Home / รักโบราณ / นางร้ายเหนื่อยแล้ว / 5 : ถ้ายังไม่มีผู้ใดตายก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่

Share

5 : ถ้ายังไม่มีผู้ใดตายก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่

บทที่ 5

‘ถ้ายังไม่มีผู้ใดตายก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่’

.

.

“พี่หญิงรอง พี่หญิงรองเกิดเรื่องแล้ว!” เย่ซูเจินวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในเขตเรือนของเย่ซูชางที่กำลังนั่งจัดดอกไม้อยู่ภายในศาลากลางสวน

“ถ้ายังไม่มีผู้ใดตายก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่” เย่ซูชางกล่าวเสียงนิ่งเรียบมือยังคงหยิบดอกไม้ขึ้นมาจัดแต่งใส่แจกันหยกใบงาม

“จะมีคนตายแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านพี่หมิงซัวถูกพาไปที่คุกหลวงเห็นทีคงโดนโทษโบยเพราะฮ่องเต้ทรงไม่ยอมที่เขามาหมิ่นเกียรติท่าน”

เย่ซูชางที่ได้ฟังก็นิ่งเงียบลง ภายในใจเหมือนไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น “ข้าถือว่าข้าชดใช้ไปแล้ว ข้ายอมให้เขาหมิ่นเกียรติ ยามเดินไปไหนผู้คนก็นินทาเป็นตัวตลกขบขันแล้วจะให้ข้าทำสิ่งใดอีก ส่วนที่ต้องชดใช้ก็ชดใช้ไปแล้ว มันแค่ผิดตรงที่ว่าสิ่งที่หมิงซัวทำดันไปหมิ่นเกียรติฮ่องเต้เช่นกันเพราะฉะนั้นเขาก็ต้องรับโทษในส่วนนี้ด้วยตนเอง หาใช่ความผิดข้าเสียหน่อย”

“ตะ… แต่ว่านั่นท่านพี่หมิงซัวนะเจ้าคะ”

“แล้วอย่างไรหรือ?”

ผู้น้องที่ได้ฟังผู้พี่กล่าวก็ประหลาดใจเพราะยามปกติพี่สาวของนางมักจะตามตื๊อจางหมิงซัวตลอดเวลา และคอยยื่นมือเข้าไปช่วยเขาเสมอด้วยแม้นว่าทุกครั้งเขาจะไม่ต้องการก็ตาม ถ้าเป็นเรื่องของจางหมิงซัวพี่สาวของนางย่อมไม่เคยปฏิเสธสักครั้ง

“ยามปกติถ้าเป็นเรื่องของท่านพี่หมิงซัวพี่หญิงรองจะไม่นิ่งเฉยเลย”

“เจินเอ๋อร์ ข้าเหนื่อยแล้ว ข้าแค่อยากพัก”

สีหน้าของเย่ซูชางคงจริงจังมากพอจนเย่ซูเจินก้มหน้าหลบสายตาด้วยความกลัวเล็กน้อย และรับรู้ได้แล้วว่าไม่ควรจู้จี้จุกจิกกับพี่สาวมากเกินไปเพราะยามจริงจังก็น่ากลัวเหลือเกิน

“ต่อจากนี้ข้าจะไม่ไปยุ่งวุ่นวายกับหมิงซัวอีกแล้ว ต่างคนต่างอยู่เถิด ข้าเหนื่อยจะต้องพยายามในสิ่งที่ไร้ประโยชน์แล้ว”

“ข้าดีใจที่พี่หญิงรองคิดได้เช่นนี้เจ้าค่ะ” เย่ซูเจินแย้มยิ้มออกมา

เพราะนางเองก็ไม่เห็นด้วยที่พี่สาวจะต้องไปตามตื๊อตามตอแยบุรุษผู้เดียวที่ไม่เคยมีใจให้ มิหนำซ้ำยังชอบทำร้ายจิตใจเป็นการตอบแทนความรักของพี่สาวนางอีกด้วย เชื่อว่าสักวันเย่ซูชางจะต้องได้แต่งงานและครองคู่กับบุรุษที่ดีอย่างแน่นอน

……….

.

เย่ซูชางเดินลัดเลาะมายังเขตเรือนของท่านอารองและครอบครัวเพื่อมาตามหาหยวนฉินเพราะบ่าวรับใช้บอกว่าเขามาที่จวน ในมือถือช่อดอกไม้ที่นางเพิ่งจัดเสร็จติดมาด้วยก่อนจะเห็นว่าเขากำลังคุยกับท่านอารองภายในเรือนหลังใหญ่สุด

“ท่านอารองข้านำดอกไม้มาจัดแจกันให้ท่าน” นางแสร้งทำเป็นมาที่นี่โดยบังเอิญเพื่อจะจัดแจกันดอกไม้ให้ผู้เป็นอาเมื่อเห็นว่าหยวนฉินอยู่ด้วยก็แสร้งทำเป็นตกใจ

“ขออภัย ข้าไม่คิดว่าท่านอารองจะติดธุระอยู่เจ้าค่ะ” นางโค้งหัวลงเล็กน้อยอย่างนอบน้อม

“คนกันเองทั้งนั้น อย่ามากพิธีเลยเจ้าเข้ามาเถิด” เย่ไป๋ อารองสกุลเย่หันมายิ้มให้หลานสาวอย่างอ่อนโยน

“ถ้าเช่นนั้นข้าขออนุญาตเจ้าค่ะ”

นางเดินเข้ามาภายในเรือนก่อนจะตรงไปยังแจกันเคลือบวาดลวดลายดอกโบตั๋นใบนี้ก็งดงามยิ่งนัก ดอกไม้ถูกวางลงบนโต๊ะก่อนที่มือเรียวจะเริ่มหยิบเสียบใส่แจกันอย่างอ่อนโยนท่ามกลางสายตาตะลึงของสองบุรุษต่างวัย เพราะตั้งแต่เกิดมาพวกเขาไม่เคยเห็นเย่ซูชางทำอะไรแบบนี้มาก่อนเลย

“อาไม่เห็นรู้ว่าเจ้าจัดดอกไม้เป็นด้วย” เย่ไป๋เดินเข้ามาดูแจกันที่หลานสาวจัดด้วยรอยยิ้มก่อนจะยกมันไปให้หยวนฉินดู “เจ้าดูสิ ชางเอ๋อร์มีฝีมือด้านนี้ไม่น้อย”

“งดงามมากขอรับ”

หยวนฉินตอบด้วยรอยยิ้ม แต่ก็ยังประหลาดใจอยู่ดีที่เย่ซูชางลุกขึ้นมาจัดดอกไม้เช่นนี้ ถ้านางปาแจกันดอกไม้ทิ้งค่อยดูจะเหมาะสมเป็นนางมากกว่า

“ไว้ข้าจะจัดแจกันดอกไม้ให้ท่านดีหรือไม่?” นางพูดออกไปต่อหน้าของท่านอารองเพราะหยวนฉินต้องไม่กล้าปฏิเสธแน่นอน

“ถ้าท่านหญิงเมตตา ข้าก็ยินดีรับไว้ขอรับ”

พออยู่ต่อหน้าท่านอารองของนางก็นอบน้อมเชียวนะพ่อพระรองคนดี ลองอยู่กันสองคนสิแทบจะกินหัวนางอยู่แล้ว

………

.

“ไยเจ้าไม่ไปอีก” เสียงแข็งของหยวนฉินกล่าวขึ้นจนเย่ซูชางที่กำลังจัดเอกสารให้เข้าที่เข้าทางอยู่หันมาสบตากับเขา

“ข้าจัดเอกสารให้ท่านอารองอยู่ เจ้าไม่มีตาแหกมองหรือ?”

“วันนี้ผีตนไหนเข้าสิงเจ้าอีกถึงได้ขยันผิดวิสัยเช่นนี้”

'เห็นไหมล่ะ พออยู่กันสองคนก็ปากหาเรื่องเชียว'

นางวางเอกสารในมือลงก่อนจะเดินเข้ามาหาหยวนฉินที่นั่งคัดลอกบัญชีอยู่ แขนทั้งสองข้างเท้าลงบนโต๊ะจนชายหนุ่มตกใจ นางยกยิ้มเล็กน้อยยามเห็นสีหน้าเหลอหลาของเขาจึงอยากจะแกล้งอีกด้วยการเปลี่ยนเป็นยกตัวขึ้นนั่งบนโต๊ะแทน

“จะ… เจ้า เจ้าจะทำสิ่งใด?”

“ข้าล่ะชอบหน้าตาเหมือนกระต่ายตื่นตูมของเจ้าตอนนี้จริง ๆ เลยพ่อรูปงาม”

นิ้วเรียวเชยคางหนาให้เงยขึ้นสบตากัน แต่เขาก็พยายามหันหน้าหนี นางเลยเปลี่ยนเป็นออกแรงบังคับบีบคางเขาเอาไว้แทน

“ที่เจ้าไม่อยากให้ข้าอยู่ในห้องนี้กับเจ้าเพราะกลัวว่าจะทนกับเสน่ห์อันน่าลุ่มหลงของข้าไม่ไหวหรือเปล่า?”

“อย่างข้าน่ะหรือจะหลงเสน่ห์เจ้า ต่อให้เหลือเจ้าผู้เดียวบนแผ่นดินข้าก็ไม่เอาเจ้าทำภรรยาหรอก”

“พูดจาทำร้ายจิตใจข้าเกินไปแล้ว”

นางขยับตัวลงจากโต๊ะก่อนจะเดินอ้อมมายังด้านหลังของเขาแล้วสอดแทรกแขนลูบไล้ไปยังด้านหน้าคล้ายท่ากอดเขาจากทางด้านหลังจนหยวนฉินตกใจพยายามจะดันตัวนางออกแต่นางก็กระซิบเสียงหวานข้างหูเขาจนเจ้าตัวหยุดชะงักเหมือนโดนสาปให้กลายเป็นหิน

“อาฉินที่รักของข้า เจ้าอย่าใจร้ายกับข้านักเลย”

“ใครที่รักเจ้ากัน!”

เขาปัดมือนางออกพร้อมทั้งออกแรงผลักมันทำให้เย่ซูชางเสียหลักจะหงายหลังจนต้องรีบหลับตาปี๋เพราะคิดว่ายังไงหัวก็ฟาดพื้นแน่ แต่จังหวะที่ร่างกายกำลังกระแทกพื้นกลับมีวงแขนอันอบอุ่นโอบกอดตัวนางเอาไว้ สัมผัสได้ว่าร่างกายหมุนวนคล้ายโดนเหวี่ยงและจบลงที่ใบหน้ากระแทกเข้ากับบางสิ่งบางอย่างที่ทั้งแข็งและนุ่ม

“โอ๊ย!” เสียงเข้มร้องออกมามันทำให้เย่ซูชางรีบลืมตามองทันทีก็พบว่าตนเองกำลังนอนทับอยู่บนตัวของหยวนฉินและอ้อมแขนเมื่อครู่ก็เป็นแขนของเขาที่เข้ามารับตัวนางเอาไว้

“ดูสิอาฉินที่รัก ปากเจ้าบอกไม่รักข้า แต่เวลาที่ข้าเผชิญอันตรายก็เป็นเจ้าที่เข้ามาช่วยข้าไว้เสมอ เจ้าทนเห็นข้าเจ็บไม่ได้ขนาดนี้ก็ยอมรับว่ารักข้าเถิด”

นางแกล้งหยอกเย้าเขาด้วยรอยยิ้มทะเล้นเพราะชอบเวลาที่ทำให้หยวนฉินโมโหได้ ใบหน้าหงุดหงิดของเขามันช่างน่ากลั่นแกล้งยิ่งนัก พ่อพระรองที่เย็นชากับทุกคน แสนดีกับนางเอกแค่คนเดียว เห็นแล้วก็หมั่นไส้อยากทะลวงและทำลายกำแพงเย็นชานี้ลงเสียให้ย่อยยับไม่ต้องต่อติดอีกเลย

“ลุกออกไป ข้าหนักเหมือนโดนหินทับ”

เขาพยายามจะดันตัวนางออกแต่คนแบบเย่ซูชางก็ไม่ยอมโดยง่าย เปลี่ยนเป็นนั่งคร่อมทับบนหน้าท้องเขาแทน ไม่พอยังจับแขนกำยำทั้งสองข้างกดไว้ข้างหัวในท่วงท่าเหมือนจะขืนใจพ่อพระรองรูปงามจนเขาตาโตด้วยสีหน้าตื่นตกใจ เห็นแล้วก็ตลก

“ข้าตัวบางร่างน้อยขนาดนี้จะเอาอะไรมาหนัก ต่อให้เจ้าอุ้มข้ากระเตงไปกระเตงมาจะไปมุมไหนของเรือนก็ไม่ทำเจ้าหมดแรงหรอก”

“พูดจาไร้ยางอาย”

“ข้าก็ไม่ใช่คนมียางอายอยู่แล้ว”

“เจ้ามันใจโลเลยิ่งนัก สรุปเจ้าจะชอบผู้ใดกันแน่ ข้าหรือหมิงซัวหรือเจ้าจะเอาทั้งสอง ถ้าหลายใจขนาดนี้เจ้าไม่กินรวบทั้งเมืองไปเลยเล่า”

หยวนฉินกล่าวออกมาด้วยความหงุดหงิดอย่างไม่ปกปิด มันเหมือนว่าตอนนี้เย่ซูชางกำลังเล่นตลกกับความรู้สึกของเขา มาหยอกเย้ากันด้วยถ้อยคำและท่าทางล่อแหลมส่อไปเรื่องรักใคร่เช่นนี้จะไม่ให้ผู้ใดหวั่นไหวบ้าง เขาก็เป็นเพียงปุถุชนคนหนึ่งไม่ใช่รูปปั้นที่จะไร้ความรู้สึก โดนนางถึงเนื้อถึงตัวไม่พอยังมาหยอดคำหวานใส่กันเช่นนี้ ถ้าเขายังไม่รู้สึกสิ่งใดก็ละทางโลกแล้วไปบวชเป็นพระเถิด

“ยังไม่ทันเป็นอะไรกันเลย เจ้าก็หึงหวงข้าแล้วหรือ?”

นางลูบมือไปตามแก้มหนาด้วยรอยยิ้มหวานเพราะแววตาของเขามันฉายชัดถึงความไม่พอใจ เขาไม่ใช่ไม่พอใจที่นางมาหยอกเย้าเขาแต่ไม่พอใจที่นางไม่ชัดเจนใจโลเลต่างหาก การที่เขากล่าวแบบนี้มันก็แปลว่ามีความรู้สึกให้นางเหมือนกันถูกไหม ถึงได้อยากให้นางเลือกให้ชัดเจน

หยวนฉินจับตัวเย่ซูชางให้พลิกลงไปนอนด้านล่างแทนจนนางเองก็ตกใจเมื่อถูกเขาคร่อมทับอยู่ด้านบนกลายเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเสียเอง แล้วเขายังเอาคืนด้วยการรวบแขนนางเอาไว้เหนือหัวจนดิ้นไม่หลุดอีกต่างหาก

“มันเหมือนเจ้ากำลังเห็นข้าเป็นตัวตลก เจ้าตามตื๊อจางหมิงซัวอย่างหน้าไม่อายมาตลอดแต่พอเขาไม่สนใจ เจ้าก็เปลี่ยนใจมาหาข้าแทน มันทำให้ข้าเองก็สับสนว่าเจ้าจะเอายังไงกันแน่”

เย่ซูชางก็ยังติดสนุกยกยิ้มทะเล้นหยอกเย้าเขาต่อ “งั้นเจ้าก็ลองจูบข้าดีหรือไม่ ถ้าจูบแล้วเจ้าอยากจูบข้าต่ออีก มันก็แปลว่าเจ้ามีใจให้ข้าเสียแล้ว”

แต่สิ่งที่เย่ซูชางไม่คิดมันก็เกิดขึ้นเมื่อหยวนฉินก้มลงประกบปากจูบนางจริง ๆ จนหัวใจแทบจะหยุดเต้น มือไม้อ่อนแรงไปหมดเหมือนว่าจะหายใจหายคอลำบาก มันแทบจะหยุดหายใจเลยดีกว่าเพราะนี่มันเป็นจูบแรกของนาง ก่อนจะทะลุมิติเข้ามาก็ยังไม่เคยมีแฟนสักหน่อย แต่ตอนนี้พระรองกำลังขโมยจูบแรกของนางร้ายไป ตอนแรกก็แค่จะหยอกเย้าเขาให้โมโหเล่นเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าเขาจะบ้าจี้จูบนางจริง ๆ แถมยังจูบไม่ค่อยเป็นอีกต่างหากแต่ก็ยังพยายามจะจูบ ตะบี้ตะบันบดขยี้ริมฝีปากลงมาจนเจ็บแปล๊บจนอยากจะถีบให้หงายหลัง

“พวกเจ้าทำอะไรกัน!”

เสียงเข้มตวาดขึ้นจนเสียงดังลั่นบ่งบอกถึงความไม่พอใจของผู้พูดได้อย่างชัดเจน มันทำให้หนุ่มสาวทั้งสองคนที่กำลังจูบกันอยู่รีบผละตัวออกจากกันทันทีแยกย้ายกันไปอยู่คนละมุมก้มหน้าลงต่ำหลบสายตาของเย่ไป๋เพราะได้กระทำเรื่องผิดลงไปแล้ว เดิมทีชายหญิงไม่ควรอยู่ด้วยกันลำพังสองต่อสองด้วยซ้ำ การจับมือถือแขนก็นับว่าผิดจารีตประเพณีแล้ว แต่นี่กลับมานอนกอดจูบกันภายในบ้านมันจะไม่ให้คนเป็นอาโกรธได้อย่างไรที่เห็นหลานสาวของตนกระทำตัวไร้ยางอายเยี่ยงนี้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   6 : ทำดีไม่มีใครเห็น [1/2]

    บทที่ 6‘ทำดีไม่มีใครเห็น’..ข่าวเรื่องการหมั้นหมายของเย่ซูชางกับหยวนฉินดังกระฉ่อนไปทั่วเมืองจนชาวบ้านต่างนินทาซุบซิบกันไปต่าง ๆ นานา บ้างก็ไม่นึกสงสัยเพราะมักจะเห็นหยวนฉินเข้าออกจวนสกุลเย่เป็นประจำ บ้างก็นึกสงสัยว่าตอนแรกเย่ซูชางตามตื๊อจางหมิงซัวมาหลายปี มิหนำซ้ำยังลดตัวไปทะเลาะตบตีกับสตรีจากหอนางโลมผู้นั้นอยู่ตลอดแต่ทำไมวันนี้ถึงมีข่าวเรื่องการหมั้นหมายกับบุรุษอีกคนออกมาได้เย่ซูชางที่ปลอมตัวเป็นนักพเนจรออกมาเที่ยวตลาดก็ได้ยินทุกสิ่งที่ชาวบ้านนินทาแต่ก็ไม่ได้คิดจะแก้ข่าวใด ๆ เพราะมันเรื่องจริงทั้งนั้น วันนั้นที่ท่านอารองมาเห็นนางจูบกับหยวนฉินก็ไม่พอใจอย่างมาก ต่อว่านางต่าง ๆ นานาว่ากระทำตัวไร้ยางอาย ไม่ไว้หน้าบรรพบุรุษจนสุดท้ายหยวนฉินที่ไม่รู้ว่าสงสารเวทนานางหรือโดนผีสุภาพบุรุษเข้าสิงก็เอ่ยปากขอหมั้นหมายเองเพื่อรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นมันก็เลยเป็นข่าวลือที่ชาวบ้านพูดกันในทุกวันนี้ แต่ข่าวลือมันก็คือเรื่องจริง อีกไม่นานของหมั้นก็จะถูกส่งมาที่จวนสกุลเย่ แต่มันก็ติดปัญหาตรงที่ว่าจวนสกุลหยวนจะยินดีต้อนรับนางร้ายแบบนางเข้าไปเป็นสะใภ้หรือเปล่าเท่านั้นเพราะชื่อเสียงมีแต่ด้านแย่ ๆ ทั้งนั้

    Last Updated : 2025-04-11
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7 : ทำดีไม่มีใครเห็น [2/2]

    บทที่ 7‘ทำดีไม่มีใครเห็น’..เย่ซูชางต้องพยายามอย่างมากที่จะข่มอารมณ์ของตนเองเอาไว้เพราะถ้าไปหาเรื่องนางเอกอีกคงกลายเป็นเรื่องใหญ่โต มีหวังพระเอกที่นอนรักษาตัวจากการถูกโทษโบยได้ลุกมาเอาเรื่องนางแบบลืมเจ็บลืมตายเป็นแน่“เจ้าควรจะดีใจที่ข้าไม่ไปยุ่งกับหมิงซัวอีก จะได้ไม่ต้องไปตบตีหรือทะเลาะเบาะแว้งกับเจ้า”“ท่านพี่ฉินเป็นคนดีไม่ควรมัวหมองเพราะเจ้า”“งั้นควรมัวหมองเพราะเจ้าหรือ จะเอาผู้ใดก็เลือกสักคนไม่ ใช่จับปลาสองมือ”“ข้ารักท่านพี่หมิงซัว แต่ก็เป็นห่วงท่านพี่ฉินในฐานะพี่ชายเท่านั้น”“เจ้าเรียกทั้งสองคนว่าพี่ แต่กับข้าไยไม่เคารพบ้าง ข้าก็อายุเท่าพวกเขาเป็นพี่ของเจ้าและยังเป็นท่านหญิงด้วย ว่ากันตามตรงเจ้าควรนั่งลงกับพื้นแล้วคุกเข่าคุยกับข้าถึงจะถูก กล้าดียังไงมายืนค้ำหัวข้าแบบนี้”“อึก!”แต่แทนที่แม่นางเอกจะกลัวดันผลักนางจนหลังกระแทกผนัง นี่ขนาดมีมือเดียวนะเนี่ยยังร้ายไม่ใช่น้อยถ้ามีสองมือสองแขนจะขนาดไหน ใครก็ว่านางชอบรังแกนางเอก แต่ไม่มีใครมาเห็นตอนนางเอกรังแกนางร้ายเลย“คนอย่างเจ้าไม่สมควรได้รับความเคารพ ไม่ควรเป็นท่านหญิง ไม่ควรให้ใครกราบไหว้ยกยอทั้งนั้น เจ้ามันก็แค่หญิงชั่ว!”สุดท้

    Last Updated : 2025-04-11
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   8 : เข้าเฝ้าฉีฮองเฮา [1/2]

    บทที่ 8‘เข้าเฝ้าฉีฮองเฮา (1/2)’พระตำหนักคุนหนิง , พระราชวังสายลมเย็นพัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างที่ถูกเปิดโล่งเอาไว้จนกลิ่นหอมของมวลบุปผาล่องลอยเข้ามาจนชวนให้รู้สึกสบายใจแต่ไม่ใช่ทุกคนหรอก หนึ่งในนั้นคือเย่ซูชางที่กำลังยืนอยู่ต่อหน้าของฉีฮองเฮาที่กำลังจ้องมองนางด้วยรอยยิ้มแต่เป็นรอยยิ้มที่ดูไม่น่าไว้วางใจสักนิดเดียว“พระองค์เรียกหม่อมฉันมาพบถึงพระตำหนักมีเรื่องอะไรหรือเพคะ?” นางตัดสินใจถามออกไป พยายามใจดีสู้เสือ“ข้าได้ยินว่าเจ้าจะหมั้นหมายกับรองเจ้ากรมพิธีการหยวนหรือ?” ฉีฮองเฮากล่าวน้ำเสียงนิ่งเรียบสุขุมในแบบของนางที่มักจะแสดงต่อผู้อื่นเสมอ“เพคะ” นางตอบออกไปตามตรงเพราะอีกไม่นานของหมั้นหมายก็จะถูกส่งมาจากนั้นก็คงจะตามมาด้วยสามหนังสือหกพิธีการ“เดิมทีเจ้าหมายใจแม่ทัพจางไม่ใช่หรือ เหตุใดวันนี้ถึงหันเหไปหารองเจ้ากรมพิธีการหยวนเสียแล้วเล่า?”“หม่อมฉันกับรองเจ้ากรมพิธีการหยวนก็เป็นสหายกันมาตั้งแต่วัยเยาว์ นับว่ารู้จักสนิทสนมกันมาก มันเป็นเพียงแค่ความห่างเหินที่ทำให้ไม่รู้ใจตนเองเท่านั้นเพคะ พอได้อยู่ด้วยกัน ได้กลับมาเรียนรู้กันอีกครั้งจึงต่างรู้ใจตนเองว่าผู้ใดกันแน่ที่หัวใจหมายปอง”นางกล่าว

    Last Updated : 2025-04-11
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   9 : เข้าเฝ้าฉีฮองเฮา [2/2]

    บทที่ 9‘เข้าเฝ้าฉีฮองเฮา (2/2)’..“เจ้าว่าอย่างไร ความคิดของข้าเป็นเช่นไรบ้าง?” ฉีฮองเฮาถามด้วยรอยยิ้มคล้ายจะเป็นมิตรแต่ประสงค์ร้าย“พระองค์ว่าเช่นไร หม่อมฉันก็ว่าเช่นนั้น ความคิดของพระองค์ย่อมหวังดีต่อหม่อมฉันอยู่แล้วเพคะ” นางพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มที่ฝืนอยู่ไม่ใช่น้อยเลย‘เจ๊ว่าไงหนูก็ว่างั้นแหละ หนูจะพูดอะไรได้ก็เจ๊เป็นฮองเฮาเป็นแม่ของแผ่นดิน!’“ดีมาก เจ้ายังเป็นเด็กดีเสมอ อดีตแม่ทัพและรองแม่ทัพเย่ต้องภูมิใจในตัวเจ้าที่เติบโตมาอย่างแข็งแกร่งและกล้าหาญเผชิญอันตรายเพื่อส่วนรวมเช่นนี้”“เพคะ หม่อมฉันก็หวังใจเช่นนั้น”‘ไม่ได้กล้าหาญจ้า ไม่ได้แข็งแกร่งด้วย ไม่ได้อยากไปด้วย แต่โดนเจ๊บังคับไง เจ๊เป็นฮองเฮาใครจะกล้าปฏิเสธ หัวได้หลุดออกจากบ่า สู้ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าอาจจะฟลุ๊ครอดกลับมาก็ได้’………..หลังจากที่พบฉีฮองเฮาแล้วเย่ซูชางก็ยังไม่กลับว่าจะแวะไปหาหยวนหวงกุ้ยเฟยเสียหน่อย หวงกุ้ยเฟยผู้นี้เป็นอาหญิงของหยวนฉินเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้มากและพระนางก็มีจิตใจดีไม่ฝักใฝ่อำนาจไม่แทรกแซงฮองเฮาด้วย ยามว่างก็มักจะสวดมนต์ปฏิบัติธรรมเสมอเลยยังอยู่รอดปลอดภัยได้อยู่ ถ้าคิดท้าทายฮองเฮาหน่อยคงสิ้นชีพ

    Last Updated : 2025-04-11
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   1 : ผู้ถูกเลือก

    บทที่ 1‘ผู้ถูกเลือก’..“ท่านหญิงอย่าเจ้าค่ะ!”“ท่านหญิงลงมาเถิดเจ้าค่ะ!”เสียงของเหล่าสาวใช้ร้องตะโกนกันสุดเสียงพยายามจะขอร้องให้สตรีในอาภรณ์นอนสีขาวสะอาดก้าวลงมาจากราวระเบียงที่นางกำลังยืนอยู่ ถ้าเป็นชั้นหนึ่งคงไม่เท่าไหร่แต่ผู้เป็นท่านหญิงผู้นี้กลับยืนอยู่บนราวระเบียงชั้นสองอย่างน่าหวาดเสียว“ฉันไม่ลง ฮึก… ฮือ… ฮือ ที่นี่ที่ไหน!”“พ่อแม่จ๋าหนูอยากกลับบ้าน!”สำเนียงและคำพูดของหญิงสาวนั้นแปลกประหลาดคล้ายว่าไม่ใช่ภาษาของยุคนี้ นั่นนับว่าถูกต้องเพราะแม้นว่าสตรีที่ยืนอยู่บนราวระเบียงชั้นสองจะเป็นท่านหญิงของจวนหลังนี้แต่ดวงวิญญาณกลับเป็นคนผู้อื่นที่ทะลุมิติเข้ามาสิงในร่างกายงดงามนี้ปลายฟ้า หญิงสาวชาวไทยที่ปุ๊บปั๊บรับโชคทะลุมิติเข้ามาในนิยายแปลจีนเรื่องลิขิตปรารถนาบัญชาสวรรค์ที่เพิ่งอ่านไปก็งงเป็นไก่ตาแตก จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เธอยังหายใจที่โลกด้านนอกคือเข้านอนบนเตียงหนานุ่มสบายจากนั้นกลับลืมตาตื่นขึ้นมาในโลกของนิยายเรื่องนี้เสียแล้วตอนนี้เลยทำอะไรไม่ถูกได้แต่ร้องห่มร้องไห้ออกมาแล้วคิดว่านี่คือความฝันเท่านั้นจะกระโดดลงจากระเบียงชั้นสองเพราะคิดว่าคนเราตกจากที่สูงในความฝันแล้วจะตื่นได้

    Last Updated : 2025-04-09
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   2 : สุขกันเถิดเรา เศร้าไปทำไม'

    บทที่ 2‘สุขกันเถิดเรา เศร้าไปทำไม'..ปลายฟ้าในร่างของเย่ซูชางนอนยกขาพาดกันกระดิกปลายเท้าอยู่บนเตียงกว้างด้วยความหนักใจ มือเล็กยกขึ้นก่ายหน้าผากตนเองเพื่อพยายามครุ่นคิดในเรื่องที่จะกลับออกไปจากนิยายนี้ยังไงแต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก จะฆ่าตัวตายก็เหมือนว่าจะไม่มีทางทำสำเร็จมันจะต้องมีอะไรมาขัดขวางตลอดเวลาลมหายใจถูกถอนออกมาเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ถ้าการถอนหายใจทำให้แก่ไวป่านนี้ตัวเธอเองคงตายกลายเป็นวิญญาณไปแล้วเพราะจำไม่ได้แล้วว่าถอนหายใจมากี่ครั้งรู้แค่ว่าตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ก็เอาแต่นอนถอนหายใจแบบนี้มาเป็นชั่วยามได้แล้วมั้งเสียงเปิดประตูดังขึ้นมันทำให้ปลายฟ้าต้องหันไปมองจนเห็นว่าเป็นเย่ซูเจินที่เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มหวานฉ่ำเชียว ตอนเด็ก ๆ กินน้ำผึ้งแทนนมหรือไงถึงหน้าหวานยิ้มหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้าขนาดนี้“ที่นี่ไม่สอนเรื่องมารยาทหรือไง เจ้าถึงได้เข้าห้องผู้อื่นโดยไม่เคาะประตูบอกกล่าวเจ้าของห้องก่อน?”หญิงสาวรีบยกมือขึ้นปิดปากตนเองทันที นางไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดออกไปเช่นนั้นทั้งที่ในใจไม่ได้คิดอะไรเลยแท้ ๆ หรือว่าผีคาแรคเตอร์ของเย่ซูชางจะเข้าสิงกันถึงได้พูดคำร้ายกาจด้ว

    Last Updated : 2025-04-09
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   3 : เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย (1/2)'

    บทที่ 3'เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย (1/2)'..“ตอนนี้ข้าไม่อยากแต่งกับท่านพี่หมิงซัวแล้ว” นางพูดหยั่งเชิงออกไปก่อนจะยกพัดด้ามจิ๋วขึ้นโบกเบา ๆ ด้วยรอยยิ้มหวานฉ่ำ“แน่สิ เจ้าจะแต่งกับจางหมิงซัวได้อย่างไร ในเมื่อเจ้าไปทำร้ายเสี่ยวเยว่เสียแขนหัก”‘นั่นปะไร ตรงตามนิยายเป๊ะ งั้นเรื่องหลังจากนี้ก็ต่อจากเหตุการณ์นี้สินะ’“คนชั่วเช่นเจ้าไยถึงได้มีบุญบารมีได้เป็นถึงท่านหญิงกันนะ ถ้าเจ้าไม่มีบรรดาศักดิ์ท่านหญิง ไม่มีอำนาจเก่าก่อนที่บิดาและพี่ชายสร้างเอาไว้ ป่านนี้คงโดนลากคอไปลงอาญาแล้ว วัน ๆ หนึ่งของเจ้าสมองคงคิดแต่เรื่องชั่ว ทำร้ายผู้คนไปทั่วจิตใจช่างโหดเหี้ยมยิ่งนักไม่สมควรเกิดมาในสกุลสูงส่งเช่นนี้เลย”เย่ซูชางที่ได้ฟังก็อึ้งจนพูดไม่ออกจนนึกสงสัยว่านี่คนหรือเครื่องด่าเคลื่อนที่ เหมือนเขาเปิดระบบด่าเลยพ่นคำออกมาเป็นชุดได้ขนาดนี้เล่นเอานางสำนึกผิดไม่ทันเลย คนเลวมันคือเย่ซูชางแท้ ๆ แต่ทำไมคนที่ต้องมายืนรับฟังคำด่าคำสาปแช่งชิงชังมันต้องเป็นนางด้วยนะ‘เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย ฉันทำอะไรให้เธอเคืองขุ่น~’“ขะ… ข้าเองก็เสียใจ”“คนอย่างเจ้าหรือจะเสียใจ”“โอ๊ย!”เขาผลักนางจนล้มก้นจ้ำเบ้า แต่พอเย่ซูชางเงย

    Last Updated : 2025-04-09
  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   4 : เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย (2/2)

    บทที่ 4'เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย (2/2) '..เสียงหัวเราะคิกคักดังออกมาจากเหล่าบ่าวไพร่ที่มายืนล้อมวงดูเย่ซูชางที่กำลังถูกจางหมิงซัวสาดน้ำผลไม้ใส่ มันไม่ใช่น้ำผลไม้คั้นอะไรแต่มันคือน้ำที่ผสมเศษผลไม้ที่ถูกนำไปบดเท่านั้น ทำให้หัวและร่างกายของนางเต็มไปด้วยซากผลไม้ที่ติดตามผมและร่องหลืบของอาภรณ์“ท่านพี่หมิงซัวพอเถิดเจ้าค่ะ!” เย่ซูเจินรีบเข้ามาห้ามปราม“ไม่ต้องห้ามเขา ถ้าท่านแม่ทัพกระทำสิ่งนี้แล้วสบายใจขึ้นก็ปล่อยให้เขากระทำไป ข้าทำผิดย่อมยอมรับโทษทัณฑ์”“คนเช่นเจ้าต่อให้โดนน้ำเน่าน้ำโคลนสาดจากคนทั้งเมืองก็ไม่สามารถชดใช้ในความชั่วของเจ้าได้”“งั้นก็เอาเลยสิ เรียกคนทั้งเมืองมาสาดโคลนใส่ข้า เอาที่เจ้าสบายใจเลยจางหมิงซัว!”เย่ซูชางตะคอกออกไปอย่างหมดความอดทนมันทำให้จางหมิงซัวประหลาดใจเพราะเขาไม่ได้ยินนางเรียกตนด้วยชื่อเต็มมานานแล้ว นานมากจนบางทีอาจจะเป็นสิบปี แต่ทำไมวันนี้นางถึงกล่าวชื่อเต็มของตน ไหนจะท่าทางเฉยเมยนี่อีก ปกตินางมักจะเข้ามาออเซาะออดอ้อนเขาเสมอ เห็นหน้าไม่ได้เลยเป็นต้องเดินตามต้อย ๆ คอยมาตื๊อมาให้ท่าถึงจวนเป็นประจำ แต่ทำไมยามนี้แววตาของนางยามทอดมองมากลับแข็งกร้าวเย็นชาเหมือนไม่

    Last Updated : 2025-04-09

Latest chapter

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   9 : เข้าเฝ้าฉีฮองเฮา [2/2]

    บทที่ 9‘เข้าเฝ้าฉีฮองเฮา (2/2)’..“เจ้าว่าอย่างไร ความคิดของข้าเป็นเช่นไรบ้าง?” ฉีฮองเฮาถามด้วยรอยยิ้มคล้ายจะเป็นมิตรแต่ประสงค์ร้าย“พระองค์ว่าเช่นไร หม่อมฉันก็ว่าเช่นนั้น ความคิดของพระองค์ย่อมหวังดีต่อหม่อมฉันอยู่แล้วเพคะ” นางพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มที่ฝืนอยู่ไม่ใช่น้อยเลย‘เจ๊ว่าไงหนูก็ว่างั้นแหละ หนูจะพูดอะไรได้ก็เจ๊เป็นฮองเฮาเป็นแม่ของแผ่นดิน!’“ดีมาก เจ้ายังเป็นเด็กดีเสมอ อดีตแม่ทัพและรองแม่ทัพเย่ต้องภูมิใจในตัวเจ้าที่เติบโตมาอย่างแข็งแกร่งและกล้าหาญเผชิญอันตรายเพื่อส่วนรวมเช่นนี้”“เพคะ หม่อมฉันก็หวังใจเช่นนั้น”‘ไม่ได้กล้าหาญจ้า ไม่ได้แข็งแกร่งด้วย ไม่ได้อยากไปด้วย แต่โดนเจ๊บังคับไง เจ๊เป็นฮองเฮาใครจะกล้าปฏิเสธ หัวได้หลุดออกจากบ่า สู้ไปตายเอาดาบหน้าดีกว่าอาจจะฟลุ๊ครอดกลับมาก็ได้’………..หลังจากที่พบฉีฮองเฮาแล้วเย่ซูชางก็ยังไม่กลับว่าจะแวะไปหาหยวนหวงกุ้ยเฟยเสียหน่อย หวงกุ้ยเฟยผู้นี้เป็นอาหญิงของหยวนฉินเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้มากและพระนางก็มีจิตใจดีไม่ฝักใฝ่อำนาจไม่แทรกแซงฮองเฮาด้วย ยามว่างก็มักจะสวดมนต์ปฏิบัติธรรมเสมอเลยยังอยู่รอดปลอดภัยได้อยู่ ถ้าคิดท้าทายฮองเฮาหน่อยคงสิ้นชีพ

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   8 : เข้าเฝ้าฉีฮองเฮา [1/2]

    บทที่ 8‘เข้าเฝ้าฉีฮองเฮา (1/2)’พระตำหนักคุนหนิง , พระราชวังสายลมเย็นพัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างที่ถูกเปิดโล่งเอาไว้จนกลิ่นหอมของมวลบุปผาล่องลอยเข้ามาจนชวนให้รู้สึกสบายใจแต่ไม่ใช่ทุกคนหรอก หนึ่งในนั้นคือเย่ซูชางที่กำลังยืนอยู่ต่อหน้าของฉีฮองเฮาที่กำลังจ้องมองนางด้วยรอยยิ้มแต่เป็นรอยยิ้มที่ดูไม่น่าไว้วางใจสักนิดเดียว“พระองค์เรียกหม่อมฉันมาพบถึงพระตำหนักมีเรื่องอะไรหรือเพคะ?” นางตัดสินใจถามออกไป พยายามใจดีสู้เสือ“ข้าได้ยินว่าเจ้าจะหมั้นหมายกับรองเจ้ากรมพิธีการหยวนหรือ?” ฉีฮองเฮากล่าวน้ำเสียงนิ่งเรียบสุขุมในแบบของนางที่มักจะแสดงต่อผู้อื่นเสมอ“เพคะ” นางตอบออกไปตามตรงเพราะอีกไม่นานของหมั้นหมายก็จะถูกส่งมาจากนั้นก็คงจะตามมาด้วยสามหนังสือหกพิธีการ“เดิมทีเจ้าหมายใจแม่ทัพจางไม่ใช่หรือ เหตุใดวันนี้ถึงหันเหไปหารองเจ้ากรมพิธีการหยวนเสียแล้วเล่า?”“หม่อมฉันกับรองเจ้ากรมพิธีการหยวนก็เป็นสหายกันมาตั้งแต่วัยเยาว์ นับว่ารู้จักสนิทสนมกันมาก มันเป็นเพียงแค่ความห่างเหินที่ทำให้ไม่รู้ใจตนเองเท่านั้นเพคะ พอได้อยู่ด้วยกัน ได้กลับมาเรียนรู้กันอีกครั้งจึงต่างรู้ใจตนเองว่าผู้ใดกันแน่ที่หัวใจหมายปอง”นางกล่าว

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   7 : ทำดีไม่มีใครเห็น [2/2]

    บทที่ 7‘ทำดีไม่มีใครเห็น’..เย่ซูชางต้องพยายามอย่างมากที่จะข่มอารมณ์ของตนเองเอาไว้เพราะถ้าไปหาเรื่องนางเอกอีกคงกลายเป็นเรื่องใหญ่โต มีหวังพระเอกที่นอนรักษาตัวจากการถูกโทษโบยได้ลุกมาเอาเรื่องนางแบบลืมเจ็บลืมตายเป็นแน่“เจ้าควรจะดีใจที่ข้าไม่ไปยุ่งกับหมิงซัวอีก จะได้ไม่ต้องไปตบตีหรือทะเลาะเบาะแว้งกับเจ้า”“ท่านพี่ฉินเป็นคนดีไม่ควรมัวหมองเพราะเจ้า”“งั้นควรมัวหมองเพราะเจ้าหรือ จะเอาผู้ใดก็เลือกสักคนไม่ ใช่จับปลาสองมือ”“ข้ารักท่านพี่หมิงซัว แต่ก็เป็นห่วงท่านพี่ฉินในฐานะพี่ชายเท่านั้น”“เจ้าเรียกทั้งสองคนว่าพี่ แต่กับข้าไยไม่เคารพบ้าง ข้าก็อายุเท่าพวกเขาเป็นพี่ของเจ้าและยังเป็นท่านหญิงด้วย ว่ากันตามตรงเจ้าควรนั่งลงกับพื้นแล้วคุกเข่าคุยกับข้าถึงจะถูก กล้าดียังไงมายืนค้ำหัวข้าแบบนี้”“อึก!”แต่แทนที่แม่นางเอกจะกลัวดันผลักนางจนหลังกระแทกผนัง นี่ขนาดมีมือเดียวนะเนี่ยยังร้ายไม่ใช่น้อยถ้ามีสองมือสองแขนจะขนาดไหน ใครก็ว่านางชอบรังแกนางเอก แต่ไม่มีใครมาเห็นตอนนางเอกรังแกนางร้ายเลย“คนอย่างเจ้าไม่สมควรได้รับความเคารพ ไม่ควรเป็นท่านหญิง ไม่ควรให้ใครกราบไหว้ยกยอทั้งนั้น เจ้ามันก็แค่หญิงชั่ว!”สุดท้

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   6 : ทำดีไม่มีใครเห็น [1/2]

    บทที่ 6‘ทำดีไม่มีใครเห็น’..ข่าวเรื่องการหมั้นหมายของเย่ซูชางกับหยวนฉินดังกระฉ่อนไปทั่วเมืองจนชาวบ้านต่างนินทาซุบซิบกันไปต่าง ๆ นานา บ้างก็ไม่นึกสงสัยเพราะมักจะเห็นหยวนฉินเข้าออกจวนสกุลเย่เป็นประจำ บ้างก็นึกสงสัยว่าตอนแรกเย่ซูชางตามตื๊อจางหมิงซัวมาหลายปี มิหนำซ้ำยังลดตัวไปทะเลาะตบตีกับสตรีจากหอนางโลมผู้นั้นอยู่ตลอดแต่ทำไมวันนี้ถึงมีข่าวเรื่องการหมั้นหมายกับบุรุษอีกคนออกมาได้เย่ซูชางที่ปลอมตัวเป็นนักพเนจรออกมาเที่ยวตลาดก็ได้ยินทุกสิ่งที่ชาวบ้านนินทาแต่ก็ไม่ได้คิดจะแก้ข่าวใด ๆ เพราะมันเรื่องจริงทั้งนั้น วันนั้นที่ท่านอารองมาเห็นนางจูบกับหยวนฉินก็ไม่พอใจอย่างมาก ต่อว่านางต่าง ๆ นานาว่ากระทำตัวไร้ยางอาย ไม่ไว้หน้าบรรพบุรุษจนสุดท้ายหยวนฉินที่ไม่รู้ว่าสงสารเวทนานางหรือโดนผีสุภาพบุรุษเข้าสิงก็เอ่ยปากขอหมั้นหมายเองเพื่อรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นมันก็เลยเป็นข่าวลือที่ชาวบ้านพูดกันในทุกวันนี้ แต่ข่าวลือมันก็คือเรื่องจริง อีกไม่นานของหมั้นก็จะถูกส่งมาที่จวนสกุลเย่ แต่มันก็ติดปัญหาตรงที่ว่าจวนสกุลหยวนจะยินดีต้อนรับนางร้ายแบบนางเข้าไปเป็นสะใภ้หรือเปล่าเท่านั้นเพราะชื่อเสียงมีแต่ด้านแย่ ๆ ทั้งนั้

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   5 : ถ้ายังไม่มีผู้ใดตายก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่

    บทที่ 5‘ถ้ายังไม่มีผู้ใดตายก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่’..“พี่หญิงรอง พี่หญิงรองเกิดเรื่องแล้ว!” เย่ซูเจินวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาในเขตเรือนของเย่ซูชางที่กำลังนั่งจัดดอกไม้อยู่ภายในศาลากลางสวน“ถ้ายังไม่มีผู้ใดตายก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่” เย่ซูชางกล่าวเสียงนิ่งเรียบมือยังคงหยิบดอกไม้ขึ้นมาจัดแต่งใส่แจกันหยกใบงาม“จะมีคนตายแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้ท่านพี่หมิงซัวถูกพาไปที่คุกหลวงเห็นทีคงโดนโทษโบยเพราะฮ่องเต้ทรงไม่ยอมที่เขามาหมิ่นเกียรติท่าน”เย่ซูชางที่ได้ฟังก็นิ่งเงียบลง ภายในใจเหมือนไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น “ข้าถือว่าข้าชดใช้ไปแล้ว ข้ายอมให้เขาหมิ่นเกียรติ ยามเดินไปไหนผู้คนก็นินทาเป็นตัวตลกขบขันแล้วจะให้ข้าทำสิ่งใดอีก ส่วนที่ต้องชดใช้ก็ชดใช้ไปแล้ว มันแค่ผิดตรงที่ว่าสิ่งที่หมิงซัวทำดันไปหมิ่นเกียรติฮ่องเต้เช่นกันเพราะฉะนั้นเขาก็ต้องรับโทษในส่วนนี้ด้วยตนเอง หาใช่ความผิดข้าเสียหน่อย”“ตะ… แต่ว่านั่นท่านพี่หมิงซัวนะเจ้าคะ”“แล้วอย่างไรหรือ?”ผู้น้องที่ได้ฟังผู้พี่กล่าวก็ประหลาดใจเพราะยามปกติพี่สาวของนางมักจะตามตื๊อจางหมิงซัวตลอดเวลา และคอยยื่นมือเข้าไปช่วยเขาเสมอด้วยแม้นว่าทุกครั้งเขาจะไม่ต้องการก็ตาม

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   4 : เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย (2/2)

    บทที่ 4'เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย (2/2) '..เสียงหัวเราะคิกคักดังออกมาจากเหล่าบ่าวไพร่ที่มายืนล้อมวงดูเย่ซูชางที่กำลังถูกจางหมิงซัวสาดน้ำผลไม้ใส่ มันไม่ใช่น้ำผลไม้คั้นอะไรแต่มันคือน้ำที่ผสมเศษผลไม้ที่ถูกนำไปบดเท่านั้น ทำให้หัวและร่างกายของนางเต็มไปด้วยซากผลไม้ที่ติดตามผมและร่องหลืบของอาภรณ์“ท่านพี่หมิงซัวพอเถิดเจ้าค่ะ!” เย่ซูเจินรีบเข้ามาห้ามปราม“ไม่ต้องห้ามเขา ถ้าท่านแม่ทัพกระทำสิ่งนี้แล้วสบายใจขึ้นก็ปล่อยให้เขากระทำไป ข้าทำผิดย่อมยอมรับโทษทัณฑ์”“คนเช่นเจ้าต่อให้โดนน้ำเน่าน้ำโคลนสาดจากคนทั้งเมืองก็ไม่สามารถชดใช้ในความชั่วของเจ้าได้”“งั้นก็เอาเลยสิ เรียกคนทั้งเมืองมาสาดโคลนใส่ข้า เอาที่เจ้าสบายใจเลยจางหมิงซัว!”เย่ซูชางตะคอกออกไปอย่างหมดความอดทนมันทำให้จางหมิงซัวประหลาดใจเพราะเขาไม่ได้ยินนางเรียกตนด้วยชื่อเต็มมานานแล้ว นานมากจนบางทีอาจจะเป็นสิบปี แต่ทำไมวันนี้นางถึงกล่าวชื่อเต็มของตน ไหนจะท่าทางเฉยเมยนี่อีก ปกตินางมักจะเข้ามาออเซาะออดอ้อนเขาเสมอ เห็นหน้าไม่ได้เลยเป็นต้องเดินตามต้อย ๆ คอยมาตื๊อมาให้ท่าถึงจวนเป็นประจำ แต่ทำไมยามนี้แววตาของนางยามทอดมองมากลับแข็งกร้าวเย็นชาเหมือนไม่

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   3 : เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย (1/2)'

    บทที่ 3'เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย (1/2)'..“ตอนนี้ข้าไม่อยากแต่งกับท่านพี่หมิงซัวแล้ว” นางพูดหยั่งเชิงออกไปก่อนจะยกพัดด้ามจิ๋วขึ้นโบกเบา ๆ ด้วยรอยยิ้มหวานฉ่ำ“แน่สิ เจ้าจะแต่งกับจางหมิงซัวได้อย่างไร ในเมื่อเจ้าไปทำร้ายเสี่ยวเยว่เสียแขนหัก”‘นั่นปะไร ตรงตามนิยายเป๊ะ งั้นเรื่องหลังจากนี้ก็ต่อจากเหตุการณ์นี้สินะ’“คนชั่วเช่นเจ้าไยถึงได้มีบุญบารมีได้เป็นถึงท่านหญิงกันนะ ถ้าเจ้าไม่มีบรรดาศักดิ์ท่านหญิง ไม่มีอำนาจเก่าก่อนที่บิดาและพี่ชายสร้างเอาไว้ ป่านนี้คงโดนลากคอไปลงอาญาแล้ว วัน ๆ หนึ่งของเจ้าสมองคงคิดแต่เรื่องชั่ว ทำร้ายผู้คนไปทั่วจิตใจช่างโหดเหี้ยมยิ่งนักไม่สมควรเกิดมาในสกุลสูงส่งเช่นนี้เลย”เย่ซูชางที่ได้ฟังก็อึ้งจนพูดไม่ออกจนนึกสงสัยว่านี่คนหรือเครื่องด่าเคลื่อนที่ เหมือนเขาเปิดระบบด่าเลยพ่นคำออกมาเป็นชุดได้ขนาดนี้เล่นเอานางสำนึกผิดไม่ทันเลย คนเลวมันคือเย่ซูชางแท้ ๆ แต่ทำไมคนที่ต้องมายืนรับฟังคำด่าคำสาปแช่งชิงชังมันต้องเป็นนางด้วยนะ‘เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันไย ฉันทำอะไรให้เธอเคืองขุ่น~’“ขะ… ข้าเองก็เสียใจ”“คนอย่างเจ้าหรือจะเสียใจ”“โอ๊ย!”เขาผลักนางจนล้มก้นจ้ำเบ้า แต่พอเย่ซูชางเงย

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   2 : สุขกันเถิดเรา เศร้าไปทำไม'

    บทที่ 2‘สุขกันเถิดเรา เศร้าไปทำไม'..ปลายฟ้าในร่างของเย่ซูชางนอนยกขาพาดกันกระดิกปลายเท้าอยู่บนเตียงกว้างด้วยความหนักใจ มือเล็กยกขึ้นก่ายหน้าผากตนเองเพื่อพยายามครุ่นคิดในเรื่องที่จะกลับออกไปจากนิยายนี้ยังไงแต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก จะฆ่าตัวตายก็เหมือนว่าจะไม่มีทางทำสำเร็จมันจะต้องมีอะไรมาขัดขวางตลอดเวลาลมหายใจถูกถอนออกมาเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ถ้าการถอนหายใจทำให้แก่ไวป่านนี้ตัวเธอเองคงตายกลายเป็นวิญญาณไปแล้วเพราะจำไม่ได้แล้วว่าถอนหายใจมากี่ครั้งรู้แค่ว่าตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาในเช้าวันใหม่ก็เอาแต่นอนถอนหายใจแบบนี้มาเป็นชั่วยามได้แล้วมั้งเสียงเปิดประตูดังขึ้นมันทำให้ปลายฟ้าต้องหันไปมองจนเห็นว่าเป็นเย่ซูเจินที่เดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มหวานฉ่ำเชียว ตอนเด็ก ๆ กินน้ำผึ้งแทนนมหรือไงถึงหน้าหวานยิ้มหวานปานน้ำผึ้งเดือนห้าขนาดนี้“ที่นี่ไม่สอนเรื่องมารยาทหรือไง เจ้าถึงได้เข้าห้องผู้อื่นโดยไม่เคาะประตูบอกกล่าวเจ้าของห้องก่อน?”หญิงสาวรีบยกมือขึ้นปิดปากตนเองทันที นางไม่รู้ว่าทำไมถึงพูดออกไปเช่นนั้นทั้งที่ในใจไม่ได้คิดอะไรเลยแท้ ๆ หรือว่าผีคาแรคเตอร์ของเย่ซูชางจะเข้าสิงกันถึงได้พูดคำร้ายกาจด้ว

  • นางร้ายเหนื่อยแล้ว   1 : ผู้ถูกเลือก

    บทที่ 1‘ผู้ถูกเลือก’..“ท่านหญิงอย่าเจ้าค่ะ!”“ท่านหญิงลงมาเถิดเจ้าค่ะ!”เสียงของเหล่าสาวใช้ร้องตะโกนกันสุดเสียงพยายามจะขอร้องให้สตรีในอาภรณ์นอนสีขาวสะอาดก้าวลงมาจากราวระเบียงที่นางกำลังยืนอยู่ ถ้าเป็นชั้นหนึ่งคงไม่เท่าไหร่แต่ผู้เป็นท่านหญิงผู้นี้กลับยืนอยู่บนราวระเบียงชั้นสองอย่างน่าหวาดเสียว“ฉันไม่ลง ฮึก… ฮือ… ฮือ ที่นี่ที่ไหน!”“พ่อแม่จ๋าหนูอยากกลับบ้าน!”สำเนียงและคำพูดของหญิงสาวนั้นแปลกประหลาดคล้ายว่าไม่ใช่ภาษาของยุคนี้ นั่นนับว่าถูกต้องเพราะแม้นว่าสตรีที่ยืนอยู่บนราวระเบียงชั้นสองจะเป็นท่านหญิงของจวนหลังนี้แต่ดวงวิญญาณกลับเป็นคนผู้อื่นที่ทะลุมิติเข้ามาสิงในร่างกายงดงามนี้ปลายฟ้า หญิงสาวชาวไทยที่ปุ๊บปั๊บรับโชคทะลุมิติเข้ามาในนิยายแปลจีนเรื่องลิขิตปรารถนาบัญชาสวรรค์ที่เพิ่งอ่านไปก็งงเป็นไก่ตาแตก จำได้ว่าครั้งสุดท้ายที่เธอยังหายใจที่โลกด้านนอกคือเข้านอนบนเตียงหนานุ่มสบายจากนั้นกลับลืมตาตื่นขึ้นมาในโลกของนิยายเรื่องนี้เสียแล้วตอนนี้เลยทำอะไรไม่ถูกได้แต่ร้องห่มร้องไห้ออกมาแล้วคิดว่านี่คือความฝันเท่านั้นจะกระโดดลงจากระเบียงชั้นสองเพราะคิดว่าคนเราตกจากที่สูงในความฝันแล้วจะตื่นได้

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status