Beranda / รักโบราณ / นางร้ายเหนื่อยแล้ว / 5.1 : ทำดีไม่มีใครเห็น

Share

5.1 : ทำดีไม่มีใครเห็น

บทที่ 5

‘ทำดีไม่มีใครเห็น’

.

.

เย่ซูชางต้องพยายามอย่างมากที่จะข่มอารมณ์ของตนเองเอาไว้เพราะถ้าไปหาเรื่องนางเอกอีกคงกลายเป็นเรื่องใหญ่โต มีหวังพระเอกที่นอนรักษาตัวจากการถูกโทษโบยได้ลุกมาเอาเรื่องนางแบบลืมเจ็บลืมตายเป็นแน่

“เจ้าควรจะดีใจที่ข้าไม่ไปยุ่งกับหมิงซัวอีก จะได้ไม่ต้องไปตบตีหรือทะเลาะเบาะแว้งกับเจ้า”

“ท่านพี่ฉินเป็นคนดีไม่ควรมัวหมองเพราะเจ้า”

“งั้นควรมัวหมองเพราะเจ้าหรือ จะเอาผู้ใดก็เลือกสักคนไม่ ใช่จับปลาสองมือ”

“ข้ารักท่านพี่หมิงซัว แต่ก็เป็นห่วงท่านพี่ฉินในฐานะพี่ชายเท่านั้น”

“เจ้าเรียกทั้งสองคนว่าพี่ แต่กับข้าไยไม่เคารพบ้าง ข้าก็อายุเท่าพวกเขาเป็นพี่ของเจ้าและยังเป็นท่านหญิงด้วย ว่ากันตามตรงเจ้าควรนั่งลงกับพื้นแล้วคุกเข่าคุยกับข้าถึงจะถูก กล้าดียังไงมายืนค้ำหัวข้าแบบนี้”

“อึก!”

แต่แทนที่แม่นางเอกจะกลัวดันผลักนางจนหลังกระแทกผนัง นี่ขนาดมีมือเดียวนะเนี่ยยังร้ายไม่ใช่น้อยถ้ามีสองมือสองแขนจะขนาดไหน ใครก็ว่านางชอบรังแกนางเอก แต่ไม่มีใครมาเห็นตอนนางเอกรังแกนางร้ายเลย

“คนอย่างเจ้าไม่สมควรได้รับความเคารพ ไม่ควรเป็นท่านหญิง ไม่ควรให้ใครกราบไหว้ยกยอทั้งนั้น เจ้ามันก็แค่หญิงชั่ว!”

สุดท้ายเย่ซูชางก็หมดความอดทนเพราะหลายครั้งแล้วที่แม่นางเอกคนดีมาด่านางว่าคนชั่ว นางผลักตัวถังซีเยว่ออกไปก่อนจะง้างมือตบเข้าที่ใบหน้าหวานอย่างแรงจนอีกฝ่ายเสียหลักล้มลงไปกองกับพื้นจนนางเองก็ตกใจว่าใช้แรงไปเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ เลยจะรีบเข้าไปดูแต่กลายเป็นว่ายื้อยุดกันไปมาจนนางเผลอไปโดนแขนที่ยังหักอยู่ของอีกฝ่ายทำให้ถังซีเยว่ร้องเสียงหลง

“เจ้าทำอะไร!”

เสียงเข้มดังขึ้นยังไม่ทันที่เย่ซูชางจะได้หันไปมองก็เหมือนถูกแรงผลักจนล้มก้นจ้ำเบ้าเจ็บร้าวไปทั้งสะโพก แต่พอเงยหน้ามองกลับยิ่งเจ็บปวดลึกไปถึงหัวใจเมื่อเห็นว่าหยวนฉินกำลังประคองถังซีเยว่อยู่อย่างสนิทสนมถึงเนื้อถึงตัวกันน่าดู

“ทำไมเจ้ายังมาทำร้ายเสี่ยวเยว่อีก เจ้าต้องการอะไรกันแน่!”

‘ตอนอดทนไม่มีใครเห็นเลย พอตอนหมดความอดทนคนดันเห็นทั้งแผ่นดิน เจริญจริง ๆ’

“ทำไมไม่ถามนางบ้างว่าก่อนหน้าที่ข้าจะทำอะไรนางมันเกิดสิ่งใดขึ้น ลองถามสิว่านางมายั่วยุข้าก่อนหรือเปล่า”

“คนอย่างเจ้าดีแต่รังแกเสี่ยวเยว่ นางแขนหัก ร่างบอบบางจะไปทำอะไรเจ้าได้ อย่ามาโยนความผิดให้นาง”

“บอกให้ข้าทำดีเป็นร้อยเป็นพันครั้งเจ้าก็ไม่มีวันมองเห็นหรอกหยวนฉิน เพราะในสายตาของเจ้าเวลามองข้ามมันมีแต่ความอคติ ผู้คนว่าข้าชั่วร้าย เจ้าก็ว่าข้าชั่วร้าย ผู้คนว่าข้าเป็นปีศาจ เจ้าก็ว่าข้าเป็นปีศาจ แต่จะมีผู้ใดบ้างที่มองให้ลึกเข้ามาในหัวใจของข้าว่าข้ามีความรู้สึกเช่นไร แล้วสิ่งที่ข้าต้องพยายามอดทนมาตลอดมันหนักหนาเพียงใด”

นางลุกขึ้นยืนก่อนจะหยิบเอาหมวกผ้ามาสวมใส่ปิดบังใบหน้าเช่นเดิม ไม่ใช่เพราะอับอายแต่เพราะนางกำลังจะร้องไห้ต่างหากเลยอยากปิดบังน้ำตาไม่ให้ผู้ใดเห็นถึงความอ่อนแอ

“ขนาดพระโพธิสัตว์ยังมีพลาดพลั้งแล้วตัวข้าที่เป็นปุถุชนจะพลาดไม่ได้เลยหรือ อดีตข้าเคยชั่วร้าย แต่ยามนี้จะกลับตัวเป็นคนดีไม่ได้เลยหรือ?”

“ขะ… ข้า”

“เจ้าอย่าถามเลยว่าข้ามีเหตุผลอันใด อย่าถามเลยว่าข้าทำไปทำไม ตราบใดที่หัวใจของเจ้ายังมีอคติต่อข้า มีร้อยหมื่นเหตุผลดี ๆ เจ้าก็มองว่ามันเลวทั้งนั้นเพราะในสายตาและหัวใจของเจ้าตัดสินข้าเป็นคนชั่วไปแล้ว”

ว่าจบนางก็หันตัวเดินออกมาจากตรอกนั้นทันทีทิ้งให้พระรองอยู่กับนางเอกในใจของเขาไป นางร้ายแบบนางต่อให้ทำดีแค่ไหนก็ยังถูกตราหน้าว่าร้ายกาจอยู่ดี นางอดทนพยายามไม่ทำร้ายนางเอกอยู่ตั้งนานยอมให้โดนเหยียดหยามด่าว่า ชั่ว ชั่ว ชั่ว อยู่นั่นแหละ ไม่มีใครเห็นเลย แต่พอนางหมดความอดทนดันมีคนมาเห็นสมแล้วที่เป็นนางร้าย

‘ทำเรื่องดีไม่มีใครเห็น ทำเรื่องชั่วคนเห็นทั้งแผ่นดิน’

“ประเสริฐ ประเสริฐจริง ๆ!”

นางตะโกนจนเสียงดังลั่นโดยลืมไปว่าตนเองอยู่กลางตลาดทำให้ชาวบ้านชาวช่องหันมามองเป็นตาเดียว ดีนะใส่หมวกผ้าอยู่ไม่อย่างงั้นอับอายขายขี้หน้า ตอนนี้ต้องรีบออกจากที่นี่ก่อนเลยเตรียมจะหันตัววิ่งหนีแต่ยังไม่ทันจะก้าวเดินไปไหนก็มีกลุ่มทหารวิ่งเข้ามาขวางทางพร้อมกับใครสักคนที่เหมือนจะเป็นขันทีแต่ก็ไม่ใช่หวังกงกงหรอกนะ สีชุดที่ใส่ก็ไม่เหมือนกันอาจจะมีตำแหน่งต่ำกว่าหวังกงกง แต่ก็ดูเป็นคนที่น่าเกรงขามไม่น้อยเลยทีเดียวแล้วนางต้องทำยังไงล่ะ 

"คารวะท่านหญิงเย่ขอรับ"

นางพยักหน้ารับเล็กน้อยเพราะตำแหน่งท่านหญิงของนางคงไม่ต้องก้มหัวคำนับกลับหรอกมั้ง

"มีเรื่องอันใดหรือ ทำไมต้องพาทหารมาด้วย?" 

"ฮองเฮาทรงมีรับสั่งให้ท่านหญิงเข้าเฝ้า จึงให้ข้ามารับท่านขอรับ" 

'ที่แท้ก็ขันทีข้างกายฮองเฮาฉีนี่เอง แต่ตามนิยายเจ๊ฮองเฮาไม่ใช่คนดีอะไร แถมยังเกลียดเย่ซูชางด้วยเพราะไม่ชอบที่นางได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้มากกว่าองค์หญิงสี่บุตรสาวตน เรียกเข้าวังไปเชือดทิ้งหรือเปล่านะ แต่ถ้าไม่ยอมไปก็โดนอาญาอยู่ดี มันก็ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องยอมไปแต่โดยดี ทำไมเวลาแบบนี้ไม่เห็นมีใครโผล่มาช่วยนางบ้างเลย เกิดเป็นนางร้ายก็ลำบากแบบนี้สินะ'

"ถ้าเช่นนั้นเชิญกงกงนำทางไปเถิด"

"ขอรับ เชิญทางนี้ขอรับ" ขันทีวัยกลางคนผายมือเชื้อเชิญเย่ซูชางให้เดินไปทางรถม้าหรูหราโอ่อ่าที่จอดอยู่อย่างสุภาพ นางเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมตามไป

ถ้าตามนิยายมันก็มีช่วงเวลาที่ฮองเฮาเรียกเย่ซูชางไปพบแหละ แต่มันไม่น่าจะไวขนาดนี้เพราะถ้าตามนิยายเย่ซูชางจะต้องไปตบตีกับองค์หญิงสี่ก่อนเลยโดนฮองเฮาเรียกไปสำเร็จโทษ แต่นี่ยังไม่ได้ไปตบลูกเจ๊เขาเลยแต่ทำไมเจ๊ถึงได้เรียกพบไวขนาดนี้หรือเผลอไปเดินเหยียบเท้าลูกเจ๊เขาแบบไม่รู้ตัวกันนะ แต่ก็ไม่น่าใช่เพราะตั้งแต่ทะลุมิติเข้ามาอยู่ในร่างนี้ก็ยังไม่เคยพบองค์หญิงสี่เลยนะ

'ยิ่งคิดก็ยิ่งไม่เข้าใจงั้นเลิกคิดดีกว่า ทำใจให้สงบเผื่อตายจะได้ตายแบบสงบ'

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terkait

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   6 : เข้าเฝ้าฉีฮองเฮา

    บทที่ 6‘เข้าเฝ้าฉีฮองเฮา’พระตำหนักคุนหนิง , พระราชวังสายลมเย็นพัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างที่ถูกเปิดโล่งเอาไว้จนกลิ่นหอมของมวลบุปผาล่องลอยเข้ามาจนชวนให้รู้สึกสบายใจแต่ไม่ใช่ทุกคนหรอก หนึ่งในนั้นคือเย่ซูชางที่กำลังยืนอยู่ต่อหน้าของฉีฮองเฮาที่กำลังจ้องมองนางด้วยรอยยิ้มแต่เป็นรอยยิ้มที่ดูไม่น่าไว้วางใจสักนิดเดียว“พระองค์เรียกหม่อมฉันมาพบถึงพระตำหนักมีเรื่องอะไรหรือเพคะ?” นางตัดสินใจถามออกไป พยายามใจดีสู้เสือ“ข้าได้ยินว่าเจ้าจะหมั้นหมายกับรองเจ้ากรมพิธีการหยวนหรือ?” ฉีฮองเฮากล่าวน้ำเสียงนิ่งเรียบสุขุมในแบบของนางที่มักจะแสดงต่อผู้อื่นเสมอ“เพคะ” นางตอบออกไปตามตรงเพราะอีกไม่นานของหมั้นหมายก็จะถูกส่งมาจากนั้นก็คงจะตามมาด้วยสามหนังสือหกพิธีการ“เดิมทีเจ้าหมายใจแม่ทัพจางไม่ใช่หรือ เหตุใดวันนี้ถึงหันเหไปหารองเจ้ากรมพิธีการหยวนเสียแล้วเล่า?”“หม่อมฉันกับรองเจ้ากรมพิธีการหยวนก็เป็นสหายกันมาตั้งแต่วัยเยาว์ นับว่ารู้จักสนิทสนมกันมาก มันเป็นเพียงแค่ความห่างเหินที่ทำให้ไม่รู้ใจตนเองเท่านั้นเพคะ พอได้อยู่ด้วยกัน ได้กลับมาเรียนรู้กันอีกครั้งจึงต่างรู้ใจตนเองว่าผู้ใดกันแน่ที่หัวใจหมายปอง”นางกล่าวออกไปด

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-11
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   6.1 : เข้าเฝ้าฉีฮองเฮา

    บทที่ 6‘เข้าเฝ้าฉีฮองเฮา’..“เจ้าว่าอย่างไร ความคิดของข้าเป็นเช่นไรบ้าง?” ฉีฮองเฮาถามด้วยรอยยิ้มคล้ายจะเป็นมิตรแต่ประสงค์ร้าย“พระองค์ว่าเช่นไร หม่อมฉันก็ว่าเช่นนั้น ความคิดของพระองค์ย่อมหวังดีต่อหม่อมฉันอยู่แล้วเพคะ” นางพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มที่ฝืนอยู่ไม่ใช่น้อยเลย‘เจ๊ว่าไงหนูก็ว่างั้นแหละ หนูจะพูดอะไรได้ก็เจ๊เป็นฮองเฮาเป็นแม่ของแผ่นดิน!’“ดีมาก เจ้ายังเป็นเด็กดีเสมอ อดีตแม่ทัพและรองแม่ทัพเย่ต้องภูมิใจในตัวเจ้าที่เติบโตมาอย่างแข็งแกร่งและกล้าหาญเผชิญอันตรายเพื่อส่วนรวมเช่นนี้”“เพคะ หม่อมฉันก็หวังใจเช่นนั้น”‘ไม่ได้กล้าหาญจ้า ไม่ได้แข็งแกร่งด้วย ไม่ได้อยากไปด้วย แต่โดนเจ๊บังคับไง เจ๊เป็นฮองเฮาใครจะกล้าปฏิเสธ หัวได้หลุดออกจากบ่า สู้ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าอาจจะฟลุ๊ครอดกลับมาก็ได้’………..หลังจากที่พบฉีฮองเฮาแล้วเย่ซูชางก็ยังไม่กลับว่าจะแวะไปหาหยวนหวงกุ้ยเฟยเสียหน่อย หวงกุ้ยเฟยผู้นี้เป็นอาหญิงของหยวนฉินเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้มากและพระนางก็มีจิตใจดีไม่ฝักใฝ่อำนาจไม่แทรกแซงฮองเฮาด้วย ยามว่างก็มักจะสวดมนต์ปฏิบัติธรรมเสมอเลยยังอยู่รอดปลอดภัยได้อยู่ ถ้าคิดท้าทายฮองเฮาหน่อยคงสิ้นชีพไปนานแล

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-11
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7 : อำเภอเป่ยตู

    บทที่ 7‘อำเภอเป่ยตู’..“ท่านพี่ฉิน ท่านจะไปไหน?” ถังซีเยว่รีบมาขวางหน้าของหยวนฉินเอาไว้ แขนข้างที่ไม่ได้หักกางออกเพื่อขวางทางเขา“หลบไปเสี่ยวเยว่ ข้าต้องรีบไป”“ข้าไม่ยอมให้ท่านไปเสี่ยงอันตรายหรอก”“แต่ข้าต้องไปช่วยเหลือเสี่ยวชาง”หยวนฉินกล่าวด้วยสีหน้าร้อนใจเพราะเขาไม่รู้เลยว่าเย่ซูชางอาสาไปอำเภอเป่ยตูที่กำลังประสบภัยโรคระบาด เมื่อวานเขาควรจะถามนางว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างแต่กลับชวนนางทะเลาะจนไม่พูดกันอีก เมื่อเช้าไปจวนสกุลเย่ถึงได้รู้ว่าเย่ซูชางออกเดินทางไปตั้งแต่เช้ามืดตอนนี้คงไปไกลแล้ว“แต่อำเภอเป่ยตูมีโรคระบาด คนที่ไปส่วนมากก็ตายน้อยนักจะรอดกลับมา ข้าไม่ยอมให้ท่านไปเสี่ยงหรอก”“หลบไปเสี่ยวเยว่”“ทำไมท่านต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงกับคนแบบเย่ซูชางด้วย!”“เย่ซูชางคือคู่หมั้นหมายของข้า อนาคตก็เป็นภรรยาของข้า”“นี่ท่านรักนางไปแล้วหรือ?”หยวนฉินที่ได้ฟังคำถามก็นิ่งเงียบลงเพราะเขาก็ไม่แน่ใจนักแต่ตอนนี้เขาเป็นห่วงเย่ซูชางมากไม่สามารถปล่อยนางไปเผชิญทุกข์ภัยผู้เดียว“ข้าไม่รู้ รู้แค่ว่าตอนนี้ข้าเป็นห่วงนางมาก และปล่อยนางไปเผชิญอันตรายผู้เดียวไม่ได้”“ข้าขอร้องท่านพี่ฉิน ที่นั่นอันตรายเกินไปท่านอย่าไ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-18
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7.1 : อำเภอเป่ยตู

    บทที่ 7.1‘อำเภอเป่ยตู ’..แสงเทียนไหววูบไปตามแรงลมที่พัดโชยเข้ามาภายในเรือนรับรองที่เงียบสงบแต่ก็นำพากลิ่นเหม็นอับชื้นตีจมูกมาด้วย เย่ซูชางเงยหน้าขึ้นมองไปทางหน้าต่างที่ตอนนี้ยังไม่มีการป้องกันและก็เริ่มได้ยินเสียงยุงบินหึ่ง ๆ แถวหูแล้วด้วย นางจะต้องป้องกันเอาไว้ก่อนเจ็บไข้ขึ้นมาจะแย่ก่อนจะหันไปเห็นเปลือกส้มที่นางแกะทิ้งเอาไว้ก็นึกบางอย่างออก หญิงสาวลุกเดินไปหยิบกะละมังใส่น้ำมาเล็กน้อยแล้วนำเปลือกส้มลงไปบดขยี้ให้แหลกเพื่อคั้นเอาน้ำมันหอมระเหยออกมาจนกลิ่นลอยฟุ้งอบอวล“ท่านหญิงทำสิ่งใดเจ้าคะ?” อาเนียว สาวรับใช้เดินเข้ามาพร้อมกาน้ำชาอุ่น“ข้ากำลังทำน้ำมันหอมระเหยไล่ยุงอยู่”“น้ำมันหอมระเหยหรือเจ้าคะ?”“ใช่ ถ้าเอาเปลือกส้มมาบดขยี้แบบนี้ น้ำมันจากเปลือกส้มก็จะไหลออกมา ส่งกลิ่นหอมออกมา มันหอมสำหรับคนแต่เหม็นสำหรับยุง”“ถ้าเช่นนั้นข้าจะไปเก็บเปลือกส้มมาให้ท่านหญิงเพิ่มดีไหมเจ้าคะ?”“ยามนี้มืดแล้วไม่ต้องหรอก แต่ข้าจะสั่งงานเจ้า” นางหันกลับมายังโต๊ะหนังสือก่อนจะใช้พู่กันตวัดลงบนกระดาษเพื่อเขียนข้อความลงมาเป็นข้อ ๆ แล้วยื่นมันให้สาวรับใช้“เดี๋ยวพรุ่งนี้เจ้าไปหาสมุนไพรเหล่านี้มาให้ข้าที แล้

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-18
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7.2 : อำเภอเป่ยตู

    บทที่ 7.2‘อำเภอเป่ยตู’..“โอ๊ย!”เย่ซูชางถูกหยวนฉินดันจนชิดกำแพงในที่ลับตาคน แต่ที่นี่มันก็แทบจะลับตาคนทุกที่นั่นแหละเพราะคนน้อยผีวิญญาณน่าจะเยอะมากกว่าเพราะคนตายไปเยอะ กลางค่ำกลางคืนจึงไม่มีใครออกมาเดินเล่นกินลมชมวิวเพราะมันไม่น่าพิสมัยเท่าไหร่นัก“บุรุษผู้นั้นเป็นใคร”“เจ้าหูหนวกหรือไง ข้าก็เรียกเขาว่าหมออยู่”“แล้วเจ้าจะไปคุยกับเขาทำไม ทำไมต้องใกล้ชิดสนิทสนมขนาดนั้นด้วย”“ที่นี่มีโรคระบาดนะ ถ้าข้าไม่คุยกับหมอแล้วจะให้ข้าไปคุยกับผู้ใด อยู่ที่นี่ข้าก็คุยได้แค่สองหมอเท่านั้นแหละ คือหมอรักษาคนกับหมอผี”เย่ซูชางผลักตัวของหยวนฉินออกไปให้ห่างนางก่อนจะปัดฝุ่นออกจากอาภรณ์ของตนเอง “ถ้าเจ้าจะมาหาเรื่องเจ้าก็กลับไปเลย”“ข้ามาเพราะเป็นห่วงเจ้าจริง ๆ”“ข้าเห็นแต่ความประชดประชันของเจ้า” นางเดินออกมาก่อนจะมองไปยังโรงนอนของผู้ป่วยแล้วถอนหายใจออกมาเล็กน้อย“เจ้าดูภาพตรงหน้าของเจ้าสิ ที่นี่ล้วนเต็มไปด้วยความทุกข์ยาก ทุกคนต่างร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ไปให้ได้ถ้าเจ้าจะมาก็ควรมาช่วยไม่ใช่มาหาเรื่องข้าเช่นนี้ แค่นี้ข้ายังเหนื่อยไม่พออีกหรือ ไยต้องเพิ่มเรื่องเพิ่มราวให้ข้าด้วย”หยวนฉิ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-18
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7.3 : อำเภอเป่ยตู

    Chapter 7.3 'อำเภอเป่ยตู'..แสงอรุณสาดส่องลงมายังพื้นดินแฉะชื้น พร้อมเสียงนกกาที่ร้องกันเจื้อยแจ้วต้อนรับเช้าวันใหม่ที่ดูจะสดใสกว่าวันก่อน ๆ ผู้คนต่างเดินกันขวักไขว่ไหล่แทบจะชนกันเร่งรีบทำหน้าที่ของตนตั้งแต่เช้ามืด บางคนไม่ได้หลับได้นอนด้วยซ้ำไปเย่ซูชางมาตรวจดูผ้าฝ้ายที่เพิ่งขนเข้ามาหลายเกวียนจากเมืองใกล้เคียงก็พอใจถึงคุณภาพของมันจะไม่ใช่เกรดดีนักแต่ยามนี้หาได้เท่านี้ก็นับว่าดีมากแล้วสามารถนำไปทอเป็นมุ้งแก้ขัดก่อนได้“ท่านหญิงข้าเกณฑ์คนที่ทอผ้าเป็นมาแล้วขอรับ” นายอำเภอเป่ยตูพาคนเข้ามาหากลุ่มหนึ่งก็ไม่มากนักสักยี่สิบคนได้“ดีมาก ท่านทำงานได้ดีไม่มีข้อบกพร่องเลย” นางหันมาชื่นชมนายอำเภอเป่ยตูที่เขาเป็นคนตงฉิน“ได้รับใช้ท่านหญิงนับว่าเป็นบุญของข้าแล้วขอรับ ข้าเห็นท่านหญิงทุ่มเทถึงเพียงนี้แล้วจะไม่ทุ่มเทตามได้อย่างไร ข้ายินดีทำทุกอย่างที่ท่านหญิงสั่งสุดความสามารถขอรับ” นายอำเภอเป่ยตูโค้งหัวลงอย่างนอบน้อม“ข้าได้ฟังก็สบายใจ แต่ยามนี้อย่ามัวมาซาบซึ้งใจกันเลย เร่งรีบขนหีบผ้าไปไว้ในโรงเรือนก่อน ส่วนคนที่ทอผ้าได้ก็ตามข้ามาทางนี้”“ขอรับ / เจ้าค่ะ”นายอำเภอเป่ยตูรีบหันไปสั่งคนงานชายให้ช่วยกั

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-18
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7.4 : อำเภอเป่ยตู

    บทที่ 7.4‘อำเภอเป่ยตู’..เวลาในวันหนึ่งเดินไวเสมอเมื่อมีงานมากมายรัดตัว เย่ซูชางเดินกลับมาที่เรือนรับรองด้วยความเหนื่อยล้าหลังจากไปช่วยพวกเด็ก ๆ ที่พอจะสั่งสอนรู้เรื่องให้ช่วยกันทำสมุนไพรทาผิวกันยุงและถุงหอมกันยุง แต่เด็กก็คือเด็กวันยังค่ำทำงานได้ไม่นานก็เหนื่อยแล้ว บางคนก็เบื่ออยากออกไปวิ่งเล่น นางเองก็ไม่คิดจะบีบบังคับเลยต้องปล่อยไปเหลือกันแค่ไม่กี่คนที่พอจะโตหน่อยและเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ที่อยู่ช่วยกันทำ แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะแจกจ่ายทุกคนอยู่ดีเพราะว่าสมุนไพรมีน้อยเกินไปแล้วถุงหอมเองก็ต้องใช้ขั้นตอนในการตัดเย็บนานด้วยมือเล็กถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกเพื่อเตรียมจะอาบน้ำ ก่อนหน้านี้ให้บ่าวรับใช้ยกน้ำอุ่นมาให้แล้วแต่ก็ไม่ได้ให้ใครอยู่ปรนนิบัติเพราะรู้ดีว่าทุกคนเหนื่อยกันหมดแล้วเลยไล่ไปพักผ่อนกันให้หมด ยังไงเสียก่อนที่จะทะลุมิติเข้ามาในนิยายนางก็อาบน้ำแต่งตัวเองอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นง่อยเลยไม่จำเป็นต้องให้ใครมาปรนนิบัติดูแลหรอก“บ่าวไพร่ไปไหนหมดไยปล่อยท่านหญิงให้อยู่ผู้เดียวเช่นนี้”“อ๊ะ!” เสียงเข้มที่คุ้นเคยดังขึ้นมันทำให้เย่ซูชางตกใจเล็กน้อยเมื่อหันไปมองทางประตูที่เปิดทิ้งเอาไว้ก็เ

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-18
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7.5 : อำเภอเป่ยตู

    บทที่ 7.5‘อำเภอเป่ยตู’..“หรือหลงรักข้าไปแล้ว?”“จะ… เจ้าอย่ามัวแต่นอกเรื่อง รีบทำงานให้เสร็จดีกว่า”เขากล่าวเสียงละล่ำละลักและพยายามเปลี่ยนเรื่อง เย่ซูชางก็มองออกว่าเขาเขินอายแต่มันก็อดจะหงุดหงิดไม่ได้ ปกติก็ดูเป็นคนหน้าหนาจะตายไปแต่พอเรื่องแบบนี้ดันอายไม่แสดงออกให้ชัดเจน จ้องจะเปลี่ยนเรื่องตลอดมันก็เบื่อเหมือนกันกับคนประเภทนี้จะให้มันชัดเจนในความรู้สึกตัวเองมันจะตายหรือไง“เจ้าออกแรงตำหน่อย อ้อยอิ่งแบบนี้ยันเช้าคงทำไม่เสร็จ”“ข้าก็ออกแรงอยู่ เจ้าไม่มีตามองหรือ?”“นั่นเจ้าเรียกออกแรงแล้วหรือ ข้านึกว่าแตะมากกว่าตำเสียอีก”นางแย่งสากกะเบือมาจากมือเขาก่อนจะดันตัวคนชอบใช้ปัญญาให้ห่างออกไปเพื่อโชว์สกิลการตำให้เขาดู ชนิดที่ว่าตำทีเดียวเปลือกส้มเหนียว ๆ ขาดออกจากกันเลยทำเอาหยวนฉินที่นั่งมองอยู่อึ้งจนพูดไม่ออกเพราะเขาออกแรงต้องมากกว่าเปลือกส้มจะขาด“ไปกินยาปลุกพลังตัวไหนมาหรือ?”“เจ้าไม่มีแรงเองมากกว่า อย่ามาโยนว่าข้าใช้ตัวช่วย”“งั้นเจ้ามีเคล็ดลับอะไรถึงได้มีกำลังแขนมากถึงเพียงนี้?”‘เพราะข้าเป็นคนไทยไง คนไทยที่ตำเก่ง ตำส้มตำ ตำน้ำพริก ตำหมาก สารพัดตำ!’แต่จะตอบแบบที่ใจคิดก็ไม่ได้อีก นาง

    Terakhir Diperbarui : 2025-04-18

Bab terbaru

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   20.1 : ตอนจบของนิยาย

    บทที่ 20‘ตอนจบของนิยาย’..เย่ซูชางเปิดกล่องเครื่องประดับออกก่อนจะหยิบเอาปิ่นปักผมสีทองอร่ามออกมาทาบลงบนผมเพื่อดูว่าปิ่นอันไหนเหมาะสมกับตนเอง ของเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องประดับที่หยวนฉินซื้อให้นางซะเป็นส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ซื้อเองนักหรอก เวลาเขาเห็นเครื่องประดับสวย ๆ งาม ๆ ก็มักจะซื้อมาฝากนางเสมอ ยิ่งตอนที่แต่งงานกันก็หอบเอาของพวกนี้มาให้เป็นหีบจนตอนนี้มีเยอะเสียจนใช้แทบไม่ทัน“เจ้าว่าอันนี้งามหรือไม่?”“งามมากเจ้าค่ะ เหมาะกับชุดสีแดง” สาวรับใช้กล่าวด้วยรอยยิ้มก่อนจะหันไปหยิบหวีเตรียมจะสางผมให้ผู้เป็นนายแต่ยังไม่ทันจะสาง นายท่านของจวนก็เดินเข้ามาจนทุกคนต้องถอยหลังออกมาแล้วก้มหัวคำนับอย่างนอบน้อม“เอาหวีมา ข้าจะสางผมให้นางเอง”“เจ้าค่ะ” หญิงรับใช้ส่งหวีให้ท่านเจ้าเมืองก่อนจะก้มหัวลาแล้วพากันเดินออกไปเพื่อให้ทั้งสองคนได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกัน เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่ายามนายท่านและฮูหยินอยู่ด้วยกันห้ามผู้ใดรบกวนทั้งสิ้น ปล่อยให้ทั้งสองอยู่กันตามลำพังถ้ามีอะไรจะเรียกใช้เองไม่ต้องยืนรอหยวนฉินเดินเข้ามาหาเย่ซูชางก่อนจะจับลงบนผมของนางแล้วใช้หวีสางลงบนเส้นผมอย่างอ่อนโยนไม่ให้มันขาดออกมาสักเส้นเดียว เย

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   20 : ตอนจบของนิยาย

    บทที่ 20‘ตอนจบของนิยาย’..เย่ซูชางดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้เจ้าแฝดที่ตอนนี้นอนหลับปุ๋ยไปแล้วเพราะวันทั้งวันเอาแต่วิ่งเล่นตกกลางคืนเลยอ่อนเพลียหลับง่ายเป็นธรรมดา นางหันตัวเดินออกมานอกห้องก่อนจะปิดประตูแผ่วเบาเพื่อไม่ให้รบกวนลูกทั้งสองสายตามองไปยังห้องตำราก็เห็นมีแสงสว่างอยู่ แปลว่าหยวนฉินยังไม่กลับเรือนนอนจึงเดินไปหาเผื่อจะช่วยงานเขาได้บ้าง เมื่อเดินเข้ามาก็เห็นว่าสามีกำลังนั่งอ่านหนังสือร้องเรียนอยู่“มันหมดเวลาทำงานแล้ว”นางเดินเข้ามานั่งข้างเขาก่อนจะหยิบเอาหนังสือร้องเรียนขึ้นมาดู วันแต่ละวันมีเรื่องร้องเรียนมากมายแต่ส่วนมากก็เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นคนตีกัน ตกลงกันไม่ลงตัว ไกล่เกลี่ยเล็กน้อยปัญหาก็จบแล้ว“ข้าเป็นเจ้าเมืองไม่มีหมดเวลาทำงานหรอก เป็นเจ้าเมืองทั้งวันทั้งคืน ชาวบ้านเดือดร้อนมีทุกข์ตอนไหนก็พร้อมช่วยเหลือทันที”“แต่เจ้าก็ต้องพักผ่อนบ้าง ถ้าทำงานหนักมากเกินไปมันจะไม่ดีต่อสุขภาพ เกิดเจ้าตายขึ้นมาข้าก็เป็นหม้ายสิ”“ไว้ข้าทำตรงนี้เสร็จก็จะพักแล้ว”“เหลืออีกตั้งมาก”“ครู่เดียวเท่านั้นแหละ”สุดท้ายเย่ซูชางก็ต้องยอมให้ท่านเจ้าเมืองสะสางงานต่อให้เสร็จ แต่มีหรือที่คนซุกซนแบบนางจะยอ

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   19.1 : พระกระโดดกำแพง

    บทที่ 19'พระกระโดดกำแพง'..“หมายความเช่นไรเจ้าคะ?”“เจ้าไม่รู้อะไร การมีฝูอ๋องอยู่ในเมืองหลวงคอยช่วยงานฮ่องเต้ นอกจากจะคอยค้านอำนาจฝ่ายองค์รัชทายาทแล้ว ยังช่วยขับเคลื่อนองค์รัชทายาทให้เอางานเอาการสนใจงานบ้านเมืองด้วย เพราะถ้าไม่สร้างผลงานไม่ทำให้ฮ่องเต้พอใจก็อาจจะถูกแย่งตำแหน่งองค์รัชทายาทไปก็ได้ ฮ่องเต้คิดมาแล้วทั้งหมดว่าต้องทำยังไงถึงจะเคี่ยวเข็ญองค์รัชทายาทได้ วิธีนี้ฝ่าบาทก็ไม่ต้องลงแรงไปเคี่ยวเข็ญออกคำสั่งเอง แค่ใช้สถานการณ์รอบตัวให้เป็นประโยชน์ องค์รัชทายาทอยู่ไม่เป็นสุขหรอก ต้องรีบสร้างผลงานทำความดีเพื่อรักษาตำแหน่งตนเองอยู่แล้ว”“เช่นนี้ก็เหมือนว่าฝ่าบาทใช้ฝูอ๋องเป็นเครื่องมือทางการเมือง”“จะกล่าวเช่นนั้นก็ถูก แต่ที่ฝ่าบาทยังให้ฝูอ๋องอยู่ในเมืองหลวงส่วนหนึ่งก็เพราะเป็นห่วงด้วย เจ้าอย่าลืมว่าวัยเยาว์ฝูอ๋องต้องไปอยู่ที่อื่นกับพระสนมกุ้ยจนสุดท้ายก็ถูกพวกกบฏลอบทำร้ายจนพระสนมกุ้ยตายส่วนฝูอ๋องก็กลายเป็นคนขาเป๋ ฝ่าบาทคงไม่อยากให้มันเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยจึงไม่ยอมให้ฝูอ๋องไปไกลพระเนตรพระกรรณตนเอง”เย่ซูชางยกถ้วยอาหารยื่นให้น้องสาว “เจ้าช่วยข้ายกออกไปตั้งที่โต๊ะในสวนทีจะได้กินข้าวกัน”

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   19 : พระกระโดดกำแพง

    บทที่ 19'พระกระโดดกำแพง'..เสียงมีดหั่นลงบนเขียงดังก้องภายในโรงครัวที่มีควันลอยฟุ้งจากเตาถ่านที่ถูกจุดเอาไว้ บนเตามีหม้อที่กำลังตุ๋นเนื้อหมูสามชั้นให้นุ่มจนเข้าเนื้อ เย่ซูชางหันไปหยิบปลิงทะเลและหอยเป่าฮื้อมาหันเป็นชิ้นพอดีคำ“พี่หญิงรองทำสิ่งใดอยู่เจ้าคะ?” เย่ซูเจินเดินเข้ามาภายในครัวเมื่อได้กลิ่นหอมฟุ้งลอยออกมาจนน้ำลายสอท้องร้องขึ้นมา“พระกระโดดกำแพง”“ฮะ?” คนน้องหน้าตาเหวอกับคำตอบของพี่สาว “อะ… อะไรกระโดดกำแพงนะเจ้าคะ?”“อ๋อ พระอะ พระกระโดดกำแพง”“มันคือชื่ออาหารหรือเจ้าคะ แล้วทำไมพระต้องกระโดดกำแพงด้วย?”“เพราะเมื่อต้มเสร็จมันจะหอมมากจนพระต้องกระโดดกำแพงมาร่วมวงกินด้วยไง”“ฮะ?” เย่ซูเจินที่ได้ฟังความหมายของชื่อก็อดไม่ได้ที่จะอึ้ง แต่ก็พยายามคิดให้มันเป็นเรื่องปกติแล้วเดินไปหยิบส่วนผสมที่เป็นคล้าย ๆ ฟองสีทองนวลขึ้นมา“นี่คืออะไรหรือ?”“กระเพาะปลาเชื่อกันว่าจะช่วยให้ผิวพรรณดี ดูอ่อนเยาว์ ทำให้เนื้อเยื่อแข็งแรงและกระชับ ให้พลังงาน เสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย สามารถรักษาอาการตกเลือด อาการซีด และโลหิตจางได้”“แล้วดำ ๆ อันนี้ล่ะ?”“ปลิงทะเล”“ฮะ? ปะ… ปลิงทะเล มันกินได้หรือพี่หญิง?”“กิ

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   18.1 : ฉีฉีชิงชิง

    บทที่ 18'ฉีฉีชิงชิง'..“เจ้านี่ยังปากร้ายเสมอต้นเสมอปลาย”หยวนฉินโน้มลงไปจูบริมฝีปากเอิบอิ่มด้วยความมันเขี้ยวจนเย่ซูชางตกใจจะดันเขาออกแต่ก็ถูกมือใหญ่รวบแขนเอาไว้จนไร้ทางขัดขืนได้แต่จ้องหน้าเขาด้วยสีหน้าถมึงทึง“เจ้าทำบ้าอะไร สติเพี้ยนไปแล้วหรือ ถึงกล้าทำเรื่องบัดสีเช่นนี้”“เรื่องบัดสีอะไรกัน ข้าเพียงจูบเจ้าเองก็ช่วยไม่ได้เจ้าน่าเอ็นดูถึงเพียงนี้ข้าจะอดใจไหวได้ยังไง รู้หรือไม่ว่าข้าต้องใช้ความอดทนอย่างมากขนาดไหนที่จะไม่ปิดที่ว่าการแห่งนี้แล้วอุ้มเจ้ากลับไปฟัดที่จวนให้จมเตียง”“เป็นถึงเจ้าเมือง ช่วยทำตัวให้น่านับถือหน่อยสิ นับวันเจ้ายิ่งหน้าหนาพูดเรื่องในม่านมุ้งได้ไม่อายปาก สงสัยข้าต้องส่งจดหมายไปทูลฟ้องฮ่องเต้แล้วว่าเจ้าคงไม่เหมาะกับตำแหน่งเจ้าเมืองให้ริบคืนเสีย”“ฮูหยินเจ้าเมืองก็ช่างโหดเหี้ยมนัก เจ้าดุจนคนรับใช้ในจวนกลัวกันหัวหด เรียกผู้ใดผู้นั้นก็แทบจะหัวใจหยุดเต้นตาย”“ก็ข้าเป็นฮูหยินแล้ว เป็นนายหญิงของจวน เป็นภรรยาเจ้าเมือง และยังเป็นมารดาของเด็กแฝดด้วย ถ้าจะมามัวทำตัวเล่นเหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วถ้าไม่จริงจังไม่หนักแน่นจะคุมผู้อื่นได้อย่างไร ในเมื่อมีหน้าที่ภาระต้องดูแลทั้งภ

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   18 : ฉีฉีชิงชิง

    บทที่ 18'ฉีฉีชิงชิง'..ห้าปีต่อมาเมืองหนานตูเสียงเด็ก ๆ วิ่งกันเจื้อยแจ้วไปตามถนนของเมืองที่ครึกครื้นไปด้วยผู้คนมากมายที่แวะเวียนมาค้าขายตามประสาของเมืองท่าติดทะเลที่มีเรือขนส่งมากมายมาจอดเทียบท่า ผู้คนล้วนมีความสุขกับการใช้ชีวิตภายใต้เมืองที่เงียบสงบไร้เหตุร้ายเพราะทุกคนล้วนมีงานทำมีเงินใช้จึงไม่มีการปล้นฆ่าแย่งชิงกันในเมืองแห่งนี้หน้าร้านถังหูลู่มีเด็กน้อยคนหนึ่งกำลังยืนจดจ้องของหวานอยู่ด้วยความอยากกินตามประสาเด็ก มือเล็ก ๆ หยิบเหรียญออกมาก่อนจะยื่นให้พ่อค้า“ท่านลุงข้าขอถังหูลู่สองไม้”“สำหรับคุณหนู ข้าให้สามไม้เลยขอรับ” ลุงใจดีหยิบถังหูลู่ให้เด็กน้อยสามไม้จนมือเล็ก ๆ แทบจะหยิบไม่หมดแต่เด็กน้อยก็ใจสู้พยายามจับมันให้ได้“ขอบคุณท่านลุง ขอให้ท่านค้าขายดิบดี”“ขอบคุณขอรับคุณหนู”“คุณหนูหยวน คุณหนูหยวนเจ้าคะ!”เสียงตะโกนเรียกดังขึ้นจนเด็กสาวตัวน้อยตกใจรีบหันไปมองก็พบบรรดาพี่เลี้ยงที่กำลังวิ่งมาหานาง “ท่านลุงข้าไปก่อนนะ!”ว่าจบเด็กหญิงตัวน้อยก็รีบวิ่งหนีปะปนไปกับฝูงชนทันที มือยังคงถือถังหูลู่ไม่ยอมปล่อย วิ่งดุ๊กดิ๊กหนีเหล่าพี่เลี้ยงจนเป็นที่เอ็นดูของเหล่าชาวบ้าน บางคนก็ช่วยให้ที่หล

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   17 : ค่ำคืนวสันต์

    บทที่ 17'ค่ำคืนวสันต์'..เสียงดังเซ็งแซ่ลอยมาตามลมให้ได้ยินแว่วหู เย่ซูชางในชุดเจ้าสาวสีแดงที่กำลังนั่งรอเจ้าบ่าวอยู่เงียบ ๆ เพียงลำพังภายในห้องหอที่ประดับประดาไปด้วยสีแดงก็นึกเบื่อเพราะให้นั่งนิ่ง ๆ มันไม่ใช่นิสัยของนางเลย สุดท้ายจึงเลิกผ้าคลุมขึ้นไปไว้ด้านบนแล้วลุกเดินมายังโต๊ะอาหารที่มีขนมวางอยู่มือเล็กหยิบเอาขนมหวานขึ้นมากิน ลักษณะมันเหมือนถั่วตัดเลย รสชาติหวานละมุนเรียกว่าทำให้กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาเลยเมื่อร่างกายได้น้ำตาลบ้าง วันนี้ทั้งวันตั้งแต่เช้ายันค่ำยุ่งแต่กับพิธีแต่งงาน เครื่องหัวก็หนักมากเพราะเป็นมงกุฎหงส์พระราชทานจากฮ่องเต้เลยอลังการงานสร้างเพชรล้านเม็ดสุดอะไรสุด แขกในงานแทบลืมตาไม่ได้เพราะเพชรนิลจินดาบนตัวเจ้าสาวแยงตาแทบทะลุเสียงประตูเปิดออกมันทำให้เย่ซูชางตกใจรีบเคี้ยวกลืนขนมที่อยู่ในปากจนไม่ทันระวังติดคอสำลักจนหน้าดำหน้าแดงลำบากเจ้าบ่าวอย่างหยวนฉินต้องเดินมาทุบหลังนางดังปึกจนขนมกระเด็นหลุดออกมาจากปาก จนนางต้องรีบหันไปเทน้ำชาดื่มเพื่อล้างปากล้างคอมือก็ยกขึ้นปาดคราบน้ำตาตนเอง“ยังไม่ทันจะดื่มเหล้ามงคลเลยเจ้าก็จะตายแล้วหรือ?”“ก็เจ้าเข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียง ข้าก็ตกใจ

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   16.1 : ดวงดาวกับข้าและเจ้า

    บทที่ 16'ดวงดาวกับข้าและเจ้า'..“นี่เจ้าจับปลาตั้งแต่ฟ้าสว่างจนฟ้ามืดเลยเหรอ?”“ข้าจับได้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว” หยวนฉินยื่นปลาที่สุกแล้วให้เย่ซูชางนางรับปลาย่างมากัดไปเสียคำโตแต่ลืมไปว่ามันยังร้อนอยู่จนแทบจะคายทิ้ง เป่าลมเข้าปากพัลวันจนหยวนฉินหลุดขำออกมาเสียงดังทำเอานางหน้ามุ่ยใส่“มันร้อนทำไมเจ้าไม่บอกข้า”“เจ้าก็เห็นว่ามันเพิ่งลงจากกองไฟจะไม่ร้อนได้อย่างไร”“ก็เป่าให้ข้าสิ” นางยื่นปลาย่างคืนให้เขาหยวนฉินรับปลามาก่อนจะบิดเนื้อปลาออกมาแกะก้างให้เรียบร้อยแล้วเป่าเพื่อไล่ความร้อนก่อนจะจ่อมันไปยังปากของนาง“ข้าเป่าให้แล้ว กินสิคนงาม”“ร้อนหรือเปล่า?”“ไม่ร้อนแล้ว ถ้าร้อนข้าให้ตบเลย”เย่ซูชางอ้าปากกินเนื้อปลาที่หยวนฉินป้อนแต่โดยดี ก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วทำสีหน้าเหมือนร้อนจนต้องเป่าปาก “ยังร้อนอยู่เลย”“ดะ… เดี๋ยวเจ้าจะทำอะไร?” หยวนฉินหน้าเหวอเมื่อเห็นเย่ซูชางง้างฝ่ามือขึ้น“ก็เจ้าบอกว่าถ้าร้อนจะให้ข้าตบไง”“อันนี้เจ้ากลั่นแกล้งข้าแล้ว”“ข้าร้อนจริง ๆ ลิ้นข้าพองหมดแล้ว”“ข้าเป่าขนาดนี้ยังร้อน คงต้องเคี้ยวเข้าไปก่อนแล้วคายให้เจ้ากินแล้วแหละ”“ยี๋!” เย่ซูชางทำหน้าหยีเมื่อนึกภาพตาม“จูบกัน

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   16 : ดวงดาวกับข้าและเจ้า

    บทที่ 16'ดวงดาวกับข้าและเจ้า'..“เจ้าพาข้ามาที่นี่ทำไม?” เย่ซูชางขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อหยวนฉินพานางมาที่ทุ่งหญ้าเขียวขจี“พาเจ้ามาดูทะเลดาว”นางหยุดฝีเท้าลงก่อนจะเงยหน้ามองฟ้าที่ยังคงมีแสงอยู่เลย มันจะเอาดาวมาจากไหนวะแดดเปรี้ยงขนาดนี้ นอกจากดาวบนหัวเขาอะหาท่อนไม้สักท่อนฟาดเข้าให้น่าจะได้เห็นดาวจริง ๆ“แดดเปรี้ยงขนาดนี้เจ้าจะเอาดาวมาจากไหน?”“เดี๋ยวมันก็มืดแล้ว”“นี่ข้าต้องรอจนมืดหรือ?”“รอไม่ได้หรือ?” หยวนฉินทิ้งตัวลงนั่งย่อตรงกองไฟที่มีคนเคยมาจุดเอาไว้แล้วหยิบเอากิ่งไม้แห้งใส่เข้าไปแล้วใช้กระบอกจุดไฟจุดกองใบไม้แห้งให้ไฟลุกขึ้น“แทนที่ข้าจะได้กลับไปนอนพัดวีที่เรือนสบาย ๆ ต้องมานั่งหลังขดหลังแข็งรอพระอาทิตย์ตกดินอีกหรือ”“เจ้าจะบ่นให้มันได้อะไรขึ้นมา ยังไม่ทันแก่เลยเจ้าบ่นเก่งนัก ถ้าแก่ตัวไปหูข้าไม่ตึงเพราะโดนเจ้าบ่นทุกวันทุกเวลาเลยหรือไง”“หูเจ้าไม่ตึงหรอก” เย่ซูชางที่หมั่นไส้หยวนฉินก็ยื่นมือไปบิดหูเขาจนอีกฝ่ายร้องเสียงหลง“โอ๊ย ๆ ข้าเจ็บ!”“ข้าจะบิดให้หูเจ้าขาดไปเลย จะได้ไม่ต้องมีหูให้ตึง”“ปะ… ปล่อย ข้ายอมเจ้าแล้ว ยอมเจ้าทุกอย่างเลย” หยวนฉินที่โดนบิดหูซะม้วนก็ร้องโอดครวญออกมาเสียง

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status