ฉันถูกดึงให้เดินตามมายังห้อง ๆ หนึ่ง ซึ่งฉันเองก็ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนี้เขาจะพาฉันมาทำอะไร ในตอนนี้ใจของฉันมันเต็มไปด้วยความกลัว เมื่อประตูห้องถูกเปิดออก ด้านในห้องนั้นมันว่างเปล่าไม่มีใคร ร่างของฉันถูกเหวี่ยงเข้ามาด้านในห้อง ก่อนที่ผู้ชายคนที่เอาตัวฉันมาจะปิดประตู ฉันรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งไปที่ประตูใช้มือจับลูกบิด พยายามจะเปิดมันออกให้ได้ แต่กลับไม่สำเร็จเพราะถูกล็อกจากด้านนอก และฉันก็ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นจะมาขังฉันไว้แบบนี้ทำไม ในตอนนี้ฉันกลัวทุกอย่าง ภาพที่ฉันเห็นมันต้องเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ๆ ชั้นบนนี้มันเหมือนเป็นที่ลับ คุณเหนือเขาน่ากลัวกว่าที่ฉันคิด ถ้าให้ฉันเดานี่คงจะเป็นอีกหนึ่งธุรกิจของเขา ฉันเริ่มคิดหนักขึ้นมาเมื่อคิดถึงคุณเหนือ หากเขารู้ว่าฉันขัดคำสั่งของเขา แถมยังขึ้นมาเห็นอะไรแบบนี้ เขาจะโมโหมากขนาดไหน แกร็ก! เสียงประตูห้องถูกเปิดเข้ามา ทำให้ฉันสะดุ้งและยืนขาแข็งมองประตูอยู่แบบนั้น จนกระทั่งเห็นว่ามีร่างของผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้อง และผู้ชายคนนั้นก็คือคุณเหนือ คุณเหนือยืนหน้าประตู เขากอดอกแล้วจ้องหน้าฉันด้วยสายตาเย็นชาไร้ความรู้สึก โดยไม่ได้พูดอะไรเมื่อฉันเห็นว่าเป็น
หากว่าฉันไม่ยอมตอบคำถาม คงต้องถูกบีบคอจนตายแน่ๆ เมื่อคิดได้แบบนั้นฉันจึงค่อยๆ ขยับริมฝีปากที่สั่นเทาตอบ“ระ รินเห็นว่าคุณเหนือออกมานานมากแล้ว เลยเดินออกมาจากห้อง ตะ แต่รินไม่ได้ตั้งใจ รินแค่เห็นประตูเปิดเลยเดินขึ้นมาชั้นบน…” ด้วยความกลัวทำให้ฉันพูดอะไรออกไปแบบไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่“เธอเห็นอะไร ?” คุณเหนือถามเสียงเย็น น้ำเสียงของเขามันทำให้อุณหภูมิในร่างกายของฉันลดฮวบลงในทันที“……” ฉันจะตอบว่าอะไรดี ถ้าตอบว่าไม่เห็นเขาจะเชื่อหรือเปล่า แล้วถ้าตอบในสิ่งที่เห็นล่ะในตอนนี้ไม่ว่าจะตอบคำไหนฉันก็กลัวทั้งนั้น“ฉันถามว่าเธอเห็นอะไร วาริน”“มะ ไม่เห็นอะไรเลยค่ะ” ฉันตอบคำตอบโง่ๆ ออกไป และแน่นอน ดูจากสายตาของคุณเหนือก็คงจะไม่เชื่อคำพูดของฉันอยู่แล้ว ฉันจึงหลบสายตาของเขา“…ฉันรู้ว่าเธอกำลังโกหก”คุณเหนือปล่อยปลายคางของฉันให้เป็นอิสระ จากนั้นเขาก็เดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่“ฉันให้โอกาสเธอตอบอีกครั้ง” สายตาคมกริบจ้องมองใบหน้าของฉันอย่างไม่ละสายตา“เธอเห็นอะไร ?”เมื่อรู้แล้วว่าคำโกหกไม่เป็นผล ฉันจึงเลือกตอบความจริง “หะ เห็นผู้หญิง กะ กับผู้ชาย”ฉันค่อยๆ เม้มปากแน่น เมื่อคำตอบของฉันทำให้คุณเหนือเงีย
ใบหน้าของฉันมันร้อนผ่าวขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำที่คุณเหนือกระซิบบอก สมองมันกำลังคิดว่าจะปฏิเสธเขายังไงดี เพราะการทำเรื่องอย่างว่าในรถฉันว่ามันไม่เหมาะเท่าไหร่“ระ รินว่าเรากลับไปทำที่คอนโดดีกว่าไหมคะ”“ฉันอยากทำในรถ” คุณเหนือพูดย้ำอีกครั้ง และมันก็ยิ่งทำให้ฉันลำบากใจมากขึ้น“ริน…”ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อคุณเหนือก็ลุกขึ้น แถมยังดึงร่างของฉันให้ลุกขึ้นตามตัวเองด้วย“ไปที่รถกันเถอะ” น้ำเสียงเรียบๆ เอ่ยบอก ก่อนที่เจ้าตัวจะเดินไปที่รถ ทิ้งให้ฉันยืนขาแข็งอยู่อย่างนั้นตึกตัก! ตึกตัก! หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวไม่เป็นท่าเลยในตอนนี้ฉันค่อยๆ ก้าวขาเดินตามคุณเหนือไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อเข้ามาในรถหัวใจของฉันมันก็ยิ่งเต้นรัวมากกว่าเดิม“รู้ไหมว่าฉันถูกใจเธอมากแค่ไหน”“ไม่รู้ค่ะ” ฉันตอบไปตามตรงเพราะไม่รู้จริงๆ เพราะการกระทำของเขาดูไม่ได้ถูกใจฉันเลยสักนิดคุณเหนือเอนตัวมาที่เบาะของฉัน เขาเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆ แถมยังใช้มือสอดใส่เข้ามาในเสื้อแล้วบีบสะโพกของฉันเบาๆ พร้อมกับลูบไล้ไปมาปลายจมูกโด่งแตะลงมาตรงซอกคอของฉัน แล้วสูดดมกลิ่น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าของฉัน แล้วพูด “ฉันชอบกลิ่นแป้งเด็กบนตัวเธอ”
วันต่อมาคุณเหนือพาฉันมาที่โรงพยาบาล และเขาก็อยู่ด้วย ไม่ยอมทิ้งฉันไว้ที่โรงพยาบาลตามลำพัง แถมยังบอกว่าฉันมีเวลาเยี่ยมน้องแค่ครึ่งวัน เพราะเขาต้องไปทำธุระ “เมื่อวานทำไมถึงไม่มาเยี่ยมหนูล่ะคะ” นาลินถามฉันที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้อง ก่อนที่สายตาของเธอจะมองผ่านไปทางด้านหลังของฉันแทน “…คุณเหนือ”“นาลิน” ฉันเรียกชื่อน้องเสียงดุ เพราะสีหน้าของเธอกำลังบ่งบอกว่าดีใจมากขนาดไหนที่ได้เจอคุณเหนืออีกครั้ง “เมื่อวานพี่ติดธุระเลยไม่ได้มาเยี่ยมน่ะ” พูดจบฉันก็เดินไปหยิบเก้าอี้มานั่งลงข้างๆ กับเตียงที่นาลินนอน “พี่รินไม่มาหนูเหงามากเลยรู้ไหมคะ” นาลินทำหน้าออดอ้อน ฉันที่อดเอ็นดูท่าทางของน้องสาวไม่ได้จึงเอามือไปลูบศีรษะเธอเบาๆ “พี่ก็คิดถึงเธอเหมือนกัน อยากให้เธอกลับไทยพร้อมพี่เลยด้วยซ้ำ”“หมอบอกว่าอีกนานไหมคะกว่าหนูจะหายดี หนูต้องอยู่โรงพยาบาลอีกนานเท่าไหร่”“คงอีกสักพักน่ะ สู้ๆ นะ พี่รอเธออยู่ ^_^”“หนูรักพี่รินที่สุดเลยค่ะ ^_^”นาลินจับมือของฉันแล้วยิ้มหวานให้ ในที่สุดฉันก็ได้น้องสาวคนเดิมกลับคืนมา สิ่งที่ฉันแลกไปมันคุ้มค่า “กินผลไม้ไหมเดี๋ยวพี่ปอกมาให้”“กินค่ะ ขอแค่ส้มก็พอนะคะ” ส้มคือผลไม้ที่นาลินช
“คุณเหนือให้ฉันมาดูแลพวกผู้หญิงที่นี่” ผู้หญิงข้างกายคุณเหนือพูดขึ้นมาอีกครั้ง เธอเชิดหน้าใส่ฉันราวกับว่าตัวเองมีความสำคัญกับคุณเหนือมากๆ“ฉันรู้ว่าคุณเหนือชอบหรือไม่ชอบอะไร รู้แม้กระทั่งเรื่องบนเตียงคุณเหนือชอบท่าไหนมากที่สุด” ฉันถึงกับสตั้นเมื่อเธอพูดเรื่องบนเตียงออกมาอย่างไม่อายปาก ทำเอาคนที่ได้ฟังอย่างฉันถึงกับอายแทน“เธอพูดมาก รู้ตัวหรือเปล่า” คุณเหนือเอ่ยขึ้นมาเสียงเย็นพร้อมกับสายตาที่มองผู้หญิงข้างกายแบบดุดัน ก่อนจะแกะมือเธอออกจากแขนแกร่งคุณเหนือเดินนำไป ทิ้งให้ฉันเดินตามหลังกับผู้หญิงคนนั้น ซึ่งดูจากสายตาของเธอก็พอจะเดาได้ไม่ยากว่าเธอไม่ชอบฉัน“คุณเหนือรับเธอมาดูแลนานหรือยัง” เธอถามฉัน“ยังค่ะ”“ถึงว่าท่าทางซื่อบื้อ ไม่รู้ว่าคุณเหนือเอาผู้หญิงแบบเธอมาขึ้นเตียงได้ยังไง ดูไม่ใช่เขาเลยสักนิด”“…..” ฉันไม่ได้โต้ตอบอะไร พยายามเดินให้เร็วที่สุดเพื่อหนีคำพูดของผู้หญิงคนนี้ แต่เธอก็ยังอุตส่าห์เร่งฝีเท้าตามมาเดินคู่กับฉันอีก“ฉันน่ะอยู่กับคุณเหนือมาสี่ปี ในบรรดาผู้หญิงของคุณเหนือ ฉันคือที่หนึ่ง เธอควรเคารพฉันนะ ไม่ใช่เดินหนีแล้วก็ทำเมินใส่ฉันแบบนี้”“หากว่าฉันจะต้องเคารพใคร มีคุณเหนือ
ฉันค่อยๆ เม้มปากแน่น หลบสายตาคมกริบตรงหน้า จะไม่ให้คิดได้ยังไงก็คุณเหนือไม่ได้ตอบคำถามของผู้หญิงคนนั้น ฉันก็ต้องเข้าใจแบบนี้สิ“เธออยากจะให้ฉันไปนอนกับคนอื่น ?” คุณเหนือโน้มใบหน้าลงมากระซิบถามอีกประโยค “หรือว่าเธอไม่อยากนอนกับฉัน”“มะ ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ”“แล้วมันยังไง ?”“…รินคิดว่าคุณเหนือคงอยากจะเปลี่ยนไปนอนกับผู้หญิงคนอื่นบ้าง”“เธอคิดแบบนั้น ?”คุณเหนือเลิกคิ้วขึ้นถาม ไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องถามกลับตลอดเลยด้วย ฉันคิดคำตอบไม่ทันหรอกนะ ก็บอกไปแล้วไงว่าฉันน่ะคิดว่าเขาคงจะไปนอนกับผู้หญิงคนนั้น ก็บอกไปแล้วยังจะถามอีก“รินจะไปรู้เหรอคะ”“ดูเหมือนว่าเธอไม่อยากจะนอนกับฉันจริงๆ” คุณเหนือผละตัวออกห่างจากฉัน “ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ฉันจะไปนอนกับผู้หญิงอีกคน เธอจะได้ไม่ต้องลำบากใจ”ฉันขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อผู้ชายตรงหน้าคิดเองเออเองทุกอย่าง ใครบอกกันว่าฉันอยากให้เขาไปนอนกับผู้หญิงคนอื่น ฉันไม่ได้ต้องการแบบนั้น“ถ้าคุณเหนืออยากจะไปนอนกับผู้หญิงคนไหน มันก็สิทธิ์ของคุณเหนือนี่คะ” หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวเป็นจังหวะที่จุกแน่นราวกับกำลังบีบมันเอาไว้แน่น“มากินข้าว” เสียงทุ้มเข้มออกคำสั่งก่อนจะเดินไปนั่งลงบนโต๊ะอ
สายตาของคุณเหนือมันมีอิทธิพลต่อการเต้นของหัวใจของฉันเอามากๆ ทำให้ฉันไม่กล้าที่จะสบตากับเขาในเวลานี้เลยจริงๆ“ฉันรอเธอพูดอยู่นะวาริน”ทำไมเขาถึงต้องการแบบนั้น ทำไมต้องให้ฉันต้องการเขา ทั้งที่เขาคือเจ้าของชีวิตของฉันในตอนนี้ฉันรวบรวมความกล้าก่อนจะถามออกไป “รินมีสิทธิ์เลือกด้วยเหรอคะ”“ฉันถามอยู่นี่ไง”“แล้วคุณเหนือต้องการนอนกับรินทุกคืนหรือเปล่าคะ”“หึ!!” เขาไม่ตอบแต่กลับหัวเราะในลำคอ และเสียงหัวเราะในลำคอแบบนั้นมันทำให้ขนฉันลุกซู่ไปทั้งตัว“เธอยังใหม่สำหรับฉัน แน่นอนว่าของใหม่มันย่อมดีกว่าของเก่า” พูดจบคุณเหนือก็ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ กับใบหน้าของฉัน ก่อนที่เขาจะใช้เขี้ยวฟันงับริมฝีปากล่างของฉันเบาๆ แล้วปล่อย “จะตอบคำถามของฉันได้หรือยัง ?”“รินไม่อยากมีปัญหากับผู้หญิงคนไหนของคุณเหนือ…”ลมหายใจร้อนผ่าวถูกพ่นออกมาหนักๆ ก่อนที่คุณเหนือจะดันตัวของฉันให้ลงจากตักของตัวเอง เป็นจังหวะเดียวกันกับที่อิงอิงเธอเดินมาพอดีคุณเหนือหันมองฉันด้วยสายตาที่ไม่สบอารมณ์ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินไปหาผู้หญิงที่ชื่ออิงอิง“อยากมีอะไรกับฉันใช่ไหม” คุณเหนือถามเธอ ทำให้เธอรีบตอบพร้อมกับฉีกยิ้ม “คุณเหนือน
#ประเทศไทยพอลงเครื่องคุณเหนือก็ให้ลูกน้องมาส่งฉันที่คอนโด ส่วนตัวเขามีงานต้องจัดการต่อ ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งทุ่มกว่าๆ ฉันเองก็แปลกใจว่าคุณเหนือมีงานอะไรเวลานี้ ก็ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ไม่กล้าเอ่ยถามอะไรออกไปสมองของฉันในตอนนี้มันเอาแต่คิดสงสัยว่าผู้ชายคนนั้นที่เจออยู่สนามบินเขาเป็นใคร เหมือนคุณเหนือกับเขาจะไม่ถูกชะตากันเท่าไหร่เมื่อกลับมาประเทศไทยแล้วฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็เห็นว่าพราวโทรมาหาฉันนับร้อยสาย ข้อความเด้งเข้าเครื่องรัวๆ รวมทั้งเบอร์ของพี่เพชรด้วย ฉันก็ลืมบอกพราวว่าไปต่างประเทศ เธอคงจะเป็นห่วงที่โทรหาไม่ติดถึงได้โทรมาหลายสายขนาดนี้ฉันกดเบอร์พราวแล้วโทรออก รอสายไม่นานเธอก็รับ( วารินแกหายไปไหนมาทำไมเพิ่งโทรกลับ ) พอรับสายพราวก็ถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง( ฉันไปเยี่ยมนาลินที่ต่างประเทศมาน่ะ ขอโทษที่ไม่ได้บอกก่อนนะ ) ( ตะ ต่างประเทศเลยเหรอ หูย! ฉันอิจฉาแกจัง ไปกับใคร )( แกว่างหรือเปล่าพราว ฉันอยากไปหาแก )( ว่างสิ ฉันอยู่บ้านมาได้เลย ) ( โอเคฉันจะไปตอนนี้ แค่นี้ก่อนนะ ) ฉันกดวางสายจากนั้นก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ ที่จะไปหาพราวก็เพราะว่าฉันอยากจะระบาย ‘เรื่องคุณเหนือ’ ฉันอยากจะพูด