พลอยไพลินกอดเกี่ยวลำคอแกร่งไว้ หญิงสาวหลับตาปี๋ เม้มปากแน่น ซุกหน้าอยู่กับอกกว้าง สองขางอตรงข้อพับ ปลายเท้าชี้สูง แยกกว้างให้ร่างสูงได้ยืนอยู่ตรงกลาง
“เกี่ยวเอวพี่ไว้ทูนหัว” แม่ทูนหัวของวาโยรีบทำตามคำสั่งอย่างไม่อิดออด
“เราต้องทำเวลา พี่รีบ พี่มีประชุม” ดูเหมือนวาโยจะเพิ่งนึกได้ว่าเขามีประชุม ชายหนุ่มพรูลมหายใจออกมายืดยาว จับตัวตนแข็งคึกแนบลงตรงกลางรอยปริแยกกลางกายสาว เขาถูไถเนิบช้า ส่วนปลายถูครูดติ่งเนื้อนุ่มทุกครั้งที่โยกสะโพกเสือกไสไปด้านหน้า เสียงหวานครางกระเส่า เร่งเร้าให้อารมณ์หนุ่มให้พุ่งพรวดพราด จนใกล้จะทะลุขีดความอดกลั้นอยู่รอมร่อ
“พี่โยขา...อืม...” สะโพกสาวบิดส่าย ไฟราคะโหมกระพือขึ้นอีกครั้ง
“เต็นจ๋า...” วาโยขบกรามแน่น หักห้ามใจไม่ให้รักเธอตั้งแต่ต้นว่ายากแล้ว และในที่สุดเขาก็ทำไม่ได้ นี่จะต้องมาหักห้ามใจ ไม่ครอบครองเธอก่อนเวลาอันควรอีก เขาจะทำได้ไหม จะอดทนได้แค่ไหนกัน
“พี่โย พี่โย...” พลอยไพลินกอดคอเขาไว้แน่น สายรุ้งสีสวยก่อตัวขึ้นรอบกายเธออีกครั้ง มันพร่างพรายวิบวับ เย้ายวนชวนให้เธอไขว่คว้าไปให้ถึง หญิงสาวแอ่นกระดกสะโพกขึ้น เกร็งกายรับก
วาโยดับเครื่องยนต์แล้วลงจากรถเดินมาหาน้อง เขาใช้หลังมืออังหน้าผากมน และแตะแก้มเนียนเบาๆด้วยความเป็นห่วง“หลับตลอดทางเลย ไม่สบายหรือเปล่าครับ”พลอยไพลินส่ายหน้า ยิ้มน้อยๆให้คนที่เอาใจใส่เธอ“เปล่าค่ะ เต็นแค่รู้สึกเพลียนิดหน่อย”“นี่แค่ซ้อมนะครับ ถ้าลงสนามจริงจะไหวไหมเรา หืม...”“พี่โย!” พลอยไพลินมองค้อนคนขี้ล้อ ก็เขาเองไม่ใช่เหรอที่ทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพไร้เรี่ยวแรงแบบนี้ แล้วยังจะมีหน้ามาล้อเธออีก“เต็นแค่เหนื่อยเพราะเดินตากแดดไปนั่งรถไฟฟ้า แล้วไหนจะต้องเดินจากสถานีไปที่ตึกพี่โยอีก อากาศก็ร้อนด้วย ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเรื่องนั้นเลย”“เรื่องนั้นคือเรื่องไหนหรือครับ” วาโยโน้มใบหน้าลงกระซิบถามเบาๆ คนที่พลาดท่าเอ่ยถึงเรื่องที่ร้อนกว่าอากาศยามบ่ายเอามือปิดปาก มองคนยิ้มล้อเลียนตรงหน้าด้วยสายตางอนๆ“ว่าไงครับ เรื่องไหนน้า จะใช่เรื่องเดียวกับที่พี่คิดอยู่หรือเปล่า”“เต็นไม่พูดกับพี่โยแล้ว” น้ำเสียงหยอกเย้าของชายหนุ่ม ทำให้พลอยไพลินค้อนวงใหญ่ให้เขา หญิงสาวเดินหนีคนขี้ล้อเข้าบ้านไปก่อน วาโยมองตามด้วยสายตาหวานเชื่อม เขายิ้มกว้างอย่า
แม่กระแตมองลูกสาวด้วยสายตาเอ็นดู เพราะเข้าใจรักวัยหนุ่มสาวซึ่งตัวเองเคยผ่านช่วงวัยนั้นมาก่อนแล้ว พี่กระต่ายน้อยส่ายหน้ายิ้มๆให้กับการพลาดในครั้งนี้ของน้องสาว คู่หมั้นหอมแก้มกัน เรื่องธรรมดามากสำหรับเพลย์บอยอย่างเขา ส่วนยัยตัวจุ้นยิ้มกว้าง มองพี่สาวด้วยสายตาล้อเลียน “เอ่อ...เต็นเหนียวตัวจัง ขอตัวขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะคะ” พลอยไพลินอับจนข้อแก้ตัวใดๆ เพราะเธอเป็นจำเลยที่สารภาพผิดโดยไม่มีใครซักฟอก หญิงสาวรีบหมุนตัวเดินออกมาจากพื้นที่น่าอาย แล้วรีบวิ่งขึ้นบันไดไปด้วยความรู้สึกเขินอายพ่อแม่พี่น้องทั้งบ้าน วาโยขับรถไปจอดที่บริษัท เพื่อเปลี่ยนไปขึ้นรถอีกคันที่คนของเขาสตาร์ตเครื่องไว้รอ และเตรียมอาวุธไว้พร้อมมือรอท่าอยู่ก่อนแล้ว “พวกมันมีห้าคนครับ ตำรวจยังตามไม่เจอ แต่ข่าววงในแจ้งมาว่า ตำรวจเจอตอเสียก่อน จึงถอยกลับไปจัดกระบวนทัพใหม่” วัลลภรีบรายงานเพิ่มเติมทันที เมื่อเจ้านายลงมาจากรถ “ใคร” วาโยเอ่ยถาม สีหน้าเคร่งขรึม เขาแกะกระดุมแขนเส
เพราะไม่ทันระวังตัว วาโยจึงโดนยิงเข้าที่หัวไหล่หนึ่งนัด ลูกน้องของเขารีบดันตัวเจ้านายเข้าไปในรถ แล้วปิดประตูทันทีคนที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ฟังเพียงนัดเดียวก็รู้ว่าต้นเสียงของกระสุนดังมาจากทางไหน นี่มันยิงรัวตั้งหลายนัด จึงไม่ยากเลยที่จะหาที่ที่มันแอบซุ่มอยู่ ชายหนุ่มสองคนย่อตัวลงนั่งคอยยิงคุ้มกันเจ้านาย หนึ่งในสองคนรีบแจ้งสถานการณ์ข้างนอก และบอกตำแหน่งของคนร้ายผ่านเครื่องมือสื่อสารที่ติดไว้ข้างหูให้คนอื่นได้รับทราบ ไม่นานนักเสียงปืนที่สาดมาทางรถที่พวกเขานั่งคุ้มกันอยู่ก็เงียบเสียงลงวัลลภวิ่งเร็วตรงมายังรถยนต์คันที่เจ้านายนั่งอยู่ เขาเปิดประตูออกด้วยความร้อนใจ“คุณโยเป็นยังไงบ้างครับ”“ถูกยิงที่หัวไหล่ ไม่เป็นไรมาก” วาโยบอกเสียงราบเรียบเหมือนไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ ไม่เข้ากันกับเลือดที่ไหลทะลักจนเสื้อเชิ้ตสีขาวที่สวมใส่อยู่ชุ่มโชกและเปลี่ยนเป็นสีแดงฉานวงกว้าง“คุณโยไปโรงพยาบาลก่อนเถอะครับ ผมจะเก็บรายละเอียดที่นี่ให้เอง”“ฝากด้วยนะวัลลภ”“ครับ”ระหว่างเดินทางไปโรงพยาบาล วาโยโทรศัพท์บอกบิดาถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น คุณวาทิตตกใจเล็ก
“คุณหมอบอกว่าจะหายตอนไหนหรือคะ” ดวงตาคู่สวยหลุบมองตำแหน่งที่มือตัวเองแตะอยู่“แค่เห็นหน้าเต็นพี่ก็หายแล้วล่ะ” วาโยบอกยิ้มๆ“ชอบพูดเล่นอยู่เรื่อยเลย” พลอยไพลินอุบอิบว่าคนที่ชอบทำให้เธอเขิน ขนาดเจ็บตัวอยู่ก็ยังไม่วายหยอดให้เธอต้องหน้าแดง“เต็นจ๋า พี่อยากเข้าห้องน้ำ” วาโยขยับตัวจะลุกขึ้นจากเตียง คนตัวเล็กรีบเข้าช่วยพยุงคนตัวโตอย่างระมัดระวัง“เดินไหวไหมคะ” หญิงสาวถามด้วยความเป็นห่วง“เมื่อยขาจัง ช่วยพาพี่ไปหน่อย” คนเจ็บแขนแต่เมื่อยขาอ้อนน่าสงสารพลอยไพลินจึงช้อนแขนข้างที่ไม่เจ็บวางบนบ่าบอบบางของตน ช่วยพยุงเขาเดินไปยังห้องน้ำ หญิงสาวเข็นเสาน้ำเกลือตามเข้าไปด้วย เมื่อส่งเขาถึงในห้องน้ำแล้ว เธอก็ปล่อยให้เขาทำธุระส่วนตัว แต่ยังยืนรออยู่หน้าห้องน้ำ เผื่อว่าเขาต้องการอะไรเธอจะได้หยิบจับหาให้“เต็นจ๋าช่วยพี่หน่อย” เสียงอ้อนหวานๆดังขึ้นหลังจากเสียงกดชักโครกเงียบลงครู่หนึ่ง พลอยไพลินแง้มประตูแล้วยื่นหน้าเข้าไปถามความต้องการของเขาอย่างใส่ใจ“พี่โยจะเอาอะไรหรือคะ”“พี่อยากโกนหนวด แล้วก็อยากแปรงฟัน”“เอ่อ...”“พี่เจ็บแขนข
พลอยไพลินรีบหันไปมองทางประตู แล้วเธอก็พบว่า ผู้มาใหม่ไม่ได้มาเพียงคนเดียว ครอบครัวของเธอมาพร้อมกับคุณลุงวาทิต ทุกคนมองมาที่เธอกับคนไข้เป็นจุดเดียว เจ้าของเสียงอุทานก็คือยัยกระติ๊บตัวจุ้นที่ตอนนี้ยืนเอามือทั้งสองปิดหน้า ทว่ากางนิ้วกว้าง เห็นลูกกะตาสองข้างวาววับอยู่ระหว่างนิ้ว“สวัสดีครับคุณน้า” วาโยกล่าวทักทายบิดามารดาของคู่หมั้น เขายกมือไหว้เท่าที่จะทำได้“เต็นครับ พี่หิวน้ำจังเลย ช่วยรินน้ำให้พี่หน่อยนะครับ”“เอ่อ...ค่ะ”วาโยหาทางออกให้คนขี้อาย เพราะขืนพากันยืนเงียบอยู่อย่างนี้ นกกระเต็นตัวน้อยของเขาคงอายจนเป็นลมแน่ๆเมื่อบรรยากาศผ่อนคลายลง เหล่าแขกผู้มาเยี่ยมก็แยกย้ายกันไปนั่งตามมุมสำหรับญาติผู้ป่วยในห้อง พลอยไพลินป้อนน้ำคนเจ็บแล้วเลี่ยงไปนั่งใกล้มารดา อาศัยอกอุ่นของท่านเป็นกำบังจากสายตาดุของบิดา และหลบจากสายตาล้อเลียนของคนอื่น แม่กระแตกอดลูกสาวไว้แนบอก ลูบศีรษะลูบหลังอย่างเอ็นดู“ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงใช่ไหมวาโย” พ่อเพชรเอ่ยถามเสียงเข้ม การบาดเจ็บของว่าที่ลูกเขยไม่ใช่เรื่องดีนัก คนเป็นพ่อห่วงว่าเรื่องราวจะลามปามมาถึงลูกสาว“ทุกอย่างเ
“ก็ได้ค่ะ เอาไว้พี่โยหายดีแล้ว เต็นจะไปเรียนกับพี่โยนะคะ”“พี่จะสอนเทคนิคดีๆให้ สอนทุกท่าแบบไม่มีหมกเม็ด”หน้าตาไม่น่าไว้วางใจของคนที่อยากจะสอนการต่อสู้ให้เธอทำให้พลอยไพลินดึงมือกลับแล้วถอยห่างจากเตียง“เต็นว่า เต็นไม่เรียนดีกว่า”“ไม่ได้ครับ เต็นต้องเรียน พี่สอนให้ฟรีไม่คิดตังค์”“แต่คิดค่าจ้างเป็นอย่างอื่นล่ะสิ” พลอยไพลินว่าอย่างรู้ทัน คนถูกรู้ทันยิ้มหวาน ชักอยากจะหายเจ็บวันนี้พรุ่งนี้เสียแล้ว เขาอยากสอนศิลปะการต่อสู้ให้น้อง สอนกันสองต่อสอง สอนกันตัวต่อตัวก๊อกๆเสียงประตูที่ดังขึ้นทำให้สองหนุ่มสาวหันไปมองพร้อมกัน พลอยไพลินขยับเท้าจะเดินไปเปิดประตู แต่คนที่เคาะก็เปิดประตูแล้วก้าวเข้ามาในห้องเสียก่อน“พี่โยขา” เจ้าของเสียงหวานก้าวเข้ามาในห้องพร้อมกับหอบช่อดอกไม้ช่อโตเข้ามาด้วยพลอยไพลินมองหญิงสาวด้วยความแปลกใจ เธอคุ้นหน้าผู้หญิงคนนี้ แต่จำไม่ได้ว่าเคยเจอที่ไหนวาโยเลิกคิ้วเข้มขึ้นสูง เขามองคนมาเยี่ยมด้วยสายตาสงสัยระคนแปลกใจ“มาได้ยังไงเนี่ย” วาโยพึมพำตกใจ เขาบอกให้ทุกคนปิดเรื่องที่เขาถูกยิงให้เป็นความลับ เ
“ไม่เอาแล้วค่ะ เดี๋ยวคนอื่นเข้ามาเห็นอีก เต็นอาย” พลอยไพลินขยับตัวออกห่างคนที่ทวงแต่จูบอยู่นั่นแหละ ทว่ามือแข็งแรงที่กุมมือเธอไว้ไม่ยอมปล่อยสักที หญิงสาวถอนหายใจแรง“พี่โย...” เสียงเรียกอย่างอ่อนอกอ่อนใจของน้องทำให้คนที่กุมมือนุ่มไว้ยิ้มกว้าง ท่าทางและน้ำเสียงแบบนี้น้องก็คงยอมเขาอีกตามเคยก๊อกๆ“ขออนุญาตนะคะ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นขัดจังหวะ ตามมาด้วยเสียงของนางพยาบาล ก่อนที่บานประตูจะเปิดออก นายแพทย์เจ้าของไข้เดินเข้ามาก่อน ตามมาด้วยนางพยาบาลสองคน“เป็นไงบ้างโย ยิ้มหน้าบานแบบนี้คงหายแล้วสินะ พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้วมั้ง” คุณหมอสูงวัยเอ่ยแซว เมื่อเห็นคนไข้หนุ่มกุมมือคนไข้สาวไว้ไม่ยอมปล่อย“ยังไม่อยากหายเลยครับ คนเฝ้าไข้น่ารัก ให้ผมอยู่ต่ออีกหลายๆวันก็ได้นะครับอาหมอ” วาโยบอกนายแพทย์สูงวัยซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับบิดา ท่านเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลแห่งนี้“เอางั้นเลยเหรอไอ้หลานชาย” คุณหมอว่าแล้วหัวเราะอย่างอารมณ์ดี“สวัสดีค่ะคุณหมอ” พลอยไพลินบิดมือออกจากการเกาะกุมของคนป่วยดื้อ ยกมือไหว้คุณหมอแล้วยิ้มให้ท่าน“สวัสดีจ้ะหนูเต็น ลำบากหน่อย
พลอยไพลินมองหน้าคนที่ยกสารพัดเหตุผลมาให้เธอทำตามใจเขา หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่“ก็ได้ค่ะ ปล่อยสิคะ เต็นจะเช็ดให้” พลอยไพลินยอมจำนนพ่อคนเหตุผลเยอะ หญิงสาวขยับเข้าใกล้คนเปลือยท่อนบน หลับตาปี๋ ทั้งเบี่ยงหน้าหนี ก่อนจะค่อยๆยื่นมือไปรูดกางเกงคนไข้ออกจากเอวสอบจนหลุดออกจากปลายเท้า มือบางรีบดึงผ้าห่มขึ้นคลุมท่อนล่างเปลือยเปล่าของคนตัวโต ก่อนหันกลับมามองอย่างกล้าๆกลัวๆพลอยไพลินถอนหายใจอย่างโล่งใจ เมื่อพบว่าไม่ต้องเผชิญหน้ากับบางอย่างของเขาที่เธอไม่ค่อยอยากเห็นเท่าไรวาโยยิ้มขัน มองท่าทีน้องด้วยความเอ็นดู สายตาคมวาวจับจ้องมือน้อยที่กำผ้าขนหนูไว้ค่อยๆเลื่อนหายไปใต้ผ้าห่ม หัวใจแกร่งเต้นระทึกเมื่อน้องค่อยๆเริ่มเช็ดหน้าท้องแล้วลากลงต่ำไปอีกนิดพลอยไพลินเม้มปากแน่น ชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเลื่อนมือลงไปยังจุดอันตรายช้าๆ หญิงสาวหลับตาแน่น ตัดสินใจเลื่อนมือลงไปรีบถูรีบเช็ดแล้วชักมือออกอย่างรวดเร็ว หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวแรง เพราะไม่ว่าจะทำเร็วแค่ไหน เธอก็สัมผัสได้ถึงความอลังการของมัน“เสร็จแล้วค่ะ” พลอยไพลินก้มหน้าบอก แล้วรีบเก็บเสื้อผ้าชุดเก่า ยกกะละมังเดินหนีไปห้อ
เรือนร่างสาวสวยสะพรั่งเปลือยเปล่าถูกอุ้มมาวางลงบนเตียงอย่างเบามือที่สุด คนอุ้มสวมเพียงผ้าเช็ดตัวพันเอวสอบอยู่ผืนเดียวถอยห่างไปทันที แต่ไม่ไวไปกว่ามือเรียวบางที่คว้าหมับกระตุกเอาชายผ้าเช็ดตัวหลุดติดมือไป จนเจ้าของผ้าเช็ดตัวต้องถลาตามไปดึงเอาไว้ด้วยความตกใจ แต่กลับพลาดสะดุดขาตัวเองล้มลงทาบทับกายเปลือยนุ่มนิ่มที่นอนหงายอยู่บนเตียงเสียเต็มเปา ยังดีที่เขายั้งตัวเองไว้ได้ทันด้วยการใช้ข้อศอกดันตัวเองไว้ ไม่ให้น้ำหนักตัวทุ่มลงไปบนตัวเธอทั้งหมด ไม่อย่างนั้นคนตัวเล็กอาจจะกระดูกหักก็เป็นได้“กระติ๊บ ทำอะไรของคุณฮึ!” พบรักว่าเสียงเข้มทว่าไม่มั่นคง“นอนๆ นอนด้วยกันค่ะ” พลอยชมพูว่าเสียงอู้อี้ แถมยังใช้สองแขนกอดรัดร่างเกือบเปลือยของคนที่คร่อมทับตัวเองอยู่ไว้แน่น“จะนอนก็นอนไป ปล่อยผม”“ไม่ปล่อย จุ๊บๆก่อนนะคะพี่ต่าย”พบรักถอนหายใจ พลอยชมพูคงเข้าใจว่าเขาเป็นพี่ชายของเธอ ชายหนุ่มจึงตัดใจหลับตาจุ๊บไปหนึ่งทีที่หน้าผากมน“ฝันดีนะคะ” พลอยชมพูว่าแล้วปล่อยวงแขนออก หญิงสาวหลับตาลงเอาดื้อๆ เป็นพบรักเสียเองที่เริ่มลังเลว่าจะลุกไปจากตรงนี้ทั้งที่มีโอกาสแล้วหรือไม่ เขาไ
“กระติ๊บ” พบรักเรียกคนที่ยังเมาไม่รู้เรื่อง หวังให้เธอได้สติสักน้อยนิดก็ยังดี เขาจะได้บอกให้เธอจัดการอาบน้ำทำความสะอาดตัวสักหน่อย ขืนปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ดีแน่“ขา...” พลอยชมพูเงยหน้าขึ้น ขานรับเสียงยานคางหวานจ๋อย ทว่าดวงตาคู่งามยังหลับพริ้ม ริมฝีปากอิ่มสวยคลี่ยิ้มหวานเย้ายวน“คุณควรอาบน้ำ” พบรักถอนหายใจ แล้วบอกคนที่ยืนอิงแนบอกตัวเองอยู่ ไม่ใช่เธอคนเดียวที่ควรอาบน้ำหรอก เขาก็ด้วย เพราะเปื้อนไปทั้งตัว ทั้งกลิ่นก็ชวนให้คลื่นเหียนอาเจียนออกมาสมทบกับเธอเหลือเกิน“ไม่อาบ จะนอนค่ะ” พลอยชมพูบอกแล้วซบหน้ากับอกกว้าง“ไม่อาบไม่ได้” พบรักบอกเสียงเข้ม จับบ่าของคนยืนโงนเงนดันตัวเธอออกห่าง“ไม่หวายยย...ง่วงค่ะ มึนหัวด้วย” พลอยชมพูส่ายหน้า โบกไม้โบกมือว่าไม่ไหวจริงๆพบรักถอนหายใจแรง ชักรำคาญยายเมรีขี้เมา ถ้ายังต่อล้อต่อเถียงกับเธออยู่นี่ เขาก็คงไม่ได้พักผ่อนสักที ชายหนุ่มจึงตัดสินใจดันร่างสาวไปยืนใต้ฝักบัว แล้วเปิดน้ำชำระล้างร่างกายเธอ ทว่าเมื่อคนเมาถูกสายน้ำรินรดตัวก็สะดุ้ง กระโดดเข้ามากอดเขาไว้แน่น“กระติ๊บ! ทำบ้าอะไรของคุณเนี่ย” พบรักอยากจะจับแม่ตั
“ถ้าบอกว่าไม่พอใช้ คุณพบจะเพิ่มเงินเดือนให้ติ๊บเหรอคะ” พลอยชมพูถามแล้วยิ้มกว้าง ตาเป็นประกาย“เปล่า จะบอกว่าไม่พอก็ต้องพอ”“โธ่! ก็นึกว่าจะใจดีให้เงินเดือนเพิ่ม” ใบหน้ายิ้มร่าเมื่อครู่หุบลงทันควัน“คนอื่นเขายังพอใช้เลย อยู่ที่นี่บ้านก็ไม่ต้องเช่า ข้าวก็ไม่ต้องซื้อ ผมไม่เห็นว่ากระติ๊บมีความจำเป็นต้องใช้เงินเลยนะ”“ผู้ชายก็งี้แหละ ไม่เข้าใจผู้หญิงเอาเสียเลย คุณพบรู้ไหมว่าผู้หญิงน่ะ เขามีของที่ต้องซื้อใช้ประจำเดือนเยอะแยะ”“ของใช้ประจำเดือน...หมายถึงผ้าอนามัยเหรอ มันก็ไม่น่าจะแพงอะไรขนาดนั้นนะ”พลอยชมพูถอนหายใจแรง ตาคู่งามเหลือบมองบน“ติ๊บไม่คุยกับคุณพบแล้ว ผู้ชายอะไรไม่เข้าใจความเป็นผู้หญิงเอาเสียเลย ติ๊บขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”ลูกจ้างสาวสวยของพบรักสะบัดค้อนเดินออกจากห้องไปแล้ว ชายหนุ่มมองตามจนกระทั่งประตูห้องปิดลง พบรักเอนกายพิงพนักเก้าอี้ ถอนหายใจบางเบา ระบายยิ้มเต็มใบหน้าคมเข้ม เธอน่ารักสดใส เวลาได้พูดคุย ได้อยู่ใกล้ๆ เขายอมรับว่าหัวใจเต้นในจังหวะที่แปลกไปจากเดิม“เอ้า! ไชโย!” เสียงเ
“คุณกระติ๊บ” ลำดวนกวักมือเรียกเมื่อเห็นคนที่ตามหามาตั้งแต่เช้าเดินเข้ามาใกล้“กินอะไรมาหรือยังคะคุณกระติ๊บ”“กินแล้วค่ะ อิ่มตื้อเลย” ก็จะไม่ให้อิ่มได้อย่างไร เธอกินขนมมาตลอดทาง และกินหมดคนเดียวไม่แบ่งคนขับรถด้วย“แล้วนี่ไปไหนมาคะ รู้หรือเปล่าว่าวันนี้เป็นวันเงินเดือนออก”“วันนี้เงินเดือนออกหรือคะ แล้วติ๊บต้องไปรับเงินเดือนที่ไหนคะ” พลอยชมพูถามกลับด้วยความตื่นเต้น“ของน้าและของคนอื่นที่เป็นพนักงานประจำก็โอนเข้าบัญชีค่ะ แต่ถ้าเป็นพวกจ้างรายวันมาทำงานบางอย่างก็ให้ไปรับกับการเงินที่ออฟฟิศ”“งั้นติ๊บคงต้องไปรับที่ออฟฟิศ เพราะติ๊บไม่ได้ให้เลขที่บัญชีธนาคารไว้ ติ๊บไปรับตอนนี้เลยได้ไหมคะ” เพราะเป็นเงินเดือนจากน้ำพักน้ำแรงเดือนแรก หลังจากที่ออกจากบ้านมาทำงานที่นี่ พลอยชมพูจึงตื่นเต้นเป็นพิเศษ“ตอนนี้ติดพักเที่ยงค่ะ ไปรับหลังบ่ายโมงดีกว่าค่ะ” พลอยชมพูพยักหน้ารับ ยิ้มหวานวาดฝันถึงเงินเดือนก้อนเล็กๆของเธอ“เอ่อ...คุณพบบอกว่าจะเป็นคนจ่ายเงินเดือนให้คุณกระติ๊บเองค่ะ”พลอยชมพูโกรธจนควันออกหู เมื่อเธออุตส่าห์เดินไปถึงออ
พยาบาลเงยหน้ามองสบตาญาติผู้ป่วยยิ้มๆ พบรักค้อมศีรษะให้ และเอ่ยคำขอบคุณ เขารอกระทั่งคุณพยาบาลเดินออกไปจากห้องแล้ว จึงก้มลงมองคนที่ยังคงกอดเขาไว้แน่น“ไหนใครบอกจะไม่ร้องไห้นะ”พลอยชมพูผละหน้าที่เปียกปอนน้ำตาออกมาจากอกกว้าง ใช้หลังมือปาดน้ำตา เงยหน้ามองคนล้อเลียนด้วยสายตางอนๆ“ก็ตอนแรกว่าจะไม่ร้องแล้ว ฮึกๆ แต่มันทนไม่ไหว มันเจ็บ ฮึกๆ คุณพบไม่ได้เป็นคนถูกฉีดยานี่ คุณพบไม่เข้าใจหรอก”“เจ็บเท่ามดกัด แค่นี้ทำมาร้อง”“มดกัดไม่เจ็บขนาดนี้หรอก ติ๊บเคยถูกมดกัดนะ ทำไมจะไม่รู้ว่ามันเจ็บแค่ไหน คุณพบน่ะเป็นผู้ใหญ่เสียเปล่า มาโกหกเด็กทำไม”คนถูกกล่าวหาว่าโกหกเด็กยิ้มในหน้า“เด็กโข่งน่ะสิ”พลอยชมพูสะอึกเมื่อถูกเขาว่า หญิงสาวยืดอก เชิดหน้าขึ้น มองเมินไปทางอื่น ปาดน้ำตาอีกสองที บอกเขาด้วยน้ำเสียงงอนๆ“คุณพบไม่เป็นติ๊บคุณพบไม่มีวันเข้าใจหรอก คนเรามีเรื่องที่ทำให้เจ็บแล้วจำฝังใจทั้งนั้นแหละ แต่ไม่ต้องห่วงหรอกนะคะ ฉีดเข็มสุดท้ายติ๊บคงไปฉีดที่กรุงเทพ เพราะถึงวันนั้นติ๊บคงกลับบ้านแล้ว คงไม่ได้รบกวนคุณพบอีกแล้วค่ะ”หลังขับรถออกมาจากโรงพยา
“มีคนทำแล้วค่ะ บ้านพักตั้งยี่สิบหลัง ต้องช่วยกันหลายคนหน่อยค่ะ ไม่งั้นเสร็จไม่ทันลูกค้าที่จะเข้าเช็กอินช่วงบ่ายแน่”“อ๋อ! ค่ะ...แล้วทำห้องนี้เสร็จแล้ว เราไปกินข้าวกันได้เลยใช่ไหมคะน้าลำดวน” พลอยชมพูถาม ขณะที่เดินตามลำดวนเข้าไปในห้อง เริ่มลงมือจัดเก็บตามขั้นตอนที่ลำดวนแนะนำและทำให้ดูมาหลายห้องแล้ว“หิวแล้วเหรอคะ” ลำดวนถามยิ้มๆ มือก็จัดการดึงผ้าปูที่นอนขึ้นจากเตียง“นิดหน่อยค่ะ” ก็จะไม่ให้เธอหิวได้อย่างไร เมื่อเช้าหลังจากที่พบรักบอกเธอว่าสัปดาห์หน้าต้องไปฉีดยาเข็มที่สอง เธอก็ตื้อไปหมด กินอะไรไม่ลง การกินข้าวมื้อเช้าน้อยเกินไป เลยส่งผลให้หิวเร็วกว่าปกติ“งั้นก็เร่งมือช่วยกันนะคะ เสร็จแล้วเราไปกินข้าวที่ห้องครัวกัน”“ค่ะ เอ่อ...น้าลำดวนคะ ติ๊บสงสัยอย่างหนึ่งค่ะ”“อะไรหรือคะ”“ที่นี่ไม่มีผู้จัดการรีสอร์ตหรือคะ คือตั้งแต่มาทำงานที่นี่ ติ๊บเห็นคุณพบทำโน่นนี่เองทุกอย่างเลย”“ก็คุณพบไงล่ะคะ คุณพบน่ะเป็นทั้งเจ้าของทั้งผู้จัดการ เธอทำเองทุกอย่าง ทำจนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน เพราะไม่อยากมีเวลาว่างให้จิตใจต้องคิดเรื่องอื่นฟุ้งซ่าน” ลำดวนพูดไปด้ว
พลอยชมพูตัดสินใจออกแรงดันอกกว้าง พยายามพาตัวออกจากพันธนาการแสนหวาดเสียว ทว่าตัวเล็กๆแรงน้อยๆอย่างเธอไม่สามารถพาตัวเองขยับไปไหนได้เลย หญิงสาวถอนหายใจออกมาสุดแรง ตัดสินใจแล้วว่า การปลุกเขาให้ตื่นดูจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด ไม่อย่างนั้นเธอคงโดนเขากอดจนขาดอากาศหายใจตายแน่ๆพลอยชมพูสูดหายใจลึก รวบรวมพลังกายพลังใจ บอกตัวเองว่าต้องตั้งมั่นอยู่บนความหาญกล้า ก่อนจะเอ่ยเรียกเขาออกไปด้วยเสียงสั่นน้อยๆ“คุณพบคะ”แต่ดูเหมือนว่างูเหลือมตัวโตที่รัดเธอไว้แน่นจะไม่ได้ยิน เขาไม่รู้สึกตัว ไม่ลืมตา และที่สำคัญไม่ยอมคลายอ้อมแขนออกจากตัวเธอด้วย มิหนำซ้ำยังรัดแน่นขึ้นอีกต่างหาก นี่เขาคิดจะรัดเธอจนกระดูกหัก แล้วหลังจากนั้นก็จะเขมือบเธอลงท้องหรือเปล่า“คุณพบคะ! คุณพบๆๆๆๆๆ” พลอยชมพูเรียกเขาเสียงดังขึ้น และเรียกติดๆกันหลายครั้ง ทั้งออกแรงดิ้นดุ๊กดิ๊กอยู่ในอ้อมกอดของเขาด้วย และครั้งนี้มันได้ผล เขาค่อยๆลืมตาขึ้น เธอยิ้มดีใจที่เขารู้สึกตัว เขามองสบตาเธอ แต่ครู่เดียวเขาก็หลับตาลงดังเดิม“อ้าว! คุณพบ! ตื่นสิคะ” พลอยชมพูโวยวาย เมื่อกี้ก็ตื่นแล้วนี่ แล้วก็เห็นอยู่ว่าเธอนอนอยู่ตรงนี้
พบรักยกมือขึ้นกอดอก มองตามร่างบางเดินหนีไปด้วยสายตาอ่อนโยน ก่อนหันไปมองบริเวณที่งานแต่งกำลังดำเนินอยู่ แล้วระบายยิ้มบางเบาโดยไม่รู้ตัวหลังพิธีแต่งงานของลูกค้าเสร็จสิ้นลงแล้ว ช่วงค่ำมีงานเลี้ยงแขกผู้มาร่วมงาน พนักงานรีสอร์ตต้องมาคอยทำหน้าที่บริการอาหารและเครื่องดื่ม พลอยชมพู น้ำหวาน และพนักงานชายอีกคนรับหน้าที่ผสมเครื่องดื่ม“สีสวยจังเลย” แม้จะอยู่ประจำจุดผสมเครื่องดื่ม แต่ดูเหมือนว่าพลอยชมพูก็ทำได้แค่เพียงยืนให้กำลังใจเพื่อนพนักงาน และชื่นชมเมื่อพนักงานชายผสมเครื่องดื่มและจัดวางท็อปปิ้งบนแก้วออกมาได้อย่างสวยงาม“อร่อยด้วยนะคะคุณกระติ๊บ” น้ำหวานกระซิบบอก“อร่อยแต่เมาแหงๆ” พลอยชมพูทำหน้าเหยเก“ไม่เมาหรอกค่ะ ผสมเหล้านิดเดียวเอง ลองชิมดูหน่อยไหมคะ” น้ำหวานยื่นแก้วน้ำสีสวยให้พลอยชมพู“ไม่เอาค่ะ เดี๋ยวเมา เดี๋ยวถูกคุณพบว่า” พลอยชมพูส่ายหน้าปฏิเสธ“ลองชิมดูนิดเดียวเองค่ะ คุณพบไม่เห็นหรอก อย่างน้อยก็จะได้รู้รสชาติ เผื่อวันหลังจะได้มาหัดชงไงคะ” น้ำหวานยื่นแก้วไปแตะมือพลอยชมพู คนถูกคะยั้นคะยอรับมาถือไว้สีหน้าไม่สู้ดีเท่าไร“แก้วเดียวไม่
“เอามันม่วงด้วยนะคะคุณพบ” พลอยชมพูเกาะแขนคนข้างๆ เขย่าอย่างตื่นเต้น ตากลมสุกใสมองมันทิพย์ลูกขนาดพอดีคำทั้งสีขาวสีม่วงที่ถูกปิ้งอยู่บนตะแกรงด้วยความตื่นตาตื่นใจพบรักหลุบตามองมือนุ่มที่เกาะแขนตนอยู่แวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปสั่งแม่ค้าให้ พอแม่ค้ายื่นถุงให้ พลอยชมพูก็รับมาถือไว้เอง“ของติ๊บ ติ๊บถือเองค่ะ” เจ้าของมันทิพย์ยิ้มอย่างดีใจ“จะเอาอะไรอีกไหม” พบรักเอ่ยถามคนที่ยังเกาะแขนเขาไว้ด้วยมือข้างเดียว ส่วนอีกมือถือถุงขนมไว้พลอยชมพูมองซ้ายขวา ชะเง้อคอมองร้านค้าที่เรียงรายกันอยู่“แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ เรารีบกลับรีสอร์ตกันเถอะ”“แล้วไหนบอกว่าจะซื้ออย่างอื่นด้วย”“ก็ตอนนี้ไม่อยากได้แล้ว ไปเถอะค่ะ” พลอยชมพูดึงแขนที่เธอเกาะอยู่ให้เดินกลับไปที่รถด้วยกัน พบรักยอมเดินตามแต่โดยดี เขายิ้มในหน้า ตาคมอ่อนแสงลงเมื่อหลุบมองมือที่จับอยู่บนแขนของตน“คุณพบรีบๆหน่อยสิคะ” พลอยชมพูเร่ง เมื่อคนขับขับรถด้วยความเร็วที่ไม่ค่อยทันใจเธอเอาเสียเลย“รู้ไหมว่าการขับรถเร็วอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้”“รู้ค่ะ แต่ติ๊บอยากกลับถึงรีสอร์ตก่อนบ