บทนำ
เด็กใหม่
“ยังเด็กอยู่เลย กูไม่รับ!” หนุ่มใหญ่วัยสี่สิบต้นๆ ตะโกนอย่างหัวเสีย เมื่อลูกน้องคนสนิทนำเด็กสาวที่มองปราดเดียวก็รู้ว่าอายุยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งตอนนี้เจ้าตัวกำลังนั่งก้มหน้าตัวลีบอยู่บนพื้นในห้องรับแขก ใส่เสื้อยืดเก่าๆ กับกางเกงขาสั้นแค่เข่า ผมสั้นหน้าม้า บ่งบอกว่ายังเป็นนักเรียนมัธยม
“มันดูผอมไปบ้าง แต่ร่างกายมันโตเต็มวัยแล้วนะนาย รับไว้เถอะครับ”
“นี่มึงอยากให้กูติดคุก ข้อหาพรากผู้เยาว์เหรอไอ้พล!” ถึงเขาจะชอบเซ็กซ์ แต่ก็ไม่คิดจะทำผิดกฎหมายหรือไร้ศีลธรรมเกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้ เพราะมีผู้หญิงมากมายที่รองรับอารมณ์ของเขาได้ โดยไม่ต้องไปยุ่งกับเด็กผู้หญิงให้สุ่มเสี่ยง
“ถ้านายกลัวตะราง ก็ให้มันทำงานอย่างอื่น หรือทำงานบ้านไปก่อนก็ได้ อีกไม่กี่เดือนนังอัณมันก็สิบแปดแล้ว ถ้านายไม่เอา ลุงทิตย์เขาก็คงไปขายให้คนอื่น สงสารเด็กมันที่อาจจะถูกขายต่อเข้าซ่อง ยังไงก็เห็นมาตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย จน...”
“เออๆ เอาไว้ก็ได้ และมึงก็หางานให้ทำเองแล้วกัน เสือกดีนัก!” เขากระแทกเสียงใส่อย่างหงุดหงิด ก่อนปรายตามองเด็กสาวที่ยังก้มหน้างุด จนคางจะถึงหน้าอกตัวเองอยู่แล้ว ถึงเด็กสาวจะหน้าตาผิวพรรณดี แต่ยังเรียนไม่จบมัธยมปลาย ไม่ใช่สเปกเขา ชินภพชอบผู้หญิงจัดจ้าน กร้านโลก เก่งทางเซ็กซ์และโลกีย์ แบบไม่ต้องเสียเวลามานั่งสอน เพราะเขาต้องการผู้หญิงเฉพาะแค่เรื่องบนเตียงเท่านั้น
“เดี๋ยวให้มันช่วยทำงานบ้าน ตอนมันเลิกเรียนแล้วกันครับ”
“ยังเรียนอยู่แท้ๆ ก็ถูกพ่อเอามาขาย ” ชินภพพำพึม เงินที่พ่อของ
เด็กสาวเสนอขายมานั้นก็แค่ไม่กี่แสน พ่อที่นอกจากขี้เมา ยังบ้าการพนัน ไม่รู้จักทำมาหากินวิธีอื่น ขายทุกอย่างที่มี ไม่เว้นแม้แต่ลูก ทั้งที่เป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของอาทิตย ซึ่งเป็นญาติห่างๆ ของพล ลูกน้องคนสนิทของเขาซึ่งอาทิตย์ก็ไม่ใช่คนอื่นไกล เคยทำงานในไร่องุ่นของเขา แต่เพราะมันชอบดื่ม บ้าการพนัน ทำงานได้ไม่ดี แถมเวลาเมาชอบมีเรื่องกับคนงานอื่นๆ เขาเลยให้มันออก
“เรียนอยู่มอหกครับ อีกไม่กี่เดือนมันก็จบแล้ว”
“อือ ก็เรียนไป ขาดเหลืออะไรก็บอก!” ถึงจะไม่อยากรับไว้ แต่พอคิดว่าเด็กสาวจะถูกส่งให้กับไอ้เสี่ยโต ที่นอกจากจะเป็นเจ้าของบ่อนในพื้นที่ มันยังเปิดซ่องลับๆ ไว้รับรองแขกวีไอพีในบ่อนด้วย
“อัณ มากราบขอบคุณคุณภพเร็วเข้า” พลเรียกหลานสาวเสียงดัง
อัณชญาเงยหน้าขึ้น แต่ไม่กล้าสบสายตาคมกล้าของผู้ชาย ที่พ่อนำเธอมาขายให้ เด็กสาวเดินเข่ากระทั่งมาใกล้ร่างที่นั่งอยู่บนโซฟา แล้วยกมือก้มลงจะกราบใกล้ปลายเท้าของชินภพ
“เฮ้ย ไม่ต้องถึงขนาดมากราบตีนฉันหรอก แค่ยกมือไหว้เฉยๆ ก็พอ!” เขาตวาดเสียงดัง ทำให้ร่างเล็กนั้นชะงักค้างมือที่พนมขึ้นพร้อมท่าโน้มตัวลงต่ำ
อัณชญาจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้น แล้วพนมไหว้อย่างอ่อนช้อยแทน พร้อมเอ่ยขอบคุณเสียงแผ่ว
“ขอบคุณค่ะ”
จังหวะนั้นเองที่ทำให้ชินภพได้เห็นใบหน้าของเด็กสาวชัดเจน จึงถือโอกาสพิจารณาวงหน้าขาวรูปไข่ที่เกลี้ยงเกลาไร้ที่ติ เครื่องหน้าถือว่าสวยมาก ทั้งคิ้ว ดวงตา จมูกและริมฝีปาก โดยเฉพาะดวงตากลมโตใสแจ๋วเหมือนแก้วที่เจียระไนจากช่างฝีมือดี
หนุ่มใหญ่เผลอมองไม่รู้นานแค่ไหน กระทั่งได้ยินเสียงลูกน้องคนสนิทเอ่ยขึ้น
“งั้นผมจะพานังอัณไปที่ตึกส้มนะครับ”
‘ตึกส้ม’ ที่พลพูดถึง ก็คือที่พักของบรรดานางบำเรอของเจ้านายนั่นเอง ที่นั่นมีผู้หญิงที่พร้อมใจมาทำหน้าที่บนเตียงกับชินภพ ซึ่งตอนนี้มีอยู่ถึงเจ็ดคน รวมอัณชญาเข้าไปด้วยก็แปดพอดี
“ไม่ต้องไปอยู่ที่นั่นหรอก อยู่เรือนหลังเล็กกับป้าหมายก็แล้วกัน” ที่นั่นบ้านพักของแม่บ้าน ที่ชินภพให้ความเคารพนับถือ เพราะอีกฝ่ายเคยดูแลเขามาตั้งแต่ยังเด็ก กระทั่งย้ายตามกันมาอยู่ที่เมืองเหนือ
“ได้ครับนาย”
“เรื่องเงินค่าตัวเด็ก พรุ่งนี้มึงก็ไปทำเรื่องเบิกกับฝ่ายบัญชี เดี๋ยวกูจะโทร. บอกเขาไว้”
“ครับนาย”
จากนั้นชินภพก็ลุกจากโซฟา แล้วเดินออกจากห้องรับแขก ตรงไปยังชั้นสอง ซึ่งเป็นที่พักส่วนตัวของเขา ที่ซึ่งไม่มีผู้หญิงคนไหนขึ้นไปได้ ถ้าไม่อนุญาต นอกจากคนทำงานบ้าน และลูกน้องคนสนิทเท่านั้น
“ไปอัณ” พลเรียกหลานสาว ที่แม้จะเป็นเพียงญาติห่างๆ แต่ก็เห็นอีกฝ่ายมาตั้งแต่เด็ก
“น้าพล ป้าหมายดุไหม” อัณชญาเริ่มมีความกังวลที่ต้องไปพักอยู่กับคนที่ไม่รู้จัก
“ป้าหมายใจดี แต่มึงก็ทำตัวดีๆ ขยันช่วยงานป้าเขา หรือป้าเขาใช้ทำอะไรก็อย่าขี้เกียจเข้าใจไหม เพราะถ้ามึงไม่ได้อยู่ที่นี่นะ พ่อมึงขายไปให้ไอ้เสี่ยโต มันเบื่อมึงแล้ว รับรองมึงโดนขายซ่องแน่”
“ค่ะ หนูจะทำตัวดีๆ ไม่ขี้เกียจ หนูอยากอยู่ที่นี่กับน้าพล ไม่อยากอยู่กับไอ้เสี่ยโตหรอก” เพราะถึงพลจะเป็นคนพูดจาโผงผาง แต่เขาก็เคยดูแลเธอตั้งแต่ยังเด็ก และเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่
“เอ่อ กูก็ช่วยมึงได้แค่นี้แหละ ในเมื่อพ่อมึงมันเหี้ยคิดจะขายลูกกินอย่างเดียว กูก็ทำได้แค่นี้แหละ เพราะยังไงอยู่ที่นี่ก็ดีกว่าอยู่ซ่องแล้วกัน”
จากนั้นพลก็พาอัณชญาไปยังเรือนหลังเล็ก ที่อยู่ด้านหลังตึกใหญ่ และอยู่ห่างจากตึกส้มพอสมควร มีรั้วดอกไม้กางกั้นออกจากพื้นที่พักอาศัยเจ้าของบ้านอย่างชัดเจน
พลพาหลานสาวมาถึงเรือนเล็ก ซึ่งเป็นเวลาค่ำมากแล้ว เจ้าของเรือนก็เพิ่งอาบน้ำเสร็จปะแป้งหน้าขาววอก กำลังดูโทรทัศน์อยู่กับเด็กรับใช้คนหนึ่งที่พักอยู่ด้วยกัน
“อ้าวไอ้พล มาแล้วเหรอ เมื่อกี้คุณภพโทร. มาบอกป้าแล้วว่าจะมีคนมาอยู่ด้วย”
“อัณ นี่ป้าหมาย” พลหันไปบอกอัณชญา เจ้าตัวก็ยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม แต่ใบหน้าสวยใสตามวัยนั้นก็เรียบนิ่ง สายตามีแววกังวลอย่างคนที่มายังสถานที่ไม่คุ้นเคย หวั่นเกรงสิ่งที่จะพบเจอ
“รบกวนป้าหมายสั่งสอนมันด้วยครับ มันเป็นหลานห่างๆ ของผมเองแหละ แต่พ่อมันเหี้ย ผีพนันเข้าสิงจนหมดความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ขายแม้กระทั่งลูก ถ้านายไม่รับไว้ นังอัณมันคงได้ไปอยู่ซ่องแน่นอน”
“เฮ้อ กรรมของเด็กจริงๆ ที่มีพ่อไม่รู้ผิดชอบชั่วดี แต่มาอยู่ที่นี่ก็แล้วแหละ ฉันก็แก่แล้ว มีเด็กๆ มาอยู่ด้วยอีกคนก็ไม่เหงา” ป้าหมายส่งยิ้มให้เด็กสาว อีกฝ่ายจึงค่อยๆ ยิ้มตอบด้วยความรู้สึกเบาใจได้เปราะหนึ่งว่าป้าหมายคงเป็นคนใจดี และเธอคงจะพักอยู่ที่นี่อย่างไม่อึดอัดใจใดๆ
“นุ่ม พาอัณไปห้องพักด้านหลัง” ป้าหมายเรียกเด็กรับใช้ที่พักอยู่ด้วยกัน และเป็นหลานสาวของแกเองด้วย
“อ้าว ไม่นอนห้องเดียวกับเราเหรอป้า” นุ่มถามอย่างสงสัย
“ไม่ต้อง ให้อัณนอนคนเดียว น้องเขายังเรียนอยู่ ต้องอ่านหนังสือ ทำการบ้าน จะได้เป็นส่วนตัว”
“งั้นตามมา” นุ่มบอกช่วยหยิบกระเป๋า แล้วเดินนำหน้าไปก่อน
อัณชญาส่งยิ้มให้ป้าหมาย แล้วลุกเดินไปพร้อมกระเป๋าอีกใบ เป็นเสื้อผ้าข้าวของส่วนตัว ส่วนอีกใบที่นุ่มถือไปเป็นหนังสือและอุปกรณ์การเรียนทั้งหมด
“ห้องนี้ทำความสะอาดไปตั้งแต่อาทิตย์ก่อน น้องก็จัดการทำสะอาดเองนะ ปลอกหมอน ผ้าปูก็อยู่ในตู้นั้นแหละ”
“ขอบคุณค่ะ” อัณชญายกมือไหว้นุ่ม ที่อายุมากกว่า อีกฝ่ายยิ้มตอบ แล้วเอ่ย
“น่ารัก มิน่านายถึงรับไว้”
อัณชญายิ้มเศร้ากับคำพูดอีกฝ่าย
“ไม่เป็นไรหรอก อยู่ที่นี่ก็ดีแล้ว ถึงนายจะดุไปหน่อย แต่ก็ใจดี ถ้าอัณทำตัวน่ารักๆ นายจะเลี้ยงอัณไปนานๆ เลยนะ แต่อัณอายุยังน้อย กว่าจะถูกปลดระวาง โอ๊ย นานหลายปี เว้นแต่อัณจะทำตัวไม่น่ารัก ไม่ถูกใจนาย อาจโดนเฉดหัวออกจากบ้านก่อนเวลาอันควร”
“หนูจะทำตัวให้น่ารักๆ ค่ะ” เธอไม่อยากถูกนายเฉดหัวออกจากบ้าน
“ดีแล้ว เพราะออกจากบ้านนี้ไป พ่ออัณคงขายต่อให้คนอื่นอีก”
พอได้ยินแบบนั้นแล้วยิ่งทำหน้าเศร้า
“พอแล้วๆ อย่าคิดมาก ทำความสะอาดห้องซะ”
“ค่ะ”
“แล้วกินไรหรือยัง”
“ยังเลยค่ะ”
“งั้นทำความสะอาดห้องแล้วไปกินข้าว ในครัวมีแกงเขียวหวานกับขนมจีนเหลืออยู่”
“ขอบคุณค่ะ” อัณชญายกมือไหว้อีกครั้ง
“โอ๊ย น่ารัก รู้สึกดีจัง นานๆ จะมีคนมายกมือไหว้ แถมเป็นเมียของนายอีก” นุ่มพูดแล้วบีบแก้มขาวๆ นั้นอย่างเอ็นดู
“นายไม่เอาหนูทำเมียหรอก”
“อ้าว ทำไม อัณออกจะสวย สวยกว่าอีพวกที่อยู่ตึกส้มเสียอีก”
“นายบอกกว่ากลัวติดคุก เพราะหนูอายุสิบเจ็ดเอง”
นุ่นได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะก๊าก
“ไม่ต้องน้อยใจหรอก อีกปีเดียวอัณก็สิบแปด นายก็คงรอดคุกแล้วล่ะ”
“แต่ท่าทางเขาไม่ชอบหนูเลย” อัณชญาพูดด้วยสีหน้ากังวล เพราะไม่อยากถูกเฉดหัวออกจากบ้านนี้ เพราะพ่อคงเอาเธอไปขายให้ไอ้เสี่ยโตแน่นอน
“ไม่แปลกหรอก นายไม่ค่อยชอบเด็กๆ ใสๆ แบบนี้ยิ่งไม่ชอบ เคยบ่นว่าไม่ประสาเรื่องอย่างว่า”
“แล้วนายชอบผู้หญิงแบบไหน”
“แบบแซ่บๆ สิ”
“แซ่บเลยเหรอคะ”
“ใช่ แซ่บ เผ็ด เด็ดทุกท่วงท่าและลีลา ฮ่าๆ” นุ่มพูดพร้อมหัวเราะร่วน
“งั้นหนูควรจะแซ่บไหมคะ”
“โอ๊ย ฮ่าๆ อัณนี่ตลกดีนะ แต่แบบ อย่าเลย ใสๆ แบบนี้แหละดีแล้ว”
“ถ้านายไม่ชอบหนู วันหนึ่งเขาก็จะเฉดหัวหนูออกจากที่นี่น่ะสิ หนูไม่อยากถูกพ่อขายให้คนอื่นแล้ว โดยเฉพาะไอ้เสี่ยโต เดี๋ยวมันเบื่อก็ส่งหนูเข้าซ่อง”
อัณชญาพูดน้ำตาคลอ และเด็กสาวคิดว่าการจะได้อยู่ที่นี่นานๆ หรือตลอดไป จะต้องทำให้นายพึงพอใจเท่านั้น
“โอ๊ย นายไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก เว้นแต่ทำให้นายโกรธ แต่อัณเป็นเด็กดี น่ารักแบบนี้ นายจะมาโกรธเรื่องอะไรล่ะ”
“แต่หนูอยากให้นายชอบ หนูอยากแซ่บ พี่นุ่มสอนหนูให้แซ่บได้ไหมคะ”
“เอ้า ซวยแล้วกู” นุ่มพึมพำ เกาหัวแก๊กๆ
“นะพี่ ช่วยหนูด้วย หนูอยากให้นายชอบ”
“เออๆ ใจเย็นๆ เอาเป็นว่า ทำความสะอาดห้อง แล้วไปกินข้าว เรื่องแซ่บๆ พี่จะสอนเองนะ”
“ขอบคุณค่ะพี่นุ่ม หนูจะไม่ลืมบุญคุณพี่เลย” อัณชญายกมือไหว้นุ่ม แล้วโผเข้าไปกอดด้วยความซาบซึ้งใจ ขณะที่นุ่มทำหน้าอิหลักอิเหลื่อ เพราะคำว่า ‘แซ่บ’ มันก็ห่างไกลตัวเองอยู่เช่นกัน
แต่ในเมื่อรับปากเด็กมันไปแล้ว ก็ต้องสอนมันให้ได้ละวะ!
............................
แซ่บเท่านั้นที่จะครองใจนาย “พี่นุ่ม หนูจะต้องใส่ชุดพวกนี้จริงๆ เหรอ” อัณชญามองเสื้อผ้าที่นุ่มสรรหามาให้อย่างไม่แน่ใจ เพราะแต่ละชุด ไม่สั้นเสมอจิ๋ม ก็คว้านคอลึกเกือบถึงสะดือ“เออ ใส่ชุดพวกนี้ อัณก็แซ่บเลยนะ เดี๋ยวพี่ช่วยแต่งหน้าอีก รับรองแซ่บเด็ด เผ็ดเหมือนกินพริกทั้งสวน”“พี่นุ่มแน่ใจนะว่าใส่แล้วนายจะชอบ”“ก็แหงสิ อีพวกที่อยู่ตึกส้ม ก็แต่งแบบนี้ทั้งนั้น บางคนนะใส่แค่ชุดชั้นในเดินไปมาในบ้านเสียอีก” ขณะป้าหมายและเด็กรับใช้คนอื่นง่วนอยู่กับงานบ้านที่ตึกใหญ่ นุ่มก็ถือโอกาสมาเรือนพัก เพื่อจัดแจงความแซ่บให้อัณชญาอย่างที่รับปากไว้“ถ้าใส่แล้ว นายชอบ หนูก็จะใส่”“เออ ใส่เลยๆ เดี๋ยวพี่แต่งหน้าให้ แล้วเดี๋ยววันนี้นายกลับบ่าย พี่จะให้อัณยกของว่างไปให้นายในห้องหนังสือ นายชอบนั่งทำงานที่นั่น หลังกลับจากไร่”อัณชญารีบหยิบชุดแซกสีแดงเพลิง สั้นเสมอจิ๋มและคว้านลึกจนเห็นนมครึ่งเต้ามาใส่“โห เห็นผอมๆ ตัวเล็กเหมือนเด็กประถม ไม่คิดว่านมจะระดับมหา’ลัย” นุ่มกวาดสายตาสำรวจร่างเล็กด้วยแววตาชื่นชม เพราะไม่คิดว่าเด็กสาวจะซ่อนรูป เห็นผอมๆ แต่มีทรวดทรง อก เอว และสะโพกกลมกลึง ก้นงอนจนนึกอยากฟาดมือตีอย่างมันเขี้ย
ดวงตาคมกริบเหมือนใบมีดโกนนั้น กวาดมองทั่วร่างเธออย่างสำรวจ ก่อนจะนั่งบนโซฟา นั่งนิ่งๆ จ้องมองร่างเล็กที่อยู่ในชุดแซกสั้น พอนั่งกับพื้นแบบนี้ชายกระโปรงก็ร่นไปถึงโคนขา ที่ทั้งเรียวสวยและขาวกระจ่างตา แล้วไหนจะท่านั่งที่ก้มหน้าตัวงอ คอเสื้อที่คว้านลึกอยู่แล้วก็ยิ่งลึกลงไปจนเห็นเต้าอวบขาวนวลลออตาชินภพถึงกับพรูหายใจเพื่อระงับความรู้สึกพลุ่งพล่านภายใน ทั้งจากความโกรธ และอารมณ์บางอย่างที่จู่ๆ ก็พวยพุ่งขึ้นมาอย่างไม่ทันเตรียมใจ ทว่าเสียงที่เปล่งออกมาคำแรกในตอนนี้“เธอแต่งตัวบ้าอะไรเนี้ย!”ร่างเล็กถึงกับสะดุ้ง ยิ่งก้มหน้างุดลงไปอีก แน่นอนคอเสื้อก็ลึกตาม จนจะเห็นทั้งเต้าอยู่แล้ว“เงยหน้าขึ้น แล้วตอบฉันมา!”อัณชญาสะดุ้งอีกครั้ง แล้วค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองผู้ชายที่หล่อเหมือนฟ้าประทาน แต่ก็ช่างดุเหลือเกิน แล้วเธอก็เอ่ยเสียงตะกุกตะกัก“คือ...เอ่อ...หนู....คือ....”“คืออะไร!” ชินภพตะเบ็งเสียงใส่อย่างหงุดหงิด เพราะโมโหกับความอ้ำอึ้งของเด็กสาว“หนูอยากแซ่บค่ะ”“หา อะไรนะ!”“พี่นุ่มบอกว่านายชอบผู้หญิงแซ่บ หนูเลยให้พี่นุ่มหาชุดแซ่บๆ และแต่งหน้าให้หนูค่ะ” เธอสารภาพไปตรงๆ เผื่อนายจะเลิกโมโหเสียที แต่ดูเหมือน
อัณชญาเป็นเด็กดี “จะรีบไปไหน” เสียงห้าวทุ้มถามขึ้น เมื่อเห็นลูกน้องคนสนิทกำลังเดินลงมาจากอาคารสำนักงานภายในบริเวณไร่ ที่มีโรงงานผลิตไวน์รวมอยู่ด้วย ส่งออกทั้งในและต่างประเทศ“จะไปโรงเรียนนังอัณ”“ไปทำไม นี่ยังไม่ถึงเวลาเลิกเรียนไม่ใช่เหรอ” มันเพิ่งจะบ่ายโมง จริงๆ แล้วเด็กคนนั้นไปโรงเรียนเองได้ แต่ต้องเดินไปขึ้นสองแถวที่อยู่ห่างจากตัวบ้านค่อนข้างไกล เขาเลยให้พล หรือคนขับรถไปรับส่งอีกฝ่าย“พอดีมีเรื่องนิดหน่อย” พลตอบด้วยสีหน้าลำบากใจ“มีเรื่องอะไร”“นังอัณทะเลาะกับเพื่อนที่โรงเรียนครับ”“เรื่องแค่นี้ทำไมต้องเรียกผู้ปกครอง เด็กทำผิดครูก็สั่งสอนหรือลงโทษไปสิ”“เพื่อนหัวแตก เข้าโรง’ บาลครับ ผู้ปกครองเด็กจะแจ้งความ”“เอ้า เวร! ทำไมต้องทำรุนแรงขนาดนั้น”“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ปกติอัณเป็นเด็กดี เรียบร้อย ไม่เคยหาเรื่องใครก่อนนะครับนาย” พลกลัวว่าผู้เป็นนายจะคิดว่าหลานสาวเป็นเด็กเกเร และอาจไม่อยากให้อยู่ด้วยแล้ว“หลานมึงเป็นเด็กดีว่างั้นเหอะ”“ก็ที่ผ่านมาอัณก็ไม่เคยมีเรื่องมีราวกับใครมาก่อนนะครับ คิดว่าเด็กคนนั้นต้องมาหาเรื่องอัณก่อนแน่นอน”“งั้นรีบไปดูหลานคนดีของมึงเหอะ!” ชินภพพูดประชดก่อนโบ
“นายสั่งไม่ให้เอาหน้าไปให้เห็นไม่ใช่เหรอ มึงก็ทำตามเถอะ อย่าหาเรื่องใส่ตัวอีก กูเหนื่อยแล้วนะ”“หนูแค่อยากขอบคุณ”“เออ เข้าใจ แต่มึงอยู่เฉยๆ เถอะ และอย่าไปก่อเรื่องไรอีก แค่นี้นายก็คงพอใจแล้ว”“เขาเกลียดหนูขนาดนั้นเลยเหรอ”“ถ้าเกลียด เขาคงไล่มึงออกจากที่นี่แล้ว เอาง่ายๆ เลยนะ มึงตั้งใจเรียนหนังสือ สนใจแต่เรื่องของตัวเองพอ เรื่องนายไม่ต้องสนใจหรอก”“พี่นุ่มก็ไม่ยอมให้หนูไปทำงานบ้านที่ตึกใหญ่เลย ให้แค่รดน้ำต้นไม้โน่นเลย ไกลจากตึกใหญ่”“ก็ดีแล้ว มึงจะอยากเสนอหน้าไปให้นายเห็นอีกหรือไง เดี๋ยวนุ่มก็เดือดร้อนอีกหรอก ดีนะนายยกโทษให้ หักเงินเดือนแค่เดือนเดียว”“ที่เหลือหนูจะใช้คืนพี่นุ่มเอง”“ก็ดีเหมือนกัน มันเดือดร้อนเพราะมึงอยากแซ่บแท้ๆ”“ก็คิดว่านายจะชอบนี่” เด็กสาวพูดทำหน้าง้อใส่พล“ไม่ว่ามึงจะแซ่บหรือไม่แซ่บ เขาก็ไม่เอามึงทำเมียตอนนี้หรอก”“หนูไม่สวยเหรอ”“มึงเป็นเด็ก นายไม่ชอบเด็ก!” พูดจบ พลก็เบื่อจะคุยกับหลานสาว เลยเดินลงบันไดกลับตึกใหญ่ไปเลย ปล่อยอัณชญาพึมพำอยู่คนเดียว“คนเรามันก็ต้องโตสักวันไหมล่ะ!”หลังจากเหตุการณ์ไอ้ฟีลหัวแตก สถานการณ์ที่โรงเรียนก็เป็นปกติ แต่เพื่อนที่มีน้อยอยู่แล้ว
ต่อไปนี้นอกจากจะไม่ต้องเสนอหน้าไปให้เขาเห็น ต้องอย่าออกไปไหนคนเดียวเพิ่มอีกกระทงหวังว่าคงไม่มีอะไรเพิ่มเติมมากกว่านี้นะเมื่อกลับมาถึงบ้าน นายผู้มีใบหน้าหล่อเหลาและแสนเย็นชานั้น ก็ไม่พูดไม่จาอะไรอีก เหมือนพาฝุ่นไรที่เกาะหลังคารถกลับบ้านมาด้วยเมื่อเดินกลับมายังเรือนพัก ซึ่งตอนนี้ไม่มีคนอยู่ เพราะป้าหมายกับนุ่มจะกลับเรือนพักประมาณสองทุ่มครึ่ง แต่นี่เพิ่งสองทุ่มเอง และเจ้านายก็เพิ่งกลับอัณชญาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า นั่งทำการบ้านอยู่ตามลำพัง กระทั่งทุกคนกลับเรือนพัก รวมทั้งน้าพลของเธอด้วย อีกฝ่ายเรียกเธอไปสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น หลังจากได้ยินจากเจ้านายมาบ้างแล้วพลก็อยากต่อว่าหลานสาว เพราะเพิ่งเกิดเรื่องที่โรงเรียนไปแท้ๆ ดันมีเรื่องไอ้เสี่ยโตเข้ามาอีก แต่พอเห็นหน้าเศร้าๆ ก็เลยได้แต่บ่นไม่จริงจังนัก“ดวงมึงตกแน่ๆ เลยนังอัณ มีแต่เรื่อง”“หนูก็ว่างั้นแหละ เดินอยู่ดีๆ ก็เจอไอ้เสี่ยโต มันจะจับหนูขึ้นรถหน้าตาเฉย ถ้าหนูไม่สะบัดมือจนมันล้ม ป่านนี้หนูอาจถูกปู้ยี่ปู้ยำแล้วก็ได้ ฮือๆ” เจ้าตัวก็สะอื้นขึ้นมาเบาๆ“เออๆ มึงไม่เป็นไรแล้ว ไม่ต้องร้อง เดี๋ยวพรุ่งนี้พาไปทำบุญที่วัด”“นุ่มไปด้วยนะพี่พล” นุ่
ดวงตกอย่างแรก เพราะเป็นวันหยุดยาว เจ้านายเข้ากรุงเทพฯ คนงานในบ้านหลายคนก็มีโอกาสได้ออกเที่ยว เธอก็เช่นกัน วันนี้นัดกับนุ่มจะเข้าไปเมืองไปหาซื้อของใช้ และเดินเล่นเตร็ดเตร่ ชอบที่สุดคือตลาดนัดกลางคืน สองสาวเพลิดเพลินกระทั่งท้องไส้ปั่นป่วนจึงหาร้านอาหารที่ไม่ไกลจากตลาด“กินซาบูกันนะพี่ อัณเลี้ยงเอง”“โห รวย”“ก็ไม่รวย แต่หนูก็ได้เงินเดือนไง”“อ๋อ ลืมไป ยังไงอัณก็ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงของนาย เงินเดือนเยอะกว่าพี่อีก”พอนุ่มพูดถึงนาย อัณชญาก็ยิ้มเศร้า เพราะตั้งแต่วันเกิดเรื่องที่ประตูซุ้มดอกไม้ทางเข้าออกตึกส้ม เธอก็ไม่เคยได้เจอหน้าชินภพอีกเลย อยู่แบบเจียมตัวและใจ แทบจะขังตัวเองอยู่บนเรือนพัก อยากยืดแข้งยืดขาก็ออกมาเดินรอบๆ บ้าน ไม่กล้าเฉียดใกล้ตึกใหญ่ หรือตึกส้ม เพราะกลัวจะมีเหตุหรือเรื่องร้ายต่างๆ ให้เขาให้เขาหัวเสีย เพราะหากเกิดเรื่องขึ้นอีกครั้ง นายอาจเฉดหัวเธอออกจากบ้านก็ได้“ตอนแรกหนูก็เกรงใจนะ เขาให้เงินเดือน ทั้งที่หนูไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเองเลย แต่น้าพลบอกว่าเก็บไว้สำหรับการเรียนต่อม’ หาลัย” เพราะอีกเดือนเดียวก็จบแล้วมัธยมปลายแล้วทั้งสองพากันไปกินซาบูอย่างเอร็ดอร่อย ตามด้วยขนมหวานอีก
จะเป็นเด็กดีของนายอัณชญาเดินออกจากห้องสอบพร้อมกับแตงกวาด้วยความโล่งใจ เพราะเป็นการสอบครั้งสุดท้ายในชีวิตเด็กมัธยมของทั้งสอง จากนั้นก็นอนรอผลสอบ และผลแอดมิดชั่นที่เธอเลือกไว้ถึงห้าอันดับ ทั้งในมหาวิทยาลัยในตัวจังหวัดและในกรุงเทพฯ ส่วนในกรุงเทพฯ ไม่คิดว่าจะติด เพราะเป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของเมืองไทย หรือถ้าสอบติดก็ไม่รู้จะได้ไปเรียนไหม ทุกอย่างขึ้นกับชินภพ เพราะเธอเป็นคนของเขาไปแล้ว ถึงจะอยู่ในตำแหน่งนางบำเรอที่ยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ก็เถอะ“ฉลองสอบเสร็จ กินหมูทะกันไหม” แตงกวาชวน“เอาสิ แต่ขอโทร. บอกน้าพลก่อนนะ”เธอขออนุญาตน้าชายเรียบร้อย ซึ่งอีกฝ่ายกำชับ ห้ามกลับเกินสองทุ่ม และอัณชญาก็รับปากเป็นมั่นเหมาะ แต่ขณะเดินพ้นบริเวณโรงเรียนมาเล็กน้อย“อัณ!”เสียงเรียกที่แสนคุ้นหูนั้นทำให้เธอหันขวับไปมองด้วยสีหน้าหวาดหวั่น“อัณ สบายดีนะ พ่อคิดถึงลูกมากๆ เลย” อาทิตย์โผกอดลูกสาว โดยไม่สนใจท่าทีหวาดๆ ของคนเป็นลูก เพราะเมื่อใดที่พ่อพูดจาไพเราะกับเธอแบบนี้ มันผิดปกติ บ่งบอกว่าอีกฝ่ายต้องการบางอย่างจากเธอ ไม่ต่างจากตอนที่เกลี้ยกล่อมพาเธอมาขายให้ชินภพ แต่ตอนนั้นเธอยอม เพราะพ่อขู่ว่าจะขายให้ไอ้เสี่ย
คำสั่งนายอัณชญาดีใจกรี๊ดลั่นบ้าน เมื่อผลสอบแอดมิดชั่นออกมาว่าเธอสอบติดทุกอันดับที่เลือก“เป็นไรวะอัณ” นุ่มโผล่หน้าเข้ามาในห้องเพื่อถามไถ่ ขณะนั่งดูละครรอบดึกอยู่ในโถง สีหน้าก็ดูตกใจกับเสียงกรี๊ดของอัณชญาอยู่ไม่น้อย ดีที่ว่าป้าหมายหลับไปแล้ว“อัณสอบเข้ามหา’ ลัยได้แล้วพี่นุ่ม”“แล้วติดที่ไหน”“ติดทุกอันดับที่เลือก ทั้งกรุงเทพฯ และในตัวจังหวัด”“แล้วอัณจะเลือกเรียนที่ไหนล่ะ”“คงต้องถามน้าพลดูก่อน”“แล้วอัณอยากเรียนที่ไหนล่ะ”“เมื่อก่อนอยากเรียนที่กรุงเทพฯ มหา’ ลัยอันดับต้นๆ ของเมืองไทย แต่ตอนนี้หนูอยากเรียนในตัวเมือง ไม่อยากไปจากที่นี่”“ยังไงก็ต้องถามนายก่อนหรือเปล่า ว่าเขาจะให้เรียนที่ไหน เพราะยังไงอัณก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียนายนะ”“ไม่ใช่เมีย แค่นางบำเรอกำมะลอเท่านั้น” อัณชญาแก้ต่างให้“จะเมียหรือนางบำเรอก็คือๆ กันนั่นแหละ เขาจ่ายเงินเดือนให้นี่หว่า แต่ถ้าอัณอยากเรียนที่นี่ ก็ไม่น่าจะเป็นไรนะ กรุงเทพฯ มันไกลไป อัณไปเรียนที่นั่น พี่ก็คงเหงา”“เมื่อก่อนก็อยู่ได้นี่พี่”“อ้าว นั่นเมื่อก่อน แต่ตอนนี้มีอัณมาอยู่ด้วยแล้ว ดีกว่าอยู่กับป้าหมายสองคน” ซึ่งค่ำมา ดูละครจบป้าก็สวดมนต์แล้วก็นอน ส่วนเ
“ลูกหลับแล้วเหรอ” ชินภพโผล่หน้าเข้ามาในตอนสามทุ่ม ขณะที่เธอกำลังนั่งอ่านหนังสือ ส่วนลูกชายวัยสองขวบกว่านั้นหลับไปตั้งแต่สองทุ่มลูกชายของเธอกับชินภพมีชื่อเล่นว่า ‘น้องอั๊ต’ ส่วนชื่อจริงนั้นคือเด็กชายอรรคภพ สุขวสันต์ มีตัวอักษรหน้าเหมือนแม่ และอักษรหลังตรงกับผู้เป็นพ่อตรงๆตอนนี้เธอกับลูกและชินภพมาอยู่ที่บ้านพักในไร่ เพราะอยู่ใกล้ที่ทำงาน ทั้งไร่และรีสอร์ต สะดวกสำหรับชินภพ เวลาที่เขากลับดึก บางวันเขาก็มากินมื้อเที่ยงกับเธอ บางครั้งอัณชญาก็พาลูกชายไปกินมื้อเที่ยงหรือค่ำในรีสอร์ต เป็นความสะดวกสบายและได้อยู่ใกล้ชิดกันมากกว่าอัณชญาจึงชอบที่จะอยู่ที่บ้านพักในไร่มากกว่าบ้านใหญ่วางหนังสือลง แล้วเดินไปหาอ้อมแขนของเขา เพราะช่วงนี้ที่รีสอร์ต ค่อนข้างยุ่ง มีทัวร์จากต่างประเทศมาลงแทบทุกวัน ชินภพจึงเข้าไปช่วยต้อนรับแขกวีไอพีบางกลุ่ม เลยทำให้บางวันกลับดึก ไม่ทันกลับมาอ่านนิทานให้ลูกฟัง“เราไปขับรถดูดาวในไร่กันดีกว่า”“แน่ใจนะคะว่าแค่อยากดูดาวเฉยๆ” เธอถามพร้อมกับมองตาเขาอย่างรู้ทัน เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สามีชวนไปนั่งรถดูดาวที่กลางไร่“แน่นอนดูอย่างอื่นด้วยสิ” เขาบอกแล้วยิ้มใส่ดวงตารู้ทันของภรรยา
ตอนพิเศษ : ร้อนแรงอัณชญารู้สึกชินเสียแล้ว เมื่อให้นมลูกชายคนแรกซึ่งตอนนี้ใกล้จะสามเดือนแล้ว ผู้เป็นสามีชอบนั่งมองตาเป็นประกาย ครั้นลูกอิ่ม และเธอวางเจ้าตัวเล็กลงเปล ชินภพจะเข้ามาคลอเคลีย ดูดเลียหน้าอกเธออย่างหลงใหล ทำให้เธอวาบหวิวจนเผลอครางเสียงดัง จากนั้นก็พากันไปอยู่ในห้องแต่งตัว แล้วมีเซ็กซ์กันอย่างเร่าร้อนอัณชญาไม่แน่ใจว่าธรรมชาติของตนเอง หรือเพราะฮอร์โมนคนหลังคลอด เธอต้องการเซ็กซ์มากกว่าเดิมด้วยซ้ำตั้งแต่แผลคลอดหายดี เธอกับเขาก็มีอะไรกันแทบทุกวัน ปรนเปรอกันและกันจนต่างฝ่ายต่างหมดแรง เพราะตอนนี้ลูกชายอายุสามเดือนแล้ว เขาไม่ตื่นตอนกลางคืน ตื่นอีกครั้งตอนใกล้ฟ้าสาง หรือบางวันก็เช้าตรู่อัณชญาเลี้ยงลูกเองในตอนกลางคืน ส่วนกลางวันมีเด็กรับใช้กับนุ่มช่วยดูแล ตอนหลังคลอดใหม่ๆ แม้จะต้องตื่นตอนกลางคืนเพื่อให้นมลูก หรือตื่นมาปั๊มนมไว้ เธอก็ไม่รู้สึกเหนื่อย เพราะงีบหลับตอนกลางวันเผื่อไว้แล้วชินภพเองจะช่วยดูแลตอนกลางคืน ในวันที่รุ่งเช้าเขาไม่ได้ไปทำงาน หรือมีงานน้อย แต่บางครั้งเขาก็หยุดยาวเป็นอาทิตย์ ซึ่งทำให้คุณแม่มือใหม่อย่างอัณชญาไม่เหนื่อย และยังเหลือเรี่ยวแรงมากพอจะใช้ทำกิจกรรมรักกับ
ตอนเย็นชินภพกลับมา หลังจากกินข้าวเสร็จ เธอกับเขานั่งคุยกันในห้องนอน"คุณภพคะ อีกหน่อยท้องหนูจะโตเรื่อยๆ”“ก็แน่นอนสิ ลูกก็โตขึ้นเรื่อยๆ” เขาพูดยิ้มๆ แล้วก้มลงจุ๊บท้องเธอ“อัณกลัวคุณภพเบื่อ”“จะเบื่อได้ยังไง เธอเป็นเมียฉันนะ และกำลังอุ้มท้องลูกของเราด้วย”“แต่เรื่องเซ็กซ์ คือ...”“คนท้องเขาไม่ได้ห้ามมีเซ็กซ์นี่ พ้นสามเดือนแล้วก็ทำได้”“แต่มันจะไม่เต็มที่เหมือนเดิม หนูกลัวคุณภพไม่ถึงใจ”“แล้ว...”“คุณภพมีนางบำเรอได้ ตอนที่หนูท้อง ไปจนถึงหลังคลอดสามเดือนได้ค่ะ”“ไม่หึงเหรอ”“ก็...หนูคิดแค่อยากให้คุณภพมีความสุข”“ขอบคุณที่นึกถึง แต่ฉันมีแค่เธอก็มีความสุขแล้ว ไม่ต้องคิดว่าตัวเองจะตอบสนองไม่ได้เท่าเดิม เราทำเท่าที่ทำได้ และอีกอย่างเรื่องเซ็กซ์เนี่ย ฉันเต็มที่มาตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงตอนมาเจอเธอ ตอนนี้ฉันเพลาๆ ลงแล้ว อยากโฟกัสเธอกับลูก และงานฉันก็ยุ่งมากพอแล้ว”“คุณภพแน่ใจนะคะว่าโอเค” ถึงจะบอกให้อีกฝ่ายมีนางบำเรอเหมือนเมื่อก่อนได้ แต่ลึกๆ ก็ยอมรับว่าหวงสามีมาก กลัวเขาจะติดใจนางบำเรอจนลืมเธอกับลูก“เธอเห็นฉันเป็นตาแก่ตัณหากลับหรือไง แค่มีเธอ ฉันก็โอเคมากๆ แล้ว”“แน่ใจนะคะ” เธอยังถามย้ำ“อือ...เดี
หกเดือนผ่านไป...เมื่อรู้สึกตัวตื่นอัณชญาก็รู้สึกพะอืดพะอมจนลุกจากที่นอนตรงไปยังห้องน้ำทันที อาเจียนออกมาจนไม่เหลืออะไรในท้อง แล้วมานอนทิ้งตัวบนเตียง พร้อมกับลูบหน้าท้องตัวเอง“จะสามเดือนแล้วนะลูก ให้แม่หายจากแพ้ท้องเถอะนะลูกรัก” ถึงจะแพ้แค่ช่วงเช้าที่ตื่นนอนเท่านั้น แต่อัณชญาก็รู้สึกอ่อนเพลียทุกครั้งหลังอาเจียน ดีว่าไม่เวียนหัวเสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับที่นุ่มยกถาดอาหารเช้ามาวางบนโต๊ะ ตรงมุมนั่งเล่น“วันนี้ยังอาเจียนอยู่เหรอ”“ค่ะ”“ไม่เป็นไร สามเดือนแล้ว สักพักน่าจะดีขึ้น”อัญชญาเดินมานั่งโต๊ะ มองอาหารด้วยสีหน้าแช่มชื่น แม้จะยังไม่หายจากอาการแพ้ท้อง แต่เธอก็ยังกินได้ปกติ และอาหารเช้าวันนี้คือข้าวต้มทะเล ส่วนผลไม้คือองุ่นกับฝรั่ง ของโปรดเช่นกัน แต่เพื่อร่างกายได้สารอาหารให้เพียงพอ ชินภพก็สั่งแม่ครัวกับนุ่มให้ดูแลเรื่องอาหารการกินของเธอให้ครบและหลากหลาย ทว่าไม่มากเกินไปอาหารและเครื่องดื่มบางอย่างไม่ดีต่อสุขภาพและเด็กในท้องก็งด หรือกินให้น้อยเช่นกัน เช่นเครื่องดื่มชงหวาน ชา กาแฟ และขนมหวานต่างๆ กินได้ แต่อย่ากินเยอะวันนี้ก็เหมือนทุกวัน ชินภพตื่นและไปทำงานตั้งแต่เช้าก่อนเธอตื่น แ
บทส่งท้ายเมื่อออกจากห้องสอบ แทนที่จะออกไปกินเลี้ยงฉลองกับเพื่อนๆ แต่อัณชญาก็รีบกลับห้องพัก เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงชินภพจะมาถึงแล้วตลอดเวลาของการเรียนปีสุดท้าย ถึงเขาจะสัญญาว่ามาหาทุกเดือน แต่บางเดือนชินภพก็ปลีกตัวมาไม่ได้ ครั้งสุดท้ายที่เจอกันก็คือสองเดือนก่อน ตอนนี้อัณชญาจึงอยากเจอเขามากที่สุดถึงจะวิดีโอคอลกันเกือบทุกวัน แต่อย่างไรมันก็ไม่เหมือนได้เจอตัวเป็นๆ อยู่ดีพอลิฟต์เปิด ก้าวออกมายังห้องโถง เธอก็สะดุ้ง เพราะเห็นร่างของคนที่กำลังคิดถึงนั่งอยู่บนโซฟาเรียบร้อยแล้วอัณชญายิ้มกว้างแล้วถลาเข้าไปกอด ซึ่งชินภพก็กางแขนรอรับอยู่แล้ว“คิดถึงคุณภพจังเลย” เมื่อหลายเดือนก่อน เขาเพิ่งบอก ไม่ให้เธอเรียกเขาว่า ’นาย’ อีกต่อไป เพราะต่อไปนี้เธอจะเป็นภรรยาของเขาแล้ว“ฉันก็คิดถึงเธอมาก”“ไหนว่าจะมาตอนห้าโมงไงคะ นี่เพิ่งจะสามโมงกว่าๆ เอง”“พอดีงานเสร็จเร็ว ก็เลยเปลี่ยนไฟทล์น่ะ”“ดีจัง คุณภพหิวหรือยัง หนูจะทำอะไรให้กิน ตอนว่างๆ หนูหัดทำอาหารได้ตั้งหลายเมนูแน่ะ” เธออวด เพราะถึงบ้านจะมีแม่ครัวฝีมือดี แต่การได้ทำอาหารเป็นบ้าง ก็น่าจะดี“หิว แต่ไม่ใช่ข้าวนะ”“คุณภพ ตอนนี้เลยเหรอคะ” เธอถามตรงๆ เพราะรู้ว่
ญาติผู้พี่ก็ตั้งแง่ทันทีว่าไม่เหมาะกับเขา แต่ชินภพก็ไม่ได้สนใจ เพราะอยู่มาขนาดนี้แล้ว ไม่มีใครมาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขาได้ แม้แต่ญาติ ก็ไม่มีสิทธิ์ ทางออกเพื่อไม่ให้ญาติผู้พี่มากังวลเรื่องของเขา ก็คือการโยนเรื่องอื่นให้ไปกังวลแทน ซึ่งเรื่องของลูกชายสุดที่รัก...น่าจะดีที่สุดคิดว่าตอนนี้รำไพคงไม่คิดเรื่องของเขาแล้ว แต่คงกลัวว่าลูกชายจะชอบอัณชญามากกว่า เพราะตอนนี้ก็คอยชำเลืองไปยังทั้งสอง ที่นั่งคุยกัน แถมมีหัวเราะเสียงดังกันอีก บางจังหวะยังเอาหัวจุ่มกันเพื่อดูอะไรในโทรศัพท์ของกันและกันคิ้วญาติผู้พี่เลยขมวดเข้าหากันจนจะผูกเป็นโบได้อยู่แล้ว“พี่ว่าเด็กนั่นก็น่ารักดี แต่เหมาะกับแกมากกว่าลูกชายพี่”“ก็ของมันแน่อยู่แล้ว” แล้วชินภพก็หัวเราะเบาๆเมื่องานเลี้ยงเลิกรา เขาก็พาอัณชญากลับไปยังคอนโดฯ ทันที“แม่พี่พีทดูน่ากลัวเหมือนกันนะคะ มองอัณเหมือนเครื่องสำรวจเลย”“ใช่ น่ากลัวมาก” ชินภพเห็นด้วยทันทีกับคำพูดของเธอ“โห ใครเป็นแฟนพี่พีท เจอหน้าคงจะเกร็งจนตัวแข็ง”“ใช่ เธอโชคดีแล้วที่ไม่ต้องเจอแม่ผัวแบบนั้น”“ถ้าพ่อแม่นายอยู่ ก็ดีสิคะ หนูจะได้ไปฝากตัว”“พ่อแม่ฉันก็ไม่ต่างจากแม่เจ้าพีท”“จริงเหรอ
แฟนคลับส่วนใหญ่เข้าใจและเห็นใจ แต่บางกลุ่มก็บอกผิดหวังกับนางเอกที่มีภาพลักษณ์ที่ดีมาตลอดคืนนั้นปาลินโทร. มาหาชินภพ บอกว่าทางครอบครัวตัดขาด และให้เธอไปใช้ชีวิตต่างประเทศ“แล้วปลาตัดสินใจยังไง”“ปลาก็ต้องไปค่ะ ก็ดีเหมือนกัน ต่อไปนี้ปลาถือว่าได้ออกจากครอบครัวแล้ว คิดในแง่ดี ปลาก็ได้ใช้ชีวิตอิสระ ถ้าคิดในแง่ร้าย ปลาก็ไม่เหลือใครในครอบครัวอีกแล้ว”“ถ้าปลาไม่อยากไปเมืองนอก ก็มาอยู่ที่รีสอร์ตสุขวสันต์ก็ได้” เขาเอ่ยชวน เพราะคิดว่าส่วนหนึ่งเพราะตัวเขา ไอ้เสี่ยโตถึงเข้าหาปาลิน“ขอบคุณค่ะ แต่ปลาอยากจะไป อย่างน้อยที่เมืองนอกคงไม่มีใครรู้จักปลา เว้นเสียแต่ว่าบังเอิญเจอคนไทยด้วยกัน”“ถ้าปลาตัดสินใจแบบนั้นแล้ว ก็ขอให้โชคดีนะ”“แต่ปลาคงต้องพาพีไปด้วยค่ะ คุณภพไม่ว่าอะไรนะคะ”“ไม่ว่าครับ ให้เป็นการตัดสินใจของพีเอง”“ขอบคุณค่ะคุณภพ ขอให้มีความสุขกับคนที่คุณภพรักนะคะ”“ขอบคุณครับ ปลาเองก็เหมือนกัน” เขาไม่รู้ความสัมพันธ์ของปาลินกับพีรวัชเป็นไปในรูปแบบไหน แค่เซ็กซ์ หรือมากกว่านั้น เพราะพลเพิ่งมาบอกว่าพีรวัชเคยรู้จักกับปาลินสมัยทั้งสองยังเป็นวัยรุ่นและความสัมพันธ์ของปาลินกับพีรวัชคงเริ่มต้นตั้งแต่ตอนนั้น
สองสัปดาห์ต่อมา...ชินภพไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อมีข่าวใหญ่ในหน้าสื่อเกือบทุกสำนัก ว่าไอ้เสี่ยโต หรือไอ้มิก ถูกยิงเสียชีวิตในป่า ขณะเดินทางลักลอบจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในไทยการตายของมันเหมือนถูกตัดตอน แต่เขาคิดว่าเพราะธุรกิจของมันเกี่ยวโยงกับอิทธิพลของคนมีสี ที่ให้ความช่วยเหลือเรื่องเปิดผับและบ่อนมากกว่า เขาจึงไม่ได้สนใจ แถมรู้สึกโล่งใจเสียด้วยว่าศัตรูของเขาได้หายไปจากโลกนี้แล้ว เพราะคนชั่วอย่างมัน อยู่ไปก็ทำแต่เรื่องเลวๆอัณชญาเองพอได้เห็นข่าว ก็สาปแช่งมันให้ลงนรกเช่นกัน สำหรับเขาและอัณชญาถือว่าเรื่องของมันได้จบไปแล้ว แต่จู่ๆ อัญชญาก็โพล่งขึ้นเหมือนนึกขึ้นได้“นาย หนูลืมบอก”“เรื่อง”“ตอนหนูไปทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านอาหารมัน หนูแอบถ่ายคลิปตอนที่มันมีอะไรกับพี่ปลาด้วย แต่หนูไม่ได้ให้ใครดูนะคะ ตอนนั้นหนูแค่บังเอิญเห็น แล้วแอบถ่ายไว้ ตอนแรกคิดว่าจะส่งให้นายจะได้รู้ว่าโดนสวมเขา แต่หนูก็ไม่ได้ส่ง”“มันน่าตีจริงๆ”“ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ส่งให้นาย เพราะตอนหลังหนูคิดได้ว่าไม่ควรยุ่งเรื่องนายอีก”“ไม่ใช่เรื่องนั้น ที่น่าตี เพราะเธอกล้าเกินไป ที่ไปถ่ายตอนนั้น นั่นไอ้เสี่ยโตนะ”“ตอนนั้นหนูยังไม่ร
ว่าที่เจ้าสาว ในตอนบ่ายอัณชญาจัดเสื้อผ้าและข้าวของเรียบร้อย โดยมีนุ่มช่วย จากนั้นสองสาวก็พากันปาร์ตี้หมูกระทะ อัณชญาได้ชวนแตงกวามาด้วย รวมทั้งคนรับใช้ในตึกใหญ่ ซึ่งดูเหมือนทุกคนจะรู้แล้วว่าเธอกับนายนั้นกลับมาคืนดีกัน คนรับใช้ในตึกคิดว่าเธอกับนายมีอะไรกันตั้งแต่เธอไปเรียนกรุงเทพฯ การที่เห็นเธอย้ายเข้าไปอยู่ตึกใหญ่กับนายก็เลยไม่แปลกใจมาก“มิน่านายถึงให้สาวๆ ตึกส้มออกไปจนหมด” แนนพูด“อะไรนะ นายให้ผู้หญิงตึกออกไปอยู่ที่อื่นเหรอ” อัณชญาถามขึ้นอย่างตกใจ เพราะชินภพไม่เห็นบอกเธอเรื่องนี้เลย“ใช่ อาทิตย์ก่อนนี่เอง เลิกจ้างแล้ว”“พี่นุ่มไม่เห็นบอกหนูเลย” อัณชญาหันไปทางนุ่ม“พี่ก็อยากเซอร์ไพรส์เราไงล่ะ”“เซอร์ไพรส์มากค่ะ”“ตอนนี้นายเป็นของอัณคนเดียวแล้วนะ ดูแลนายให้ดี”“ไม่มีคนมาแบ่งวันด้วย ฮ่าๆ” แนนพูดแล้วหัวเราะร่วน คนอื่นๆ ก็เลยแซวอัณชญากันใหญ่ จนอัณชญาเขินหน้าแดง“ไหวไหมอัณ” แตงกวาถามเพื่อนด้วยความห่วงใย แต่มียิ้มขำ“ไหวสิ” อัณชญาตอบหน้าตาเฉย ทำทุกคนแซว“อู้ย อย่าหักโหมมากนะ นายแก่แล้ว” นุ่มแซว“ใครแก่เหรอ”“เฮ้ย พี่พลน่ะ นุ่มตกใจหมดเลย” เจ้าตัวหันไปตวาดคนรัก ที่จู่ๆ ก็โผล่เข้ามาในวง