Share

บทที่ 100

Author: เซียงปู้อี๋
last update Last Updated: 2024-10-29 19:42:56
เวินหนี่อึ้งไปเล็กน้อย

เย่หนานโจวควรจะอยากตามหาผู้หญิงคนนั้นมากกว่าไม่ใช่หรือ?

หรือเขากำลังลองใจเธอ

เวินหนี่ไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ต้องพูดตามความคิดของเขา “เรื่องที่คุณเย่สั่งให้ฉันช่วย ฉันต้องทำให้ดี ไม่ใช่แค่เรื่องนี้ แต่เป็นทุกเรื่องค่ะ”

การตอบแบบนี้ไม่น่าจะมากเกินไปใช่ไหม

ในฐานะเลขาของเขา เธอต้องทำตามคำสั่งของเขาในเรื่องงานอยู่แล้ว

คำตอบนี้แสดงถึงความจงรักภักดีของเธอ

ใบหน้าสวยไม่แสดงความเศร้าเลยแม้แต่น้อย แถมยังเต็มใจช่วยเขาหาผู้หญิงที่เคยนอนกับเขาอีก

ไม่ว่าจะในฐานะภรรยาหรือเลขา เธอก็มีความเข้าใจและเอาใจใส่เป็นพิเศษ

เย่หนานโจวหันหน้ากลับมามองข้างหน้าด้วยสีหน้าเย็นชา และพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “เลขาเวินเป็นเลขาที่ดีมาก ถ้าไม่มีเธอฉันคงแย่”

เดิมทีเวินหนี่รู้สึกตึงเครียด แต่เมื่อได้ยินคำชมจากเขาก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้น และตอบกลับอย่างเป็นทางการ

“เป็นหน้าที่ของฉันค่ะ ฉันจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดต่อไป”

เผยชิงที่ฟังบทสนทนาของพวกเขา รู้สึกว่ามันแปลกมาก คนที่ไม่รู้คงคิดว่าเป็นการรายงานงานของลูกน้อง

แต่คนที่รู้ก็คงคิดว่าพวกเขาคุยกันไม่ตรงประเด็น

เผยชิงเข้าใจความหมายของเย่หนานโจว
Locked Chapter
Continue to read this book on the APP
Comments (7)
goodnovel comment avatar
แมงปอ ปีกบาง
เอ้อเอ้ยยยยนึกว่าจะจบ
goodnovel comment avatar
คนอารมณ์ดี หนี ซึนามิ
เป็นแบบนี้ก็ควรจะเลิกสนใจเอาเปรียบผู้บริโภค
goodnovel comment avatar
คนอารมณ์ดี หนี ซึนามิ
น่าเบื่อที่สุดเหมือนหลอกให้อ่านแล้วทิ้ง
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 101

    “ก็จริง เวินหนี่สวยขนาดนี้คงมีคนตามจีบเธอมากมายและเธอก็คงจะมีมาตรฐานสูงเป็นธรรมดาผู้อำนวยการหวังมองไปที่ลู่เซินอีกครั้ง “แต่ลู่เซินเองก็ไม่ได้แย่ เขาประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังหนุ่ม แถมยังนิสัยดีและมีอนาคตที่สดใสอีกต่างหาก!”เมื่อได้ฟังคำชมเชยของเขา ใบหน้าของเย่หนานโจวก็มืดมนลง เห็นได้ชัดว่าผู้อำนวยการหวังพึงพอใจลู่เซินเป็นอย่างมากและยังพยายามจับคู่ให้พวกเขาอย่างตั้งใจลู่เซินมองไปที่เย่หนานโจว ก่อนจะพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ครูหวัง ชมผมมากเกินไปแล้วครับ แต่อย่างไรก็ตาม เวินหนี่เป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดในโลกนี้ และเธอก็สมควรได้รับความรักและการดูแลเอาใจใส่”เวินหนี่ดูระมัดระวัง แต่เธอรู้สึกประทับใจกับคำพูดของลู่เซินเขาบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดในโลกและสมควรได้รับความรักและการดูแลเอาใจใส่ไม่มีผู้หญิงคนไหนสามารถปฏิเสธความอ่อนโยนเช่นนี้ได้เย่หนานโจวเห็นว่าเวินหนี่กำลังมองไปที่ลู่เซิน บางทีเธออาจรู้สึกประทับใจเขาขึ้นมา ซึ่งนั่นทำให้เย่หนานโจวรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก เขาอดไม่ได้ที่จะดึงเนคไทและพูดอย่างเย็นชา “การกระทำสำคัญกว่าคำพูด ตอนที่เวินหนี่ลำบากก็ไม่เห็นว่าจะได้รับความช่วยเหลื

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 102

    ผู้อำนวยการหวังมีลูกสาวที่เป็นแก้วตาดวงใจเพียงคนเดียว ดังนั้นเขาจึงตามใจเธอมาก เพียงแต่ทำเป็นดุเธอเล็กน้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าแขก แต่หากอยู่ที่บ้านทุกอย่างล้วนคล้อยตามเธอเขาไม่ค่อยได้พาหวังอินออกมาด้วย เว้นเสียแต่เธอจะมีความสนใจอยากมาเองและเขาก็ไม่เคยพาเธอไปพบเย่หนานโจวเขากังวลว่าลูกสาวของเขาจะไม่สามารถควบคุมคนที่เอาแต่ใจอย่างเย่หนานโจวได้ก่อนหน้านี้ เขามีความคิดที่จะแนะนำหวังอินให้กับลู่เซินลู่เซินเป็นคนดี หากลูกสาวของเขาได้แต่งงานกับลู่เซินจะไม่เสียเปรียบอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลง ลู่เซินชอบเวินหนี่ ซึ่งทุกคนสามารถสัมผัสได้หวังอินสนใจเย่หนานโจวมากกว่า ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงตามใจเธอ ดูว่ามันจะเป็นไปได้หรือไม่นอกจากพวกเขาแล้ว ผู้อำนวยการหวังยังเชิญเพื่อนบางคนมาด้วยทั้งหมดล้วนแล้วแต่เป็นคนรุ่นลุง ส่วนใหญ่เฝ้าดูหวังอินเติบโตมา จึงรักและเอ็นดูเธอมากเป็นพิเศษ เมื่อมาถึงก็ถามสารทุกข์สุกดิบเกี่ยวกับเธอ หวังอินเองก็ทักทายอย่างใจกว้าง หลังจากที่ทุกคนมาครบแล้ว หวังอินก็มองไปที่เย่หนานโจวแล้วถามว่า “ประธานเย่แพ้อาหารอะไรบ้างไหมคะ? หรือว่ามีอะไรที่ชอบกินเป็นพิเศษหร

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 103

    ตอนมัธยมต้นเขาเป็นเพียงเด็กอ้วน จะมีความกล้ายืนเคียงข้างเธอได้อย่างไรเขาจึงทำได้เพียงเแอบมองเธออย่างเงียบ ๆ“ตอนนี้ฉันเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดของตัวเองแล้ว”เวินหนี่ไม่คาดคิดว่าเขาจะมีความรู้สึกเช่นนี้กับเธอ และเธอก็เคยสังเกตเห็นจริง ๆลู่เซินมองไปที่เธอยิ้ม ๆ ด้วยความรักใคร่ “เวินหนี่ ตอนที่อยู่ประเทศเอ็ม ฉันเคยกลับมาแล้วครั้งหนึ่ง นั่นก็คือหลังจากที่ฉันรู้ว่าเธอได้รับบาดเจ็บ ตอนที่ฉันกลับมา เธอก็เข้าโรงเรียนมัธยมปลายแล้ว ฉันเพียงแค่กล้ามองเธอจากทางด้านหลังเท่านั้น ฉันดีใจมากที่เห็นเธอไม่เป็นอะไร และตอนนั้นฉันก็ตั้งใจแล้วจะทำให้เธอมีความสุขเมื่อฉันกลับมา”เวินหนี่ทำอะไรไม่ถูก เธอสามารถเข้าใจเขาได้นี่ก็เป็นเวลาสิบกว่าปีแล้วตั้งแต่สมัยมัธยมต้นจนถึงตอนนี้และลู่เซินชอบเธอมานานกว่าที่เธอชอบเย่หนานโจว เธอถามขึ้นว่า “หลายปีมานี้นายไม่เคยชอบคนอื่นเลยเหรอ?”ลู่เซินตอบด้วยน้ำเสียงหยอกล้อ “บางทีอาจเป็นเพราะตระกูลลู่ของเรารักเดียวใจเดียว”“แต่เวินหนี่เธอไม่ต้องกังวลไป ที่ฉันชอบเธอ ฉันไม่เคยต้องการกดดันเธอเลย เธอจะคิดกับฉันแค่เพื่อนก็ได้ แค่นั้นฉันก็ดีใจแล้วที่มีเพื่อนแบบเธอ”เวินห

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 104

    ในขณะนี้เวินหนี่เหมือนถูกฟ้าผ่า ใบหน้าของเธอซีด ร่างกายของเธอแข็งทื่อ และไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เธออยากจะหนีออกไปจากสถานที่นี้ แต่เท้าของเธอรู้สึกเหมือนถูกตอกด้วยตะปู ไม่อาจละสายตาไปจากพวกเขาได้เลยไม่คิดเลยว่าแค่เธอมาเข้าห้องน้ำ พวกเขาจะพัฒนามาถึงจุดที่จูบกันได้แบบนี้แล้วเพียงแต่ในวินาทีต่อมา เย่หนานโจวก็ดึงมือของหวังอินออก ดวงตาของเขาบังเอิญสบกับเวินหนี่ เขาตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของพวกเขาสบกันในอากาศ เต็มไปด้วยความสงสัยและความเสียใจเย่หนานโจวไม่มีเวลาอธิบายอะไร ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงรักษาระยะห่างจากหวังอินและพูดอย่างเย็นชา “คุณหวัง กรุณาให้เกียรติตัวเองด้วย”หวังอินไล่ตามเขาออกมา เมื่อเห็นเย่หนานโจวยืนอยู่คนเดียว จึงอยากจะใกล้ชิดกับเขาให้มากขึ้นเธอคิดว่าไม่มีผู้ชายคนไหนสามารถปฏิเสธผู้หญิงสวยได้ และยังไม่เคยมีใครปฏิเสธเธอมาก่อนด้วยตราบใดที่เธอริเริ่ม เธอก็สามารถคว้าเย่หนานโจวได้แม้ว่าจะเป็นเพียงความสัมพันธ์แบบคืนเดียว แต่เธอก็รู้สึกว่าคุ้มค่าแล้วไม่คิดเลยว่าเขาจะดึงตัวเธอออกบางทีนี่อาจเป็นวิธีกระตุ้นความต้องการ หวังอินไม่ได้คิดอะไรมาก แต่กลับยิ้มมุมปากแล้วม

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 105

    ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาไม่สามารถพัฒนาไปได้มากกว่านี้เธอจัดการอารมณ์ทั้งหมดก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วยิ้ม จากนั้นก็มองไปที่หวังอินที่ยืนอยู่ด้านหลัง “ประธานเย่ ในฐานะเลขาของคุณ ฉันจะไม่มองสิ่งที่ไม่ควรมอง และจะไม่ฟังสิ่งที่ฉันไม่ควรฟัง สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างพวกคุณที่นี่ฉันจะเก็บเป็นความลับ ไม่พูดออกไปอย่างแน่นอนค่ะ”หวังอินเข้าใจอะไรบางสิ่งบางในทันที และเดินเข้าไปก่อนจะพูดว่า “ประธานเย่ เป็นเพราะมีคนอื่นอยู่ คุณเลยกังวลใช่ไหมคะ หากเป็นเช่นนั้น คน ๆ นี้คือเลขาของคุณ เธอต้องเข้มงวดกับคำพูดของตัวเองอย่างแน่นอน ฉันรู้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมาที่คุณเย่ไม่มีเรื่องอื้อฉาวและไม่เคยเปิดเผยเรื่องแฟนสาว ฉันไม่จำเป็นต้องมีสถานะก็ได้ เรามาแอบคบกัน ตกลงไหมคะ?”เธอหลงรักเย่หนานโจวอยากอยู่ใกล้เขาและพิชิตใจเขาหากเขาสนใจเธอ เธอก็สามารถเป็นคนรักลับ ๆ ของเขาได้แบบนี้เขาคงไม่สามารถปฏิเสธได้แน่ ความห่างเหินและความเฉยเมยของเวินหนี่ทำให้เย่หนานโจวไม่พอใจมากพออยู่แล้ว ยังมีหวังอินที่มาพูดจาไร้สาระอยู่ข้างหูของเขาอีก มันยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดมากยิ่งขึ้น สายตาเย็นชาของเขาเบี่ยงจากเวินหนี่ไปยังหวังอินเดิ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 106

    “ขอโทษค่ะคุณเย่ วันนี้เป็นความผิดของฉันเอง ฉันไม่ได้เข้าไปห้ามไว้ทันเวลาจนทำให้คุณเย่ไม่พอใจ ฉันจะหลีกเลี่ยงไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคตค่ะ” เวินหนี่ยอมรับความผิดพลาดของตัวเองอย่างรวดเร็วด้วยความกลัวว่าเขาจะโกรธและทะเลาะกันใหญ่โตเธอยอมรับความผิดพลาดอย่างรวดเร็วและไม่ได้โต้เถียงเขา เย่หนานโจวจึงพูดขึ้นอีกครั้ง “เธอรู้สึกตัวเร็วดีนี่ งั้นฉันขอถามเธอหน่อย ที่เธอทำแบบนั้นเป็นเพราะเรื่องงานหรือเรื่องส่วนตัว”การกระทำของเธอก่อนนี้เป็นเพราะเรื่องส่วนตัวเธอรู้สึกโศกเศร้า แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป เวินหนี่กล่าวขึ้น “แน่นอนว่าเป็นเพราะเรื่องงานค่ะ ตราบใดที่ฉันเป็นเลขาของประธานเย่ ฉันก็จะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง คุณเย่ คุณหักเงินเดือนของฉันได้เลยค่ะ ฉันไม่มีข้อโต้แย้ง”“...”เย่หนานโจวพูดไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่ง และเขาก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่ก็หาความผิดของเธอไม่ได้และเขาก็ขี้เกียจเกินกว่าจะสาวความยาวเย่หนานโจวเม้มริมฝีปาก ใบหน้าของเขามืดมนลง เขาปล่อยเธอและห่างเหินราวกับว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยพูดคุยกับเธอเวินหนี่รู้สึกโล่งใจและคิดว่าตัวเองผ่านการทดสอบแล้ว แต่เธอกลับเห็นว

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 107

    เธอลืมตาขึ้น เห็นเผยชิงเปิดประตูรถและเขย่าตัวเธอ เธอลุกขึ้นนั่งแล้วถามขึ้นว่า “มีอะไร?”“วันนี้ประธานเย่ดื่มหนักมาก แถมยังปลุกไม่ตื่นด้วยครับ” เผยชิงกล่าวเวินหนี่รีบมองไปและเห็นว่าเย่หนานโจวกำลังนอนหลับพิงพนักเก้าอี้ในตำแหน่งเดิม เขาหายใจอย่างมั่นคงและไม่มีทีท่าว่าจะตื่นเลย บางทีเขาอาจจะดื่มมากเกินไปจนเหนื่อยและหลับไปแล้วแต่เขาไม่ค่อยเป็นแบบนี้ในความทรงจำของเธอ เขาไม่เคยเมาจนหลับลึกแบบนี้มาก่อน เมื่อเห็นว่ามาถึงประตูบ้านแล้ว เธอจึงพูดขึ้นว่า “ฉันจะเรียกให้คนมาพยุงเขาเข้าไป”“เผยชิง นี่ก็ดึกมากแล้ว คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ” ทันใดนั้นเวินหนี่ก็ได้สติเผยชิงพยักหน้า “ครับ ฝากดูแลประธานเย่ด้วยนะครับ”เวินหนี่ลงจากรถแล้วรีบเข้าไปเรียกคนรับใช้ในบ้านให้ออกมาช่วยพยุงเย่หนานโจวเข้าไปหลังจากพยุงเขามาถึงห้องนอน เย่หนานโจวก็ถูกวางลงบนเตียง เวินหนี่รู้สึกหมดแรงเธอมองดูชายที่หมดสติอยู่บนเตียง ก่อนจะช่วยเขาถอดรองเท้า ถอดเสื้อสูทออกแล้วแขวนไว้บนไม้แขวนเสื้อเธอได้กลิ่นแอลกอฮอล์รุนแรงจากบนตัวเขาดูเหมือนว่าจะดื่มไปเยอะจริง ๆ ทันใดนั้น เย่หนานโจวก็พลิกตัวและจับเวินหนี่ไว้ในอ้อมแขนโดยไม

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 108

    เวินหนี่รีบเช็ดน้ำตาบนใบหน้า ทำตัวเองให้ดูปกติ จากนั้นก็มองไปที่เขา “วันนี้คุณดื่มไปไม่น้อย รีบนอนลงแล้วพักผ่อนเถอะค่ะ”เย่หนานโจวมองไม่ผิด เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วถามอีกขึ้นครั้ง “เมื่อกี้เธอร้องไห้เหรอ?”เวินหนี่ก้มศีรษะลงโดยไม่รู้ตัว “ฝุ่นเข้าตาน่ะค่ะ”เย่หนานโจวถามต่อ “ร้องไห้ทำไม?”เขาไม่ค่อยเห็นเธอหลั่งน้ำตา หากเธอร้องไห้แสดงว่าเธอจะต้องเสียใจมากดวงตาของเวินหนี่จับจ้องไปที่เขา เธอลังเลก่อนที่จะถามขึ้นว่า “เมื่อกี้ฉันเช็ดตัวให้คุณ และเห็นบาดแผลมากมายบนร่างกายของคุณ”“ฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าคุณเคยได้รับบาดเจ็บมามากมายขนาดนี้”มือของเย่หนานโจวหยุดลง ที่แท้เธอก็ร้องไห้เพราะเขา เขาถามขึ้นอีกว่า “เธอสงสารฉันงั้นเหรอ?”คำพูดของเขาทำให้เวินหนี่ใจหวิวและเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง เธอตื่นตระหนกราวกับว่าความลับที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ในใจของเธอกำลังจะถูกค้นพบ “นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นคนมีบาดแผลมากมายขนาดนี้ ตอนนั้นคงจะเจ็บไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ”เธอเป็นคนที่ต้องการการเตรียมใจล่วงหน้า แม้ว่าจะถูกแทงด้วยเข็มก็ตามยิ่งไม่ต้องพูดถึงการถูกยิงทันใดนั้นดวงตาของเย่หนานโจวก็อ่อนโยนขึ้น ไม่ได้มีความเฉยเมยแล

Latest chapter

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 468

    “ไม่ใช่ค่ะ” เวินหนี่ตอบสีหน้าของเย่หนานโจวเปลี่ยนไปและเขาก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “ใกล้จะเป็นอดีตภรรยาแล้วครับ!”คุณหมอถึงกับตกตะลึงเมื่อได้ยินคำตอบ เขาจึงรีบตอบไปว่า “ผู้ป่วยมีอาการกระทบกระเทือนเล็กน้อยและกระดูกมือร้าว เธอจะหายดีหลังจากพักผ่อนสักระยะหนึ่ง พวกคุณไม่ต้องกังวลมากเกินไป”นี่เป็นเรื่องที่ดี เวินหนี่ตอบไปทันที “ขอบคุณมากค่ะคุณหมอ”“ด้วยความยินดีครับ”ทั้งสองตามเย่จื่อเข้าไปในวอร์ดเวินหนี่เห็นว่าริมฝีปากของเย่จื่อดูแห้งผาก ดังนั้นจึงรีบหาน้ำอุ่นมา และชุบด้วยสำลีก่อนจะเช็ดให้ชุ่มชื้นเย่หนานโจวเฝ้าดูจากด้านข้างในวอร์ดมีคนไม่มากนัก เพื่อป้องกันไม่ให้รบกวนการพักผ่อนของผู้ป่วยเวินหนี่ไม่วางใจ ดังนั้นเธอจึงนั่งลงตรงข้ามเขาอีกครั้ง โดยมุ่งเน้นไปที่การเฝ้าเย่จื่อหลังจากที่เฝ้าได้สักพัก เธอก็รู้สึกง่วงจนเปลือกตาสั่น จากนั้นเธอก็เผลอฟุบหลับไปเมื่อเวินหนี่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพราะความตกใจ เธอฝันว่ามันมืดสนิทและอยู่ในพื้นที่แคบ ๆกลัวอะไรก็ได้อย่างนั้น แม้แต่ในความฝันก็ยังไม่ปล่อยเธอไป เธอมักจะฝันแบบนี้ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลยเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่ามีเสื้อคลุม

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 467

    หรือว่าเขาจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว?เธอเคยได้ยินเย่จื่อพูดอยู่หลายครั้ง แต่เธอก็ยังไม่ได้คิดถึงเหตุผลบางทีเย่หนานโจวอาจรู้มานานแล้ว จึงเข้าใจโดยปริยาย“เวินหนี่”ลู่เซินเข้ามาหาเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “พักสักหน่อยไหม เดี๋ยวร่างกายจะทนไม่ไหวเอานะ”เวินหนี่ยืนนานแล้วและรู้สึกปวดหลัง แต่เธออยากรอให้เย่จื่อออกมา จึงนั่งลงข้าง ๆ “ฉันอยากรอจนกว่าคุณอาจะฟื้น”“ผมจะรอเป็นเพื่อนคุณเอง” ลู่เซินพูดขึ้นอีกครั้งเวินหนี่พยักหน้าไปทางเขาร่างสูงของเย่หนานโจวเอนตัวไปที่กรอบประตูและเหลือบมองความกังวลของลู่เซินที่มีต่อเวินหนี่ ดวงตานั้นแทบจะมีน้ำล้นออกมาได้ และเวินหนี่ก็ดูเหมือนพร้อมยอมรับน้ำใจของเขาคลื่นแห่งความกระสับกระส่ายโจมตีร่างกายของเย่หนานโจวอีกครั้งดวงตาของเขาเย็นขึ้นและจงใจเตะเก้าอี้ข้าง ๆ ให้มีเสียงนั่นคือเก้าอี้ที่ลู่เซินนั่งอยู่ เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมอง เย่หนานโจวก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “โทษที บังเอิญเตะโดนเข้าน่ะ!”“ไม่เป็นไร” ลู่เซินไม่ได้ติดใจอะไรเย่หนานโจวกลับพูดขึ้นอีกว่า “ตรงนี้คือพื้นที่รอสำหรับญาติ ไม่ทราบว่าคุณลู่มาที่นี่ทำไมกัน ที่บริษัทของคุณไม่ยุ่งเหรอครับ?”

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 466

    เขาไม่ได้โต้เถียงกับเธอ และเพิกเฉยต่อเสียงร้องไห้ของเธอสำหรับเขา น้ำตาของเย่ซูเฟินนั้นไร้ค่าเย่ซูเฟินในฐานะผู้หญิง เมื่อเห็นความเฉยชาของสามี มันก็ค่อย ๆ ทำลายแนวป้องกันในใจของเธอทีละน้อยและโวยวายขึ้นอย่างอารมณ์ร้อน “พูดมาสิ ทำไมถึงไม่พูดล่ะ ในสายตาของคุณ เย่จื่อสำคัญกว่าฉันใช่ไหม ฉันเป็นภรรยาของคุณนะ เย่เหว่ยถิง คุณจะทำแบบนี้กับฉันไม่ได้!”เธอร้องไห้จนตาแดง อยากให้สามีเอาใจใส่เธอบ้างแค่หันมามองเธอสักครั้งก็สามารถสงบความโกรธและความกังวลของเธอได้เย่เหว่ยถิงเงียบและทำเหมือนเย่ซูเฟินคือคนแปลกหน้าอย่างเย็นชาเย่หนานโจวมองการอยู่ร่วมกันของพวกเขา เขาเห็นสิ่งนี้จนชินจึงไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆสำหรับเขา พวกเขาคือพ่อแม่ของตนเพียงในนามเท่านั้นการเติบโตมาในสภาพแวดล้อมแบบนี้ ทำให้เขาชินมานานแล้วถึงขั้นทำให้เขารู้สึกไม่แยแสเย่เหว่ยถิงทนเย่ซูเฟินไม่ไหวแล้ว ดังนั้นจึงลุกขึ้นและพูดกับเย่หนานโจวว่า “ฉันจะลงไปแล้ว ถ้าเย่จื่อฟื้นค่อยบอกฉัน!”เย่หนานโจวลดสายตาลงด้วยสายตาเย็นชาและไม่ตอบอะไรเย่เหว่ยถิงเองก็ไม่ได้รอคำตอบจากเขา เขาไม่ได้คาดหวังอะไรกับเย่หนานโจว เขารู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่าง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 465

    เมื่อเห็นความเฉยเมยของเขา เย่ซูเฟินจึงพูดขึ้นว่า “หนานโจว!”เย่หนานโจวไม่ต้องการฟังเธออีกและเดินจากไปด้วยใบหน้าที่เย็นชาเย่ซูเฟินต้องการพูดอะไรบางอย่างกับเย่หนานโจว แต่ลู่ม่านเซิงร้องไห้และถูกรังแก เธอจึงไปไหนไม่ได้ และทำได้เพียงเดินไปพยุงลู่ม่านเซิง “เซิงเซิงลุกขึ้นเถอะ หยุดร้องไห้ได้แล้ว”ลู่ม่านเซิงถูกพยุงขึ้น เธอซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของเย่ซูเฟิน “คุณป้า หนูมันน่ารำคาญมากจนทุกคนไม่ชอบใช่ไหมคะ!”“ไม่ใช่นะ ไม่ใช่ ฉันชอบเธอ ทุกคนต่างก็ชอบเธอ”เย่ซูเฟินตบหลังลู่ม่านเซิงเพื่อปลอบเธอลู่ม่านเซิงยังคงร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนของเย่ซูเฟินเห็นแบบนี้ แม้ว่าเธอจะเป็นฝ่ายผิด แต่ก็ดูเหมือนเป็นผู้ถูกกระทำ ใครจะกล้าไปว่าอะไรเธอได้ ถ้าที่นี่ไม่ใช่โรงพยาบาลและมีคนอยู่มากมาย เวินหนี่คงอยากจะฉีกหน้ากากของลู่ม่านเซิงออกเพื่อดูว่าเธอจะเสแสร้งได้สักแค่ไหน แน่นอน เธอรู้ดีว่าไม่ว่าลู่ม่านเซิงจะจริงหรือเท็จแค่ไหน เย่ซูเฟินก็จะยังคงปกป้องเธอความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอดูเหมือนไม่ชัดเจนเสียงฝีเท้าเร่งรีบดังขึ้น “เย่จื่อเป็นยังไงบ้าง?”เวินหนี่เงยหน้าขึ้นมองและเห็นเย่เหว่ยถิงเดินเข้ามาเขาสวมชุดสูทแ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 464

    ขณะที่เย่ซูเฟินกำลังปกป้องลู่ม่านเซิง เวินหนี่ก็พูดขึ้นด้วยใบหน้าที่เย็นชาเมื่อเย่ซูเฟินเห็นเวินหนี่พูดแบบนั้น เธอจึงพูดขึ้นว่า “เวินหนี่ เซิงเซิงเป็นถึงขนาดนี้แล้ว อย่าอาศัยโอกาสนี้ซ้ำเติมเธออีก!”ปฏิกิริยาแรกของเธอคือปกป้องคนที่อ่อนแอไว้เวินหนี่เดินเข้าไป เห็นลู่ม่านเซิงร้องไห้หนักและดูอ่อนแอจนเกินบรรยาย “ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ พวกคุณมีใครกังวลเกี่ยวกับคุณอาบ้าง สิ่งที่คุณกังวลคือกลัวว่าลูกชายจะไม่เอา ส่วนลู่ม่านเซิงเธอกล้วว่าถูกกล่าวโทษเลยมาเสแสร้งทำเป็นน่าสงสารที่นี่ ฉันเห็นกับตาตัวเองว่าคุณผลักคุณอาลงมา และลู่ม่านเซิงก็น่าจะเป็นผู้ที่ยุยง!”คุณอาถูกส่งตัวเข้าห้องผ่าตัดด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส ซึ่งทำให้เวินหนี่ไม่ต้องการไว้หน้าพวกเธอ “อย่ามาพูดจาไร้สาระ!” เย่ซูเฟินตวาด “ฉันผลักเย่จื่อก็จริง แต่ฉันแค่ผลักเบา ๆ ทำไมเธอถึงไม่คิดบ้างล่ะว่าเย่จื่อจงใจล้มลงไปเอง”เวินหนี่มองไปที่เย่ซูเฟิน “แรงผลักของคุณมันไม่ได้เบา เราทุกคนต่างก็เห็น”เมื่อเย่ซูเฟินเห็นท่าทีของเวินหนี่ น้ำเสียงของเธอก็ดังมากยิ่งขึ้น “เวินหนี่ เธอมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับฉันแบบนี้ ยังไงฉันก็ถือว่าเป็นผู้อาวุโส เป็นแม่สามีขอ

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 463

    “ไม่ใช่นะ…” เย่ซูเฟินกล่าว “ลูกยังเป็นลูกชายของแม่ แม่เสียใจมากและพยายามอย่างเต็มที่เพื่อชดใช้ให้ลูก…”“ผมไม่ต้องการมันแล้ว” ดวงตาของเย่หนานโจวเย็นชา “การเรียกคุณว่าแม่มันคือความอดทนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม และคุณก็ควรจะพอใจได้แล้ว!”เย่ซูเฟินอดไม่ได้ที่จะถอยกลับไปสองสามก้าวและพูดขึ้นอย่างดุเดือด “ลูกจะทำกับแม่แบบนี้ไม่ได้นะ อย่าเป็นเหมือนพ่อของลูก ไม่อย่างนั้นแม่พาลูกกลับมามันจะมีความหมายอะไร!”เย่หนานโจวพูดอย่างเย็นชา “หากมีผม การเอาชนะใจสามีของคุณมันถึงจะมีความหมาย แต่น่าเสียดายที่ความพยายามทั้งหมดของคุณมันไร้ประโยชน์!”ทุกคำพูดเหมือนมีดที่ทิ่มแทงใจของเย่ซูเฟินในตอนนั้นการแต่งงานของเธอกับเย่เหว่ยถิงนั้นค่อนข้างน่าขัน เป็นเพียงเพราะเธอดื้อดึงที่จะแต่งงานกับเขาเย่เหว่ยถิงไม่ได้รักเธอเลย ตรงกันข้ามเขาเกลียดเธอเธอคิดว่าตราบใดที่เธอแต่งงานกับเขา เย่เหว่ยถิงก็จะเป็นของเธอเมื่อเรื่องราวมันเลยจุดที่จะเข้าไปแก้ไขได้ มีอะไรที่จะผ่านไปไม่ได้อีก?แต่เธอคิดง่ายเกินไป เย่เหว่ยถิงไม่กลับบ้านและปล่อยให้เธออยู่คนเดียวในห้องที่อ้างว่างเธอใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อเอาชนะใจสามีแม้กระทั่ง

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 462

    “หนานโจว”ในระหว่างที่โต้เถียงกับเย่จื่ออยู่นั้นเย่ซูเฟินก็สังเกตเห็นเขา และเธอก็ตกใจเล็กน้อยเวินหนี่เองก็มองไปและเห็นเย่หนานโจวยืนอยู่ข้างหลัง ดวงตาของเขาเย็นชาและดูเหมือนจะไม่แปลกใจกับสิ่งที่พวกเธอพูดกลับกัน เขากลับยอมรับความจริงนี้อย่างสงบนิ่งเย่จื่อตกใจเมื่อเห็นดวงตาของเย่หนานโจวในขณะนี้ สิ่งที่เธอเสียใจคือการที่เธอหุนหันพลันแล่นพูดออกไปว่าเขาไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเย่ซูเฟิน เพราะมันถือเป็นการโจมตีเขาเธอมึนงงอยู่ครู่หนึ่ง สายตาของเธอมองเพียงเย่หนานโจว “หนานโจว…”เย่หนานโจวไม่ได้พูดอะไรมากเขาเพียงแค่รู้ว่าพวกเธอมาที่สุสานและอาจจะเกิดเรื่องขึ้น เขาจึงเป็นกังวลและแวะเข้ามาดูหน่อยเท่านั้น เย่ซูเฟินโกรธมากขึ้น “เย่จื่อ เธอกำลังพูดอะไร เธอจะให้ฉันมีความสุขไม่ได้เลยใช่ไหม เธอมันสมควรตายจริง ๆ!”เธอผลักเย่จื่ออย่างแรงความสนใจของเย่จื่อมุ่งไปที่เย่หนานโจว ความโกรธของเธอลดลงมากและลดความเกรี้ยวกราดลง ในใจคิดแต่ว่ามันจะสร้างบาดแผลให้เขาหรือไม่เธอไม่ทันได้สังเกตเห็นการกระทำของเย่ซูเฟินและเธอก็ถูกผลักลงบันไดไปทันทีสติของเวินหนี่ยังไม่ทันกลับมาจากการที่เย่หนานโจวไม่ใช่ลูกแท้

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 461

    “ดังนั้นเธอจึงทำทุกอย่างเพื่อทำลายครอบครัวทีละครอบครัว! เธอไม่เคยคิดถึงความผิดของตัวเองเลย!”“ฉันไม่ผิด!” เย่ซูเฟินพูดอย่างเดือดดาล “ทั้งหมดเป็นเพราะพวกเธอบีบบังคับฉันเอง!”เมื่อเห็นว่าทุกคนอารมณ์ร้อน ลู่ม่านเซิงจึงเกลี้ยกล่อมจากด้านข้าง “คุณอา อย่าเถียงกับคุณป้าเลยค่ะ เธอแค่หุนหันพลันแล่นไปเท่านั้น ฉันไม่เป็นไรค่ะ และฉันก็ไม่ได้โทษคุณอาเลย คุณป้าพวกคุณต่างก็ถอยคนละก้าวเถอะนะคะ”“ไม่ใช่เรื่องของเธอ!” เย่จื่อมองไปที่ลู่ม่านเซิง และพูดขึ้นอย่างดุเดือด “ถ้าเธอไม่ได้โทษฉัน แล้วจะเล่าให้เย่ซูเฟินฟังทำไม เธออยากให้เย่ซูเฟินออกหน้าให้ไม่ใช่เหรอ? เสแสร้งแกล้งทำ ภายนอกดูใสซื่อ แต่ภายในคิดไม่ซื่อ ฉันล่ะเกลียดคนแบบเธอที่สุด!”เมื่อเห็นแบบนั้นเย่ซูเฟินก็ผลักเธอทันที “เธอกำลังดุใคร รู้ว่าเซิงเซิงสูญเสียการได้ยิน แต่ยังแอบพูดไม่ดีลับหลังเธอ เธอมันชั่วร้ายแค่ไหนกัน?!”“ถึงฉันจะชั่วร้ายแต่ก็ไม่ได้ขาดคุณธรรมเหมือนเธอ!” เย่จื่อก็ผลักกลับคืนไปเช่นกัน“เธอลงมือกับฉันงั้นเหรอ?”เย่ซูเฟินจ้องเธอด้วยความโกรธ “วันนี้มีเธอก็ไม่มีฉัน!”“ลองดูสิว่าฉันจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ ไหม!”เย่จื่อไม่พูดพล่ำทำเพลงเข้าไปต

  • บทพิสูจน์รักฉบับท่านประธาน   บทที่ 460

    เย่จื่อไม่คาดคิดว่าเย่ซูเฟินจะโทรมาหาเธอ ซึ่งทำให้เธออารมณ์เดือดขึ้นทันที "ทำไม? หรือว่าเป็นลู่ม่านเซิงที่บอกอะไรกับเธอ ฉันจัดการเธอแล้วยังไงล่ะ!""ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?" เย่ซูเฟินพูดด้วยความโกรธ เพราะอยากจะจัดการกับเย่จื่อให้ได้"ฉันต้องบอกด้วยเหรอ? คิดว่าเธอเป็นใคร!" เย่จื่อไม่สนใจที่จะเคี้ยวเมล็ดแตงโมแล้ว ปัดมันออกไปพร้อมกับกำลังมองหาที่ระบายความโกรธเย่ซูเฟินหัวเราะเยาะ "กลัวสินะ กลัวฉันจะหาตัวเจอ ฉันรู้แล้วว่าโรงงานเสริมความงามของเธอโดนพังเสียหายหมด ตอนนี้ถึงกับต้องหลบซ่อนตัวเหมือนเต่าหดหัวแล้ว!""ฉันเนี่ยนะกลัว? ฉันเคยกลัวเธอสักครั้งไหม! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอแต่งงานกับเย่เว่ยถิง ฉันไม่เคยนับเธอเป็นคนของตระกูลเย่ด้วยซ้ำ!" เย่จื่อตอบกลับอย่างกระแทกกระทั้น"งั้นก็ออกมาสิ มาสู้กันต่อหน้า!" เย่ซูเฟินท้าทาย"ก็ได้ ออกมาก็ออกมา เย่ซูเฟิน ถ้าเธออยากจะตัดขาดกับฉันจริง ๆ ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเกรงใจแล้ว!" พูดจบ เย่จื่อก็ตัดสายทิ้งและหยิบกระเป๋าขึ้น เตรียมออกไปข้างนอกทันทีเมื่อเห็นเช่นนั้น เวินหนี่รีบพูดขึ้น "คุณอาคะ คุณอาจะไปไหนคะ หนูจะไปด้วย"เย่จื่อหันมามองเวินหนี่ "เธอไม่ต้องไป เย่ซูเฟิ

DMCA.com Protection Status