Home / รักโบราณ / นางร้ายเหนื่อยแล้ว / 6.1 : เข้าเฝ้าฉีฮองเฮา

Share

6.1 : เข้าเฝ้าฉีฮองเฮา

บทที่ 6

‘เข้าเฝ้าฉีฮองเฮา’

.

.

“เจ้าว่าอย่างไร ความคิดของข้าเป็นเช่นไรบ้าง?” ฉีฮองเฮาถามด้วยรอยยิ้มคล้ายจะเป็นมิตรแต่ประสงค์ร้าย

“พระองค์ว่าเช่นไร หม่อมฉันก็ว่าเช่นนั้น ความคิดของพระองค์ย่อมหวังดีต่อหม่อมฉันอยู่แล้วเพคะ” นางพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มที่ฝืนอยู่ไม่ใช่น้อยเลย

‘เจ๊ว่าไงหนูก็ว่างั้นแหละ หนูจะพูดอะไรได้ก็เจ๊เป็นฮองเฮาเป็นแม่ของแผ่นดิน!’

“ดีมาก เจ้ายังเป็นเด็กดีเสมอ อดีตแม่ทัพและรองแม่ทัพเย่ต้องภูมิใจในตัวเจ้าที่เติบโตมาอย่างแข็งแกร่งและกล้าหาญเผชิญอันตรายเพื่อส่วนรวมเช่นนี้”

“เพคะ หม่อมฉันก็หวังใจเช่นนั้น”

‘ไม่ได้กล้าหาญจ้า ไม่ได้แข็งแกร่งด้วย ไม่ได้อยากไปด้วย แต่โดนเจ๊บังคับไง เจ๊เป็นฮองเฮาใครจะกล้าปฏิเสธ หัวได้หลุดออกจากบ่า สู้ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าอาจจะฟลุ๊ครอดกลับมาก็ได้’

……….

.

หลังจากที่พบฉีฮองเฮาแล้วเย่ซูชางก็ยังไม่กลับว่าจะแวะไปหาหยวนหวงกุ้ยเฟยเสียหน่อย หวงกุ้ยเฟยผู้นี้เป็นอาหญิงของหยวนฉินเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้มากและพระนางก็มีจิตใจดีไม่ฝักใฝ่อำนาจไม่แทรกแซงฮองเฮาด้วย ยามว่างก็มักจะสวดมนต์ปฏิบัติธรรมเสมอเลยยังอยู่รอดปลอดภัยได้อยู่ ถ้าคิดท้าทายฮองเฮาหน่อยคงสิ้นชีพไปนานแล้วแน่

แต่ยังไม่ทันจะเดินถึงพระตำหนักของหยวนหวงกุ้ยเฟยก็มีขบวนเสด็จของใครบางคนมาขวางทางเอาไว้ก่อน สตรีในชุดสูงศักดิ์เดินออกมา จากการแต่งกายก็เดาไม่ยากน่าจะเป็นองค์หญิงสักพระองค์แน่นอน หรืออาจจะเป็นองค์หญิงสี่เซียวซิงหยา

“เห็นข้าแล้วยังไม่ก้มหัวอีก”

“ขออภัยเพคะ” นางยอมก้มหัวให้แต่โดยดีเพราะไม่อยากมีเรื่อง

“ข้าเป็นถึงองค์หญิง ส่วนเจ้าเป็นแค่ท่านหญิง อย่าคิดว่าได้รับการโปรดปรานจากเสด็จพ่อแล้วจะกระทำสิ่งใดก็ได้ไม่ต้องสนหัวผู้ใด”

“ขออภัยเพคะ”

“เจ้าพูดได้แต่คำว่าขออภัยหรือ?”

“แล้วจะให้หม่อมฉันทำสิ่งใดเพคะ?”

“คุกเข่าก้มกราบข้าสิ”

“หม่อมฉันไม่ได้มีความผิดถึงขั้นนั้นเสียหน่อย”

‘ข้าก็เดินของข้าอยู่ดี ๆ เป็นเจ้าที่เข้ามาหาเรื่องข้าเองแท้ ๆ’

“ข้าคือองค์หญิงเซียวซิงหยา พระมารดาของข้าคือฮองเฮาเจ้ากล้าขัดคำสั่งข้าหรือ!”

‘ที่แท้ก็คู่ปรับนางร้ายนี่เอง ก็ดูร้ายสมกันดี ตอนอ่านนิยายความร้ายก็สูสีกันเลยแหละ’

“จับนางคุกเข่าลง!”

“เพคะ!”

เหล่านางกำนัลพากันพุ่งเข้ามาหาเย่ซูชางพยายามกดตัวนางให้นั่งคุกเข่าลงกับพื้นแต่นางก็ไม่ยอมออกแรงสะบัดจนพวกนางกำนัลผอมแห้งแรงน้อยกระเด็นไปคนละทิศคนละทาง

“ถ้านางไม่ยอมคุกเข่าก็ฟาดขานางให้หัก!”

องค์หญิงสี่ เซียวซิงหยา ยังคงออกคำสั่งอย่างเหี้ยมโหดสีหน้าของนางจริงจังบ่งบอกว่าต้องการให้เย่ซูชางขาหักจริง ๆ จนนางกำนัลต้องพากันไปหาท่อนไม้มาถือเอาไว้ เย่ซูชางจ้องมองหน้าองค์หญิงสี่ด้วยความโกรธ รุมรังแกกันมากเกินไปแล้วอยากให้นางร้ายมากนักใช่ไหมก็จะจัดให้

“พระองค์ทรงรูปโฉมงดงาม น้ำเสียงก็หวานไพเราะ ชาติกำเนิดสูงส่งเป็นถึงเชื้อพระวงศ์ แต่เหตุใดต้องมาริษยาคนต่ำต้อยเยี่ยงหม่อมฉันด้วยเพคะ?”

“เพราะข้าเกลียดเจ้า เกลียดก็คือเกลียด ข้าไม่เห็นจะต้องมีเหตุผลอะไรเลย”

“หรือที่พระองค์รังเกียจหม่อมฉันมากถึงเพียงนี้เป็นเพราะรองเจ้ากรมพิธีการที่พระองค์หมายปองกำลังจะแต่งงานเป็นสามีของหม่อมฉันหรือเปล่าเพคะ?”

“เอาไม้ฟาดปากนางให้ฟันร่วงหมดปากเดี๋ยวนี้ ใครถอนฟันนางได้ข้าจะให้ทองเป็นรางวัล!”

เมื่อถูกหลอกล่อด้วยของมีค่าพวกเหล่านางกำนัลก็เหมือนจะลืมกลัวไปหมดจนสิ้นหันเป้าหมายมาหาเย่ซูชางทันทีจนนางต้องก้าวเท้าถอยเพื่อออกมาตั้งหลัก จังหวะนั้นก็เห็นหยวนฉินเดินมาไกล ๆ พอดี

‘นี่สิจังหวะพระเอก!’

นางหันมองซ้ายมองขวาเมื่อเห็นว่าด้านหลังเป็นบ่อน้ำก็ตัดสินใจกระโดดลงไปทันทีจนทุกคนต่างตกใจแม้แต่องค์หญิงสี่ก็ด้วย เย่ซูชางที่ว่ายน้ำเป็นก็แสร้งทำเป็นว่ายน้ำไม่เป็นดำผุดดำว่ายอยู่แบบนั้นพร้อมตะโกนจนดังลั่น

“ช่วยด้วย!”

“ชะ… ช่วยด้วย ข้าว่ายน้ำไม่เป็น!”

เสียงตะโกนของนางมันดังไปถึงหูของหยวนฉินที่กำลังจะเดินไปตำหนักหยวนหวงกุ้ยเฟยพอดิบพอดี เขาที่หันมาเห็นว่าที่คู่หมั้นหมายว่าที่ภรรยาในอนาคตของตนดำผุดดำว่ายอยู่ในน้ำก็รีบวิ่งจนชายอาภรณ์ปลิวไม่สนความสำรวมอะไรทั้งนั้น แหวกกลางวงขบวนขององค์หญิงสี่แล้วกระโดดพุ่งลงน้ำทันทีคว้าตัวของเย่ซูชางเอาไว้แล้วพานางขึ้นมาบนฝั่ง

“แค่ก ๆ” เย่ซูชางยังคงแสดงอย่างแนบเนียนด้วยการสำลักน้ำออกมาเพราะอมน้ำไว้ในปากก่อนแล้ว

“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” หยวนฉินถามด้วยความเป็นห่วง มือก็ลูบหลังนางไปด้วยท่าทางร้อนใจแต่การกระทำกลับอ่อนโยน

“ขะ… ข้ากลัว” นางแสร้งพูดเสียงสั่นแล้วซบหน้าลงบนอกกว้างเนื้อตัวสั่นเทาเหมือนเจ้าเข้า

“ท่านพี่ฉิน” องค์หญิงสี่เอ่ยเรียกหยวนฉิน

“องค์หญิงอย่าทำอะไรหม่อมฉันเลยเพคะ เรื่องที่หม่อมฉันกำลังจะหมั้นหมายกับอาฉินล้วนเป็นเหตุสุดวิสัยไม่ได้คาดการณ์ไว้ตั้งแต่แรก ขอองค์หญิงอย่าโมโหเลยเพคะ”

“หมายความว่ายังไง?” หยวนฉินรีบถามทันที

“ข้าจะรู้ได้อย่างไร ข้าถูกฮองเฮาเรียกมาเข้าเฝ้าเมื่อคุยธุระเสร็จจึงจะไปเยี่ยมหยวนหวงกุ้ยเฟยเสียหน่อย แต่องค์หญิงสี่ก็เข้ามากล่าวหาข้า หาว่าข้าใช้มารยาสาไถยหลอกล่อเจ้าให้หมั้นหมายด้วย ไม่พอใจที่เจ้ากำลังจะหมั้นหมายกับข้าเลยจะให้คนมาตีขาข้าให้หัก ไม่พอยังกล่าวอีกว่าถ้าใครถอนฟันข้าได้จะให้ทองคำ ข้ามีผู้เดียวแต่ถูกรุมรังแกจึงกลัวจนต้องกระโดดน้ำหนีก็ยังถูกองค์หญิงสี่สั่งห้ามผู้ใดช่วยเหลืออีก”

องค์หญิงเซียวซิงหยาถึงกับตกใจที่ถูกเย่ซูชางใส่สีตีไข่เรื่องราวจนมันดูเป็นเรื่องใหญ่โตเกินความจริงไปมาก นางพยายามจะหันไปอธิบายกับหยวนฉินแต่เขาก็พูดแทรกขึ้นมาก่อน

“องค์หญิงสี่ท่านอย่าทรงทำเช่นนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ ต่อให้กระหม่อมไม่ได้หมั้นหมายกับเย่ซูชาง กระหม่อมก็ไม่สามารถรับไมตรีของพระองค์ได้ แต่ตอนนี้กระหม่อมกำลังจะหมั้นหมาย ในอนาคตก็ต้องแต่งงาน ขอให้องค์หญิงตัดใจเรื่องนี้แล้วลืมเรื่องราวที่เคยพูดกับกระหม่อมเถิดพ่ะย่ะค่ะ”

หยวนฉินกล่าวออกไปตรง ๆ เพราะเขารู้ถึงความรู้สึกที่องค์หญิงสี่มีให้ตนดี ก่อนหน้านี้องค์หญิงเคยมาสารภาพรักแล้วครั้งหนึ่งแต่เขาก็ปฏิเสธไปตั้งแต่ตอนนั้น และขอให้หยวนหวงกุ้ยเฟยทูลขอฮ่องเต้ให้ว่าอย่าบังคับเขาแต่งงานกับองค์หญิงคนไหนถึงได้รอดมาได้ไม่โดนสมรสพระราชทานแต่องค์หญิงสี่ก็ยังไม่ล้มเลิกและคอยตามเอาอกเอาใจส่งของกำนัลมาให้เสมอ

ยามที่รู้ว่าเขามีใจให้ถังซีเยว่ก็ไปทำร้ายนางแต่เพราะเป็นองค์หญิงที่เป็นพระธิดาในฮองเฮาจึงไม่มีผู้ใดกล้าเอาผิด พอมาตอนนี้ที่เขาจะหมั้นหมายกับเย่ซูชางก็ยังมาทำร้ายนางอีก ในเมื่อตนเองไม่ได้แต่งก็จะทำร้ายสตรีทุกคนที่ข้องเกี่ยวกับเขาเลยหรือไง ทั้งที่เขาก็ชัดเจนมาตั้งแต่ปฏิเสธแล้วว่าไม่ต้องการพระองค์

“เจ้าพาข้าออกไปจากตรงนี้เถิด ขะ… ข้าหนาว ข้าไม่ไหวแล้ว” เย่ซูชางแกล้งเสียงสั่นตัวสั่นเหมือนเจ้าเข้า

หยวนฉินเลยตัดสินใจอุ้มนางขึ้นมาอย่างอ่อนโยนก่อนจะพาเดินฝ่าวงล้อมออกไปทิ้งให้องค์หญิงสี่ยืนมองแผ่นหลังหนาของคนที่ตนรักเดินจากไปด้วยความเจ็บปวดและเคียดแค้นในเวลาเดียวกัน ด้วยความโมโหเลยหาที่ลงอย่างคนพาลด้วยการหันไปตบหน้าเหล่านางกำนัลเรียงตัวจนทุกคนหวาดกลัวพากันรีบนั่งคุกเข่าก้มลงกราบองค์หญิงเพื่อร้องขอชีวิตกันทันที

“ข้าสั่งพวกเจ้า ไยพวกเจ้าไม่ทำตาม ถ้าเรื่องแค่นี้ยังทำไม่ได้ก็อย่าอยู่ให้เปลืองข้าวเปลืองเบี้ยหวัดเลย เอาพวกนางไปโบยให้ตาย!”

“องค์หญิงโปรดเมตตาด้วยเพคะ!”

“เอาออกไปข้ารำคาญ!”

“องค์หญิงโปรดเมตตาด้วยเพคะ องค์หญิง!”

เซียวซิงหยาไม่คิดจะฟังคำขอร้องขอความเมตตาทั้งนั้น นางเลือกจะหันไปมองทางอื่นมือยังคงกำหมัดแน่น ฟันขบกัดเข้าหากันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้น

“เดิมทีข้าจะปล่อยเจ้าไปอยู่แล้วเย่ซูชาง แต่ในเมื่อเจ้ากล้าเป็นศัตรูหัวใจของข้าก็อย่าหวังว่าจะได้ตายดีเลย แม้นตายศพของเจ้าก็ต้องถูกสับเป็นหมื่นชิ้นให้หมูหมามันกิน”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7 : อำเภอเป่ยตู

    บทที่ 7‘อำเภอเป่ยตู’..“ท่านพี่ฉิน ท่านจะไปไหน?” ถังซีเยว่รีบมาขวางหน้าของหยวนฉินเอาไว้ แขนข้างที่ไม่ได้หักกางออกเพื่อขวางทางเขา“หลบไปเสี่ยวเยว่ ข้าต้องรีบไป”“ข้าไม่ยอมให้ท่านไปเสี่ยงอันตรายหรอก”“แต่ข้าต้องไปช่วยเหลือเสี่ยวชาง”หยวนฉินกล่าวด้วยสีหน้าร้อนใจเพราะเขาไม่รู้เลยว่าเย่ซูชางอาสาไปอำเภอเป่ยตูที่กำลังประสบภัยโรคระบาด เมื่อวานเขาควรจะถามนางว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างแต่กลับชวนนางทะเลาะจนไม่พูดกันอีก เมื่อเช้าไปจวนสกุลเย่ถึงได้รู้ว่าเย่ซูชางออกเดินทางไปตั้งแต่เช้ามืดตอนนี้คงไปไกลแล้ว“แต่อำเภอเป่ยตูมีโรคระบาด คนที่ไปส่วนมากก็ตายน้อยนักจะรอดกลับมา ข้าไม่ยอมให้ท่านไปเสี่ยงหรอก”“หลบไปเสี่ยวเยว่”“ทำไมท่านต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงกับคนแบบเย่ซูชางด้วย!”“เย่ซูชางคือคู่หมั้นหมายของข้า อนาคตก็เป็นภรรยาของข้า”“นี่ท่านรักนางไปแล้วหรือ?”หยวนฉินที่ได้ฟังคำถามก็นิ่งเงียบลงเพราะเขาก็ไม่แน่ใจนักแต่ตอนนี้เขาเป็นห่วงเย่ซูชางมากไม่สามารถปล่อยนางไปเผชิญทุกข์ภัยผู้เดียว“ข้าไม่รู้ รู้แค่ว่าตอนนี้ข้าเป็นห่วงนางมาก และปล่อยนางไปเผชิญอันตรายผู้เดียวไม่ได้”“ข้าขอร้องท่านพี่ฉิน ที่นั่นอันตรายเกินไปท่านอย่าไ

    Last Updated : 2025-04-18
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7.1 : อำเภอเป่ยตู

    บทที่ 7.1‘อำเภอเป่ยตู ’..แสงเทียนไหววูบไปตามแรงลมที่พัดโชยเข้ามาภายในเรือนรับรองที่เงียบสงบแต่ก็นำพากลิ่นเหม็นอับชื้นตีจมูกมาด้วย เย่ซูชางเงยหน้าขึ้นมองไปทางหน้าต่างที่ตอนนี้ยังไม่มีการป้องกันและก็เริ่มได้ยินเสียงยุงบินหึ่ง ๆ แถวหูแล้วด้วย นางจะต้องป้องกันเอาไว้ก่อนเจ็บไข้ขึ้นมาจะแย่ก่อนจะหันไปเห็นเปลือกส้มที่นางแกะทิ้งเอาไว้ก็นึกบางอย่างออก หญิงสาวลุกเดินไปหยิบกะละมังใส่น้ำมาเล็กน้อยแล้วนำเปลือกส้มลงไปบดขยี้ให้แหลกเพื่อคั้นเอาน้ำมันหอมระเหยออกมาจนกลิ่นลอยฟุ้งอบอวล“ท่านหญิงทำสิ่งใดเจ้าคะ?” อาเนียว สาวรับใช้เดินเข้ามาพร้อมกาน้ำชาอุ่น“ข้ากำลังทำน้ำมันหอมระเหยไล่ยุงอยู่”“น้ำมันหอมระเหยหรือเจ้าคะ?”“ใช่ ถ้าเอาเปลือกส้มมาบดขยี้แบบนี้ น้ำมันจากเปลือกส้มก็จะไหลออกมา ส่งกลิ่นหอมออกมา มันหอมสำหรับคนแต่เหม็นสำหรับยุง”“ถ้าเช่นนั้นข้าจะไปเก็บเปลือกส้มมาให้ท่านหญิงเพิ่มดีไหมเจ้าคะ?”“ยามนี้มืดแล้วไม่ต้องหรอก แต่ข้าจะสั่งงานเจ้า” นางหันกลับมายังโต๊ะหนังสือก่อนจะใช้พู่กันตวัดลงบนกระดาษเพื่อเขียนข้อความลงมาเป็นข้อ ๆ แล้วยื่นมันให้สาวรับใช้“เดี๋ยวพรุ่งนี้เจ้าไปหาสมุนไพรเหล่านี้มาให้ข้าที แล้

    Last Updated : 2025-04-18
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7.2 : อำเภอเป่ยตู

    บทที่ 7.2‘อำเภอเป่ยตู’..“โอ๊ย!”เย่ซูชางถูกหยวนฉินดันจนชิดกำแพงในที่ลับตาคน แต่ที่นี่มันก็แทบจะลับตาคนทุกที่นั่นแหละเพราะคนน้อยผีวิญญาณน่าจะเยอะมากกว่าเพราะคนตายไปเยอะ กลางค่ำกลางคืนจึงไม่มีใครออกมาเดินเล่นกินลมชมวิวเพราะมันไม่น่าพิสมัยเท่าไหร่นัก“บุรุษผู้นั้นเป็นใคร”“เจ้าหูหนวกหรือไง ข้าก็เรียกเขาว่าหมออยู่”“แล้วเจ้าจะไปคุยกับเขาทำไม ทำไมต้องใกล้ชิดสนิทสนมขนาดนั้นด้วย”“ที่นี่มีโรคระบาดนะ ถ้าข้าไม่คุยกับหมอแล้วจะให้ข้าไปคุยกับผู้ใด อยู่ที่นี่ข้าก็คุยได้แค่สองหมอเท่านั้นแหละ คือหมอรักษาคนกับหมอผี”เย่ซูชางผลักตัวของหยวนฉินออกไปให้ห่างนางก่อนจะปัดฝุ่นออกจากอาภรณ์ของตนเอง “ถ้าเจ้าจะมาหาเรื่องเจ้าก็กลับไปเลย”“ข้ามาเพราะเป็นห่วงเจ้าจริง ๆ”“ข้าเห็นแต่ความประชดประชันของเจ้า” นางเดินออกมาก่อนจะมองไปยังโรงนอนของผู้ป่วยแล้วถอนหายใจออกมาเล็กน้อย“เจ้าดูภาพตรงหน้าของเจ้าสิ ที่นี่ล้วนเต็มไปด้วยความทุกข์ยาก ทุกคนต่างร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ไปให้ได้ถ้าเจ้าจะมาก็ควรมาช่วยไม่ใช่มาหาเรื่องข้าเช่นนี้ แค่นี้ข้ายังเหนื่อยไม่พออีกหรือ ไยต้องเพิ่มเรื่องเพิ่มราวให้ข้าด้วย”หยวนฉิ

    Last Updated : 2025-04-18
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7.3 : อำเภอเป่ยตู

    Chapter 7.3 'อำเภอเป่ยตู'..แสงอรุณสาดส่องลงมายังพื้นดินแฉะชื้น พร้อมเสียงนกกาที่ร้องกันเจื้อยแจ้วต้อนรับเช้าวันใหม่ที่ดูจะสดใสกว่าวันก่อน ๆ ผู้คนต่างเดินกันขวักไขว่ไหล่แทบจะชนกันเร่งรีบทำหน้าที่ของตนตั้งแต่เช้ามืด บางคนไม่ได้หลับได้นอนด้วยซ้ำไปเย่ซูชางมาตรวจดูผ้าฝ้ายที่เพิ่งขนเข้ามาหลายเกวียนจากเมืองใกล้เคียงก็พอใจถึงคุณภาพของมันจะไม่ใช่เกรดดีนักแต่ยามนี้หาได้เท่านี้ก็นับว่าดีมากแล้วสามารถนำไปทอเป็นมุ้งแก้ขัดก่อนได้“ท่านหญิงข้าเกณฑ์คนที่ทอผ้าเป็นมาแล้วขอรับ” นายอำเภอเป่ยตูพาคนเข้ามาหากลุ่มหนึ่งก็ไม่มากนักสักยี่สิบคนได้“ดีมาก ท่านทำงานได้ดีไม่มีข้อบกพร่องเลย” นางหันมาชื่นชมนายอำเภอเป่ยตูที่เขาเป็นคนตงฉิน“ได้รับใช้ท่านหญิงนับว่าเป็นบุญของข้าแล้วขอรับ ข้าเห็นท่านหญิงทุ่มเทถึงเพียงนี้แล้วจะไม่ทุ่มเทตามได้อย่างไร ข้ายินดีทำทุกอย่างที่ท่านหญิงสั่งสุดความสามารถขอรับ” นายอำเภอเป่ยตูโค้งหัวลงอย่างนอบน้อม“ข้าได้ฟังก็สบายใจ แต่ยามนี้อย่ามัวมาซาบซึ้งใจกันเลย เร่งรีบขนหีบผ้าไปไว้ในโรงเรือนก่อน ส่วนคนที่ทอผ้าได้ก็ตามข้ามาทางนี้”“ขอรับ / เจ้าค่ะ”นายอำเภอเป่ยตูรีบหันไปสั่งคนงานชายให้ช่วยกั

    Last Updated : 2025-04-18
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7.4 : อำเภอเป่ยตู

    บทที่ 7.4‘อำเภอเป่ยตู’..เวลาในวันหนึ่งเดินไวเสมอเมื่อมีงานมากมายรัดตัว เย่ซูชางเดินกลับมาที่เรือนรับรองด้วยความเหนื่อยล้าหลังจากไปช่วยพวกเด็ก ๆ ที่พอจะสั่งสอนรู้เรื่องให้ช่วยกันทำสมุนไพรทาผิวกันยุงและถุงหอมกันยุง แต่เด็กก็คือเด็กวันยังค่ำทำงานได้ไม่นานก็เหนื่อยแล้ว บางคนก็เบื่ออยากออกไปวิ่งเล่น นางเองก็ไม่คิดจะบีบบังคับเลยต้องปล่อยไปเหลือกันแค่ไม่กี่คนที่พอจะโตหน่อยและเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ที่อยู่ช่วยกันทำ แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะแจกจ่ายทุกคนอยู่ดีเพราะว่าสมุนไพรมีน้อยเกินไปแล้วถุงหอมเองก็ต้องใช้ขั้นตอนในการตัดเย็บนานด้วยมือเล็กถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกเพื่อเตรียมจะอาบน้ำ ก่อนหน้านี้ให้บ่าวรับใช้ยกน้ำอุ่นมาให้แล้วแต่ก็ไม่ได้ให้ใครอยู่ปรนนิบัติเพราะรู้ดีว่าทุกคนเหนื่อยกันหมดแล้วเลยไล่ไปพักผ่อนกันให้หมด ยังไงเสียก่อนที่จะทะลุมิติเข้ามาในนิยายนางก็อาบน้ำแต่งตัวเองอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นง่อยเลยไม่จำเป็นต้องให้ใครมาปรนนิบัติดูแลหรอก“บ่าวไพร่ไปไหนหมดไยปล่อยท่านหญิงให้อยู่ผู้เดียวเช่นนี้”“อ๊ะ!” เสียงเข้มที่คุ้นเคยดังขึ้นมันทำให้เย่ซูชางตกใจเล็กน้อยเมื่อหันไปมองทางประตูที่เปิดทิ้งเอาไว้ก็เ

    Last Updated : 2025-04-18
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7.5 : อำเภอเป่ยตู

    บทที่ 7.5‘อำเภอเป่ยตู’..“หรือหลงรักข้าไปแล้ว?”“จะ… เจ้าอย่ามัวแต่นอกเรื่อง รีบทำงานให้เสร็จดีกว่า”เขากล่าวเสียงละล่ำละลักและพยายามเปลี่ยนเรื่อง เย่ซูชางก็มองออกว่าเขาเขินอายแต่มันก็อดจะหงุดหงิดไม่ได้ ปกติก็ดูเป็นคนหน้าหนาจะตายไปแต่พอเรื่องแบบนี้ดันอายไม่แสดงออกให้ชัดเจน จ้องจะเปลี่ยนเรื่องตลอดมันก็เบื่อเหมือนกันกับคนประเภทนี้จะให้มันชัดเจนในความรู้สึกตัวเองมันจะตายหรือไง“เจ้าออกแรงตำหน่อย อ้อยอิ่งแบบนี้ยันเช้าคงทำไม่เสร็จ”“ข้าก็ออกแรงอยู่ เจ้าไม่มีตามองหรือ?”“นั่นเจ้าเรียกออกแรงแล้วหรือ ข้านึกว่าแตะมากกว่าตำเสียอีก”นางแย่งสากกะเบือมาจากมือเขาก่อนจะดันตัวคนชอบใช้ปัญญาให้ห่างออกไปเพื่อโชว์สกิลการตำให้เขาดู ชนิดที่ว่าตำทีเดียวเปลือกส้มเหนียว ๆ ขาดออกจากกันเลยทำเอาหยวนฉินที่นั่งมองอยู่อึ้งจนพูดไม่ออกเพราะเขาออกแรงต้องมากกว่าเปลือกส้มจะขาด“ไปกินยาปลุกพลังตัวไหนมาหรือ?”“เจ้าไม่มีแรงเองมากกว่า อย่ามาโยนว่าข้าใช้ตัวช่วย”“งั้นเจ้ามีเคล็ดลับอะไรถึงได้มีกำลังแขนมากถึงเพียงนี้?”‘เพราะข้าเป็นคนไทยไง คนไทยที่ตำเก่ง ตำส้มตำ ตำน้ำพริก ตำหมาก สารพัดตำ!’แต่จะตอบแบบที่ใจคิดก็ไม่ได้อีก นาง

    Last Updated : 2025-04-18
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7.6 : อำเภอเป่ยตู

    บทที่ 7.6‘อำเภอเป่ยตู’..เย่ซูชางเดินออกมานอกเรือนเพื่อรับแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมาจากท้องฟ้าเปิดอันสดใส เหล่าผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างก้มหัวคำนับนาง ในฐานะท่านหญิงก็เป็นปกติอยู่แล้วที่คนต่างก้มหัวให้ แต่ที่นี่มันแตกต่างจากเมืองหลวงเพราะทุกคนแสดงความจริงใจต่อนางอยากเคารพนางจริง ๆ ไม่ใช่ทำตามหน้าที่เหมือนคนเมืองหลวงนางเดินมายังโรงนอนของคนป่วยที่ยามนี้ผู้ป่วยบางเบาลงมากแล้วเพราะหายดีไปหลายคนแล้วที่เหลืออยู่ก็อาการไม่หนักเท่าไหร่มันแปลว่าการรักษาของนางได้ผล แต่มันน่าจะดีกว่านี้ถ้ามีชิงเฮาเยอะ นี่ชิงเฮามีน้อยมากเพราะเป็นสมุนไพรหายากต้นหนึ่งได้ดอกน้อยเลยให้คนป่วยกินได้แค่วันละหนึ่งถ้วยเพื่อแบ่งกันกินให้ทั่วถึงเลยหายช้าต้องค่อยเป็นค่อยไป“รับราชโองการ!”เสียงตะโกนดังขึ้นด้านนอกจนเย่ซูชางตกใจรีบเดินออกมาดูก็เห็นว่าทุกคนนั่งคุกเข่าต่อหน้าชายคนหนึ่งที่มีท่าทางภูมิฐานแต่งตัวสูงศักดิ์ แต่ยังไม่ทันจะได้กล่าวสิ่งใดก็ถูกหยวนฉินที่นั่งคุกเข่าดึงมือนางให้นั่งตามพวกเขา“ราชโองการจากฮ่องเต้เจ้ายังจะกล้ายืนอยู่อีก คนโปรดก็โดนตัดหัวได้เหมือนกันถ้าหมิ่นพระเกียรติ” หยวนฉินบ่นเย่ซูชางจนนางหน้ามุ่ยใส่เ

    Last Updated : 2025-04-18
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7.7 : อำเภอเป่ยตู

    บทที่ 7.7‘อำเภอเป่ยตู’..หยวนฉินที่เพิ่งกลับมาจากส่งฝูอ๋องที่หนานตูก็แปลกใจเมื่อเดินเข้ามาในหมู่บ้าน ผู้ป่วยที่ควรนอนในโรงนอนกลับถูกย้ายไปอยู่ที่โรงหมอแทน ส่วนรอบโรงนอนของผู้ป่วยและริมลำธารกลับมีกองฟืนกองใหญ่ถูกวางกองเอาไว้เมื่อเดินเข้ามาอีกก็เห็นเย่ซูชางกำลังยืนชี้มือชี้ไม้สั่งงานพวกทหารอยู่ด้วยท่าทางจริงจัง ทั้งที่จะกลับเมืองหลวงอยู่แล้วแทนที่จะพักผ่อนให้เต็มที่เพื่อเตรียมเดินทางไกลแต่กลับออกมาทำงานไม่ยอมหยุดเลยกะจะทำจนวินาทีสุดท้ายเลยเหรอไง“เจ้าจะทำอะไรอีก ไยไม่ไปพักผ่อน”“เจ้ากลับมาแล้วหรือ?” เย่ซูชางหันมายิ้มให้หยวนฉิน“เจ้าควรตอบคำถามข้าไม่ใช่มาถามกลับ”“ไหน ๆ ก็จะกลับเมืองหลวงแล้วเลยขอมอบเคล็ดลับวิชาสุดท้ายให้คนที่นี่ไว้ใช้เสียหน่อย”“เคล็ดลับวิชาอะไรของเจ้า?”“รมควันยุง”“ฮะ?” หยวนฉินเลิกคิ้วเล็กน้อย“ตามมาสิ” นางจับมือของเขาแล้วพาเดินมาที่กองไฟ“ก่อไฟเลย” นางหันไปสั่งทหารกองไฟถูกจุดขึ้นจนควันโขมง เย่ซูชางหยิบเอาเปลือกส้มโยนใส่ไฟเพื่อให้มันเผาเอาน้ำมันหอมระเหยออกมาก่อนจะหันไปหาเหล่าทหาร “พวกเจ้าช่วยกันพัดควันให้หันทิศทางไปยังโรงนอน”“มันช่วยสิ่งใดหรือ?” หยวนฉินถามด้วยควา

    Last Updated : 2025-04-18

Latest chapter

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   10 : ลงโทษ

    บทที่ 16'ลงโทษ'..“ฝ่าบาทฮองเฮาขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ” “พอเป็นเรื่องนี้ก็รีบมาเชียว ให้นางเข้ามา” “พ่ะย่ะค่ะ” หวังกงกงเดินออกไปเพียงครู่เดียวก็กลับเข้ามาพร้อมฮองเฮาฉีฮองเฮาเข้ามาถึงก็รีบคุกเข่าลงตรงหน้าของฮ่องเต้ทันที สองมือก้มกราบพระสวามีของตนทั้งน้ำตา “ฝ่าบาททรงละเว้นโทษองค์ชายทั้งสามเถิดเพคะ”“ถ้าแค่บุตรเรายังปกครองมิได้แล้วจะเอาความสามารถที่ไหนไปปกครองประชาราษฎร์” “แต่องค์ชายทั้งสามนั่งคุกเข่ามาครึ่งวันแล้วนะเพคะ” “แล้วมันสมควรหรือไม่?” ฮ่องเต้ทรงทุบมือลงบนโต๊ะด้วยความโมโหก่อนจะมองออกไปยังนอกพระตำหนักที่เห็นเงาของพระโอรสทั้งสามกำลังนั่งคุกเข่าสำนึกผิดอยู่ “แข้งขาของพวกเขาก็ยังดีอยู่เหตุไฉนถึงได้ไปรังแกคนที่แข้งขาไม่ดี มิหนำซ้ำคนผู้นั้นยังเป็นน้องชายของตนเองอีก” “แต่ถ้าผู้ใดรู้ว่าองค์รัชทายาทต้องมานั่งคุกเข่าเช่นนี้จะเป็นที่ด่างพร้อยให้อับอายนะเพคะ”“มันสมควรอายเพราะรังแกคนที่อ่อนแอกว่าตนเองต่างหากไม่ใช่อายเพราะถูกลงโทษในสิ่งที่ตัวเองได้กระทำลงไปจริง” “หม่อมฉันขอร้องเถิดเพคะ เห็นแก่หม่อมฉันสักครั้งยังไงพวกเขาก็เป็นลูกของเรานะเพคะ” “มิใช่ว่ามีแม่ที่คอยให้ท้ายเช่นเจ้าหรือ พ

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   9 : เข้าเฝ้าฮ่องเต้

    บทที่ 15‘เข้าเฝ้าฮ่องเต้’..หลังจากกลับมาถึงเมืองหลวงได้เพียงวันเดียวเย่ซูชางก็รีบมาเข้าเฝ้าฮ่องเต้ตามราชโองการที่ได้รับก่อนหน้านี้ นางเดินเข้ามาในเขตพระราชฐานส่วนพระองค์ที่เป็นตำหนักกลางสระบงกชสีชมพูงดงามราวกับแดนสวรรค์ชั้นฟ้า สายลมเย็นพัดผ่านร่างกายจนผมสีดำขลับปลิดปลิวเล็กน้อย กลิ่นของบงกชหอมหวานทำให้จิตใจผ่อนคลายได้จริง ๆ“ซูชางถวายพระพรฮ่องเต้ ขอพระองค์ทรงพระเจริญเป็นหมื่น ๆ ปีเพคะ”“เราไม่อยู่เป็นหมื่น ๆ ปีหรอก เช่นนั้นคงต้องเจอเจ้าไปอีกนาน”องค์ฮ่องเต้ที่กำลังยืนรับลมชมวิวอยู่หันกลับมากล่าวกับเย่ซูชางด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเอ็นดูในตัวของนางที่ยิ่งเติบโตก็ยิ่งมีใบหน้าและท่าทางคล้ายบิดาไม่มีผิดเพี้ยน ทำให้ตนนึกถึงสหายรักผู้ล่วงลับทุกครั้งที่เจอ“อีกอย่างบิดาของเจ้าก็รอเจอเราอยู่ ไปช้าเดี๋ยวจะถูกบิดาเจ้าตำหนิเอาได้ว่าปล่อยให้รอเสียนาน”“ฝ่าบาทอย่าทรงกล่าวเช่นนั้นเพคะ พระองค์จะต้องมีอายุยืนยาวอยู่เป็นที่พึ่งพิงของเหล่าราษฎรไปอีกนานแสนนาน เพราะบารมีของพระองค์ที่ทำให้แผ่นดินสงบสุขเช่นทุกวันนี้เพคะ”“เพราะสิ่งที่บิดาและพี่เจ้ากระทำไว้ต่างหาก แผ่นดินสงบสุขก็เพราะขับไล่พวกซี

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   8 : เดินทางกลับเมืองหลวง

    บทที่ 14‘เดินทางกลับเมืองหลวง’..“จำไว้ว่าจะต้องป้องกันยุง อย่าให้ยุงกัด ยามค่ำคืนต้องจุดธูปกันยุง ยามนอนต้องกางมุ้ง แหล่งน้ำขังควรกำจัดทิ้งให้หมดอย่าให้มี แล้วก็โอ่งหรือที่เก็บน้ำควรมีฝาปิดมิดชิดไม่อย่างงั้นจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงจนเกิดโรคระบาดอีก”“เจ้าค่ะ / ขอรับ”เย่ซูชางกล่าวกับพวกชาวบ้านชาวเมืองที่มาส่งนางกลับเมืองหลวงแต่ก่อนกลับก็อดไม่ได้ที่จะต้องกำชับสิ่งเหล่านี้ให้ทุกคนจำให้ขึ้นใจเพราะโรคระบาดจะลดน้อยลงถ้าเรารู้จักป้องกันตนเอง มันก็คล้าย ๆ โควิด-19 ที่ระบาดในยุคปัจจุบันที่นางจากมาถ้าเรารู้จักป้องกันตัวเองการ์ดไม่ตกก็จะไม่ติดง่าย เมื่อไม่มีคนติดโรคระบาดก็จะเบาบางลงจนกลายเป็นเพียงโรคประจำถิ่นที่มีวิธีการรักษาและรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ต้องกังวลอะไรมากอีกแล้ว“จำเอาไว้ว่าการรักษาโรคระบาดจะเอาแต่รักษาอย่างเดียวไม่ได้ พวกเจ้าจะต้องป้องกันตนเองด้วย อย่าให้ยุงกัด เข้าป่าควรแต่งตัวให้มิดชิด ทายาสมุนไพรกันยุงไปด้วย การรมควันยุงควรมีเดือนละครั้งเพื่อขับไล่ยุงที่หลบซ่อนตามซอกหลืบให้หนีไปให้ห่างจากหมู่บ้าน”“อ๋อ แล้วก็...”“พอแล้ว พวกเขารู้หมดแล้ว เจ้าพูดย้ำเช่นนี้มาทุกวันตั้งแ

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7.7 : อำเภอเป่ยตู

    บทที่ 7.7‘อำเภอเป่ยตู’..หยวนฉินที่เพิ่งกลับมาจากส่งฝูอ๋องที่หนานตูก็แปลกใจเมื่อเดินเข้ามาในหมู่บ้าน ผู้ป่วยที่ควรนอนในโรงนอนกลับถูกย้ายไปอยู่ที่โรงหมอแทน ส่วนรอบโรงนอนของผู้ป่วยและริมลำธารกลับมีกองฟืนกองใหญ่ถูกวางกองเอาไว้เมื่อเดินเข้ามาอีกก็เห็นเย่ซูชางกำลังยืนชี้มือชี้ไม้สั่งงานพวกทหารอยู่ด้วยท่าทางจริงจัง ทั้งที่จะกลับเมืองหลวงอยู่แล้วแทนที่จะพักผ่อนให้เต็มที่เพื่อเตรียมเดินทางไกลแต่กลับออกมาทำงานไม่ยอมหยุดเลยกะจะทำจนวินาทีสุดท้ายเลยเหรอไง“เจ้าจะทำอะไรอีก ไยไม่ไปพักผ่อน”“เจ้ากลับมาแล้วหรือ?” เย่ซูชางหันมายิ้มให้หยวนฉิน“เจ้าควรตอบคำถามข้าไม่ใช่มาถามกลับ”“ไหน ๆ ก็จะกลับเมืองหลวงแล้วเลยขอมอบเคล็ดลับวิชาสุดท้ายให้คนที่นี่ไว้ใช้เสียหน่อย”“เคล็ดลับวิชาอะไรของเจ้า?”“รมควันยุง”“ฮะ?” หยวนฉินเลิกคิ้วเล็กน้อย“ตามมาสิ” นางจับมือของเขาแล้วพาเดินมาที่กองไฟ“ก่อไฟเลย” นางหันไปสั่งทหารกองไฟถูกจุดขึ้นจนควันโขมง เย่ซูชางหยิบเอาเปลือกส้มโยนใส่ไฟเพื่อให้มันเผาเอาน้ำมันหอมระเหยออกมาก่อนจะหันไปหาเหล่าทหาร “พวกเจ้าช่วยกันพัดควันให้หันทิศทางไปยังโรงนอน”“มันช่วยสิ่งใดหรือ?” หยวนฉินถามด้วยควา

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7.6 : อำเภอเป่ยตู

    บทที่ 7.6‘อำเภอเป่ยตู’..เย่ซูชางเดินออกมานอกเรือนเพื่อรับแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมาจากท้องฟ้าเปิดอันสดใส เหล่าผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างก้มหัวคำนับนาง ในฐานะท่านหญิงก็เป็นปกติอยู่แล้วที่คนต่างก้มหัวให้ แต่ที่นี่มันแตกต่างจากเมืองหลวงเพราะทุกคนแสดงความจริงใจต่อนางอยากเคารพนางจริง ๆ ไม่ใช่ทำตามหน้าที่เหมือนคนเมืองหลวงนางเดินมายังโรงนอนของคนป่วยที่ยามนี้ผู้ป่วยบางเบาลงมากแล้วเพราะหายดีไปหลายคนแล้วที่เหลืออยู่ก็อาการไม่หนักเท่าไหร่มันแปลว่าการรักษาของนางได้ผล แต่มันน่าจะดีกว่านี้ถ้ามีชิงเฮาเยอะ นี่ชิงเฮามีน้อยมากเพราะเป็นสมุนไพรหายากต้นหนึ่งได้ดอกน้อยเลยให้คนป่วยกินได้แค่วันละหนึ่งถ้วยเพื่อแบ่งกันกินให้ทั่วถึงเลยหายช้าต้องค่อยเป็นค่อยไป“รับราชโองการ!”เสียงตะโกนดังขึ้นด้านนอกจนเย่ซูชางตกใจรีบเดินออกมาดูก็เห็นว่าทุกคนนั่งคุกเข่าต่อหน้าชายคนหนึ่งที่มีท่าทางภูมิฐานแต่งตัวสูงศักดิ์ แต่ยังไม่ทันจะได้กล่าวสิ่งใดก็ถูกหยวนฉินที่นั่งคุกเข่าดึงมือนางให้นั่งตามพวกเขา“ราชโองการจากฮ่องเต้เจ้ายังจะกล้ายืนอยู่อีก คนโปรดก็โดนตัดหัวได้เหมือนกันถ้าหมิ่นพระเกียรติ” หยวนฉินบ่นเย่ซูชางจนนางหน้ามุ่ยใส่เ

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7.5 : อำเภอเป่ยตู

    บทที่ 7.5‘อำเภอเป่ยตู’..“หรือหลงรักข้าไปแล้ว?”“จะ… เจ้าอย่ามัวแต่นอกเรื่อง รีบทำงานให้เสร็จดีกว่า”เขากล่าวเสียงละล่ำละลักและพยายามเปลี่ยนเรื่อง เย่ซูชางก็มองออกว่าเขาเขินอายแต่มันก็อดจะหงุดหงิดไม่ได้ ปกติก็ดูเป็นคนหน้าหนาจะตายไปแต่พอเรื่องแบบนี้ดันอายไม่แสดงออกให้ชัดเจน จ้องจะเปลี่ยนเรื่องตลอดมันก็เบื่อเหมือนกันกับคนประเภทนี้จะให้มันชัดเจนในความรู้สึกตัวเองมันจะตายหรือไง“เจ้าออกแรงตำหน่อย อ้อยอิ่งแบบนี้ยันเช้าคงทำไม่เสร็จ”“ข้าก็ออกแรงอยู่ เจ้าไม่มีตามองหรือ?”“นั่นเจ้าเรียกออกแรงแล้วหรือ ข้านึกว่าแตะมากกว่าตำเสียอีก”นางแย่งสากกะเบือมาจากมือเขาก่อนจะดันตัวคนชอบใช้ปัญญาให้ห่างออกไปเพื่อโชว์สกิลการตำให้เขาดู ชนิดที่ว่าตำทีเดียวเปลือกส้มเหนียว ๆ ขาดออกจากกันเลยทำเอาหยวนฉินที่นั่งมองอยู่อึ้งจนพูดไม่ออกเพราะเขาออกแรงต้องมากกว่าเปลือกส้มจะขาด“ไปกินยาปลุกพลังตัวไหนมาหรือ?”“เจ้าไม่มีแรงเองมากกว่า อย่ามาโยนว่าข้าใช้ตัวช่วย”“งั้นเจ้ามีเคล็ดลับอะไรถึงได้มีกำลังแขนมากถึงเพียงนี้?”‘เพราะข้าเป็นคนไทยไง คนไทยที่ตำเก่ง ตำส้มตำ ตำน้ำพริก ตำหมาก สารพัดตำ!’แต่จะตอบแบบที่ใจคิดก็ไม่ได้อีก นาง

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7.4 : อำเภอเป่ยตู

    บทที่ 7.4‘อำเภอเป่ยตู’..เวลาในวันหนึ่งเดินไวเสมอเมื่อมีงานมากมายรัดตัว เย่ซูชางเดินกลับมาที่เรือนรับรองด้วยความเหนื่อยล้าหลังจากไปช่วยพวกเด็ก ๆ ที่พอจะสั่งสอนรู้เรื่องให้ช่วยกันทำสมุนไพรทาผิวกันยุงและถุงหอมกันยุง แต่เด็กก็คือเด็กวันยังค่ำทำงานได้ไม่นานก็เหนื่อยแล้ว บางคนก็เบื่ออยากออกไปวิ่งเล่น นางเองก็ไม่คิดจะบีบบังคับเลยต้องปล่อยไปเหลือกันแค่ไม่กี่คนที่พอจะโตหน่อยและเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ที่อยู่ช่วยกันทำ แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะแจกจ่ายทุกคนอยู่ดีเพราะว่าสมุนไพรมีน้อยเกินไปแล้วถุงหอมเองก็ต้องใช้ขั้นตอนในการตัดเย็บนานด้วยมือเล็กถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกเพื่อเตรียมจะอาบน้ำ ก่อนหน้านี้ให้บ่าวรับใช้ยกน้ำอุ่นมาให้แล้วแต่ก็ไม่ได้ให้ใครอยู่ปรนนิบัติเพราะรู้ดีว่าทุกคนเหนื่อยกันหมดแล้วเลยไล่ไปพักผ่อนกันให้หมด ยังไงเสียก่อนที่จะทะลุมิติเข้ามาในนิยายนางก็อาบน้ำแต่งตัวเองอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ไม่ได้เป็นง่อยเลยไม่จำเป็นต้องให้ใครมาปรนนิบัติดูแลหรอก“บ่าวไพร่ไปไหนหมดไยปล่อยท่านหญิงให้อยู่ผู้เดียวเช่นนี้”“อ๊ะ!” เสียงเข้มที่คุ้นเคยดังขึ้นมันทำให้เย่ซูชางตกใจเล็กน้อยเมื่อหันไปมองทางประตูที่เปิดทิ้งเอาไว้ก็เ

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7.3 : อำเภอเป่ยตู

    Chapter 7.3 'อำเภอเป่ยตู'..แสงอรุณสาดส่องลงมายังพื้นดินแฉะชื้น พร้อมเสียงนกกาที่ร้องกันเจื้อยแจ้วต้อนรับเช้าวันใหม่ที่ดูจะสดใสกว่าวันก่อน ๆ ผู้คนต่างเดินกันขวักไขว่ไหล่แทบจะชนกันเร่งรีบทำหน้าที่ของตนตั้งแต่เช้ามืด บางคนไม่ได้หลับได้นอนด้วยซ้ำไปเย่ซูชางมาตรวจดูผ้าฝ้ายที่เพิ่งขนเข้ามาหลายเกวียนจากเมืองใกล้เคียงก็พอใจถึงคุณภาพของมันจะไม่ใช่เกรดดีนักแต่ยามนี้หาได้เท่านี้ก็นับว่าดีมากแล้วสามารถนำไปทอเป็นมุ้งแก้ขัดก่อนได้“ท่านหญิงข้าเกณฑ์คนที่ทอผ้าเป็นมาแล้วขอรับ” นายอำเภอเป่ยตูพาคนเข้ามาหากลุ่มหนึ่งก็ไม่มากนักสักยี่สิบคนได้“ดีมาก ท่านทำงานได้ดีไม่มีข้อบกพร่องเลย” นางหันมาชื่นชมนายอำเภอเป่ยตูที่เขาเป็นคนตงฉิน“ได้รับใช้ท่านหญิงนับว่าเป็นบุญของข้าแล้วขอรับ ข้าเห็นท่านหญิงทุ่มเทถึงเพียงนี้แล้วจะไม่ทุ่มเทตามได้อย่างไร ข้ายินดีทำทุกอย่างที่ท่านหญิงสั่งสุดความสามารถขอรับ” นายอำเภอเป่ยตูโค้งหัวลงอย่างนอบน้อม“ข้าได้ฟังก็สบายใจ แต่ยามนี้อย่ามัวมาซาบซึ้งใจกันเลย เร่งรีบขนหีบผ้าไปไว้ในโรงเรือนก่อน ส่วนคนที่ทอผ้าได้ก็ตามข้ามาทางนี้”“ขอรับ / เจ้าค่ะ”นายอำเภอเป่ยตูรีบหันไปสั่งคนงานชายให้ช่วยกั

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7.2 : อำเภอเป่ยตู

    บทที่ 7.2‘อำเภอเป่ยตู’..“โอ๊ย!”เย่ซูชางถูกหยวนฉินดันจนชิดกำแพงในที่ลับตาคน แต่ที่นี่มันก็แทบจะลับตาคนทุกที่นั่นแหละเพราะคนน้อยผีวิญญาณน่าจะเยอะมากกว่าเพราะคนตายไปเยอะ กลางค่ำกลางคืนจึงไม่มีใครออกมาเดินเล่นกินลมชมวิวเพราะมันไม่น่าพิสมัยเท่าไหร่นัก“บุรุษผู้นั้นเป็นใคร”“เจ้าหูหนวกหรือไง ข้าก็เรียกเขาว่าหมออยู่”“แล้วเจ้าจะไปคุยกับเขาทำไม ทำไมต้องใกล้ชิดสนิทสนมขนาดนั้นด้วย”“ที่นี่มีโรคระบาดนะ ถ้าข้าไม่คุยกับหมอแล้วจะให้ข้าไปคุยกับผู้ใด อยู่ที่นี่ข้าก็คุยได้แค่สองหมอเท่านั้นแหละ คือหมอรักษาคนกับหมอผี”เย่ซูชางผลักตัวของหยวนฉินออกไปให้ห่างนางก่อนจะปัดฝุ่นออกจากอาภรณ์ของตนเอง “ถ้าเจ้าจะมาหาเรื่องเจ้าก็กลับไปเลย”“ข้ามาเพราะเป็นห่วงเจ้าจริง ๆ”“ข้าเห็นแต่ความประชดประชันของเจ้า” นางเดินออกมาก่อนจะมองไปยังโรงนอนของผู้ป่วยแล้วถอนหายใจออกมาเล็กน้อย“เจ้าดูภาพตรงหน้าของเจ้าสิ ที่นี่ล้วนเต็มไปด้วยความทุกข์ยาก ทุกคนต่างร่วมแรงร่วมใจกันเพื่อให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ไปให้ได้ถ้าเจ้าจะมาก็ควรมาช่วยไม่ใช่มาหาเรื่องข้าเช่นนี้ แค่นี้ข้ายังเหนื่อยไม่พออีกหรือ ไยต้องเพิ่มเรื่องเพิ่มราวให้ข้าด้วย”หยวนฉิ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status