Share

เที่ยวตลาด

last update Last Updated: 2024-12-26 09:44:06

หลี่เจ๋อสูดลมหายใจลึกเพื่อสงบจิตใจก่อนจะหันหลังเดินก้าวออกจากห้องนอนที่เขาจัดเตรียมไว้สำหรับหานหยาง ทิ้งความรู้สึกสับสนและสิ่งที่เกิดขึ้นไว้เบื้องหลัง เขากลับไปสู่หน้าที่สำคัญที่ยังคั่งค้างนั่นคือการสะสางงานปราบกบฏในส่วนที่เหลือ

ยามเช้าของเหมันต์ฤดู แม้จะยังไม่ถึงคราที่หิมะแรกจะโปรยปรายก็ตาม แต่มันกลับสามารถเยือกหัวใจของหานหยางได้เป็นอย่างดี

โฉมสะคราญค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา ทุกข้อต่อของร่างกายนั้นปวดร้าวราวกับถูกบีบคั้นด้วยโซ่ตรวนที่มองไม่เห็น เรื่องเมื่อคืนยังคงเด่นชัดอยู่ในความทรงจำ

ในความเงียบงันของห้องนอนหรูหราของหานหยาง เสียงฝีเท้าหนึ่งกลับทำลายความสงบลงเมื่อสตรีวัยกลางคนได้ย่างเท้าเข้ามาในห้อง

“ดื่มน้ำแกงนี่เสีย นางคณิกาชั้นต่ำอย่างเจ้าไม่สมควรได้ร่วมเตียงกับองค์ชายของข้า!” พูดจบนางก็วางน้ำแกงกระแทกลงบนโต๊ะด้วยความเดือดดาล พร้อมกับแววตาที่จ้องมองมาที่หานหยางด้วยท่าทางรังเกียจ

“ท่านคิดว่าท่านสูงส่งนักหรือถึงเที่ยวมาด่ากราดว่าผู้อื่นเป็นคนชั้นต่ำ” แม้จะถูกซื้อตัวมาจริงแต่นางก็เป็นถึงบุตรสาวของคณบดีหาใช่คนที่โตมากับหอนางโลม ถูกเหยียดหยามขนาดนี้ก็ย่อมต้องมีโทสะเป็นธรรมดา

“ข้าพูดผิดตรงไหน เจ้าเป็นเพียงคณิกาชั้นต่ำมาจากหอคณิกา ไม่คู่ควรแม้แต่จะอยู่ในจวนของเป่ยอ๋อง เจ้าอย่าหวังเลยว่าจะได้ให้กำเนิดบุตรของเขา!”

คำพูดเหล่านั้นทำให้หัวใจของหานหยางเหมือนถูกกรีดด้วยมีดคม นางกัดฟันแน่นเพื่อสะกดกลั้นน้ำตาที่พร้อมจะไหลริน แต่ความเจ็บปวดกลับล้นท้นอยู่ในใจ

“แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ไม่ใช่สิ่งที่ข้าปรารถนาเลยสักนิด หากต้องมีใครคนใดคนหนึ่งที่ไม่คู่ควร...มันคือท่านอ๋องต่างหาก ไม่ใช่ตัวข้า!”

“บังอาจนัก! ข้าเลี้ยงท่านอ๋องมาตั้งแต่เยาว์วัย องค์ชายไม่ลดตัวลงมาเล่นกับของสกปรกอย่างเจ้าหรอก!” แม่นมอิงฮวากล่าวด้วยน้ำเสียงเยียบเย็น 

“ธุระของข้าจบลงแล้ว ที่นี่สกปรกเกินไปจนข้าไม่อยากอยู่นาน” หลังจากที่น้ำแกงถูกทานจนหมดถ้วย แม่นมอิงฮวาจึงหมุนตัวเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วพร้อมถ้วยน้ำแกงถ้วยนั้น ทิ้งไว้เพียงบรรยากาศที่ชวนดูอึดอัดไว้แทน

จากนั้นไม่นานบ่าวสองคนก็เข้ามาจัดแจงอาบน้ำแต่งกายให้กับหานหยาง สอบถามจึงรู้พวกนางมีชื่อว่าว่าจินเป่ยและหงหลัน พวกนางบอกว่าเป็นคำสั่งของท่านเป่ยอ๋อง เห็นว่าเขาต้องการพาหานหยางออกไปเดินเที่ยวนอกจวน

"เตรียมตัวเสีย เราจะออกไปข้างนอกกัน"

ลูกกบฏอย่างข้าจะไปข้างนอกได้จริงหรือ ไหนบอกว่าข้าจะมีอันตราย เขาลืมไปหมดสิ้นแล้วหรืออย่างไร'

"ไปข้างนอก? ท่านจะพาข้าไปไหนกัน?" หานกยางถามด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความกังวล

หลี่เจ๋อไม่ได้ตอบในทันที เขาทำแค่เพียงยืนเงียบพลางทอดมองไปที่หานหยางด้วยสายตาที่เหมือนจะซ่อนบางสิ่งไว้จนยากจะอ่านออก 

ที่จริงแล้วหลี่เจ๋อรู้สึกผิดในสิ่งที่เขาก่อไว้เมื่อคืน เขาเมาจนเสียการควบคุมตัวเอง และการกระทำของเขาไม่เพียงทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจของหานหยาง แต่ยังทำให้แผนการใหญ่ของเขาพลั้งพลาดไปด้วย

การออกไปข้างนอกครั้งนี้อาจเป็นหนทางหนึ่งที่เขาจะได้ชดเชยความผิดพลาด อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อปลอบโยนหญิงสาวที่เขาได้ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจ

"ไม่ต้องถามมาก…แค่ทำตามที่ข้าบอก เจ้าก็จะปลอดภัย ข้าเคยบอกกับเจ้าว่าถ้าตัวข้าไม่อนุญาต ใครก็เข้ามาทำร้ายเจ้าไม่ได้"

แม้จะยังสับสนแต่หานหยางไม่กล้าขัดคำสั่ง นางลุกขึ้นยืนอย่างลังเล แม้ใจของหญิงสาวยังเต็มไปด้วยคำถาม ทว่าคำตอบเดียวที่นางได้รับกลับเป็นความเงียบจากชายตรงหน้า

แต่ก่อนที่จะได้ออกจากเขตจวนของเป่ยอ๋อง หมวกคลุมหน้าใบหนึ่งถูกยื่นมาให้หานหยาง  นางรับมันมาใส่อย่างว่าง่าย ด้วยไม่อยากให้ท่านอ๋องนั้นต้องลำบากใจในการไปไหนมาไหนกับลูกกบฏอย่างนาง

ตลาดคนเดินที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ร้านค้าตั้งแผงลอย มีทั้งอาหาร ขนม ของเล่น เครื่องประดับและผ้าแพรสวยงามเรียงรายอยู่เต็มไปหมด

สายตาหลายคู่พากันจับจ้องเมื่อเห็นเป่ยอ๋องหลี่เจ๋อเดินเคียงข้างหญิงสาวคนหนึ่งอย่างใกล้ชิด หลายคนเริ่มซุบซิบกันด้วยความสงสัย เพราะเป็นที่รู้กันดีว่าเป่ยอ๋องมักไม่เข้าใกล้สตรี ไม่ว่าจะฐานะใดก็ตาม

หลี่เจ๋อไม่สนใจเสียงซุบซิบเหล่านั้น เขาพาหานหยางเดินผ่านแผงลอยต่าง ๆ ก่อนจะหยุดที่ร้านขายเครื่องประดับที่เต็มไปด้วยของงดงาม 

หานหยางเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาสับสน ขณะที่หลี่เจ๋อชี้ให้ดูแหวนหยกและกำไลทองคำ

"จงเลือกสิ่งที่เจ้าชอบมาหนึ่งอย่าง" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

Related chapters

  • นางบำเรอใต้เงารัก   หุบเขาไป๋หู

    เขาหมายจะใช้สิ่งเหล่านี้ช่วยคลายความหวาดกลัวที่นางมีต่อเขา แต่ท่าทางของหานหยางกลับไม่แสดงความสนใจในเครื่องประดับเหล่านั้นเลยดวงตาของนางกลับไปหยุดอยู่ที่ร้านอีกฝั่งหนึ่ง แผงลอยเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยพู่กัน ผ้าใบ และหมึกสีสันต่างๆ มากมาย หานหยางก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่รู้ตัว สายตาที่มองสิ่งของเหล่านั้นเปล่งประกายราวกับได้พบสิ่งที่นางโหยหามานานหลี่เจ๋อสังเกตเห็นสีหน้าแปลกใหม่ของนาง เขาเดินตามไปเงียบ ๆ ก่อนจะเอ่ยกับเจ้าของร้าน “ข้าเหมาทั้งหมดร้าน ส่งของทั้งหมดไปส่งที่จวนของข้าและเรียกเก็บเงินที่นั่นได้เลย”เจ้าของร้านอ้าปากค้างด้วยความตกใจ ขณะที่หานหยางหันมามองหลี่เจ๋อด้วยสายตาผสมระหว่างความฉงน แต่ชายหนุ่มกลับทำราวกับว่าสิ่งที่เขาทำนั้นเป็นเรื่องที่แสนธรรมดาเมื่อกลับมาถึงจวน หานหยางยังคงไม่พูดดจากับผู้ใด เลือกที่จะเก็บความรู้สึกและคำพูดทั้งหมดไว้ภายในใจ ด้วยยังไม่มั่นใจว่าผู้คนในจวนอ๋องนั้นคิดกับนางในฐานะใด พวกเขาจะรังเกียจนางเช่นเดียวกับแม่นมอิงฮวาหรือไม่?ความคิดนี้ทำให้หัวใจของหญิงสาวเต็มไปด้วยความกังวล หากนางถูกรังเกียจอย่างที่คาดคิดไว้ การใช้ชีวิตที่นี่คงเต็มไปด้วยความอึดอัดและยากลำบ

    Last Updated : 2024-12-26
  • นางบำเรอใต้เงารัก   ปิ่นปักผม

    เขาหลับตาลงพร้อมกับความทรงจำหนึ่งผุดขึ้นในใจ วันนั้นที่เขาได้สบตากับหญิงสาวผู้มีดวงตาสีนิลคู่งามเป็นครั้งแรก ภาพแห่งความอ่อนโยนของนางยังคงติดตรึงในหัวใจ แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าใดก็ตามสามปีก่อน ขณะที่เขายังเป็นเพียงองค์ชายสาม ผู้ได้รับมอบหมายให้ปราบปรามกลุ่มพ่อค้าเกลือเถื่อนในเมืองหนานซาน หลี่เจ๋อจึงต้องเข้ามาสอดแนมในโรงน้ำชาที่พลุกพล่านแห่งหนึ่ง ในมุมหนึ่งของโรงน้ำชา ดรุณีน้อยนางหนึ่งกำลังนั่งวาดภาพด้วยความมุ่งมั่นเกินวัย รอบกายของนางมีผู้ติดตามมากมายบ่งบอกชัดเจนว่านางเป็นบุตรสาวของผู้มีอันจะกิน แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเขาไม่ใช่ฐานะของนางแต่อย่างใด หากแต่เป็นดวงตาสีนิลคู่งามที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา และท่าทีการตวัดพู่กันที่สง่างามมากต่างหากแม้จะได้แค่เฝ้ามองจากระยะไกล แต่ความมุ่งมั่นในแววตาและการเคลื่อนไหวขณะวาดภาพของหานหยางนั้นกลับสะกดใจหลี่เจ๋อได้อย่างน่าประหลาด เส้นสายที่วาดบนผืนผ้าใบสอดประสานกับบรรยากาศรอบตัวของนางอย่างลงตัว เขาไม่อาจละสายตาจากนางได้ แม้ต้องรักษาความลับของตนในฐานะผู้สอดแนมก็ตามตั้งแต่วันนั้น หลี่เจ๋อรู้เพียงว่าเขาต้องการครอบครองทุกอย่างที่เป็นของหานหยาง ดังนั้น

    Last Updated : 2024-12-26
  • นางบำเรอใต้เงารัก   อิจฉา

    “ใครกันที่นำมันมาวางไว้ที่นี่?” นางพึมพำกับตัวเอง ความสงสัยกลับพลุ่งพล่านขึ้นในใจหรือว่าจะเป็นเขา…? แต่เขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อใดกัน หรือว่าเมื่อคืน?ความคิดหลากหลายแทรกเข้ามาในหัวจนทำให้หานหยางเผลอหยุดมือไปชั่วครู่ แต่ไม่นานนักนางก็รีบสะบัดศีรษะเพื่อสลัดความคิดเหล่านั้นออกไป ด้วยนางรู้ตัวดีว่าตอนนี้ไม่ควรใส่ใจกับสิ่งที่อาจเป็นเพียงความเข้าใจผิดของนางฝ่ายเดียวนางจัดแจงตัวเองให้เรียบร้อยก่อนก้าวออกจากห้องไปตามคำเชิญขององค์หญิงหลี่เฟย ซึ่งตั้งใจจะให้หานหยางช่วยสอนวาดภาพในวันนี้…ณ สวนกว้างกลางจวนของเป่ยอ๋อง ขณะที่หานหยางเดินผ่านไปพร้อมกับจินเป่ยบ่าวรับใช้อีกคนหนึ่ง เสียงซุบซิบของบ่าวรับใช้ที่ผ่านไปมาทำให้หานหยางต้องชะงักพวกนางพูดถึงสตรีที่ท่านอ๋องรับเข้ามาใหม่ซึ่งเป็นถึงบุตรสาวของเจ้าเมืองหนานซาน เห็นว่าเลื่องลือในความงดงามและสง่างามอย่างยิ่ง เสียงเหล่านั้นกระตุ้นความคิดแสนว้าวุ่นในใจของหานหยางได้ดีในจังหวะนั้น แม่นมอิงฮวาก็เดินมาทางนี้พอดี ดวงตาของนางจับจ้องไปยังหานหยางด้วยความเย็นชา ริมฝีปากขยับเปล่งคำพูดที่แฝงความดูถูกอย่างเปิดเผย ราวกับจะบดขยี้หัวใจของอีกฝ่าย"นางคณิกาอย่างเจ้าจะมา

    Last Updated : 2024-12-27
  • นางบำเรอใต้เงารัก   หิมะแรก

    หลี่เฟยพึมพำเบาๆ ก่อนจะหันกลับไปสนใจพู่กันในมือของตน“องค์หญิงเจ้าคะ ท่านหัวเราะอะไรหรือ?” หานหยางเอ่ยถามด้วยความสงสัย“เปล่าหนิ ข้าก็แค่...นึกอะไรเพลินๆ เท่านั้นเอง” หลี่เฟยตอบพร้อมยิ้มเล็กน้อยแต่แล้วหลี่เจ๋อต้องหัวเสียเมื่อเขาถูกขัดจังหวะ เมื่อมู่หรงเฟยบุตรสาวของเจ้าเมืองหนานซานเดินปรี่เข้ามาและหยุดยืนตรงหน้าเขาทันทีที่เมื่อมู่หรงเฟยเห็นหลี่เจ๋อ นางก็เดินตรงเข้าไปหาพร้อมคล้องแขนเขาอย่างถือดี หลี่เจ๋อชะงักก่อนจะดึงแขนกลับทันที“อย่าได้คิดหวังไปไกล เจ้าอยากเป็นพระชายาของข้างั้นหรือ?” เสียงของเขาเย็นเยียบและเต็มไปด้วยความไม่พอใจ “ข้าจะไม่แต่งเจ้าเป็นพระชายาอย่างที่เจ้าคิดหรอก การที่เจ้าได้มาอยู่ในจวนนี้ก็แค่เพราะคำข้อตกลงของเจ้าเมืองเท่านั้น อย่าได้ฉวยโอกาสเช่นนี้อีก ครั้งหน้าข้าอาจจะไม่ใจดีกับเจ้า”คำพูดของเขาทำให้บุตรสาวของเจ้าเมืองหน้าชา นางกัดริมฝีปากแน่น ความโกรธฉายชัดในดวงตา นางหวังจะใช้ความงดงามและเสน่ห์ของตนยั่วยวนหลี่เจ๋อให้หลงใหล แต่กลับได้รับการปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย“ท่านอ๋อง…” นางเอ่ยเรียกชื่อเขา แต่หลี่เจ๋อหันหลังเดินจากไปโดยไม่สนใจ ทิ้งให้นางยืนกำมือแน่นด้วยความอับอายแ

    Last Updated : 2024-12-27
  • นางบำเรอใต้เงารัก   อุ่นเตียง

    เรือนร่างของหานหยางนั้นช่างเนียนนุ่มลื่นมือราวกับกำลังลูบไล้หยกเนื้อดี ขณะที่ริมฝีปากของชายหนุ่มประทับลงบนผิวกายของนางอย่างหิวกระหาย ขบเม้มความเนียนละเอียดด้วยความโหยหาความอบอุ่นที่แผ่ซ่านจากร่างของคนทั้งสองดูช่างดูขัดแย้งกับสายลมหนาวเย็นนอกห้องยิ่งนัก ราวกับไฟแห่งความปรารถนากำลังหลอมละลายเหมันต์ฤดูให้หายไปในชั่วขณะปลายลิ้นของทั้งสองคนตวัดรัดรึงดูดดุนปลายลิ้นของอีกฝ่ายอย่างล้นพ้นไปด้วยความเสน่หาที่อัดแน่น ฝ่ามือของหลี่เจ๋อและหานหยางประสานจับกันเอาไว้แน่ เสียงเตียงลั่นและเสียงหนั่นเนื้อกระทบกัน พร้อมกับเสียงครางครวญของสองหนุ่มสาวที่ดังเล็ดลอดออกมาเป็นระยะไม่ว่าจะมองมุมไหน ฟ้อนเฟ้นไปยังสายตา ฝ่ามือเรียวบาง และกลีบปากสีแดงระเรื่อ หานหยางของเขานั้นช่างเปี่ยมล้นด้วยเสน่ห์อันเย้ายวนชวนหลงใหล สะโพกสอบอัดตอกขยับแกนแกร่งเดินหน้าเข้าไปในช่องทางรักที่มีน้ำหวานหลั่งออกมา ซึ่งมันเป็นเหมือนสารรักอย่างดีทำให้แก่นกายของชายหนุ่มเข้าออกได้โดยง่าย หานหยางทนไม่ไหวอีกต่อไป ร่างบางสั่นสะท้านพร้อมกับความเสียวซ่านเกาะกุมครอบครองไปทั้งร่าง นางเผลอไผลแอ่นตัวเด้งส่วนอ่อนนุ่มตรงจุดนั้นขึ้นรับเอาแก่นกายที่แ

    Last Updated : 2024-12-27
  • นางบำเรอใต้เงารัก   ไม่คู่ควร

    ในขณะที่อีกคนกำลังสำราญกับรสเพศอันสุขสม อีกคนหนึ่งกลับไม่ได้มีอารมณ์คล้อยตามกันเลยสักนิด หัวใจมีเพียงความว่างเปล่าและเงียบงันท่ามกลางเสียงหนั่นเนื้อที่กำลังกระแทกระทั้นอย่างเร่าร้อนหลังจากจบบทรักอันร้อนแรงในยามเช้าตรู่ วันนี้หลี่เจ๋อได้ลงมือแต่งตัวให้กับหานหยางด้วยตัวเอง ปิ่นปักผมลวดลายดอกเหมยกุ้ยถูกปักลงมาที่มวยผมของหานหยาง“เจ้าชอบมันหรือไม่ หานหยาง” เสียงของหลี่เจ๋อดังขึ้น พร้อมกับจ้องมองไปที่ดวงตาคู่งามผ่านกระจกด้วยแววตาที่คาดหวังกับคำตอบ“ข้าชอบมันมาก เป็นท่านเองที่มอบมันให้กับข้า?” เจ้าของดวงตาสีนิลเอ่ยตอบพร้อมกับแววตาประหลาดใจ“ใช่ เป็นข้าเองที่มอบมันให้กับเจ้า”“แต่ว่ามันดูเป็นของที่มีราคาแพง จะดีหรือที่ท่านมอบให้คนอย่างข้า”หลี่เจ๋อสัมผัสที่ปลายคางของหานหยางเบาๆ พร้อมกับเคยคางขึ้นเพื่อให้นางสบตาเขา“เจ้าคิดว่าเจ้าต้อยต่ำนักหรือ? สำหรับข้าแล้ว เจ้า”หานหยางมองไปที่ดวงตาสีน้ำตาลทองด้วยความคาดหวัง เพราะนางเองก็อยากรู้เช่นกันว่าสำหรับเขาแล้ว นางเป็นอะไรกันแน่“เจ้า...ก็เป็นคนของข้าไง ข้าซื้อตัวเจ้ามา ฉะนั้นเจ้าต้องเป็นของข้าเพียงคนเดียวเท่านั้น”คำพูดของเขาทำให้แก้มของหานหยางร้อ

    Last Updated : 2024-12-27
  • นางบำเรอใต้เงารัก   ข้าเข้าใจแล้ว

    ยามสายของวันเดียวกันนั้นเอง เมื่อมู่หรงเฟยบุตรสาวของเจ้าเมืองหนานซานที่พำนักอยู่ที่เรือนอีกหลังได้รับสาส์นจากอิงฮวา ในใจของนางตอนนี้เต็มไปด้วยความริษยาและความมุ่งมั่นที่จะกำจัดหานหยางทิ้งเสียเหลือเกินเดิมที ท่านเป่ยอ๋องได้ทำข้อตกลงกับบิดาของมู่หรงเฟย เกี่ยวกับการปกปิดและกวาดล้างหลักฐานการมีตัวตนของบุคคลหนึ่ง เมื่อมู่หรงเฟยล่วงรู้เรื่องนี้ จึงรบเร้าบิดาของนางให้ส่งนางมาที่นี่ เพราะนางนั้นทะเยอทะยานอยากขึ้นเป็นพระชายาแห่งจวนของเป่ยอ๋องแห่งนี้แต่พอได้มาอยู่ที่นี่จริงๆ สิ่งที่นางคาดหวังกลับพังทลายลง ท่านอ๋องกลับไปเคยดูแลเอาใจนาง ขนาดแค่แวะเวียนมาทักทายกันบ้างก็ยังไม่เคย นางถูกปล่อยให้เฝ้ารออย่างไร้ความหวังครั้งแล้วครั้งเล่าครั้นจะไปพบหน้าท่านอ๋องเหล่าองครักษ์ก็ขัดขวาง บอกแค่ว่าท่านอ๋องไม่ประสงค์จะให้นางเข้าเฝ้าแต่อย่างใด แม้จะเป็นผู้ที่มีชาติตระกูลสูงส่งแต่นางกลับรู้สึกราวกับว่าตนเป็นเพียงเงาที่ไม่มีตัวตนในสายตาของเขาเลย…ยิ่งเมื่อได้ยินแม่นมอิงฮวาเล่าเรื่องราวของหานหยาง นางบำเรอที่ดูเหมือนจะได้รับความโปรดปรานจากท่านเป่ยอ๋อง มู่หรงเฟยก็ยิ่งขุ่นเคืองใจความไม่พอใจที่เคยมีอยู่แล้วกลับพุ่

    Last Updated : 2024-12-27
  • นางบำเรอใต้เงารัก   เสียมารยาท

    ยามค่ำคืนที่แสนเงียบสงัด ในขณะที่หานหยางนั้นพยายามข่มตานอนอยู่นั่นเอง นางได้ยินเสียงฝีเท้าเบาของใครบางคนเดินเข้ามาในห้อง ลืมตาขึ้นจึงพบว่าเป็นหลี่เจ๋อที่เดินทำหน้าเครียดเข้ามา“เหตุใดเจ้าถึงยังไม่นอน?” หลี่เจ๋อเอ่ยพลางนั่งลงข้างเตียง ใบหน้าคมยังคงนิ่งสงบ แต่ดวงตาสีน้ำตาลทองที่ลอบมองมาที่หานหยางนั้นกลับแฝงไปด้วยความเหนื่อยล้าและหนักใจ“ข้า…” หานหยางเอ่ยอย่างลังเล แต่ไม่ทันได้ตอบสิ่งใด หลี่เจ๋อก็เอนตัวลงนอนเคียงข้างนาง มือใหญ่ของเขาดึงร่างของนางเข้ามาแนบอกอย่างแผ่วเบา“วันนี้ข้าเหนื่อยมากแล้ว ข้าแค่อยากนอนกอดเจ้า”เสียงของหลี่เจ๋อแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ แม้ใบหน้าของหลี่เจ๋อจะดูนิ่งเรียบ แต่หานหยางรู้สึกถึงอ้อมกอดที่กระชับขึ้นเล็กน้อย ราวกับว่าเขาต้องการเก็บซ่อนความกังวลในใจไว้เพียงลำพังหานหยางหลับตาลงช้าๆ แม้ความสับสนยังวนเวียนอยู่ในใจ แต่ไออุ่นจากร่างของเขากลับมอบความสงบที่นางไม่อาจปฏิเสธได้หลี่เจ๋อที่ลุกขึ้นจากเตียงนอนของหานหยางในยามดึก จากนั้นจึงเปิดทางให้เฟิงอี้เข้ามารายงานเรื่องสำคัญ“เรียนท่านอ๋อง ตอนนี้ข้ามีข้อมูลใหม่ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มกบฏและเจ้าเมืองหนานซาน”“เตรียมม้า ข้าจ

    Last Updated : 2024-12-27

Latest chapter

  • นางบำเรอใต้เงารัก   นิรันดร์

    หานหยางนั่งอยู่ใต้ต้นพลัมที่ผลิดอกงดงาม ดอกพลัมสีขาวร่วงโปรยลงมาบางเบาตามสายลม มือข้างหนึ่งของนางจับพู่กันตวัดลายเส้นอย่างอ่อนช้อย บนใบหน้าหวานเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมสุขสายตาจดจ่ออยู่กับภาพวาดตรงหน้า ขณะที่มืออีกข้างกลังลูบไล้เบาๆ บนหน้าท้องที่เริ่มขยายขึ้นเล็กน้อยสัมผัสอ่อนโยนนั้นราวกับกำลังส่งผ่านความรักและความอ่อนโยนไปยังชีวิตน้อยๆ ที่กำลังเติบโตอยู่ในครรภ์ของนางดวงตาของหานหยางเปล่งประกายด้วยความอบอุ่นและความหวัง ท่ามกลางความเงียบสงบของธรรมชาติ เสียงนกร้องคลอไปกับสายลม พื้นที่แห่งนี้เหมือนเป็นโลกที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อนางและชีวิตใหม่ที่กำลังจะมาแต่แววตานั้นกลับแศร้าหมองลงเมื่อนึกถึงคนๆ หนึ่งที่อยู่ไกลกัน ป่านนี้แล้วทำไมถึงยังไม่มา ได้ข่าวว่าการปราบปรามพวกกบฏส่วนที่เหลือเป็นไปอย่างยากลำบากหานหยางเคยบอกกับตัวเอง และยังย้ำมาตลอดว่าจะสนับสนุนเขาอยู่เงียบๆ ด้วยตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมานั้น ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่นางก้รับรู้ได้ว่าหลี่เจ๋อนั้นต้องแบกภาระมากมายเพียงใด“ข้าอาจไม่ใช่คนสำคัญที่สุดในชีวิตของเขา แต่หากข้ารักเขาจริง ข้าก็ควรสนับสนุนเขาในสิ่งที่เขาพึงกระทำ”ขณะที่ตกอยู่ใน

  • นางบำเรอใต้เงารัก   ลาจาก

    "กลับไปแคว้นฉินหรือเพคะ?" หานหยางถามกลับด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ"ใช่แล้ว" องค์หญิงหลิวอวี้เอื้อมมือไปจับมือนางไว้แน่น "เจ้าทำดีที่สุดแล้ว แต่หากเขายังไม่ทำอะไรเพื่อรักษาเจ้าไว้ เราก็ควรให้เขาได้คิด และให้เจ้ากลับไปในที่ที่เจ้าจะไม่ต้องทนกับความหวั่นไหวเช่นนี้"หานหยางนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะออกเดินทางกลับเป่ยโจวพร้อมกับมารดาของนางหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจปราบกบฏเพื่อไม่ให้ภัยใดๆ มาถึงหานหยางในอนาคตนั้น หลี่เจ๋อได้รับข่าวการจากไปของหานหยาง หญิงสาวที่เขาแอบรักมาโดยตลอด ความรู้สึกของเขาในตอนนี้เสมือนฝ้าผ่าลงที่กลางใจภายในจวนที่เคยเต็มไปด้วยชีวิตชีวา บัดนี้กลับเงียบสงัดราวกับเวลาหยุดนิ่ง หลี่เจ๋อก้าวเท้าเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งขรึม สายตากวาดมองไปทั่วบริเวณ แต่ทุกมุมของจวนกลับไม่มีวี่แววของคนที่เขาโหยหาเขายืนนิ่งอยู่กลางห้อง สองมือกำแน่นจนเส้นเลือดปูดขึ้นมาชัดเจน ดวงตาที่เคยแฝงไปด้วยความมุ่งมั่นกลับคลอด้วยหยาดน้ำตาที่เขาพยายามกลั้นไว้ "เจ้าจากข้าไปแล้วจริงๆ หรือ หยางเอ๋อร์..." เสียงของเขาแผ่วเบาราวกับลมที่พัดผ่าน“ข้าผิดเองที่เอาแต่ทำงานจนไม่ใส่ใจความรู้สึกของเขา แต่เจ้าไม่ถามเห

  • นางบำเรอใต้เงารัก   ปกป้องคนสำคัญ

    หลี่เจ๋อยืนประจันหน้ากับฉู่หรงที่ถูกล้อมด้วยกำลังทหารของราชสำนัก ดวงตาสีน้ำตาลทองของเขาเยือกเย็นราวกับเหล็กกล้าที่พร้อมจะฟาดฟันศัตรูตรงหน้าของเขา“ฉู่หรง ตอนนี้เจ้าแพ้แล้ว เพราะบัดนี้ฮ่องเต้และเหล่าแม่ทัพหลวงได้จับคนของเจ้าที่แทรกซึมในเหมืองหลวงได้หมดสิ้น ทุกแผนการของเจ้าถูกข้าเปิดโปงหมดแล้ว”ฉู่หรงกัดฟันแน่น สายตาดุดันของเขาจับจ้องไปยังหลี่เจ๋อ พลางหัวเราะในลำคออย่างขมขื่น“เจ้ารู้ตัวตั้งแต่เมื่อไหร่กัน...ว่าข้าแทรกซึมกำลังไว้ทั่วเมืองหลวง แถมยังรู้แม้กระทั่งวันเวลาที่พวกข้าจะลงมือ?”หลี่เจ๋อมองเขาอย่างสงบนิ่งก่อนจะยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ราวกับจะบอกให้ฉู่หรงได้ตระหนักรู้ว่าความพยายามที่ผ่านมาทั้งหมดของเขาและกลุ่มกบฏเป็นเพียงการดิ้นรนที่ไร้ความหมาย“ข้ารู้ตั้งแต่แรกแล้ว และมั่นใจมากยิ่งขึ้นเมื่อได้เห็นตราประทับขุนนางอันนั้นที่เป็นของเจ้าอยู่ในหมู่บ้านชิงหรง คิดว่าตระกูลฉู่ของเจ้านั้นเฉลียวฉลาดอยู่ฝ่ายเดียวงั้นหรือ?”คำพูดของหลี่เจ๋อราวกับเข็มแหลมที่ทิ่มแทงเข้าไปในใจของฉู่หรง ความคับแค้นใจที่เก็บกดไว้พลันปะทุขึ้นท่านพ่อบอกว่าตัวเขานั้นเฉลียวฉลาดกว่าฮ่องเต้และอ๋องทุกๆ คนในราชวงศ์ เขาตากห

  • นางบำเรอใต้เงารัก   ลูกสาวที่หายไป

    ดวงหน้าที่งดงามของหานหยางนั้น หากสังเกตุตรงบริเวณเนินผมอย่างละเอียดนั้นจะพบได้ว่ามีแผลเป็นเล็กๆ อยู่ สำหรับองค์หญิงหลิวอวี้แล้วนั้นรอยแผลเป็นเล็กกลับชัดเจนในความทรงจำของพระนาง เพราะมันเชื่อมโยงกับอดีตที่นางลืมไม่ลงแผลเป็นนี้ทำให้องค์หญิงรู้สึกถึงบางสิ่งที่ยากจะอธิบายตอนนั้นในความชุลมุนที่เกิดขึ้นในขณะที่องค์หญิงหลิวอวี้นั้นและเด็กสาวในวัยเพียงไม่กี่ขวบปีได้ตกอยู่ในวงล้อมของกลุ่มศัตรู ขณะที่พวกนางกำลังจะเดินทางกลับไปยังแคว้นฉินองค์หญิงหลิวอวี้พยายามยื้อลูกสาวสุดความสามารถไม่ให้คนมาลักตัวไป แต่ก็ไม่สำเร็จ แถมการยื้อแย่งเด็กน้อยยังทำให้เกิดอุบัติเหตุที่ฝากร่องรอยแผลเป็นไว้ที่ดวงหน้าของลูกอันเป็นที่รักอีกต่างหาก“แม่นาง...” หลิวอวี้เอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา นางก้าวเข้ามาใกล้หานหยางท่ามกลางความประหลาดใจของทุกคนในที่นั้น“ข้าขอดูหลังใบหูของเจ้าด้วยได้หรือไม่?”หานหยางมององค์หญิงด้วยสายตาลังเล ก่อนจะพยักหน้าเบาๆ นางหันศีรษะให้หลิวอวี้ดูเมื่อหลิวอวี้มองเห็นปานรูปหัวใจที่ซ่อนอยู่หลังใบหูของหานหยาง น้ำตาของนางก็ไหลรินลงอาบแก้มทันที“เป็นเจ้า...เจ้าคือลูกของข้า!” หลิวอวี้เอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ

  • นางบำเรอใต้เงารัก   ความจริงที่สาม

    กลุ่มกบฏเองไม่ได้นิ่งนอนใจเมื่อได้รับข่าวจากเจ้าเมืองหนานซานที่แอบลอบติดต่อมาว่าได้พบตัวหานหยาง ซึ่งเป็นคนที่วาดภาพฐานลับของกบฏแล้ว สิ่งนี้สร้างความปั่นป่วนและความตื่นตัวในหมู่กบฏทันที เพราะหานหยางถือเป็นกุญแจสำคัญที่อาจเปิดโปงที่ซ่อนของพวกมันทั้งหมดได้โดยแท้จริงแล้วนั้น เจ้าเมืองหนานซานหวังผลประโยชน์ส่วนตัวมาโดยตลอด จึงทำตัวเป็นนกสองหัวและเป็นสายลับให้กับทั้งสองฝ่าย แถมยังวางแผนส่งบุตรสาวของตนเข้าไปในจวนเป่ยอ๋องในฐานะสายสืบ ทำให้บุตรสาวของเจ้าเมืองสามารถล่วงรู้ได้ว่าหานหยางนั้นถูกหลี่เจ๋อซ่อนตัวไว้อย่างปลอดภัยในจวนของเขาข่าวนี้ทำให้กลุ่มกบฏเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พวกเขาวางแผนที่จะตามสังหารหานหยางเพื่อให้มั่นใจว่านางจะไม่กลายเป็นภัยต่อแผนการใหญ่ที่ใกล้จะมาถึงแต่พวกมันหารู้ไม่ว่าหลี่เจ๋อเองก็เป็นคนระวังตัวและเจ้าแผนการมาก เขาได้พาหานหยางไปซ่อนในที่ปลอดภัยแห่งหนึ่งเรียบร้อย แถมยังรู้ถึงที่ซ่อนของพวกมันแล้วด้วยแผนที่ที่วาดขึ้นมาใหม่จากความทรงจำเก่าของหานหยางได้นำพาพวกของหลี่เจ๋อมาที่หมู่บ้านลับแห่งหนึ่งที่ชื่อว่าชิงหรง ซึ่งมันเป็นอาณาเขตตีนเขาของหุบเขาลูกนั้นในกระท่อมหลังหนึ่งขอ

  • นางบำเรอใต้เงารัก   ความจริงที่สอง

    “ในวัยเด็ก ท่านพ่อมักจะทุ่มเทเวลาให้กับงานจนไม่สนใจข้ากับท่านแม่ ข้าจึงต้องคอยแอบหนีเพื่อไปติดตามท่านพ่อ ข้าจำได้ว่าท่านพ่อมักเดินทางไปยังภูเขาและหุบเขามากมาย เพื่อดูแลธุรกิจหรือเจรจาค้าขาย ข้าเองก็มักจะคอยจดจำภาพของหุบเขาและก็จะแอบนั่งวาดภาพเหล่านั้น แต่ไม่ได้คาดคิดว่ามันจะเป็นหลักฐานมัดตัวพวกกบฏไปได้ ข้าทำลายครอบครัวของข้าด้วยน้ำมือของข้าเอง เป็นข้าเองที่ผิดทั้งหมด”“ข้าคิดว่าหลิวจินหลันนั้นคงไม่ปรารถนาจะให้เจ้าเป็นเช่นนี้ นางคงอยากเห็นเจ้ากลับมายืนหยัดได้อย่างเข้มแข็ง และตามหาครอบครัวที่แท้จริงของเจ้าให้พบ”หัวใจของนางยังคงสั่นไหวเมื่อสายตาของหลี่เจ๋อจับจ้องมาที่นางอย่างลึกซึ้ง“ข้าจะอยู่เคียงข้างเจ้า จับกลุ่มกบฏมาลงโทษ และช่วยเจ้าตามหามารดาของเจ้าให้พบ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นข้าจะไม่ทิ้งเจ้า หยางเอ๋อร์”หลี่เจ๋อยื่นมือไปแตะที่แก้มของหานหยางอย่างแผ่วเบา แม้คำว่า “รัก” จะยังไม่ออกมาจากปากของเขา ด้วยปณิธานว่าหากเรื่องทุกอย่างยังไม่จบ เขาจะไม่บอกความในใจอออกไป แต่ทุกการกระทำของเขานั้นมันคงจะชัดเจนยิ่งกว่าคำพูดเสียอีกสัมผัสนั้นทำให้หานหยางตัวแข็งทื่อ ดวงตาคู่งามหลุบลงอย่างเขินอาย แต่ก็ไม

  • นางบำเรอใต้เงารัก   ความจริงที่หนึ่ง

    "ไม่…!" หลี่เจ๋อพุ่งเข้าหานาง แต่ทุกอย่างสายเกินไปเสียแล้ว เลือดแดงฉานไหลซึมออกมา นางพยายามเอื้อมมือจับหลี่เจ๋อ ขณะที่เสียงของนางแผ่วลง "ได้โปรดปกป้องนาง ปกป้องหยางเอ๋อร์”ในที่สุดหลิวจินหลันก็สิ้นลมในอ้อมแขนของหลี่เจ๋อ ร่างของนางถูกวางลงข้างศพของสามี ทิ้งไว้เพียงความจริงเกี่ยวกับชาติกำเนิดของหานหยางและเรื่องของกลุ่มกบฏที่ยังถูกเปิดเผยไม่หมดหลี่เจ๋อยืนนิ่งอยู่ในความมืด เขาจับธนูที่ปักอยู่ในร่างของหลิวจินหลันขึ้นมาพิจารณา ก่อนจะหันไปมองความมืดของประตูด้านหน้าของคุกถึงแม้จะตามไปตอนนี้ก็คงไม่ทันการณ์ พวกนี้เป็นนักฆ่าที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดี เขาจึงได้แต่พึมพำคนเดียวด้วยเสียงทุ้มต่ำ“เป็นใครกัน ที่ต้องการฆ่าปิดปากพวกเจ้า?”ด้านหลังของจวนเป่ยอ๋อง หานหยางนั้นถูกเรียกตัวให้ออกมามาพบกับหลี่เจ๋อจากทางประตูด้านหลังจวนท่ามกลางบรรยากาศที่อึมครึม หานหยางเดินมาพบกับหลี่เจ๋อ โดยมีเกวียนที่บรรทุกศพของหลิวจินหลันและหานเจิ้งหานหยางที่ยืนรออยู่ในลานจวนมองเห็นเกวียนนั้นแต่ไกล นางวิ่งเข้ามาด้วยความร้อนรน ดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวังเล็กน้อยกลับแปรเปลี่ยนเป็นความเศร้าโศกเมื่อเห็นร่างที่ไร้วิญญาณของคนที่น

  • นางบำเรอใต้เงารัก   องค์หญิงหลิวอวี้

    ในยามสายของวันหนึ่ง ในวันนี้ไม่มีงานอันใดให้ต้องออกไปทำนอกจวน หลี่เจ๋อจึงหยิบคันธนูและลูกศรและนำมันมามอบให้กับหานหยาง“วันนี้ข้าจะสอนเจ้ายิงธนู”หานหยางขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมเอียงคอด้วยความสงสัย“เหตุใดท่านถึงต้องการสอนข้ากัน?”“ในสถานการณ์เช่นนี้ เจ้าจำเป็นต้องรู้วิธีป้องกันตัวเอง ข้าไม่อาจอยู่ข้างเจ้าได้ตลอดเวลา”หานหยางมองเขาด้วยความประหลาดใจ แม้เขาจะยังคงรักษาท่าทีสุขุมเยือกเย็น แต่นางเริ่มมองเห็นถึงความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ ที่เขามีต่อนางในช่วงหลายวันมานี้หลี่เจ๋อยืนอยู่ด้านหลังของหานหยาง มือใหญ่ของเขาจับมือของนางเพื่อช่วยประคองคันธนู“ยกคันธนูขึ้น... อย่างนี้” เขากระซิบบอกเบาๆ เสียงทุ้มนุ่มลึกของเขาทำให้หัวใจของหานหยางสั่นไหวเล็กน้อย“มองตรงไปยังด้านหน้า เล็งไปที่เป้าหมายและดึงสายแบบนี้” หลี่เจ๋อคอยกระซิบใกล้ๆ หูของนาง หานหยางต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการประคองสติของตนไม่ให้กระเจิงกับสัมผัสนี้ของเขาเมื่อลูกธนูถูกปล่อยออกไป มันพุ่งตรงไปยังเป้าทันที แม้จะไม่ค่อยแม่นยำนัก แต่ว่าฝีมือของนางก็ยังพอถูไถ ด้วยความที่หานหยางเป็นคนที่หัวไว เรียนรู้อะไรได้เร็ว หลี่เจ๋อแอบลอบมองด้วยความประ

  • นางบำเรอใต้เงารัก   ส่วนสำคัญในชีวิต

    หลี่เจ๋อตกตะลึงเล็กน้อยที่นางกล้าขัดจังหวะเขาในสถานการณ์เช่นนี้ ใบหน้าของเขาขมวดคิ้วแน่นด้วยความไม่พอใจ“หานหยาง เจ้าไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะมาตั้งคำถามข้าเช่นนี้!”คำพูดนั้นเหมือนมีดที่ปักลงกลางใจของหานหยาง นางกัดริมฝีปากแน่น พยายามสะกดน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา“ไม่มีสิทธิ์หรือ? เช่นนั้นท่านอ๋องช่วยบอกข้าเถิด ว่าข้าอยู่ในจวนนี้ในฐานะอะไร?” หานหยางขึ้นเสียงโต้กลับด้วยเสียงที่เริ่มจะสั่นสะท้าน“เจ้าเป็นแค่คนที่ข้าซื้อตัวมาเพื่อแผนการของข้า!” หลี่เจ๋อหลุดปากออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจคำพูดนั้นทำให้หานหยางชะงักทันที นางมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ในที่สุดก็ได้รู้ความจริงจากปากของท่านอ๋องเสียที ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งคิดสำคัญตัวเอง“ข้าคิดว่าข้า...” เสียงของนางขาดหายไปกลางคัน ก่อนจะรีบหมุนตัวออกจากห้องไปหลี่เจ๋อยืนนิ่ง ดวงตาสีน้ำตาลทองของเขาเต็มไปด้วยความขุ่นมัว นี่เขาเผลอทำอะไรลงไป?“ทำไมข้าถึงพูดเช่นนั้นออกไป” เสียงพึมพำในใจของเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด แต่สถานการณ์ในตอนนี้กลับทำให้เขาต้องเลือกสิ่งที่สำคัญกว่าด้วยเขายังมีภาระหน้าที่มากมาย ทั้งแผนการปราบกบฏ ทั้งความป

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status