ดวงตกอย่างแรก
เพราะเป็นวันหยุดยาว เจ้านายเข้ากรุงเทพฯ คนงานในบ้านหลายคนก็มีโอกาสได้ออกเที่ยว เธอก็เช่นกัน วันนี้นัดกับนุ่มจะเข้าไปเมืองไปหาซื้อของใช้ และเดินเล่นเตร็ดเตร่ ชอบที่สุดคือตลาดนัดกลางคืน สองสาวเพลิดเพลินกระทั่งท้องไส้ปั่นป่วนจึงหาร้านอาหารที่ไม่ไกลจากตลาด
“กินซาบูกันนะพี่ อัณเลี้ยงเอง”
“โห รวย”
“ก็ไม่รวย แต่หนูก็ได้เงินเดือนไง”
“อ๋อ ลืมไป ยังไงอัณก็ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงของนาย เงินเดือนเยอะกว่าพี่อีก”
พอนุ่มพูดถึงนาย อัณชญาก็ยิ้มเศร้า เพราะตั้งแต่วันเกิดเรื่องที่ประตูซุ้มดอกไม้ทางเข้าออกตึกส้ม เธอก็ไม่เคยได้เจอหน้าชินภพอีกเลย อยู่แบบเจียมตัวและใจ แทบจะขังตัวเองอยู่บนเรือนพัก อยากยืดแข้งยืดขาก็ออกมาเดินรอบๆ บ้าน ไม่กล้าเฉียดใกล้ตึกใหญ่ หรือตึกส้ม เพราะกลัวจะมีเหตุหรือเรื่องร้ายต่างๆ ให้เขาให้เขาหัวเสีย เพราะหากเกิดเรื่องขึ้นอีกครั้ง นายอาจเฉดหัวเธอออกจากบ้านก็ได้
“ตอนแรกหนูก็เกรงใจนะ เขาให้เงินเดือน ทั้งที่หนูไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเองเลย แต่น้าพลบอกว่าเก็บไว้สำหรับการเรียนต่อม’ หาลัย” เพราะอีกเดือนเดียวก็จบแล้วมัธยมปลายแล้ว
ทั้งสองพากันไปกินซาบูอย่างเอร็ดอร่อย ตามด้วยขนมหวานอีกจนอิ่มแปล้ กำลังจะเรียกรถแท็กซี่กลับบ้าน แต่อัณเหลือบไปเห็นสาวสวยร่างอ้อนแอ้นที่หน้าอกหน้าใจล้นเสื้อครอปสั้น แค่ปิดอกอวบไว้เท่านั้น กับกางเกงขาสั้นเสมอจิ๋ม
“นั่น พี่คนนั้นเป็นเมียนายนี่นา” เธอจำผู้หญิงที่จูบเร่าร้อนที่ริมสระกับนายได้ โดยเฉพาะอกอวบคู่นั้น
“เออจริง นั่นยัยพริ้มคนโปรดของนายนี่หว่า แล้วนั่นเดินโอบไหล่กับหนุ่มหล่อที่ไหนวะ”
“กำลังจะขึ้นรถไปด้วยกัน”
“ถ่ายรูปไว้” นุ่มสั่งอัณชญา ซึ่งอีกฝ่ายถือโทรศัพท์อยู่ในมือ ก็กดถ่ายไว้ทันที จังหวะมีแท็กซี่มาส่งคนพอดี ทั้งสองก็รีบโบก แล้วบอกให้ตามรถเก๋งสีขาวไป
“พี่นุ่ม เราจะตามเขาไปจริงๆ เหรอ”
“เออสิ คบชู้แบบนี้ต้องฟ้องนาย”
“เขาอาจเป็นเพื่อน พี่น้องกันก็ได้นะ”
“เพื่อนอะไร โอบบ่าขึ้นรถขนาดนั้น”
แท็กซี่ขับตามมากระทั่งรถเก๋งสีขาววิ่งเข้าไปในบริเวณโรงแรม
“เข้าไปข้างในเลยไหมครับ” คนขับแท็กซี่ถาม
“จอดด้านหน้าก็พอ” แล้วนุ่มก็จ่ายค่ารถ แล้วตามเข้าไปในโรงแรม ทันพอจะเห็นนางบำเรอคนโปรดของนายควงแขนหนุ่มเข้าไปในลิฟต์
อยากจะตามไปดูให้เห็นชัดๆ แต่อัณชญาก็ดึงมือไว้
“พี่จะขึ้นไปไม่ได้นะ”
“อยากรู้ชัดๆ น่ะ”
“หนูถ่ายรูปตอนเขาเข้าลิฟต์ด้วยกันได้ แค่นี้ก็พอแล้ว กลับเถอะค่ะ” อัณชญาบอก สีหน้าเริ่มไม่ค่อยสู้ดี เพราะนี่ก็ค่ำมากแล้ว กลับดึกไปก็คงไม่ดี
“อือ กลับก็ได้”
เมื่อกลับมาถึงบ้าน นุ่มก็โทร. บอกพลทันที รวมทั้งส่งภาพที่อัณชญาถ่ายไว้ให้อีกฝ่าย ซึ่งพลไม่ได้ไปกรุงเทพฯ กับนาย แต่ปักหลักอยู่ไร่เพื่อดูแลความเรียบร้อยระหว่างวันหยุดยาว
“เดี๋ยวจะบอกนายเอง พวกมึงสองคนไม่ต้องยุ่งเรื่องนี้แล้วนะ ถ้านายรู้ว่าพวกมึงตามมันไปถึงโรงแรม จะโดนด่าเอา โดยเฉพาะนังอัณ ความผิดมันหลายกระทงแล้วนะ”
“แต่เรื่องนี้เราช่วยนายนะ” นุ่มเถียง
“เออๆ กูรู้ว่าพวกมึงหวังดี แต่นายจะเข้าใจไหม ก็อีกเรื่อง ที่สำคัญมึงสองคนกลับบ้านเกือบสี่ทุ่มเลยนะ”
“ก็เพราะตามนังพริ้มไปไง เลยกลับดึก”
“เที่ยวเพลินมากกว่า อย่ามาแก้ตัว พรุ่งนี้ไม่ต้องออกไปไหนแล้วนะ” พลสั่งแล้วก็ตัดสายไปทันที
“โห พี่พล ดุพอๆ กับนายเลย” นุ่มบ่น
“ถ้านายรู้ คงไม่โมโหเราใช่ไหม” อัณชญากังวลใจ เพราะหากเขาไม่พอใจอีก เธออาจระเห็จออกจากบ้านนี้
“ไม่น่านะ เพราะเราช่วยนายไม่ให้นังพริ้มมันสวมเขานายไง”
ในวันรุ่งขึ้นพลก็มาหาทั้งสอง พร้อมกับคำฝากจากนาย ที่ตอนนี้ยังพักผ่อนอยู่ที่กรุงเทพฯ
“มึงสองคนไม่ต้องออกไปไหนช่วงวันหยุดนี้”
“อ้าว นายโกรธอีกแล้วเหรอ”
“นายไม่พอใจที่พวกมึงสองคนตามนังพริ้มไปถึงโรงแรม”
“ทำคุณบูชาโทษ อุตส่าห์อยากให้รู้ว่านังพริ้มมันสวมเขานาย” นุ่มทำหน้าบูด
“นายพอระแคะระคายมาบ้าง ให้คนตามเก็บหลักฐานอยู่ และที่นายไม่พอใจที่พวกมึงตามพวกมันไปถึงโรงแรม เพราะไอ้คนที่นังพริ้มเข้าโรงแรมด้วย มันก็ไม่ธรรมดา เกิดมันเห็นเข้า พวกมึงสองคนอาจโดนมันทำร้ายเอา”
“สรุป นายโกรธเพราะเป็นห่วงเหรอ” นุ่มพูดแล้วหันไปยิ้มกับอัณชญา ซึ่งเจ้าตัวก็ยิ้มตอบ
“ห่วงกะผีน่ะสิ นายกลัวพวกมึงทำเสียเรื่อง เกิดนังพริ้มไหวตัวทัน แผนการนายก็เสียหมดน่ะสิ”
“อ้าว” นุ่มทำเสียงท้อใจ ขณะที่อัณชญาก็ทำหน้าหงอย นั่นแสดงว่านายรู้อยู่แล้วว่าพริ้มกำลังสวมเขาให้ แต่วันก่อนก็เห็นนายกอดจูบลูบคล้ำขย้ำนมอีกฝ่ายอยู่แท้ๆ ไม่คิดว่านายจะวางแผนจับผิดพริ้มอยู่
“กูไปล่ะ พวกมึงก็อย่าออกไปไหน อยู่แต่ในบ้านนี่แหละ วุ่นวายดีนัก” พลทิ้งคำให้สองสาวยิ่งท้อใจ ก่อนจะลงจากเรือนไป
ส่วนนุ่มกับอัณชญานั้นก็ได้แต่บ่นไปตามเรื่อง
“สงสัยดวงพี่กับอัณคงไม่ต่างกัน ว่าแต่อัณเกิดราศีอะไรเหรอ”
“อัณเกิดราศีมีนค่ะ”
“มิน่า”
“พี่นุ่มก็เกิดราศีมีนเหมือนกันเหรอ”
“อือ...งั้นช่วงนี้พี่กับอัณก็ออกไปไหนไม่ได้ พี่ว่าเรามาสวดมนต์ ทำสมาธิกันเถอะ เผื่อดวงเราจะดีขึ้น”
“งั้นเราไปห้องพระกันดีไหม ที่นั่นมีหนังสือสวดมนต์เยอะดี”
“อือ” สองสาวเข้าไปห้องพระ ตั้งใจสวดมนต์ กระทั่งป้าหมายกลับจากตึกใหญ่มาเห็นเข้า
อย่าง
“ฟ้าดินเป็นพยาน อีนุ่มมันสวดมนต์ ขอบใจหนูอัณมากๆ ที่พามันเข้าห้องพระได้”
“พี่นุ่มเป็นคนชวนหนูเองค่ะ” อัณชญาบอก
“อ้าว เหรอ เฮ้ย ดีจริง มึงคิดเรื่องแบบนี้ได้เอง” ป้าหมายลูบหัวหลานสาวด้วยความเอ็นดู
“ป้ามีน้ำมนต์อะไรมาลูบหัวหนูกับอัณไหม หมู่นี้รู้สึกดวงไม่ดีเลย” นุ่มเอ่ยขึ้น
“มี เก็บมาจากหลายวัดเลย เดี๋ยวลูบหัวให้”
นอกจากสวดมนต์ นั่งสมาธิแล้ว ยังโดนน้ำมนต์หลายวัดลูบหัวอีก นุ่มกับอัณชญา มั่นใจว่าต่อจากนี้ดวงจะดีขึ้นแน่ๆ
ส่วนเรื่องของพริ้มนั้นสัปดาห์ต่อมา นุ่มก็มาเล่าให้ฟังว่าอีกฝ่ายถูกเฉดหัวออกจากตึกส้มเรียบร้อยแล้ว
ทีนี้นางบำเรอของนายก็ยังเหลือแค่หกคนเท่านั้น
รวมเธอด้วยก็เจ็ด...สินะ
"""""""""""""""
จะเป็นเด็กดีของนายอัณชญาเดินออกจากห้องสอบพร้อมกับแตงกวาด้วยความโล่งใจ เพราะเป็นการสอบครั้งสุดท้ายในชีวิตเด็กมัธยมของทั้งสอง จากนั้นก็นอนรอผลสอบ และผลแอดมิดชั่นที่เธอเลือกไว้ถึงห้าอันดับ ทั้งในมหาวิทยาลัยในตัวจังหวัดและในกรุงเทพฯ ส่วนในกรุงเทพฯ ไม่คิดว่าจะติด เพราะเป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆ ของเมืองไทย หรือถ้าสอบติดก็ไม่รู้จะได้ไปเรียนไหม ทุกอย่างขึ้นกับชินภพ เพราะเธอเป็นคนของเขาไปแล้ว ถึงจะอยู่ในตำแหน่งนางบำเรอที่ยังไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ก็เถอะ“ฉลองสอบเสร็จ กินหมูทะกันไหม” แตงกวาชวน“เอาสิ แต่ขอโทร. บอกน้าพลก่อนนะ”เธอขออนุญาตน้าชายเรียบร้อย ซึ่งอีกฝ่ายกำชับ ห้ามกลับเกินสองทุ่ม และอัณชญาก็รับปากเป็นมั่นเหมาะ แต่ขณะเดินพ้นบริเวณโรงเรียนมาเล็กน้อย“อัณ!”เสียงเรียกที่แสนคุ้นหูนั้นทำให้เธอหันขวับไปมองด้วยสีหน้าหวาดหวั่น“อัณ สบายดีนะ พ่อคิดถึงลูกมากๆ เลย” อาทิตย์โผกอดลูกสาว โดยไม่สนใจท่าทีหวาดๆ ของคนเป็นลูก เพราะเมื่อใดที่พ่อพูดจาไพเราะกับเธอแบบนี้ มันผิดปกติ บ่งบอกว่าอีกฝ่ายต้องการบางอย่างจากเธอ ไม่ต่างจากตอนที่เกลี้ยกล่อมพาเธอมาขายให้ชินภพ แต่ตอนนั้นเธอยอม เพราะพ่อขู่ว่าจะขายให้ไอ้เสี่ย
คำสั่งนายอัณชญาดีใจกรี๊ดลั่นบ้าน เมื่อผลสอบแอดมิดชั่นออกมาว่าเธอสอบติดทุกอันดับที่เลือก“เป็นไรวะอัณ” นุ่มโผล่หน้าเข้ามาในห้องเพื่อถามไถ่ ขณะนั่งดูละครรอบดึกอยู่ในโถง สีหน้าก็ดูตกใจกับเสียงกรี๊ดของอัณชญาอยู่ไม่น้อย ดีที่ว่าป้าหมายหลับไปแล้ว“อัณสอบเข้ามหา’ ลัยได้แล้วพี่นุ่ม”“แล้วติดที่ไหน”“ติดทุกอันดับที่เลือก ทั้งกรุงเทพฯ และในตัวจังหวัด”“แล้วอัณจะเลือกเรียนที่ไหนล่ะ”“คงต้องถามน้าพลดูก่อน”“แล้วอัณอยากเรียนที่ไหนล่ะ”“เมื่อก่อนอยากเรียนที่กรุงเทพฯ มหา’ ลัยอันดับต้นๆ ของเมืองไทย แต่ตอนนี้หนูอยากเรียนในตัวเมือง ไม่อยากไปจากที่นี่”“ยังไงก็ต้องถามนายก่อนหรือเปล่า ว่าเขาจะให้เรียนที่ไหน เพราะยังไงอัณก็ขึ้นชื่อว่าเป็นเมียนายนะ”“ไม่ใช่เมีย แค่นางบำเรอกำมะลอเท่านั้น” อัณชญาแก้ต่างให้“จะเมียหรือนางบำเรอก็คือๆ กันนั่นแหละ เขาจ่ายเงินเดือนให้นี่หว่า แต่ถ้าอัณอยากเรียนที่นี่ ก็ไม่น่าจะเป็นไรนะ กรุงเทพฯ มันไกลไป อัณไปเรียนที่นั่น พี่ก็คงเหงา”“เมื่อก่อนก็อยู่ได้นี่พี่”“อ้าว นั่นเมื่อก่อน แต่ตอนนี้มีอัณมาอยู่ด้วยแล้ว ดีกว่าอยู่กับป้าหมายสองคน” ซึ่งค่ำมา ดูละครจบป้าก็สวดมนต์แล้วก็นอน ส่วนเ
“แต่ตอนนี้หนูไม่อยากไปแล้ว”“มีเหตุผลอะไรถึงไม่อยากไป”“หนูอยากอยู่ที่นี่”“มีเหตุผลอะไรที่จะอยากอยู่ที่นี่”“หนูอยากอยู่บ้านนี้”“โอ๊ย มึงจะอยากอยู่มาก จนขัดคำสั่งนายเหรอ อยากให้นายโกรธใช่ไหม รับรองเลยนะ นอกจากมึงจะไม่ได้ไปเรียนต่อกรุงเทพฯ แล้ว มึงจะไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย” พลขู่ เพราะเหนื่อยจะโต้เถียงกับอีกฝ่าย“น้าพล ช่วยหนูด้วยสิ หนูอยากเรียนในเมืองจริงๆ นะ”“มึงจะบ้าเหรอ ใครก็ช่วยมึงไม่ได้ทั้งนั้น เรื่องนี้แล้วแต่นาย แล้วมึงเป็นอะไรเนี่ย ทำไมดื้อ คิดถึงอนาคตตัวเองไว้มากๆ เถอะ จะมาเอาแต่ใจตัวเองตอนนี้ได้เหรอ บ้านนี้มันมีอะไรดีนักหนาถึงอยากจะอยู่ ทั้งที่ไปเรียนกรุงเทพฯ มันดีที่สุดนะ”“ก็บ้านนี้มีนาย”“โอ๊ย อัณ มึงนี่นา หาเรื่องใส่ตัว คราวก่อนมึงยังไม่เข็ดใช่ไหม ก็นายบอกแล้วว่าไม่สนใจเด็กอย่างมึง มึงจะดันทุรังอยากเป็นเมียเขาเหรอ ถ้ามึงอยากมีผัวนัก ไปเรียนกรุงเทพฯ เลย ที่โน่นมีคนหน้าตาดี รุ่นราวคราวเดียวกับมึงเยอะแยะ”“หนูไม่ชอบรุ่นเดียวกันนี่”“แต่นายไม่เอาเด็กที่อายุไม่ถึงยี่สิบเป็นเมีย โดยเฉพาะมึง นายยิ่งไม่เอา”“หนูทำไม ขี้เหร่ก็ไม่ใช่”“ก็มึงดื้อไง ทำแต่เรื่อง โดยเฉพาะครั้งนี้ ถ้าน
ต้องห่างไกล สิ่งที่เร่งให้อัณชญาไม่ดื้อดึงกับการที่จะเรียนต่อมหาวิทยาลัยภายในจังหวัด เพราะพ่อพยายามติดต่อเธออีกครั้ง ด้วยการไปหาแตงกวา ขอร้องให้เธอมาพบ แต่อัณชญารู้จุดประสงค์ของพ่อว่าต้องการเอาเธอไปขายให้เสี่ยโต เธอเลยไม่ไป ทำได้แค่ฝากเงินให้แตงกวาเอาไปให้พ่อเท่านั้นเมื่อเอกสารการเรียนจบมัธยมปลายเรียบร้อย อัณชญาจึงเดินทางไปกรุงเทพฯ พร้อมนุ่มและเลขาของชินภพ ซึ่งเป็นสาวใหญ่วัยกลางคนชื่อคุณแจ่มจันทร์ ส่วนชินภพที่ตอนแรกพลบอกว่าเขาจะไปส่งด้วยนั้น กลับบอกว่าไม่ว่างอัณชญาทั้งรู้สึกเสียดายและผิดหวัง เพราะนี่จะเป็นโอกาสที่เธอจะได้เจอกับชินภพอีกครั้ง หลังจากไม่ได้เห็นหน้ามาหลายเดือน การไปเรียนต่อในกรุงเทพฯ คงทำให้โอกาสที่จะได้เจอเขายากไปอีก หรืออาจไม่ได้เจอกันเลย เพราะชินภพเองก็ไม่ได้อยากเจอเธออยู่แล้วไม่เข้าใจเลยทำไมต้องเกลียดเธอขนาดนั้น มีเรื่องราวที่เธอทำให้เขาไม่ถูกใจแค่เล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้ทำผิดอะไรร้ายแรง ที่เขาจะต้องมาเกลียด คิดแล้วก็น้ำตาซึมออกมาอย่างไม่รู้ตัว“เป็นอะไร” นุ่มถามขณะที่ออกจากสนามบิน แล้วมีรถมารับไปที่พัก ตอนนี้เธอนั่งอยู่เบาะด้านหลังกับนุ่ม ส่วนแจ่มจันทร์นั่งข้างหน้
หนุ่มชวนกินข้าวกิจกรรมต้อนรับน้องใหม่ของคณะนิเทศศาสตร์ เป็นอะไรที่เน้นความสนุกสนาน ร้องรำทำเพลง เต้นรำ ไม่มีอะไรที่น่ากลัวหรือเลยเถิด ที่เน้นสุดๆ ก็คือการซ้อมเชียร์ อัณชญาถูกรุ่นพี่ให้สมัครเป็นเชียร์ลีดเดอร์คณะ แต่เธอปฏิเสธ เพราะไม่ถนัดเต้น แต่ขอช่วยดูแลทีมเชียร์หรืออื่นๆ ที่พี่ๆ ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งอัณชญาก็ได้อยู่ฝ่ายจัดหาอาหารและเครื่องดื่มเหนื่อยแต่ก็สนุก เธอก็ได้รู้จักเพื่อนใหม่ และรุ่นพี่ที่น่ารักมากมาย“อัณ คืนนี้พวกพี่จะไปฉลองวันเกิดพี่พีท ที่ผับใกลๆ มอนี่แหละ ไปด้วยกันไหม”‘พี่มิ้นท์’ หรือมินตรา รุ่นพี่ที่อัณชญาชื่นชอบนิสัยใจคอมากคนหนึ่งเอ่ยชวน“หนูคงไปไม่ได้ค่ะ ผู้ปกครองหนูห้ามเที่ยวกลางคืน อีกอย่างอายุก็ไม่ถึงด้วย”“โห เด็กดีใช่ได้เลย ดีแล้วๆ” มินตราพูดแล้วลูบหัวเธออย่างเอ็นดู“น้องแก้วล่ะ ไปหรือเปล่า” มินตราถามกรแก้ว รุ่นน้องอีกคนที่อัณชญาสนิทด้วย“หนูอยากไปค่ะ แต่อายุหนูไม่ถึง จะเข้าได้เหรอคะ”“ผับนั่น พี่พีทเป็นหุ้นส่วนอยู่ เข้าได้แหละ” มินตราเอ่ยถึงรุ่นพี่ที่แสนฮอต เพราะทั้งหล่อและรวย ขับรถหรู ทำเอาเฟรซซี่หลายคนกรี๊ด และอยากสนิทกับเขาหลายคน รวมทั้งกรแก้ว“งั้นหนูไ
บังเอิญเกินไป“นี่คือไม่แซ่บแล้วเหรอคะพี่นุ่ม” อัณชญาถามเมื่อมองชุดที่อยู่บนร่างตัวเอง เป็นชุดแซกสั้นสีดำยาว สั้นเหนือเข่าไม่พอ ยังเข้ารูป อวดรูปร่างกลมกลึง เอวที่คอดกิ่ว แต่หน้าอกหน้าใจก็โดดเด้งกระแทกตา แถมหน้าก็แต่งโฉบเฉี่ยวแทบจะจำตัวเองไม่ได้ ส่วนนุ่มเองก็ใช่ย่อย แต่งจัดเต็มเหมือนจะไปเดตซะเอง เพราะไหนจะชุดที่มีความแซ่บไม่ต่างจากเธอ แต่งหน้าก็ราวกับเป็นฝาแฝด แต่ยอมรับว่าฝีมือการแต่งหน้าของนุ่มนั้นพัฒนาจากแต่ก่อนมาก ทั้งที่เพิ่งเรียนเสริมสวยได้แค่สองเดือนกว่าๆ เท่านั้น“ก็แต่งทั้งทีต้องจัดเต็มหน่อยสิ พี่เองก็ไม่คิดว่าจะแต่งหน้าอัณได้สวยขนาดนี้ อย่างว่าแหละรูปหน้าอัณสวยอยู่แล้ว ผิวก็ดี แต่งยังไงก็สวย”“ถ้านายเห็นว่าหนูแต่งตัวแบบนี้ เขาจะโกรธเหมือนวันนั้นไหมนะ”“โอ๊ย นายไม่ได้อยู่ที่นี่เสียหน่อย ไม่มีวันมาเห็นหรอก นี่ก็ใกล้เวลานัดแล้ว ลงไปรอพี่พีทข้างล่างเถอะ” นุ่มถือโอกาสเรียกรุ่นพี่ของอัณชญาว่า ‘พี่พีท’ ไปด้วยเลยการกินข้าวเย็นกับรุ่นพี่ครั้งนี้ ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่อัณชญาเลี่ยงไม่ได้จริงๆ แต่อย่างไรก็ไม่ถือว่าเป็นการเดต แค่รับไมตรีจากรุ่นพี่ในคณะเท่านั้นทั้งสองลงจากลิฟต์มาชั้นล่า
บรรยากาศมันยิ่งกว่าอึดอัด เหมือนอยู่บนภูสูง ปกคลุมไปด้วยหมอกควันหนาทึบ เดินไปไหนไม่ได้ เพราะกลัวตกหน้าผา หรือไม่ก็ชนเข้ากับต้นไม้ อย่างร้ายที่สุดกลัวเดินไปชนเข้ากับเสืออันหลังนี้น่ากลัวที่สุดสำหรับความรู้สึกอัณชญา เพราะคนที่ทำหน้าที่คนขับรถ มีลักษณะไม่ต่างจากเสือ พร้อมที่จะตะปบฉีกร่างเธอตลอดเวลาเธอนั่งตัวเกร็งอยู่ข้างๆ เขา ขณะที่นุ่มนั่งหน้าซีดอยู่หลังเบาะ อัณชญาลอบมองเสี้ยวหน้าคมคายนั้นนับครั้งไม่ถ้วน พร้อมกับตั้งคำถาม ครั้งนี้เขาจะลงโทษเธอกับนุ่มยังไง ที่จู่ๆ ไปกินข้าวกับพีท บังเอิญเหลือเกินที่อีกฝ่ายเป็นหลานของเขา ถึงไม่ใช่หลานสายตรง เพราะชินภพเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว แต่พีทขึ้นชื่อว่าเป็นหลาน เพราะแม่ของพีทเป็นลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งของชินภพบังเอิญอีกที่เขามากินข้าวที่ร้านกับดาราสาว ที่นุ่มบอกว่าเป็นนางบำเรอคนใหม่ เห็นว่ากำลังจะกลับ แต่ได้ยินผู้จัดการบอกว่าพีทพาสาวมากินข้าว เลยจะมาทักทายหลานชายเสียหน่อย ท่าทีชินภพเหมือนจะช็อกเล็กๆ ที่เห็นว่าสาวที่พีทพามานั้นเป็นเธอกับนุ่มและสุดท้ายพีทก็ได้รู้ว่าผู้ปกครองตัวจริงของอัณชญาก็คือชินภพนั่นเอง พอรู้ความจริงก็ยังไม่ทันจะถามไถ่อะไร ชินภพ
“เป็นอะไรทำหน้ามุ่ยเชียว” นุ่มถามเมื่อเข้ามาในห้องพัก เห็นอัณชญาไถจอโทรศัพท์ พร้อมกับทำหน้าไม่สบอารมณ์“หนูดูอินสตาแกรมของพี่ปลาค่ะ”“ไปส่องว่างั้นเถอะ ไงล่ะ เจออะไรเข้า ถึงทำหน้าแบบนี้”“เจอรูปพี่ปลากับนายเดตกันค่ะ ไปกินข้าว ไปปาร์ตี้กับแก๊งนางเอกตัวท็อป นายดูมีความสุขจัง”“เลยอิจฉานางเอกเขาว่างั้นเถอะ”“มีข่าวลงว่าเขาเป็นแฟนกันค่ะ”“ก็ไม่รู้สิ หรือนายจะเลือกนางเอกเป็นคู่ชีวิต แต่พี่เคยได้ยินพี่พลบอกว่านายไม่มีทางมีแฟนจริงจัง หรือคิดจะแต่งงานมีครอบครัวหรอก ไม่งั้นจะอยู่ครองตัวเป็นโสดมาถึงทุกวันนี้เหรอ”“ทำไมนายไม่อยากมีครอบครัวล่ะ”“พี่พลเคยบอกว่านายเคยมีแฟนตอนเรียนที่เมืองนอก แล้วเลิกกัน เลยไม่อยากมีแฟนอีก”“นายอกหักเลยไม่อยากมีแฟนอีกงี้เหรอ”“ไม่รู้สิ อาจจริงก็ได้นะ”“คนเราอกหักเป็นเรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอ”“นั่นน่ะสิ หรือนายจะรักผู้หญิงคนนั้นจนไม่คิดจะรักใครอีก”“อือ เป็นไปได้” ถึงจะพูดแบบนั้น แต่อัณชญาก็ทำหน้าเศร้า เพราะจู่ๆ ก็อดอิจฉาผู้หญิงคนนั้นไม่ได้“ไม่ต้องอิจฉาเขาหรอกมั้ง เพราะถ้าเขายังรักกันดี ป่านนี้ก็แต่งงานมีลูกเป็นโขยงไปแล้วสิ”“ก็ถ้านายไม่รักใคร เพราะยังรักผู้หญิงคนนั้น
“ลูกหลับแล้วเหรอ” ชินภพโผล่หน้าเข้ามาในตอนสามทุ่ม ขณะที่เธอกำลังนั่งอ่านหนังสือ ส่วนลูกชายวัยสองขวบกว่านั้นหลับไปตั้งแต่สองทุ่มลูกชายของเธอกับชินภพมีชื่อเล่นว่า ‘น้องอั๊ต’ ส่วนชื่อจริงนั้นคือเด็กชายอรรคภพ สุขวสันต์ มีตัวอักษรหน้าเหมือนแม่ และอักษรหลังตรงกับผู้เป็นพ่อตรงๆตอนนี้เธอกับลูกและชินภพมาอยู่ที่บ้านพักในไร่ เพราะอยู่ใกล้ที่ทำงาน ทั้งไร่และรีสอร์ต สะดวกสำหรับชินภพ เวลาที่เขากลับดึก บางวันเขาก็มากินมื้อเที่ยงกับเธอ บางครั้งอัณชญาก็พาลูกชายไปกินมื้อเที่ยงหรือค่ำในรีสอร์ต เป็นความสะดวกสบายและได้อยู่ใกล้ชิดกันมากกว่าอัณชญาจึงชอบที่จะอยู่ที่บ้านพักในไร่มากกว่าบ้านใหญ่วางหนังสือลง แล้วเดินไปหาอ้อมแขนของเขา เพราะช่วงนี้ที่รีสอร์ต ค่อนข้างยุ่ง มีทัวร์จากต่างประเทศมาลงแทบทุกวัน ชินภพจึงเข้าไปช่วยต้อนรับแขกวีไอพีบางกลุ่ม เลยทำให้บางวันกลับดึก ไม่ทันกลับมาอ่านนิทานให้ลูกฟัง“เราไปขับรถดูดาวในไร่กันดีกว่า”“แน่ใจนะคะว่าแค่อยากดูดาวเฉยๆ” เธอถามพร้อมกับมองตาเขาอย่างรู้ทัน เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สามีชวนไปนั่งรถดูดาวที่กลางไร่“แน่นอนดูอย่างอื่นด้วยสิ” เขาบอกแล้วยิ้มใส่ดวงตารู้ทันของภรรยา
ตอนพิเศษ : ร้อนแรงอัณชญารู้สึกชินเสียแล้ว เมื่อให้นมลูกชายคนแรกซึ่งตอนนี้ใกล้จะสามเดือนแล้ว ผู้เป็นสามีชอบนั่งมองตาเป็นประกาย ครั้นลูกอิ่ม และเธอวางเจ้าตัวเล็กลงเปล ชินภพจะเข้ามาคลอเคลีย ดูดเลียหน้าอกเธออย่างหลงใหล ทำให้เธอวาบหวิวจนเผลอครางเสียงดัง จากนั้นก็พากันไปอยู่ในห้องแต่งตัว แล้วมีเซ็กซ์กันอย่างเร่าร้อนอัณชญาไม่แน่ใจว่าธรรมชาติของตนเอง หรือเพราะฮอร์โมนคนหลังคลอด เธอต้องการเซ็กซ์มากกว่าเดิมด้วยซ้ำตั้งแต่แผลคลอดหายดี เธอกับเขาก็มีอะไรกันแทบทุกวัน ปรนเปรอกันและกันจนต่างฝ่ายต่างหมดแรง เพราะตอนนี้ลูกชายอายุสามเดือนแล้ว เขาไม่ตื่นตอนกลางคืน ตื่นอีกครั้งตอนใกล้ฟ้าสาง หรือบางวันก็เช้าตรู่อัณชญาเลี้ยงลูกเองในตอนกลางคืน ส่วนกลางวันมีเด็กรับใช้กับนุ่มช่วยดูแล ตอนหลังคลอดใหม่ๆ แม้จะต้องตื่นตอนกลางคืนเพื่อให้นมลูก หรือตื่นมาปั๊มนมไว้ เธอก็ไม่รู้สึกเหนื่อย เพราะงีบหลับตอนกลางวันเผื่อไว้แล้วชินภพเองจะช่วยดูแลตอนกลางคืน ในวันที่รุ่งเช้าเขาไม่ได้ไปทำงาน หรือมีงานน้อย แต่บางครั้งเขาก็หยุดยาวเป็นอาทิตย์ ซึ่งทำให้คุณแม่มือใหม่อย่างอัณชญาไม่เหนื่อย และยังเหลือเรี่ยวแรงมากพอจะใช้ทำกิจกรรมรักกับ
ตอนเย็นชินภพกลับมา หลังจากกินข้าวเสร็จ เธอกับเขานั่งคุยกันในห้องนอน"คุณภพคะ อีกหน่อยท้องหนูจะโตเรื่อยๆ”“ก็แน่นอนสิ ลูกก็โตขึ้นเรื่อยๆ” เขาพูดยิ้มๆ แล้วก้มลงจุ๊บท้องเธอ“อัณกลัวคุณภพเบื่อ”“จะเบื่อได้ยังไง เธอเป็นเมียฉันนะ และกำลังอุ้มท้องลูกของเราด้วย”“แต่เรื่องเซ็กซ์ คือ...”“คนท้องเขาไม่ได้ห้ามมีเซ็กซ์นี่ พ้นสามเดือนแล้วก็ทำได้”“แต่มันจะไม่เต็มที่เหมือนเดิม หนูกลัวคุณภพไม่ถึงใจ”“แล้ว...”“คุณภพมีนางบำเรอได้ ตอนที่หนูท้อง ไปจนถึงหลังคลอดสามเดือนได้ค่ะ”“ไม่หึงเหรอ”“ก็...หนูคิดแค่อยากให้คุณภพมีความสุข”“ขอบคุณที่นึกถึง แต่ฉันมีแค่เธอก็มีความสุขแล้ว ไม่ต้องคิดว่าตัวเองจะตอบสนองไม่ได้เท่าเดิม เราทำเท่าที่ทำได้ และอีกอย่างเรื่องเซ็กซ์เนี่ย ฉันเต็มที่มาตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงตอนมาเจอเธอ ตอนนี้ฉันเพลาๆ ลงแล้ว อยากโฟกัสเธอกับลูก และงานฉันก็ยุ่งมากพอแล้ว”“คุณภพแน่ใจนะคะว่าโอเค” ถึงจะบอกให้อีกฝ่ายมีนางบำเรอเหมือนเมื่อก่อนได้ แต่ลึกๆ ก็ยอมรับว่าหวงสามีมาก กลัวเขาจะติดใจนางบำเรอจนลืมเธอกับลูก“เธอเห็นฉันเป็นตาแก่ตัณหากลับหรือไง แค่มีเธอ ฉันก็โอเคมากๆ แล้ว”“แน่ใจนะคะ” เธอยังถามย้ำ“อือ...เดี
หกเดือนผ่านไป...เมื่อรู้สึกตัวตื่นอัณชญาก็รู้สึกพะอืดพะอมจนลุกจากที่นอนตรงไปยังห้องน้ำทันที อาเจียนออกมาจนไม่เหลืออะไรในท้อง แล้วมานอนทิ้งตัวบนเตียง พร้อมกับลูบหน้าท้องตัวเอง“จะสามเดือนแล้วนะลูก ให้แม่หายจากแพ้ท้องเถอะนะลูกรัก” ถึงจะแพ้แค่ช่วงเช้าที่ตื่นนอนเท่านั้น แต่อัณชญาก็รู้สึกอ่อนเพลียทุกครั้งหลังอาเจียน ดีว่าไม่เวียนหัวเสียงเคาะประตูดังขึ้น พร้อมกับที่นุ่มยกถาดอาหารเช้ามาวางบนโต๊ะ ตรงมุมนั่งเล่น“วันนี้ยังอาเจียนอยู่เหรอ”“ค่ะ”“ไม่เป็นไร สามเดือนแล้ว สักพักน่าจะดีขึ้น”อัญชญาเดินมานั่งโต๊ะ มองอาหารด้วยสีหน้าแช่มชื่น แม้จะยังไม่หายจากอาการแพ้ท้อง แต่เธอก็ยังกินได้ปกติ และอาหารเช้าวันนี้คือข้าวต้มทะเล ส่วนผลไม้คือองุ่นกับฝรั่ง ของโปรดเช่นกัน แต่เพื่อร่างกายได้สารอาหารให้เพียงพอ ชินภพก็สั่งแม่ครัวกับนุ่มให้ดูแลเรื่องอาหารการกินของเธอให้ครบและหลากหลาย ทว่าไม่มากเกินไปอาหารและเครื่องดื่มบางอย่างไม่ดีต่อสุขภาพและเด็กในท้องก็งด หรือกินให้น้อยเช่นกัน เช่นเครื่องดื่มชงหวาน ชา กาแฟ และขนมหวานต่างๆ กินได้ แต่อย่ากินเยอะวันนี้ก็เหมือนทุกวัน ชินภพตื่นและไปทำงานตั้งแต่เช้าก่อนเธอตื่น แ
บทส่งท้ายเมื่อออกจากห้องสอบ แทนที่จะออกไปกินเลี้ยงฉลองกับเพื่อนๆ แต่อัณชญาก็รีบกลับห้องพัก เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงชินภพจะมาถึงแล้วตลอดเวลาของการเรียนปีสุดท้าย ถึงเขาจะสัญญาว่ามาหาทุกเดือน แต่บางเดือนชินภพก็ปลีกตัวมาไม่ได้ ครั้งสุดท้ายที่เจอกันก็คือสองเดือนก่อน ตอนนี้อัณชญาจึงอยากเจอเขามากที่สุดถึงจะวิดีโอคอลกันเกือบทุกวัน แต่อย่างไรมันก็ไม่เหมือนได้เจอตัวเป็นๆ อยู่ดีพอลิฟต์เปิด ก้าวออกมายังห้องโถง เธอก็สะดุ้ง เพราะเห็นร่างของคนที่กำลังคิดถึงนั่งอยู่บนโซฟาเรียบร้อยแล้วอัณชญายิ้มกว้างแล้วถลาเข้าไปกอด ซึ่งชินภพก็กางแขนรอรับอยู่แล้ว“คิดถึงคุณภพจังเลย” เมื่อหลายเดือนก่อน เขาเพิ่งบอก ไม่ให้เธอเรียกเขาว่า ’นาย’ อีกต่อไป เพราะต่อไปนี้เธอจะเป็นภรรยาของเขาแล้ว“ฉันก็คิดถึงเธอมาก”“ไหนว่าจะมาตอนห้าโมงไงคะ นี่เพิ่งจะสามโมงกว่าๆ เอง”“พอดีงานเสร็จเร็ว ก็เลยเปลี่ยนไฟทล์น่ะ”“ดีจัง คุณภพหิวหรือยัง หนูจะทำอะไรให้กิน ตอนว่างๆ หนูหัดทำอาหารได้ตั้งหลายเมนูแน่ะ” เธออวด เพราะถึงบ้านจะมีแม่ครัวฝีมือดี แต่การได้ทำอาหารเป็นบ้าง ก็น่าจะดี“หิว แต่ไม่ใช่ข้าวนะ”“คุณภพ ตอนนี้เลยเหรอคะ” เธอถามตรงๆ เพราะรู้ว่
ญาติผู้พี่ก็ตั้งแง่ทันทีว่าไม่เหมาะกับเขา แต่ชินภพก็ไม่ได้สนใจ เพราะอยู่มาขนาดนี้แล้ว ไม่มีใครมาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขาได้ แม้แต่ญาติ ก็ไม่มีสิทธิ์ ทางออกเพื่อไม่ให้ญาติผู้พี่มากังวลเรื่องของเขา ก็คือการโยนเรื่องอื่นให้ไปกังวลแทน ซึ่งเรื่องของลูกชายสุดที่รัก...น่าจะดีที่สุดคิดว่าตอนนี้รำไพคงไม่คิดเรื่องของเขาแล้ว แต่คงกลัวว่าลูกชายจะชอบอัณชญามากกว่า เพราะตอนนี้ก็คอยชำเลืองไปยังทั้งสอง ที่นั่งคุยกัน แถมมีหัวเราะเสียงดังกันอีก บางจังหวะยังเอาหัวจุ่มกันเพื่อดูอะไรในโทรศัพท์ของกันและกันคิ้วญาติผู้พี่เลยขมวดเข้าหากันจนจะผูกเป็นโบได้อยู่แล้ว“พี่ว่าเด็กนั่นก็น่ารักดี แต่เหมาะกับแกมากกว่าลูกชายพี่”“ก็ของมันแน่อยู่แล้ว” แล้วชินภพก็หัวเราะเบาๆเมื่องานเลี้ยงเลิกรา เขาก็พาอัณชญากลับไปยังคอนโดฯ ทันที“แม่พี่พีทดูน่ากลัวเหมือนกันนะคะ มองอัณเหมือนเครื่องสำรวจเลย”“ใช่ น่ากลัวมาก” ชินภพเห็นด้วยทันทีกับคำพูดของเธอ“โห ใครเป็นแฟนพี่พีท เจอหน้าคงจะเกร็งจนตัวแข็ง”“ใช่ เธอโชคดีแล้วที่ไม่ต้องเจอแม่ผัวแบบนั้น”“ถ้าพ่อแม่นายอยู่ ก็ดีสิคะ หนูจะได้ไปฝากตัว”“พ่อแม่ฉันก็ไม่ต่างจากแม่เจ้าพีท”“จริงเหรอ
แฟนคลับส่วนใหญ่เข้าใจและเห็นใจ แต่บางกลุ่มก็บอกผิดหวังกับนางเอกที่มีภาพลักษณ์ที่ดีมาตลอดคืนนั้นปาลินโทร. มาหาชินภพ บอกว่าทางครอบครัวตัดขาด และให้เธอไปใช้ชีวิตต่างประเทศ“แล้วปลาตัดสินใจยังไง”“ปลาก็ต้องไปค่ะ ก็ดีเหมือนกัน ต่อไปนี้ปลาถือว่าได้ออกจากครอบครัวแล้ว คิดในแง่ดี ปลาก็ได้ใช้ชีวิตอิสระ ถ้าคิดในแง่ร้าย ปลาก็ไม่เหลือใครในครอบครัวอีกแล้ว”“ถ้าปลาไม่อยากไปเมืองนอก ก็มาอยู่ที่รีสอร์ตสุขวสันต์ก็ได้” เขาเอ่ยชวน เพราะคิดว่าส่วนหนึ่งเพราะตัวเขา ไอ้เสี่ยโตถึงเข้าหาปาลิน“ขอบคุณค่ะ แต่ปลาอยากจะไป อย่างน้อยที่เมืองนอกคงไม่มีใครรู้จักปลา เว้นเสียแต่ว่าบังเอิญเจอคนไทยด้วยกัน”“ถ้าปลาตัดสินใจแบบนั้นแล้ว ก็ขอให้โชคดีนะ”“แต่ปลาคงต้องพาพีไปด้วยค่ะ คุณภพไม่ว่าอะไรนะคะ”“ไม่ว่าครับ ให้เป็นการตัดสินใจของพีเอง”“ขอบคุณค่ะคุณภพ ขอให้มีความสุขกับคนที่คุณภพรักนะคะ”“ขอบคุณครับ ปลาเองก็เหมือนกัน” เขาไม่รู้ความสัมพันธ์ของปาลินกับพีรวัชเป็นไปในรูปแบบไหน แค่เซ็กซ์ หรือมากกว่านั้น เพราะพลเพิ่งมาบอกว่าพีรวัชเคยรู้จักกับปาลินสมัยทั้งสองยังเป็นวัยรุ่นและความสัมพันธ์ของปาลินกับพีรวัชคงเริ่มต้นตั้งแต่ตอนนั้น
สองสัปดาห์ต่อมา...ชินภพไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เมื่อมีข่าวใหญ่ในหน้าสื่อเกือบทุกสำนัก ว่าไอ้เสี่ยโต หรือไอ้มิก ถูกยิงเสียชีวิตในป่า ขณะเดินทางลักลอบจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในไทยการตายของมันเหมือนถูกตัดตอน แต่เขาคิดว่าเพราะธุรกิจของมันเกี่ยวโยงกับอิทธิพลของคนมีสี ที่ให้ความช่วยเหลือเรื่องเปิดผับและบ่อนมากกว่า เขาจึงไม่ได้สนใจ แถมรู้สึกโล่งใจเสียด้วยว่าศัตรูของเขาได้หายไปจากโลกนี้แล้ว เพราะคนชั่วอย่างมัน อยู่ไปก็ทำแต่เรื่องเลวๆอัณชญาเองพอได้เห็นข่าว ก็สาปแช่งมันให้ลงนรกเช่นกัน สำหรับเขาและอัณชญาถือว่าเรื่องของมันได้จบไปแล้ว แต่จู่ๆ อัญชญาก็โพล่งขึ้นเหมือนนึกขึ้นได้“นาย หนูลืมบอก”“เรื่อง”“ตอนหนูไปทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านอาหารมัน หนูแอบถ่ายคลิปตอนที่มันมีอะไรกับพี่ปลาด้วย แต่หนูไม่ได้ให้ใครดูนะคะ ตอนนั้นหนูแค่บังเอิญเห็น แล้วแอบถ่ายไว้ ตอนแรกคิดว่าจะส่งให้นายจะได้รู้ว่าโดนสวมเขา แต่หนูก็ไม่ได้ส่ง”“มันน่าตีจริงๆ”“ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ส่งให้นาย เพราะตอนหลังหนูคิดได้ว่าไม่ควรยุ่งเรื่องนายอีก”“ไม่ใช่เรื่องนั้น ที่น่าตี เพราะเธอกล้าเกินไป ที่ไปถ่ายตอนนั้น นั่นไอ้เสี่ยโตนะ”“ตอนนั้นหนูยังไม่ร
ว่าที่เจ้าสาว ในตอนบ่ายอัณชญาจัดเสื้อผ้าและข้าวของเรียบร้อย โดยมีนุ่มช่วย จากนั้นสองสาวก็พากันปาร์ตี้หมูกระทะ อัณชญาได้ชวนแตงกวามาด้วย รวมทั้งคนรับใช้ในตึกใหญ่ ซึ่งดูเหมือนทุกคนจะรู้แล้วว่าเธอกับนายนั้นกลับมาคืนดีกัน คนรับใช้ในตึกคิดว่าเธอกับนายมีอะไรกันตั้งแต่เธอไปเรียนกรุงเทพฯ การที่เห็นเธอย้ายเข้าไปอยู่ตึกใหญ่กับนายก็เลยไม่แปลกใจมาก“มิน่านายถึงให้สาวๆ ตึกส้มออกไปจนหมด” แนนพูด“อะไรนะ นายให้ผู้หญิงตึกออกไปอยู่ที่อื่นเหรอ” อัณชญาถามขึ้นอย่างตกใจ เพราะชินภพไม่เห็นบอกเธอเรื่องนี้เลย“ใช่ อาทิตย์ก่อนนี่เอง เลิกจ้างแล้ว”“พี่นุ่มไม่เห็นบอกหนูเลย” อัณชญาหันไปทางนุ่ม“พี่ก็อยากเซอร์ไพรส์เราไงล่ะ”“เซอร์ไพรส์มากค่ะ”“ตอนนี้นายเป็นของอัณคนเดียวแล้วนะ ดูแลนายให้ดี”“ไม่มีคนมาแบ่งวันด้วย ฮ่าๆ” แนนพูดแล้วหัวเราะร่วน คนอื่นๆ ก็เลยแซวอัณชญากันใหญ่ จนอัณชญาเขินหน้าแดง“ไหวไหมอัณ” แตงกวาถามเพื่อนด้วยความห่วงใย แต่มียิ้มขำ“ไหวสิ” อัณชญาตอบหน้าตาเฉย ทำทุกคนแซว“อู้ย อย่าหักโหมมากนะ นายแก่แล้ว” นุ่มแซว“ใครแก่เหรอ”“เฮ้ย พี่พลน่ะ นุ่มตกใจหมดเลย” เจ้าตัวหันไปตวาดคนรัก ที่จู่ๆ ก็โผล่เข้ามาในวง