเธอจะดีขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอน”โจวเสี่ยวหลินยังไม่มั่นใจนัก “คุณจะยอมให้ฉันคลอดลูกจริง ๆ เหรอ?”ลู่ม่านเซิงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “ฉันรักษาคำพูดแน่นอน ถ้าไม่เชื่อฉั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-16
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 181

    ลู่ม่านเซิงคิดในใจว่าแม้เธอจะไม่ยอมรับ แต่คุณป้าก็จะยอมรับอยู่ดี เธอไม่สามารถขัดขวางความต้องการของคุณป้าได้ และเธอจะไม่ยอมทำตัวเป็นคนร้ายในเรื่องนี้แน่นอนเวลาผ่านไปสักพักก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นโจวเสี่ยวหลินที่อยู่ในห้องได้ยินเสียงนั้นจึงถามขึ้นว่า “ใครคะ?”“ฉันเอง ลู่ม่านเซิง”หญิงสาวลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็เดินไปเปิดประตูลู่ม่านเซิงยืนอยู่ที่หน้าประตู ในมือถือถ้วยซุปไว้ พลางยิ้มเล็กน้อยให้กับโจวเสี่ยวหลิน “เธอไม่ลงไปข้างล่าง ฉันเลยเอาซุปมาให้ คุณป้าทำไว้ หอมมากเลยนะ”โจวเสี่ยวหลินตอบว่า “ฉันไม่ค่อยหิวเท่าไรค่ะ”ลู่ม่านเซิงวางถ้วยซุปลงบนโต๊ะ แล้วหันกลับมามองโจวเสี่ยวหลินก่อนจะถามว่า “หรือว่าเพราะเห็นฉันมาเลยไม่อยากกิน”โจวเสี่ยวหลินรีบตอบ “ไม่ใช่ค่ะ อย่าคิดแบบนั้นเลย”ลู่ม่านเซิงยิ้มแล้วจับมือเธออย่างสนิทสนม “ไม่เป็นไรหรอก ถ้าไม่มีอะไรก็ดีแล้ว เธอยังเด็กต่อไปเรียกฉันว่าพี่ก็ได้ มีอะไรต้องการให้ช่วยก็บอกมาได้เลยนะ ถ้าฉันทำได้ฉันจะช่วยเธอแน่นอน”ความอบอุ่นและใส่ใจของลู่ม่านเซิงทำให้โจวเสี่ยวหลินรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย “ฉัน...”“ไม่ต้องเกรงใจหรอก ฉันเป็นลูกคนเดียว ตั้งแต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-17
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 182

    คำพูดของลู่ม่านเซิงกระทบใจโจวเสี่ยวหลินอย่างจัง เวินหนี่ชอบเย่หนานโจวมาก แล้วจะยอมปล่อยให้หย่าง่าย ๆ ได้อย่างไร? หรือว่าเวินหนี่กำลังหลอกเธอ?ก่อนหน้านี้เวินหนี่เคยบอกเธอว่าอย่าไปหลงรักเย่หนานโจว แต่กลับกลายเป็นว่าเวินหนี่เองก็ชอบเขาเหมือนกัน ตอนนี้โจวเสี่ยวหลินท้องอยู่ จึงกลัวว่าเวินหนี่อาจจะวางแผนทำร้ายลูกของเธอในอนาคตเธอเอามือกุมท้องด้วยความหวาดกลัวในใจและจะไม่ยอมให้เวินหนี่ทำร้ายลูกของเธอได้แน่ลู่ม่านเซิงสังเกตเห็นสีหน้าของโจวเสี่ยวหลินก็คิดว่าเรื่องที่ต้องพูดนั้นสำเร็จแล้ว “พักผ่อนให้เต็มที่นะ อย่าลืมดื่มซุปด้วยล่ะ มันช่วยบำรุงครรภ์ ฉันขอตัวก่อน”พูดจบลู่ม่านเซิงก็เดินออกไปจากห้อง พร้อมกับยิ้มเย็น ๆ ที่มุมปากคำพูดของเธอทำให้โจวเสี่ยวหลินไม่สบายใจอย่างมากโจวเสี่ยวหลินรู้สึกว่าต้องทำอะไรสักอย่างเธอคิดถึงเรื่องของป้าสะใภ้และลูกพี่ลูกน้องของเวินหนี่ ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง…เวินหนี่เพิ่งทำการให้ปากคำเสร็จและออกมาจากสถานีตำรวจ“เวินหนี่!”เสียงของเวินเซี่ยนดังขึ้นที่หน้าประตูสถานีเขาอายุมากแล้ว ใบหน้าดูซีดเหลือง มีริ้วรอยบ้างเล็กน้อย เขาดับบุหรี่และบดขยี้มันลง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-17
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 183

    เวินเซี่ยนขมวดคิ้วแล้วสูบบุหรี่ต่อ “อย่าพูดให้มันฟังดูแย่ขนาดนั้น ฉันมีเงินเมื่อไหร่จะคืนแน่นอน แค่ขอยืมหน่อยเท่านั้นเอง”เวินหนี่ตอบอย่างเรียบเฉย “ไม่มีเงินให้ยืมหรอก แล้วถ้าไม่มีเรื่องอะไรอีก หนูขอตัวก่อน”เมื่อเห็นว่าเวินหนี่เดินจากไปโดยไม่หันกลับมาสนใจเขาเลย เวินเซี่ยนก็รู้สึกโกรธ เขาทิ้งบุหรี่ลงพื้นและพูดด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “เวินหนี่ อย่าบังคับให้ฉันต้องตัดขาดกับแก จนถึงที่สุดถ้าเรื่องมันบานปลายขึ้นมาจะไม่ดีกับใครเลย!”แต่เวินหนี่ไม่สนใจ เธอขับรถออกไปทันทีเธอรู้ดีว่าเขาต้องการอะไรครอบครัวนี้เป็นเหมือนหลุมลึกที่ไม่มีก้น ถ้าเธอให้เงินพวกเขาไปครั้งหนึ่ง วันข้างหน้าพวกเขาก็จะมาขออีกเรื่อย ๆพอดีว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ถูกโจวเสี่ยวหลินที่แอบซ่อนตัวอยู่มองเห็นเข้าเมื่อเธอเห็นเวินเซี่ยนโกรธจนควบคุมตัวเองไม่ได้ แสดงท่าทีดุดัน และมีความเคียดแค้นต่อเวินหนี่ โจวเสี่ยวหลินก็คิดแผนการบางอย่างขึ้นมาได้ถ้าเธอสามารถทำให้เวินหนี่หายไปจากโลกนี้ได้ ก็จะไม่มีใครมาคุกคามเธอและลูกในท้องอีกต่อไปถ้าเธอสามารถเอาชนะเวินหนี่ได้ เธอก็อาจจะได้กลายเป็นคุณนายเย่ในที่สุดรอยยิ้มเย็นชาปรากฏขึ้นที่มุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-17
  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 184

    เผยชิงจำใจต้องตัดสายไป แต่พอตัดสายได้ไม่นาน โทรศัพท์ก็มีสายเข้ามาอีกครั้ง“ประธานเย่ อาจจะมีเรื่องจริง ๆ ก็ได้นะครับ” เผยชิงพูดด้วยความกังวลเย่หนานโจวที่กำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่เงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์อีกครั้ง และเห็นว่าเป็นสายของถังเยาอีกครั้ง เขารู้ว่าโดยปกติแล้ว ถังเยาจะไม่โทรหาเขาโดยตรง ถ้ามีสายเข้ามาแบบนี้ก็ต้องเกี่ยวกับเวินหนี่แน่ชายหนุ่มจึงปิดหนังสือพิมพ์ลงและพูดว่า “เอาโทรศัพท์มาให้ฉัน”เผยชิงส่งโทรศัพท์ให้เย่หนานโจว เมื่อเขารับสาย ปลายสายก็ตะโกนด้วยความร้อนรนทันที “เย่หนานโจว ทำไมถึงไม่รับสาย? หรือว่าคุณจะไม่สนใจว่าเวินหนี่จะเป็นตายร้ายดียังไงแล้ว?”เมื่อได้ยินเสียงเร่งรีบของถังเยา เย่หนานโจวจึงขมวดคิ้วและถามกลับไปว่า “เกิดอะไรขึ้น?”ถังเยาตอบอย่างกระวนกระวาย “ฉันติดต่อเวินหนี่ไม่ได้! เธอบอกว่าจะเจอฉันในอีกหนึ่งชั่วโมง แต่เธอไม่มาตามนัด โทรไปก็ไม่รับสาย ปกติเธอเป็นคนตรงต่อเวลา ไม่เคยหายตัวไปแบบนี้ ฉันกลัวว่าเธอจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น!”หัวใจของเย่หนานโจวเต้นแรงขึ้น ความโกรธและความขุ่นเคืองที่เคยมีหายไปในพริบตา เขาลุกขึ้นและถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดทันที “เธอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-09-17

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

DMCA.com Protection Status