หลังจากเพลงขวัญกลับไปแล้วนายหัวอารัณย์ก็เข้าไปในห้องทำงานเพื่อจัดการงานเอกสารต่างๆ ที่ข้างอยู่ เขาทำทุกอย่างคนเดียวโดยไม่มีผู้ช่วยเพราะไม่อยากให้ใครเข้ามาวุ่นวายที่บ้าน
ทำงานเสร็จก็ออกมาทานอาหารกลางวันที่ป้าแววทำให้ตั้งแต่ช่วงสายๆ ก่อนจะกลับไปพักผ่อนเพราะปกติแล้ววันอาทิตย์เขาจะให้ทุกคนได้หยุดงานและบางครั้งก็มักจะเข้าไปในเมืองเพื่อทานข้าวกับเพื่อนหรือก็หาสาวสักคนไปค้างด้วยที่คอนโดที่ซื้อไว้ในเมือง
หลังทานอาหารอิ่มแล้วก็เอนหลังหลับอยู่บนโซฟาสมองกำลังคิดถึงเรื่องของเพลงขวัญ เธอสวยถูกใจเขามากทั้งหุ่นก็น่าฟัดแต่ติดอยู่อย่างเดียวคือเธอยังเด็กและเข้าก็ดันไปรับปากยายของเธอไว้ว่าจะดูแลเธออย่างดี หรือเขาจะรอจนเธอเรียนจบแต่นั่นก็อีกตั้งสองปีเลยนะ คนอย่างเขาจะทนรอใครนานขนาดนั้นได้ยังไงกัน
“ทนไม่ได้ก็ไม่ต้องทนสิคะ” เสียงหวานเอ่ยถาม
“หมายความว่ายังไง”
“นายหัวขาเพลงอายุยี่สิบแล้วนะคะ บรรลุนิติภาวะแล้วค่ะ อีกอย่างเพื่อนของเพลงบางคนก็มีผัวแล้ว”
“พูดอะไรแบบนั้น”
“เพลงพูดเรื่องจริงหรือนายหัวไม่อยากได้เพลงล่ะคะ เพลงเห็นนะคะว่านายหัวจ้องหน้าอกเพลงอยู่ อยากลองจับไหม” หญิงสาวขยับเข้ามานั่งคร่อมบนตักแล้วบดเบียดหน้าอกคัพซีเข้ากับแผงอกของเขาอย่างยั่วยวน
“เพลงขวัญอย่ายั่ว”
“นะคะนายหัวเพลงอยากให้นายหัวลองจับดู” ไม่เพียงแค่พูดแต่หญิงสาวกลับเอามือของเขาไปกุมอยู่บนหน้าอก อ้อยเข้าปากช้างแบบนี้แล้วนายหัวอารัณย์มีหรือจะพลาด
“อื้อ อ้าห์...แบบนั้นค่ะ นายหัวบีบแรงๆ เลยค่ะเพลงชอบ”
“ฉันก็ชอบนะเต็มไม้เต็มมือดี ถอดเสื้อออกได้ไหมฉันอยากเห็น” เสียงแหบพร่าบอกหญิงสาว เมื่อเธอยกแขนถอดเสื้อยืดออกทางศีรษะเขาก็รีบปลดตะขอทางด้านหลังด้วยความชำนาญ
“ใจร้อนจังนะคะนายหัว”
“สวยมากนะเพลงขวัญ ขอฉันกินนะ”
พูดจบเขาก็ก้มลงดูดกินส่วนยอดที่แข็งเป็นไตใช้ปลายลิ้นตวัดเลียจนได้ยินเสียงหญิงสาวครางกระเส่า มือที่ว่างก็บีบขย้ำอย่างไม่ปรานี
“อื้อ นายหัวขาอย่ากัดสิคะ”
เขาเริ่มห้ามตนเองไม่อยู่เมื่อได้ยินเสียงหวานครางอยู่ข้างใบหู สะโพกที่บดเบียดกันอยู่ก็เริ่มขยับมากขึ้นเพื่อให้ร่างกายได้เสียดสีแนบชิด
“เพลงขวัญ เธอพร้อมจะเป็นของฉันแล้วใช่ไหม” เสียงถามแหบพร่า
“ถ้าไม่พร้อมเพลงจะมาหานายหัวถึงบ้านเหรอคะ”
เสียงนั้นฟังดูยั่วยวนก่อนเธอจะค่อยๆ แกะกระดุมเสื้อของเขาออกไปทีละเม็ด แล้วปากเล็กละเมียดละไมลากวนจนปลายยอดอกของเขาแข็งเป็นไต เธอใช้ปลายลิ้นตวัดอย่างแผ่วเบาแต่นั้นทำให้เขาครางลั่นห้องรับแขก
“อ้าห์..เพลง..กินฉันสิ”
“เพลงอยากกินอะไรที่มันใหญ่ๆ ค่ะ นายหัวจะให้เพลงกินได้ไหม”
เธอพูดขณะที่มือเล็กก็กดนวดความเป็นชายผ่านกางเกงยีนจนมันขยายใหญ่ นายหัวอารัณย์รีบปลดกระดุมและดึงกางเกงของตนเองออกอย่ารวดเร็วเพราะเขาก็อยากให้เธอกินใจแทบขาด
เมื่อความเป็นชายผงาดง้ำอยู่ตรงหน้าหญิงสาวก็ส่งสายตาหวานเชื่อมให้กับเขาก่อนที่มือเล็กจะรูดขึ้นลง ปากอิ่มค่อยๆ อ้ากว้างแล้วกลืนกินตัวของเขาเข้าไปทีละนิด เธอใช้ลิ้นปลายลิ้นเลียหยอกเย้าหัวหยักบานสีชมพูเข้มตวัดปาดเลียไปตามความยาวใหญ่ มือนุ่มรูดรั้งเป็นจังหวะ เสียงนายหัวคำรามลั่นเพราะถูกความเสียวจู่โจมจนคุมตัวเองแทบไม่อยู่
“ดีมาก..เก่งมาก..อื้ม..โอ้ววว เพลงแบบนั้นคนเก่งดูดแรงๆ โอ้วว....เสียวมากเพลง ... โอ้ววว...”
เสียงครางกระท่อนกระแท่น มือใหญ่รวมผมเธอไว้เพื่อตนเองจะได้มองเห็นอย่างชัดเจนว่าเธอนั้นกลืนกินเข้าได้มากแค่ไหน ตัวเขาสั่นสะท้านไปกับการปรนเปรอของหญิงสาวกล้ามเนื้อทุกส่วนเกร็งเครียดสะโพกยกเข้าหาปากอิ่มสองมือกดศีรษะของเธอให้แนบชิดความเป็นชายมากขึ้น
“โอ้ววว… เพลง ฉันเสียวมาก เธอเก่งที่สุด… จะแตกแล้ว อ๊ากส์....”
ตุ๊บ!
เสียงเหมือนอะไรบางอย่างที่มีขนาดใหญ่ตกกระแทกพื้นและนั่นก็ทำให้คนที่นอนอยู่บนโซฟาเมื่อตอนบ่ายเปลี่ยนไปนอนอยู่บนพื้นเป็นที่เรียบร้อย
“ฝันเหรอวะ เหมือนจริงมากเอาซะแตกเลยนะเพลงขวัญ” เขามองกางเกงตัวเองที่มีรอยเปื้อนตรงเป้าแล้วพูดกับตัวเองก่อนจะลุกไปอาบน้ำ
แต่ความเย็นของน้ำก็ดับความร้อนรุ่มในกายเขาไม่ได้ ถ้าคืนนี้ไม่ได้ปลดปล่อยคงได้นอนไม่หลับอย่างแน่นอน
จากที่คิดว่าจะอยู่บ้านแต่เพราะความฝันเมื่อครู่ทำให้เขาต้องออกจากบ้านไปปลดปล่อยในตัวเมือง แม้ว่าที่ร้านเจ๊อ้อยในตัวอำเภอจะมีสาวๆ ไว้คอยบริการแต่เขาก็ไม่เคยเข้าไปใช้เพราะบางคนก็เป็นเด็กสาวในหมู่บ้านที่เขาอยู่ซึ่งมันคงไม่ดีแน่ถ้าพวกเธอเจอเขาไปใช้บริการที่นั่น
นายหัวอารัณย์ขับรถออกจากบ้านของตนในเวลาหกโมงเย็นระหว่างทางก็โทรศัพท์ไปหาคู่ขาว่ามีคนไหนว่างบ้าง เมื่อคนแรกไม่ว่างเขาก็เริ่มหงุดหงิดแต่ยังโชคดีที่ยังมีอีกคนที่ว่างเขาจึงบอกให้เธอไปรอตนเองที่คอนโด
นายหัวอารัณย์ขับรถมาถึงคอนโดมิเนียมของตนเองในเวลาทุ่มเศษๆ พอจอดรถแล้วก็รีบเดินขึ้นไปบนห้องอย่างรวดเร็ว “นายหัวขามินนี่คิดถึงนายหัวจังเลยค่ะ นายหัวขับรถมาเหนื่อยๆ จะอาบน้ำก่อนไหมคะมินนี่เตรียมน้ำอุ่นไว้แล้วค่ะ” มินนี่คู่ขาหนึ่งสามคนของนายหัวเข้ามาออดอ้อนเธอดีใจมากที่วันนี้เขาโทรหา แม้ว่าตนเองมีนัดกับแฟนหนุ่มแต่พอได้รับสายจากนายหัวเธอก็รีบยกเลิกนัดทันที เพราะถ้าเที่ยวระหว่างแฟนของเธอที่เป็นพนักงานบริษัทกับนายหัวเจ้าของสวนยางพาราแล้วเป็นใครก็ต้องเลือกนายหัวเพราะนอกจากเขาจะหล่อและรวยมากแล้วเรื่องบนเตียงเขาก็ถูกใจเธอเป็นอย่างมาก “ไม่ล่ะ ฉันอาบมาแล้ว” “อาบมาแล้วก็ดีเหมือนกันค่ะมินนี่ไม่อยากเสียเวลา” หญิงสาวพูดพลางเบียดกายเข้าหา “เปลี่ยนน้ำหอมเหรอมินนี่” เขาได้กลิ่นน้ำหอมค่อนข้างฉุนจึงได้ถามขึ้น “ค่ะ นายหัวไม่ชอบเหรอคะ” “ชอบสิ มันเข้ากับเธอดีนะ” “มินนี่ดีใจที่นายหัวชอบ นายหัวรู้ไหมว่ามินนี่คิดถึงนายหัวตลอดเลย นายหัวไม่มาหามินนี่เกือบเดือนแล้วนะคะ” “พอดีงานที่สวยยุ่งๆ น่ะ แต่พอฉันว่าก็รีบโทรหาเลย”
เพลงขวัญเดินสำรวจรอบๆ บ้านของตนเองในช่วงสายของวันจันทร์ เมื่อคืนหลังจากที่เข้านอนไปแล้วเธอก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเดินอยู่รอบๆ บ้านและพอเห็นรอยเท้าที่มีขนาดใหญ่กว่าของตนซึ่งมีทิศทางมาจากสวนยางพาราอีกด้านหนึ่งก็ต้องขมวดคิ้ว เพราะด้านนั้นเป็นสวนของนายหัววาทิตซึ่งเธอไม่ได้รู้จักเขาหรือคนงานที่นั่นมากเท่ากับคนงานในสวนยางของนายหัวอารัณย์ เธอคิดว่านี่อาจจะเป็นแผนของนายหัวอารัณย์เพื่อแกล้งให้เธอกลัวและหนีกลับกรุงเทพหรือขอไปอยู่กับเขาที่บ้าน “แผนตื้นๆ ใครจะกลัวกัน” เพลงขวัญพูดจบก็กลับเข้าบ้านเพื่อนั่งทำงานต่อ ซึ่งเหลืออีกไม่กี่หน้างานพิสูจน์อักษรก็เสร็จแล้วเธอก็จะได้รับเงินค่าจ้างส่วนที่เหลือ หลังจากส่งงานให้กับลูกค้าทางอีเมลในตอนบ่ายเพลงขวัญก็ปั่นจักรยานไปร้านขายของชำของป้านงค์เพื่อตุนขนมไว้ทานระหว่างทำงานคืนนี้ ขากลับจากร้านป้านงค์เธอก็ปั่นจักรยานมาเจอกับวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งซึ่งมากันหลายคน พวกนั้นหยุดรถและขวางหน้าเธอไว้ “ว่าไงจ๊ะคนสวย อยู่บ้านคนเดียวคงจะเหงาแย่เลยให้พวกพี่ไปอยู่เป็นเพื่อนเอาไหม” “ไปเป็นไร ฉันอยู่คนเดียวได้”
เสียงเรียกเข้ายังคงดังอย่างต่อเนื่อง นายหัวอารัณย์ก็เลยกดรับเพราะคิดว่าคนที่โทรศัพท์มาหาเขาในเวลาดึกแบบนี้น่าจะมีธุระด่วน เขากดรับแต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรคนปลายสายก็ส่งเสียงทักทายมาทันที และเสียงนั้นก็เหมือนว่าเขาเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน “นายหัว ใช่เบอร์นายหัวอารัณย์ไหมคะ นายหัวบอกคนของนายหัวกลับไปก่อนได้ไหม หนูรู้นะว่านายหัวส่งเขามาขู่ให้หนูกลัวใช่ไหมล่ะ แต่ทำแบบนี้มันไม่เข้าท่าเลยนะ ถ้าอยากให้หนูออกไปก็พูดกันดีๆ ก็ได้ ไม่ต้องใช่แผนแบบนี้หรอก” หญิงสาวพูดรัวจนเขาจับใจความไม่ค่อยได้ “เพลงขวัญเหรอ พูดช้าๆ ได้ไหม เกิดอะไรขึ้น” “ก็คนของนายหัวที่หนูเจอตอนเย็น ตอนนี้พวกเขากำลังเดินอยู่รอบๆ บ้าน หนูได้ยินเสียงพวกมันแล้วจำได้ นายหัวสั่งพวกนั้นมาก่อกวนหนูใช่ไหม” เธอรับเล่าขณะที่มือไม้ก็สั่นไปหมด “ไม่ใช่นะ นั่นไม่ใช่คนของฉัน เธอรออยู่ที่นั่นนะ หาที่ซ่อนก่อนเดี๋ยวฉันจะรีบไป” พูดจบนายหัวก็รีบคว้ากุญแจรถแล้วขับรถลัดสวนยางพาราไปยังบ้านของเพลงขวัญอย่างรวดเร็ว เสียงรถที่ดังมาแต่ไกลทำให้คนที่กำลังหาทางงัดประตูบ้านรีบเผ่นกลับไปทันที ก๊อก ก
เพลงขวัญมัวแต่เสียใจจนลืมนึกถึงเรื่องที่เขาพูดถึงไปจนสนิท “หนูควรไปแจ้งความไว้ก่อนไหม” “แต่เราไม่มีหลักฐานนะ เธอได้ยินแค่เสียงแต่ไม่เห็นหน้าพวกมัน” “แล้วหนูต้องอยู่อย่างหวาดระแวงเหรอคะนายหัว” “คืนนี้ไปอยู่ที่บ้านฉันก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยคิดกันต่อว่าจะเอายังไง” “หนูไม่อยากรบกวนนายหัวหรอกค่ะ” “แล้วมีที่อื่นให้ไปอยู่ไหมล่ะ ไปอยู่ที่นั่นก่อน ส่วนเรื่องกลับไปอยู่กรุงเทพค่อยคุยกันอีกทีก็ได้ คืนนี้มันดึกแล้วฉันง่วง” “หนูว่าพวกมันคงไม่มาแล้วล่ะค่ะ” “เธอเชื่อใจพวกในมากกว่าเชื่อใจฉันเหรอเพลงขวัญ” “เปล่าหนูก็แค่เกรงใจ” “บ้านฉันมีสามห้องนอน เธอไปอยู่ที่นั่นฉันก็ไม่เดือดร้อนอะไร” “นายหัวไม่กลัวแฟนของนายหัวรู้เหรอคะ” “นี่ฉันไปมีแฟนตอนไหน” “ป้านงค์บอกว่าแฟนนายหัวเป็นเจ้าของร้านปุ๋ยในเมือง” เธอบอกเขาตามที่ได้ยินมา “ชาวบ้านก็พูดกันไปเรื่อยนั่นแหละ จีไม่ใช่แฟนฉันแต่เราสองคนสนิทกันเพราะฉันสั่งของที่ร้านของเธอตลอด เธออย่าเพิ่งถามอะไรให้มากความเลยฉันง
นายหัวกลับจากสวนยางก่อนเวลาแปดโมงเช้าเล็กน้อยพอมาถึงก็รีบไปอาบน้ำก่อนจะออกมาอีกครั้งในเวลาไม่นาน “หิวหรือยัง” เขาถามเพลงขวัญที่นั่งรออยู่บนโซฟารับแขกกลางห้อง “ยังค่ะ” “แต่ฉันหิวแล้ว” เขาเดินไปยังโต๊ะทานอาหารทำให้เพลงขวัญก็ต้องเดินตามไปด้วย “นายหัวคะ หนูไปกินกับป้าแววและพี่บุหลันได้ไหม” เธอเกรงใจทั้งเจ้าของบ้านและลูกจ้างอีกสองคน “กินด้วยกันนี่แหละ” “แต่หนูเป็นลูกหนี้ของนายหัวคนอื่นรู้คงไม่ดีแน่” เพลงขวัญไม่อยากถูกคนอื่นมองไปในทางอื่น “สถานะลูกหนี้จะเริ่มหลังจากเธอเรียนจบแต่ตอนนี้เธออยู่ที่นี่ในฐานะของคนที่ฉันต้องดูแลตามคำสั่งเสียของยายนวลปราง” “แต่หนูว่า...” “ถ้ายายเธอรู้คงเสียใจนะที่เธอกำลังจะขัดคำสั่งของท่าน” นายหัวอารัณย์อ้างถึงยายของเธอเพราะรู้ว่าเพลงขวัญจะต้องทำตาม “ค่ะ” หลังทานอาหารแล้วเพลงขวัญก็ช่วยบุหลันเก็บโต๊ะและกำลังจะล้างจานแต่นายหัวก็มาเรียกให้เธอให้ตามไปที่ห้องทำงาน “เพลงไปก่อนนะคะ” หญิงสาวบอกบุหลันและป้าแววจากนั้นตัวเองก็รีบเข้าไปหานายหัวใน
เพลงขวัญมาอยู่ที่บ้านของนายหัวครบหนึ่งสัปดาห์แล้ว หญิงสาวช่วยงานป้าแววและบุหลันบ้างเวลาที่นายหัวไม่อยู่ เพราะไม่อยากจะทำตัวเป็นคุณหนูที่มาอยู่บ้านเขาแล้วไม่ช่วยหยิบจับอะไรเลย แต่ถ้านายหัวอยู่บ้านเธอก็จะเข้าห้องและนั่งทำงานของตนเองไปเงียบๆ และวันนี้ก็ครบกำหนดที่เธอจะต้องทำแกงไตปลาให้กับนายหัวอารัณย์ทานอีกครั้ง หญิงสาวตั้งใจปรุงรสชาติให้ออกมาใกล้เคียงกับวันนั้นให้มากที่สุด “ป้าแววว่ารสชาติเหมือนเดิมไหมคะ” “เหมือนจ้ะ” “พี่ก็ว่าเหมือนนะ”“โล่งอกไปทีค่ะ” เพลงขวัญถอดหายใจด้วยความโล่งอก ทั้งสามคนช่วยกันจัดโต๊ะอาหารซึ่งเสร็จทันเวลาที่นายหัวกับเพื่อนมาถึงบ้านพอดี “น่ากินมากเลยนะบุหลัน” วริศผู้จัดการสวนและพ่วงตำแหน่งหัวหน้าคนงานเอ่ยชมเพราะตอนนี้มีแค่บุหลันยืนรออยู่ที่โต๊ะอาหารเพียงคนเดียว “ไม่ใช่ฝีมือบุหลันหรอกค่ะ คุณวริศ บนโต๊ะนั่นฝีมือป้าแววกับน้องเพลง” “แล้วเพลงขวัญไปไหนแล้วล่ะ” นายหัวอารัณย์ถาม เขาอยากจะแนะนำเพลงขวัญให้รู้จักกับผู้จัดการสวนยางเอาไว้เพราะอาจจะได้เจอกันบ้างถ้าเธอยังอยู่ที่นี่ “
นายหัวอารัณย์ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วพยายามดึงให้เพลงขวัญที่นอนอยู่บนเตียงลุกขึ้น เพราะถ้าขืนเธอยังนอนอยู่แบบนั้นเขาก็คงห้ามใจตัวเองไม่อยู่ “เพลงก็ไม่ได้อยากเป็นเมียนายหัวเหมือนกัน บอกเลยใช่สเปก เพลงไม่อยากมีผัวแก่” หญิงสาวเถียงเขากลับ “ไม่อยากแต่ก็มายั่วถึงห้อง” “ยั่วที่ไหน เพลงก็แค่อยากมาคุยด้วยแล้วก็จะกลับ” หญิงสาวลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแต่เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็ทำให้เธอยืนไม่ค่อยตรงจนที่ยืนอยู่ต้องรีบเข้ามาประคอง อารัณย์โอบร่างของเธอไว้หลวมๆ กลิ่นกายสาวที่เข้าปะทะจมูกทำให้เขารู้สึกร้อนรุ่มขึ้นได้อย่างง่ายดาย ในหัวนึกไปถึงเรื่องที่ตนเองฝันเมื่อครั้งก่อนแล้วก็ไม่อยากจะให้เธอกลับไปที่ห้องอย่างที่ปากพยายามบอก “ฉันเปลี่ยนใจแล้ว” “เปลี่ยนใจอะไรคะ” เธอเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาหวานเยิ้ม “ก็เปลี่ยนอยากจะลองมีเมียเด็ก อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะอร่อยอย่างที่พูดไหม” “ไม่นะเพลงไม่อยากเป็นเมียนายหัว อื้อ...” เพลงขวัญครางในลำคอและพยายามสะบัดหน้าหนีริมฝี หนาที่กดจูบลงมาบนเรียวปากอิ่ม ชายหนุ่มใช้มือใหญ่บีบปลาย
นายหัวหนุ่มส่งเธอให้สุขสมอีกครั้ง แล้วเขาก็รีบจัดการกับเสื้อผ้าของตนออก ก่อนจะเปิดลิ้นชักควานหาถุงยางอนามัยที่ซื้อเก็บไว้ จากนั้นก็รีบสวมมันลงบนท่อนเอ็นร้อน กดคลึงตัวตนลงบนกลีบกุหลาบที่เคลือบไว้ด้วยน้ำหวานใสกดเข้าไปช้าๆ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นไปอย่างที่ต้องการ“นายหัว ไม่ไหว เพลงเจ็บ”“อย่าเกร็งสิเพลง” เขาก้มลงจุมพิตเธออย่างแผ่วเบา ส่วนมือร้อนทั้งสองข้างเคล้นคลึงอยู่บนอกอวบเบี่ยงเบนความสนใจ พอเห็นว่าเพลงขวัญเคลิบเคลิ้มก็กดตัวตนเข้าไปพรวดเดียวอย่างห้ามตัวเองไม่อยู่ จนในที่สุดท่อนเอ็นก็เข้าไปในกลางกายสาวลึกสุดโคน “อ๊าย!...” เพลงขวัญร้องสุดเสียงด้วยความเจ็บปวดรู้สึกราวกับร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยง“ไม่เอาแล้วนายหัว เพลงไม่เอาแล้วเอาออกไปนะคะ”เธอร้องโวยวายขณะที่น้ำตาแห่งความเจ็บปวดไหลอาบสองแก้ม แต่เมื่อเดินทางมาถึงขั้นนี้แล้วอารัณย์ไม่มีทางจะถอยออกอย่างแน่นอน“ทำไมไม่บอกว่ายังไม่เคย”ชายหนุ่มไม่คิดมาก่อนว่าหญิงสาวจะยังไม่ผ่านมือชายเพราะดูท่าทางและการแต่งตัวแล้วเขาคิดว่าเธอนั้นไม่ใช่สาวบริสุทธิ์อย่างแน่นอนเมื่อเธอนิ่งไม่ยอมตอบเขาก็เริ่มขยับตัวทีละนิดเพราะถ้าย
ทางด้านนายหัวอารัณย์หลังจากคุยกับเพลิงแล้วเขาก็กลับไปที่บ้านของตนเอง เพราะอยากให้เพลงขวัญได้พักผ่อน เขารอจนกระทั่งถึงเวลาเย็นจึงขับรถเข้ามาหาเธอ แต่แล้วก็ต้องแปลกใจเมื่อทั้งบ้านมืดสนิทเขาตะโกนเรียกเท่าไหร่หญิงสาวก็ไม่เปิดประตูชายหนุ่มเดินเข้าเปิดไฟที่ห้องรับแขกก่อนจะเดินเข้าไปตามเพลงขวัญในห้องนอน แต่แล้วพอเขาเปิดเข้าไปข้างในก็ต้องใจหายเมื่อพบว่าห้องนั้นว่างเปล่าและข้าวของบางอย่างมันหายไป นายหัวพยายามโทรหาเพลงขวัญแต่โทรเท่าไหร่ก็ไม่ติด เขาคิดว่าเธอน่าจะยังไปไหนไม่ไกลอย่างมากก็น่าจะแค่ในเมืองและทางเดียวที่จะเข้าเมืองได้ก็คือการนั่งรถลุงจวบเข้าไปเขารีบไปยังร้านป้านงค์ซึ่งอยู่ติดกับท่ารถเพื่อถามว่ามีใครเห็นเพียงขวัญบ้างไหม แต่ก็ไม่มีใครเห็นเพราะช่วงที่เพลงขวัญโบกรถชาวบ้านไปนั้นป้านงค์ก็กำลังวุ่นวายอยู่กับการขายของ“แล้วคนอื่นล่ะครับมีใครเห็นไหม”“ลุงไม่แน่ใจเท่าไหร่นะเพราะลุงสายตาไม่ดี แต่ช่วงสายๆ ลุงเห็นผู้หญิงคนหนึ่งโบกรถชาวบ้านที่จะเข้าในเมือง“ขอบคุณครับลุง” นายหัวอารัณย์กล่าวขอบคุณและคิดว่าผู้หญิงที่ลุงคนนี้บอกน่าจะใช่เพลงขวัญเขารีบขับรถเข้าไปในตัวจังหวัด ตามหาเพลงขวัญทั
นายหัวอารัณย์มองคนที่หลับสนิทแล้วได้แต่ส่ายหน้าถ้าวันนี้เขามาไม่ทันคนที่เธอร่วมรักอย่างบ้าคลั่งก็น่าจะเป็นนายหัววาทิต คิดแล้วก็รู้สึกเจ็บใจว่าทำไมพี่ชายของเธอจึงทำกับเธอแบบนี้เขาน่าจะมองออกและเตือนเธอให้ระวังตัวแต่เพราะคิดว่าเพลิงเป็นพี่ชายของเธอเป็นครอบครัวของเธอจึงไม่ได้ระแวงอะไรเลยสักนิดนายหัวหนุ่มเดินเข้าห้องน้ำจัดการชำระล้างร่างกายของตนเองจากนั้นใช้ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กชุบน้ำมาเช็ดเนื้อตัวเพลงขวัญให้สะอาด เขานอนกอดเธอด้วยความหวงแหนก่อนจะออกจากบ้านของเธอในตอนเช้านายหัวอารัณย์ให้คนช่วยตามาพี่ชายของเพลิงขวัญเพื่อจะถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดว่ามันเป็นแผนของเขาหรือนายหัววาทิตกันแน่“นายทำแบบนี้ได้ยังไงเพลิงนั้นน้องสาวนายนะ”“ผมไม่ทางเลือกที่ไหนล่ะนายหัว คนอย่างผมเรียนก็ไม่ได้สูง หางานทำก็ลำบากแล้วพอมีคนมาเสนอเงินให้ถึงสองล้านถ้าไม่รีบคว้าไว้ผมก็โง่เต็มที”“เพลงขวัญมาได้ยินเธอคงเสียใจมาก นายรู้ไหมว่าเธอดีใจมากแค่ไหนที่นายกลับมานายเป็นครอบครัวคนเดียวที่เหลืออยู่”“ผมก็แค่อยากให้น้องสบาย นายหัววาทิตเขาชอบเพลงขวัญมาก ผมก็แค่อยากช่วยให้เขาได้สมหวัง”“นายนี่มันเห็นแก่ตัวและเห็
หลังจากไปส่งเพลงขวัญที่บ้านแล้วนายหัวอารัณย์ก็เข้ามาซื้อของที่ร้านประจำในตัวอำเภอขณะกำลังจะกลับก็เห็นพี่ชายของเพลงขวัญนั่งอยู่กับชายอีกสามคนที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง เขาแปลกใจมากเพราะเพลงขวัญบอกว่าเย็นนี้พี่ชายของตนเองก็จะอยู่ที่บ้านด้วย เขาเข้าไปนั่งมุมหนึ่งในร้านแล้วเรียกเด็กเสิร์ฟมาคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกของคนงานในสวนยางพารา “นายเพลิงกับเพื่อนมากันนานหรือยังต้อม” “มาตั้งแต่บ่ายแล้วครับนายหัว” “เราพอจะรู้ไหมว่าเขาคุยอะไรกัน” “ผมไม่ใจนะครับว่าฟังถูกหรือเปล่า บางทีอาจจะหูฝาด” “ไหนลองเล่ามาสิว่าเขาพูดว่าอะไร” “เขาบอกว่าวันนี้จะได้เงินหนึ่งล้าน พอเพื่อนเขาถามเขาก็หัวเราะแล้วก็บอกว่าเขาขายน้องสาว ผมเลยคิดว่าตัวเองน่าฟังผิด” “ขอบใจนะต้อม” นายหัวควักธนบัตรในละหนึ่งพันบาทให้กับเด็กหนุ่มแล้วรีบออกจากร้านเพราะคิดว่าน่าจะเกิดอันตรายกับเพลงขวัญแน่ๆ แต่ด้วยความรีบร้อนจึงชนกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ลานจอดรถ “ขอโทษครับ” นายหัวหนุ่มรีบกล่าวขอโทษ แล้วพอเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าคนที่ตัวเองชนคือปุยฝ้ายเพื่อนสมัยเรียนของตน
วันนี้นายหัวอารัณย์มีนัดคุยกับเพื่อนที่สวนปาล์ม เขาเลยพาเพลงขวัญนั่งรถมาด้วย หลังจากคุยงานเสร็จก็เลยพาเธอไปยังน้ำตกแห่งหนึ่งที่อยู่ระหว่างทาง ซึ่งน้ำตกแห่งนี้ไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่เพราะอยู่ห่างไกลจากบ้านเรือนประชาชนอีกทั้งการเดินทางเข้ามาที่นี่ยังต้องใช้รถที่ขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้นแต่มันไม่เป็นปัญหาสำหรับเขาเลย “เพลงเพิ่งรู้ว่าแถวนี้มีน้ำตกด้วย” หญิงสาวบอกกับนายหัวหลังจากลงมานั่งบนโขดหินและหย่อนเท้าลงในน้ำเย็นเฉียบ เธอเคยไปน้ำตกที่อื่นมาบ้างแล้วแต่เพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรก “ไม่ค่อยมีคนรู้จักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่คนอื่นๆ เขาจะไปน้ำตกอีกที่ซึ่งมันเดินทางสะดวกกว่านี้”“แล้วทำไมนายหัวถึงพาเพลงมาที่นี่ล่ะคะ เพลงว่ามันเปลี่ยวมาก”“ก็เพราะมันเปลี่ยวและมีความเป็นส่วนตัวไงล่ะฉันถึงอยากพาเธอมาที่นี่”“เรื่องที่เราจะคุยกันมันไม่ได้เป็นความลับมากขนาดนั้นสักหน่อยนายหัวไม่ต้องพามาที่แบบนี้ก็ได้”“ทำไมเธอกลัวอะไรเพลง”“เปล่าค่ะ เพลงก็แค่ไม่ค่อยชอบบรรยากาศเท่าไหร่มันดูวังเวงยังไงก็ไม่รู้”“ไม่ต้องกลัวหรอกน่าอยู่กับฉันเธอจะกลัวอะไร เอาล่ะเธอลองเล่าเรื่องที่พี่ชายเธอคุยกั
“นายบอกฉันว่าน้องสาวนายไม่มีแฟนแล้วนั่นมันยังไงกันทำไมเธอถึงมากับนายหัวอารัณย์ได้ล่ะเพลิง” นายหัววาทิตมองเพลงขวัญที่เดินออกจากร้านกาแฟมาพร้อมกับนายหัวอารัณย์ด้วยความไม่พอใจ “เรื่องนี้ผมอธิบายได้ครับนายหัววาทิต เพลงก็แค่ไปช่วยงานนายหัวที่บ้านนายหัวอารัณย์เท่านั้นเอง”“แค่ช่วยงานอย่างเดียวเหรอ”“ครับ ผมถามแล้วน้องผมไม่ได้คิดอะไรกับนายหัวเลย”“น้องนายไม่ได้คิดแต่ฉันเห็นนะสายตานายหัวอารัณย์ที่มันมองเพลงขวัญฉันว่าเรื่องนี้เราช้าไม่ได้แล้วล่ะ”“แล้วนายหัวจะเอายังไงละครับ”“ฉันให้เวลาอีกสองวันนะ”“ได้ครับไม่มีปัญหา แล้วเย็นนี้นายหัวจะไปกินข้าวที่บ้านผมอยู่ไหม”“ไปสิฉันก็อยากทำความรู้จักเธอไว้ก่อนถึงวันนั้นเธอจะได้ไม่ตกใจมาก”“แล้วเรื่องนี้เมียนายหัวจะไม่เข้ามายุ่งใช่ไหม”“ปุยฝ้ายเหรอไม่มีทางรู้เรื่องนี้หรอก”“แต่น้องผมต้องกลับไปเรียนนะครับ”“จะเรียนทำไมเป็นเมียฉันไม่ต้องเรียนหรอกแค่ทำหน้าที่บนเตียงให้ดีก็พอ”“แล้วนายจะอยู่กับน้องสาวอีกกี่วัน”“ก็คงจะถึงวันที่นายหัวจะลงมือนั่นแหละครับ ว่าแต่เงินงวดที่สองนายหัวจะให้ผมเมื่อไหร่”“แม้แต่มือของน้องสาวนายฉันยังไม่ได้จับจะมาทวง
หลังจากทานอาหารเย็นกับพี่ชายแล้วเพลงขวัญก็มานั่งดูทีวีต่อที่ห้องรับแขก เธอลังเลว่าจะถามถึงเงินหนึ่งล้านที่พี่ชายเอามาใช้หนี้นายหัวดีไหม เพราะกลัวว่าพี่ชายจะไปทำอะไรที่ผิดกฎหมายมาหรือเปล่าแต่อีกใจหนึ่งก็กลัวพี่ชายจะโกรธที่เธอไปกล่าวหาถ้าหากเงินนั้นหามาด้วยความสุจริต “มีอะไรจะถามพี่ใช่ไหม” เพลิงเห็นว่าน้องสาวของตนเอาแต่จ้องหน้าก็ถามขึ้นเพราะคิดว่าตอนนี้เพลงขวัญคงอยากจะถามอะไรเขาหลายๆ ถึงเรื่องราวที่เขาหายไปนาน ซึ่งตัวเขาก็มีเรื่องที่จะถามน้องสาวอยู่เหมือนกัน “ค่ะ พี่เพลิงรู้ได้ยังไงว่าเพลงมีเรื่องจะถาม” “พี่เห็นเรามาตั้งแต่เกิดทำไมจะไม่รู้ล่ะ ว่าแต่เพลงจะถามอะไรพี่ล่ะ” “พี่เพลิงต้องสัญญาว่าจะตอบความจริงนะคะ” “ถึงแม้ที่ผ่านมาพี่จะทำตัวเกเรแต่ตอนนี้พี่เปลี่ยนไปแล้วนะ เพลงทำเหมือนไม่เชื่อใจพี่เลย” เพลิงมองหน้าน้องสาวซึ่งเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ของเขา “เพลงขอโทษ เพลงก็แค่สงสัย” หญิงสาวเอ่ยเสียงเบาเพราะรู้สึกผิดที่ไประแวงพี่ชายแบบนั้น “สงสัยอะไรก็ถามมาเลย เราพี่น้องกันนะเพลง มีอะไรก็พูดกันตรงๆ” “พี่เ
นายหัวอารัณย์นั่งมองถนนหน้าบ้านอย่างร้อนใจเพราะตอนนี้ก็เกือบจะสิบโมงเช้าแล้วแต่เพลงขวัญกับพี่ชายก็ยังไม่มาตามที่บอกไว้ เขาอยากคุยกับพี่ชายของเธอเรื่องหนี้สินทั้งหมด ถ้าหากเพลิงจะมีเงินใช้หนี้ไม่หมดเขาก็ยินดีที่จะยกให้เพื่อแลกกับการที่เพลงขวัญต้องอยู่ในการดูแลของเขาจนเธอเรียนจบซึ่งระยะเวลาสองปีนี้ก็คงนานพอที่เขาและเธอจะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันมากขึ้น “นายหัวรออะไรคะ” บุหลันที่ทำความสะอาดบ้านอยู่เห็นนายหัวเดินไปเดินมาแล้วก็ชะโงกหน้าไปยังถนนหน้าบ้านก็อดจะถามไม่ได้เพราะปกติเวลานี้ถ้าเจ้านายไม่เข้าไปที่โรงงานก็จะนั่งทำงานอยู่ในห้องมากกว่าออกมานั่งในห้องรับแขกอย่างที่เธอเห็นอยู่ในขณะนี้ “ฉันรอชลที เขาว่าจะมาแต่นี่ก็เลยเวลานัดแล้วทำไมยังไม่มาสักที” เขาพูดโกหกออกไปทั้งที่ตอนนี้ตัวเองกำลังรอเพลงขวัญและพี่ชาย“ทำไมนายหัวไม่ลองโทรตามดูล่ะคะ เผื่อคุณชลทีจะลืม”“ไม่เป็นไร ไม่ใช่เรื่องด่วนอะไรมาก ฉันเข้าไปทำงานก่อนนะถ้าเขามาบุหลันก็ไปตามฉันในห้องก็แล้วกัน”“ได้ค่ะ” นายหัวอารัณย์เดินเข้ามาในห้องทำงานแต่ก็พยายามเงี่ยหูฟังว่ามีเสียงรถดังเข้ามาหรือเปล่าแล้วรอยยิ้มก็ปรากฏที
หญิงสาวเก็บของใช้จำเป็นลงกระเป๋า แต่ยังไม่ได้เอาไปทุกอย่างเพราะไม่รู้ว่าพี่ชายจะกลับมาอยู่ที่บ้านนานแค่ไหน ถ้าให้เลือกเพลงขวัญก็อยากให้เขากลับมาอยู่กับเธอที่นี่ตลอดเพราะเพลิงเป็นญาติเดียวที่เหลืออยู่ นายหัวอารัณย์จอดรถที่หน้าบ้านของเพลงขวัญชายหนุ่มตาละห้อยเพราะไม่อยากให้เธอห่างจากเขา “นายหัวจะลงไปไหมคะ” “ไม่หรอก ฉันอยากให้เธอกับพี่ชายได้อยู่กันตามลำพัง แล้วพรุ่งนี้ฉันจะมารับนะ” “เพลงยังไม่รู้เลยว่าพี่เพลิงจะอยู่นานไหม” “ถ้าเขากลับมาอยู่ตลอด เธอก็จะอยู่ที่นี่กับเขาตลอดอย่างนั้นเหรอ แล้วฉันล่ะ เธอไม่สงสารฉันเลยเหรอ เธอไม่อยู่ฉันคงนอนไม่หลับแน่ๆ” “นายหัวพูดอย่างกับเราอยู่ด้วยกันมานานอย่างนั้นแหละ เราเพิ่งนอนด้วยกันสามคืนเองเดี๋ยวนายหัวก็ลืมเพลงไปเอง” “ใครจะลืมลง เมียทั้งคนนะ ขอกอดหน่อยได้ไหม” “อย่านะคะเดี๋ยวพี่เพลิงเห็น” หญิงสาวรีบร้องห้าม “ใจร้ายกับผัวจังนะ อย่างนี้ไม่น่าให้กลับมาเลย” “นายหัวขาเพลงไม่ได้ไปไหนไกลเลย บ้านเพลงก็อยู่แค่นี้ ของใช้เพลงก็ยังอยู่ที่บ้านายหัวนะค
เพลงขวัญตื่นนอนมาอีกครั้งในช่วงสายของวันใหม่ เธอรู้สึกดีที่การตื่นนอนในวันนี้มีนายหัวอารัณย์นอนอยู่ข้างๆ มันทำให้เธออบอุ่นและไม่อยากจะลุกออกจากที่นอนเลยสักนิด หญิงสาวนอนมองใบหน้าที่คล้ำแดดของเขาแล้วยิ้ม นายหัวอารัณย์เป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มากคนหนึ่งยิ่งมองใกล้ๆ แบบนี้เธอก็ยิ่งรู้สึกดีกับเขามากขึ้น หัวใจมันเต้นเป็นจังหวะแปลกๆความคิดอยากจะเป็นเจ้าของชายคนนี้เริ่มมากขึ้น แต่คงเป็นแค่ตนเองที่คิดแบบนี้เพราะยังไงเสียนายหัวก็ไม่เคยคิดเรื่องแต่งงานใหม่หรือมีครอบครัวอีกแล้ว แต่เธอก็เลือกที่จะยอมเป็นเมียบำเรอของเขาเพราะอย่างน้อยก็ยังได้และได้นอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา ขณะมองเขาเพลินๆ เสียงโทรศัพท์ของเพลงขวัญก็ดังขึ้น หญิงสาวรีบหยิบผ้าเช็ดตัวที่วางอยู่ปลายเตียงมานุ่งก่อนจะหยิบโทรศัพท์แล้วเดินไปที่ห้องแขก คนที่โทรเข้ามาเป็นพี่จากบุหลันซึ่งโทรมาถามว่าเพลงขวัญจะกลับบ้านเมื่อไหร่เพราะตอนนี้พี่ชายของเธอกลับมาอยู่ที่บ้านและมาตามหาเพลงขวัญที่บ้านของนายหัว เพลงขวัญดีใจที่จะได้เจอพี่ชายและอยากจะถามเข้าเรื่องบ้านกับที่ดิน เผื่อบางทีพี่ชายอาจจะมีเงินกลับมาใช้หนี้นายหัวซึ่