“ทำให้ขนาดนี้รักกันสักนิดหรือเปล่า” เสียงรำพึงเบาๆหลุดออกจากริมฝีปากบาง พูดจบเธอก็เลือกที่จะหันหลังทันที จึงไม่ได้เห็นว่าคนที่ได้ยินคำถามขมวดคิ้วแล้วคลายออกอย่างรวดเร็ว พิมพ์รพีพรปิดไฟทุกดวงในห้องก่อนจะเดินมานั่งลงบนเตียง ความรู้สึกอ่อนยวบเล็กน้อยข้างกายทำให้ปลัดเมฆานอนยิ้มอย่างย่ามใจ
คนตัวเล็กในชุดนอนที่แสนเซ็กซี่ สอดตัวเองลงใต้ผ้าห่มอุ่นผืนเดียวกันกับคนนอนโป๊อยู่ โดยลืมคิดถึงความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะความที่คิดว่าอีกคนเมาหลับเป็นตายไปแล้ว เธอคงไม่ต้องระวังตัวอะไร พิมพ์รพีพรนอนตะแคงมองหน้าคมเข้มในความมืดสลัว มือเล็กยกขึ้นสัมผัสเบาๆไปตามใบหน้าหล่อเหลา
“เราแต่งงานกันเพราะอะไรนะ พี่เมฆแค่อยากเอาชนะพิมพ์ใช่ไหม รักพิมพ์สักนิดหรือเปล่า” เสียงหวานฟังแล้วเศร้า จนคนได้ยินอยากจะชกปากตัวเอง นี่เขายังไม่เคยบอกรักเมียตัวเองนี่นา ที่พิมพ์รพีพรไม่ยอมให้เขาทำอะไรตามใจ เพราะเธอยังไม่มั่นใจในตัวเขาเองหรอกหรือ ริมฝีปากหยักได้รูปคลี่ยิ้ม ลืมตาขึ้น แล้วเอ่ยเสียงดังฟังชัด
“เพราะพี่รักพิมพ์”
มือเล็กถูกเจ้าของดึงกลับ พิมพ์รพีพรดีดตัวลุกขึ้นนั่ง
“พี่เมฆ นี่แกล
มือใหญ่ลูบไล้ไปตามผิวเนื้อเนียนนุ่ม ไล้เรื่อยมายังทรวงอกอวบหยุ่น หยอกเย้าและเคล้นคลึงทั้งสองข้างอย่างปลุกเร้าอยู่เนิ่นนาน แล้วเลื่อนต่ำลงไปยังหน้าท้องแบนราบ ปลัดเมฆาผละจากริมฝีปากบาง ลิ้นร้อนของเขาไล้เลียมาตามลำคอระหง ลากผ่านมาจนถึงทรวงอกที่กระเพื่อมขึ้นลงตามแรงหายใจของเจ้าของ ปากร้อนร้ายกาจดูดดึงและไล้เลียจากฐานอกอวบ แล้วเข้าครอบครองดูดกลืนตุ่มไตสีหวาน ป่ายปัดรัวเร้าจนร่างบางแอ่นกายเสียวสะท้าน พิมพ์รพีพรสอดมือทั้งสองเข้าไปในกลุ่มผมของปลัดเมฆา กดรั้งศีรษะทุยให้แนบกับร่างของตนเองอย่างลืมตัวท่อนขาแกร่งแทรกลงระหว่างขาเรียว ขณะที่ใบหน้าของชายหนุ่มเลื่อนต่ำลงเรื่อยๆ จมูกโด่งถูไถไปตามหน้าท้องแบนราบ มือใหญ่จับต้นขาขาวแยกกว้าง แล้วตั้งชันขึ้น พิมพ์รพีพรรู้สึกวูบไหวในช่องท้อง ร่องดอกไม้กลางกายสาวหลั่งน้ำหวานออกมาจนชุ่ม หญิงสาวหอบหายใจแรงขึ้น“อื้อ...” พิมพ์รพีพรบิดตัวครางสะท้านด้วยความเสียวซ่าน เมื่อปลายลิ้นร้อนแตะติ่งกลางกายสาวแผ่วเบาในครั้งแรก ก่อนจะตวัดรัวเร็วสร้างกระแสความหวามไหวอย่างรุนแรง นิ้วเท้าจิกงองุ้มลงบนที่นอนแน่น สะโพกเต่งตึงยกลอยขึ้นอย่างท้าทาย ลมหายใจขาดเป็นห้วง
“อยากอยู่อย่างนี้นานๆ” ปลัดเมฆาออดอ้อน “พิมพ์หนักค่ะ พี่เมฆตัวใหญ่ยังกะยักษ์” พิมพ์รพีพรประท้วงเบาๆ ปลัดเมฆาถอดถอนกายออกแล้วเคลื่อนตัวลงมานอนเคียงข้างหญิงสาว มือใหญ่รั้งร่างนุ่มนิ่มเข้ามากอด พิมพ์รพีพรเบียดกายเข้ากับอกกว้าง “สัญญาได้ไหมว่าต่อไปนี้เราจะคุยกันทุกเรื่อง” ปลัดเมฆาพูดอยู่เหนือศีรษะหอมกรุ่น พิมพ์รพีพร เงยหน้าขึ้นสบตาคนพูด “ค่ะ...คุยกันทุกเรื่อง” กลีบปากบางคลี่ยิ้มหวานตอบแบบไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่สามีพูด “วันนี้พี่โทรหาไอ้ธีร์ แล้วพี่ก็ได้คุยกับหนูไอด้วย” “หมายความว่า...” “พิมพ์ฟังพี่นะ” พิมพ์รพีพรพยักหน้า แล้วซุกหน้าลงแนบที่อกกว้าง รอฟังในสิ่งที่ปลัดเมฆากำลังจะพูด “เรื่องราวระหว่างเราในตอนแรกอาจจะเกิดขึ้น เพราะความอยากเอาชนะของพี่ แต่วันนี้มันไม่ใช่แล้ว พี่รักพิมพ์ รักผู้หญิงที่พี่ขโมยจูบแรกของเธอมา วันนั้นที่หนูไอโทรมาหาพิมพ์ พี่ยังไม่ได้บอกไอ้ธีร์ว่าเราจะแต่งงานกัน เพราะเห็นว่าหนูไอท้องอ่อนๆอยู่ พี่เลยไม่อยากบอก
“ถ้าอย่างนั้นพิมพ์กลับไปนอนที่บ้านกับคุณพ่อคุณแม่ดีกว่า”“ไม่ยอม”“ไม่สน”“ใจร้าย” พิมพ์รพีพรเลิกคิ้วสูง เมื่อโดนข้อกล่าวหาว่าใจร้าย“พิมพ์จะปล่อยให้พี่นอนเหงาคนเดียวเหรอ ใจร้ายเกินไปแล้ว” ปลัดเมฆาตีหน้าเศร้า“ทีเมื่อก่อนยังมานอนคนเดียวได้บ่อยๆนี่คะ ไม่มีพิมพ์มาด้วยซะหน่อย”“ก็มันไม่เหมือนกัน ตอนนั้นไม่มีพิมพ์ แต่ตอนนี้มีแล้ว มีแล้วก็ขาดไม่ได้” พิมพ์รพีพรอมยิ้มแอบดีใจ“นอนด้วยกันแหละ นะๆ” เสียงทุ้มออดอ้อน“ห้ามรังแกพิมพ์”“อือ...ไม่รังแกเกินสามยก”“พี่เมฆ!” พิมพ์รพีพรเรียกสามีเสียงสูง ปลัดเมฆาหัวเราะชอบใจ“คนลามก” พิมพ์รพีพรบ่นเบาๆ“ยอมรับ...ลามกและหื่นมากๆๆ” ปลัดเมฆายังพูดยั่วคนตัวเล็ก ที่หน้าแดงเรื่อจนเห็นได้ชัด พิมพ์รพีพรอ้าปากจะเถียงต่อ แต่ปลัดเมฆาชิงพูดตัดบทเสียก่อน“ถึงแล้วครับ สงบศึกชั่วคราว” พิมพ์รพีพรทำจมูกย่นไม่พอใจ ปลัดเมฆาบีบจมูกรั้นนั้นเบาๆ“ลงไปได้แล้วครับ คุณภรรยาคนสวย”“แม็กกี้...ทางนี้” หญิงสาวประเภทสองที่รวมกลุ่มอยู่กับกลุ่มเพื่อนข
“นอนเถอะค่ะ พี่เมฆ พรุ่งนี้ต้องพาพิมพ์ไปช้อปแต่เช้า” ร่างเล็กขยับตัวเอื้อมไปปิดไฟที่หัวเตียง พิมพ์รพีพรขยับตัวซุกหน้าเข้ากับอกอุ่นของสามี“รักพิมพ์จังเลย พิมพ์รักพี่บ้างไหม วันนี้ยังไม่ได้ยินคำบอกรักเลย” มือใหญ่เลื่อนไปวางทาบบนสะโพกเต่งตึง รั้งกระโปรงชุดนอนแสนเซ็กซี่ที่เขาเป็นคนจัดใส่กระเป๋าเองกับมือขึ้น แล้วลูบไล้เบาๆ พิมพ์รพีพรเริ่มหายใจติดขัดกับสัมผัสแผ่วเบานั้น“รักไหม บอกหน่อย”เสียงทุ้มกระซิบถามชิดใบหูเล็ก“ไม่รักจะหึงทำไมล่ะ”เสียงหวานที่ตอบไปนั้นสั่นพร่า ปลัดเมฆาจับพลิกร่างบางขึ้นทาบทับบนร่างตัวเอง“พี่เมฆ! นอนได้แล้ว ขับรถทั้งวันไม่เหนื่อยหรือไง”“ไม่เหนื่อยสักนิด ทำอะไรได้อีกตั้งหลายท่า เอ๊ย!หลายอย่าง” พิมพ์รพีพรทุบอกกว้างของสามี เธอแนบหน้าอยู่ที่อกข้างซ้ายของเขา เสียงหัวใจเต้นแรงเป็นจังหวะ มันอบอุ่นเหลือเกินคนไม่เหนื่อยปรนเปรอคนหึงด้วยบทรักเร่าร้อน เสียงบอกรักกันและกันหวานยิ่งนัก ก่อนที่ทั้งคู่จะหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน ด้วยความรู้สึกอิ่มเอมในหัวใจพิมพ์รพีพรพาตัวเองเดินตามกลิ่นหอมของอาหาร
“อื๊อ!...พี่เมฆ” ปลัดเมฆาส่ายศีรษะก้มๆเงยๆอยู่ตรงกลางกายของภรรยา หญิงสาวแหงนเงยหน้าครางเสียงหวานเป็นระยะ หยาดน้ำหวานที่ไหลเยิ้มออกมาถูกลิ้นสากป่ายตวัดดูดกินลงท้องจนหมดสิ้น ปลายลิ้นรัวเร่งยอดติ่งอ่อนไหวที่ไวต่อสัมผัส ปลัดเมฆารัวลิ้นเร็วเร่งเร้า จนพิมพ์รพีพรเกร็งร่างสะท้านเฮือกอย่างสุขสมปลัดเมฆาเงยหน้ามองใบหน้างามที่แดงระเรื่อ พิมพ์รพีพรหอบใจเร็ว ดวงตาปรือปรอยฉาบไปด้วยความสุขสม ชายหนุ่มยืนขึ้นเต็มความสูง เขาจับเท้าเล็กวางห่างกันที่ขอบโต๊ะ แทรกตัวเองเข้าไปตรงกลาง“พิมพ์จ๋า ขอพี่กินอีกครั้งนะ”พิมพ์รพีพรสบสายตาสามียั่วยวนปลัดเมฆายิ้มใส่ดวงตาคู่สวย เขาดึงรั้งกางเกงนอนลง มือใหญ่สองข้างวางทาบลงบนโต๊ะข้างพิมพ์รพีพร หญิงสาวค้ำยันมือไปด้านหลังรอรับแรงของสามีที่จะส่งเข้ามา สะโพกสอบส่ายช้าๆเพื่อบดเบียดตัวตนแข็งแกร่งของตนเข้าในร่องรักนุ่มลื่น“อืม...พิมพ์จ๋าอุ่นจัง พี่รักพิมพ์ที่สุด”“พิมพ์รักพี่เมฆค่ะ” เสียงหวานที่กระเส่าสั่น ทำให้ปลัดเมฆาเพิ่มแรงในการขยับสะโพก ส่งตัวตนเข้าไปจนลึกสุดทาง หัวใจสองดวงเต้นรัวแรงแทบปะทุออกมา เมื่อความเสียวกระสันใกล้จะระเบิ
“พอกันเลยพี่น้องคู่นี้ ไม่มีใครยอมใคร”ย่าพรเอ่ยขึ้นอย่างระอา“ก็พี่พีว่าพิมพ์ก่อนนะย่า”คนเป็นน้องแลบลิ้นใส่พี่ชายหลังพูดจบ“อ้าว!...ก็เห็นงอแงไม่อยากแต่ง นึกว่าแต่งไปแล้วจะรีบหย่า ก็เลยถามด้วยความเป็นห่วง” พีรพลยังไม่ยอมน้องสาว“ทีตัวเองล่ะ...”“พอๆ มาเหนื่อยๆจะมาเถียงกันทำไมฮึ!” รองพลรัตน์ห้ามทัพไว้ พิมพ์รพีพรค้อนขวับให้พี่ชายตนเอง“พิมพ์มาหาแม่หน่อยลูก” พิมพ์รพีพรคลานไปนั่งที่พื้นข้างคุณนายเฟื่องฟ้า หญิงสาวซบหน้าลงกับตักมารดา ลำแขนกลมกลึงกอดเอวมารดาออดอ้อน“เป็นไงบ้างพิมพ์ ปลัดเมฆดูแลพิมพ์ดีหรือเปล่าลูก” สองมือที่เลี้ยงดูลูกมาแต่อ้อนแต่ออก ลูบศีรษะลูกสาวคนเล็กอย่างห่วงใย“ค่ะแม่” ทุกคนต่างอมยิ้มกับภาพของสองแม่ลูก“แม่ดีใจที่ไว้ใจคนไม่ผิด วันนี้โทรบอกปลัดเมฆมาทานข้าวเย็นที่บ้านเรานะ จะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา” พิมพ์รพีพรยิ้มหวานกับตักนุ่มที่คุ้นเคย“ค่ะแม่ พิมพ์บอกพี่เมฆไปตั้งแต่เมื่อเช้า ที่คุณแม่โทรมาบอกว่าจะมาแล้วค่ะ” ขณะที่พิมพ์รพีพรเอียงแก้มซบอยู่กับตักมารดา ทุกคนต่างยิ้มให้กันอย่างโล่งใจ
“อื้ม...รู้ใจจังนะ” พีรพลเงยหน้าขึ้นจากอกอวบที่เขาหลงใหลนักหนา แล้วลากลิ้นสากไล้ไปตามลำคอระหงก่อนจะเลียไปตามหูเล็กเบาๆ นิชาเบี่ยงหน้าจ่อริมฝีปากบางชิดใบหูของสามี เสียงกระซิบของภรรยาที่แหบพร่าทำให้พีรพลใจเต้นแรง บางทีคำพูดแบบดิบๆและตรงๆระหว่างเส้นทางเดินการร่วมรัก ที่เอ่ยออกมาให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน ก็กระตุ้นอารมณ์ให้เตลิดไปไกลได้อย่างน่าตื่นเต้น พีรพลคลี่ยิ้มกับสิ่งที่ภรรยากระซิบบอก“ทำให้แล้วอย่าร้องเสียงดังนะ หึๆ” นิชายิ้มเขิน กอดกระชับร่างแกร่งแนบแน่น พีรพลกดความแข็งแกร่งลงในร่องรักอุ่นลื่นกระแทกแรงครั้งเดียว ขาเรียวยกขึ้นโอบรัดรอบเอวของสามีทันที ร่างแกร่งกำยังถาโถมแรงทั้งหมดที่มีด้วยจังหวะเร่าร้อนรุนแรง คนใต้ร่างสะบัดเสยรับอย่างไม่ยอมแพ้ เสียงครวญครางอาจจะดังก้องจนน่าตกใจ หากพีรพลไม่ประกบปากจูบดูดซับเสียงครางหวานเอาไว้ ลำกายแกร่งที่ขยับเข้าออกสร้างความเสียวสะท้านจนนิชา ต้องจิกมือบกลงแผ่นหลังสามีเพื่อระบายอารมณ์เสียวนั้น หญิงสาวไขว่คว้าถึงความสุขสมได้ในไม่ช้า แต่คนบนร่างยังกระหน่ำโจนจ้วงด้วยแรงเท่าเดิมไม่อ่อนแรงลงสักนิด“อา...อีกครั้งพร้อมกันนะ” พีรพลผละออกจากริมฝ
“เดินไหวไหมพิมพ์” ปลัดเมฆาถือตะกร้าเดินตามหลังภรรยาไปตามแปลงผัก พิมพ์รพีพรหันมามองสามีด้วยสายตาคาดโทษ ก็เมื่อคืนกว่าจะได้นอนเขาเล่นเก็บสถิติจนเธอเมื่อยล้าไปทั้งตัวจนต้องตื่นสาย คนถามยิ้มกว้างอย่างล้อเลียน เลยได้ค้อนวงใหญ่มาหนึ่งที หญิงสาวหันไปมองคนงานที่กำลังทำงานกันอยู่“จำปาเป็นไงบ้างนายลั่น” พิมพ์รพีพรถามนายลั่นที่กำลังพรวนดิน นายลั่นลุกขึ้นถอดหมวกออกแล้วยิ้มให้พิมพ์รพีพร“ดีขึ้นมากแล้วครับคุณพิมพ์ ขอบคุณมากนะครับ” นายลั่นยกมือไหว้พิมพ์รพีพร หญิงสาวรับไหว้“ดีแล้ว ถ้าหายดีแล้ว ให้จำปาไปช่วยงานแพ็คผักช่วยป้าสมใจอย่างเดียวเลยนะ ไม่ต้องมาทำงานในแปลงแล้ว”“ครับ คุณพิมพ์” นายลั่นรับคำแล้วนั่งลงทำงานต่อ ปลัดเมฆาเดินยิ้มตามหลังภรรยาต้อยๆพิมพ์รพีพรเดินตรวจความเรียบร้อยของบ้านนาเปี่ยมรักไปเรื่อย เมื่อเดินเข้าสู่บริเวณสวนที่มีต้นไม่ใหญ่ขึ้นเรียงรายอยู่ ปลัดเมฆาก็สาวเท้าเร็วเดินคู่หญิงสาว มือใหญ่คว้ามือเล็กไว้ แล้วสอดนิ้วเข้าไประหว่างนิ้วเรียวเล็ก เขาฉวยโอกาสยกมือเล็กหอมกรุ่นขึ้นมาดอมดมฟอดใหญ่“พี่เมฆ! ทำอะไรน่ะ เดี๋ยวคนอื่นก็เห็นห
“สิน...ไอ้สิน” ภูชิตตะโกนเรียกลูกน้อง เพราะรู้ดีว่าเหล่าลูกน้องที่ติดตามเขา ต้องคอยดูและระวังความปลอดภัยให้เขาอยู่ใกล้ๆ“ครับนาย” นายสินวิ่งเร็วมาถึงหน้าเรือนไม้ ยืนเอามือกุมเป้าก้มหน้ารอฟังคำสั่ง“ไปซื้อยาลดไข้ชนิดน้ำมาให้หน่อย” ลูกน้องตัวโตทำหน้างงแปลกใจ ภูชิตจึงตวาดเสียงดัง“แกจะทำหน้างงทำไม สั่งอะไรก็ไปซื้อมาสิ”“ครับนาย ว่าแต่วันนี้นายจะเข้าไปดูในไร่ไหมครับ ผมจะได้ให้ไอ้อ๋องมันมาขับรถให้”“วันนี้คงไม่ไปไหน จะไปทำอะไรกันก็ไปเถอะ” ภูชิตพูดจบก็เดินเข้าบ้านไป ปล่อยให้ลูกน้องเกาหัวแกรกๆ ปกติแล้วภูชิตจะออกสำรวจไร่ทุกวัน ‘ไร่ภูชิต’ปลูกพืชไร่หลายชนิด ไม่เคยมีสักวันที่ผู้เป็นนายจะไม่ออกไปตรวจไร่ เพราะชายหนุ่มจะมุ่งมั่นกับการทำงานให้ออกมาดีที่สุด และมักจะควบคุมการทำงานทุกอย่างด้วยตัวเอง หากแต่ตอนนี้ผู้เป็นนายกลับมีบางอย่างที่รั้งให้เขาอยากอยู่กับบ้าน มากกว่าการออกไปตรวจงานไร่อย่างที่เคยเป็น“คุณน้ำ...ลุกมาทานยาเถอะจ้ะ” นางแตงอ่อนปลุกน่านน้ำในตอนเที่ยงเกือบบ่ายโมง หญิงสาวปรือตามองอย่างลำบาก แต่การที่ได้นอนหลับพักผ่อนมาตลอดช่วงเช้า และได้รับการเช็ด
ภูชิตสะบัดศีรษะไล่ความคิดติดเรทออกจากสมองตัวเอง เขายืนขึ้นเต็มความสูงร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตร แล้วก้มมองสภาพเปียกปอนของตัวเอง และหันไปมองคนบนเตียง เสื้อนอนลายคิดตี้สีชมพูเปียกแนบไปกับอกอวบ เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าคิตตี้เป็นอะไรที่น่ารักมาก ยิ่งตอนนี้ที่มันสะท้อนขึ้นลงตามจังหวะลมหายใจของคนที่สวมใส่อยู่ คิตตี้ช่างเป็นอะไรที่น่าค้นหาจริงๆยาก็กินไม่ได้ ตัวก็ร้อนจี๋ วิธีเดียวที่จะลดอุณหภูมิในตัวคนไข้ได้ ก็คงเป็นการเช็ดตัวสินะภูชิตกลับเข้ามาในห้องของน่านน้ำอีกครั้งในชุดใหม่ พร้อมกับกะละมังใบเล็กและผ้าขนหนู ชายหนุ่มยืนมองร่างของคนบนเตียงแล้วถอนหายใจ เขาวางกะละมังไว้บนโต๊ะข้างหัวเตียง ร่างสูงนั่งลงบนเตียงชิดร่างของหญิงสาว“ผมจะเช็ดตัวให้นะ ไม่ได้คิดอะไรจริงๆนะ” บุรุษพยาบาลจำเป็นเอ่ยขึ้นเพื่อเตือนสติตัวเอง มากกว่าที่จะบอกคนไข้ที่นอนอยู่บนเตียง มือใหญ่ดึงผ้าห่มผืนใหญ่คลุมร่างเล็กจนถึงคอ ก่อนจะค่อยๆคลำเข้าไปใต้ผ้าห่ม แกะกระดุมเสื้อนอนทีละเม็ด แล้วค่อยๆพลิกร่างใต้ผ้าห่มดึงเสื้อนอนออก“ชิ้นที่หนึ่ง” เสื้ออุ่นๆที่อยู่ในมือทำให้ภูชิตอดไม่ได้ที่จะยกขึ้นอย่างกล้า
“เงียบจัง” น่านน้ำในชุดนอนกางเกงขายาวเสื้อแขนยาวลายคิตตี้สีชมพู นั่งกอดหมอนใบใหญ่บนเตียงกว้าง บรรยากาศบ้านไร่ช่างวังเวงน่ากลัวจริง ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มืดไปหมด หญิงสาวถอนหายใจเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ในวันนี้ มือบางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แต่พอเหลือบดูเวลาแล้ว หญิงสาวก็ได้แต่นั่งตาละห้อย“ดึกป่านนี้หลับกันหมดแล้วล่ะ เฮ้อ!” น่านน้ำเอนตัวลงนอน กว่าเธอจะข่มตาหลับได้ก็ใช้เวลานานนักหนา ทำให้แปดนาฬิกาในวันแรกของการทำงาน น่านน้ำยังคงนอนหลับไม่รู้สึกตัว เนื่องจากการเดินทางไกลและมาเจอสภาพอากาศที่ค่อนข้างเย็น ซึ่งแตกต่างจากอากาศในเมืองหลวง ทำให้ร่างกายของเธอปรับสภาพไม่ทัน หญิงสาวจึงเข้าสู่โหมดไข้สูงและตัวร้อนจี๋ก๊อกๆ“คุณน่านน้ำ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อน แล้วตามด้วยเสียงทุ้มตามมา น่านน้ำพยายามปรือตาขึ้น แต่ทำไมหนังตาเธอมันถึงหนักอึ้งอย่างนี้ หญิงสาวไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะพาร่างตัวเองลงจากเตียงเลยภูชิตขมวดคิ้วมุ่น เขาเคาะประตูอีกครั้ง หากแต่ไม่มีเสียงตอบรับจากคนที่อยู่ข้างใน ชายหนุ่มจึงตัดสินใจกลับไปที่ห้องตนเอง หยิบกุญแจสำรองมาไขกุยแจเปิดประตูห้องออก
“นอนบนเรือนใหญ่” หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่นกับคำตอบสั้นๆที่ได้รับ“แล้วใครอยู่บนเรือนใหญ่บ้างคะ” เธอยังซักไซ้ต่อด้วยความอยากรู้“คุณกับคุณภูชิต” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงติดรำคาญ น่านน้ำพอจะฟังออก หญิงสาวจึงเลือกที่จะเงียบ ใบหน้าเรียบเฉยที่ดูเคร่งขรึมตลอดเวลา ดวงตาสีน้ำตาลเข้มฉายแววเด็ดเดี่ยว ประกอบกับเคราเขียวครึ้มบนใบหน้า ทำให้น่านน้ำแอบกลัวเขาอยู่นิดๆ แต่ก็รู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด เธอเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อนหรือเปล่านะรถคันใหญ่แล่นเข้าสู่บริเวณไร่ภูชิต ตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว ความมืดปกคลุมไปทั่วบริเวณ แต่เมื่อรถแล่นเข้าใกล้บ้านไม้สไตล์รีสอร์ทหลังใหญ่ ก็มีแสงสว่างจากตัวบ้านและดวงไฟจากบริเวณรอบๆบ้าน ไม่ได้ดูมืดมิดเหมือนตลอดทางที่นั่งรถผ่านมา น่านน้ำเปิดประตูลงจากรถพร้อมๆกับคนขับ หญิงสาวมองไปรอบๆ“เข้าบ้านกันเถอะคุณน่านน้ำ อากาศเย็นหมอกลงจัด เดี๋ยวคุณจะไม่สบายเอาได้” น่านน้ำวิ่งตามคนที่ถือกระเป๋าของเธอเดินนำหน้าไปทางตัวบ้านก่อนแล้ว
“ฉันอกหัก ฉันอยู่กรุงเทพไม่ได้แล้ว ฉันจะออกไปจากที่ตรงนี้ ฉันจะออกไปแตะขอบฟ้า” คำพร่ำพรรณนาของเพื่อนรักพรั่งพรูออกมาพร้อมเสียงสะอื้นโวยวาย ทำให้ไอรักคุณแม่ท้องแก่ที่กำลังอุ้มท้องลูกสาวคนแรก ซึ่งมีอายุครรภ์เกือบแปดเดือนขมวดคิ้วผูกโบ อกหัก? คือเท่าที่รู้น่านน้ำเพื่อนรักยังไม่เคยมีแฟนเลยไม่ใช่หรือ “เอ่อ...น้ำ แกใจเย็นๆนะ แกอกหักจากใครเหรอ” “บอสไงแก ฉันเฝ้าถนอมตามรักมาตั้งหลายเดือน แล้วนี่อยู่ดีๆบอส ก็มาประกาศปาวๆว่ากำลังจะแต่งงาน กับแฟนสาวที่คบกันมาตั้งแต่สมัยไปเรียนอยู่อังกฤษ ฉัน...ฉันรับม่ายด้าย นี่ไงแก...นี่ไง...การ์ดยังอยู่ในมือฉันอยู่เลย นี่ไง...ฮือๆ” น่านน้ำยังคงโวยวายระบายความในใจกับเพื่อนรัก ไอรักเป็นเพื่อนรักกลุ่มเดียวกัน หลังจากเรียนจบไอรักก็แต่งงานทันที แต่ความเป็นเพื่อนรักทำให้ยังติดต่อกันอยู่ “แล้วยายพิมพ์รู้เรื่องนี้หรือยัง” ไอรักถามหาพิมพ์รพีพรเพื่อนรักในกลุ่มอีกคน “ยัง...ยายพิมพ์เพิ่งแต่งงาน ฉันไม่อยากรบกวนเวลาสวีตมัน...ฮึกๆ” เสียงสะอื้นยังคงด
“อา...พิมพ์จ๋า พี่รักพิมพ์นะ” “พิมพ์ก็รักพี่เมฆค่ะ” พิมพ์รพีพรหลับตาลงยิ้มด้วยความสุข สักครู่เดียว ร่างเล็กก็ถูกพาเอนตัวลงบนที่นอนนุ่ม ปลัดเมฆาทอดกายลงมาเคียงข้างด้านหลัง วงแขนแกร่งกอดกระชับเอวคอดแน่น ริมฝีปากหยักได้รูปกดลงที่เรือนผมนุ่มหอมแรงๆ “อืม...ยังไม่หายคิดถึงเลย” พิมพ์รพีพรหยิกลงบนหลังมือใหญ่ ที่ลูบวนแถวหน้าท้องแบนราบของตน “หื่นเกินไปแล้วค่ะ” คำต่อว่าของภรรยาทำให้ปลัดเมฆาอมยิ้ม จมูกโด่งกดลงที่ต้นคอขาวด้านหลัง พิมพ์รพีพรหดคอลงส่งเสียงอู้อี้ เพราะเหนื่อยเต็มที “อีกครั้งนะ นะๆ” ก่อนที่พิมพ์รพีพรจะได้ปฏิเสธ มือใหญ่ก็จับท่อนขาเรียวเธอยกขึ้นไปพาดไว้บนสะโพกตนเอง แล้วแทรกตัวตนเข้ามาในร่องรักที่ฉ่ำแฉะอยู่แล้ว “อ๊ะ...พี่เมฆ” ปลัดเมฆารัวสะโพกเร็วโดยที่พิมพ์รพีพรไม่ทันตั้งตัว นิ้วเรียวใหญ่กดบดบี้ติ่งกลางกายสาวซ้ำ คนถูกจู่โจมได้แต่ถอนใจ มือเล็กข้างหนึ่งเกาะเกี่ยวหมอนที่หนุนอยู่ อีกข้างจิกลงบนท่อนแขนแกร่งที่กอดรัดเอวตัวเองไว้ “อย
“พิมพ์จ๋า อย่าทรมานพี่อย่างนี้” พิมพ์รพีพรคลี่ยิ้มหวาน มือเล็กไขว้ลงดึงรั้งชุดนอนเซ็กซี่ดึงออกทางศีรษะ หน้าอกอวบอิ่มดีดเด้งยั่วสายตาคนมองทันที เพราะหญิงสาวไม่ได้ใส่ชั้นใน พิมพ์รพีพรเตรียมพร้อมอยู่แล้ว เธอก็ต้องการสามีไม่ได้แตกต่างกันกับเขา กลีบดอกไม้บานฉ่ำชิดอยู่หน้าท้องแกร่ง มือใหญ่ถูกมือเล็กจับขึ้นมาสัมผัสหน้าอกอวบอย่างเย้ายวน ปลัดเมฆากอบกุมเคล้นคลึงอย่างหนักหน่วงด้วยอารมณ์ร้อนรุ่มยิ่งนัก“อา...พิมพ์” ปลัดเมฆาครางกระเส่า เมื่อพิมพ์รพีพรโหย่งตัวขึ้นแล้วจดจ่อร่องดอกไม้อุ่นลื่นเข้ากับปลายลำแข็งขัน มือเล็กทั้งสองข้างยันหน้าอกแกร่งไว้ สะโพกมนกดลงช้าๆค่อยๆครอบครองตัวตนของสามีไว้ทุกทิศทาง“อืม...พี่เมฆ อ๊ะ!” เมื่อใกล้สุดทางลำรักร้อน ปลัดเมฆาเสยสะโพกขึ้นกระแทกแรง พิมพ์รพีพรจึงต้องอุทานออกมาด้วยความเสียวซ่าน ใบหน้างามแหงนเงย ปากเล็กพ่นลมออกเบาๆ“พิมพ์น่ารักที่สุด อา...” มือใหญ่บีบคลึงเนื้อสะโพกหนั่นแน่น สลับกับการเคล้นคลึงหน้าอกอวบสร้างความเสียวกระสันในคนคุมเกมด้านบน พิมพ์รพีพรขยับสะโพกรัว กระแทกลงรุนแรง ปลัดเมฆาเสยสะโพกรับสอดประสาน สร้างกระแสความวาบหวามกระจายอยู่รอบตั
“แกพักผ่อนเถอะพิมพ์ เดินทางมาคงเหนื่อย เดี๋ยวฉันไปจัดการพี่ธีร์ก่อน ดึกแล้วน่าจะพอได้แล้ว” ไอรักเดินออกจากห้องเพื่อนตรงไปที่ระเบียงกว้างทันที“พี่ธีร์ขา” ไอรักเรียกเสียงออดอ้อน ธีร์ภาณุหันไปตามเสียง ปลัดเมฆาก็หันตามยิ้มๆ ถึงปากจะบอกว่าอนุญาตให้เมาเต็มที่ แต่เธอง่วงแล้ว และก็ไม่อยากนอนคนเดียว“ครับ...หนูไอ” ปลัดเมฆาดูสองสามีภรรยาส่งยิ้มหวานให้กันแล้ว ชักรู้สึกว่าตัวเองเป็นก้าง“เอิ่ม...ขอตัวไปดูภรรยาก่อนล่ะนะ” ปลัดเมฆารีบลุกจากเก้าอี้ ที่จริงเขาอยากนอนกอดร่างนุ่มนิ่มมากกว่าที่จะมานั่งดื่มกับธีร์ภาณุ แต่นานๆเจอกันที เขาเองก็ไม่อยากเสียมารยาทกับเพื่อน“ตามสบายเพื่อน” ธีร์ภาณุเอ่ยตามหลังปลัดเมฆาไป ไอรักเดินยิ้มหวานเข้าใกล้สามี“ดื่มไปกี่แก้วคะ” เอาเข้าจริงไอรักก็ไม่ค่อยชอบให้สามีดื่มเท่าไร เพราะมันไม่ได้ดีต่อสุขภาพเลย“ไม่เท่าไรครับ ยังฟิต เตะปี๊บดังทั้งคืน”ร่างของไอรักถูกรวบให้นั่งลงบนตักแกร่งของสามี หญิงสาวเอนศีรษะซบไปกับแผงอกกว้างอย่างวางใจ“คนเรานี่ก็แปลกนะคะพี่ธีร์ ไม่ถูกชะตากันตั้งแต่วันแรก แต่กลับมาลงเอยเป็นคู่กันอย่างพี่เม
พิมพ์รพีพรและปลัดเมฆานัดกันไว้แล้ว ว่าจะไปเยี่ยมไอรักที่กำลังตั้งท้องเกือบสี่เดือนแล้ว ตามคำชวนของธีร์ภาณุ ที่ต้องการเลี้ยงฉลองการสละโสด กับปลัดเมฆาซึ่งเป็นเพื่อนรักกัน แต่ธีร์ภาณุไม่ได้มาร่วมงานแต่งของเพื่อน ไอรักซึ่งเป็นเพื่อนรักในกลุ่มเดียวกันกับพิมพ์รพีพร ก็อยากจะคุยกับเพื่อนสาว อยากรู้ว่าจับพลัดจับผลูอย่างไร ถึงลงเอยด้วยการแต่งงานกับคนที่ไม่ชอบหน้ากันตั้งแต่เจอหน้ากันในครั้งแรก พิมพ์รพีพรโทรศัพท์ไปชวนน่านน้ำเพื่อนซี้ร่วมกลุ่มแล้ว แต่น่านน้ำปฏิเสธ เนื่องจากกำลังเร่งทำคะแนนกับบอสสุดหล่อ ที่น่านน้ำหลงรักอย่างหัวปักหัวปำอยู่เมื่อรถของปลัดเมฆาแล่นเข้ามาจอด ภายในบริเวณหน้าบ้านไม้หลังใหญ่สไตล์รีสอร์ตสองชั้น ที่เพิ่งปลูกใหม่อยู่กลางไร่แสงตะวัน ไอรักอยู่ในชุดคลุมท้องสีหวานยืนขึ้นจากเก้าอี้โยกตัวโปรด หญิงสาวยิ้มกว้าง เมื่อเห็นเพื่อนรักเดินลงมาจากรถ พิมพ์รพีพรเดินเร็วแทบจะเป็นวิ่ง ตรงเข้าหาเพื่อนรัก สองสาวกอดกันกลมด้วยความคิดถึง“คิดถึงหนูไอจัง เป็นไงบ้าง ไหนดูซิคุณแม่คนสวยท้องโตแค่ไหนแล้ว” พิมพ์รพีพรผละออกจากไอรัก แล้วมองร่างของเพื่อนตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า สองสาวสบตากันหัวเรา