Share

บทที่ 134

Author: เซียงปู้อี๋
เย่หนานโจวยืนอยู่ที่ประตู เขาไม่ชอบเสียงดังหนวกหูโดยเฉพาะยิ่งมาอยู่หน้าเตียงผู้ป่วยของพ่อตาแบบนี้

เมื่อได้ยินเสียงเขา สองแม่ลูกก็หยุดร้องไห้และหันไปมองเย่หนานโจว

เวินหนี่เงยหน้าขึ้นก่อนจะเห็นเย่หนานโจว เธอแปลกใจเล็กน้อยเพราะเธอไม่ได้บอกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ จึงถามขึ้นว่า “ทำไมคุณถึงมาที่นี่คะ?”

เย่หนานโจวมองเธอ “ผู้อำนวยการโรงพยาบาลโทรมาหาฉันและบอกว่าคุณพ่อไม่สบาย ฉันก็เลยรีบออกมาจากบริษัท”

“พ่อครับ แม่ครับ” เขาทักทาย ก่อนจะเห็นว่ามือของเวินจ้าวใส่เฝือกอยู่ จึงถามขึ้นว่า “เป็นยังไงบ้างครับ?”

เวินหนี่กล่าว “กระดูกมือร้าว ต้องพักสักสองสามวันค่ะ”

เมื่อเย่หนานโจวเห็นว่าที่นี่แออัดไปด้วยผู้คนจึงขมวดคิ้วและพูดว่า “ที่นี่เสียงดังเกินไป มันส่งผลกระทบต่อการพักผ่อนของคุณพ่อ ผมจะให้คนย้ายเขาไปที่ห้องวีไอพี”

“ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น หนานโจว เธอไม่ต้องลำบากหรอก!”

เวินจ้าวมองเย่หนานโจว แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยพอใจ แต่เย่หนานโจวก็เอาใจใส่เขาจนหาความผิดไม่เจอ เขาเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “แค่กระดูกร้าวนิดหน่อย พวกเธอจะมากันทุกคนทำไม? กลับไปเถอะ มีแม่ของพวกเธอคอยดูแลก็พอแล้ว”

“พวกเราเข้าใจค่ะ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 135

    “พี่เขย”เวินซู่รู้สึกว่าขอร้องเย่หนานโจวที่มีอำนาจตัดสินใจดีกว่าไปขอร้องเวินหนี่ เธอพูดขึ้นว่า “พี่เขยคะ อีกหนึ่งเดือนฉันก็ต้องฝึกงานแล้ว ให้ฉันไปฝึกงานที่บริษัทของพี่ได้ไหมคะ? ตอนนี้ฉันยังไม่มีที่ไป แค่ได้ใบรับใบรับรองการฝึกงานก็พอค่ะ ฉันจะไม่สร้างปัญหาให้แน่นอน”จางลี่หงกล่าวเสริม “เราเป็นอาสะใภ้และลูกพี่ลูกน้องของเวินหนี่ คุณก็ช่วยน้องสาวหน่อยนะได้ไหม? เพื่อที่อนาคตเธอจะได้มีงานดี ๆ”เวินหนี่ขมวดคิ้วเล็กน้อยพวกนี้คิดจะดูดเลือดจากเย่หนานโจวเพราะเขาเป็นสามีของเธอ ดูดเลือกจากครอบครัวของเธอไปยังไม่พอ นี่คิดจะมาดูดจากเย่หนานโจวอีกเธออดไม่ได้ที่จะมองไปที่เย่หนานโจว กลัวว่าเขาจะมีความรู้สึกไม่ดีเกี่ยวกับครอบครัวของพวกเธอ ยิ่งนี่เป็นการพบกันครั้งแรกอีกอย่างความสัมพันธ์ของเธอกับเย่หนานโจวก็ไม่ได้ใกล้ชิดกันขนาดที่เขาจะตามเก็บกวาดให้ปัญหาของทุกคนในตระกูลเวิน สิ่งนี้กำลังทำให้เธอลำบากไปด้วยเวินหนี่รู้ดีว่าเธอไม่สามารถปล่อยให้คนในครอบครัวเป็นแบบนี้ได้ ถ้ามีครั้งแรกก็จะต้องมีครั้งที่สอง เธอจึงพูดขึ้นอย่างสุภาพแต่หนักแน่นว่า “อาสะใภ้รองทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ ทุกสิ่งที่หนานโจวมีก็เป็นทรัพย์

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 136

    เติ้งจวนแทบจะโมโหตายเพราะจางลี่หง แต่พอได้เห็นว่าคู่รักหนุ่มสาวมีความสัมพันธ์ที่ดี ก็อารมณ์ดีขึ้น ขอแค่ลูกสาวของเธอมีความสุขก็ไม่มีอะไรทุกข์ยากอีกแล้ว เธออยากรักษาความสัมพันธ์ของพวกเขาด้จึงบอกว่า “หนีหนี่ หนานโจวยอมช่วยเพราะเห็นแก่ลูก เขาใจดีกับลูก ลูกเองก็ควรทำดีกับหนานโจวด้วย”เมื่อได้ยินแบบนั้น เวินหนี่ก็เหลือบมองเย่หนานโจวอีกครั้ง เขาประจบแม่ของเธอจนแม่เข้าข้างเขาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?เย่หนานโจวรู้สึกยินดีมาก เขาพูดกับเติ้งจวนว่า “แม่ครับ นี่เพราะว่าแม่คอยพูดแต่เรื่องดี ๆ ของผม”เติ้งจวนยิ้มและพูดว่า “แน่นอน แม่ไม่ใช่คนตาบอด และแม่ก็มองเห็นความดีของเธอ”เธอมองไปที่เวินจ้าวเวินจ้าวจ้องมองไปที่พวกเขา รู้สึกทั้งสุขทั้งทุกข์ปะปนกัน เขามีความสุขที่เวินหนี่ดูจะมีชีวิตแต่งงานที่ดีและไม่ได้ทุกข์ใจนัก แต่เขาก็ยังห่วงเพราะไม่รู้ว่าพวกเขาจะอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน และลูกสาวของเขามีความสุขจริงหรือไม่พวกเขาอยู่ต่อพักหนึ่งและจัดการเรื่องขั้นตอนการรักษาของเวินจ้าวจนเรียบร้อย เขาต้องอยู่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ถึงจะสามารถกลับบ้านได้ เพราะอาการก็ไม่ได้ร้ายแ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 137

    หนทางนักแสดงของเธอไม่ได้มากมายนักในตอนแรก ในงานเลี้ยงของตระกูลเย่ เย่หนานโจวขีดเส้นความสัมพันธ์ของเขากับเธออย่างชัดเจนต่อหน้าสาธารณชน ทำให้เธอเสียหน้าไม่น้อย วงการบันเทิงนั้นเต็มไปด้วยคนปากหวานก้นเปรี้ยว จึงมีคนหัวเราะเยาะเย้ยเธอในเรื่องนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ลู่ม่านเซิงเป็นคนฉลาด เธอรู้ว่าเย่หนานโจวจะปกป้องเธอ และเขาจะกลายเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินที่แข็งแกร่งที่สุดของเธอในอนาคต หลังจากเกลี้ยกล่อมเย่หนานโจวได้ ทรัพยากรของเธอก็จะมั่งคั่งขึ้นอีกครั้งเธอยุ่งอยู่กับการถ่ายทำ ดังนั้นจึงไม่มีเวลามาหาเรื่องทะเลาะกับเวินหนี่ ชึ่งทำให้ชีวิตเวินหนี่เงียบสงบลงไปมาก เธออยากเอาเวลามาสนใจเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ เพราะยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้เธอไม่มีความสุขเช่นนั้นก็อย่าคิดเยอะเลยดีกว่าแต่หลี่ถิงที่อยู่ข้าง ๆ เวินหนี่มองไปรอบ ๆ ก่อนจะกระซิบ “พี่เวิน ครั้งนี้ฉันดูผิดไป พี่อย่าใส่ใจเลยนะคะ ฉันจะไม่นินทาพี่กับประธานเย่อีกแล้วค่ะ”เวินหนี่มองเธอ “หมายความว่าอะไร?”หลี่ถิงขมวดคิ้ว “ประธานเย่มีภรรยาแล้ว แถมยังซุกบ้านน้อยอยู่ข้างนอกอีก แสดงว่าประธานเย่ไม่ใช่คนซื่อสัตย์ ก่อนนี้ฉันเคยเดาว่าประธานเย่ชอบพี่

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 138

    แผนกต้อนรับเห็นเธอมาหลายวันแล้ว เธอช่างดื้อรั้นจริง ๆ แผนกต้อนรับตอบเธอไปว่า “ฉันจะโทรไปถามให้ค่ะ รอสักครู่นคะ”ตราบเท่าที่ยังมีความหวัง โจวเสี่ยวหลินก็มีความคาดหวัง “ค่ะ รบกวนด้วยนะคะ”แผนกต้อนรับโทรไปถาม ก่อนจะตอบโจวเสี่ยวหลินอย่างสุภาพ “คุณผู้หญิงคะ ประธานเย่ไม่อยู่ในบริษัทค่ะ รบกวนกลับมาใหม่คราวหน้านะคะ”มาเมื่อไหร่เขาก็ไม่อยู่ จะมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้ได้ยังไง? ครั้งนี้โจวเสี่ยวหลินไม่เชื่อนัก และถามกลับไปอย่างไม่ย่อท้อว่า “คุณช่วยโทรไปหาประธานเย่โดยตรงได้ไหมคะ? แค่บอกว่าเสี่ยวหลินทำอาหารจานพิเศษมาให้ อยากให้เขาได้ลองชิม หากเขาชิมแล้วฉันก็จะกลับค่ะ”แผนกต้อนรับเคยเห็นผู้หญิงที่ต้องการประจบประแจงเย่หนานโจวมามากมาย และเธอก็เป็นเพียงหนึ่งในนั้น จึงตอบกลับไปส่ง ๆ ว่า “ประธานเย่ยุ่งมาก เขาไม่พบกับบุคคลภายนอกค่ะ”“ฉันไม่ใช่คนนอก ฉัน...” โจวเสี่ยวหลินเกือบจะร้องไห้ แต่เธอก็ไม่สามารถพูดได้ว่าตัวเองเป็นอะไรกับเย่หนานโจว“คุณผู้หญิง ได้โปรดอย่ารบกวนการทำงานของฉันเลยค่ะ” แผนกต้อนรับตำหนิขึ้นอีกครั้งโจวเสี่ยวหลินรอมาหลายวันแล้ว เธอไม่สามารถอยู่ในวิลล่าต่อไปได้อย่างสบายใจจึงพูดขึ้นว่า

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 139

    เวินหนี่ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกไร้สาระ “เธอคิดมากเกินไปแล้ว ฉันก็แค่พูดความจริง”“แล้วคุณกล้าพูดว่าคุณไม่ชอบประธานเย่หรือเปล่าคะ?” โจวเสี่ยวหลินถามขึ้นพลางมองเข้าไปในดวงตาของเธอเวินหนี่ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ซึ่งเป็นการบอกว่าโจวเสี่ยวหลินพูดตรงประเด็น“คุณไม่ตอบก็แสดงว่ายอมรับแล้ว”ในฐานะผู้หญิง สัมผัสที่หกของเธอนั้นแม่นยำ เวินหนี่ชอบเย่หนานโจวผ่านมาหลายปีแล้วแต่เย่หนานโจวก็ไม่ได้ตกหลุมรักเธอ ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างพวกเขา แต่เวินหนี่ก็ไม่ยอมให้ผู้หญิงคนอื่นชอบประธานเย่ไม่น่าแปลกใจเลยที่มีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับเขาน้อยมาก เพราะมีเวินหนี่คอยขัดขานี่เอง“คุณเวิน เรามาแข่งขันกันอย่างยุติธรรมเถอะค่ะ แบบนั้นถ้าฉันแพ้ฉันก็ยอม” โจวเสี่ยวหลินพูด “ถ้าประธานเย่ไม่ชอบฉัน ฉันก็จะยอมถอยและไม่เซ้าซี้เขาอีก”เวินหนี่เพียงแค่คิดว่ามันน่าขัน “เธอคิดว่าฉันเห็นเธอเป็นคู่แข่งอย่างนั้นเหรอ?”โจวเสี่ยวหลินเองก็เข้าใจ “ฉันรู้ว่าคุณอยู่กับประธานเย่มาหลายปีแล้ว และเขาก็มีความรู้สึกต่อคุณ แต่มันไม่ใช่ความรู้สึกระหว่างชายหญิง แต่คือความใส่ใจที่มีต่อลูกน้องฉันเข้าใจคุณค่ะและฉันหวังก็ว่าคุณจะเข

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 140

    รถแล่นออกไปอย่างรวดเร็วจากหน้าอาคารเวินหนี่มองดูรถที่แล่นออกไป และกำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว“เหมือนว่าผู้หญิงคนนี้ไม่ได้โกหก เธอรู้จักกับประธานเย่จริง ๆ” แผนกต้อนรับเริ่มไม่แน่ใจแล้ว“อุ้มไปขนาดนั้น ต้องมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดา ถ้าประธานเย่เอาผิด พวกเราจะซวยกันแน่ ๆ”เมื่อได้ยินแบบนั้นเวินหนี่รู้สึกหดหู่เล็กน้อย เธอเคยเห็นความเย็นชาของเย่หนานโจวที่มีต่อผู้หญิง และก็เคยเห็นความอ่อนโยนที่เขามีให้ผู้หญิง มันขึ้นอยู่กับว่าเขาชอบเธอคนนั้นหรือไม่เขาชอบลู่ม่านเซิง เขาพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาลอย่างเป็นกังวลแม้จะเป็นเพียงบาดแผลเล็ก ๆ และเขาก็กังวลว่าโจวเสี่ยวหลินจะได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นจึงขับรถพาเธอไปโรงพยาบาลในทันทีแผนกต้อนรับก็พากันกังวลเล็กน้อย กลัวว่าเป็นเพราะพวกตนขวางโจวเสี่ยวหลินไว้เธอถึงได้วิ่งเข้าไปชนรถ เมื่อเห็นเวินหนี่ยังอยู่ที่นี่จึงขอร้องว่า “คุณเวิน ถ้าประธานเย่เอาผิดขึ้นมา คุณต้องช่วยพวกเราพูดด้วยนะคะ”เวินหนี่กลับมามีสติอีกครั้ง เธอปรับอารมณ์ให้สงบลงและพูดว่า “สถานการณ์วันนี้เป็นอุบัติเหตุ พวกคุณไม่ต้องโทษตัวเอง ถ้าประธานเย่เอาผิด ฉันจะพูดให้เอง”“ค่ะ ขอบคุณค่ะคุณเวิน” พวกเธอร

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 141

    คุณปู่กู้เล่าด้วยความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ หลังจากผ่านสงครามมามากมาย เขารู้ดีว่ากว่าจะมีชีวิตสงบสุขอย่างทุกวันนี้ยากลำบากเพียงใด มีเพียงประเทศเข้มแข็งถึงจะไม่ถูกรังแก และเราต้องปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนที่รักษาไว้อย่างยากลำบากเวินหนี่ไม่ได้ประสบกับความโหดร้ายในยุคนั้น แต่เธอก็รู้ว่าช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดของคุณปู่กู้คือตอนที่เขายังหนุ่ม แม้จะแก่ตัวแล้วเขาก็ยังอยากจะทำเพื่อประเทศชาติให้มากขึ้น คุณปู่กู้พูดไปจนตาแดงก่ำเวินหนี่ตั้งใจฟัง และเห็นบาดแผลที่เกิดจากถูกยิงที่ขาของเขาก็ตระหนักได้ถึงความยากลำบากของพวกเขา“คุณปู่กู้ ตอนนี้ประเทศนี้แข็งแกร่งขึ้นแล้วและเต็มไปด้วยคนมากความสามารถ จะไม่มีสงครามเกิดขึ้นแล้วค่ะ” เวินหนี่ปลอบใจเขาคุณปู่กู้กล่าว “จะทะนงตนเกินไปไม่ได้”ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “แต่คนมีความสามารถนั้นเยอะจริง ๆ หนานโจวเป็นคนที่มีความสามารถ เขาประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย มันเป็นความผิดของคนแก่อย่างตาเฒ่าเย่ที่อยากให้เขากลับมาสืบทอดธุรกิจของครอบครัว หากเขายังติดตามฉัน เกรงว่าคงจะเก่งกว่าฉันตอนหนุ่ม ๆ เสียอีก”คำพูดเหล่านี้ทำให้เวินหนี่ปร

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 142

    เขากำลังเตือนเวินหนี่ว่าเธอควรจับตาดูสามีของตัวเองให้ดี และอย่าให้คนอื่นฉวยโอกาสจากช่องว่างของความสัมพันธ์ได้เวินหนี่ไม่อยากให้คุณปู่กู้ที่ป่วยอยู่ต้องมากังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับเย่หนานโจว เธอยิ้มและพูดว่า “หนูทราบค่ะ หนานโจวบอกกับหนูแล้ว คุณปู่กู้ นี่ก็เริ่มค่ำแล้ว ด้านนอกอากาศหนาว เราเข้าไปข้างใน กันเถอะค่ะ”“อืม” คุณปู่กู้รู้ว่าอะไรเป็นอะไรจึงไม่ได้พูดอะไรอีกเวินหนี่ส่งคุณปู่กู้ไปที่วอร์ดก่อนจะบอกลาเขา และลังเลว่าจะไปแผนกสูตินรีเวชหรือไม่แต่โจวเสี่ยวหลินก็โทรมาเธอพอดี “คุณเวิน คุณมาที่โรงพยาบาลหน่อยได้ไหมคะ? ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ”และสุดท้ายเวินหนี่ก็ตัดสินใจไปเผยชิงเฝ้าอยู่ที่ประตู เมื่อเห็นเวินหนี่เดินเข้ามา เขาก็มีสีหน้าอ้ำอึ้ง ราวกับกลัวว่าเธอจะมาที่นี่ “เลขาเวิน ทำไมคุณถึงมาที่นี่ล่ะครับ?” เผยชิงฝืนยิ้มเวินหนี่สงบนิ่งมากและถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้นคะ?”“เอ่อ ผมว่าคุณน่าจะโทรหาประธานเย่ให้เขามาที่นี่ก่อน…”เขาดูระมัดระวังมากซึ่งทำให้เวินหนี่เกิดความสงสัย “มีอะไรที่ฉันรู้ไม่ได้งั้นเหรอ?”เผยชิงลังเลว่าจะพูดดีไหม เขามองไปที่โจวเสี่ยวหลินในห้องแล้วถอนหายใจ

Latest chapter

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 520

    อาจ้านตอบว่า “ช้าอีกหน่อยแล้วกัน สถานที่เดิม”หญิงผมแดงยิ้มอย่างมีเลศนัย “ได้เลย ฉันจะรอคุณตรงเวลานะ”พูดจบหญิงผมแดงก็รีบเดินออกจากบริเวณของเขาไป พอเธอจากไปแล้ว อาจ้านก็ค่อย ๆ เอาหัวใจของสัตว์กลับใส่ที่เดิม จากนั้นเขาก็เย็บปิดแผลอย่างประณีต แม้ว่าเมื่อครู่จะดูโหดร้ายเลือดสาดสักแค่ไหน แต่ในตอนนี้หัวใจของสัตว์นั้นก็ยังสามารถเต้นได้อีกครั้งเมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว อาจ้านถอดถุงมือที่เปื้อนเลือดออก ล้างมือด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและสบู่หลายรอบ จนกระทั่งไม่เหลือกลิ่นใด ๆ แล้วจึงออกไป เขาขับรถมุ่งหน้าไปยังฟาร์มที่หน้าประตูมีคนยืนเฝ้าอยู่ พอเห็นรถของอาจ้านเข้ามาก็รีบเปิดประตูให้เข้าไป ด้านในฟาร์มมีการปลูกดอกไม้บางชนิดตกแต่งไว้ แต่มีเพียงสตรอเบอร์รีเท่านั้นที่เป็นพืชหลักของฟาร์มสตรอเบอร์รีในแปลงไม่ได้ถูกเก็บไปขาย หลายลูกปล่อยให้เน่าอยู่บนพื้น อาจ้านลงจากรถ สายตาเขาเหลือบมองทุ่งสตรอเบอร์รีที่ได้รับการดูแลมาอย่างดีอย่างพอใจ บนใบหน้าจึงเผยรอยยิ้มจาง ๆผู้คุมหน้าประตูส่งตะกร้าให้ อาจ้านรับตะกร้ามาแล้วเดินตรงเข้าสู่แปลงสตรอเบอร์รี ทุ่งเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผลสตรอเบอร์รีที่สุกงอมจนเป็นส

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 519

    [ฉันว่าคุณพูดถูกนะ เทียบกันแล้วฉันชอบคลิปสั้นของจางจื่อฉีมากกว่า ชอบบทของเธอในละครเรื่องนั้นจริงๆ!]ใบหน้าของลู่ม่านเซิงแทบเปลี่ยนเป็นสีเขียวด้วยความโกรธคนพวกนี้พูดบ้าอะไรกัน! บอกว่าจางจื่อฉีถ่ายได้ดีกว่าเธออย่างนั้นหรือ? เป็นไปได้ยังไง! เธอหน้าตาสวยกว่าจางจื่อฉีตั้งเยอะผู้ช่วยของเธอที่อยู่ข้าง ๆ เห็นยอดไลค์ในคลิปสั้นของจางจื่อฉีพุ่งทะลุสิบล้านแล้ว จึงพูดจาดูถูกขึ้นมาทันที “พวกชาวเน็ตเขียนอะไรกัน เห็น ๆ อยู่ว่าคุณเซิงสวยกว่า จางจื่อฉีน่ะอาศัยแค่กระแสความทรงจำ ไม่ได้มีความสามารถจริงจังอะไรเลย แถมดันไปถ่ายคลิปสั้นแบบนี้อีก มันเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเขาเล่นกันทั้งนั้น ดาราจะไปโพสต์คลิปบนแอปแบบนี้ได้ยังไง ไร้เกียรติมาก!”ผู้ช่วยของเธอดูถูกวิธีการนี้มาก เพราะส่วนใหญ่ดาราที่โพสต์บนแอปสั้นมักจะเป็นพวกที่ไม่ค่อยดัง พยายามหารายได้จากตรงนี้ เธอจึงไม่สนใจสิ่งนี้เลย“อ๊า!” ลู่ม่านเซิงโมโหถึงกับปามือถือลงพื้น!ผู้ช่วยที่ตอนแรกตั้งใจจะปลอบเธอ ถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นลู่ม่านเซิงปามือถือด้วยความโกรธ “คุณเซิง…”ลู่ม่านเซิงโกรธจนตาแดงก่ำ “ทำไมยอดไลค์ของจางจื่อฉีถึงได้ถึงสิบล้าน มีคนชอบเธอตั้งมา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 518

    ทางด้านลู่ม่านเซิงก็กำลังถ่ายทำเช่นกันเธอแต่งกายสไตล์ย้อนยุคแบบเดียวกับจางจื่อฉี“ดีมากเลย เซิงเซิง สวยมาก!” ช่างภาพกล่าวพลางถ่ายจากหลายมุม“มุมนี้ดูดีมาก ได้ภาพสวยเลย!”ช่างภาพชมเธอไม่หยุดระหว่างถ่ายทำลู่ม่านเซิงเองก็มั่นใจในตัวเองสูง เธอตั้งใจถ่ายมาก เพราะรู้ดีว่าเสน่ห์และความงามของเธอเหนือกว่าจางจื่อฉี ซึ่งในวงการบันเทิงแล้ว ความงามถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง หลายคนดังได้จากเพียงรูปลักษณ์เธอเองก็แสดงละครได้ดี แถมยังมีหน้าตาที่โดดเด่น จึงมั่นใจว่าจะเอาชนะจางจื่อฉีได้แน่นอนจริง ๆ แล้วเป้าหมายของเธอไม่ใช่จางจื่อฉี แต่เป็นเวินหนี่เธอจงใจไม่ให้ความร่วมมือกับจางจื่อฉีเพื่อโค่นล้มเวินหนี่ หากเธอชนะจางจื่อฉีได้ ก็จะถือว่าชนะเวินหนี่ด้วยและหากชนะครั้งนี้ก็จะมีครั้งต่อไปเมื่อดูภาพถ่ายของตัวเอง เธอก็พึงพอใจมาก เชื่อมั่นว่าจะขึ้นเทรนด์ในโลกออนไลน์ได้“รีบปล่อยภาพนี้ไปให้เร็วที่สุดนะ ใช้ความร้อนแรงของงานในวันนี้ให้เต็มที่” ลู่ม่านเซิงสั่ง“แน่นอนครับ คาดว่าค่ำนี้น่าจะได้เห็นกันแล้ว!”ริมฝีปากของลู่ม่านเซิงเผยรอยยิ้มมั่นใจ คิดว่าความสำเร็จอยู่ในมือเธอแล้วค่ำวันนั้น สื่อ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 517

    เธอยังคงเป็นคนของบริษัทเย่หนานโจว หากเกิดปัญหาอะไรขึ้น บริษัทก็ย่อมต้องคุ้มครองเธออยู่แล้ว ช่วงนี้ยังมีข่าวมากมายที่ออกมาช่วยลบล้างข่าวเสียของลู่ม่านเซิงอีกด้วยเวินหนี่มองลู่ม่านเซิงในชุดนี้อย่างเย้ยหยัน “เลียนแบบจนได้ดี มันสนุกมากไหม?”คำพูดนี้จี้จุดของลู่ม่านเซิง แต่คราวนี้เธอไม่สนใจ เธอต้องการชนะเสียครั้งหนึ่ง จึงยิ้มตอบอย่างมั่นใจ “เวินหนี่ เธอไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิง จะไปรู้ได้ยังไงว่าอะไรที่คนดูชอบ คนที่สวยก็ย่อมมีคนติดตามมากกว่า หรือเธอว่าไม่จริง?”ความหมายก็คือเธอเชื่อว่าตัวเองสวยกว่าจางจื่อฉี แต่แม้ว่าลู่ม่านเซิงจะพูดอย่างนั้น จางจื่อฉีก็มีฝีมือการแสดงที่เหนือกว่า ความเป็นนักแสดงมืออาชีพทำให้ไม่จำเป็นต้องแข่งขันกันเรื่องความสวยจางจื่อฉียืนอยู่อย่างสงบ สีหน้าเยือกเย็น ไม่คิดจะโต้เถียงใด ๆ กับลู่ม่านเซิง ราวกับไม่อยากเสียเวลาถกเถียงกับเธอเลยเวินหนี่ก็ไม่ได้สนใจจะโต้แย้งอะไรในเรื่องนี้ เธอเอ่ยขึ้นเพื่อให้ลู่ม่านเซิงเข้าใจอย่างชัดเจนว่า การพึ่งพาคนอื่นนั้นไม่ได้ยั่งยืน “ในเมื่อเธอชอบนัก ก็เอาไปเถอะ จางจื่อฉีไม่ใช่ว่าจะอยู่ไม่ได้ถ้าไม่ได้ใช้ที่นี่”พอเห็นเวินหนี่รู

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 516

    เวินหนี่ถ่ายรูปให้จางจื่อฉีไปหลายรูป แม้เธอจะไม่ใช่คนที่โดดเด่นเพราะความสวยงาม แต่ด้วยฝีมือการแสดงของเธอที่ยอดเยี่ยม ก็ทำให้นักแสดงชายหลายคนมีชื่อเสียงได้เช่นกัน ความไม่ถือตัวและความเป็นกันเองของจางจื่อฉีเป็นสิ่งที่เวินหนี่ชื่นชมเมื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เกือบสิ้นสุดลง เวินหนี่เดินหาช่างภาพเพื่อนำไปถ่ายภาพเสร็จสมบูรณ์พอเสี่ยวอิ่งเห็นจางจื่อฉี เธอก็ร้องกรี๊ดออกมาด้วยความตื่นเต้น “จางจื่อฉี! ฉันได้เจอตัวจริงแล้ว!”เวินหนี่เห็นเสี่ยวอิ่งมีปฏิกิริยาขนาดนี้ก็อดแซวไม่ได้ “ตื่นเต้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”เสี่ยวอิ่งตอบอย่างไม่ลังเล “แน่นอนสิ! ฉันดูละครที่เธอเล่นมาตั้งหลายเรื่อง นี่มันเหมือนฝันไปเลย ฉันได้เจอไอดอลของฉัน ฉันชอบเธอมาก ๆ เลยล่ะ!”จางจื่อฉียิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย “สวัสดี ฉันคือจางจื่อฉีค่ะ” เธอเอื้อมมือออกไปจับมือกับเสี่ยวอิ่งเสี่ยวอิ่งมองมือของจางจื่อฉีด้วยความตื่นเต้น ราวกับอยู่ในความฝัน เธอจับมือจางจื่อฉีแล้วพูดอย่างซาบซึ้งจนแทบร้องไห้ “นี่ฉันฝันไปหรือเปล่า? ฉันดูละครที่คุณแสดงมาทุกเรื่องเลยนะคะ ฉันรู้ประวัติของคุณด้วย คุณมาจากต่างจังหวัดแล้วต่อสู้ในวงการบันเทิงตั้งนาน ฉ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 515

    เมื่อเปรียบเทียบความสามารถของลู่ม่านเซิงในการสร้างกระแสดังในทางลบ กับความหยิ่งในศักดิ์ศรีของจางจื่อฉีที่ปฏิเสธไม่รับเล่นบทละครที่ไม่ได้คุณภาพแล้ว เวินหนี่ก็รู้สึกได้ถึงความจริงที่ว่าในวงการบันเทิงยุคนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับลงอย่างรวดเร็ว นักแสดงหน้าใหม่ผลัดเปลี่ยนมาแทนที่อย่างรวดเร็ว ขณะที่คนเก่าก็ถูกลืมไปได้ง่ายบางคนอาจโด่งดังจากละครเรื่องเดียว แต่ถ้าไม่มีผลงานต่อไปคอยสนับสนุนจากคนดังแถวหน้าก็อาจตกไปเป็นระดับล่างได้ในพริบตา การแข่งขันในวงการนี้โหดร้ายและไร้ปรานี ต่อให้เวินหนี่ไม่ได้อยู่ในวงการบันเทิงเอง เธอก็ยังเห็นความเป็นจริงเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนแม้การเล่นละครที่ด้อยคุณภาพจะทำให้ชื่อเสียงไม่ดี แต่ถ้ามันสามารถเรียกความสนใจจากผู้คนได้ นักแสดงคนนั้นก็สามารถนับเป็น ‘สินค้าทางการตลาด’ ที่ประสบความสำเร็จแล้วเวินหนี่มองจางจื่อฉีและพูดว่า “คุณเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ ไม่ใช่แค่ฝีมือการแสดงที่ดี แต่ยังไม่ยอมตามกระแสแบบทั่วไป คนที่เป็นแบบนี้หาได้ยากมาก ขอให้เชื่อเถอะค่ะว่าสักวันคุณจะต้องโด่งดังแน่นอน”จางจื่อฉีรู้สึกดีใจเมื่อได้ยินคำชมจากเวินหนี่ เธอจึงยิ้มและพูดด้วยความขอบคุณ “ตอนน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 514

    นักข่าวที่มางานนี้ไม่ได้มีเพียงแค่พวกเธอ เพราะสื่อออนไลน์พัฒนาไปไว ทุกคนต่างก็พยายามเป็นคนแรกในการปล่อยข่าว รายงานแรกที่แม่นยำที่สุดย่อมได้เรตติ้งดีที่สุดแม้งานเดินแบบเวทีทีสเตจนี้จะไม่ใช่ข่าวใหญ่ แต่การถ่ายทอดสดก็ทำให้ทุกสื่อแข่งกันเพื่อเป็นอันดับหนึ่งของกระแสบนรันเวย์ตอนนี้มีนางแบบเดินอยู่บ้างแล้ว บรรดาดาราหลายคนก็อยู่ที่นั่งฝั่งผู้ชม เวินหนี่กำลังมองหามุมที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพ“คุณเวิน”ทันใดนั้นเสียงเรียกเธอก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เวินหนี่หันกลับไปก็พบว่าจางจื่อฉีกำลังยืนอยู่ตรงนั้น เธอเหลือบมองไปรอบ ๆ เห็นแต่ทีมงานและดาราที่อยู่ด้านใน“คุณจาง ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้คะ?”จางจื่อฉีตอบอย่างเป็นกันเอง “ไม่ต้องเรียกฉันว่าคุณจางหรอก เรียกว่าจื่อฉีก็พอ”เวินหนี่รู้สึกดีกับอีกฝ่ายอยู่แล้ว “ทำไมคุณถึงออกมาอยู่ตรงนี้ล่ะคะ? เข้าไปด้านในเถอะนะ ตรงนี้มีแต่ทีมงาน เดี๋ยวถ้าโดนนักข่าวรุมถ่ายจะลำบากเอานะคะ!”เวินหนี่รู้ดีว่าพวกนักข่าวนั้นดุดันแค่ไหน การที่จางจื่อฉีออกมาแบบนี้อาจทำให้เธอเสี่ยงต่ออันตรายได้จางจื่อฉีไม่ได้รู้สึกเดือดร้อนอะไร เธอมองไปยังพวกนักข่าวและช่างภาพที่กำล

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 513

    เย่หนานโจวหัวเราะเย็นชา “เคยเห็นการยินยอมพร้อมใจแบบนี้ด้วยหรือไง?”ปลายสายถึงกับเงียบ ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็ในเมื่อทุกคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ก็ควรจะรับผิดชอบตัวเอง ไม่ถึงกับถูกหลอกกันง่าย ๆ เขารู้สึกว่าเย่หนานโจวกังวลเกินไปแต่พอคิดอีกที คงเป็นเพราะความห่วงใยที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ จึงเข้าใจได้ว่าความกังวลของเย่หนานโจวก็มีเหตุผลอยู่เย่หนานโจวเปิดม่านหน้าต่างออก มองออกไปข้างนอก ดวงตาสีเข้มเต็มไปด้วยความกังวลใจ "เธอแทบไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเลย ถ้ามีใครสักคนเข้ามาหว่านล้อมไม่กี่คำแล้วเธอดันหลงเชื่อขึ้นมาล่ะ? มันก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลย"ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น เขาจะประมาทไม่ได้เลยแม้แต่น้อยหลังจากวางสาย เย่หนานโจวเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนชุด เวินหนี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อยและเดินออกมาพอดี เห็นเขาเดินเข้ามาตรงเวลา เธอจึงหยิบไดร์เป่าผมขึ้นมา “ฉันจัดการเองได้”เย่หนานโจวไม่คัดค้าน แต่จ้องมองเธอแล้วกล่าวว่า “ฉันต้องไปทำธุระสักพัก คราวหน้าค่อยมาใหม่แล้วกัน”“ค่ะ” เวินหนี่พูดขณะเป่าผม โดยไม่หันไปมองเขาเมื่อจัดการเสร็จเรียบร้อย เวินหนี่เดินออกมาพร้อมกับเย่หนานโจว“หน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 512

    เย่หนานโจวมองเวินหนี่ด้วยสายตาที่จับจ้องไปยังเธอไม่วางตาโดนมองแบบนี้แล้ว เวินหนี่ก็เริ่มรู้สึกหวั่นใจเล็กน้อย “ว่ายน้ำเสร็จแล้วหรือยังคะ? ถ้าเสร็จแล้ว ช่วยปล่อยให้ฉันออกไปจะได้ไหม?”เย่หนานโจวสบตาเธอด้วยแววตาที่ลึกล้ำขึ้นทุกที “เธอไม่ได้โกหกฉันแน่นะ?”เวินหนี่ใจเต้นแรง รู้สึกเหมือนร่างกายถูกพันธนาการไว้ด้วยเส้นเชือกที่มองไม่เห็น เธอจึงเงยหน้าขึ้นจ้องตาเขากลับ “ฉันไม่ได้โกหก”เย่หนานโจวขมวดคิ้วเล็กน้อย ค่อย ๆ คลายมือที่จับเธอไว้ แล้วพูดเสียงต่ำ “เธอโกหกฉันมาแล้วครั้งหนึ่ง ฉันจะไม่ยอมให้เธอโกหกอีกเป็นครั้งที่สอง”เวินหนี่นิ่งเงียบ ตอนนี้ในสถานการณ์ระหว่างพวกเขา ไม่ว่ามันจะเป็นการโกหกหรือไม่ ก็แทบไม่มีความสำคัญอะไรอีกแล้ว การปกป้องตัวเองด้วยการโกหกก็เป็นเรื่องหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เย่หนานโจวไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ เขาปล่อยให้เธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุดที่เตรียมไว้ให้เวินหนี่เดินเข้าไปข้างในทันที แล้วเลขาหญิงก็ตามเข้ามาพร้อมเสื้อผ้าชุดใหม่ในมือ เป็นชุดกีฬาที่สวมใส่สบายและโปร่ง “คุณเวินคะ นี่เป็นชุดที่ท่านประธานเตรียมไว้ให้ค่ะ”เวินหนี่ทั้งตัวเปียกชุ่มไปหม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status