“ที่นี่แพงมากเลยไม่ใช่เหรอ ยิ่งชั้นสูงๆ แบบนี้..”
“ใช่ค่ะ” เงินที่เธอเก็บมาตลอดระยะที่ทำงานอยู่ที่การซื้อคอนโดหมดเลย เพราะแบบนั้นเธอถึงไม่เคยถือกระเป๋าแบรนด์เนมหรือว่าใช้โทรศัพท์เครื่องละหลายหมื่นเลย เมื่อนิดาเปิดประตูห้องเข้าไปหนุ่มก็อดไม่ได้ที่จะตกใจกับความเป็นระเบียบของสิ่งของภายในห้อง.. “ไม่รกเลยแฮะ..” เธอหรี่ตามองหน้าเขา “หนูดูเหมือนคนที่จะทำห้องรกงั้นเหรอคะ” เธอไม่มีทางทำรกอย่างเด็ดขาดเพราะว่าค่าผ่อนคอนโดมันแพง นิดาถึงไม่คิดทำลายสิ่งของที่มันได้มาด้วยความยากลำบากแน่นอน! “ไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่อย่างที่พี่รู้ คนที่ทำงานแบบเราไม่ค่อยมีเวลา เพราะแบบนั้นอาจจะมองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆ อย่างการทำความสะอาดบ้าน” “หนูไม่มีทางทำห้องรกหรอกค่ะ ไม่มีทางอย่างแน่นอน! อันที่จริงคืนนี้ด้านล่างมีจุดพลุด้วยนะคะ เมื่อปีที่แล้วสามารถมองเห็นจากที่นี่ได้ชัดเจนเลย” เขามองหน้าเธอก่อนจะถอดเสื้อคลุมวางพาดไว้กับโซฟา “นี่กำลัง ชวนให้ผมค้างที่นี่อยู่รึเปล่า” เธอหัวเราะเบาๆ “หนูไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อยค่ะ แต่ถ้ามันชวนให้บอสเข้าใจแบบนั้น แล้วละก็..จะลองค้างที่นี่ไหมคะ” เขาดึงเธอที่กำลังยืนอยู่ให้นั่งลงบนตัก ก่อนจะซบใบหน้าลงที่ไหล่ของนิดาเบาๆ “ไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นดอกไม้ไฟในระยะแบบนี้ คืนนี้เรานั่งดูด้วยกันเถอะครับ คงจะดีหากว่ามีโซจูสักสองสามขวด” เธอมองหน้าเขา แล้วก้มหน้าลงไปจุมพิตลงบนเรือนผมที่นุ่มสลวยของเขาเบาๆ “ไม่มีโซจูแต่ในตู้เย็นมีเบียร์อยู่ประมาณสองลัง พอจะทดแทนกันได้ไหมคะ” “ไม่ยักรู้ว่าเธอเป็นนักดื่มตัวยง” นิดาส่งเสียงร้อง หึ ออกมา “พอดีว่าที่ทำงานของหนู มีเจ้านายที่ดุมากๆ เลยค่ะ เครียดจากเรื่องงานก็ต้องดื่มให้มากหน่อยสิคะ” เขาเงยหน้าขึ้นมาสบตาเธอ “เจ้านายดุมากเลยเหรอครับ..ให้ผมไปจัดการให้เอาไหม” นิดาขบเม้มริมฝีปาก “ก็ดุพอสมควรเลยค่ะ แต่โชคดีที่เขาหล่อมาก..ก็เลยพอจะให้อภัยเรื่องที่เขาสั่งงานเยอะๆ ได้นิดหน่อย” ริมฝีปากของเขาหยักยิ้มขึ้นมา เมื่อมองเห็นใบหน้าของนิดาขึ้นเป็นสีแดงระเรื่อในตอนที่เธอกล่าวถึงเรื่องของเขา “นี่เธอ..เป็นคนชอบคนที่หน้าตางั้นเหรอ” “ก็หน้าตาเป็นสิ่งที่หนูเห็นก่อนอย่างอื่นนี่นา” “เพราะแบบนั้นก็เลยชอบหนุ่มที่ร้านกาแฟนั่นเหรอครับ” รอยยิ้มบนใบหน้าของนิดาค่อยๆ หุบลง เธอซบใบหน้าลงบนอกกว้างของเขา นี่เขา..เห็นด้วยเรอะ!! “หนูไม่เคยมีแฟนเลยค่ะ ตั้งแต่ตอนเรียนก็มัวแต่เรียน พอเข้ามาทำงานใหม่ๆ ก็ตั้งใจทำงานจนไม่ได้มองใครเลย กับพี่ตินเราเริ่มต้นความสัมพันธ์มาจากการเป็นเพื่อน แล้วค่อยๆ ขยับมาเป็นแฟนกัน” พี่ตินงั้นเหรอ? พอได้ยินแบบนั้นรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เธอเรียกเขาว่าบอสเรียกแฟนเก่าว่าพี่เนี่ยนะ! “ส่วนเรื่องที่เลิกกันเพราะว่าหนู..มีความฝันที่บอกใครไม่ได้อยู่ แล้วพี่ตินเขาไม่เห็นด้วย” “แบบนั้นก็ดีแล้วที่เลิกกับหมอนั่นไป เพราะว่ากับบางเรื่องเราบอกใครไม่ได้นอกจากคนรัก อย่างเช่นความฝันในวัยเด็ก..พี่อยากเป็นคนสวนนะ อยากปลูกดอกไม้เยอะๆ เพราะว่าพี่ชอบดอกไม้มาก แต่..ทั้งพ่อและแม่ก็ไม่เห็นด้วย ตอนนี้พี่ก็เลยทำได้แค่ปลูกดอกไม้พวกนั้นหน้าบ้าน” นี่คือสาเหตุที่ทำให้หน้าบ้านของเขามีดอกไม้ที่แปลกตาเต็มไปหมดสินะ แต่เดี๋ยวก่อนเขากำลังบอกเล่าความฝันกับเธองั้นเหรอ? ไหนบอกว่ากับบางเรื่องเท่านั้นที่จะสามารถพูดกับคนรักได้ แล้วมาพูดกับเธอทำไมกันเล่า!! โชคดีมากๆ เลยที่เธอกำลังก้มหน้าอยู่ ไม่อย่างนั้นเขาคงมองเห็นใบหน้าที่เห่อร้อนแดงซ่านขึ้นมาจนมันน่าจะแดงเหมือนลูกมะเขือเทศแล้ว "ถึงว่าสิคะ เพราะดอกไม้ที่บ้านของบอสมันสวยมากๆ เลย” “เรียกผมว่าพี่บ้างสิ..แค่ตอนนี้ก็ได้ ที่นี่ไม่ใช่ที่ทำงานที่เราจะเรียกพี่ว่าเจ้านาย..” นิดาเผลอเงยหน้าขึ้นมามองหน้าเขาอย่างลืมตัว “พี่หนุ่ม..” อ๊ากกกก หัวใจของเธอมันกำลังจะเต้นทะลุออกมาข้างนอกแล้ว นี่เธอยังหายใจอยู่รึเปล่า? ไม่ใช่ว่าตกใจจนช็อกไปแล้วเรอะ! ที่นั่งอยู่นี่อาจจะเป็นแค่วิญญาณส่วนกายหยาบสิ้นลมไปแล้วก็ได้ “อื้อ เรียกแบบนี้น่ารักมากเลย” นิดาลุกขึ้นมาจากอ้อมกอดของเขาอย่างรวดเร็ว เธอเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อจะเปิดหาอาหารสักสองอย่างมาทำเป็นกับแกล้ม อีกไม่ถึงชั่วโมงดอกไม้ไฟก็จะถูกจุดขึ้นมาแล้ว เพราะฉะนั้นเธอจะต้องจัดเตรียมทุกอย่างให้เรียบร้อยเหมาะสำหรับการนั่งชม ปีที่แล้วเธอนั่งอยู่คนเดียว ถึงตอนนั้นจะเป็นแฟนกับพี่ตินแต่เขาไม่เคยมาที่ห้องเธอเลย งานของเขาค่อนข้างยุ่งเพราะตอนนั้นเขาพึ่งจะเปิดร้านกาแฟจึงทำให้เขาไม่มีเวลามาฉลองปีใหม่กับเธอเลย วันเกิดของเธอเขาก็ส่งข้อความมา ส่วนวันครอบรอบหนึ่งปีของเราเขาสั่งดอกไม้มาให้เธอพร้อมกับกระดาษโน้ตเล็กๆ พอมาลองคิดดูดีๆ เราไม่ได้มีช่วงเวลาใกล้ชิดที่เหมือนกับคู่รักคนอื่นๆ เลย “ทำอาหารเหรอ?” “เห็นแบบนี้หนูทำกับข้าวเก่งนะคะ เพราะต้องอยู่คนเดียวก็เลยเคยชินกับการทำอะไรด้วยตัวเองมากๆเลย" นิดาจัดการเริ่มทำอะไรง่ายๆ อย่างการทำน้ำยำ ในตู้เย็นมีกุ้งที่เธอนึ่งเอาไว้ เอามายำกับมะม่วงอร่อยมากเลย เธอชอบกินก็เลยซื้อกุ้งติดตู้เย็นเอาไว้ทีละเยอะๆ หนุ่มมองการใช้มีดที่คล่องแคล่วของนิดาด้วยสายตาที่ประหลาดใจ เขาเห็นว่าเธอคือสาวน้อยน่ารักที่ดูนุ่มนิ่มไปหมดทุกส่วน แต่พอได้รู้จักจริงๆ เธอกลับแข็งแกร่งมากกว่าที่คิดเอาไว้ซะอีกนะเนี่ย นิดาใช้เวลาไม่นานก็ตักน้ำยำใส่ช้อนมาให้เขาได้ลองชิม “อร่อยไหมคะ จริงสิหนูลืมถามว่าพี่ทานเผ็ดได้ไหม..” “อร่อยครับ ส่วนเรื่องทานเผ็ด พี่ทานได้ ทำตามรสที่เราชอบได้เลย” เขากินได้ทั้งนั้นแหละขอแค่เป็นฝีมือของเธอ..การได้มองนิดาที่กำลังตั้งใจทำอาหารเป็นอีกมุมที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน เธอทำให้เขาประหลาดใจได้ตลอดเลยไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำอาหาร หรือว่าเรื่องบนเตียง.. ความคล่องแคล่วที่ชวนให้ใจสั่นไหวนั้น ช่างอันตรายต่อหัวใจมากจริงๆ “หนูไม่รู้เลยว่าพี่ชอบทานอะไร..” “เรื่องนั้นไม่เป็นไรเลย..เพราะกับบางเรื่องค่อยๆ เรียนรู้และทำความเข้าใจกันไปได้” รอบที่ร้อยที่เธอเขินกับใบหน้านั้น ปกติเขาไม่ค่อยยิ้มก็ทำให้เธอแอบๆ ปลื้มเขาแล้ว แต่นี่เขายิ้ม ไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนที่ใช้แรงงานเธอโหดแบบนั้นจะสามารถยิ้มได้กระชากใจแบบนี้! “พี่หยุดยิ้มก่อนได้ไหมคะ..มันดูดีจนหนูไม่อยากกินยำพวกนี้แล้ว” นิดาเขย่งปลายเท้าขึ้นมาแล้วหอมแก้มเขาเบาๆ “หนูอยากกินพี่มากกว่า”ดวงตาสีนิลของเขาฉายแววลึกล้ำ พร้อมกับริมฝีปากที่เชิดรั้นขึ้นมาเขาหยักยิ้มก่อนจะจุมพิตลงมาที่แก้มของเธออย่างแผ่วเบาราวกับว่าเขาต้องการที่จะเอาคืน..“ได้กินแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้”นิดาหัวเราะเบาๆ“ปกติแล้วตอนที่อยู่ในบริษัทหนูไม่เคยเห็นพี่ในมุมนี้เลยค่ะ กับเรื่องงานพี่ดู..จริงจังมากๆ”เขาเทเบียร์ใส่แก้วก่อนจะส่งให้เธอ“กับเรื่องคนรักพี่ก็จริงจังนะ..”อ่า..คราวนี้เป็นเธอบ้างสินะที่ถูกเขาเอาคืน“แต่พี่ในมุมที่ไม่จริงจังดูน่ารักมากกว่าเยอะเลย”“เราจะบอกว่าตอนที่พี่อยู่ที่ทำงาน พี่ไม่หล่องั้นสิ”“ไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อย หนูแค่จะบอกว่าตอนที่พี่ยิ้ม..มันดูดีมากๆ เลยค่ะ แบบนั้นก็ช่วยยิ้มบ่อยๆ หน่อยได้ไหมคะ”เขามองหน้าเธอนิ่งๆ ก่อนจะตักอาหารมากมายใส่จานแล้วมาที่โต๊ะอาหารที่ตั้งอยู่ติดกับกระจก..“พี่จะยิ้มให้กับคนที่อยากยิ้มให้เท่านั้น ยิ้มทั้งวันคนในบริษัทจะหาว่าพี่เป็นบ้าพอดี”เหมือนกันเราเริ่มสนิทกันมากขึ้นอีกนิดรึเปล่านะ ตอนนี้เธอสามารถเรียกเขาว่าพี่ได้อย่างไม่รู้สึกเขินอาย ส่วนเขาก็เริ่มพูดคุยกับเธอมากขึ้น ในแววตานั้นไม่ได้มีความประหม่าปะปนอยู่อีกแล้ว ซึ่งมัน..เหมือนจะดีมากๆเลยนิดาย
น่ารักชะมัดเลย.. เหมือนว่าที่ผ่านมาเขาเองก็ชื่นชอบนิสัยแบบเด็กๆ ของเธอมาก เลยนะ“ทำไมจะไม่อยากล่ะ พี่อยากให้มีเด็กมาอ้อนตั้งนานแล้ว อยากมีแชทที่ตั้งชื่อว่าที่รัก อยากมีใครสักคนให้คิดถึงตอนที่ทำงานเหนื่อยๆ ..”ไม่ไหวแน่ หัวใจของเธอรับไม่ไหวแน่ๆ เลย“คือหนูไม่ได้คิดจะปฏิเสธนะคะ แต่หนูก็ยังไม่ค่อยกล้าที่จะทุ่มเทให้กับความรัก เพราะแบบนั้นเรามาค่อยๆ ทำความรู้จักกันไปก่อนเถอะค่ะ”ไม่รู้เหมือนกันว่าผลของการตอบตกลงในวันนี้มันจะเป็นแบบไหน แต่เธออยากจะลองเปิดใจให้เขาดูหมาวัดตัวนี้จะปีนขึ้นไปหาบอสที่อยู่บนฟ้าเองค่ะ หนูจะลองเด็ดดอกฟ้าดูสักครั้งริมฝีปากของนิดาผลิบานราวกับดอกไม้ รอยยิ้มที่แสนน่ารักไม่แพ้กับดวงตาที่กระจ่างใสนั่นเลยถึงแม้ว่าเรื่องราวของเรามันจะเริ่มต้นที่ความผิดพลาด แต่จากนี้ไปมันจะไม่มีเรื่องผิดพลาดอีกแล้ว หนุ่มตั้งใจว่ามันจะเป็นแบบนั้นจู่ๆ ใบหูของเขาก็รู้สึกร้อนขึ้นมา เขาเองก็ไม่เคยตั้งใจกับความสัมพันธ์อะไรเท่าครั้งนี้มาก่อนเลยนิดาละสายตาจากใบหน้าของเขาเพื่อไปมองที่วิวด้านนอก แสงไฟตามตึกและอาการยังคงส่องสว่างเหมือนเดิมหัวใจสั่นไหวอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลย ทว่าบางอย่างยังค
“แกก็รู้ว่าบ้านเรากำลังประสบปัญหามากแค่ไหน แม่เหลือแค่ต้องพึ่งแกแล้วนะพิม แค่แกแต่งงานกับคุณอาเชอร์ เขาจะยินยอมยกหนี้ให้เรา พร้อมกับสินสอดที่มากพอในการเอาไปลงทุนทำธุรกิจของแม่..”พิมมองหน้าแม่สลับกับพี่สาวที่ทั้งสองคนก็กำลังมองหน้าเธออยู่เช่นกัน มือของเธอกำแน่นจนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ ความจุกตื้ออัดแน่นอยู่ในอก แต่ว่าเธอกลับร้องไห้ไม่ออกพิมแค่นหัวเราะออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ“ทำไมกันคะแม่ ทำไมอะไรๆ ก็จะต้องเป็นพิมตลอดเลย นี่พิมเป็นลูกแม่จริงไหมเนี่ย”เธอมองหน้าของพี่สาวด้วยความโกรธเคือง“พิม นี่แกพูดแบบนั้นกับพี่ได้ยังไง พราวทำงานหนักเพื่อแกมากแค่ไหนแกไม่รู้หรอก แม่จะไม่ถามความเห็นอะไรจากแกอีกแล้ว พรุ่งนี้เตรียมตัวไปคุยกับออแกไนท์จัดงานแต่งก็แล้วกัน ไม่ว่ายังไงงานนี้แกก็จะต้องแต่ง”ที่มุมปากของพราวหยักหยิ้มจางๆ ขึ้นมา“แม่คะ เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูไปส่งพิมเองค่ะ พอดีมีบริษัทที่รู้จัก ที่นั่นจัดงานแต่งระดับประเทศทั้งนั้นเลย พราวว่าหากให้ที่นั่นมาจัดงานน่าจะได้งานเลี้ยงที่หรูหราในแบบที่แม่ต้องการ”พิมขมวดคิ้ว“หนูยังไม่ได้บอกเลยว่าจะแต่ง”“แกปฏิเสธไม่ได้หรอก สำหรับครั้งนี้น่ะ..เชื่อฟังแม่
เมื่อจบประโยคนั้นนิดาก็เดินออกมาจากห้องน้ำพอดี“สบายดีสิ พี่จะพบพราวเรื่องงานแต่งของน้องสาวและจะจัดเตรียมแบบงานต่างๆ ไปให้เลือกนะ ขอบคุณที่ยังนึกถึงพี่ในเรื่องงาน”“....งั้นพรุ่งนี้เจอกันนะคะ พราวคิดถึงพี่นะ”เขากดวางสายก่อนที่จะทันฟังคำกล่าวสุดท้ายของพราวจบ“นั่นอาบน้ำหรือว่าวิ่งผ่านน้ำ”นิดาที่กำลังทาครีมอยู่ถึงกลับกลอกตามองบน“อาบน้ำค่ะ เพราะว่าเมื่อชั่วโมงที่แล้วก็พึ่งอาบแต่ว่าพี่ทำให้ตัวหนูเลอะเทอะ”หนุ่มเดินเข้าไปหอมแก้มนิดาเบาๆ“งั้นอยากเลอะเทอะอีกสักรอบไหมล่ะ”“พี่หนุ่ม หนูหิว...”“โอเคๆ พี่ไม่แกล้งแล้ว รอพี่แป๊บนะ”ตอนแรกเธอคิดว่าพี่หนุ่มจะพาเธอไปดินเนอร์ที่ร้านอาหารชื่อดังหรือไม่ก็คาเฟ่สวยๆ แต่มันกลับไม่เป็นแบบที่นิดาคิดเลยเพราะว่าเขาพาเธอขี่จักรยานไฟฟ้ามาที่งานปีใหม่“มาสิ พี่มาเดินทุกปีเลยนะ ขนมถังแตกอร่อยสุดๆ ไปเลย”นิดาหัวเราเสียงดัง เธอจับมือของเขาเอาไว้พร้อมกับเดินเข้าไปในงาน ตั้งแต่ที่เขาพาเธอเข้ามาในงานปีใหม่ บอกได้เลยว่ารอยยิ้มของนิดายังไม่หุบลงเลย มันน่าเหลือเชื่อที่คนรวยแบบเขาจะมาเที่ยวในที่แบบนี้ และมัน..ทำให้เธอตกหลุมพรางเขาซ้ำๆ แบบไม่รู้จบ“ไก่ย่างร้านนี้อร่อยน
นิดานั่งมองตุ๊กตารูปห่านตัวใหญ่ที่กำลังนั่งอยู่บนเตียง เธอขยับริมฝีปากยกยิ้มด้วยความดีใจเมื่อวานเราทั้งสองได้ทำอะไรด้วยกันมากมายเลยล่ะ นั่งเล่นบิงโกอยู่ค่อนคืนกว่าจะได้เจ้าห่านยักษ์ตัวนี้มา ถึงแม้ว่าตอนกลับจะทุลักทุเลมากก็ตาม เพราะว่าเราขี่จักรยานไฟฟ้าไป“ชอบขนาดนั้นเลยเหรอ”นิดาดึงผ้าห่มมาห่มให้เจ้าห่านสีขาวตัวใหญ่“ชอบสิคะ ก็เป็นตุ๊กตาที่เราพยายามกันมากเลยนี่กว่าจะได้น้องมา”เขาจัดเตรียมเอกสารและแลบท็อปเพื่อเดินทางไปหาลูกค้า ตอนแรกนิดาจะไม่ไปด้วยแต่เขาอยากให้เธอไปนะเขาอยากให้เธอไปช่วยงานและเพื่อให้นิดาสบายใจว่าระหว่างเขาและพราวมันจบลงแล้วนิดาอยู่ในชุดเดรสสีฟ้าอ่อนๆ เธอแต่งหน้าเบาๆ เพราะว่าวันนี้ไม่ได้นับว่าทำงาน แต่เป็นการพบกันของ..บอสและเพื่อนเก่า“ไปกันเถอะ”“ให้หนูขับให้ไหมคะ หนูขับรถเก่งนะ”“รู้แล้วว่าขับเก่ง แต่วันนี้ลองเป็นคนนั่งบ้างเถอะน่า”นิดาส่งยิ้มให้กับเขาก่อนจะเดินไปยังฝั่งคนนั่ง ที่บ้านเขามีรถหลายคันมากทีเดียว และแต่ละคันคือซุปเปอร์คาร์และรถยุโรป ความรวยนี่มันดีจริงๆ แฮะ“เรามีนัดจัดงานกี่งานในเดือนมกรา”นิดาค้นกระเป๋าของเธอเพื่อหาสมุดจดงาน“เดือนมกรามีสามงานค่ะ แต่
พิมตกใจไม่น้อยกับคำกล่าวของแฟนเก่าพี่พราว ปกติแล้วไม่ว่าใคร ก็ไม่กล้าปฏิเสธผู้หญิงที่ทั้งสวย รวย เก่ง แบบพี่พราวไม่ได้หรอก แต่นี่เขาเป็นคนแรกเลยแฮะทว่าสิ่งที่พิมเหมือนจะตกใจมากกว่าที่คุณหนุ่มปฏิเสธพี่พราวคือสายตาที่เขามองนิดา และสายตาของนิดาที่มองเขาอยู่..นี่พวกเขาทั้งสองคนเป็นแฟนกันงั้นเรอะ!พราวไม่เคยรู้สึกเสียหน้าอะไรเท่านี้มาก่อนเลย เธอไม่เคยถูกปฏิเสธมาก่อน แถมการกระทำให้พี่หนุ่มมันยังเป็นการหักหน้าของเธอต่อหน้าของยัยพิมอีกด้วย“วันนี้พราวกลับก่อนนะคะ..”“ครับ”เขาไม่ได้มองหน้าของพราวด้วยซ้ำ ในตอนที่ตอบกลับคำลาของเธอ“เรามาเริ่มที่ตรีมงานที่อยากได้ก่อนไหมครับ อยากจะได้แต่งในสวน ในโรงแรมหรือว่าริมทะเล”คราวนี้เป็นพิมบ้างแล้วที่เป็นฝ่ายอึดอัดใจ เธอไม่ต้องการแต่งงาน ไม่ว่าจะจัดที่ไหนก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกดีสักนิดเลย“พิม..แกไม่ได้อยากแต่งงานใช่ไหม”นิดาเอ่ยถามพร้อมกับยื่นมือไปกุมมือเพื่อนสนิท เราเรียนด้วยกันตั้งแต่มอปลายยันมหาลัย พิมอยู่คนเดียวมาโดยตลอด เราทั้งสองตั้งใจเรียนอย่างหนักเพราะจะต้องสอบชิงทุนในทุกๆ ปี เธอรู้จักครอบครัวของพิมแค่ว่าพิมมีแม่ที่กลับไปหาสามีเก่า และมีพี่สาวที่ไม
เมื่อหนุ่มเดินกลับมาที่โต๊ะอีกครั้งก็มองเห็นนิดานั่งอยู่ที่โต๊ะเพียงคนเดียว เธอกำลังก้มหน้าก้มตาจดบางอย่างลงไปในสมุด“ลูกค้าไปแล้วงั้นเหรอ..”นิดาละสายตาจากสมุดบันทึกเบื้องหน้า ก่อนจะเงยหน้ามาส่งยิ้มหวานให้กับคุณหนุ่ม“พิมไปแล้วค่ะ ส่วนเรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับงานแต่ง หนูได้จัดการบางส่วนไปแล้ว พิมอยากได้งานแต่งเรียบๆ ในสวน ส่วนเรื่องชุด เดี๋ยวหนูนัดพิมไปอีกทีค่ะ ภายในสัปดาห์หน้า”เขานั่งลงข้างๆ เธอก่อนจะยกมือขึ้นมาวางบนพนักพิงเก้าอี้ที่ด้านหลังของนิดา“ยังทำงานได้ดีเหมือนเดิมเลยนะ..”นิดาหัวเราะเบาๆ“กับเรื่องงานหนูก็ตั้งใจเหมือนกันนะคะ พอดีเป็นแค่พนักงานค่ะ ยังไม่ได้เป็นภรรยาเจ้าของบริษัทสักหน่อย จะได้นั่งๆ นอนๆ อยู่เฉยๆ ได้”แค่รอยยิ้มและคำกล่าวหวานล้ำของเธอก็ทำให้เขาใจอ่อนยวบยาบแล้ว ไม่รู้เหตุใดความสุขถึงได้ก่อตัวขึ้นมาในใจได้มากขนาดนี้ เพราะรอยยิ้มของนิดาหรือว่าเพราะคำกล่าวของเธอกันนะ“มันแย่นิดหน่อยที่ถึงเราจะเป็นเมียเจ้าของบริษัท พี่ก็ว่ามันยากอยู่ดี ที่เจ้านายของหนูจะยอมให้หนูได้นั่งๆ นอนๆ”นิดาจัดการเก็บเอกสารมากมายลงในกระเป๋า“ใช่ไหมล่ะคะ วาสนาผู้ใดน้อ ถึงจะได้หัวใจของเจ้านาย
ในขณะที่นิดากำลังคิดมากอยู่นั้น เสียงของพี่เอื้อก็ตะโกนขึ้นมา“พวกเรา เดี๋ยวจะมีพนักงานใหม่เข้ามานะ ต้อนรับน้องดีๆ ด้วยนะเพราะว่าน้องเป็นหลานของบริษัทไอทีฝั่งตรงข้าม น้องมาฝึกงาน”นิดารีบปิดอีเมลล์นั้นในทันที เธอยกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ อย่างใช้ความคิดหลังจากนั้นไม่นานเสียงตบมือก็ดังขึ้นมาพร้อมกับผู้ชายที่อายุราวสามสิบต้นๆ ที่เดินเข้ามา“ตอนแรกที่พี่เอื้อบอกว่าน้อง ผมก็คิดว่าเด็กนักศึกษาฝึกงานซะอีก”พี่เอื้อหัวเราะเบาๆ“ก็น้องมันอายุน้อยกว่าฉันนี่ แถมที่มาฝึกงานเพราะเงื่อนไขที่จะรับมรดก เราแค่ทำเป็นมองไม่เห็น อีกสองเดือนรอเซ็นใบฝึกงานให้น้องมันแบบดีเยี่ยมทุกช่องก็พอ..”“แบบนั้นผมไม่เอาด้วยหรอกครับ ลูกคนรวยแบบนั้นจะต้องเอาแต่ใจแน่นอน ผมไม่สอนน้องเค้านะครับ พี่เอื้อสอนเองเลย”พี่เอื้อส่ายหน้าเบาๆ“ฉันคิดเอาไว้แล้วน่าว่าจะให้ใครสอนงานคุณเอเดน ต้องให้คนที่ใจเย็นที่สุดสอนงานให้สิ..”สายตาของพี่เอื้อมองไปที่นิดา พร้อมกับเดินเข้าไปหาน้องสาวที่ผู้จัดการรักที่สุด“นิดา พี่ฝากให้เราช่วยสอนงานคุณเอเดนด้วยนะ เขามาฝึกงานแค่สองเดือน มันเป็นเงื่อนไขน่ารักๆ ก่อนที่เขาจะได้รับมรดกเป็นตึกไอทีฝั่งตรงข้าม
“จะยังไม่ออกผลงานเล่มห้าจริงๆเหรอคะคุณนักเขียน นักอ่านถามหากันมาเยอะมากๆ เลยนะคะ หากว่าคุณนักเขียนออกเล่มห้ามาในตอนนี้จะต้องขายหมดตั้งแต่วันแรกแน่ๆ”นิดาหัวเราะเบาๆ เมื่อปลายสายกล่าวมาเช่นนั้น“หนูว่าจะหยุดออกผลงานสักสามปีค่ะ เพราะว่าตอนนี้กำลังทำตามความฝันที่สองอยู่ ขอบคุณบรรณาธิการมากเลยนะคะที่นึกถึงหนูตลอด..”“ไม่เป็นไรค่ะคุณดา ยังไงก็รักษาสุขภาพด้วยนะคะ”นิดายกยิ้ม เธอวางโทรศัพท์เอาไว้บนโต๊ะก่อนจะตรงเข้าไปอุ้มเด็กชายวัยสามขวบมากอดเอาไว้เพราะดูเหมือนว่าเขาพึ่งจะตื่นนอน“แม่มาแล้วครับอีธาน นอนนานมากๆ เลยนะ รู้ด้วยรึไงว่าพ่อกำลังจะกลับมา..”ลูกชายของเธอนั้นไม่มีส่วนไหนเลยที่เขาเหมือนเธอ ดวงตาสีนิลที่เหมือนกับพ่อของเขายังกับแกะ“นิดา ขออุ้มเจ้าตัวเล็กหน่อยสิ”คนที่แวะมาหาเธอบ่อยมากกว่าใครๆ คือคุณแม่ของพี่หนุ่ม คุณย่าเห่อหลานตัวน้อยมากทีเดียว“ดูเขาสิ ย่าจะอุ้มไม่ไหวอยู่แล้ว”นิดาส่งยิ้มพร้อมกับมองคุณย่าและหลานที่กำลังเล่นกัน เธอเดินตามความฝันของตัวเองด้วยการเขียนนิยายภาคต่ออีกสามเล่ม เล่มสองถึงสี่ ด้วยระยะเวลาสองปีเต็มๆ และเมื่อเธอคลอดอีธานออกมาเธอก็อยากจะทุ่มเทเวลามาดูแลลูกก่อนเพราะ
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อนิดาหรือเรียกสั้นๆ ว่าดาก็ได้ค่ะ หนูเคยมาฝึกงานที่นี่เมื่อสามเดือนที่แล้ว ดีใจมากๆ เลยค่ะที่ได้กลับมาทำงานที่นี่อีกครั้ง ฝากตัวด้วยนะคะ”เด็กใหม่ที่เข้ามาทำงานแนะนำตัวสั้นๆ แต่ด้วยรอยยิ้มที่น่าจดจำของเธอมันทำให้เขา..เผลอจ้องมองเธอไปโดยไม่รู้ตัวเลย“ยินดีต้องรับนะนิดา จากนี้ไปก็ใช้ความสามารถของเธอให้เต็มที่ได้เลย”แม่ของเขากล่าวสั้นๆ พร้อมกับตบไหล่ของนิดาเบาๆ หนุ่มก้มมองโทรศัพท์ที่มีการแจ้งเตือนของเพื่อนที่จะนัดกันไปดื่มเขาเลือกที่จะไม่ตอบเพราะว่าไม่ค่อยชอบเข้าสังคมสักเท่าไหร่ อีกทั้งปีหน้าเขาจะต้องมารับช่วงที่นี่ต่อจากแม่แล้วเขาไม่อยากใช้เงินของพ่อและเพราะแบบนั้นเขาจะทำให้ที่นี่โด่งดังและได้รับการยอมรับจากเจ้าสาวทุกคนที่กำลังจะแต่งงาน“ตรงนั้นยังดูเหมือนขาดอะไรไป นี่เธอตั้งใจทำงานจริงๆ ไหมเนี่ย แค่นี้ก็ดูไม่รู้เรื่องงั้นเหรอว่ามันยังขาดความสมดุลของดอกไม้”“ขะ..ขอโทษค่ะบอส”“ขอโทษงั้นเหรอ ขอโทษแล้วงานมันกลับมาดีขึ้นไหมละ ไปแก้ไขสิ เรื่องแค่นี้ก็จะต้องให้บอกด้วยรึไง”นิดามองเพื่อนร่วมงานที่ตัวสั่นเทาจากการถูกดุ เธอเดินเข้ามาก่อนจะหยิบดอกไม้ที่จัดแล้วออกมา“ใจเย็นๆ นะ
นิดากวาดสายตามองไปรอบๆ ห้องทำงานของเธอ เธออยู่ที่นี่มานานหลายปี เข้ามาทำงานตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ ทุ่มเทเวลามากมายไปกับการทำงาน แต่ตอนนี้จะต้องเดินออกไปจากห้องที่นั่งทำงานมาหลายปี “จะมาอาลัยอาวรณ์อะไร รีบๆ เก็บของได้แล้วเพราะว่าห้องนี้มันจะเป็นของพี่แล้ว” นิดาส่งยิ้มให้กับเอเดน “พี่จะทำงานได้สักกี่เดือนกันคะ เดี๋ยวก็ต้องกลับไปนั่งในตำแหน่งบอสของบริษัทไอทีแล้ว” เอเดนทำท่าครุ่นคิด “อาจจะนานมากกว่าที่เธอคิด พอดีพี่มีงานที่อยากเรียนรู้จากอาอีกมาก..” “สู้ๆ นะคะ พี่ทำได้อยู่แล้ว แค่ลดความขี้เกียจลงนิดหน่อย” “นี่เธอ..” นิดารีบยกกล่องกระดาษขึ้นมาเมื่อเอเดนทำท่าว่าจะด่าเธอ เดี๋ยวเอาของไปเก็บที่คอนโดเสร็จแล้วต้องออกเดินทางไปต่างจังหวัดเลย เพราะว่าจะต้องไปจัดดอกไม้ที่นั่น ถึงจะลาออกแต่ก็มีงานที่เธอต้องทำให้เสร็จอีกสองงาน นิดาเดินออกมาข้างนอกก็พบเจอกับพี่เอื้อและคนอื่นๆ ในบริษัทที่ยืนรอเธออยู่ “พี่ดีใจที่ได้ร่วมงานนะ และดีใจล่วงหน้าเลยกับเรื่องของบอส” “ขอบคุณค่ะพี่เอื้อ ขอบคุณที่เอ็นดูหนูแล้วก็สอนงานหนูมาตลอด” พี่เอื้อเดินเข้ามากอดนิดาเอาไว้หลวมๆ “การขอบคุณที่ดีที่สุดคือการบอกบอสให้เพิ
งานแต่งที่สองของเดือนจบไปอย่างสวยงาม และตอนนี้หนุ่มกำลังออกไปดูสถานที่ของงานที่สามในเดือนนี้ งานสุดท้ายจะเป็นงานแต่งคุณพิมน้องสาวของพราว“ลูกค้าต้องการงานแบบไหนครับ..”พี่เอื้อส่งยิ้มให้กับบอส พร้อมกับส่งกระดาษที่เป็นรายละเอียดของงาน“เจ้าสาวต้องการงานแต่งแบบในสวนหลังบ้านที่เป็นกันเอง เพราะตั้งใจจะเชิญแค่เพื่อนและคนในครอบครัวมาเท่านั้นค่ะ สิ่งที่ลูกค้าต้องการคืองานแต่งท่ามกลางสวนดอกไม้”ที่นี่สวยมากๆ เลย เป็นสวนโรงแรมที่ตั้งอยู่บนภูเขา ไม่บ่อยนักที่เขาจะออกเดินทางมาต่างจังหวัดเพื่อจัดงานแต่งงานถ้านิดามาเห็นอากาศที่นี่จะต้องชอบมากแน่ๆ เลย หากว่าจัดงานเสร็จแล้วเขาน่าจะพาเธอไปเที่ยวแถวๆ นี้สักหน่อยเพราะไหนๆ ก็เดินทางออกมาต่างจังหวัดแล้ว“ตามที่ออกมาแบบมาก็ถือว่าสวยตรงกับที่ลูกค้าต้องการแล้วครับ”“ฝีมือของนิดาก็แน่อยู่แล้วค่ะบอส นิดามาเปรยๆ เอาไว้แล้วว่าจะลาออก..หากว่านั่นมันเป็นความต้องการของนิดา เอื้อก็ไม่ขัดหรอกค่ะ แต่อดเสียดายฝีมือของนิดาไม่ได้ หวังว่าบอสจะแอบพานิดามาช่วยงานที่บริษัทบ่อยๆ นะคะ”บอสยกยิ้มขึ้นมา เมื่อพูดถึงนิดาแววตาของเขามักจะอ่อนโยนเสมอเลย นี่คืออาการของคนคลั่งรักสินะ
นิดาอยู่ที่บ้านของพี่หนุ่มตลอดระยะเวลาห้าวันที่เธอและเขาหยุดงาน แม่ของเขาน่ารักมากๆ เลย คุณแม่ชอบอ่านนิยายมากๆ แถมยังสนับสนุนให้เธอเขียนนิยายต่อไปอีกด้วยท่านไม่ได้มองว่ามันไร้สาระ แต่กลับมองว่ามันคือความสามารถที่มีไม่กี่คนหรอกที่สามารถทำได้“อา พอหยุดงานยาวๆ แล้วไม่ชินเลยนะคะที่จะต้องไปทำงาน”หนุ่มลูบผมของนิดาเบาๆ โดยที่อีกมือยังขับรถอยู่“ก็พี่บอกแล้วให้เราลาออก พี่จะเลี้ยงดูเราเอง”นิดาหรี่ตามองหน้าเขา“นี่พี่พูดจริงเหรอคะ อันที่จริงหนูมีความฝันอีกอย่างที่ไม่เคยบอกใครมาก่อนเหมือนกัน หนูอยากเป็นแม่ค่ะ อยากมีลูกน่ารักๆ ทำกับข้าวเพื่อรอสามีกลับมาจากทำงาน ตอนเช้าก็ส่งลูกไปโรงเรียน..แต่ความฝันนี้มันทำคนเดียวไม่ได้เพราะแบบนั้นหนูก็เลยกำลังพยายามตามหาคนที่จะมาร่วมสร้างความฝันไปด้วยกัน”เขาปรายตามองหน้าเธอ“พูดเหมือนจะขอแต่งงานเลยนะ..หน้าที่การขอแต่งงานมันหน้าที่พี่ต่างหากเล่า”นิดาหัวเราะเบาๆ“โอ้ นี่หนูกำลังทำเกินหน้าที่ของตัวเองอยู่ใช่ไหมคะ น่าอายจังเลยน้า”พูดคำว่าน่าอายทั้งที่ทำหน้าระรื่นแบบนั้นเนี่ยนะ น่าจับถอดเสื้อผ้าแล้วตีที่ก้นแรงๆ สักทีจริงๆ เลยวันเสาร์ที่ผ่านมาเธอออกไปพบเจอกับพ
เมื่อได้ยินคำกล่าวของคุณพราว รสขมเฝื่อนก็ผุดขึ้นมาในอกอย่างบอกไม่ถูกเลย เธอไม่ชอบใจกับคำสารภาพรักของแฟนเก่าพี่หนุ่มเลยสักนิดให้ตายเถอะ!!พราวหันกลับมาตามเสียงก็เห็นพี่หนุ่มที่กำลังยืนอยู่พร้อมกับพนักงานในบริษัทของเขา..ริมฝีปากของพราวสั่นเทาอย่างบอกไม่ถูก หลายๆ อย่างมันบอกว่าผู้หญิงที่กำลังยืนอยู่ข้างพี่หนุ่มจะต้องไม่ใช่พนักงานธรรมดาๆ แน่นอน เธอจ้องมองใบหน้าของนิดาด้วยสายตาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ“พราว พี่ไม่มีทางกลับไปหาพราวหรอกนะ พี่มีแฟนใหม่แล้ว”เขายกมือที่กำลังกุมมือของนิดาขึ้นมาให้พราวดูเพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าเขาและนิดาเป็นคนรักกันเธอไม่เคยเสียหน้ามากขนาดนี้ เขาทำให้เธอต้องเสียศักดิ์ศรีถึงสองครั้งสองครา“เหอะ! แล้วแฟนใหม่ของพี่รับได้เหรอคะที่ส่วนนั้นของพี่มันใช้การไม่ได้น่ะ พราวรับได้นะคะพี่หนุ่ม ไม่ว่าพี่จะเป็นยังไงตอนนี้พราวรับได้ทั้งหมดเลย แค่พี่ยอมให้พราวกลับไปหาพี่..”“จริงอย่างที่คุณพราวบอก หนูไม่รู้จริงๆ ค่ะว่าส่วนนั้นของพี่หนุ่มใช้การไม่ได้”พราวแสยะยิ้มออกมาด้วยความเหนือกว่า“เห็นไหมล่ะคะ ไม่มีใครรับเรื่องนี้ได้หรอกค่ะ มีแต่พราวเท่านั้น..”“ที่หนูไม่รู้ว่าส่วนนั้น
หัวใจเต้นรัวราวกับจะทะลุออกจากอก นิดายกมือขึ้นมากุมหัวใจของตัวเองเอาไว้ เธอเดินตามบอสมาเพราะว่าต้องการถามเรื่องดอกไม้ที่เหลือ แต่กลับมาได้ยินเขาคุยกับนายสองแสน..ความอบอุ่นกระทบก้นบึ้งภายในใจ เธอไม่รู้จะบอกว่าตัวเองโชคดีหรือว่าอะไรกันแน่ที่ในวันที่เธอเมามายไม่ได้สติ เป็นเขาที่พาเธอออกไปจากที่นั่น และเป็นเขาที่ไม่ยอมปล่อยมือเธอการจะพบเจอใครสักคนที่รักเราในแบบที่เราเป็นมันไม่ง่ายเลยนะ แต่ว่าเธอหาเขาคนนั้นเจอแล้ว!นิดาตั้งมั่นในใจว่าเธอจะไม่มีทางปล่อยเขาให้หลุดมือไปอย่างแน่นอนเราทุกคนทำงานติดต่อกับเกือบๆ จะสามสิบชั่วโมง และด้วยมือของทุกคนที่ช่วยกันเนรมิตห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมออกมาเป็นเหมือนเทพนิยายเลยดอกไม้ที่ประดับตกแต่งเหมือนสวนในพระราชวังที่เจ้าหญิงในนิทานอยู่ ที่ด้านบนมีดอกไม้ห้อยระย้าลงมาเหมือนดวงดาวที่กำลังตกจากฟากฟ้าไม่ว่าจะเห็นสักกี่ครั้งก็ทำใจให้ชินยากเหมือนกันแฮะ มันสวยมากกว่าที่ภาพในหัวคิดซะอีก“อ่า..คุ้มค่ากับการอดหลับอดนอนจริงๆ”พี่เอื้อพูดด้วยดวงตาที่ใกล้จะปิด บอสกำลังคุยกับลูกค้าเพื่อส่งมอบงานและรอแก้ไข แต่ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มของบอส เดาได้เลยว่าลูกค้าจะต้องชอบมากแน่ๆ เ
หน้างานวันนี้คือการจัดงานแต่งแสนอลังการงานสร้างของลูกสาวท่านเจ้าสัว เจ้าของโครงการหมู่บ้านกว่าหมื่นล้าน..เรื่องงบไม่มีจำกัดทางลูกค้าต้องการความสวยที่เหมือนกับเทพนิยาย ชุดเจ้าสาวสีขาวที่ไม่เหมือนชุดเจ้าสาวทั่วๆ ไปเพราะว่าเป็นชุดที่ปักด้วยมุกขนาดต่างๆ ตกแต่งชายด้วยลูกไม้ เป็นชุดเจ้าสาวแขนยาวแต่มีโชว์หลังเล็กน้อย ดูเรียบหรูสมเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่ดอกไม้ในวันนี้เน้นสีแดงชมพูเป็นหลัก นี่คือการทำงานที่เหนื่อย เหนื่อยมากๆ การจัดดอกไม้ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่ว่าจะจับดอกไม้แต่ละชนิดมาปักมั่วๆ ได้ แต่ละดอกจะต้องมีความเชื่อมโยงกัน..กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็มีมือมาโอบเอวเธอเอาไว้“มื้อเย็นมาแล้วครับ”“อ่า หนูลืมเรื่องทานข้าวไปเลย โชคดีจังเลยนะคะที่มีแฟนมาคอยเตือน หากรู้ว่ามีแฟนแล้วดีแบบนี้หนูมาจีบบอสไปตั้งนานแล้ว”เขาหัวเราะเบาๆ ก่อนจะบีบจมูกของเธอ“ไปทานเถอะ แล้วรีบมาทำต่อ ถึงจะเป็นแฟนแต่เรื่องงานผมไม่อ่อนข้อให้หรอกนะครับ”นิดาหุบยิ้มในทันที“ทราบแล้วค่ะบอส ตอนนี้เป็นบอสใช่ไหมคะ แบบนั้นกลับบ้านไปก็เป็นบอสนะคะห้ามมาเป็นแฟน หนูจะให้พี่นอนนอกห้องเลยเคยดู”พี่เอื้อมองหน้ากับนี่น่า พร้อมกับหัวเราะออกมาเ
“หนูมีความฝัน และอยากจะเดินตามความฝันนั้นด้วยความคิดที่แน่วแน่ แต่ในวันที่หนูบอกกล่าวความฝันของตัวเองกับพ่อแม่ พวกท่านเอาแต่หัวเราะไม่หยุดเลย”อ่า..เหมือนว่าเขาจะเข้าใจถึงความกังวลของเธอแล้วละสิ“เพราะแบบนั้นหนูถึงได้เลือกที่จะเก็บเรื่องนี้มาโดยตลอดเลย หนูเคยบอกกับพี่ไปแล้วว่าหนูพยายามทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ไม่ต้องกังวลกับเรื่องการเงิน ให้มีเงินเก็บสักก้อน..เพื่อที่หนูจะได้ทำตามความฝันของตัวเองในวันที่ไม่มีเรื่องอะไรต้องมาคอยกังวล”“เราเก่งมากกว่าที่คิดอีกนะ..พยายามได้ดีมากๆ เลย”เธอมองหน้าเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความประหม่า ปลายนิ้วสั่นเทาด้วยอาการหวาดหวั่น“แต่หนูไม่ได้เขียนนิยายความรัก หนูหลงใหลและชื่นชอบการเขียนนิยายอีโรติก บอกเล่าเรื่องความรักผ่านการกระทำบนเตียงมากกว่าคำพูด หนูเป็นนักเขียนนิยายอีโรติกค่ะ ไม่ใช่นักเขียนนิยายความรัก!”สองมือของเธอถูกกอบกุมด้วยมือใหญ่ของเขาอย่างอ่อนโยน พร้อมกับตบที่หลังมือเบาๆ“พี่ไม่เห็นว่าการนักเขียนของเรามันจะแปลกตรงไหนเลย ชีวิตของพี่เหมือนกับมีคำสาปติดตัวมาให้พี่จะต้องเหงาและมีความรักไม่ได้ เพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนที่จะชอบผู้ชายที่ส่วนนั้นจะใช้กา