หลังจากหนีจากกลุ่มชายชุดดำได้สำเร็จบนหลังคา ซาเอบะและหลินหลินพักหายใจชั่วครู่ แม้ความเหนื่อยล้าจะเริ่มกัดกินทั้งคู่ แต่พวกเขารู้ดีว่าต้องไม่หยุดนานเกินไป การไล่ล่าครั้งนี้ยังไม่จบ “เราต้องไปให้ไกลจากที่นี่ที่สุด” ซาเอบะพูด ขณะที่มองไปรอบ ๆ เมืองที่เงียบสงัดในยามค่ำคืน “แล้วเราจะไปที่ไหนต่อ?” หลินหลินถามด้วยความกังวล เธอรู้สึกเหมือนมีเงาลาง ๆ คอยตามหลังมาอยู่ตลอดเวลา ซาเอบะครุ่นคิดสักครู่ ก่อนจะตอบ “มีที่หนึ่งที่เราจะปลอดภัยในระยะสั้น ๆ แต่ต้องระวังทุกย่างก้าว เธอพร้อมไหม?” หลินหลินพยักหน้าด้วยความมุ่งมั่น แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความกลัว แต่เธอก็รู้ว่าไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว ทั้งคู่รีบปีนลงจากหลังคาแล้ววิ่งฝ่าความมืดของซอยเล็ก ๆ ไป พวกเขามุ่งหน้าสู่ย่านหนึ่งของเมืองที่เงียบสงบ ซึ่งเป็นที่ที่ซาเอบะคาดหวังว่าจะปลอดภัยพอสมควร ทันทีที่พวกเขาไปถึง ซาเอบะหยุดยืนตรงหน้าประตูเหล็กบานหนึ่ง ก่อนจะเคาะประตูเป็นจังหวะลับ หลินหลินมองเขาด้วยความสงสัย ประตูเปิดออกช้า ๆ เผยให้เห็นชายชราในชุดเสื้อคลุมเก่า ๆ ยืนอยู่ด้านใน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยย่นจากกาลเวลา แต่แววตากลับแฝงไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะ
ซาเอบะและหลินหลินเดินออกจากบ้านของชายชราพร้อมแผนที่โบราณในมือ บรรยากาศรอบตัวพวกเขามืดสนิท มีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องรำไรเป็นเครื่องนำทางเท่านั้น หลินหลินรู้สึกกังวลอย่างบอกไม่ถูก แต่เธอไม่แสดงออกมากนัก เพราะรู้ดีว่าซาเอบะก็พยายามปกป้องเธออย่างเต็มที่"เราจะไปที่ไหนต่อ?" หลินหลินถามเสียงแผ่วซาเอบะเปิดแผนที่ในมือและมองดูสัญลักษณ์ที่ดูยุ่งยาก "แผนที่นี้จะนำเราไปสู่สถานที่ที่ไม่มีใครคาดคิด มันเป็นที่หลบภัยและที่ซ่อนความลับของคนกลุ่มหนึ่ง แต่เราต้องระวัง เพราะเราอาจไม่ใช่คนเดียวที่ต้องการไปถึงที่นั่น"หลินหลินพยักหน้า แม้จะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่เธอเชื่อมั่นในซาเอบะมากพอที่จะเดินทางต่อไปด้วยทั้งคู่เริ่มเดินไปตามทางที่แผนที่นำทาง ท่ามกลางความมืดที่ดูเหมือนจะกลืนกินทุกอย่างรอบตัว ความเงียบในตอนกลางคืนทำให้ทุกอย่างดูน่ากลัวกว่าเดิม ทุกย่างก้าวของพวกเขาดูเหมือนจะใกล้กับบางสิ่งที่อันตรายมากขึ้นในไม่ช้า ทั้งคู่เดินมาถึงป่าทึบที่ถูกแสดงในแผนที่ เสียงลมพัดผ่านกิ่งไม้ราวกับเสียงกระซิบเตือนบางอย่าง หลินหลินรู้สึกถึงความเย็นที่แปลกประหลาด มันเหมือนมีบางสิ่งคอยจับตามองพวกเขาอยู่จากในความมืด"ฉันรู้สึกแปล
เสียงปืนยังคงดังก้องอยู่รอบป่า ซาเอบะยิงสกัดกลุ่มชายชุดดำขณะที่เขาพยายามเคลื่อนตัวไปข้างหน้า กระสุนของเขาเริ่มเหลือน้อยลงเรื่อย ๆ แต่สัญชาตญาณการเอาตัวรอดบังคับให้เขาคิดหาทางหนีออกจากวงล้อมนี้ให้ได้ขณะนั้นหลินหลินหลบซ่อนอยู่หลังพุ่มไม้หนาทึบ หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบจะระเบิดออกมา เธอได้ยินเสียงปืนและเสียงฝีเท้าของชายชุดดำที่ค่อย ๆ เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ ความกลัวกัดกินหัวใจเธอ แต่เธอกลับต้องคุมสติให้ดีที่สุด เธอรู้ดีว่าการตื่นตระหนกจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีกซาเอบะเล็งยิงอีกครั้ง เขาล้มชายชุดดำลงได้หนึ่งคน แต่มีอีกหลายคนที่ยังตามมาไม่หยุด “เราต้องหนีเดี๋ยวนี้!” เขาคิดอย่างรวดเร็ว ขณะที่มองหาทางหนีที่หลงเหลืออยู่“ไปทางนี้!” เสียงตะโกนของหลินหลินดังขึ้นจากด้านหลัง เธอชี้ไปที่ทางเล็ก ๆ ที่มองไม่ค่อยชัดเจนในป่าทึบ ซาเอบะหันไปมองก่อนจะตัดสินใจตามเธอ ทั้งคู่รีบวิ่งผ่านความมืดไปด้วยกัน แม้จะเหนื่อยล้าและบาดเจ็บ แต่พวกเขาก็รู้ว่าไม่มีเวลาให้หยุดพักขณะที่พวกเขาวิ่งฝ่าความมืดและความหวาดกลัว เสียงฝีเท้าของกลุ่มชายชุดดำยังคงไล่ตามไม่หยุด ซาเอบะมองไปที่หลินหลินซึ่งวิ่งข้าง ๆ เขาด้วยความตั้งใจ แม้
น้ำเย็นเฉียบที่กระแทกตัวพวกเขาทำให้ซาเอบะและหลินหลินช็อกไปชั่วขณะ ทั้งคู่ถูกพัดลงไปตามกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก ซาเอบะพยายามคว้าหลินหลินไว้ไม่ให้ไหลไปไกลกว่านี้ พวกเขาต้องต่อสู้กับกระแสน้ำที่แรงจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้“จับมือฉันไว้!” ซาเอบะตะโกนท่ามกลางเสียงน้ำเชี่ยวกราก เขาคว้ามือหลินหลินแน่น ขณะที่พยายามพยุงตัวขึ้นจากน้ำ กระแสน้ำพัดพาพวกเขาลงไปตามแม่น้ำที่เต็มไปด้วยโขดหินขรุขระ หินบางก้อนแทบจะบาดผิวพวกเขาเป็นแผลแต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บรุนแรงหลังจากต่อสู้กับกระแสน้ำอยู่พักใหญ่ ในที่สุดทั้งคู่ก็ถูกพัดมาที่ตลิ่งน้ำ พวกเขาคลานขึ้นฝั่งด้วยความเหนื่อยล้า หลินหลินหายใจหอบ เหมือนกับว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้หายใจเต็มปอดตั้งแต่เริ่มหนีมา เธอนั่งลงบนพื้นดินชื้นที่เต็มไปด้วยเศษใบไม้และหญ้าเปียก ขณะที่ซาเอบะนั่งเงียบ มองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง“เรารอดแล้วใช่ไหม?” หลินหลินถามเสียงสั่น ขณะที่ยังคงมองไปที่ซาเอบะอย่างหวังคำตอบที่ดีซาเอบะหันมามองเธอ สายตาที่เคยอ่อนโยนกลับเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด “ยังไม่รอดดีนัก” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น แม้จะพ้นจากน้ำมาได้ แต่เขารู้ดีว่านี่ไม่ใช่จุดจบขอ
เช้าวันใหม่มาถึงพร้อมกับความเงียบสงบของป่า ท่ามกลางเสียงนกร้องและใบไม้ไหวในสายลม หลินหลินตื่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวว่าหลับไปเมื่อไร เธอหันมองซาเอบะที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ เขามองออกไปยังป่าราวกับกำลังวางแผนบางอย่างในหัว"คุณตื่นนานแล้วเหรอ?" หลินหลินถามพลางนั่งลงข้าง ๆ เขา"ใช่ ฉันตื่นตั้งแต่เช้าตรู่" ซาเอบะตอบ เขามองเธอด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความเหนื่อยล้าแต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "วันนี้เราจะเริ่มตอบโต้พวกมันบ้างแล้ว"หลินหลินขมวดคิ้วด้วยความสงสัย "เราจะทำยังไง? คุณบอกว่าพวกมันมีทั้งจำนวนและอาวุธที่เหนือกว่าเรา"ซาเอบะยิ้มมุมปากเล็กน้อย "ใช่ มันก็จริงที่พวกมันมีมากกว่าเรา แต่เรามีข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง""อะไรเหรอ?""เราอยู่ในป่าแห่งนี้มาหลายวันแล้ว เรารู้จักพื้นที่นี้ดีขึ้นเรื่อย ๆ" ซาเอบะชี้ไปยังเส้นทางที่ซ่อนอยู่ลึกในป่า "พวกมันอาจจะเก่งในเมือง แต่ในป่าแห่งนี้ เราคือผู้ล่า"หลินหลินนิ่งไปครู่หนึ่ง "แล้วแผนคืออะไร?""เราจะเริ่มด้วยการทำให้พวกมันสับสนและหลงทาง" ซาเอบะอธิบาย "เราจะสร้างกับดักและทำลายเสบียงของพวกมัน ทำให้พวกมันเริ่มอ่อนแรง จากนั้นค่อยหาจังหวะโจมตี"หลินหลินรู้สึกถึงความกล้าหาญที่ซ
เสียงการต่อสู้ยังดังก้องอยู่ในอากาศ ขณะที่ซาเอบะเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว เขาใช้ทักษะการต่อสู้ที่ชำนาญเพื่อเอาชนะศัตรูที่ไม่รู้ตัว ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะปกป้องหลินหลินและทำให้พวกมันจ่ายค่าเสียหายสำหรับทุกสิ่งที่ทำกับพวกเขาหลินหลินมองดูอยู่ที่มุมหนึ่งของพื้นที่ต่อสู้ เธอรู้สึกถึงอารมณ์ที่ปะทุขึ้นภายใน แต่ไม่สามารถทำอะไรได้มากนักนอกจากคอยจับตามองซาเอบะอย่างระมัดระวัง ในขณะที่เขาต่อสู้กับศัตรูทีละคน หลินหลินก็เริ่มเข้าใจถึงความกล้าหาญและความมุ่งมั่นที่อยู่ในตัวเขา“ฉันต้องทำอะไรบางอย่าง” หลินหลินคิดในใจ ขณะที่มองเห็นว่าซาเอบะเริ่มถูกศัตรูล้อมรอบในขณะที่เขาต่อสู้ หลินหลินก็หาทางที่จะเข้าไปช่วย เธอรู้ว่าถ้าไม่ทำอะไรสักอย่าง ซาเอบะอาจจะตกอยู่ในอันตรายได้ เธอจึงตัดสินใจใช้ทักษะการต่อสู้ของเธอที่ฝึกฝนมาจากการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยเธอเลือกใช้ความเงียบและความรวดเร็วเป็นอาวุธ โดยพยายามเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ศัตรูมองเห็น เธอใช้ต้นไม้เป็นที่กำบังแล้วเริ่มลอบเข้าไปใกล้ศัตรูที่กำลังรุมซาเอบะ“ฉันต้องเข้าไปช่วยเขา!” หลินหลินตัดสินใจ เธอพยายามควบคุมความกลัวและมุ่งมั่นที
ซาเอบะและหลินหลินใช้เวลาที่ผ่านมาในการวางแผนกับดักเพื่อหยุดยั้งกลุ่มศัตรูที่กำลังติดตามพวกเขา ด้วยการนำสิ่งของรอบตัวมาใช้ให้เกิดประโยชน์ที่สุด พวกเขาใช้ไม้และเศษเหล็กสร้างกับดักที่สามารถทำให้ศัตรูสะดุดล้มลงได้ นอกจากนี้ พวกเขายังเลือกสถานที่เพื่อสร้างความได้เปรียบในการต่อสู้“เราจะตั้งกับดักไว้ที่นี่” ซาเอบะชี้ไปที่ทางแคบที่เป็นโค้งเล็กๆ ที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ “เมื่อพวกมันมาถึงที่นี่ พวกเราจะให้พวกมันได้ประสบกับกับดักและใช้โอกาสนี้ในการโจมตี”หลินหลินพยักหน้าอย่างมั่นใจ “แต่เราต้องแน่ใจว่าพวกมันจะมาทางนี้จริงๆ” เธอแนะนำ ขณะที่มองไปยังบริเวณรอบๆ เพื่อหาจุดอ่อนที่สามารถใช้ได้พวกเขาใช้เวลานานพอสมควรในการเตรียมการ จนในที่สุดพวกเขาก็มั่นใจว่ากับดักถูกตั้งขึ้นอย่างเรียบร้อย จนถึงเวลาที่จะรอคอยให้ศัตรูเข้ามาเสียงของใบไม้แห้งกรอบดังกังวานในความเงียบสงัด ขณะที่ซาเอบะและหลินหลินซ่อนตัวอยู่ในมุมที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน หลินหลินรู้สึกใจเต้นตึกตัก เพราะรู้ว่าทุกอย่างอยู่ในมือพวกเขาในตอนนี้“เราต้องมีสมาธิ” ซาเอบะเตือน ขณะที่เขาจับมือหลินหลินให้แน่นขึ้น “เมื่อถึงเวลาให้รีบเข้ามาช่วย”เวลาผ่านไปนา
หลังจากที่ซาเอบะและหลินหลินสามารถหลบหนีจากการต่อสู้ที่เกือบทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บ พวกเขาก็เดินต่อไปอย่างระมัดระวัง ในป่าลึกที่เต็มไปด้วยความเงียบสงัด ทั้งสองรู้ว่าศัตรูยังคงตามล่าพวกเขาอยู่“เราต้องหาเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุด” หลินหลินพูดขึ้น ขณะที่มองไปรอบ ๆ เพื่อหาทางออก “ที่นี่ดูเหมือนจะไม่มีทางออกที่แน่นอน”ซาเอบะพยักหน้า “เราควรหาที่ซ่อนตัวก่อนเพื่อวางแผนต่อไป”พวกเขาหาเส้นทางไปยังที่ซ่อนตัวที่เป็นพื้นที่ลึกเข้าไปในป่า ซึ่งดูเหมือนจะเป็นที่หลบซ่อนที่ดี มีพุ่มไม้หนาทึบและต้นไม้ใหญ่ให้การป้องกัน พวกเขานั่งอยู่ที่นั่นในความเงียบและใช้เวลาในการปรับความคิด“ตอนนี้เราต้องคิดให้ดีว่าต่อไปเราควรทำอย่างไร” ซาเอบะเริ่ม “เราต้องการข้อมูลเกี่ยวกับศัตรู”“ข้อมูล?” หลินหลินถาม “เราจะหามันได้จากไหน?”“เราต้องหาคนที่อาจมีข้อมูลที่เราต้องการ” ซาเอบะกล่าว “ลองนึกถึงเพื่อนของคุณหรือคนที่เกี่ยวข้องกับการสืบสวนนี้”“อาจจะเป็นอาจารย์ของฉัน” หลินหลินเริ่มคิด “เขาเป็นคนที่รู้จักกับหลายคนในวงการนี้”“ถ้าอย่างนั้น เราต้องหาวิธีที่จะติดต่อเขา” ซาเอบะตอบ “แต่เราต้องระวังตัวให้มากที่สุด”หลินหลินรู้สึกตื่นเต