“ตอนเย็นผัวจะไปรับนะ แต่งตัวสวยๆไว้รอนะ เมียรักของพี่” เสียงหัวเราะอย่างพอใจของนางนภากับกำนันเสือไม่ได้เข้าหูของพิมพ์รพีพร เพราะคำว่าเมียรักมันดังก้องจนพิมพ์รพีพรอดที่จะเผลอยิ้มไม่ได้
“อิ่มหรือยังล่ะหนูพิมพ์” กำนันเสือเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าลูกสะใภ้เหม่อนานไปแล้ว
“เอ่อ...อิ่มแล้วค่ะพ่อเสือ” หญิงสาวส่งยิ้มอายๆให้ผู้สูงวัยกว่าทั้งสอง แล้วขอตัวไปทำงานที่บ้านนาเปี่ยมรัก
“พี่พิมพ์ แต่งงานไปแล้วเป็นไงบ้างอะ” กระถินเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ก็ดี” พิมพ์รพีพรกำลังเดินตรวจงานตามแปลงผักต่างๆ ที่ปลูกแบบใช้ทฤษฎีการเกษตรพื้นบ้าน หญิงสาวก้มลงถอนหญ้าที่เกิดแซมในแปลงเป็นบางครั้ง
“ดียังไงล่ะพี่พิมพ์ กระถินถามแม่ว่าแต่งงานแล้วมันดียังไง แม่ก็บอกว่าไว้แต่งไปก็จะรู้เอง” กระถินยังเดินตามพิมพ์รพีพรต้อยๆ
“ก็อย่างที่ป้าสมใจบอกแหละ ไว้แต่งงานไปกระถินก็จะรู้เอง” เด็กสาวทำหน้าผิดหวัง
“แล้วเวลานอนด้วยกัน ต้องกอดกันไหมพี่พิมพ์” พิมพ์รพีพรรู้สึกหน้าร้อนวูบวาบ
“ถามอะไรน่าเกลียดกระถิน เราเป็นสาวเป็นแส้ อย่าไปเที่ยวถามอย่างนี้ก
“เดี๋ยวนายลั่นกลับไปเอาเสื้อผ้าของใช้ที่บ้านนะ เอารถพิมพ์ไปเลย ทางนี้พิมพ์จะจัดการเรื่องห้องพักผู้ป่วยให้”“ครับคุณพิมพ์ ขอบคุณมากนะครับ” นายลั่นรับคำอย่างรู้สึกสำนึกในบุญคุณของพิมพ์รพีพร“น่าอิจฉาจำปาจัง มีคนที่รักมากขนาดนี้ จำปากับลูกต้องหายเร็วๆนะ” พิมพ์รพีพรนั่งมองร่างของจำปาที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้ในห้องพิเศษ แล้วรำพึงเบาๆ ถ้าเธอเป็นอะไรไปปลัดเมฆาจะร้องไห้อย่างนี้ไหมนะ“เพลียจัง วันนี้เข้างานสายแน่ๆ ใครก็ไม่รู้ให้เรารอตั้งนาน” พีรพลพูดขึ้นลอยๆระหว่างขับรถไปยังบริษัทของตนในช่วงเช้า นิชาค้อนขวับวงใหญ่ให้สามี“แล้วใครล่ะที่ทำให้หนุงหนิงต้องอาบน้ำใหม่”“อะไรกัน จะมาโทษพีคนเดียวได้ไง หนุงหนิงนั่นแหละตัวดี ใครบอกให้หวานไปทั้งตัวเองล่ะ พีก็เลยอดใจไม่ไหว” นิชาหยิกสีข้างสามีเต็มแรง“โอ๊ย!” คนถูกหยิกร้องโอดครวญเสียงดัง ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บ“ดูซิ หนุงหนิงมาช่วยงานวันแรกก็สาย เพราะพีคนเดียว ไม่ต้องมาโทษกันเลย วันหลังพีแต่งตัวเองเลยนะ ไม่ต้องมาเรียกหนุงหนิงให้ไปช่วย” พูดจบนิชาก็นั่งตัวตรงกอดอกหน้าหงิก เพราะงอนสามีที่ทำให
“เมรอได้ค่ะ” เมธาวียังดื้อดึง“รอได้ตามสบายเลยนะเม แต่ตอนนี้เชิญเมไปรอข้างนอกก่อนนะ เพราะหนุงหนิงต้องปรึกษางานกับพีก่อนเข้าประชุมจ้ะ เอ่อ...เป็นข้อมูลลับของบริษัทน่ะ เมคงจะเข้าใจนะ” เมธาวีอ้าปากค้างหันไปขอความเห็นใจจากพีรพล แต่ชายหนุ่มเลือกที่จะยิ้มอย่างเดียวเท่านั้น“เอ่อ...เดี๋ยวเมจะรอที่ห้องรับรองนะคะ” เมธาวีลุกขึ้นยืนแล้วสะบัดหน้าเล็กน้อย ก่อนจะก้าวฉับๆออกจากห้องไป พีรพลหันไปสบตาภรรยาตัวเอง นิชายักไหล่ก้มทำงานต่อโดยไม่พูดอะไร“เอ่อ...หนุงหนิงจ๊ะ วันนี้เรามีประชุมด้วยเหรอ แล้วหนุงหนิงมีอะไรจะปรึกษากับพีอะ” พีรพลถามด้วยน้ำเสียงเกรงๆ เพราะหน้าตาของภรรยาหลังจากที่เมธาวีออกไปแล้ว ช่างนิ่งเรียบดั่งทะเลสงบรอเวลาเกิดพายุลูกใหญ่“ยังไม่รู้เหมือนกัน ขอเวลาคิดก่อนนะ”“อ้าว!” พีรพลขมวดคิ้ว นิชายิ้มเล็กน้อยแล้วก้มหน้าทำงานต่อไปสามสิบนาทีผ่านไป เมธาวีนั่งกระวนกระวายอยู่ในห้องรับรอง จนในที่สุดตัดสินใจเดินออกจากห้อง“คุณเมธาวีจะรับกาแฟเพิ่มหรือคะ” พนักงานสาวเดินมาดักหน้าเธอไว้ ขณะที่เลขาหน้าห้องพีรพลมองเห็นเมธาวีเดินออกมาจากห้อง เธอจึงยกหูโทรศัพ
“ไม่ได้ค่ะ...ห้ามทำรุ่มร่ามที่บริษัท”“ก็ทีหนุงหนิงยัง...” นิชาชี้หน้าสามีด้วยแววตาดุ ทำให้พีรพลหยุดพูดต่อ“พีรู้ใช่ไหมว่าหนุงหนิงทำเพราะอะไร” สามีหนุ่มพยักหน้ารับทราบ แววตาเศร้าๆ“ห้องทำงานคือห้องทำงานค่ะ ไว้คืนนี้หนุงหนิงจะต่อภาคสองให้นะ” ประโยคสุดท้ายนิชากระซิบข้างหูสามีเบาๆ คนได้ยินยิ้มกว้าง กดจมูกฝังที่แก้มเนียนแรงๆ นิชาตีแขนที่โอบเอวเธออยู่เบาๆ“งั้นไปกินข้าวกันเถอะ” นิชาพาตัวเองลงจากตักสามี พีรพลลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แล้วคว้ามือเล็กมากุมไว้“พีว่าจะต่อเติมห้องทำงานเดิมของพีเป็นห้องพักผ่อนสำหรับเราดีกว่าเนอะ เผื่อช่วงไหนเรามีงานเยอะ จะได้ค้างที่นี่เลย” นิชาหันกลับมามองหน้าสามีอย่างรู้ทัน พีรพลยักคิ้วให้อย่างท้าทาย“ก็ห้องทำงานคือห้องทำงาน ห้องพักผ่อนก็คือห้องพักผ่อนไง จริงๆนะ”“นี่ยายพิมพ์ยังไม่กลับมาจากโรงพยาบาลหรือ เย็นมากแล้วนะ เห็นว่ามีนัดไปงานเลี้ยงกับพ่อปลัดไม่ใช่เหรอ” ย่าพรเอ่ยขึ้นลอยๆ ชะเง้อคอมองไปประตูรั้วทางเข้าบ้าน“เอ่อ...เห็นไอ้ลั่นมันขับรถคุณพิมพ์กลับมาเอาของเมื่อตอนบ่าย แล้วก็ขับออกจากบ้านไ
“เดี๋ยวนี้ใช้ภาษาวัยรุ่นนะย่า”“อ้าว...โลกหมุนเร็ว ย่าต้องหมุนตามให้ทัน ถึงหมุนตามแล้วจะเวียนหัวก็จะทนเอา” ย่าและหลานสาวสบตาหัวเราะขึ้นพร้อมกัน“ป้าสมใจรบกวนยกเอกสารบนโต๊ะไปที่รถให้พิมพ์หน่อยนะคะ คืนนี้คงต้องเอากลับไปเคลียร์ที่บ้าน”“จ้ะ...คุณพิมพ์” นางสมใจนั่งดูย่ากับหลานคุยกันอยู่รับคำ แล้วลุกไปเก็บเอกสาร ไปไว้ที่รถตามที่พิมพ์รพีพรสั่ง“เอ่อ...คุณพิมพ์คะ” นางสมใจยืนรอส่งพิมพ์รพีพรที่รถ กระซิบกระซาบเรียกหญิงสาว“มีอะไรหรือเปล่าคะ ป้าสมใจ” นางสมใจเหลียวซ้ายแลขวา ก่อนจะเขยิบเข้าใกล้อีกนิด“ป้าจะบอกว่า ถ้าผัวงอนเราต้องง้อนะ ถ้าไม่ง้อระวังมอคอปอดอนะคะ”พิมพ์รพีพรขมวดคิ้วงง“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิคุณพิมพ์ คุณพิมพ์รู้ไหมสัดส่วนของผู้หญิงในโลกนี้มันมีเยอะกว่าผู้ชายมาก ถ้าเราไม่เอาใจผัวให้ดี ป้ารับรองเลยว่าจะมีคนเสนอตัวมาเอาใจแทนเราแน่ ยิ่งพ่อปลัดของคุณพิมพ์นะ หน้าที่การงานก็ดี รูปก็หล่อ พ่อก็รวย สาวๆทั้งอำเภอต่อคิวรอเสียบแทนคุณพิมพ์เป็นร้อย”“ค่ะ” คือพิมพ์รพีพรไม่รู้ว่าจะเอ่ยอะไรออกไป จึงได้แต่ยืนนิ่งฟังสิ่งที่
“พิมพ์ขอโทษนะคะ เดี๋ยวพิมพ์จะเช็ดตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ไถ่โทษที่ผิดนัดก็แล้วกันนะ” พิมพ์รพีพรคลานลงจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำ ปลัดเมฆาหรี่ตามองตามร่างเล็กสมส่วนแล้วอมยิ้มพิมพ์รพีพรออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับกะละมังใบเล็ก ผ้าขนหนูและน้ำอุ่นอยู่ในนั้น แล้ววางมันไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียง คนที่นอนหลับตารอการทำความสะอาดจากเมีย ใจเต้นโครมคราม เขาอยากจะกระโดดลงจากเตียงแล้วดึงเธอเข้ามากอดตั้งแต่ตอนที่เห็นว่า พิมพ์รพีพรอยู่ในชุดนอนที่แสนเซ็กซี่นั้นแล้ว แต่ก็อยากจะดูว่าหญิงสาวจะทำยังกับตนเองคนตัวเล็กนั่งมองร่างของคนตัวโตที่เหยียดยาว แล้วถอนหายใจแรงก่อนที่จะค่อยๆแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตให้เขาจนหมดแถว แล้วแยกสาบเสื้อออกจากกัน หน้าอกแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม อย่างคนสุขภาพดีที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ทำให้พิมพ์รพีพรใจเต้นแรง ถึงจะเคยสัมผัสแนบชิดกันมาแล้ว แต่เธอไม่เคยได้มองเขาอย่างเต็มตาอย่างนี้ มือเล็กดึงชายเสื้อออกจากกางเกง แล้วพิมพ์รพีพรก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่อีกครั้ง“จะถอดยังไงล่ะเนี่ย ตัวใหญ่ยังกะยักษ์” ปากเล็กจิ้มลิ้มบ่นอุบอิบ เธอค่อยๆปลดเข็มขัด แกะกระดุมแล้วรูดซิปกางเกงลง ปฏิบัติการแ
“ทำให้ขนาดนี้รักกันสักนิดหรือเปล่า” เสียงรำพึงเบาๆหลุดออกจากริมฝีปากบาง พูดจบเธอก็เลือกที่จะหันหลังทันที จึงไม่ได้เห็นว่าคนที่ได้ยินคำถามขมวดคิ้วแล้วคลายออกอย่างรวดเร็ว พิมพ์รพีพรปิดไฟทุกดวงในห้องก่อนจะเดินมานั่งลงบนเตียง ความรู้สึกอ่อนยวบเล็กน้อยข้างกายทำให้ปลัดเมฆานอนยิ้มอย่างย่ามใจคนตัวเล็กในชุดนอนที่แสนเซ็กซี่ สอดตัวเองลงใต้ผ้าห่มอุ่นผืนเดียวกันกับคนนอนโป๊อยู่ โดยลืมคิดถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะความที่คิดว่าอีกคนเมาหลับเป็นตายไปแล้ว เธอคงไม่ต้องระวังตัวอะไร พิมพ์รพีพรนอนตะแคงมองหน้าคมเข้มในความมืดสลัว มือเล็กยกขึ้นสัมผัสเบาๆไปตามใบหน้าหล่อเหลา“เราแต่งงานกันเพราะอะไรนะ พี่เมฆแค่อยากเอาชนะพิมพ์ใช่ไหม รักพิมพ์สักนิดหรือเปล่า” เสียงหวานฟังแล้วเศร้า จนคนได้ยินอยากจะชกปากตัวเอง นี่เขายังไม่เคยบอกรักเมียตัวเองนี่นา ที่พิมพ์รพีพรไม่ยอมให้เขาทำอะไรตามใจ เพราะเธอยังไม่มั่นใจในตัวเขาเองหรอกหรือ ริมฝีปากหยักได้รูปคลี่ยิ้ม ลืมตาขึ้น แล้วเอ่ยเสียงดังฟังชัด“เพราะพี่รักพิมพ์”มือเล็กถูกเจ้าของดึงกลับ พิมพ์รพีพรดีดตัวลุกขึ้นนั่ง“พี่เมฆ นี่แกล
มือใหญ่ลูบไล้ไปตามผิวเนื้อเนียนนุ่ม ไล้เรื่อยมายังทรวงอกอวบหยุ่น หยอกเย้าและเคล้นคลึงทั้งสองข้างอย่างปลุกเร้าอยู่เนิ่นนาน แล้วเลื่อนต่ำลงไปยังหน้าท้องแบนราบ ปลัดเมฆาผละจากริมฝีปากบาง ลิ้นร้อนของเขาไล้เลียมาตามลำคอระหง ลากผ่านมาจนถึงทรวงอกที่กระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจของเจ้าของ ปากร้อนร้ายกาจดูดดึงและไล้เลียจากฐานอกอวบ แล้วเข้าครอบครองดูดกลืนตุ่มไตสีหวาน ป่ายปัดรัวเร้าจนร่างบางแอ่นกายเสียวสะท้าน พิมพ์รพีพรสอดมือทั้งสองเข้าไปในกลุ่มผมของปลัดเมฆา กดรั้งศีรษะทุยให้แนบกับร่างของตนเองอย่างลืมตัวท่อนขาแกร่งแทรกลงระหว่างขาเรียว ขณะที่ใบหน้าของชายหนุ่มเลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ จมูกโด่งถูไถไปตามหน้าท้องแบนราบ มือใหญ่จับต้นขาขาวแยกกว้าง แล้วตั้งชันขึ้น พิมพ์รพีพรรู้สึกวูบไหวในช่องท้อง ร่องดอกไม้กลางกายสาวหลั่งน้ำหวานออกมาจนชุ่ม หญิงสาวหอบหายใจแรงขึ้น“อื้อ...” พิมพ์รพีพรบิดตัวครางสะท้านด้วยความเสียวซ่าน เมื่อปลายลิ้นร้อนแตะติ่งกลางกายสาวแผ่วเบาในครั้งแรก ก่อนจะตวัดรัวเร็วสร้างกระแสความหวามไหวอย่างรุนแรง นิ้วเท้าจิกงองุ้มลงบนที่นอนแน่น สะโพกเต่งตึงยกลอยขึ้นอย่างท้าทาย ลมหายใจขาดเป็นห้วง
“อยากอยู่อย่างนี้นานๆ” ปลัดเมฆาออดอ้อน “พิมพ์หนักค่ะ พี่เมฆตัวใหญ่ยังกะยักษ์” พิมพ์รพีพรประท้วงเบาๆ ปลัดเมฆาถอดถอนกายออกแล้วเคลื่อนตัวลงมานอนเคียงข้างหญิงสาว มือใหญ่รั้งร่างนุ่มนิ่มเข้ามากอด พิมพ์รพีพรเบียดกายเข้ากับอกกว้าง “สัญญาได้ไหมว่าต่อไปนี้เราจะคุยกันทุกเรื่อง” ปลัดเมฆาพูดอยู่เหนือศีรษะหอมกรุ่น พิมพ์รพีพร เงยหน้าขึ้นสบตาคนพูด “ค่ะ...คุยกันทุกเรื่อง” กลีบปากบางคลี่ยิ้มหวานตอบแบบไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่สามีพูด “วันนี้พี่โทรหาไอ้ธีร์ แล้วพี่ก็ได้คุยกับหนูไอด้วย” “หมายความว่า...” “พิมพ์ฟังพี่นะ” พิมพ์รพีพรพยักหน้า แล้วซุกหน้าลงแนบที่อกกว้าง รอฟังในสิ่งที่ปลัดเมฆากำลังจะพูด “เรื่องราวระหว่างเราในตอนแรกอาจจะเกิดขึ้น เพราะความอยากเอาชนะของพี่ แต่วันนี้มันไม่ใช่แล้ว พี่รักพิมพ์ รักผู้หญิงที่พี่ขโมยจูบแรกของเธอมา วันนั้นที่หนูไอโทรมาหาพิมพ์ พี่ยังไม่ได้บอกไอ้ธีร์ว่าเราจะแต่งงานกัน เพราะเห็นว่าหนูไอท้องอ่อนๆอยู่ พี่เลยไม่อยากบอก
“สิน...ไอ้สิน” ภูชิตตะโกนเรียกลูกน้อง เพราะรู้ดีว่าเหล่าลูกน้องที่ติดตามเขา ต้องคอยดูและระวังความปลอดภัยให้เขาอยู่ใกล้ๆ“ครับนาย” นายสินวิ่งเร็วมาถึงหน้าเรือนไม้ ยืนเอามือกุมเป้าก้มหน้ารอฟังคำสั่ง“ไปซื้อยาลดไข้ชนิดน้ำมาให้หน่อย” ลูกน้องตัวโตทำหน้างงแปลกใจ ภูชิตจึงตวาดเสียงดัง“แกจะทำหน้างงทำไม สั่งอะไรก็ไปซื้อมาสิ”“ครับนาย ว่าแต่วันนี้นายจะเข้าไปดูในไร่ไหมครับ ผมจะได้ให้ไอ้อ๋องมันมาขับรถให้”“วันนี้คงไม่ไปไหน จะไปทำอะไรกันก็ไปเถอะ” ภูชิตพูดจบก็เดินเข้าบ้านไป ปล่อยให้ลูกน้องเกาหัวแกรกๆ ปกติแล้วภูชิตจะออกสำรวจไร่ทุกวัน ‘ไร่ภูชิต’ปลูกพืชไร่หลายชนิด ไม่เคยมีสักวันที่ผู้เป็นนายจะไม่ออกไปตรวจไร่ เพราะชายหนุ่มจะมุ่งมั่นกับการทำงานให้ออกมาดีที่สุด และมักจะควบคุมการทำงานทุกอย่างด้วยตัวเอง หากแต่ตอนนี้ผู้เป็นนายกลับมีบางอย่างที่รั้งให้เขาอยากอยู่กับบ้าน มากกว่าการออกไปตรวจงานไร่อย่างที่เคยเป็น“คุณน้ำ...ลุกมาทานยาเถอะจ้ะ” นางแตงอ่อนปลุกน่านน้ำในตอนเที่ยงเกือบบ่ายโมง หญิงสาวปรือตามองอย่างลำบาก แต่การที่ได้นอนหลับพักผ่อนมาตลอดช่วงเช้า และได้รับการเช็ด
ภูชิตสะบัดศีรษะไล่ความคิดติดเรทออกจากสมองตัวเอง เขายืนขึ้นเต็มความสูงร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร แล้วก้มมองสภาพเปียกปอนของตัวเอง และหันไปมองคนบนเตียง เสื้อนอนลายคิดตี้สีชมพูเปียกแนบไปกับอกอวบ เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าคิตตี้เป็นอะไรที่น่ารักมาก ยิ่งตอนนี้ที่มันสะท้อนขึ้นลงตามจังหวะลมหายใจของคนที่สวมใส่อยู่ คิตตี้ช่างเป็นอะไรที่น่าค้นหาจริงๆยาก็กินไม่ได้ ตัวก็ร้อนจี๋ วิธีเดียวที่จะลดอุณหภูมิในตัวคนไข้ได้ ก็คงเป็นการเช็ดตัวสินะภูชิตกลับเข้ามาในห้องของน่านน้ำอีกครั้งในชุดใหม่ พร้อมกับกะละมังใบเล็กและผ้าขนหนู ชายหนุ่มยืนมองร่างของคนบนเตียงแล้วถอนหายใจ เขาวางกะละมังไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง ร่างสูงนั่งลงบนเตียงชิดร่างของหญิงสาว“ผมจะเช็ดตัวให้นะ ไม่ได้คิดอะไรจริงๆนะ” บุรุษพยาบาลจำเป็นเอ่ยขึ้นเพื่อเตือนสติตัวเอง มากกว่าที่จะบอกคนไข้ที่นอนอยู่บนเตียง มือใหญ่ดึงผ้าห่มผืนใหญ่คลุมร่างเล็กจนถึงคอ ก่อนจะค่อยๆคลำเข้าไปใต้ผ้าห่ม แกะกระดุมเสื้อนอนทีละเม็ด แล้วค่อยๆพลิกร่างใต้ผ้าห่มดึงเสื้อนอนออก“ชิ้นที่หนึ่ง” เสื้ออุ่นๆที่อยู่ในมือทำให้ภูชิตอดไม่ได้ที่จะยกขึ้นอย่างกล้า
“เงียบจัง” น่านน้ำในชุดนอนกางเกงขายาวเสื้อแขนยาวลายคิตตี้สีชมพู นั่งกอดหมอนใบใหญ่บนเตียงกว้าง บรรยากาศบ้านไร่ช่างวังเวงน่ากลัวจริง ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มืดไปหมด หญิงสาวถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ในวันนี้ มือบางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แต่พอเหลือบดูเวลาแล้ว หญิงสาวก็ได้แต่นั่งตาละห้อย“ดึกป่านนี้หลับกันหมดแล้วล่ะ เฮ้อ!” น่านน้ำเอนตัวลงนอน กว่าเธอจะข่มตาหลับได้ก็ใช้เวลานานนักหนา ทำให้แปดนาฬิกาในวันแรกของการทำงาน น่านน้ำยังคงนอนหลับไม่รู้สึกตัว เนื่องจากการเดินทางไกลและมาเจอสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็น ซึ่งแตกต่างจากอากาศในเมืองหลวง ทำให้ร่างกายของเธอปรับสภาพไม่ทัน หญิงสาวจึงเข้าสู่โหมดไข้สูงและตัวร้อนจี๋ก๊อกๆ“คุณน่านน้ำ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อน แล้วตามด้วยเสียงทุ้มตามมา น่านน้ำพยายามปรือตาขึ้น แต่ทำไมหนังตาเธอมันถึงหนักอึ้งอย่างนี้ หญิงสาวไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะพาร่างตัวเองลงจากเตียงเลยภูชิตขมวดคิ้วมุ่น เขาเคาะประตูอีกครั้ง หากแต่ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่อยู่ข้างใน ชายหนุ่มจึงตัดสินใจกลับไปที่ห้องตนเอง หยิบกุญแจสำรองมาไขกุยแจเปิดประตูห้องออก
“นอนบนเรือนใหญ่” หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่นกับคำตอบสั้นๆที่ได้รับ“แล้วใครอยู่บนเรือนใหญ่บ้างคะ” เธอยังซักไซ้ต่อด้วยความอยากรู้“คุณกับคุณภูชิต” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงติดรำคาญ น่านน้ำพอจะฟังออก หญิงสาวจึงเลือกที่จะเงียบ ใบหน้าเรียบเฉยที่ดูเคร่งขรึมตลอดเวลา ดวงตาสีน้ำตาลเข้มฉายแววเด็ดเดี่ยว ประกอบกับเคราเขียวครึ้มบนใบหน้า ทำให้น่านน้ำแอบกลัวเขาอยู่นิดๆ แต่ก็รู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด เธอเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อนหรือเปล่านะรถคันใหญ่แล่นเข้าสู่บริเวณไร่ภูชิต ตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว ความมืดปกคลุมไปทั่วบริเวณ แต่เมื่อรถแล่นเข้าใกล้บ้านไม้สไตล์รีสอร์ทหลังใหญ่ ก็มีแสงสว่างจากตัวบ้านและดวงไฟจากบริเวณรอบๆบ้าน ไม่ได้ดูมืดมิดเหมือนตลอดทางที่นั่งรถผ่านมา น่านน้ำเปิดประตูลงจากรถพร้อมๆกับคนขับ หญิงสาวมองไปรอบๆ“เข้าบ้านกันเถอะคุณน่านน้ำ อากาศเย็นหมอกลงจัด เดี๋ยวคุณจะไม่สบายเอาได้” น่านน้ำวิ่งตามคนที่ถือกระเป๋าของเธอเดินนำหน้าไปทางตัวบ้านก่อนแล้ว
“ฉันอกหัก ฉันอยู่กรุงเทพไม่ได้แล้ว ฉันจะออกไปจากที่ตรงนี้ ฉันจะออกไปแตะขอบฟ้า” คำพร่ำพรรณนาของเพื่อนรักพรั่งพรูออกมาพร้อมเสียงสะอื้นโวยวาย ทำให้ไอรักคุณแม่ท้องแก่ที่กำลังอุ้มท้องลูกสาวคนแรก ซึ่งมีอายุครรภ์เกือบแปดเดือนขมวดคิ้วผูกโบ อกหัก? คือเท่าที่รู้น่านน้ำเพื่อนรักยังไม่เคยมีแฟนเลยไม่ใช่หรือ “เอ่อ...น้ำ แกใจเย็นๆนะ แกอกหักจากใครเหรอ” “บอสไงแก ฉันเฝ้าถนอมตามรักมาตั้งหลายเดือน แล้วนี่อยู่ดีๆบอส ก็มาประกาศปาวๆว่ากำลังจะแต่งงาน กับแฟนสาวที่คบกันมาตั้งแต่สมัยไปเรียนอยู่อังกฤษ ฉัน...ฉันรับม่ายด้าย นี่ไงแก...นี่ไง...การ์ดยังอยู่ในมือฉันอยู่เลย นี่ไง...ฮือๆ” น่านน้ำยังคงโวยวายระบายความในใจกับเพื่อนรัก ไอรักเป็นเพื่อนรักกลุ่มเดียวกัน หลังจากเรียนจบไอรักก็แต่งงานทันที แต่ความเป็นเพื่อนรักทำให้ยังติดต่อกันอยู่ “แล้วยายพิมพ์รู้เรื่องนี้หรือยัง” ไอรักถามหาพิมพ์รพีพรเพื่อนรักในกลุ่มอีกคน “ยัง...ยายพิมพ์เพิ่งแต่งงาน ฉันไม่อยากรบกวนเวลาสวีตมัน...ฮึกๆ” เสียงสะอื้นยังคงด
“อา...พิมพ์จ๋า พี่รักพิมพ์นะ” “พิมพ์ก็รักพี่เมฆค่ะ” พิมพ์รพีพรหลับตาลงยิ้มด้วยความสุข สักครู่เดียว ร่างเล็กก็ถูกพาเอนตัวลงบนที่นอนนุ่ม ปลัดเมฆาทอดกายลงมาเคียงข้างด้านหลัง วงแขนแกร่งกอดกระชับเอวคอดแน่น ริมฝีปากหยักได้รูปกดลงที่เรือนผมนุ่มหอมแรงๆ “อืม...ยังไม่หายคิดถึงเลย” พิมพ์รพีพรหยิกลงบนหลังมือใหญ่ ที่ลูบวนแถวหน้าท้องแบนราบของตน “หื่นเกินไปแล้วค่ะ” คำต่อว่าของภรรยาทำให้ปลัดเมฆาอมยิ้ม จมูกโด่งกดลงที่ต้นคอขาวด้านหลัง พิมพ์รพีพรหดคอลงส่งเสียงอู้อี้ เพราะเหนื่อยเต็มที “อีกครั้งนะ นะๆ” ก่อนที่พิมพ์รพีพรจะได้ปฏิเสธ มือใหญ่ก็จับท่อนขาเรียวเธอยกขึ้นไปพาดไว้บนสะโพกตนเอง แล้วแทรกตัวตนเข้ามาในร่องรักที่ฉ่ำแฉะอยู่แล้ว “อ๊ะ...พี่เมฆ” ปลัดเมฆารัวสะโพกเร็วโดยที่พิมพ์รพีพรไม่ทันตั้งตัว นิ้วเรียวใหญ่กดบดบี้ติ่งกลางกายสาวซ้ำ คนถูกจู่โจมได้แต่ถอนใจ มือเล็กข้างหนึ่งเกาะเกี่ยวหมอนที่หนุนอยู่ อีกข้างจิกลงบนท่อนแขนแกร่งที่กอดรัดเอวตัวเองไว้ “อย
“พิมพ์จ๋า อย่าทรมานพี่อย่างนี้” พิมพ์รพีพรคลี่ยิ้มหวาน มือเล็กไขว้ลงดึงรั้งชุดนอนเซ็กซี่ดึงออกทางศีรษะ หน้าอกอวบอิ่มดีดเด้งยั่วสายตาคนมองทันที เพราะหญิงสาวไม่ได้ใส่ชั้นใน พิมพ์รพีพรเตรียมพร้อมอยู่แล้ว เธอก็ต้องการสามีไม่ได้แตกต่างกันกับเขา กลีบดอกไม้บานฉ่ำชิดอยู่หน้าท้องแกร่ง มือใหญ่ถูกมือเล็กจับขึ้นมาสัมผัสหน้าอกอวบอย่างเย้ายวน ปลัดเมฆากอบกุมเคล้นคลึงอย่างหนักหน่วงด้วยอารมณ์ร้อนรุ่มยิ่งนัก“อา...พิมพ์” ปลัดเมฆาครางกระเส่า เมื่อพิมพ์รพีพรโหย่งตัวขึ้นแล้วจดจ่อร่องดอกไม้อุ่นลื่นเข้ากับปลายลำแข็งขัน มือเล็กทั้งสองข้างยันหน้าอกแกร่งไว้ สะโพกมนกดลงช้าๆค่อยๆครอบครองตัวตนของสามีไว้ทุกทิศทาง“อืม...พี่เมฆ อ๊ะ!” เมื่อใกล้สุดทางลำรักร้อน ปลัดเมฆาเสยสะโพกขึ้นกระแทกแรง พิมพ์รพีพรจึงต้องอุทานออกมาด้วยความเสียวซ่าน ใบหน้างามแหงนเงย ปากเล็กพ่นลมออกเบาๆ“พิมพ์น่ารักที่สุด อา...” มือใหญ่บีบคลึงเนื้อสะโพกหนั่นแน่น สลับกับการเคล้นคลึงหน้าอกอวบสร้างความเสียวกระสันในคนคุมเกมด้านบน พิมพ์รพีพรขยับสะโพกรัว กระแทกลงรุนแรง ปลัดเมฆาเสยสะโพกรับสอดประสาน สร้างกระแสความวาบหวามกระจายอยู่รอบตั
“แกพักผ่อนเถอะพิมพ์ เดินทางมาคงเหนื่อย เดี๋ยวฉันไปจัดการพี่ธีร์ก่อน ดึกแล้วน่าจะพอได้แล้ว” ไอรักเดินออกจากห้องเพื่อนตรงไปที่ระเบียงกว้างทันที“พี่ธีร์ขา” ไอรักเรียกเสียงออดอ้อน ธีร์ภาณุหันไปตามเสียง ปลัดเมฆาก็หันตามยิ้มๆ ถึงปากจะบอกว่าอนุญาตให้เมาเต็มที่ แต่เธอง่วงแล้ว และก็ไม่อยากนอนคนเดียว“ครับ...หนูไอ” ปลัดเมฆาดูสองสามีภรรยาส่งยิ้มหวานให้กันแล้ว ชักรู้สึกว่าตัวเองเป็นก้าง“เอิ่ม...ขอตัวไปดูภรรยาก่อนล่ะนะ” ปลัดเมฆารีบลุกจากเก้าอี้ ที่จริงเขาอยากนอนกอดร่างนุ่มนิ่มมากกว่าที่จะมานั่งดื่มกับธีร์ภาณุ แต่นานๆเจอกันที เขาเองก็ไม่อยากเสียมารยาทกับเพื่อน“ตามสบายเพื่อน” ธีร์ภาณุเอ่ยตามหลังปลัดเมฆาไป ไอรักเดินยิ้มหวานเข้าใกล้สามี“ดื่มไปกี่แก้วคะ” เอาเข้าจริงไอรักก็ไม่ค่อยชอบให้สามีดื่มเท่าไร เพราะมันไม่ได้ดีต่อสุขภาพเลย“ไม่เท่าไรครับ ยังฟิต เตะปี๊บดังทั้งคืน”ร่างของไอรักถูกรวบให้นั่งลงบนตักแกร่งของสามี หญิงสาวเอนศีรษะซบไปกับแผงอกกว้างอย่างวางใจ“คนเรานี่ก็แปลกนะคะพี่ธีร์ ไม่ถูกชะตากันตั้งแต่วันแรก แต่กลับมาลงเอยเป็นคู่กันอย่างพี่เม
พิมพ์รพีพรและปลัดเมฆานัดกันไว้แล้ว ว่าจะไปเยี่ยมไอรักที่กำลังตั้งท้องเกือบสี่เดือนแล้ว ตามคำชวนของธีร์ภาณุ ที่ต้องการเลี้ยงฉลองการสละโสด กับปลัดเมฆาซึ่งเป็นเพื่อนรักกัน แต่ธีร์ภาณุไม่ได้มาร่วมงานแต่งของเพื่อน ไอรักซึ่งเป็นเพื่อนรักในกลุ่มเดียวกันกับพิมพ์รพีพร ก็อยากจะคุยกับเพื่อนสาว อยากรู้ว่าจับพลัดจับผลูอย่างไร ถึงลงเอยด้วยการแต่งงานกับคนที่ไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่เจอหน้ากันในครั้งแรก พิมพ์รพีพรโทรศัพท์ไปชวนน่านน้ำเพื่อนซี้ร่วมกลุ่มแล้ว แต่น่านน้ำปฏิเสธ เนื่องจากกำลังเร่งทำคะแนนกับบอสสุดหล่อ ที่น่านน้ำหลงรักอย่างหัวปักหัวปำอยู่เมื่อรถของปลัดเมฆาแล่นเข้ามาจอด ภายในบริเวณหน้าบ้านไม้หลังใหญ่สไตล์รีสอร์ตสองชั้น ที่เพิ่งปลูกใหม่อยู่กลางไร่แสงตะวัน ไอรักอยู่ในชุดคลุมท้องสีหวานยืนขึ้นจากเก้าอี้โยกตัวโปรด หญิงสาวยิ้มกว้าง เมื่อเห็นเพื่อนรักเดินลงมาจากรถ พิมพ์รพีพรเดินเร็วแทบจะเป็นวิ่ง ตรงเข้าหาเพื่อนรัก สองสาวกอดกันกลมด้วยความคิดถึง“คิดถึงหนูไอจัง เป็นไงบ้าง ไหนดูซิคุณแม่คนสวยท้องโตแค่ไหนแล้ว” พิมพ์รพีพรผละออกจากไอรัก แล้วมองร่างของเพื่อนตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า สองสาวสบตากันหัวเรา