ซาเอบะและหลินหลินยังคงซ่อนตัวอยู่ในห้องนอน ขณะเสียงตำรวจดังเข้ามาใกล้ ความวิตกกังวลพุ่งสูงขึ้นในอกของพวกเขา ซาเอบะพยายามคิดแผนการให้เร็วที่สุด ในขณะที่หลินหลินนั่งอยู่ข้างเขา ตาสั่นระริกด้วยความกลัว“หากพวกเขาเปิดประตูเข้ามา เราจะทำอย่างไร?” หลินหลินถามเสียงเบา สัมผัสได้ถึงความตึงเครียดในอากาศ“เราจะต้องทำให้พวกเขาคิดว่าเราออกไปแล้ว” ซาเอบะตอบ ขณะมองหาทางออกจากสถานการณ์นี้ “ถ้าเราสามารถใช้ความมืดเพื่อหลอกพวกเขาได้ นั่นจะเป็นทางออกที่ดี”เสียงตำรวจเริ่มมีการเคลื่อนไหว “นี่คือหน่วยตำรวจ เราขอให้คุณออกมาที่นี่ทันที!” เสียงของตำรวจดังก้องไปทั่วบ้าน ซาเอบะรู้สึกว่าความกดดันเพิ่มขึ้น“พวกเขากำลังจะเข้ามา” หลินหลินกระซิบ ขณะมองไปที่ประตูห้องนอนที่ปิดอยู่“เราไม่สามารถปล่อยให้พวกเขาจับเราได้” ซาเอบะพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ “เราจะต้องหาทางหลบหนีให้ได้”เขาลุกขึ้นและเดินไปที่หน้าต่างเพื่อมองดูสภาพภายนอก ช่วงเวลานั้นเองที่เขาพบเห็นโอกาส เมื่อเขาเห็นสายไฟที่ห้อยลงมาจากหลังคา“หลินหลิน!” เขาเรียกเธอ “มาที่นี่เร็ว!”หลินหลินรีบไปหาเขา “เกิดอะไรขึ้น?” เธอถาม“เราอาจจะมีทางออกแล้ว” ซาเอบะชี้ไปที่หน้าต่า
หลังจากหลบหนีจากตำรวจได้อย่างหวุดหวิด ซาเอบะและหลินหลินรู้ดีว่าความอันตรายยังคงตามมาไม่หยุด พวกเขาพยายามตั้งสติอยู่ในร้านร้างที่ซ่อนตัวอยู่ เสียงภายนอกเงียบลงไปชั่วขณะ แต่ความรู้สึกไม่ปลอดภัยยังคงปกคลุม“เราต้องออกไปจากที่นี่ก่อนที่พวกเขาจะกลับมา” ซาเอบะพูดเสียงเบา ขณะที่มองไปรอบ ๆ ร้านเพื่อหาทางออก“แล้วเราจะไปที่ไหน?” หลินหลินถามเสียงเบา ใบหน้าเต็มไปด้วยความกังวล“ฉันมีที่หนึ่งอยู่ในใจ แต่เราต้องระวังตัวให้มากกว่านี้” ซาเอบะตอบ ก่อนที่เขาจะคว้ามือของหลินหลินแล้วพาเธอออกจากร้านอย่างเงียบ ๆทั้งคู่ค่อย ๆ ย่องออกไปในความมืด ซาเอบะใช้ทักษะในการสอดแนมเพื่อตรวจสอบว่ามีใครตามพวกเขามาหรือไม่ ทุกก้าวเป็นไปอย่างระมัดระวัง เพราะเขารู้ว่าพวกตำรวจอาจวางแผนอะไรบางอย่างไว้แล้วขณะพวกเขากำลังเดินไปตามถนนที่เงียบสงบ ทันใดนั้นก็มีเสียงดังกึกก้องจากข้างหน้า ซาเอบะชะงักและดึงหลินหลินไปหลบข้างกำแพง “ระวัง เราอาจจะเจอกับดัก” เขากระซิบเบา ๆ“อะไรนะ? กับดักเหรอ?” หลินหลินถามด้วยความตกใจ ขณะพยายามมองไปรอบ ๆ แต่ไม่เห็นอะไรชัดเจน“ใช่ พวกเขาอาจจะรู้ว่าเรากำลังมุ่งหน้าไปที่ไหน และเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว” ซาเอ
หลังจากหนีจากกลุ่มชายชุดดำได้สำเร็จบนหลังคา ซาเอบะและหลินหลินพักหายใจชั่วครู่ แม้ความเหนื่อยล้าจะเริ่มกัดกินทั้งคู่ แต่พวกเขารู้ดีว่าต้องไม่หยุดนานเกินไป การไล่ล่าครั้งนี้ยังไม่จบ “เราต้องไปให้ไกลจากที่นี่ที่สุด” ซาเอบะพูด ขณะที่มองไปรอบ ๆ เมืองที่เงียบสงัดในยามค่ำคืน “แล้วเราจะไปที่ไหนต่อ?” หลินหลินถามด้วยความกังวล เธอรู้สึกเหมือนมีเงาลาง ๆ คอยตามหลังมาอยู่ตลอดเวลา ซาเอบะครุ่นคิดสักครู่ ก่อนจะตอบ “มีที่หนึ่งที่เราจะปลอดภัยในระยะสั้น ๆ แต่ต้องระวังทุกย่างก้าว เธอพร้อมไหม?” หลินหลินพยักหน้าด้วยความมุ่งมั่น แม้ในใจจะเต็มไปด้วยความกลัว แต่เธอก็รู้ว่าไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว ทั้งคู่รีบปีนลงจากหลังคาแล้ววิ่งฝ่าความมืดของซอยเล็ก ๆ ไป พวกเขามุ่งหน้าสู่ย่านหนึ่งของเมืองที่เงียบสงบ ซึ่งเป็นที่ที่ซาเอบะคาดหวังว่าจะปลอดภัยพอสมควร ทันทีที่พวกเขาไปถึง ซาเอบะหยุดยืนตรงหน้าประตูเหล็กบานหนึ่ง ก่อนจะเคาะประตูเป็นจังหวะลับ หลินหลินมองเขาด้วยความสงสัย ประตูเปิดออกช้า ๆ เผยให้เห็นชายชราในชุดเสื้อคลุมเก่า ๆ ยืนอยู่ด้านใน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยย่นจากกาลเวลา แต่แววตากลับแฝงไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะ
ซาเอบะและหลินหลินเดินออกจากบ้านของชายชราพร้อมแผนที่โบราณในมือ บรรยากาศรอบตัวพวกเขามืดสนิท มีเพียงแสงจันทร์ที่ส่องรำไรเป็นเครื่องนำทางเท่านั้น หลินหลินรู้สึกกังวลอย่างบอกไม่ถูก แต่เธอไม่แสดงออกมากนัก เพราะรู้ดีว่าซาเอบะก็พยายามปกป้องเธออย่างเต็มที่"เราจะไปที่ไหนต่อ?" หลินหลินถามเสียงแผ่วซาเอบะเปิดแผนที่ในมือและมองดูสัญลักษณ์ที่ดูยุ่งยาก "แผนที่นี้จะนำเราไปสู่สถานที่ที่ไม่มีใครคาดคิด มันเป็นที่หลบภัยและที่ซ่อนความลับของคนกลุ่มหนึ่ง แต่เราต้องระวัง เพราะเราอาจไม่ใช่คนเดียวที่ต้องการไปถึงที่นั่น"หลินหลินพยักหน้า แม้จะไม่เข้าใจทั้งหมด แต่เธอเชื่อมั่นในซาเอบะมากพอที่จะเดินทางต่อไปด้วยทั้งคู่เริ่มเดินไปตามทางที่แผนที่นำทาง ท่ามกลางความมืดที่ดูเหมือนจะกลืนกินทุกอย่างรอบตัว ความเงียบในตอนกลางคืนทำให้ทุกอย่างดูน่ากลัวกว่าเดิม ทุกย่างก้าวของพวกเขาดูเหมือนจะใกล้กับบางสิ่งที่อันตรายมากขึ้นในไม่ช้า ทั้งคู่เดินมาถึงป่าทึบที่ถูกแสดงในแผนที่ เสียงลมพัดผ่านกิ่งไม้ราวกับเสียงกระซิบเตือนบางอย่าง หลินหลินรู้สึกถึงความเย็นที่แปลกประหลาด มันเหมือนมีบางสิ่งคอยจับตามองพวกเขาอยู่จากในความมืด"ฉันรู้สึกแปล
เสียงปืนยังคงดังก้องอยู่รอบป่า ซาเอบะยิงสกัดกลุ่มชายชุดดำขณะที่เขาพยายามเคลื่อนตัวไปข้างหน้า กระสุนของเขาเริ่มเหลือน้อยลงเรื่อย ๆ แต่สัญชาตญาณการเอาตัวรอดบังคับให้เขาคิดหาทางหนีออกจากวงล้อมนี้ให้ได้ขณะนั้นหลินหลินหลบซ่อนอยู่หลังพุ่มไม้หนาทึบ หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบจะระเบิดออกมา เธอได้ยินเสียงปืนและเสียงฝีเท้าของชายชุดดำที่ค่อย ๆ เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ ความกลัวกัดกินหัวใจเธอ แต่เธอกลับต้องคุมสติให้ดีที่สุด เธอรู้ดีว่าการตื่นตระหนกจะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีกซาเอบะเล็งยิงอีกครั้ง เขาล้มชายชุดดำลงได้หนึ่งคน แต่มีอีกหลายคนที่ยังตามมาไม่หยุด “เราต้องหนีเดี๋ยวนี้!” เขาคิดอย่างรวดเร็ว ขณะที่มองหาทางหนีที่หลงเหลืออยู่“ไปทางนี้!” เสียงตะโกนของหลินหลินดังขึ้นจากด้านหลัง เธอชี้ไปที่ทางเล็ก ๆ ที่มองไม่ค่อยชัดเจนในป่าทึบ ซาเอบะหันไปมองก่อนจะตัดสินใจตามเธอ ทั้งคู่รีบวิ่งผ่านความมืดไปด้วยกัน แม้จะเหนื่อยล้าและบาดเจ็บ แต่พวกเขาก็รู้ว่าไม่มีเวลาให้หยุดพักขณะที่พวกเขาวิ่งฝ่าความมืดและความหวาดกลัว เสียงฝีเท้าของกลุ่มชายชุดดำยังคงไล่ตามไม่หยุด ซาเอบะมองไปที่หลินหลินซึ่งวิ่งข้าง ๆ เขาด้วยความตั้งใจ แม้
น้ำเย็นเฉียบที่กระแทกตัวพวกเขาทำให้ซาเอบะและหลินหลินช็อกไปชั่วขณะ ทั้งคู่ถูกพัดลงไปตามกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก ซาเอบะพยายามคว้าหลินหลินไว้ไม่ให้ไหลไปไกลกว่านี้ พวกเขาต้องต่อสู้กับกระแสน้ำที่แรงจนแทบจะควบคุมตัวเองไม่ได้“จับมือฉันไว้!” ซาเอบะตะโกนท่ามกลางเสียงน้ำเชี่ยวกราก เขาคว้ามือหลินหลินแน่น ขณะที่พยายามพยุงตัวขึ้นจากน้ำ กระแสน้ำพัดพาพวกเขาลงไปตามแม่น้ำที่เต็มไปด้วยโขดหินขรุขระ หินบางก้อนแทบจะบาดผิวพวกเขาเป็นแผลแต่โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บรุนแรงหลังจากต่อสู้กับกระแสน้ำอยู่พักใหญ่ ในที่สุดทั้งคู่ก็ถูกพัดมาที่ตลิ่งน้ำ พวกเขาคลานขึ้นฝั่งด้วยความเหนื่อยล้า หลินหลินหายใจหอบ เหมือนกับว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้หายใจเต็มปอดตั้งแต่เริ่มหนีมา เธอนั่งลงบนพื้นดินชื้นที่เต็มไปด้วยเศษใบไม้และหญ้าเปียก ขณะที่ซาเอบะนั่งเงียบ มองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง“เรารอดแล้วใช่ไหม?” หลินหลินถามเสียงสั่น ขณะที่ยังคงมองไปที่ซาเอบะอย่างหวังคำตอบที่ดีซาเอบะหันมามองเธอ สายตาที่เคยอ่อนโยนกลับเต็มไปด้วยความเคร่งเครียด “ยังไม่รอดดีนัก” เขาตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น แม้จะพ้นจากน้ำมาได้ แต่เขารู้ดีว่านี่ไม่ใช่จุดจบขอ
เช้าวันใหม่มาถึงพร้อมกับความเงียบสงบของป่า ท่ามกลางเสียงนกร้องและใบไม้ไหวในสายลม หลินหลินตื่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวว่าหลับไปเมื่อไร เธอหันมองซาเอบะที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ เขามองออกไปยังป่าราวกับกำลังวางแผนบางอย่างในหัว"คุณตื่นนานแล้วเหรอ?" หลินหลินถามพลางนั่งลงข้าง ๆ เขา"ใช่ ฉันตื่นตั้งแต่เช้าตรู่" ซาเอบะตอบ เขามองเธอด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความเหนื่อยล้าแต่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น "วันนี้เราจะเริ่มตอบโต้พวกมันบ้างแล้ว"หลินหลินขมวดคิ้วด้วยความสงสัย "เราจะทำยังไง? คุณบอกว่าพวกมันมีทั้งจำนวนและอาวุธที่เหนือกว่าเรา"ซาเอบะยิ้มมุมปากเล็กน้อย "ใช่ มันก็จริงที่พวกมันมีมากกว่าเรา แต่เรามีข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง""อะไรเหรอ?""เราอยู่ในป่าแห่งนี้มาหลายวันแล้ว เรารู้จักพื้นที่นี้ดีขึ้นเรื่อย ๆ" ซาเอบะชี้ไปยังเส้นทางที่ซ่อนอยู่ลึกในป่า "พวกมันอาจจะเก่งในเมือง แต่ในป่าแห่งนี้ เราคือผู้ล่า"หลินหลินนิ่งไปครู่หนึ่ง "แล้วแผนคืออะไร?""เราจะเริ่มด้วยการทำให้พวกมันสับสนและหลงทาง" ซาเอบะอธิบาย "เราจะสร้างกับดักและทำลายเสบียงของพวกมัน ทำให้พวกมันเริ่มอ่อนแรง จากนั้นค่อยหาจังหวะโจมตี"หลินหลินรู้สึกถึงความกล้าหาญที่ซ
เสียงการต่อสู้ยังดังก้องอยู่ในอากาศ ขณะที่ซาเอบะเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว เขาใช้ทักษะการต่อสู้ที่ชำนาญเพื่อเอาชนะศัตรูที่ไม่รู้ตัว ภายในใจของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะปกป้องหลินหลินและทำให้พวกมันจ่ายค่าเสียหายสำหรับทุกสิ่งที่ทำกับพวกเขาหลินหลินมองดูอยู่ที่มุมหนึ่งของพื้นที่ต่อสู้ เธอรู้สึกถึงอารมณ์ที่ปะทุขึ้นภายใน แต่ไม่สามารถทำอะไรได้มากนักนอกจากคอยจับตามองซาเอบะอย่างระมัดระวัง ในขณะที่เขาต่อสู้กับศัตรูทีละคน หลินหลินก็เริ่มเข้าใจถึงความกล้าหาญและความมุ่งมั่นที่อยู่ในตัวเขา“ฉันต้องทำอะไรบางอย่าง” หลินหลินคิดในใจ ขณะที่มองเห็นว่าซาเอบะเริ่มถูกศัตรูล้อมรอบในขณะที่เขาต่อสู้ หลินหลินก็หาทางที่จะเข้าไปช่วย เธอรู้ว่าถ้าไม่ทำอะไรสักอย่าง ซาเอบะอาจจะตกอยู่ในอันตรายได้ เธอจึงตัดสินใจใช้ทักษะการต่อสู้ของเธอที่ฝึกฝนมาจากการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยเธอเลือกใช้ความเงียบและความรวดเร็วเป็นอาวุธ โดยพยายามเคลื่อนไหวอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้ศัตรูมองเห็น เธอใช้ต้นไม้เป็นที่กำบังแล้วเริ่มลอบเข้าไปใกล้ศัตรูที่กำลังรุมซาเอบะ“ฉันต้องเข้าไปช่วยเขา!” หลินหลินตัดสินใจ เธอพยายามควบคุมความกลัวและมุ่งมั่นที