หมับ! คุณเหนือรีบเดินตามมาคว้าแขนฉันเอาไว้ จากนั้นก็ก้าวขามาหยุดตรงหน้าของฉัน“ปล่อย! รินจะไปซื้อบิกินี่”“ก็บอกว่าไม่ให้ใส่”“รินจะใส่”“ก็ลองดูว่าซื้อมาแล้วจะได้ใส่หรือเปล่า”ฉันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างหงุดหงิด จากนั้นก็เมินหน้าหนีคุณเหนือ คิดว่าจะได้มาพักผ่อนแบบสบายใจ แต่กลับต้องมาหงุดหงิดแบบนี้ทำให้เสียบรรยากาศจริงๆ ไม่อยากจะอยู่ต่อแล้ว อยากจะกลับไปกรุงเทพมันตอนนี้เลย“มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่ฉันจะมองผู้ชายหรือผู้หญิงที่เดินผ่านไปมาไม่ใช่หรือไง”“ค่ะมันไม่แปลก แต่การที่มองแล้วจ้องค้างแบบนั้นจะไม่ให้รินคิดอะไรคงไม่ได้หรอกนะคะ ถ้าเกิดว่ามีผู้ชายเดินผ่านแล้วรินมองแบบที่คุณเหนือมองผู้หญิงสองคนนั้นล่ะคะ คุณเหนือก็คงจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ”“ฉัน….”“ไม่ต้องมาเถียงหรอกค่ะ อีกอย่างผู้หญิงสองคนนั้นก็ส่งตาหวานเชื่อมให้ด้วยนิ หึ!”“โอเคต่อไปนี้ฉันจะไม่มองผู้หญิงคนไหน กลับไปกินข้าวก่อน ฉันหิวจนจะกินเธอได้ทั้งตัวอยู่แล้วนะ” คุณเหนือจับมือฉันหวังจะให้เดินตามตัวเอง แต่ฉันยังทำตัวแข็งทื่ออยู่ไม่ยอมขยับ“ไม่ค่ะ รินไม่กิน!!”“รินเธอจะงอนเอาเป็นเอาตายเลยหรือไง ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเกินเลยไปมากกว่ามองเลยนะ”
ถึงฉันจะเคยพูดว่ายังไม่พร้อม แต่พอมาถูกขอแต่งงานแบบนี้จะปฏิเสธลงได้ยังไงล่ะ คุณเหนือมัดมือชกกันชัดๆ เลย“อยากให้รินตอบตกลงใช่ไหมคะ” ฉันถามคุณเหนือเพราะคิดอะไรสนุกๆ ขึ้นมาได้ มันนึกอยากจะแกล้งเขาเล่นๆ“ทำขนาดนี้แล้วยังจะถามอีก”“ถ้าอย่างนั้นคุณเหนือก็ต้องลงไปแช่ในน้ำทะเลห้านาที แล้วรินจะตอบตกลง ^_^”คุณเหนือมองไปที่น้ำในทะเล “ตอนนี้?”“ก็ใช่ไงคะ ตอนนี้ ^_^”“ได้”คุณเหนือเก็บแหวนไว้ในกระเป๋ากางเกง จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อแล้วเดินดุ่มๆ ไปอย่างไม่ลังเลตอนนี้บรรยากาศถูกปกคลุมไปด้วยความมืด ทะเลตอนกลางคืนนั้นน่ากลัว แต่คุณเหนือกลับทำตามคำสั่งของฉันอย่างไม่คิดลังเลอะไรเลย เป็นแบบนี้ใครจะไม่ใจอ่อนยอมแต่งงานด้วยกันล่ะ“อ่า! น้ำเย็นชะมัด” คุณเหนือพูดขึ้น เขานั่งแช่อยู่ในน้ำอย่างเด็ดเดี่ยว ถึงปากจะบ่นว่าน้ำเย็นก็ตาม“จริงๆ ถ้าคุณเหนือไม่ลงไปแช่ในน้ำทะเลแบบนั้นรินก็คงตอบตกลงอยู่แล้วนะคะ ^_^” ฉันบอก ทำให้ถูกคุณเหนือจ้องเขม็ง“เธอแกล้งฉัน?”“หลอกง่ายเหมือนกันนะเนี่ย”จบคำพูดของฉันคุณเหนือก็ลุกขึ้นมาจากน้ำ เขาเดินตรงมาที่ฉัน“คะ คุณเหนือจะทำอะไรคะ” ฉันถามพร้อมกับถอยหนี รู้สึกไม่ปลอดภัยยังไงก็ไม่รู้“ไม
#ภายในห้องตอนนี้เสื้อผ้าของฉันกับคุณเหนือถูกถอดและโยนทิ้งไว้บนพื้นจนมันกระจัดกระจายไปทั่วทั้งห้อง“ให้รินทำให้นะคะ รินอยากทำให้คุณเหนือบ้าง” ฉันพูดอย่างยั่วยวนก่อนจะผลักร่างกำยำลงไปนอนราบกับเตียงฉันคลานเข่ามาขึ้นคร่อมคุณเหนือเอาไว้ พร้อมกับใช้มือกุมแก่นกายใหญ่ที่ค่อยๆ ขยายตัวจนล้นอุ้งมือของฉัน“ทำไมวันนี้เธอถึงอยากทำ ?” คุณเหนือเงยศีรษะขึ้นมาขมวดคิ้วถาม“รินอยากทำให้คุณเหนือติดใจรินไงคะ ^_^”“แค่เธอนอนเฉยๆ ฉันก็แทบจะคลั่งตาย อ๊า~”ฉันใช้มือชักรูดแก่นกายในขณะที่คุณเหนือกำลังพูดอย่างกลั่นแกล้ง นั่นจึงทำให้เขาเผลอร้องครางออกมา“รินยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ”“มือเธอกำลังทำให้ฉันหมดแรง ซี๊ด~”“แล้วถ้ารินใช้ปากละคะ”ฉันถามด้วยน้ำเสียงที่ยั่วยวนก่อนจะก้มหน้าลงใช้ริมฝีปากสัมผัสกับแก่นกายใหญ่ รู้สึกได้ถึงร่างกายที่เริ่มเกร็งของคุณเหนือในตอนที่ฉันตวัดปลายลิ้นเลียหยอกเย้าหัวเห็ดแดงก่ำ“ริน อ๊า~ เธอคิดจะฆ่าฉันหรือไง”“ชอบไหมคะ รินทำเก่งไหม”ฉันเงยหน้าขึ้นถามจากนั้นก็ก้มหน้าลงอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ไม่ใช่แค่ลิ้น แต่ฉันใช้ริมฝีปากอุ่นร้อนครอบงำท่อนเนื้อดุ้นใหญ่แล้วอมให้ลึกจนขอบปากแนบชิดกับปลายโคนจากน
วันเวลาล่วงเลยมาจนกระทั่งในวันที่ฉันฝึกงานจบ จริงๆ ก็ไม่ได้ฝึกงานหรอก นั่งๆ นอนๆ อยู่ที่บ้านซะมากกว่า พอฝึกงานจบแล้วตอนนี้ก็เหลือแค่รับปริญญา วันนี้ฉันต้องเข้าไปทำธุระที่มหาวิทยาลัยด้วยไม่รู้ว่าคุณเหนือเป็นอะไรพอรู้ว่าฉันจะเข้าไปที่มหาวิทยาลัยก็ออกอาการงอแงบอกว่าจะไปด้วย จะรอที่รถ ซึ่งฉันเองก็นัดกับพราวไว้ว่าจะไปกับพราว“วันนี้รินเช็กตารางงานคุณเหนือกับพี่รุ้งแล้ว มีประชุมตอนเก้าโมงเช้านี่คะ จะไปกับรินได้ยังไง”“ไม่อยากให้ฉันไปด้วยถึงขนาดต้องโทรเช็กตารางงานเลยหรือไง” คุณเหนือชักสีหน้าใส่ฉัน มันใช่เรื่องหรือเปล่าเนี่ย นั่นงานของเขานะ“บอกเหตุผลมาได้ไหมคะว่าทำไมถึงอยากไปกับรินขนาดนั้น”“ก็หวง! อยากไปด้วยกลัวผู้ชายจะมายุ่งกับเมีย” คุณเหนือบอก เขาก้มหน้าลงแล้วทำแก้มป่อง น่าเอ็นดูจริงๆ พ่อคุณ“ให้รินใส่กระโปรงยาวจนถึงตาตุ่มแบบนี้ยังหวงอีกเหรอคะ” ฉันบอกพร้อมกับก้มมองกระโปรงที่ตัวเองใส่ มันยาวจนคลุมตาตุ่มเลยนะ ก็เพราะคุณเหนือนั่นแหละสั่งให้ใส่แบบนี้“เดี๋ยวฉันจะโทรไปเลื่อนประชุม” คุณเหนือทำท่าจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก ฉันจึงรีบค้านไว้ “หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะคะ แยกแยะหน่อยสิ”“แยกแยะแล้ว จะไป
#คฤหาสน์หลังใหญ่ตอนนี้ฉันกับคุณเหนือกำลังนั่งกินข้าวที่บ้านคุณพ่อของคุณเหนือ ที่ผ่านมาฉันได้เจอกับท่านบ่อยๆ จึงทำให้ไม่รู้สึกเกร็งแล้ว“ฉันได้ฤกษ์แต่งงานมาแล้ว ฤกษ์ดีที่สุดก็อีกสองเดือน”หัวใจดวงน้อยมันเต้นรัวเมื่อได้ยินแบบนั้น นี่ฉันใกล้จะได้แต่งงานแล้วหรอเนี่ย“แกก็พาหนูรินไปลองชุดเดี๋ยวต้องสั่งตัดชุดอีกคงใช้เวลานาน ส่วนเรื่องสถานที่ฉันจะจัดการให้เอง”“ครับพ่อ” คุณเหนือตอบก่อนจะหันมายิ้มกริ่มให้ฉัน“แล้วนี่พร้อมจะมีลูกเมื่อไหร่ ฉันว่าทำลูกมันซะตอนนี้เลยก็ดีเหมือนกันนะ ยังไงก็จะแต่งงานกันอยู่แล้ว ฉันเองก็อยากเห็นหน้าหลานเร็วๆ”“อะ เอ่อคือเรื่องนั้นริน….”“ยังไม่พร้อมสินะ อืมๆ ฉันเข้าใจว่าการมีลูกมันเป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็อย่าให้มันนานจนเกินไปแล้วกัน”ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อพ่อของคุณเหนือนั้นเข้าใจและไม่ได้เร่งรัดอะไร แต่พอหันมองคุณเหนือก็ได้เห็นว่าตอนนี้เขากำลังทำหน้ายักษ์ใส่ฉันอยู่“กินข้าวสิคะ” ฉันยิ้มแบบกวนๆ ให้คุณเหนือไปหนึ่งกรุบก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อหลังจากกินข้าวเสร็จแล้วฉันกับคุณเหนือก็อยู่คุยเรื่องงานแต่งต่อสักพัก ด้วยความที่ฉันไม่มีญาติที่ไหนแล้วจึงไม่ต้องไปคุยกับผู
ฉันตั้งใจว่าจะไปหาพราวที่บ้านแต่จู่ๆ มันก็หน้ามืด เหมือนจะเป็นลม และก็ไม่รู้ว่าคุณเหนือมายังไง เขารีบวิ่งมาประคองตัวฉันไว้ ทั้งที่บอกว่าจะออกไปบริษัทแท้ๆ“ไปหาหมอ”“ไม่เอาค่ะ รินไม่ได้เป็นอะไรมาก”“ทำไมถึงไม่ยอมไปหาหมอ เธอเป็นแบบนี้บ่อยเกินไปแล้วนะวาริน”“เดี๋ยวรินกับคุณเหนือก็ต่างคนต่างนอนคนละห้องตั้งหนึ่งเดือน อาการคงจะดีขึ้นค่ะเพราะรินได้พักผ่อนเต็มที่” ฉันพูดในเชิงประชดประชัน“ฝันไปเถอะ! แค่คืนเดียวฉันก็นอนไม่หลับ”“ไม่โกรธรินแล้วเหรอคะ ?” ฉันยิงคำถามใส่คุณเหนือก็ทำหน้างอนๆ นั่นแหละ จากนั้นเขาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ “คิดว่าฉันทำได้หรือไง คิดว่าฉันไม่สนใจเธอได้หรือไง”“เมื่อกี้คุณเหนือก็เมินริน”“ฉันน้อยใจเธอต่างหาก แต่เธอแม่งไม่ง้อ” คุณเหนือบอกจากนั้นก็อุ้มตัวฉันขึ้นพาเดินมาที่ห้องรับแขก แล้ววางฉันลงบนโซฟาแปลกเนอะ เมื่อกี้เรายังทำเมินใส่กันแต่สุดท้ายเราก็ไม่สามารถโกรธกันได้นานกว่านี้จริงๆ“ไปหาหมอได้ไหม รู้บ้างไหมว่าฉันเป็นห่วงเธอมากขนาดไหน” คุณเหนือแสดงความเป็นห่วงออกมาผ่านแววตาของเขา“งั้นหลังจากรับปริญญารินจะไปหาหมอนะคะ”“สัญญา ?”“ค่ะ ^_^” บางทีฉันก็คืดว่าตัวเองอารมณ์แปรปรวนแปลกๆ
Talk ทิศเหนือก๊อกๆ เสียงเคาะห้องทำงานดังขึ้น ในขณะที่ผมกำลังนั่งทำงานอยู่ “เข้ามา” สิ้นสุดเสียงของผมประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามา เผยให้เห็นร่างอรชรของผู้หญิงในชุดนักศึกษา เดินถือแฟ้มเอกสารตรงมายังโต๊ะทำงานของผม “เอกสารที่คุณทิศเหนือต้องเซ็นวันนี้ค่ะ พอดีพี่เอมติดธุระเลยฝากให้ฉันเอามาให้” “เป็นนักศึกษาฝึกงานคนใหม่สินะ” ผมถามผู้หญิงตรงหน้า สายตาโฟกัสหน้าอกสองเต้าของเธอที่มันแน่นซะจนเม็ดกระดุมจะกระเด็นออกจากกัน ท่าทางซื้อบื้อของเธอมันช่างขัดกับเสื้อที่ใส่อยู่ซะจริงๆ “…ค่ะ” “ชื่ออะไร ?”“วารินค่ะ” เธอตอบแต่กลับไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม “อยากมีเงินใช้มั้ย ?” ถ้าผมถูกใจใคร ผมก็จะไม่ลังเลที่จะชักจูงผู้หญิงพวกนั้นด้วยเงิน อย่างที่ผมกำลังยื่นข้อเสนอให้กับผู้หญิงตรงหน้า “…คะ ?” ท่าทางซื้อบื้อของเธอดูจะไม่เข้าใจที่ผมพูดสักเท่าไหร่ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินเข้าไปใกล้ๆ กับผู้หญิงตรงหน้า ก่อนจะใช้มือโอบเอวเธอเอาไว้แบบหลวมๆ “คะ คุณทิสเหนือคะ” เธอดูจะตกใจมากพอสมควร รีบผลักผมให้ออกห่าง แต่ผมยังคงโอบเอวเธอไว้อยู่ “เรียกฉันว่า คุณเหนือ” “ฉันสามารถให้เงินเธอใช้ได้ไม่ขาดมือ สนใจมั้ยหื้ม…”
เช้าวันใหม่…สิ่งที่ฉันต้องทำเป็นประจำในทุกๆ เช้าคือการตื่นนอนอาบน้ำเพื่อไปฝึกงาน โชคดีหน่อยฝึกงานที่บริษัทนี้เขาให้เงินเดือน ไม่อย่างนั้นคงต้องหางานเสริมทำให้วุ่น กริ่ง~ เสียงโทรศัพท์ของฉันดึงขึ้นมาในขณะที่กำลังนั่งรถเมล์ประจำทางไปที่บริษัท เป็นพราวที่โทรมา พราวคือเพื่ินสนิทของฉันเอง แต่เราฝึกงานกันคนละบริษัท ( ว่าไงพราว ) ( ก็เหงาน่ะสิ แกเล่นเงียบหายไปเลย ) พราวตอบมาเสียงอู้อี้ในลำคอ ( ช่วงนี้ฉันยุ่งๆ นาลินก็อยู่โรงพยาบาล )( ยังไม่ได้ออกจากโรงพยาบาลเลยหรอ )( อื้อ รอบนี้เป็นหนักเลยแก ) ฉันลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ พูดถึงเรื่องน้องสาวทีไรก็รู้สึกหนักใจทุกครั้ง( เดี๋ยวนาลินก็ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว แกไม่ต้องคิดมากนะริน ) ( แกเป็นไงบ้าง ) ( เหนื่อยนะสิ รุ่นพี่ที่บริษัทชอบใช้ให้ทำนู่นทำนี่แทบไม่ได้พักเลย ) ฉันคุยกับพราวมาจนถึงบริษัท เธอเป็นคนน่ารักนิสัยดีเรียบร้อย แต่ติดที่ว่าชอบบ่นจุกจิกไปหน่อย #บริษัท ฉันยิ้มและยกมือไหว้รุ่นพี่ที่บริษัทแทบจะทุกคน ไม่ว่าจะรู้จักหรือไม่รู้จัก ที่ฉันทำคือมารยาทและเป็นการผูกมิตรที่ดี เมื่อเดินมาถึงหน้าลิฟต์ฉันก็กดแล้วยืนรอสักพักประตูลิฟต์ก็เปิดออก จ