แชร์

บทที่ 142

ผู้แต่ง: เซียงปู้อี๋
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-10-29 19:42:56
เขากำลังเตือนเวินหนี่

ว่าเธอควรจับตาดูสามีของตัวเองให้ดี และอย่าให้คนอื่นฉวยโอกาสจากช่องว่างของความสัมพันธ์ได้

เวินหนี่ไม่อยากให้คุณปู่กู้ที่ป่วยอยู่ต้องมากังวลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเธอกับเย่หนานโจว เธอยิ้มและพูดว่า “หนูทราบค่ะ หนานโจวบอกกับหนูแล้ว คุณปู่กู้ นี่ก็เริ่มค่ำแล้ว ด้านนอกอากาศหนาว เราเข้าไปข้างใน กันเถอะค่ะ”

“อืม” คุณปู่กู้รู้ว่าอะไรเป็นอะไรจึงไม่ได้พูดอะไรอีก

เวินหนี่ส่งคุณปู่กู้ไปที่วอร์ดก่อนจะบอกลาเขา และลังเลว่าจะไปแผนกสูตินรีเวชหรือไม่

แต่โจวเสี่ยวหลินก็โทรมาเธอพอดี “คุณเวิน คุณมาที่โรงพยาบาลหน่อยได้ไหมคะ? ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ”

และสุดท้ายเวินหนี่ก็ตัดสินใจไป

เผยชิงเฝ้าอยู่ที่ประตู เมื่อเห็นเวินหนี่เดินเข้ามา เขาก็มีสีหน้าอ้ำอึ้ง ราวกับกลัวว่าเธอจะมาที่นี่

“เลขาเวิน ทำไมคุณถึงมาที่นี่ล่ะครับ?” เผยชิงฝืนยิ้ม

เวินหนี่สงบนิ่งมากและถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้นคะ?”

“เอ่อ ผมว่าคุณน่าจะโทรหาประธานเย่ให้เขามาที่นี่ก่อน…”

เขาดูระมัดระวังมากซึ่งทำให้เวินหนี่เกิดความสงสัย “มีอะไรที่ฉันรู้ไม่ได้งั้นเหรอ?”

เผยชิงลังเลว่าจะพูดดีไหม เขามองไปที่โจวเสี่ยวหลินในห้องแล้วถอนหายใจ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application
ความคิดเห็น (2)
goodnovel comment avatar
Kate Preeyada
ช่วยด้วยอยากอ่านหยังสือ
goodnovel comment avatar
Kate Preeyada
ทำไมจ่ายเงินไม่ได้
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 143

    เผยชิงเหลือบมองเวินหนี่เวินหนี่พูดขึ้นว่า “คุณออกไปข้างนอกก่อน”เผยชิงปิดประตูลงโจวเสี่ยวหลินยกผ้าห่มออกและนั่งบนขอบเตียง ก่อนจะลูบท้องตัวเองอย่างคาดหวัง“คุณเวิน ฉันรู้ว่าประธานเย่มีคนอยู่ในใจแล้ว”เวินหนี่กำหมัดแน่นโจวเสี่ยวหลินก้มหน้าลงและพูดช้า ๆ “ความอ่อนโยนของประธานเย่ที่มีต่อฉันก็เป็นเพราะคน ๆ นั้น ฉันเหมือนเธอ ประธานเย่ถึงได้ชอบฉัน แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นแต่ฉันก็พอใจแล้ว ฉันไม่ขออะไรมาก แค่ตั้งครรภ์ลูกของประธานเย่ก็พอแล้ว”เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ โจวเสี่ยวหลินก็มองไปที่เวินหนี่แล้วพูดว่า “คุณเวิน คุณก็รู้ดีใช่ไหมคะ? คน ๆ นั้นชื่อเซิงเซิง”สีหน้าของเวินหนี่ซีดเผือด เธอรู้เรื่องนี้ด้วยงั้นเหรอ?“เย่หนานโจวบอกเธอว่าคนที่เขาชอบคือเซิงเซิง และคิดว่าเธอเป็นตัวแทนของเซิงเซิงงั้นเหรอ?” เวินหนี่ถามอีกครั้งโจวเสี่ยวหลินไม่สนใจ “ฉันไม่สนใจว่าจะเป็นตัวแทนของใครหรือไม่ ฉันเกิดมาธรรมดา แค่ได้รับการ ดูแลเป็นพิเศษเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว”ถ้าเย่หนานโจวไม่ได้บอกโจวเสี่ยวหลินเอง เธอจะรู้ได้อย่างไร?เวินหนี่รู้สึกใจสลายมาก เล็บเธอจิกแน่นเข้าไปในเนื้อ ผ่านมาตั้งนานแล้วแต่เธอก็ยังคงไม่สามารถหน

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 144

    “อะไรนะ?” ใบหน้าของโจวเสี่ยวหลินดูน่าเกลียดอยู่ครู่หนึ่ง เธอไม่เชื่อ “เป็นไปไม่ได้ แม่ เวลามันลงล็อคพอดีและฉันเองก็จำได้แม่น จะไม่ใช่ประธานเย่ได้ยังไง? แม่นั่นแหละที่เข้าใจผิด”“มันเป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น!” คนในสายพูด “ตอนที่ฉันรู้ว่าพวกเขากำลังตามหาคน ฉันเองก็คิดว่าเธอกำลังจะได้โบยบิน แต่เราทุกคนต่างก็เข้าใจผิด หมายเลขห้องก็ไม่ถูกต้อง คนคืนนั้นไม่ใช่ประธานเย่ แต่เป็น…ผู้ชายในวัยสักสี่สิบห้าสิบ”ตอนนี้ใบหน้าของโจวเสี่ยวหลินซีดเผือด เธอมองไปที่ท้องของตัวเองอีกครั้งและรู้สึกถึงโทสะ “ฉันจะตั้งท้องลูกของผู้ชายอายุสี่สิบห้าสิบปีได้ยังไง?”ความแตกต่างระหว่างความฝันและความเป็นจริงมันมากเกินไปเธอมีความสุขโดยเปล่าประโยชน์หากเธอไม่ได้มีความคาดหวังที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ เธอก็คงไม่ผิดหวังมากขนาดนี้ตอนที่เธอพบว่าชายในคืนนั้นคือเย่หนานโจว เธอก็รู้สึกว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุดที่เธอเคยทำมาในชีวิตเธอเชื่อว่าตนสามารถจับชายที่ร่ำรวยและหล่อเหลาได้คราวเดียวแต่ความเป็นจริงกลับบอกเธอว่าเธอนอนกับชายชราคนหนึ่ง“เสี่ยวหลินยอมรับความจริงซะเถอะ ถึงแม้ว่าเขาจะแก่แล้วแต่ก็มีเงิน เธอสามา

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 145

    คำพูดของเย่หนานโจวทำเผยชิงตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง โจวเสี่ยวหลินกำลังตั้งครรภ์และเธอก็เป็นผู้หญิงในคืนนั้น ดังนั้นเด็กก็ต้องเป็นลูกของเขาสิ“ไปได้แล้ว” จู่ ๆ เย่หนานโจวก็พูดขึ้น“อ้อ” เผยชิงสตาร์ตรถเย่หนานโจวขมวดคิ้ว “ฉันหมายถึงให้ลงจากรถ!”“ประธานเย่ คุณยังมีนัดไม่ใช่เหรอครับ? พวกเขากำลังรออยู่ อีกอย่างที่นี่ก็มีคนมากเกินไป!” เผยชิงเห็นมีคนมากมายที่นี่มันจะต้องแออัดแน่นอนเลขาเวินมาที่นี่ก็ไม่เท่าไร แต่เย่หนานโจวมาที่นี่โดยไม่มีคนคอยรักษาความปลอดภัยคอยเปิดทางให้ ตามนิสัยการใช้ชีวิตของเขาแล้ว เขาไม่มีทางลงไปเดินในที่แบบนี้แน่เย่หนานโจวจ้องไปที่เผยชิงและพูดนิ่ง ๆ “นายชอบที่แบบนี้ไม่ใช่เหรอ?”“ครับ?” เผยชิงตอบสนองไม่ทัน เขาชอบสถานที่แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?แต่เมื่อเห็นสายตาดุดันของเย่หนานโจว เขาก็ทำได้เพียงพยักหน้า “ครับ ครับ ผมชอบที่นี่”“อืม ลงไปซะ!” เย่หนานโจวเบี่ยงสายตาหันออกไปมองด้านนอก เขาลงจากรถก่อน แล้วมองดูฝูงชนมากมาย นึกไม่ออกเลยว่าการรวมตัวกันของผู้คนในสถานที่แบบนี้มีอะไรน่าสนใจกัน แค่เพื่อมาดูดอกไม้ไฟสิบกว่านาทีเท่านี้เหรอ?เย่หนานโจวอดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปากด้

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 146

    โชคดีที่เจ้าของร้านเตรียมรับมือไว้ก่อนแล้ว ทำให้เขาสามารถหลบหลีกได้ทัน“เผยชิง นายยิงได้บ้างไหม?” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่แยแสนัก“...” เผยชิงมองไปที่ใบหน้าซีดเซียวของเจ้าของร้านแล้วตอบ “เกือบโดนแล้วครับ!”ลู่เซินถูกเวินหนี่กอดไว้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเธอดีใจขนาดนี้ ลู่เซินจึงชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มบาง ๆ และพูดอย่างอ่อนโยนว่า “เราไม่จำเป็นต้องรีบร้อนใช่ไหม?”“ไม่ต้องรีบหรอก ฉันดีใจมากเลย” เวินหนี่ยิ้มตอบเจ้าของร้านถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะยิ้มและพูดว่า “หนุ่มน้อย นายนี่เก่งจริง ๆ รู้ไหมว่าไม่ค่อยมีใครสามารถโยนห่วงโดนของที่อยู่ด้านหลังได้เลยนะ!”จากนั้นเขาก็รีบหยิบโดราเอมอนมาส่งให้เวินหนี่เวินหนี่กอดมันไว้แน่น รู้สึกถึงความมั่นคงภายในใจ ราวกับว่าเธอได้ครอบครองสิ่งที่เป็นของตัวเองจริง ๆ แล้ว“แล้วยังมีห่วงเหลืออีกตั้งเยอะ จะทำยังไงดี?” ลู่เซินถามเวินหนี่ตอบว่า “โยนให้หมดเลย โดนอะไรก็เอาอันนั้นแหละ”“โอเค” ลู่เซินตอบตามที่เธอว่า เขายังโชว์ฝีมือได้ดี โยนห่วงโดนทุกครั้ง แต่ของที่ได้มาก็เป็นเพียงของเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่ได้มีประโยชน์อะไรแต่ก็ยังสนุกมากทว่าร้านด้านข้างกลับ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 147

    เผยชิงเหงื่อแตกพลั่ก เขารู้ดีว่านี่คือผู้มีพระคุณที่ให้เงินเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเขาได้ จะไม่ให้สนใจได้อย่างไรเมื่อเห็นสีหน้าของเย่หนานโจวไม่ค่อยดี เขาจึงรีบพูดว่า “ประธานเย่ อย่าโกรธเลยครับ เลขาเวินยังอยากเล่นอยู่ เราไปเล่นด้วยกันดีไหมครับ?”คนฟังจึงตอบด้วยความไม่พอใจ “ใครอยากเล่นกับเธอกัน”เวินหนี่เห็นว่าเขาพูดแบบนั้นก็ไม่คิดจะบังคับ จึงหันไปบอกกับลู่เซินว่า “ข้างหน้ายังมีอะไรสนุก ๆ อีกเยอะ เราไปดูกันเถอะ”“โอเค” ลู่เซินตอบแล้วหันไปมองเย่หนานโจว “ประธานเย่ เราคงไม่กวนคุณแล้วนะครับ”ว่าแล้วทั้งสองก็เดินไปข้างหน้าส่วนเย่หนานโจวก็มองตามหลังพวกเขาด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง ก่อนจะถามเผยซิง “นายอยากไปกับพวกเขาหรือไง?”“ไปครับ ไปด้วย!”เผยชิงรีบตะโกนออกมา “เลขาเวิน ผมอยากไปกับคุณด้วย”ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น เย่หนานโจวก็เดินตามไปเช่นกันชายหนุ่มเดินตามหลังพวกเขาไป ในขณะที่สายตาก็จับจ้องไปที่โดราเอมอนซึ่งเวินหนี่กอดไม่ยอมปล่อย “แค่ของเล่นชิ้นเดียวก็ทำให้เธอดีใจได้ขนาดนี้”เมื่อครู่ตอนที่เธอดีใจ มันเหมือนกับว่าเธอได้พบสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกทั้งที่มันก็แค่ของเล่นห่วย ๆ ชิ้นหนึ่งก็เท่า

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 148

    “ตัวนี้พอไหม?” เย่หนานโจวถาม “มันดูดีกว่าตัวที่เธอถืออยู่หรือเปล่า?”“...”เวินหนี่มองหมีตัวใหญ่ที่สูงกว่าตัวเขาเสียอีก ถ้าเธอถือมันไว้คงต้องลากไปกับพื้นแน่ ๆ เธอจึงรีบส่ายหน้า “ไม่เอาหรอกค่ะ มันตัวใหญ่เกิน แถมฉันก็ไม่ได้ชอบด้วย”ใบหน้าของเย่หนานโจวเข้มขึ้นทันที ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงดุดัน “แล้วมันไม่ดีกว่าตัวที่เธอถืออยู่หรือไง? เอาไป!”เขาใช้มือข้างเดียวโยนตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ไปให้เธอเวินหนี่ที่กำลังถือโดราเอมอนอยู่ต้องรับตุ๊กตาหมีอีกตัวที่ถูกโยนมา ความหนักของตุ๊กตาทั้งสองตัวทำให้เธอรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออก“เย่หนานโจว พอเถอะ!” หลังจากพยายามจัดการจนสามารถโผล่ศีรษะออกมาได้ เวินหนี่พูดขึ้นมาทันที ในขณะที่พยายามจับตุ๊กตาทั้งสองตัวไว้ไม่ให้หล่นลงพื้น ทว่าเย่หนานโจวไม่ตอบอะไร ใบหน้ายังคงเย็นชา ไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงไม่ชอบ ก็เธอชอบตุ๊กตาตัวใหญ่ ๆ ไม่ใช่เหรอ?ตุ๊กตานี้มันใหญ่กว่าตัวเดิมที่เธอถืออยู่เสียอีก แล้วทำไมเธอถึงไม่รู้สึกตื่นเต้น? ทำไมเธอถึงไม่ดีใจล่ะ?มีอะไรผิดตรงไหน?เวินหนี่รู้ตัวว่าคำพูดของเธออาจทำให้เขารู้สึกเสียหน้า จึงรีบพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “มันหนักเกินไป ฉันถื

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 149

    เวินหนี่ใช้ยาฆ่าเชื้อทำความสะอาดแผลให้ก่อนจะพันแผลให้เรียบร้อย ไม่นานนักเผยชิงก็ขับรถมาจอดที่ข้างถนนเวินหนี่ประคองเย่หนานโจวขึ้นรถ แล้วหันไปมองลู่เซินแวบหนึ่ง เย่หนานโจวเห็นสายตานั้น เขาก็รับรู้ได้ว่าเธอดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับลู่เซินมากลู่เซินจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อนด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “กลับไปก่อนเถอะ ประธานเย่ได้รับบาดเจ็บ ต้องมีคนดูแล”เขาพูดเพื่อเปิดทางให้เวินหนี่อย่างเต็มใจ เพราะเข้าใจดีว่าเธอจำเป็นต้องทำหน้าที่ เย่หนานโจวคือเจ้านายและเธอก็ต้องใส่ใจเรื่องนี้ก่อนเวินหนี่โบกมือให้ลู่เซินพร้อมกับพูดว่า “งั้นฉันกลับก่อนนะ วันนี้ขอบคุณมากที่พามาเที่ยว”“ไม่เป็นไร” ลู่เซินตอบด้วยรอยยิ้มเมื่อประตูรถปิดลง เผยชิงที่ตอนแรกตั้งใจจะขึ้นรถก็เปลี่ยนใจ เขายิ้มแล้วเดินไปหาลู่เซิน “คุณลู่ ขอบคุณมากครับ”เขาพูดพร้อมกับรับตุ๊กตาหมีสตรอว์เบอร์รี่จากลู่เซินอย่างสุภาพ เพราะสุดท้ายแล้วตุ๊กตาหมีตัวนี้เป็นรางวัลที่ประธานเย่ชนะมาให้เวินหนี่ จึงไม่ควรให้คนอื่นถือไปเผยชิงไม่เคยเห็นเย่หนานโจวดื้อดึงขนาดนี้มาก่อนรถค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกไป ส่วนลู่เซินก็มองตามหลังรถไปเรื่อย ๆ โดยไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ บนใ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 150

    เย่หนานโจวเพิ่งกลับมาจากข้างนอก สีหน้าเขาเย็นชาขณะที่ฟังพนักงานรายงานการทำงาน“ประธานเย่ครับ บ่ายโมงวันนี้เราได้จัดเตรียมคนให้ไปส่งน้ำตามแผนเรียบร้อยแล้ว”เย่หนานโจวมองเวินหนี่ซึ่งกำลังยุ่งอยู่ไม่ไกลนัก ก่อนจะเรียกเธอด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เลขาเวิน”เวินหนี่รีบเดินเข้ามาหา “ประธานเย่”“ถ้าเธอไม่มีธุระอะไรตอนบ่าย ก็ไปด้วยกัน”เมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ทุกคนในที่นั้นต่างก็ตกใจ งานนี้เป็นงานที่เหนื่อยและลำบาก ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากไปทำ ปกติมักจะถูกมอบหมายให้ผู้ชายไปทำเสมอ เวินหนี่เป็นผู้หญิงคนเดียวในสถานที่นั้นด้านนอกแดดแรงมากและเธอก็ใส่กระโปรงกับรองเท้าส้นสูง ซึ่งไม่สะดวกทั้งในการนั่งยอง ๆ หรือแม้แต่เดิน งานนี้จึงไม่เหมาะกับเธอเลยแต่คำสั่งของเย่หนานโจวไม่มีใครกล้าขัดขืน เวินหนี่จึงต้องยอมทำตาม “ได้ค่ะ ท่านประธาน”“อืม”เย่หนานโจวไม่มองเธออีกแล้วเดินไปทางห้องทำงานด้วยท่าทีเฉยชา“พี่เวิน เดี๋ยวฉันไปช่วยนะ” หลี่ถิงเสนอขึ้นด้วยความตั้งใจจะแบ่งเบาภาระของเวินหนี่“ไม่เป็นไร” เวินหนี่ตอบ “คนทำงานมีพอแล้ว มีเธอเพิ่มอีกคนก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก เธออยู่ที่สำนักงานเถอะ”บ่ายโมง ตรงกับเวลาที่แดดร

บทล่าสุด

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 468

    “ไม่ใช่ค่ะ” เวินหนี่ตอบสีหน้าของเย่หนานโจวเปลี่ยนไปและเขาก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “ใกล้จะเป็นอดีตภรรยาแล้วครับ!”คุณหมอถึงกับตกตะลึงเมื่อได้ยินคำตอบ เขาจึงรีบตอบไปว่า “ผู้ป่วยมีอาการกระทบกระเทือนเล็กน้อยและกระดูกมือร้าว เธอจะหายดีหลังจากพักผ่อนสักระยะหนึ่ง พวกคุณไม่ต้องกังวลมากเกินไป”นี่เป็นเรื่องที่ดี เวินหนี่ตอบไปทันที “ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ”“ด้วยความยินดีครับ”ทั้งสองตามเย่จื่อเข้าไปในวอร์ดเวินหนี่เห็นว่าริมฝีปากของเย่จื่อดูแห้งผาก ดังนั้นจึงรีบหาน้ำอุ่นมา และชุบด้วยสำลีก่อนจะเช็ดให้ชุ่มชื้นเย่หนานโจวเฝ้าดูจากด้านข้างในวอร์ดมีคนไม่มากนัก เพื่อป้องกันไม่ให้รบกวนการพักผ่อนของผู้ป่วยเวินหนี่ไม่วางใจ ดังนั้นเธอจึงนั่งลงตรงข้ามเขาอีกครั้ง โดยมุ่งเน้นไปที่การเฝ้าเย่จื่อหลังจากที่เฝ้าได้สักพัก เธอก็รู้สึกง่วงจนเปลือกตาสั่น จากนั้นเธอก็เผลอฟุบหลับไปเมื่อเวินหนี่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะความตกใจ เธอฝันว่ามันมืดสนิทและอยู่ในพื้นที่แคบ ๆกลัวอะไรก็ได้อย่างนั้น แม้แต่ในความฝันก็ยังไม่ปล่อยเธอไป เธอมักจะฝันแบบนี้ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลยเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่ามีเสื้อคลุม

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 467

    หรือว่าเขาจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว?เธอเคยได้ยินเย่จื่อพูดอยู่หลายครั้ง แต่เธอก็ยังไม่ได้คิดถึงเหตุผลบางทีเย่หนานโจวอาจรู้มานานแล้ว จึงเข้าใจโดยปริยาย“เวินหนี่”ลู่เซินเข้ามาหาเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พักสักหน่อยไหม เดี๋ยวร่างกายจะทนไม่ไหวเอานะ”เวินหนี่ยืนนานแล้วและรู้สึกปวดหลัง แต่เธออยากรอให้เย่จื่อออกมา จึงนั่งลงข้าง ๆ “ฉันอยากรอจนกว่าคุณอาจะฟื้น”“ผมจะรอเป็นเพื่อนคุณเอง” ลู่เซินพูดขึ้นอีกครั้งเวินหนี่พยักหน้าไปทางเขาร่างสูงของเย่หนานโจวเอนตัวไปที่กรอบประตูและเหลือบมองความกังวลของลู่เซินที่มีต่อเวินหนี่ ดวงตานั้นแทบจะมีน้ำล้นออกมาได้ และเวินหนี่ก็ดูเหมือนพร้อมยอมรับน้ำใจของเขาคลื่นแห่งความกระสับกระส่ายโจมตีร่างกายของเย่หนานโจวอีกครั้งดวงตาของเขาเย็นขึ้นและจงใจเตะเก้าอี้ข้าง ๆ ให้มีเสียงนั่นคือเก้าอี้ที่ลู่เซินนั่งอยู่ เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมอง เย่หนานโจวก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “โทษที บังเอิญเตะโดนเข้าน่ะ!”“ไม่เป็นไร” ลู่เซินไม่ได้ติดใจอะไรเย่หนานโจวกลับพูดขึ้นอีกว่า “ตรงนี้คือพื้นที่รอสำหรับญาติ ไม่ทราบว่าคุณลู่มาที่นี่ทำไมกัน ที่บริษัทของคุณไม่ยุ่งเหรอครับ?”

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 466

    เขาไม่ได้โต้เถียงกับเธอ และเพิกเฉยต่อเสียงร้องไห้ของเธอสำหรับเขา น้ำตาของเย่ซูเฟินนั้นไร้ค่าเย่ซูเฟินในฐานะผู้หญิง เมื่อเห็นความเฉยชาของสามี มันก็ค่อย ๆ ทำลายแนวป้องกันในใจของเธอทีละน้อยและโวยวายขึ้นอย่างอารมณ์ร้อน “พูดมาสิ ทำไมถึงไม่พูดล่ะ ในสายตาของคุณ เย่จื่อสำคัญกว่าฉันใช่ไหม ฉันเป็นภรรยาของคุณนะ เย่เหว่ยถิง คุณจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้!”เธอร้องไห้จนตาแดง อยากให้สามีเอาใจใส่เธอบ้างแค่หันมามองเธอสักครั้งก็สามารถสงบความโกรธและความกังวลของเธอได้เย่เหว่ยถิงเงียบและทำเหมือนเย่ซูเฟินคือคนแปลกหน้าอย่างเย็นชาเย่หนานโจวมองการอยู่ร่วมกันของพวกเขา เขาเห็นสิ่งนี้จนชินจึงไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆสำหรับเขา พวกเขาคือพ่อแม่ของตนเพียงในนามเท่านั้นการเติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ทำให้เขาชินมานานแล้วถึงขั้นทำให้เขารู้สึกไม่แยแสเย่เหว่ยถิงทนเย่ซูเฟินไม่ไหวแล้ว ดังนั้นจึงลุกขึ้นและพูดกับเย่หนานโจวว่า “ฉันจะลงไปแล้ว ถ้าเย่จื่อฟื้นค่อยบอกฉัน!”เย่หนานโจวลดสายตาลงด้วยสายตาเย็นชาและไม่ตอบอะไรเย่เหว่ยถิงเองก็ไม่ได้รอคำตอบจากเขา เขาไม่ได้คาดหวังอะไรกับเย่หนานโจว เขารู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 465

    เมื่อเห็นความเฉยเมยของเขา เย่ซูเฟินจึงพูดขึ้นว่า “หนานโจว!”เย่หนานโจวไม่ต้องการฟังเธออีกและเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เย็นชาเย่ซูเฟินต้องการพูดอะไรบางอย่างกับเย่หนานโจว แต่ลู่ม่านเซิงร้องไห้และถูกรังแก เธอจึงไปไหนไม่ได้ และทำได้เพียงเดินไปพยุงลู่ม่านเซิง “เซิงเซิงลุกขึ้นเถอะ หยุดร้องไห้ได้แล้ว”ลู่ม่านเซิงถูกพยุงขึ้น เธอซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเย่ซูเฟิน “คุณป้า หนูมันน่ารำคาญมากจนทุกคนไม่ชอบใช่ไหมคะ!”“ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ ฉันชอบเธอ ทุกคนต่างก็ชอบเธอ”เย่ซูเฟินตบหลังลู่ม่านเซิงเพื่อปลอบเธอลู่ม่านเซิงยังคงร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของเย่ซูเฟินเห็นแบบนี้ แม้ว่าเธอจะเป็นฝ่ายผิด แต่ก็ดูเหมือนเป็นผู้ถูกกระทำ ใครจะกล้าไปว่าอะไรเธอได้ ถ้าที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลและมีคนอยู่มากมาย เวินหนี่คงอยากจะฉีกหน้ากากของลู่ม่านเซิงออกเพื่อดูว่าเธอจะเสแสร้งได้สักแค่ไหน แน่นอน เธอรู้ดีว่าไม่ว่าลู่ม่านเซิงจะจริงหรือเท็จแค่ไหน เย่ซูเฟินก็จะยังคงปกป้องเธอความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอดูเหมือนไม่ชัดเจนเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังขึ้น “เย่จื่อเป็นยังไงบ้าง?”เวินหนี่เงยหน้าขึ้นมองและเห็นเย่เหว่ยถิงเดินเข้ามาเขาสวมชุดสูทแ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 464

    ขณะที่เย่ซูเฟินกำลังปกป้องลู่ม่านเซิง เวินหนี่ก็พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เย็นชาเมื่อเย่ซูเฟินเห็นเวินหนี่พูดแบบนั้น เธอจึงพูดขึ้นว่า “เวินหนี่ เซิงเซิงเป็นถึงขนาดนี้แล้ว อย่าอาศัยโอกาสนี้ซ้ำเติมเธออีก!”ปฏิกิริยาแรกของเธอคือปกป้องคนที่อ่อนแอไว้เวินหนี่เดินเข้าไป เห็นลู่ม่านเซิงร้องไห้หนักและดูอ่อนแอจนเกินบรรยาย “ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ พวกคุณมีใครกังวลเกี่ยวกับคุณอาบ้าง สิ่งที่คุณกังวลคือกลัวว่าลูกชายจะไม่เอา ส่วนลู่ม่านเซิงเธอกล้วว่าถูกกล่าวโทษเลยมาเสแสร้งทำเป็นน่าสงสารที่นี่ ฉันเห็นกับตาตัวเองว่าคุณผลักคุณอาลงมา และลู่ม่านเซิงก็น่าจะเป็นผู้ที่ยุยง!”คุณอาถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทำให้เวินหนี่ไม่ต้องการไว้หน้าพวกเธอ “อย่ามาพูดจาไร้สาระ!” เย่ซูเฟินตวาด “ฉันผลักเย่จื่อก็จริง แต่ฉันแค่ผลักเบา ๆ ทำไมเธอถึงไม่คิดบ้างล่ะว่าเย่จื่อจงใจล้มลงไปเอง”เวินหนี่มองไปที่เย่ซูเฟิน “แรงผลักของคุณมันไม่ได้เบา เราทุกคนต่างก็เห็น”เมื่อเย่ซูเฟินเห็นท่าทีของเวินหนี่ น้ำเสียงของเธอก็ดังมากยิ่งขึ้น “เวินหนี่ เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับฉันแบบนี้ ยังไงฉันก็ถือว่าเป็นผู้อาวุโส เป็นแม่สามีขอ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 463

    “ไม่ใช่นะ…” เย่ซูเฟินกล่าว “ลูกยังเป็นลูกชายของแม่ แม่เสียใจมากและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชดใช้ให้ลูก…”“ผมไม่ต้องการมันแล้ว” ดวงตาของเย่หนานโจวเย็นชา “การเรียกคุณว่าแม่มันคือความอดทนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม และคุณก็ควรจะพอใจได้แล้ว!”เย่ซูเฟินอดไม่ได้ที่จะถอยกลับไปสองสามก้าวและพูดขึ้นอย่างดุเดือด “ลูกจะทำกับแม่แบบนี้ไม่ได้นะ อย่าเป็นเหมือนพ่อของลูก ไม่อย่างนั้นแม่พาลูกกลับมามันจะมีความหมายอะไร!”เย่หนานโจวพูดอย่างเย็นชา “หากมีผม การเอาชนะใจสามีของคุณมันถึงจะมีความหมาย แต่น่าเสียดายที่ความพยายามทั้งหมดของคุณมันไร้ประโยชน์!”ทุกคำพูดเหมือนมีดที่ทิ่มแทงใจของเย่ซูเฟินในตอนนั้นการแต่งงานของเธอกับเย่เหว่ยถิงนั้นค่อนข้างน่าขัน เป็นเพียงเพราะเธอดื้อดึงที่จะแต่งงานกับเขาเย่เหว่ยถิงไม่ได้รักเธอเลย ตรงกันข้ามเขาเกลียดเธอเธอคิดว่าตราบใดที่เธอแต่งงานกับเขา เย่เหว่ยถิงก็จะเป็นของเธอเมื่อเรื่องราวมันเลยจุดที่จะเข้าไปแก้ไขได้ มีอะไรที่จะผ่านไปไม่ได้อีก?แต่เธอคิดง่ายเกินไป เย่เหว่ยถิงไม่กลับบ้านและปล่อยให้เธออยู่คนเดียวในห้องที่อ้างว่างเธอใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเอาชนะใจสามีแม้กระทั่ง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 462

    “หนานโจว”ในระหว่างที่โต้เถียงกับเย่จื่ออยู่นั้นเย่ซูเฟินก็สังเกตเห็นเขา และเธอก็ตกใจเล็กน้อยเวินหนี่เองก็มองไปและเห็นเย่หนานโจวยืนอยู่ข้างหลัง ดวงตาของเขาเย็นชาและดูเหมือนจะไม่แปลกใจกับสิ่งที่พวกเธอพูดกลับกัน เขากลับยอมรับความจริงนี้อย่างสงบนิ่งเย่จื่อตกใจเมื่อเห็นดวงตาของเย่หนานโจวในขณะนี้ สิ่งที่เธอเสียใจคือการที่เธอหุนหันพลันแล่นพูดออกไปว่าเขาไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเย่ซูเฟิน เพราะมันถือเป็นการโจมตีเขาเธอมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของเธอมองเพียงเย่หนานโจว “หนานโจว…”เย่หนานโจวไม่ได้พูดอะไรมากเขาเพียงแค่รู้ว่าพวกเธอมาที่สุสานและอาจจะเกิดเรื่องขึ้น เขาจึงเป็นกังวลและแวะเข้ามาดูหน่อยเท่านั้น เย่ซูเฟินโกรธมากขึ้น “เย่จื่อ เธอกำลังพูดอะไร เธอจะให้ฉันมีความสุขไม่ได้เลยใช่ไหม เธอมันสมควรตายจริง ๆ!”เธอผลักเย่จื่ออย่างแรงความสนใจของเย่จื่อมุ่งไปที่เย่หนานโจว ความโกรธของเธอลดลงมากและลดความเกรี้ยวกราดลง ในใจคิดแต่ว่ามันจะสร้างบาดแผลให้เขาหรือไม่เธอไม่ทันได้สังเกตเห็นการกระทำของเย่ซูเฟินและเธอก็ถูกผลักลงบันไดไปทันทีสติของเวินหนี่ยังไม่ทันกลับมาจากการที่เย่หนานโจวไม่ใช่ลูกแท้

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 461

    “ดังนั้นเธอจึงทำทุกอย่างเพื่อทำลายครอบครัวทีละครอบครัว! เธอไม่เคยคิดถึงความผิดของตัวเองเลย!”“ฉันไม่ผิด!” เย่ซูเฟินพูดอย่างเดือดดาล “ทั้งหมดเป็นเพราะพวกเธอบีบบังคับฉันเอง!”เมื่อเห็นว่าทุกคนอารมณ์ร้อน ลู่ม่านเซิงจึงเกลี้ยกล่อมจากด้านข้าง “คุณอา อย่าเถียงกับคุณป้าเลยค่ะ เธอแค่หุนหันพลันแล่นไปเท่านั้น ฉันไม่เป็นไรค่ะ และฉันก็ไม่ได้โทษคุณอาเลย คุณป้าพวกคุณต่างก็ถอยคนละก้าวเถอะนะคะ”“ไม่ใช่เรื่องของเธอ!” เย่จื่อมองไปที่ลู่ม่านเซิง และพูดขึ้นอย่างดุเดือด “ถ้าเธอไม่ได้โทษฉัน แล้วจะเล่าให้เย่ซูเฟินฟังทำไม เธออยากให้เย่ซูเฟินออกหน้าให้ไม่ใช่เหรอ? เสแสร้งแกล้งทำ ภายนอกดูใสซื่อ แต่ภายในคิดไม่ซื่อ ฉันล่ะเกลียดคนแบบเธอที่สุด!”เมื่อเห็นแบบนั้นเย่ซูเฟินก็ผลักเธอทันที “เธอกำลังดุใคร รู้ว่าเซิงเซิงสูญเสียการได้ยิน แต่ยังแอบพูดไม่ดีลับหลังเธอ เธอมันชั่วร้ายแค่ไหนกัน?!”“ถึงฉันจะชั่วร้ายแต่ก็ไม่ได้ขาดคุณธรรมเหมือนเธอ!” เย่จื่อก็ผลักกลับคืนไปเช่นกัน“เธอลงมือกับฉันงั้นเหรอ?”เย่ซูเฟินจ้องเธอด้วยความโกรธ “วันนี้มีเธอก็ไม่มีฉัน!”“ลองดูสิว่าฉันจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ ไหม!”เย่จื่อไม่พูดพล่ำทำเพลงเข้าไปต

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 460

    เย่จื่อไม่คาดคิดว่าเย่ซูเฟินจะโทรมาหาเธอ ซึ่งทำให้เธออารมณ์เดือดขึ้นทันที "ทำไม? หรือว่าเป็นลู่ม่านเซิงที่บอกอะไรกับเธอ ฉันจัดการเธอแล้วยังไงล่ะ!""ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?" เย่ซูเฟินพูดด้วยความโกรธ เพราะอยากจะจัดการกับเย่จื่อให้ได้"ฉันต้องบอกด้วยเหรอ? คิดว่าเธอเป็นใคร!" เย่จื่อไม่สนใจที่จะเคี้ยวเมล็ดแตงโมแล้ว ปัดมันออกไปพร้อมกับกำลังมองหาที่ระบายความโกรธเย่ซูเฟินหัวเราะเยาะ "กลัวสินะ กลัวฉันจะหาตัวเจอ ฉันรู้แล้วว่าโรงงานเสริมความงามของเธอโดนพังเสียหายหมด ตอนนี้ถึงกับต้องหลบซ่อนตัวเหมือนเต่าหดหัวแล้ว!""ฉันเนี่ยนะกลัว? ฉันเคยกลัวเธอสักครั้งไหม! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอแต่งงานกับเย่เว่ยถิง ฉันไม่เคยนับเธอเป็นคนของตระกูลเย่ด้วยซ้ำ!" เย่จื่อตอบกลับอย่างกระแทกกระทั้น"งั้นก็ออกมาสิ มาสู้กันต่อหน้า!" เย่ซูเฟินท้าทาย"ก็ได้ ออกมาก็ออกมา เย่ซูเฟิน ถ้าเธออยากจะตัดขาดกับฉันจริง ๆ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจแล้ว!" พูดจบ เย่จื่อก็ตัดสายทิ้งและหยิบกระเป๋าขึ้น เตรียมออกไปข้างนอกทันทีเมื่อเห็นเช่นนั้น เวินหนี่รีบพูดขึ้น "คุณอาคะ คุณอาจะไปไหนคะ หนูจะไปด้วย"เย่จื่อหันมามองเวินหนี่ "เธอไม่ต้องไป เย่ซูเฟิ

DMCA.com Protection Status