เติ้งจวนแทบจะโมโหตายเพราะจางลี่หง แต่พอได้เห็นว่าคู่รักหนุ่มสาวมีความสัมพันธ์ที่ดี ก็อารมณ์ดีขึ้น ขอแค่ลูกสาวของเธอมีความสุขก็ไม่มีอะไรทุกข์ยากอีกแล้ว เธออยากรักษาความสัมพันธ์ของพวกเขาด้จึงบอกว่า “หนีหนี่ หนานโจวยอมช่วยเพราะเห็นแก่ลูก เขาใจดีกับลูก ลูกเองก็ควรทำดีกับหนานโจวด้วย”เมื่อได้ยินแบบนั้น เวินหนี่ก็เหลือบมองเย่หนานโจวอีกครั้ง เขาประจบแม่ของเธอจนแม่เข้าข้างเขาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?เย่หนานโจวรู้สึกยินดีมาก เขาพูดกับเติ้งจวนว่า “แม่ครับ นี่เพราะว่าแม่คอยพูดแต่เรื่องดี ๆ ของผม”เติ้งจวนยิ้มและพูดว่า “แน่นอน แม่ไม่ใช่คนตาบอด และแม่ก็มองเห็นความดีของเธอ”เธอมองไปที่เวินจ้าวเวินจ้าวจ้องมองไปที่พวกเขา รู้สึกทั้งสุขทั้งทุกข์ปะปนกัน เขามีความสุขที่เวินหนี่ดูจะมีชีวิตแต่งงานที่ดีและไม่ได้ทุกข์ใจนัก แต่เขาก็ยังห่วงเพราะไม่รู้ว่าพวกเขาจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน และลูกสาวของเขามีความสุขจริงหรือไม่พวกเขาอยู่ต่อพักหนึ่งและจัดการเรื่องขั้นตอนการรักษาของเวินจ้าวจนเรียบร้อย เขาต้องอยู่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ถึงจะสามารถกลับบ้านได้ เพราะอาการก็ไม่ได้ร้ายแ
หนทางนักแสดงของเธอไม่ได้มากมายนักในตอนแรก ในงานเลี้ยงของตระกูลเย่ เย่หนานโจวขีดเส้นความสัมพันธ์ของเขากับเธออย่างชัดเจนต่อหน้าสาธารณชน ทำให้เธอเสียหน้าไม่น้อย วงการบันเทิงนั้นเต็มไปด้วยคนปากหวานก้นเปรี้ยว จึงมีคนหัวเราะเยาะเย้ยเธอในเรื่องนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ลู่ม่านเซิงเป็นคนฉลาด เธอรู้ว่าเย่หนานโจวจะปกป้องเธอ และเขาจะกลายเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินที่แข็งแกร่งที่สุดของเธอในอนาคต หลังจากเกลี้ยกล่อมเย่หนานโจวได้ ทรัพยากรของเธอก็จะมั่งคั่งขึ้นอีกครั้งเธอยุ่งอยู่กับการถ่ายทำ ดังนั้นจึงไม่มีเวลามาหาเรื่องทะเลาะกับเวินหนี่ ชึ่งทำให้ชีวิตเวินหนี่เงียบสงบลงไปมาก เธออยากเอาเวลามาสนใจเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ เพราะยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้เธอไม่มีความสุขเช่นนั้นก็อย่าคิดเยอะเลยดีกว่าแต่หลี่ถิงที่อยู่ข้าง ๆ เวินหนี่มองไปรอบ ๆ ก่อนจะกระซิบ “พี่เวิน ครั้งนี้ฉันดูผิดไป พี่อย่าใส่ใจเลยนะคะ ฉันจะไม่นินทาพี่กับประธานเย่อีกแล้วค่ะ”เวินหนี่มองเธอ “หมายความว่าอะไร?”หลี่ถิงขมวดคิ้ว “ประธานเย่มีภรรยาแล้ว แถมยังซุกบ้านน้อยอยู่ข้างนอกอีก แสดงว่าประธานเย่ไม่ใช่คนซื่อสัตย์ ก่อนนี้ฉันเคยเดาว่าประธานเย่ชอบพี่
แผนกต้อนรับเห็นเธอมาหลายวันแล้ว เธอช่างดื้อรั้นจริง ๆ แผนกต้อนรับตอบเธอไปว่า “ฉันจะโทรไปถามให้ค่ะ รอสักครู่นคะ”ตราบเท่าที่ยังมีความหวัง โจวเสี่ยวหลินก็มีความคาดหวัง “ค่ะ รบกวนด้วยนะคะ”แผนกต้อนรับโทรไปถาม ก่อนจะตอบโจวเสี่ยวหลินอย่างสุภาพ “คุณผู้หญิงคะ ประธานเย่ไม่อยู่ในบริษัทค่ะ รบกวนกลับมาใหม่คราวหน้านะคะ”มาเมื่อไหร่เขาก็ไม่อยู่ จะมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้ได้ยังไง? ครั้งนี้โจวเสี่ยวหลินไม่เชื่อนัก และถามกลับไปอย่างไม่ย่อท้อว่า “คุณช่วยโทรไปหาประธานเย่โดยตรงได้ไหมคะ? แค่บอกว่าเสี่ยวหลินทำอาหารจานพิเศษมาให้ อยากให้เขาได้ลองชิม หากเขาชิมแล้วฉันก็จะกลับค่ะ”แผนกต้อนรับเคยเห็นผู้หญิงที่ต้องการประจบประแจงเย่หนานโจวมามากมาย และเธอก็เป็นเพียงหนึ่งในนั้น จึงตอบกลับไปส่ง ๆ ว่า “ประธานเย่ยุ่งมาก เขาไม่พบกับบุคคลภายนอกค่ะ”“ฉันไม่ใช่คนนอก ฉัน...” โจวเสี่ยวหลินเกือบจะร้องไห้ แต่เธอก็ไม่สามารถพูดได้ว่าตัวเองเป็นอะไรกับเย่หนานโจว“คุณผู้หญิง ได้โปรดอย่ารบกวนการทำงานของฉันเลยค่ะ” แผนกต้อนรับตำหนิขึ้นอีกครั้งโจวเสี่ยวหลินรอมาหลายวันแล้ว เธอไม่สามารถอยู่ในวิลล่าต่อไปได้อย่างสบายใจจึงพูดขึ้นว่า
เวินหนี่ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกไร้สาระ “เธอคิดมากเกินไปแล้ว ฉันก็แค่พูดความจริง”“แล้วคุณกล้าพูดว่าคุณไม่ชอบประธานเย่หรือเปล่าคะ?” โจวเสี่ยวหลินถามขึ้นพลางมองเข้าไปในดวงตาของเธอเวินหนี่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ซึ่งเป็นการบอกว่าโจวเสี่ยวหลินพูดตรงประเด็น“คุณไม่ตอบก็แสดงว่ายอมรับแล้ว”ในฐานะผู้หญิง สัมผัสที่หกของเธอนั้นแม่นยำ เวินหนี่ชอบเย่หนานโจวผ่านมาหลายปีแล้วแต่เย่หนานโจวก็ไม่ได้ตกหลุมรักเธอ ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา แต่เวินหนี่ก็ไม่ยอมให้ผู้หญิงคนอื่นชอบประธานเย่ไม่น่าแปลกใจเลยที่มีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับเขาน้อยมาก เพราะมีเวินหนี่คอยขัดขานี่เอง“คุณเวิน เรามาแข่งขันกันอย่างยุติธรรมเถอะค่ะ แบบนั้นถ้าฉันแพ้ฉันก็ยอม” โจวเสี่ยวหลินพูด “ถ้าประธานเย่ไม่ชอบฉัน ฉันก็จะยอมถอยและไม่เซ้าซี้เขาอีก”เวินหนี่เพียงแค่คิดว่ามันน่าขัน “เธอคิดว่าฉันเห็นเธอเป็นคู่แข่งอย่างนั้นเหรอ?”โจวเสี่ยวหลินเองก็เข้าใจ “ฉันรู้ว่าคุณอยู่กับประธานเย่มาหลายปีแล้ว และเขาก็มีความรู้สึกต่อคุณ แต่มันไม่ใช่ความรู้สึกระหว่างชายหญิง แต่คือความใส่ใจที่มีต่อลูกน้องฉันเข้าใจคุณค่ะและฉันหวังก็ว่าคุณจะเข
รถแล่นออกไปอย่างรวดเร็วจากหน้าอาคารเวินหนี่มองดูรถที่แล่นออกไป และกำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว“เหมือนว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้โกหก เธอรู้จักกับประธานเย่จริง ๆ” แผนกต้อนรับเริ่มไม่แน่ใจแล้ว“อุ้มไปขนาดนั้น ต้องมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา ถ้าประธานเย่เอาผิด พวกเราจะซวยกันแน่ ๆ”เมื่อได้ยินแบบนั้นเวินหนี่รู้สึกหดหู่เล็กน้อย เธอเคยเห็นความเย็นชาของเย่หนานโจวที่มีต่อผู้หญิง และก็เคยเห็นความอ่อนโยนที่เขามีให้ผู้หญิง มันขึ้นอยู่กับว่าเขาชอบเธอคนนั้นหรือไม่เขาชอบลู่ม่านเซิง เขาพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลอย่างเป็นกังวลแม้จะเป็นเพียงบาดแผลเล็ก ๆ และเขาก็กังวลว่าโจวเสี่ยวหลินจะได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นจึงขับรถพาเธอไปโรงพยาบาลในทันทีแผนกต้อนรับก็พากันกังวลเล็กน้อย กลัวว่าเป็นเพราะพวกตนขวางโจวเสี่ยวหลินไว้เธอถึงได้วิ่งเข้าไปชนรถ เมื่อเห็นเวินหนี่ยังอยู่ที่นี่จึงขอร้องว่า “คุณเวิน ถ้าประธานเย่เอาผิดขึ้นมา คุณต้องช่วยพวกเราพูดด้วยนะคะ”เวินหนี่กลับมามีสติอีกครั้ง เธอปรับอารมณ์ให้สงบลงและพูดว่า “สถานการณ์วันนี้เป็นอุบัติเหตุ พวกคุณไม่ต้องโทษตัวเอง ถ้าประธานเย่เอาผิด ฉันจะพูดให้เอง”“ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณเวิน” พวกเธอร
คุณปู่กู้เล่าด้วยความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ หลังจากผ่านสงครามมามากมาย เขารู้ดีว่ากว่าจะมีชีวิตสงบสุขอย่างทุกวันนี้ยากลำบากเพียงใด มีเพียงประเทศเข้มแข็งถึงจะไม่ถูกรังแก และเราต้องปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนที่รักษาไว้อย่างยากลำบากเวินหนี่ไม่ได้ประสบกับความโหดร้ายในยุคนั้น แต่เธอก็รู้ว่าช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดของคุณปู่กู้คือตอนที่เขายังหนุ่ม แม้จะแก่ตัวแล้วเขาก็ยังอยากจะทำเพื่อประเทศชาติให้มากขึ้น คุณปู่กู้พูดไปจนตาแดงก่ำเวินหนี่ตั้งใจฟัง และเห็นบาดแผลที่เกิดจากถูกยิงที่ขาของเขาก็ตระหนักได้ถึงความยากลำบากของพวกเขา“คุณปู่กู้ ตอนนี้ประเทศนี้แข็งแกร่งขึ้นแล้วและเต็มไปด้วยคนมากความสามารถ จะไม่มีสงครามเกิดขึ้นแล้วค่ะ” เวินหนี่ปลอบใจเขาคุณปู่กู้กล่าว “จะทะนงตนเกินไปไม่ได้”ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “แต่คนมีความสามารถนั้นเยอะจริง ๆ หนานโจวเป็นคนที่มีความสามารถ เขาประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย มันเป็นความผิดของคนแก่อย่างตาเฒ่าเย่ที่อยากให้เขากลับมาสืบทอดธุรกิจของครอบครัว หากเขายังติดตามฉัน เกรงว่าคงจะเก่งกว่าฉันตอนหนุ่ม ๆ เสียอีก”คำพูดเหล่านี้ทำให้เวินหนี่ปร
เขากำลังเตือนเวินหนี่ว่าเธอควรจับตาดูสามีของตัวเองให้ดี และอย่าให้คนอื่นฉวยโอกาสจากช่องว่างของความสัมพันธ์ได้เวินหนี่ไม่อยากให้คุณปู่กู้ที่ป่วยอยู่ต้องมากังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับเย่หนานโจว เธอยิ้มและพูดว่า “หนูทราบค่ะ หนานโจวบอกกับหนูแล้ว คุณปู่กู้ นี่ก็เริ่มค่ำแล้ว ด้านนอกอากาศหนาว เราเข้าไปข้างใน กันเถอะค่ะ”“อืม” คุณปู่กู้รู้ว่าอะไรเป็นอะไรจึงไม่ได้พูดอะไรอีกเวินหนี่ส่งคุณปู่กู้ไปที่วอร์ดก่อนจะบอกลาเขา และลังเลว่าจะไปแผนกสูตินรีเวชหรือไม่แต่โจวเสี่ยวหลินก็โทรมาเธอพอดี “คุณเวิน คุณมาที่โรงพยาบาลหน่อยได้ไหมคะ? ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ”และสุดท้ายเวินหนี่ก็ตัดสินใจไปเผยชิงเฝ้าอยู่ที่ประตู เมื่อเห็นเวินหนี่เดินเข้ามา เขาก็มีสีหน้าอ้ำอึ้ง ราวกับกลัวว่าเธอจะมาที่นี่ “เลขาเวิน ทำไมคุณถึงมาที่นี่ล่ะครับ?” เผยชิงฝืนยิ้มเวินหนี่สงบนิ่งมากและถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้นคะ?”“เอ่อ ผมว่าคุณน่าจะโทรหาประธานเย่ให้เขามาที่นี่ก่อน…”เขาดูระมัดระวังมากซึ่งทำให้เวินหนี่เกิดความสงสัย “มีอะไรที่ฉันรู้ไม่ได้งั้นเหรอ?”เผยชิงลังเลว่าจะพูดดีไหม เขามองไปที่โจวเสี่ยวหลินในห้องแล้วถอนหายใจ
เผยชิงเหลือบมองเวินหนี่เวินหนี่พูดขึ้นว่า “คุณออกไปข้างนอกก่อน”เผยชิงปิดประตูลงโจวเสี่ยวหลินยกผ้าห่มออกและนั่งบนขอบเตียง ก่อนจะลูบท้องตัวเองอย่างคาดหวัง“คุณเวิน ฉันรู้ว่าประธานเย่มีคนอยู่ในใจแล้ว”เวินหนี่กำหมัดแน่นโจวเสี่ยวหลินก้มหน้าลงและพูดช้า ๆ “ความอ่อนโยนของประธานเย่ที่มีต่อฉันก็เป็นเพราะคน ๆ นั้น ฉันเหมือนเธอ ประธานเย่ถึงได้ชอบฉัน แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ฉันก็พอใจแล้ว ฉันไม่ขออะไรมาก แค่ตั้งครรภ์ลูกของประธานเย่ก็พอแล้ว”เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ โจวเสี่ยวหลินก็มองไปที่เวินหนี่แล้วพูดว่า “คุณเวิน คุณก็รู้ดีใช่ไหมคะ? คน ๆ นั้นชื่อเซิงเซิง”สีหน้าของเวินหนี่ซีดเผือด เธอรู้เรื่องนี้ด้วยงั้นเหรอ?“เย่หนานโจวบอกเธอว่าคนที่เขาชอบคือเซิงเซิง และคิดว่าเธอเป็นตัวแทนของเซิงเซิงงั้นเหรอ?” เวินหนี่ถามอีกครั้งโจวเสี่ยวหลินไม่สนใจ “ฉันไม่สนใจว่าจะเป็นตัวแทนของใครหรือไม่ ฉันเกิดมาธรรมดา แค่ได้รับการ ดูแลเป็นพิเศษเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว”ถ้าเย่หนานโจวไม่ได้บอกโจวเสี่ยวหลินเอง เธอจะรู้ได้อย่างไร?เวินหนี่รู้สึกใจสลายมาก เล็บเธอจิกแน่นเข้าไปในเนื้อ ผ่านมาตั้งนานแล้วแต่เธอก็ยังคงไม่สามารถหน