“มาเหนื่อยๆ กินน้ำก่อนสิ แต่มีแค่น้ำเปล่านะ” เขาส่งขวดน้ำให้เธอแล้วตัวเองก็นั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้าม ขณะที่เธอก็เปิดขวดน้ำขึ้นดื่มแต่คงรีบไปหน่อยน้ำก็เลยไหลลงไปยังเสื้อยืดและยิ่งทำให้เขาเห็นชัดเจนเลยว่าภายใต้เสื้อยืดสีขาวนั้นมีความอวบอิ่มซ่อนอยู่ แค่กะด้วยสายตาก็ไม่น่าจะเกินคัพซี และถ้าได้เอาหน้าลงไปซุกตรงนั้นก็คงจะดีไม่น้อย
นายหัวอารัณย์สลัดศีรษะเพื่อไล่ความคิดลามกของตนเองออกและท่องไว้ในใจว่าเพลงขวัญยังเด็ก เขายังจำได้ดีว่าครั้งแรกที่เจอกับเธอตอนนั้นเธอเพิ่งจะ 5 ขวบ
“เอาละ มีอะไรก็ว่ามา”
“เมื่อกี้หนูไปร้านขายของชำของป้านงค์ แล้วป้านงค์บอกหนูว่าบ้านที่หนูอยู่เป็นของนายหัว”
“อือ ป้าแกก็พูดถูก”
“จะถูกได้ยังไง หนูจำได้ว่าตอนย้ายมาอยู่ที่นี่พ่อกับแม่ยังช่วยกันสร้างอยู่เลย หนูว่านายหัวเห็นว่ายายแก่แล้วและคิดว่าหนูคงไม่กลับมาอยู่บ้านใช่ไหมล่ะ ก็เลยคิดจะโกงหนู”
“บ้านฉันก็มี ฉันจะโกงเธอไปทำไม”
“หนูไม่รู้”
“เธอไม่รู้แต่มาปรักปรำฉันถึงบ้านเนี่ยนะเพลงขวัญ ฉันสามารถฟ้องเธอโทษฐานหมิ่นประมาทได้เลยนะ”
“ก็ลองฟ้องดูสิ หนูจะได้ประกาศให้คนรู้กันไปเลยว่านายหัวที่แสนดีของชาวบ้านโกงแม้กระทั่งเด็ก” เพลงขวัญเถียงคอเป็นเอ็นใบหน้าเธอแดงก่ำเพราะความโมโห
“ดูแล้วเราคงไม่รู้อะไรเลยใช่ไหม”
“รู้สิ หนูรู้ว่านายหัวกำลังจะโกงหนู”
“คำก็โกงสองคำก็โกง ถ้าฉันทำอย่านั้นจริงๆ ขึ้นมาเธอคิดเหรอว่าจะเอาเรื่องฉันได้”
“แต่นายหัวก็ทำไปแล้วนี่ เสียแรงที่ยายของหนูชื่นชมนายหัวให้หนูฟังทุกครั้งที่โทรหา”
“เธอคิดว่ายายของเธอจะมองคนไม่ออกเหรอว่าใครดีหรือใครร้าย”
“ยายอาจจะหลงคุณเพราะคุณพูดดีด้วย ทำดีด้วยไง”
“เฮ้อ เธอนี่ยังเด็กจริงๆ นะเพลงขวัญ”
“หนูไม่เด็กแล้วนะคะ อายุ 20 ปีแล้ว”
“นั่นสินะ ไม่เด็กแล้ว ถ้าเป็นชาวบ้านแถวนี้ก็คงแต่งงานมีลูกกันไปแล้ว” เขาพูดพลางจ้องใบหน้าและเรือนร่างของคนที่บอกไม่เด็กอย่างพิจารณา ยิ่งได้อยู่ใกล้ก็ยิ่งรู้สึกเพลงขวัญมีแรงดึงดูดทางเพศอย่างมาก ถ้าไม่ติดว่ายายของเธอเคยฝากเข้าให้ช่วยดูแลจนเธอเรียนจบเขาคงได้จับทำเมียไปแล้วแน่ๆ
“นั่นมันเรื่องของคนอื่น นายหัวอย่าพยายามเปลี่ยนเรื่องนะคะ”
“ตามฉันมาในห้องสิ”
“นายหัวจะทำอะไรกลางวันแสกๆ”
“นี่คิดว่าฉันจะทำอะไรเธอเหรอเพลงขวัญ บอกไว้นะรสนิยมของฉันไม่ชอบเด็ก”
“หนูก็ไม่ชอบคนแก่เหมือนกัน” เพลงขวัญมองเขาด้วยสายตาอาฆาต เธอไม่ชอบให้ใครมาเมินใส่แบบนี้เพราะมั่นใจในระดับหนึ่งว่าตัวเองนั้นทั้งสวยและหุ่นดีแต่พอเขาทำท่าทางไม่สนใจแบบนี้ความรู้สึกอย่างเอาชนะก็ทำให้เธอคิดแผนการที่จะทำให้นายหัวยอมถอนคำพูดที่ว่าไม่ชอบเด็ก
แต่มันยังไม่ใช่ตอนนี้เพราะวันนี้เธอตั้งใจจะคุยกับเขาเรื่องบ้านให้เรียบร้อยเสียก่อน
เพลงขวัญเดินตามเขามายังห้องทำงานแล้วนั่งลงตรงหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่โดยมีเจ้าของห้องนั่งอยู่อีกฝั่งของโต๊ะ
“เธอดูนี่สิ” นายหัวอารัณย์ส่งกระดาษสัญญากู้ยืมเงินจำนวนสองล้านบาทโดนเอาที่ดินและบ้านเป็นหลักค้ำประกันโดยคนที่ลงลายมือชื่อคือพี่ชายของเธอและมันก็เลยกำหนดไถ่ถอนมาแล้วเกือบหนึ่งปี
“ไม่จริง พี่เพลิงไม่มีทางทำแบบนั้น”
“น้อยไปสิเพลงขวัญพี่ชายเธอเอาที่ดินและบ้านมาจำนองจากนั้นก็ไม่เคยส่งดอกเบี้ยหรือเงินต้นเลยสักบาท เขาไม่ได้ทำแค่นี้หรอกนะ ยายเธอบอกว่าพี่ชายเธอหนีไปพร้อมกับเงินที่พ่อกับแม่ของเธอทิ้งไว้ให้เป็นทุนการศึกษาด้วย”
“เป็นไปไม่ได้ ยายยังส่งเงินให้ฉันทุกเดือน”
“ลองนึกดีๆ นะว่าการส่งเงินให้เธอมันมีอะไรแปลกไปจากเดิมไหมล่ะ”
หญิงสาวนั่งทบทวนว่าที่ผ่านมามีอะไรพอเป็นจุดสังเกตได้ไหม แล้วเธอก็นึกออก ตอนเรียนอยู่ชั้นปีหนึ่งยายจะโอนเงินผ่านธนาคารไปให้ทุกเดือนแต่พอขึ้นปีสองยายใช้วิธีโอนเงินจากแอปพลิเคชันของธนาคารแทน พอเธอถามยายก็บอกว่าให้คนงานในสวนยางช่วยโอนให้เพราะมันสะดวกกว่าการไปที่ธนาคารเอง
“แล้วใครเป็นคนโอนเงินให้ฉันทุกเดือน”
“ก็คนที่เธอกำลังกล่าวหาว่าโกงเธออยู่นี่ไงล่ะ”
“ทำไมต้องโอนให้ฉันด้วย ทำไมยายถึงไม่บอกความจริงกับฉันไปเรียนใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตามประสาวัยรุ่นแต่ยายกลับต้องยืมเงินคนอื่นมาให้ ฉันเป็นหลานที่ใช่ไม่ได้จริง” เพลงขวัญร้องไห้เพราะรู้สึกผิดที่ทำให้ยายของเธอต้องลำบาก
นายหัวอารัณย์ไม่ชอบเห็นน้ำตาคนอื่นแต่เขาจะเดินหนีหรือทิ้งเธอไว้คนเดียวก็ดูจะใจร้ายเกินไป ชายหนุ่มเลยลุกขึ้นแล้วเดินอ้อมมาตบไหล่เธอเบาๆ อย่างให้กำลังใจ แต่คนที่กำลังร้องไห้กลับกอดเอวไว้แน่นจนเขารู้สึกถึงความเปียกชื้นบริเวณหน้าท้องซึ่งหญิงสาวกำลังซบใบหน้าอยู่ เขาได้แต่ยืนนิ่งเพราะกลัวว่าถ้าขยับไปมากกว่านี้ใบหน้าของเธอจะไปโดนอะไรที่มันหลับไหลอยู่ใต้กางเกงยีนสีเข้ม
เพลงขวัญรู้สึกเหมือนกับว่าสวรรค์กำลังกลั่นแกล้ง เธอเพิ่งเสียยายไปไม่ถึง 10 วันแล้วยังต้องมารับรู้อีกว่าตนเองนั้นเป็นหนี้เขาอยู่ถึงสองล้านนี่ยังไม่นับรวมเงินค่าใช้จ่ายที่เขาโอนให้ทุกเดือน หญิงสาวคิดมาตลอดว่าเงินที่ยายส่งให้ในแต่ละเดือนนั้นเป็นเงินที่บิดาและมารดาทิ้งไว้ให้ ในเมื่อทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วเพลงขวัญก็คิดว่าเธอควรจะเลิกเรียนออกมาหางานทำเพราะดีกว่า “นายหัวคะหนูขออยู่ที่บ้านต่อได้ไหม ส่วนเงินที่ติดหนี้หนูจะหามาคืนให้” “แล้วเธอคิดว่าเงินมากขนาดนั้นจะมาจากไหนล่ะ เธอยังเรียนอยู่นะเพลงขวัญ” “หนูจะเลิกเรียนแล้วไปหางานทำ” “แต่ยายเธอสั่งไว้ว่ายังไงฉันก็ต้องช่วยส่งเธอให้เธอเรียนจนจบ” “แต่ยายมาอยู่แล้วนี่คะ หนูมีสิทธิ์ตัดสินใจเองว่าจะเรียนหรือไม่เรียน” “คนที่เขาเรียนจบสูงๆ บางครั้งก็ยังหางานยากเลย แล้วเธอคิดว่าเขาจะจ้างคนที่เรียนไม่จบอย่างเธอเหรอ” “นายหัวอยู่แต่ในสวนในป่าจะรู้อะไร งานบางอย่างเขาก็ไม่ต้องใช้วุฒิการศึกษาหรอกนะ เขาดูที่ความสามารถ” “แล้วเธอมีความสามารถอะไร ถึงจะงานได้กัน”
หลังจากเพลงขวัญกลับไปแล้วนายหัวอารัณย์ก็เข้าไปในห้องทำงานเพื่อจัดการงานเอกสารต่างๆ ที่ข้างอยู่ เขาทำทุกอย่างคนเดียวโดยไม่มีผู้ช่วยเพราะไม่อยากให้ใครเข้ามาวุ่นวายที่บ้าน ทำงานเสร็จก็ออกมาทานอาหารกลางวันที่ป้าแววทำให้ตั้งแต่ช่วงสายๆ ก่อนจะกลับไปพักผ่อนเพราะปกติแล้ววันอาทิตย์เขาจะให้ทุกคนได้หยุดงานและบางครั้งก็มักจะเข้าไปในเมืองเพื่อทานข้าวกับเพื่อนหรือก็หาสาวสักคนไปค้างด้วยที่คอนโดที่ซื้อไว้ในเมือง หลังทานอาหารอิ่มแล้วก็เอนหลังหลับอยู่บนโซฟาสมองกำลังคิดถึงเรื่องของเพลงขวัญ เธอสวยถูกใจเขามากทั้งหุ่นก็น่าฟัดแต่ติดอยู่อย่างเดียวคือเธอยังเด็กและเข้าก็ดันไปรับปากยายของเธอไว้ว่าจะดูแลเธออย่างดี หรือเขาจะรอจนเธอเรียนจบแต่นั่นก็อีกตั้งสองปีเลยนะ คนอย่างเขาจะทนรอใครนานขนาดนั้นได้ยังไงกัน “ทนไม่ได้ก็ไม่ต้องทนสิคะ” เสียงหวานเอ่ยถาม “หมายความว่ายังไง” “นายหัวขาเพลงอายุยี่สิบแล้วนะคะ บรรลุนิติภาวะแล้วค่ะ อีกอย่างเพื่อนของเพลงบางคนก็มีผัวแล้ว” “พูดอะไรแบบนั้น” “เพลงพูดเรื่องจริงหรือนายหัวไม่อยากได้เพลงล่ะคะ เพลงเห็นนะคะว่
นายหัวอารัณย์ขับรถมาถึงคอนโดมิเนียมของตนเองในเวลาทุ่มเศษๆ พอจอดรถแล้วก็รีบเดินขึ้นไปบนห้องอย่างรวดเร็ว “นายหัวขามินนี่คิดถึงนายหัวจังเลยค่ะ นายหัวขับรถมาเหนื่อยๆ จะอาบน้ำก่อนไหมคะมินนี่เตรียมน้ำอุ่นไว้แล้วค่ะ” มินนี่คู่ขาหนึ่งสามคนของนายหัวเข้ามาออดอ้อนเธอดีใจมากที่วันนี้เขาโทรหา แม้ว่าตนเองมีนัดกับแฟนหนุ่มแต่พอได้รับสายจากนายหัวเธอก็รีบยกเลิกนัดทันที เพราะถ้าเที่ยวระหว่างแฟนของเธอที่เป็นพนักงานบริษัทกับนายหัวเจ้าของสวนยางพาราแล้วเป็นใครก็ต้องเลือกนายหัวเพราะนอกจากเขาจะหล่อและรวยมากแล้วเรื่องบนเตียงเขาก็ถูกใจเธอเป็นอย่างมาก “ไม่ล่ะ ฉันอาบมาแล้ว” “อาบมาแล้วก็ดีเหมือนกันค่ะมินนี่ไม่อยากเสียเวลา” หญิงสาวพูดพลางเบียดกายเข้าหา “เปลี่ยนน้ำหอมเหรอมินนี่” เขาได้กลิ่นน้ำหอมค่อนข้างฉุนจึงได้ถามขึ้น “ค่ะ นายหัวไม่ชอบเหรอคะ” “ชอบสิ มันเข้ากับเธอดีนะ” “มินนี่ดีใจที่นายหัวชอบ นายหัวรู้ไหมว่ามินนี่คิดถึงนายหัวตลอดเลย นายหัวไม่มาหามินนี่เกือบเดือนแล้วนะคะ” “พอดีงานที่สวยยุ่งๆ น่ะ แต่พอฉันว่าก็รีบโทรหาเลย”
เพลงขวัญเดินสำรวจรอบๆ บ้านของตนเองในช่วงสายของวันจันทร์ เมื่อคืนหลังจากที่เข้านอนไปแล้วเธอก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเดินอยู่รอบๆ บ้านและพอเห็นรอยเท้าที่มีขนาดใหญ่กว่าของตนซึ่งมีทิศทางมาจากสวนยางพาราอีกด้านหนึ่งก็ต้องขมวดคิ้ว เพราะด้านนั้นเป็นสวนของนายหัววาทิตซึ่งเธอไม่ได้รู้จักเขาหรือคนงานที่นั่นมากเท่ากับคนงานในสวนยางของนายหัวอารัณย์ เธอคิดว่านี่อาจจะเป็นแผนของนายหัวอารัณย์เพื่อแกล้งให้เธอกลัวและหนีกลับกรุงเทพหรือขอไปอยู่กับเขาที่บ้าน “แผนตื้นๆ ใครจะกลัวกัน” เพลงขวัญพูดจบก็กลับเข้าบ้านเพื่อนั่งทำงานต่อ ซึ่งเหลืออีกไม่กี่หน้างานพิสูจน์อักษรก็เสร็จแล้วเธอก็จะได้รับเงินค่าจ้างส่วนที่เหลือ หลังจากส่งงานให้กับลูกค้าทางอีเมลในตอนบ่ายเพลงขวัญก็ปั่นจักรยานไปร้านขายของชำของป้านงค์เพื่อตุนขนมไว้ทานระหว่างทำงานคืนนี้ ขากลับจากร้านป้านงค์เธอก็ปั่นจักรยานมาเจอกับวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งซึ่งมากันหลายคน พวกนั้นหยุดรถและขวางหน้าเธอไว้ “ว่าไงจ๊ะคนสวย อยู่บ้านคนเดียวคงจะเหงาแย่เลยให้พวกพี่ไปอยู่เป็นเพื่อนเอาไหม” “ไปเป็นไร ฉันอยู่คนเดียวได้”
เสียงเรียกเข้ายังคงดังอย่างต่อเนื่อง นายหัวอารัณย์ก็เลยกดรับเพราะคิดว่าคนที่โทรศัพท์มาหาเขาในเวลาดึกแบบนี้น่าจะมีธุระด่วน เขากดรับแต่ยังไม่ทันจะพูดอะไรคนปลายสายก็ส่งเสียงทักทายมาทันที และเสียงนั้นก็เหมือนว่าเขาเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน “นายหัว ใช่เบอร์นายหัวอารัณย์ไหมคะ นายหัวบอกคนของนายหัวกลับไปก่อนได้ไหม หนูรู้นะว่านายหัวส่งเขามาขู่ให้หนูกลัวใช่ไหมล่ะ แต่ทำแบบนี้มันไม่เข้าท่าเลยนะ ถ้าอยากให้หนูออกไปก็พูดกันดีๆ ก็ได้ ไม่ต้องใช่แผนแบบนี้หรอก” หญิงสาวพูดรัวจนเขาจับใจความไม่ค่อยได้ “เพลงขวัญเหรอ พูดช้าๆ ได้ไหม เกิดอะไรขึ้น” “ก็คนของนายหัวที่หนูเจอตอนเย็น ตอนนี้พวกเขากำลังเดินอยู่รอบๆ บ้าน หนูได้ยินเสียงพวกมันแล้วจำได้ นายหัวสั่งพวกนั้นมาก่อกวนหนูใช่ไหม” เธอรับเล่าขณะที่มือไม้ก็สั่นไปหมด “ไม่ใช่นะ นั่นไม่ใช่คนของฉัน เธอรออยู่ที่นั่นนะ หาที่ซ่อนก่อนเดี๋ยวฉันจะรีบไป” พูดจบนายหัวก็รีบคว้ากุญแจรถแล้วขับรถลัดสวนยางพาราไปยังบ้านของเพลงขวัญอย่างรวดเร็ว เสียงรถที่ดังมาแต่ไกลทำให้คนที่กำลังหาทางงัดประตูบ้านรีบเผ่นกลับไปทันที ก๊อก ก
เพลงขวัญมัวแต่เสียใจจนลืมนึกถึงเรื่องที่เขาพูดถึงไปจนสนิท “หนูควรไปแจ้งความไว้ก่อนไหม” “แต่เราไม่มีหลักฐานนะ เธอได้ยินแค่เสียงแต่ไม่เห็นหน้าพวกมัน” “แล้วหนูต้องอยู่อย่างหวาดระแวงเหรอคะนายหัว” “คืนนี้ไปอยู่ที่บ้านฉันก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยคิดกันต่อว่าจะเอายังไง” “หนูไม่อยากรบกวนนายหัวหรอกค่ะ” “แล้วมีที่อื่นให้ไปอยู่ไหมล่ะ ไปอยู่ที่นั่นก่อน ส่วนเรื่องกลับไปอยู่กรุงเทพค่อยคุยกันอีกทีก็ได้ คืนนี้มันดึกแล้วฉันง่วง” “หนูว่าพวกมันคงไม่มาแล้วล่ะค่ะ” “เธอเชื่อใจพวกในมากกว่าเชื่อใจฉันเหรอเพลงขวัญ” “เปล่าหนูก็แค่เกรงใจ” “บ้านฉันมีสามห้องนอน เธอไปอยู่ที่นั่นฉันก็ไม่เดือดร้อนอะไร” “นายหัวไม่กลัวแฟนของนายหัวรู้เหรอคะ” “นี่ฉันไปมีแฟนตอนไหน” “ป้านงค์บอกว่าแฟนนายหัวเป็นเจ้าของร้านปุ๋ยในเมือง” เธอบอกเขาตามที่ได้ยินมา “ชาวบ้านก็พูดกันไปเรื่อยนั่นแหละ จีไม่ใช่แฟนฉันแต่เราสองคนสนิทกันเพราะฉันสั่งของที่ร้านของเธอตลอด เธออย่าเพิ่งถามอะไรให้มากความเลยฉันง
นายหัวกลับจากสวนยางก่อนเวลาแปดโมงเช้าเล็กน้อยพอมาถึงก็รีบไปอาบน้ำก่อนจะออกมาอีกครั้งในเวลาไม่นาน “หิวหรือยัง” เขาถามเพลงขวัญที่นั่งรออยู่บนโซฟารับแขกกลางห้อง “ยังค่ะ” “แต่ฉันหิวแล้ว” เขาเดินไปยังโต๊ะทานอาหารทำให้เพลงขวัญก็ต้องเดินตามไปด้วย “นายหัวคะ หนูไปกินกับป้าแววและพี่บุหลันได้ไหม” เธอเกรงใจทั้งเจ้าของบ้านและลูกจ้างอีกสองคน “กินด้วยกันนี่แหละ” “แต่หนูเป็นลูกหนี้ของนายหัวคนอื่นรู้คงไม่ดีแน่” เพลงขวัญไม่อยากถูกคนอื่นมองไปในทางอื่น “สถานะลูกหนี้จะเริ่มหลังจากเธอเรียนจบแต่ตอนนี้เธออยู่ที่นี่ในฐานะของคนที่ฉันต้องดูแลตามคำสั่งเสียของยายนวลปราง” “แต่หนูว่า...” “ถ้ายายเธอรู้คงเสียใจนะที่เธอกำลังจะขัดคำสั่งของท่าน” นายหัวอารัณย์อ้างถึงยายของเธอเพราะรู้ว่าเพลงขวัญจะต้องทำตาม “ค่ะ” หลังทานอาหารแล้วเพลงขวัญก็ช่วยบุหลันเก็บโต๊ะและกำลังจะล้างจานแต่นายหัวก็มาเรียกให้เธอให้ตามไปที่ห้องทำงาน “เพลงไปก่อนนะคะ” หญิงสาวบอกบุหลันและป้าแววจากนั้นตัวเองก็รีบเข้าไปหานายหัวใน
เพลงขวัญมาอยู่ที่บ้านของนายหัวครบหนึ่งสัปดาห์แล้ว หญิงสาวช่วยงานป้าแววและบุหลันบ้างเวลาที่นายหัวไม่อยู่ เพราะไม่อยากจะทำตัวเป็นคุณหนูที่มาอยู่บ้านเขาแล้วไม่ช่วยหยิบจับอะไรเลย แต่ถ้านายหัวอยู่บ้านเธอก็จะเข้าห้องและนั่งทำงานของตนเองไปเงียบๆ และวันนี้ก็ครบกำหนดที่เธอจะต้องทำแกงไตปลาให้กับนายหัวอารัณย์ทานอีกครั้ง หญิงสาวตั้งใจปรุงรสชาติให้ออกมาใกล้เคียงกับวันนั้นให้มากที่สุด “ป้าแววว่ารสชาติเหมือนเดิมไหมคะ” “เหมือนจ้ะ” “พี่ก็ว่าเหมือนนะ”“โล่งอกไปทีค่ะ” เพลงขวัญถอดหายใจด้วยความโล่งอก ทั้งสามคนช่วยกันจัดโต๊ะอาหารซึ่งเสร็จทันเวลาที่นายหัวกับเพื่อนมาถึงบ้านพอดี “น่ากินมากเลยนะบุหลัน” วริศผู้จัดการสวนและพ่วงตำแหน่งหัวหน้าคนงานเอ่ยชมเพราะตอนนี้มีแค่บุหลันยืนรออยู่ที่โต๊ะอาหารเพียงคนเดียว “ไม่ใช่ฝีมือบุหลันหรอกค่ะ คุณวริศ บนโต๊ะนั่นฝีมือป้าแววกับน้องเพลง” “แล้วเพลงขวัญไปไหนแล้วล่ะ” นายหัวอารัณย์ถาม เขาอยากจะแนะนำเพลงขวัญให้รู้จักกับผู้จัดการสวนยางเอาไว้เพราะอาจจะได้เจอกันบ้างถ้าเธอยังอยู่ที่นี่ “
เพลงขวัญมองห้องที่ไม่เหมือนเดิมแล้วหันกลับมามองเจ้าของห้องแล้วก็ต้องตกใจมากขึ้นไปอีกเมื่อเห็นว่าตอนนี้นายหัวอารัณย์นั้นคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเธอ“เพลงแต่งงานกับฉันนะ”เขาส่งแหวนแต่งงานที่ด้านบนประดับด้วยเพชรเม็ดโตยื่นมาตรงหน้า เพลงขวัญทำตัวไม่ถูกเพราะเมื่อก่อนหน้านี้เธอก็ตื่นเต้นดีใจ และประหลาดใจที่นายหัวพาไปจดทะเบียนสมรสมาครั้งหนึ่งแล้วหญิงสาวยืนนิ่งราวกับต้องมนตร์สะกด เธอสบตาเขาแล้วใจเต้นแรงไม่คิดมาก่อนว่าตนเองจะถูกขอแต่งงานทั้งที่ระหว่างเธอกับเขามันข้ามขั้นตอนมานานแล้ว“นายหัวคะ”“ตกลงไหมเพลงแต่งงานกับฉันไหม” เขาถามย้ำอีกครั้งใบหน้าหล่อเรียบเฉยทั้งที่ใจเต้นแรงเขาพาเธอไปจดทะเบียนสมรสแล้วค่อยขอแต่งงานซึ่งมันเป็นขั้นตอนที่ค่อนข้างประหลาดอยู่ไม่น้อย“ตกลงค่ะ” หญิงสาวตอบรับนายหัวนายอารัณย์ยิ้มอย่างดีใจก่อนจะสวมแหวานลงบนนิ้วนางทับไปกับแหวนแต่งงานจากนั้นเขาก็ลุกขึ้นกอดเธอแน่น“ฉันควรขอเธอแต่งงานก่อนแล้วค่อยพาไปจดทะเบียน แต่ตอนนั้นฉันไม่มีแหวนแล้วชลทีก็ไม่ว่างจะเข้าเมืองมาเป็นพยานด้วย มันอาจจะสลับขั้นตอนไปบ้าง แต่ที่ฉันทำทุกอย่างก็เพราะรักเธอนะเพลงขวัญฉันรักเธอมาก” เขากล่าวด้วยเสี
วันนี้ก็ครบกำหนดที่เพลงขวัญจะต้องกลับไปเรียนแล้วเธอมีเที่ยวบินในตอนเย็นแต่ก็ถูกนายหัวปลุกตื่นตั้งแต่เช้า“นายหัวคะว่าเพลงจะบินก็อีกหลายชั่วโมงทำไมนายหัวต้องปลุกแต่เช้าด้วยคะ เพลงยังง่วงอยู่เลย” เพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบจะตีสองเช้าวันนี้เพลงขวัญก็เลยอิดออดไม่อยากจะลุกจากที่นอน“ฉันให้เธอเลือกจะลุกจากที่นอนตอนนี้หรือจะให้ฉันรุกเข้าหาเธออีกครั้ง”“โอ๊ย นายหัวทางเลือกของนายหัวแต่ละทางเพลงละเหนื่อยจริงๆ เลยค่ะ”“เอาล่ะอย่ามัวเสียเวลา วันนี้ฉันจะต้องไปทำธุระอีกหลายที่” เขาบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังจนเพียงขวัญรู้สึกผิดที่เอาแต่งอแงไม่ยอมลุกจากเตียง“เพลงขอโทษ เพลงไม่รู้ว่านายหัวมีธุระต้องรีบไป ไม่โกรธกันนะคะ” หญิงสาวลุกจากที่นอนแล้วเข้ามากอดเขาอีกทั้งยังหอมไปที่แก้มเขาอย่างประจบ“ฉันเคยโกรธเธอที่ไหนล่ะ” เขาจูบไปที่ขมับของเธออย่างรักใคร ช่วงเวลาที่เพียงขวัญมาอยู่กับมันช่างผ่านไปเร็วจนเขารู้สึกใจหายที่เธอจะต้องกลับไปเรียน“เพลงจะรีบอาบน้ำนะคะ” หญิงสาวอาบน้ำแต่งตัวก่อนจะรีบลงมาทานอาหารเช้ากับเขา ซึ่งป้าแววกับบุหลันเตรียมไว้รอแล้ว“หนูเพลงไหนบอกป้าว่ามีไปเที่ยวบินตอนเย็นไงล่ะ แล้วท
เข้าสัปดาห์ที่สองที่เพลงขวัญมาอยู่ในสวนยางพาราวันนี้นายหัวมีนัดจะพาเธอไปเรียนขับรถเพิ่มเติมหลังจากที่หญิงสาวเรียนที่กรุงเทพมาบ้างแล้ว“พร้อมใหม่เพลงขวัญ” เขาถามหลังจากที่เมื่อวานพาเธอออกไปขับบนถนนแล้วเธอบอกว่าไม่อยากจะหัดขับอีกแล้ว“ตอบไม่พร้อมได้ไหมคะ”“เธอจะไม่พร้อมทุกวันไม่ได้หรอกนะเพลง”“พร้อมก็ได้ค่ะ แล้ววันนี้เราจะขับไปทางไหนคะ”“ว่าจะไปแถวท้ายสวน เพราะไม่ค่อยมีคนเธอจะได้ไม่เกร็งมาก”“ก็ได้ค่ะนายหัว แล้วจะให้เพลงขับตั้งแต่ตรงนี้หรือไปถึงท้ายสวนค่อยเริ่มคะ”“ฉันขับไปให้ก่อนก็ได้ตรงนี้ยังมีคนผ่านไปผ่านมาเดี๋ยวจะไปเฉี่ยวชนใครเขาเข้า”“ได้ค่ะ” เพลงขวัญกระโดดขึ้นไปนั่งข้างคนขับขณะที่นายหัวก็ขึ้นไปนั่งบนรถจากนั้นก็ขับออกไปจากบริเวณหน้าบ้าน “เอาละ เหยียบเบรกไว้นะแล้วเลื่อนคันเกียร์มาที่ตำแหน่ง D เบรกมือ ค่อยๆ ปล่อยเบรกที่เท้าทีละนิดนะ ตามองไปข้างหน้าสิ อย่ามองเท้า” “ก็เพลงกลัวพลาดนี่คะ” “ไม่ต้องกลัวหรอกน่า ตรงนี้ไม่มีใครถ้ามันจะชนก็แค่ชนต้นยางเท่านั้นแหละ” “ค่ะ ตอนนี้เพลงปล่อยเบรกแล้วต้องทำยังไงต่อ” “ตามองไปข้างหน้า กดคันเร่งท
เพลงขวัญรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่วันนี้เธอได้กลับมายังสุราษฎร์ธานีอีกครั้งเพราะหลังจากที่ออกจากหนีออกจากบ้านไปเมื่อหลายเดือนก่อนก็ยังไม่มีโอกาสได้ติดต่อใครที่นี่อีกเลยสักคน“เพลงทำไมดูเหมือนไม่ดีใจเลยล่ะที่ได้กลับบ้าน” นายหัวอารัณย์ถามเมื่อเห็นว่าคนรักนั้นเอาแต่นั่งหน้าเครียดมาตั้งแต่เขาไปรับที่สนามบิน“ดีใจสิคะนายหัว แต่เพลงก็ตื่นเต้นด้วยเพลงไม่รู้ว่าป้าแววกับพี่บุหลันจะมองเพลงยังไง”“สองคนนั้นเขารู้เรื่องแล้วฉันเล่าให้เขาฟังหมดแล้ว”“เหรอคะแล้วป้าแววว่ายังไงบ้าง”“ก็ไม่เห็นว่ายังไงป้าเขาก็ดีใจที่เพลงได้ฉันช่วยดูแล”“แล้วพี่บุหลันล่ะคะบุหลันก็ดีใจเพราะถึงแม้ว่าจะแปลกใจไปบ้างเพราะฉันชอบพูดอยู่ตลอดเวลาว่าไม่อยากมีเมียเด็ก แต่พอพวกเขารู้ก็ไม่มีใครว่าอะไรนะ”“เพลงไม่รู้จะทำตัวยังไง”“ก็ทำตัวเหมือนเดิมเธอเคยเป็นยังไงก็เป็นยังนั้น ไม่ต้องเกร็ง”“จริงๆ นายหัวน่าจะรอบอกเรื่องนี้ตอนเพลงเรียนจบ”“ถ้าฉันรอบอกตอนเธอเรียนจบแล้วพาเธอกลับมาบ้านครั้งนี้ฉันกับเธอจะได้สวีทกันไหมล่ะ”“แหมเวลาอยู่ในห้องแล้วค่อยสวีทก็ได้”“ไม่ล่ะ ต่อไปนี้ฉันกับเธอจะไปไหนมาไหนด้วยกันในฐานะคนรัก” เขาจับมือเล
นายตลอดระยะเวลาหยุดยาวสามวันเพลงขวัญแทบไม่มี โอกาสลุกจากที่นอนเลยเพราะนายหัวอารัณย์ตักตวงความสุขจากร่างกายของเธอจนหญิงสาวไม่มีแม้แต่แรงจะเดินไปเข้าห้องน้ำ“นายหัวขาเพลงไม่ไหวแล้วนะคะ” หญิงสาวร้องขอหลังจากที่เขาร่วมรักกับเธออีกครั้งในเวลาเจ็ดโมงเช้าหลังจากที่เพิ่งเข้านอนไปในเวลาเกือบจะตีสอง เธอไม่รู้ว่าเขาไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนถึงได้ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และที่แปลกก็คือเธอยอมเขาทุกครั้ง เพราะเธอเองก็มีความสุขมากเหมือนกัน“เพลงเธอก็รู้เราจะไม่ได้เจอกันอีกนานเลยนะ”“แต่นายหัวขาเพลงไม่ไหวแล้วจริงๆ” หญิงสาวอ้อนเสียงหวาน“ขออีกครั้งเดียวครั้งเดียวนะเพลง” นายหัวหนุ่มทำเสียงอ้อนกลับ เพราะร่างกายของเขาต้องการปลดปล่อยออกมาให้ได้มากที่สุด“จะไม่ปรานีเพลงหน่อยเหรอคะ เพลงไม่ไหวแล้ว”“ปากเธอบอกให้ปรานีแต่ตอดถี่แบบนี้ฉันชักไม่แน่ใจแล้วว่าเธอต้องการแบบไหนกันแน่”“ก็มันเสียวนี่คะ นายหัวทำให้เพลงเสียว”“ฉันรู้ว่าฉันทำให้เธอเสียว ฉันเองก็เสียวไม่ต่างจากเธอหรอก”นายหัวหนุ่มกระแทกกระทั้นเข้าหาโพรงถ้ำติดๆ กันอย่างไม่ยั้งจนในที่สุดทั้งสองก็ระเบิดอารมณ์ออกมาพร้อมๆ กันอีกครั้งร่างกายของเพลงขวัญอ่อน
นายหัวอารัณย์ขึ้นมาหาเพลงขวัญหลังจากเธอสอบเสร็จแต่เพราะไม่ได้บอกเธอว่าจะมาเที่ยวบินไหน พอมาถึงห้องจึงไม่เจอกับคนรัก “นายหัวขาเพลงขอโทษ เพลงนึกว่านายหัวจะมาพรุ่งนี้ เพลงเลยออกมาฉลองสอบเสร็จกับเพื่อนค่ะ” เสียงหวานอ้อนมาตามสายเมื่อเขาโทรหา “ฉันผิดเองที่ไม่บอกว่าจะมาวันไหน แล้วเธอจะกลับดึกหรือเปล่า ฉันคิดถึงอยากเจอ” “ไม่เกินเที่ยงคืนค่ะ ได้ไหมคะ” “ได้สิ แล้วจะกินเหล้าไหม” “นิดหน่อยค่ะ แต่รับรองว่าไม่เมา” “แล้วจะกลับยังไงล่ะ” “ตาจะไปส่งค่ะ” “ถ้าขับรถกลับกันไม่ไหวก็โทรบอกนะ ฉันจะไปรับ” เขาบอกอย่างห่วงใย ชายหนุ่มรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่มาแล้วไม่เจอเพลงขวัญ แต่เรื่องนี้จะโทษว่าเป็นความผิดของเธอก็ไม่ได้เพราะตามกำหนดเดิมเขาจะมาถึงพรุ่งนี้เย็น เพลงขวัญกลับมาถึงคอนโดในเวลาห้าทุ่มครึ่ง เธอรีบเข้าไปอาบน้ำเพราะตอนนี้เนื้อตัวของตนมีแต่กลิ่นบุหรี่พอออกมาจากห้องน้ำนายหัวหนุ่มที่เมื่อครู่ยังหลับอยู่ก็ตื่นมานั่งรอเธออยู่แล้ว หญิงสาวรีบขึ้นมานั่งบนเตียงแล้วสวมกอดเขาด้วยความคิดถึง“คิดถึงนายห
ตั้งแต่กลับมาจากกรุงเทพนายหัวอารัณย์ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานอย่างเต็มที่ แม้จะทำงานหนักแค่ไหนแต่บนใบหน้าอันหล่อเหลาของนายหัวหนุ่มก็มีรอยยิ้มประดับ จนกล้าลูกน้องคนสนิทอดถามเจ้านายไม่ได้ “นายหัวครับที่นายหัวหายไปกรุงเทพนานเป็นอาทิตย์นี่ไปทำอะไรมาครับ”“ฉันไปทำอะไรมาต้องรายงานลูกน้องอย่างนายด้วยเหรอกล้า”“เปล่าครับ ที่ผมถามก็เพราะสงสัย”“สงสัยอะไร”“ก็สงสัยว่าที่กรุงเทพต้องมีอะไรดีแน่ๆ”“ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ”“ก็เวลาทำงานนายหัวจะทำหน้าเครียดตลอดโดยเฉพาะสองเดือนที่ผ่านมา นายหัวหงุดหงิดบ่อยมากจนพวกผมไม่มีใครกล้าเข้าหน้านายหัวเลย แต่พอกลับจากกรุงเทพนายหัวดูอารมณ์ดีแปลกๆ ทั้งที่งานก็หนักปัญหาก็เยอะแต่ผมไม่เคยได้ยินนายหัวบ่นโมโหหรือมีท่าทางหงุดหงิดเลยนะครับผมว่าต้องมีอะไรดีๆ อยู่ที่กรุงเทพแน่ๆ”กล้าตั้งข้อสังเกตกับเจ้านาย“นายอยากรู้ไหมล่ะว่าที่กรุงเทพมีอะไรดี”“อยากรู้สิครับนายหัวบอกมาสิครับ”“ฉันไม่บอกนายหรอกถ้านายอยากรู้ในก็ลาออกจากที่นี่แล้วลองไปหางานทำที่กรุงเทพดูสิเผื่อจะรู้ว่าที่นั่นมีอะไรดี”“โธ่ นายหัวลาออกก็โง่สิครับทำงานกับนายหัวถึงแม้งานจะหนักแต่เงินก็ดีแล้วอย่างผมเร
เวลาหนึ่งสัปดาห์ผ่านไปอย่างรวดเร็ววันนี้นายหัวอารัณย์จำเป็นต้องกลับสุราษฎร์เพราะมีนัดกับลูกค้าคนสำคัญ ทั้งที่เขาไม่อยากจากเพลงขวัญไปเลยเพราะรู้สึกว่ายิ่งได้อยู่ใกล้ก็ยิ่งรักและหลงเธอมากขึ้น“ฉันรีบทำธุระเสร็จแล้วจะรีบกลับมาหาเธอนะเพลง”“นายหัวคะ เพลงว่านายหัวไม่ต้องรีบกลับมาก็ได้ค่ะ”“ทำไมเธอไม่อยากอยู่กับฉันเหรอ”“เปล่านะคะ เพลงก็แค่ไม่อยากให้นายหัวเสียงาน”“แน่นะ”“แน่สิคะ”“หรือเธอเบื่อฉันแล้ว”“เพลงจะเบื่อนายหัวได้ยังไงคะ เพลงอยากให้นายหัวเคลียร์งานให้เรียบร้อยก่อน เพลงก็รออยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน อีกอย่างถึงได้หัวรีบจะกลับมาเพลงก็มีอะไรกับนายหัวไม่ได้อยู่ดี”“ทำไมพูดแบบนั้นหรือเธอไม่ไหว”“แล้วไม่ใช่อย่างนั้นสักหน่อย นายหัวก็รู้ว่าเพลงอึดมากแค่ไหน”“ใช่ฉันรู้”นายหัวหนุ่มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เพราะตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีคืนไหนเลยที่เขาให้ดีหญิงสาวได้หยุดพักทั้งเขาและเธอมอบความสุขให้กันทุกค่ำคืน“อีกไม่กี่วันเพลงก็เป็นรอบเดือนแล้วค่ะ นายหัวไปทำงานเถอะค่ะถ้าเพลงหายแล้วเพลงจะบอก”“ที่ฉันอยู่กับเธอไม่ใช่เพราะเรื่องนั้นอย่างเดียวนะเพลงฉันอยู่อยากใกล้เธอแบบนี้” เขากอดเธอไว้แน่นอย่
นายหัวอารัณย์ตื่นมาอีกครั้งในเวลาเกือบจะเก้าโมงเช้า แต่คนที่นอนซบอกอยู่ก่อนหน้านี้ไม่อยู่ที่เดิมแล้ว พอเขาลุกจากที่นอนก็ได้ยินเสียงอาบน้ำ นายหัวหนุ่มมองนาฬิกาที่ผนังห้องแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ เพราะเห็นว่าพอมีเวลาเหลืออยู่ เขาไม่รอช้าที่จะค่อยๆ เปิดประตูห้องน้ำเข้าไปเพลงขวัญกำลังยืนอาบน้ำอยู่ใต้ฝักบัวโดยไม่รู้เลยว่าตอนนี้กำลังมีสายตาของหมาป่ากำลังจ้องมองเธอราวกับเป็นลูกแกะน้อย พออาบน้ำล้างฟองสบู่เสร็จหญิงสาวก็ปิดฝักบัวและหันหลังกลับแล้วก็ต้องสะดุ้งเมื่อชนเข้ากับแผงอกเปลือยเปล่าของนายหัวหนุ่มที่“อุ๊ย! นายหัวเข้ามาได้ยังไงคะ”“ก็เพลงไม่ได้ล็อกประตูนี่”“เพลงว่าล็อกแล้วนะคะหรือว่าจะจำผิด”“ฉันว่าเธอตั้งใจไม่ล็อกมากกว่ามั้ง”“ไหนๆ ฉันก็เข้ามาแล้วอาบให้ฉันหน่อยสิ”“ไม่ค่ะเพลงต้องรีบไปเรียน”“จะรีบไปไหนล่ะ เพลงมันยังไม่เก้าโมงเลยนะ” เขามองเพลงขวัญที่ก้มหน้ามองพื้นแล้วยิ้ม นายหัวหนุ่มรู้ว่าเธอยังอายที่ยืนประจันหน้ากันทั้งที่ไม่สวมเสื้อผ้าสักชิ้นแบบนี้หญิงสาวพยายามเดินเลี่ยงแต่นายหัวอารัณย์ก็ยิ่งขวางไว้ทั้งสีหน้าและท่าทางของเขาทำให้เพลงขวัญเข้าใจดีอยู่ว่าตนเองคงออกไปจากห้องน้ำแห่งนี้ไ