รอยยิ้มใสซื่อของหญิงสาวช่างดูบริสุทธิ์จนพีระถึงกับเหม่อลอยไปครู่หนึ่งชั่ววูบนั้นเขาเผลอนำมันไปเทียบเคียงกับรอยยิ้มในความทรงจำของเขา...รอยยิ้มบางเบาอันแสนไร้เดียงสาของอดีตภรรยามันไม่ใช่รอยยิ้มที่ฉาบไว้ด้วยมารยา ไม่ได้เร้นซ่อนเล่ห์กล หรือปรุงแต่งให้ดูงดงามจนเกินจริง ทว่ามันคือรอยยิ้มที่บริสุทธิ์เสียจนทำให้บรรยากาศรอบกายคล้ายจะหยุดนิ่งไปในพริบตานั้นรอยยิ้มของคนที่มองเขาเป็นโลกทั้งใบเมื่อเห็นว่าชายร่างสูงดูชะงักไปอย่างเห็นได้ชัด รอยยิ้มของลินดาก็ยิ่งกดลึกวันนี้เธอตั้งใจแต่งตัวให้เรียบง่ายเป็นพิเศษ แต่งหน้าเพียงเบาบาง เส้นผมผูกเป็นหางม้าเรียบร้อย ไม่มีเครื่องประดับ ไม่มีสิ่งใดโดดเด่นหากแต่นั่นคือความโดดเด่นหญิงสาวรู้จักรสนิยมของคนตรงหน้าดี เธอรู้ว่าสไตล์นี้ไม่ใช่สไตล์ที่เขาชอบเธอไม่ได้แต่งตัวมาเพื่อพีระแต่แต่งมาเพื่อหญิงสาวอีกคนที่ก้าวตามมาต่างหากมีนาหรี่สายตามองพนักงานใหม่อย่างสำรวจ พึงพอใจไม่น้อยที่อีกฝ่ายเป็นแค่สาวชาวบ้านหน้าจืดๆ คนหนึ่ง“ยินดีต้องรับเข้าทำงานวันแรกนะคะคุณลินดา”เลขานุการสาวแย้มรอยยิ้มเหนือกว่า ก้าวเดินตามรองประธานเข้าไปในห้องส่วนตัวสำหรับผู้บริหาร ท่ามกลางสา
หลังจากเริ่มงานเพียงไม่กี่วัน ลินดาก็เริ่มซึมซับจังหวะชีวิตใหม่ในเมืองหลวงและปรับตัวได้อย่างดีเยี่ยม เธอเรียนรู้งานอย่างรวดเร็ว และเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานและรุ่นพี่ในแผนกอย่างไม่ยากเย็นใบหน้านิ่งสงบของเธอซ่อนความคิดซับซ้อนเอาไว้ภายใต้แววตาอ่อนโยนเสมอทุกเช้า ลินดาจะเดินเข้าบริษัทพร้อมใบหน้าสดใส ท่าทางเรียบร้อยไร้พิษภัยในสายตาคนอื่นแต่ในมือของเธอซ่อนสมุดโน้ตเล่มเล็กไว้เสมอ สมุดเล่มนั้นไม่ได้มีแค่ข้อความจดงาน แต่เป็นบันทึกส่วนตัวที่เธอใช้เก็บข้อมูลของพีระและมีนา คู่รักที่ครั้งหนึ่งเคยพรากทุกอย่างไปจากเธอหลังเลิกงาน วันแล้ววันเล่า เธอจะนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นานกว่าปกติ อ้างว่ากำลังศึกษาระบบงานใหม่ แต่ในความจริงแล้ว ลินดากำลังเข้าถึงข้อมูลภายในบริษัทอย่างเงียบเชียบเธอเริ่มจากแฟ้มโครงสร้างองค์กร ไล่เรียงรายชื่อผู้บริหาร ทีมงาน และผู้ที่เกี่ยวข้องกับโปรเจกต์ใหญ่ที่พีระดูแล รวมถึงตรวจสอบการเซ็นอนุมัติเอกสารย้อนหลังในระบบออนไลน์ และจดชื่อคนที่มักมีชื่อแนบกับเอกสารของพีระบ่อยครั้งลงสมุดเงียบๆในทุกวัน ตัวอักษรใหม่ๆ จะค่อยๆ ถูกเติมเต็ม...ราวกับแผนการที่กำลังค่อยๆ เป็นรูปเป็นร่าง✤ยามค
หลายวันผ่านไปอย่างเงียบเชียบ ลินดา ‘บังเอิญ’ พบกับพีระในร้านกาแฟบ่อยครั้งจนน่าแปลกใจเธอยังคงสั่งเมนูเดิม ใส่ไซรัปครึ่งปั๊มลงในอเมริกาโน่เย็นอย่างที่ตัวเองไม่ชอบเลยสักนิดแต่เธอรู้ดี...คนที่ชอบอะไรเหมือนๆ กัน มักจะดึงดูดเข้าหากันได้อย่างง่ายดายเหมือนกับพีระที่เริ่มเป็นฝ่ายแอบมองเธอก่อนบ้างแล้วและนั่นคือสัญญาณให้เธอเริ่มการกระทำขั้นถัดไป✤ในวันนี้ ลินดายืนรอที่หน้าเคาน์เตอร์ร้านกาแฟในตึกสำนักงานใหญ่ของบริษัทเช่นเดิมกลิ่นหอมกรุ่นของเมล็ดกาแฟคั่วบดลอยอบอวลปะปนไปกับเสียงพูดคุยของพนักงานที่ยืนต่อคิวกันยาวเหยียด เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนดูหน้าจอเหมือนกำลังเช็คข้อความอย่างไร้จุดหมาย ทว่าสายตากลับจับจ้องไปยังชื่อที่บาริสต้ากำลังเขียนบนสติ๊กเกอร์แก้วอย่างไม่ละสายตาหญิงสาวนิ่งรออย่างใจเย็น รอจังหวะที่เครื่องชงหยุดทำงาน ก่อนจะเห็นพนักงานวางแก้วสองใบเรียงกันตรงหน้าอเมริกาโน่เย็นสองแก้ว แก้วหนึ่งไม่ใส่น้ำตาล และอีกแก้วที่ใส่ไซรัปครึ่งปั๊ม ชื่อของเขาและของเธอสะกดอยู่บนสติ๊กเกอร์อย่างชัดเจนเธอก้าวเข้าไปช้าๆ ราวกับไม่ได้คิดอะไร สายตายังคงแสร้งจดจ่ออยู่กับโทรศัพท์ ก่อนที่มือเรียวจะยกแก้วขึ้นอ
หลังจากเข้าทำงานได้ไม่นาน ลินดาก็พิสูจน์ตัวเองผ่านผลงานหลายชิ้นอย่างเงียบๆเธอเรียนรู้งานรวดเร็ว ช่างสังเกต และจดจำรายละเอียดได้แม่นยำ แม้แต่พนักงานรุ่นพี่ที่เคยทำงานมานานยังอดเอ่ยปากชมไม่ได้“ลินดา นี่เธอเก็บข้อมูลลูกค้าได้ละเอียดกว่าพี่อีกนะ”“ใช่สิ เธอทำสรุปรายงานเร็วแล้วก็เนี๊ยบมาก ไม่ต้องให้แก้แทบเลย”คำชมที่ได้ยินบ่อยๆ บ่งบอกว่าเธอกลายเป็นคนที่เพื่อนในทีมไว้วางใจให้รับผิดชอบงานสำคัญมากขึ้นทีละขั้นพีระเองก็สังเกตเธอมากขึ้นเช่นกัน จากที่มักมาวนเวียนอยู่ที่ฝ่ายเอกสาร ทั้งที่ไม่มีเรื่องสำคัญให้ผู้บริหารระดับสูงอย่างเขาจะต้องแวะมาที่นี่ด้วยตัวเองชายหนุ่มมักหาข้ออ้างที่จะเดินผ่านโต๊ะของลินดา ในบางครั้งก็จะเหลือบมองแฟ้มงานของเธออยู่บ่อยๆ เห็นแล้วก็อดจะนึกชื่นชมไม่ได้รายงานของลินดานั้นจะมีลักษณะเฉพาะตัว ทั้งกระชับ เข้าใจง่าย และวางข้อมูลอย่างเป็นระบบ เป็นเอกลักษณ์ในแบบที่เห็นก็จำได้ในทันที“งานนี้เธอเป็นคนสรุปใช่ไหม” รองประธานหนุ่มเอ่ยขึ้นในที่ประชุมวันหนึ่ง ขณะพลิกเอกสารตรวจดูลินดาพยักหน้า “ค่ะ ดิฉันรวบรวมข้อมูลจากฝ่ายวิจัยและสถิติเอง แล้วเรียบเรียงใหม่เพื่อให้อ่านง่ายขึ้นค่ะ”ชายห
“วันนี้ผมจะประกาศแต่งตั้งผู้ช่วยส่วนตัวคนใหม่”ในการประชุมกรรมการบริหาร รองประธานหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบเป็นทางการทว่าชัดเจนเสียงฮือเบาๆ ดังขึ้นในห้อง หลายคนหันไปกระซิบกันใครๆ ต่างก็รู้ว่านับตั้งแต่พีระขึ้นมาเป็นรองประธาน ชายหนุ่มยังไม่เคยแต่งตั้งผู้ช่วยมาก่อนเลย แม้จะมีคนคอยเตือนอยู่ตลอดก็ตามข้างกายของเขามีเพียงมีนาผู้เป็นเลขาคนสนิทเท่านั้นแต่ครั้งนี้... เงาร่างของหญิงสาวที่บางคนรู้จักดีกลับปรากฎอยู่ข้างกายเขา“เธอคือลินดา เจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการของบริษัทเรา ผมสังเกตการทำงานของเธอมาตั้งแต่เธอเริ่มเข้ามาทำงานแล้ว ผมมั่นใจว่าเธอสามารถรับหน้าที่นี้ได้ดี”เพียงจบประโยคนั้น เสียงปรบมือก็ดังขึ้นทั่วห้องประชุมแม้จะมีสายตาที่มองมาลินดาด้วยความไม่เข้าใจว่าทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้รับความไว้วางใจจากผู้บริหารรวดเร็วขนาดนี้ แต่หลายคนก็ตบมือให้ด้วยความเต็มใจ เพราะต่างก็เห็นลินดาขยันขันแข็งและทุ่มเทให้กับงานอย่างจริงจังมาตลอดตั้งแต่วันแรกที่เข้าทำงานจนถึงวันนี้ หญิงสาวไม่เคยปฏิเสธงานแม้แต่งานเดียว ไม่เคยโวยวายเรื่องความเหนื่อยล้า และเรียนรู้ระบบภายในบริษัทได้อย่างรวดเร็วราวกับมืออาชีพที่สั่
ภายในครึ่งชั่วโมง ไฟล์ที่แน่นไปด้วยตัวเลขและรายการเดินบัญชีจำนวนมากก็ส่งเข้ามา ลินดาเปิดมันอย่างนิ่งสงบ กวาดตาดูมันด้วยสายตาที่ว่องไวและเฉียบคมกว่าที่พนักงานธรรมดาจะมีเธอเห็นชื่อบริษัทลูกหลายแห่งที่ไม่คุ้นตา แต่รายชื่อเหล่านั้นกลับมีความเชื่อมโยงแปลก ๆ กับบัญชีส่วนตัวของพีระ...และชื่อหนึ่งเด่นชัดกว่ารายการอื่นจนทำให้เธอต้องเบิกตาโพลงNalin Holding“นลิน?” ลินดารู้สึกไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง“เขา... ใช้ชื่อฉันตั้งบริษัทซ่อนเงิน?”หญิงสาวนิ่งค้างอยู่นาน ผิดหวังจนไม่รู้จะผิดหวังอย่างไรได้อีกเธอควรจะดีใจหรือไม่นะที่เขายังคิดถึงเธอขนาดนี้ลินดาสูดลมหายใจเฮือกใหญ่ พยายามควบคุมสีหน้า ก่อนกดบันทึกเอกสารลงแฟลชไดรฟ์เล็กๆ ที่พกติดตัวหลักฐานชิ้นแรกของเธอ... ช่างได้มาอย่างง่ายดาย✤ทันทีที่แถบดาวน์โหลดข้อมูลเลื่อนไปจนสุด แฟลชไดรฟ์อันน้อยก็ถูกดึงเก็บอย่างรวดเร็ว นิ้วเรียวบางขยับบนแป้นพิมพ์ไม่กี่ครั้ง ข้อมูลที่ไม่ควรปรากฏบนเครื่องก็ถูกลบทิ้งอย่างไม่เหลือร่องรอยลินดายังคงจดจ่อกับงานของเธอเช่นเคย ไม่ว่าใครหากมาเห็น บนหน้าจอคอมพิวเตอร์จะมีเพียงโครงการล่าสุดของบริษัทเท่านั้นเสียงแป้นพิมพ์ดังต่อเน
เมื่อวันเวลาผ่านไป ความใกล้ชิดของทั้งสองก็เพิ่มมากขึ้นโดยไม่รู้ตัวลินดาเริ่มขลุกอยู่ในห้องทำงานของพีระมากกว่าจะเป็นโต๊ะของตัวเอง ในตอนเช้า เธอจะซื้อกาแฟมาฝากพีระเสมอ และเมื่อถึงช่วงบ่าย เธอมักจะหยิบโน้ตบุ๊คเข้ามาทำงานในห้องของเขาระหว่างคนสองคนมีเพียงความเงียบงันและเสียงกดแป้นพิมพ์ ทว่าบรรยากาศกลับอวลไปด้วยความอบอุ่นเบาบาง ประหนึ่งคู่รักคู่หนึ่งหลายครั้งที่พีระจะยื่นแก้วกาแฟให้เธอโดยไม่ต้องเอ่ยขอ เหมือนรู้ใจไปเสียหมดว่าช่วงบ่ายเธอมักต้องการอะไร และลินดาก็มักจะหยิบขนมเล็กๆ มาวางไว้ข้างมือเขาในวันที่เห็นว่าชายหนุ่มงานยุ่งจนไม่มีเวลาลุกออกจากโต๊ะแม้คำพูดจะยังคงเป็นทางการและระมัดระวัง แต่ความเคยชินเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ กำลังลดระยะห่างระหว่างพวกเขาลงอย่างช้าๆ จนแทบไม่รู้ตัวในบางวันพีระจะเอ่ยเรียกชื่อเธอเบาๆ ขณะที่ยังจดจ่ออยู่กับเอกสารในมือ“ลินดา...”เสียงนั้นไม่ได้แข็งกระด้างเหมือนครั้งแรกที่รู้จักกัน แต่เริ่มแฝงความไว้ใจและคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด“คะ?”ลินดาเงยหน้าขึ้นมาขานตอบ บนใบหน้าประดับรอยยิ้มอ่อนหวาน สดใสน่ารักเสียจนพีระอดไม่ได้ที่จะโน้มตัวเข้าไปใกล้“คุณพีระ...?”เสียงเรียกทำให้
ตั้งแต่วันแรกที่ลินดาได้รับตำแหน่งผู้ช่วยรองประธาน ตารางชีวิตของเธอก็แน่นขนัดมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าเธอเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการจัดตารางประชุมให้พีระอย่างเป็นระบบ ร่างเอกสารสรุปประชุมแบบรัดกุม ส่งอีเมลแจ้งทีมงานแทนเขา จนบางครั้งพีระเองยังเผลอพึ่งพาเธอมากกว่าที่ตั้งใจไว้อันที่จริงแล้ว พีระเป็นคนระแวดระวัง เขาไม่ใช่คนที่จะไว้ใจใครง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขามีความลับที่ไม่ควรให้ใครล่วงรู้แต่กับลินดา… มันต่างออกไปหญิงสาวร่างบาง ผู้พูดจานอบน้อม มีสายตาที่มองโลกอย่างใสซื่อ และมักจะยิ้มอย่างอ่อนโยนในจังหวะที่เหมาะสม เธอไม่เคยพูดมากเกินไป แต่กลับอยู่ในจังหวะที่เขาต้องการเสมอ“ผมเครียดกับเรื่องพรีเซนต์ฝั่งลูกค้าญี่ปุ่นนิดหน่อย คุณเคยแปลภาษาญี่ปุ่นไหม”“เคยค่ะ ถึงไม่ได้คล่องมากแต่ฉันเริ่มเรียนภาษานี้มา 3 ปีแล้วค่ะ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้เลยนะคะ”และลินดาก็จะมีคำตอบที่น่าพอใจให้เขาทุกครั้งพีระยกยิ้มมุมปากในทุกครั้งที่เป็นเรื่องงาน คำตอบของหญิงสาวจะเรียบง่าย แต่มั่นใจ และเต็มไปด้วยความสมัครใจที่ไม่มีเจตนาแอบแฝง นั่นแหละที่ทำให้เขายิ่งสนใจลินดาไม่เคยพยายามทำตัวสนิทกับเขาเกินจำเป็น เธอ
ในขณะที่การเก็บหลักฐานของลินดาเป็นไปอย่างราบรื่น ความสัมพันธ์กับพีระก็คืบหน้าอย่างก้าวกระโดดเช่นกัน“คุณลินดาครับ”พีระเอ่ยขึ้นขณะยื่นช่อกุหลาบสีชมพูอ่อนให้เธอ หลังจากที่เรียกเธอให้เข้ามาหาในห้องทำงานดอกไม้สดช่อใหญ่บรรจงจัดอย่างประณีต กลีบดอกเรียงตัวอย่างสวยงาม แฝงด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ อบอวลอยู่ในห้องทำงานที่ปกติแล้วมักจะมีแต่กลิ่นของกาแฟและหมึกพิมพ์ มันเปลี่ยนบรรยากาศให้ดูอ่อนหวานอย่างน่าประหลาดลินดาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาไหวระริก ก่อนจะรับช่อดอกไม้จากมือเขาด้วยรอยยิ้มบางเฉียบ“ขอบคุณค่ะ... แต่วันนี้ไม่มีโอกาสพิเศษอะไรนี่คะ” เธอว่า พลางเบี่ยงสายตาหนีความอบอุ่นในดวงตาของเขา“บางครั้งโอกาสพิเศษก็เกิดขึ้นเพราะคนพิเศษ... ไม่ใช่เพราะวันพิเศษ” พีระตอบกลับทันควัน น้ำเสียงของเขานุ่มนวลแต่หนักแน่นในความรู้สึก รอยยิ้มบนใบหน้าเขาไม่ได้แสดงออกอย่างหวือหวา ทว่าแววตาของเขาชัดเจนจนลินดาเผลอกระพริบตาถี่เธอพยายามกลั้นลมหายใจ ฝืนยิ้ม ก่อนจะเบือนหน้าซ่อนมือที่บีบก้านดอกไม้อย่างแน่นราวกับระบายแรงกดดันที่เริ่มปะทุในใจ“คุณเอาดอกไม้มาให้ฉันแบบนี้ ฉันก็... ฉัน”หญิงสาวหลุบตาแสร้งเอ่ยเสียงอ้ำอึ้ง ทำทีลำบาก
เช้าวันรุ่งขึ้น ลินดาเดินตรงเข้าสู่ชั้นล่างของอาคาร ซึ่งเป็นที่ตั้งของฝ่ายสนับสนุนระบบไอที กลิ่นอับของห้องเซิร์ฟเวอร์ผสมกับกลิ่นกาแฟสำเร็จรูปยังอวลอยู่ในอากาศ ห้องนี้ไม่ใช่ที่ที่เธอจะมีธุระเป็นปกติ เพราะงานของเธอส่วนใหญ่มักวนเวียนอยู่กับผู้บริหารและห้องประชุมชั้นบนหญิงสาวเดินช้าๆ อย่างไม่รีบร้อน เสียงส้นรองเท้าส้นเตี้ยกระทบพื้นลามิเนตอย่างแผ่วเบา จนมาหยุดที่หน้าโต๊ะของชายหนุ่มคนหนึ่ง ผู้สวมเสื้อโปโลบริษัท กำลังจดจ่อกับหน้าจอที่เต็มไปด้วยโค้ด“คุณปฐพีใช่ไหมคะ” เสียงของลินดานุ่มนวลและสุภาพชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย สีหน้าแปลกใจที่เห็นเธอ“ครับ?”ลินดายิ้มบางๆ ขณะที่ยื่นบัตรประจำตัวให้ ก่อนเอ่ยแนะนำตัว “ดิฉันลินดาค่ะ เป็นผู้ช่วยของรองประธานพีระ”ชื่อที่เอ่ยออกมานั้นเปรียบเหมือนคีย์การ์ดล่องหน ทำให้ปฐพีเปลี่ยนท่าทีเป็นสุภาพทันที“อ๋อ…ครับ! มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าครับคุณลินดา”เธอไม่แปลกใจนักที่อีกฝ่ายจะเปลี่ยนท่าทีกะทันหัน จากข้อมูลที่เธอสืบได้ ปฐพีคนนี้คือตัวการหลักที่คอบช่วยพีระเก็บกวาดหลักฐานทุกอย่าง เขาเป็นคนของพีระอย่างเต็มตัวและเมื่อพีระไว้วางใจลินดา เขาย่อมให้ความสำคัญกับเธอมาก
กลางคืนคลี่คลุมบริษัทขนาดใหญ่ราวกับม่านสีหมึก ชั้นบริหารที่เคยเต็มไปด้วยเสียงสนทนาและฝีเท้า ตอนนี้เหลือเพียงแสงจากโคมตั้งโต๊ะบางดวง และเสียงแป้นพิมพ์เบาๆ จากห้องหนึ่งลินดายังไม่กลับบ้าน เธอนั่งอยู่เพียงลำพัง โดยมีเพียงเสียงคลิกเมาส์ที่ดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ กับแสงจากหน้าจอที่สะท้อนเงาบนใบหน้าเรียบนิ่งหญิงสาวมักอยู่ทำงานล่วงเวลาเสมอ นั่นทำให้ทุกคนไม่รู้สึกถึงความผิดปกติใดๆ แม้แต่ตัวพีระเองก็ตาม“รีบกลับบ้านนะครับผู้ช่วยคนเก่งของผม”น้ำเสียงทุ้มนุ่มดังขึ้น พร้อมกับที่ริมฝีปากของเจ้าของเสียงโฉบลงมาข้างแก้มเนียนอย่างแผ่วเบา และน้ำแก้วหนึ่งที่ถูกวางไว้ให้อย่างใส่ใจตั้งแต่เขาออกตัวว่าจีบเธอ พีระก็เริ่มทำอะไรให้ลินดามากขึ้น ปฏิกิริยาตอบสนองของเธอยังคงเป็นอาการเขินอายหน้าแดง แต่พีระก็มองออก ว่าเธอกำลังหวั่นไหวให้เขาทีละน้อยพีระมองหญิงสาวอย่างอาลัยอาวรณ์เล็กน้อย เขาไม่สามารถอยู่ทำงานเป็นเพื่อนเธอได้ ก็เพราะเขายังต้องคอยหลบซ่อนความสัมพันธ์กับลินดาไม่ให้มีนาจับได้นั่นเองลินดาหัวเราะคิกคักเล็กน้อยกับการหลอกล้อของชายหนุ่ม ก่อนจะมองส่งเขากลับบ้านไปจนลับสายตาที่ผ่านมาเธอแกล้งทำตัวเป็นเพียงผู้ช่
“คุณรู้ไหมว่าผมเรียกคุณเข้ามาทำไม”เสียงของพีระฟังดูเรียบเฉยตามแบบฉบับของเขา แต่มีอะไรบางอย่างในน้ำเสียงนั้นที่ชวนให้รู้สึกได้ถึงแรงสะกิดทางอารมณ์ ไม่ใช่แค่คำถามธรรมดา มันเหมือนการวางหมากตัวแรกบนกระดานลินดากะพริบตาเล็กน้อย ใบหน้าหวานนิ่งไปชั่วครู่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตาเขาอย่างไม่แน่ใจ น้ำเสียงของเธอนุ่มนวล ราวกับกลืนหายไปกับเสียงแอร์ที่พัดอยู่เบาๆ“เกี่ยวข้องกับเอกสารการประชุมก่อนหน้านี้หรือเปล่าคะ”พีระไม่ได้ตอบทันที เขาเพียงยื่นแฟ้มเอกสารกลับให้เธอ มือหนาจับมันไว้อย่างมั่นคง ในขณะที่ดวงตาของเขาไม่เคยละไปจากใบหน้าเงียบสงบของหญิงสาวตรงหน้าเลยแม้แต่วินาทีเดียว“งานเรียบร้อยดีมาก” เขาพูดในที่สุด เสียงทุ้มต่ำของเขาแฝงความจริงจังมากกว่าปกติเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะกดน้ำหนักเสียงลงอย่างจงใจในประโยคสุดท้าย“ขอบคุณมาก ลินดา”ชื่อที่ถูกเอ่ยเสียงทุ้มนุ่มชวนใจสั่นนั้น ทำให้ใครต่อใครเคลิบเคลิ้มตามได้ไม่ยาก ลินดารับแฟ้มกลับด้วยมือทั้งสองข้าง ก้มศีรษะลงเล็กน้อยด้วยท่าทีอ่อนน้อม“ขอบคุณค่ะ...” เธอเอ่ยเสียงเบา ไม่กล้าเงยหน้าสบตาเขาทว่าแม้ใบหน้าจะก้มต่ำ แต่พีระก็เห็นได้ชัดถึงริ้วสีชมพูเรื่อจางๆ บนพวงแก
ไม่กี่นาทีต่อมา ลินดาก็ได้รับโทรศัพท์จากพีระให้เข้าไปหาเข้าในห้องทำงาน เธอลุกขึ้นหยิบแฟ้มเอกสาร ยิ้มบางๆ ให้มีนาที่หน้าห้องรองประธาน ก่อนจะเคาะประตู“เข้ามาได้”หญิงสาวเดินเข้าไปด้วยท่าทีมั่นคง เสื้อเชิ้ตสีขาวสะอาด กับกระโปรงทรงสอบสีน้ำเงินเข้มยังคงสะท้อนภาพของผู้หญิงที่ควบคุมทุกอย่างได้อยู่หมัด เธอหยุดยืนตรงหน้าโต๊ะ ก้มศีรษะเล็กน้อยอย่างสุภาพแสงแดดอ่อนยามบ่ายลอดผ่านกระจกบานใหญ่ของห้องทำงาน สะท้อนลงบนโต๊ะไม้โอ๊คที่จัดวางอย่างเป็นระเบียบ พีระนั่งอยู่ที่ปลายโต๊ะ มือข้างหนึ่งวางอยู่บนแฟ้มเอกสาร อีกข้างหมุนปากกาคลายความคิดที่วนเวียนในหัวเค้กส้มชิ้นหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะทำงานอย่างไม่ค่อยเข้ากันเท่าไรนักมันคือเค้กชิ้นสุดท้ายที่เหลืออยู่หลังจากมีนานำมาแจกจ่ายทุกคน ลินดาอมยิ้มมองมันด้วยแววตาแฝงปริศนาดูจากระยะเวลาแล้ว เลขาสาวคนนั้นคงเพียงแค่เอาเค้กมาส่งโดยไม่ได้พูดคุยอะไรกันเพิ่มเติมพีระไม่ได้สังเกตแววตาของเธอแม้แต่นิดเดียว เขาผายมือไปทางแฟ้มตรงหน้า สั่งงานทันที “ผมอยากให้คุณช่วยสรุปรายงานฉบับนี้ภายในวันนี้...”“แน่นอนค่ะ” ลินดาตอบรับเสียงนุ่ม หญิงสาวไม่ได้ลังเลเลยแม้แต่น้อยตอนที่ยื่นมือไปรับ
บ่ายวันนั้น ท้องฟ้าครึ้มฝน บรรยากาศอบอ้าวภายนอกเหมือนจะถ่ายเทเข้ามาในตึกกระจกทั้งหลัง ลินดากำลังจัดเอกสารที่โต๊ะของตนเองตามปกติเมื่อพนักงานคนหนึ่งเอ่ยเรียก“คุณลินดา มีคุณมีนาเอาขนมมาฝากที่ห้องพักค่ะ บอกว่าให้ทุกคนไปหยิบได้เลย”ลินดาขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอแย้มยิ้มขอบคุณแล้วตามออกไปเสียงพูดคุยเบาๆ หยุดลงทันทีที่เธอเปิดประตูห้องพักพนักงานมีนานั่งอยู่ที่มุมโซฟา ใส่เสื้อเชิ้ตผ้าลินินสีขาวเรียบ กับกระโปรงยาวสีเบจ เส้นผมถูกรวบไว้หลวมๆ เธอยิ้มให้ลินดาเมื่อเห็นเธอเดินเข้ามา“คุณลินดามาเร็ว ฉันแวะซื้อเค้กร้านโปรดของคุณพีระมาฝากทุกคนค่ะ”ลินดาเดินเข้าไปอย่างสงบ เสียงหัวใจเธอเต้นช้าแต่หนักแน่น เธอยิ้มตอบเบาๆ“ขอบคุณมากนะคะ คุณมีนา ร้านนี้คิวยาวมากเลยค่ะ ต้องรอนานไหมคะ”“ไม่นานค่ะ ฉันโทรสั่งไว้ล่วงหน้า” มีนาหัวเราะเบาๆ “ก็สะดวกดีค่ะ มีหลายรสนะคะ ฉันเดาถูกไหมว่าใครอยากกินรสอะไร”คำว่า “ใครอยากกินรสอะไร” ทำให้ลินดาชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มน้อยๆ“เดาถูกมากเลยค่ะ ฉันชอบรสมัจฉะมาก”มือเรียวบางหยิบเค้กรสมัจฉะที่มีเพียงชิ้นเดียวออกมาทันที มีนาคิ้วกระตุกเล็กน้อย สีหน้าแข็งทื่อไปชั่วขณะ ทำเอาลินดานึกขำมัจ
เช้าวันถัดมา แสงแดดเช้าสาดลอดผ่านม่านโปร่งแสงของห้องน้ำพนักงาน เสียงน้ำไหลจากอ่างล้างมือดังกระทบพื้นเซรามิกอย่างสม่ำเสมอ ละอองไอน้ำเบาบางลอยคละคลุ้งอยู่ในอากาศชื้นอุ่นลินดายืนอยู่หน้ากระจก เธอใช้หวีเล็กๆ หวีผมด้านข้างให้เข้าทรงก่อนจะยกมือจัดปกเสื้อเชิ้ตสีขาวให้เรียบร้อยเส้นผมที่เธอหวีอยู่หน้ากระจกบานเล็กนี้คือครั้งที่สามในรอบสิบนาทีปกติลินดาจะดูไม่ใช่คนจุกจิกกับรูปลักษณ์เท่าไร แต่แท้จริงแล้วนั้น รายละเอียดยิบย่อยแม้แต่การปัดของเส้นผมก็เป็นสิ่งที่เธอตั้งใจปั้นแต่งขึ้นมาให้สมบูรณ์แบบที่สุดหญิงสาวอมยิ้มน้อยๆ เมื่อนึกถึงสายตาของใครบางคนที่เริ่มสะกิดใจเธอเมื่อวานมีนาชื่อที่เธอเกลียดชังอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันชื่อที่ผู้คนทั้งบริษัทพูดถึงด้วยความยำเกรง แต่ก็แฝงความระแวดระวังแบบไม่กล้าแสดงออกก่อนหน้านี้ ลินดาคิดว่ามีนาเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งที่ใช้เสน่ห์ส่วนตัวคอยล่อลวงพีระ แต่ไม่ใช่เลยหลังจากที่เธอเข้ามาทำงานใกล้ชิดกับทั้งคู่ หลักฐานต่างๆ ต่างชี้ไปที่มีนา ในฐานะที่เป็นตัวการหลักและในบางที อาจเป็นมีนาที่เป็นคนเริ่มต้นวางแผนทุกอย่าง✤หวีอันน้อยถูกยกขึ้นและวางเก็บเป็นครั้งที่สี่ ลินดาไม่ได้
นับจากวันนั้น ความสัมพันธ์ของพีระกับลินดาก็ค่อยๆ พัฒนาขึ้นอย่างเงียบๆ จนเห็นได้ชัดระหว่าง แม้ลินดาจะยังคงมีท่าทีสุภาพเรียบร้อยราวกับไม่รู้ถึงความผิดปกติใดๆเป็นฝ่ายเพื่อนร่วมงานหลายคนที่เริ่มมองความสัมพันธ์นี้ด้วยแววตาสงสัย แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรออกมาตรงๆ เพราะต่างก็รู้ดีว่าลินดาคือมือขวาของรองประธานที่ทั้งบริษัทไว้วางใจไปเสียแล้วและมันก็ไม่น่าแปลกที่คนใกล้ชิดของพีระอย่างมีนาจะเริ่มรู้สึกแปลกๆ กับเรื่องนี้“ลินดาอีกแล้วเหรอ”น้ำเสียงของมีนาไม่เปลี่ยนไปจากปกติ แต่แววตาใต้ขนตางอนงามสะบัดวูบเล็กน้อย ขณะเธออ่านโน้ตที่แนบมากับแฟ้มรายงานบนโต๊ะทำงานของพีระลายมือเรียบร้อย สะอาด เป็นระเบียบอย่างน่าประทับใจ“แนบรายงานต้นฉบับตามที่ขอค่ะ – ลินดา”เธอรู้จักชื่อนี้ดีอยู่แล้ว ลินดา ผู้ช่วยคนใหม่ของพีระที่เพิ่งย้ายมาเมื่อต้นไตรมาส ผู้หญิงท่าทางเรียบร้อย สุภาพ และพูดน้อย ที่เธอเลือกมาเองกับมือเนื่องด้วยมีนาเป็นเลขาหน้าห้องทำงานของพีระ ทุกครั้งที่ลินดาเข้าไปรายงานในห้องทำงานของพีระจึงต้องผ่านเธอก่อน ซึ่งมีนาก็จะคอยสังเกตอยู่เสมอ แต่เธอไม่เคยเห็นพิรุธใดๆ ทั้งสิ้น จึงได้วางใจไม่มีอะไรในตัวลินดาที่ดูน่าก
ตั้งแต่วันแรกที่ลินดาได้รับตำแหน่งผู้ช่วยรองประธาน ตารางชีวิตของเธอก็แน่นขนัดมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าเธอเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยการจัดตารางประชุมให้พีระอย่างเป็นระบบ ร่างเอกสารสรุปประชุมแบบรัดกุม ส่งอีเมลแจ้งทีมงานแทนเขา จนบางครั้งพีระเองยังเผลอพึ่งพาเธอมากกว่าที่ตั้งใจไว้อันที่จริงแล้ว พีระเป็นคนระแวดระวัง เขาไม่ใช่คนที่จะไว้ใจใครง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขามีความลับที่ไม่ควรให้ใครล่วงรู้แต่กับลินดา… มันต่างออกไปหญิงสาวร่างบาง ผู้พูดจานอบน้อม มีสายตาที่มองโลกอย่างใสซื่อ และมักจะยิ้มอย่างอ่อนโยนในจังหวะที่เหมาะสม เธอไม่เคยพูดมากเกินไป แต่กลับอยู่ในจังหวะที่เขาต้องการเสมอ“ผมเครียดกับเรื่องพรีเซนต์ฝั่งลูกค้าญี่ปุ่นนิดหน่อย คุณเคยแปลภาษาญี่ปุ่นไหม”“เคยค่ะ ถึงไม่ได้คล่องมากแต่ฉันเริ่มเรียนภาษานี้มา 3 ปีแล้วค่ะ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้เลยนะคะ”และลินดาก็จะมีคำตอบที่น่าพอใจให้เขาทุกครั้งพีระยกยิ้มมุมปากในทุกครั้งที่เป็นเรื่องงาน คำตอบของหญิงสาวจะเรียบง่าย แต่มั่นใจ และเต็มไปด้วยความสมัครใจที่ไม่มีเจตนาแอบแฝง นั่นแหละที่ทำให้เขายิ่งสนใจลินดาไม่เคยพยายามทำตัวสนิทกับเขาเกินจำเป็น เธอ