Share

บทที่ 45

Author: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
พูดตามตรง เล็ตตี้กลายเป็นคนสำคัญสำหรับฉันมากในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เรารู้จักกัน เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่ฉันไม่เคยรู้ว่าต้องการมาก่อน เป็นเพื่อนที่ฉันไม่เคยได้มีในสมัยมัธยมเพราะฉันหมกมุ่นอยู่กับการทำให้โรแวนสนใจฉันมากเกินไป

“ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีเลย” ฉันบอกเธออย่างเขินอาย

ใบหน้าของเธอสดใสขึ้นและรอยยิ้มก็ปรากฏ “เล่าทุกอย่างให้ฉันฟังหน่อย”

“ไม่มีอะไรให้เล่ามากเลยเล็ตตี้ เราไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง แล้วเขาก็พาฉันไปกินไอศกรีม ซึ่งเป็นส่วนที่ฉันชอบที่สุดของคืนนั้น”

“เขาได้จูบคุณหรือเปล่า?” ความตื่นเต้นปรากฏชัดบนใบหน้าของเธอ

ฉันหัวเราะ เหมือนกับสิ่งที่ฉันเล่าไปไม่ได้เข้าหูเธอเลย เธอแค่อยากรู้ว่าคืนนั้นจบลงอย่างไร

“เปล่า” ฉันตอบเธอ “ฉันรู้ว่าเขาต้องการนะแต่เขาไม่ได้ทำ ฉันไม่แน่ใจว่าฉันควรจะผิดหวังดีหรือเปล่า”

“ทำไมล่ะ?”

“เพราะใจหนึ่งฉันอยากให้เขาทำแบบนั้น ฉันแค่อยากรู้ว่าการถูกใครสักคนที่ต้องการฉันจูบมันจะรู้สึกอย่างไร แต่อีกส่วนหนึ่งของฉันก็ดีใจที่เขาไม่ได้จูบฉัน เพราะฉันไม่แน่ใจว่าฉันพร้อมหรือยัง”

เธอเงียบและจ้องมองฉัน ฉันเห็นความคิดของเธอทำงานอย่างหนักขณะที่เธอนึกถึ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
เฮ้อ! ไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจดีเรื่องจูบ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ธุลีใจ   บทที่ 46

    “คุณสมควรได้รับการจูบราวกับว่าวาระสุดท้ายของโลกกำลังจะมาถึง” คำพูดของเล็ตตี้ทำให้ฉันหลุดจากภวังค์ เธอจับมือฉันไว้และคอยให้กำลังใจฉันฉันมองดูเธอและถอนหายใจด้วยความโล่งใจ เธอไม่ได้มองฉันด้วยความสงสารหรือเห็นใจ นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันต้องการจากเธอ“นอกจากเรื่องนั้นแล้วทุกอย่างก็สมบูรณ์แบบใช่ไหมคะ?” เธอถาม“ใช่ ฉันเห็นโรแวนและเอมม่าด้วย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไปออกเดตกัน”“จริงเหรอเนี่ย?”“ใช่ค่ะ” ฉันตอบพลางจิบเครื่องดื่มและพยายามลืมไปว่าพวกเขาดูสมบูรณ์แบบแค่ไหนเมื่ออยู่ด้วยกันเอมม่าพูดถูก เธอและโรแวนถูกสร้างมาคู่กัน ในตอนนั้นทุกคนต่างก็เห็นตรงกันและในที่สุดฉันก็เริ่มเห็นแล้วตอนนี้“ฉันหวังว่าเขาได้เห็นว่าคุณสวยจนน่าตกใจแค่ไหน และฉันหวังว่าเขาจะสำนึกเสียใจที่ทิ้งความงามที่แท้จริงไป”ฉันหัวเราะ ฉันบอกแล้วว่าเล็ตตี้ดีต่อความภูมิใจในตัวเองของฉัน ในที่สุดก็มีมนุษย์อีกคนที่ไม่หมกมุ่นอยู่กับความสวยงามของเอมม่า ในที่สุดก็มีคนที่ไม่เปรียบเทียบฉันกับพี่สาวหรือเอาความงามของเธอมาข่มต่อหน้าฉัน“แค่นั้นเหรอคะ? ไม่มีอะไรน่าสนใจเกิดขึ้นอีกเลยเหรอ?” เธอถาม“ไม่มีแล้ว” ฉันส่ายหัวฉันอยากจะเล่าเร

  • ธุลีใจ   บทที่ 47

    ฉันเพิ่งทำความสะอาดเสร็จเมื่อโทรศัพท์ดังขึ้น ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันรู้สึกว่าการทำความสะอาดช่วยผ่อนคลายได้เสมอ มันเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ฉันลืมเรื่องที่ทำให้ฉันเครียดได้เมื่อฉันกลับมาตั้งหลักได้อีกครั้งและสามารถดูแลตัวเองได้ ฉันจึงได้เลิกจ้างลิเดีย เธอช่วยฉันได้มากแต่ฉันไม่ต้องการพยาบาลอีกต่อไปแล้ว นอกจากนี้ฉันยังชอบเป็นอิสระมากกว่าฉันเดินข้ามห้องและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ชั่วขณะหนึ่งฉันเกือบจะวางสายเมื่อเห็นชื่อของเล็ตตี้ปรากฏขึ้น ฉันยังคงโกรธเธออยู่เล็กน้อย แต่ใจส่วนหนึ่งของฉันก็เข้าใจเธอเช่นกัน ฉันคงทำทุกอย่างเพื่อผู้ชายที่ฉันรัก รวมถึงการพยายามทำให้เขากับน้องสาวที่พรากกันไปได้กลับมาอยู่ด้วยกัน“ว่าไง” ฉันตอบขณะเดินขึ้นไปที่ห้องของฉัน“ฉันขอโทษจริง ๆ นะเอวา ฉันล้ำเส้นไปทั้ง ๆ ที่ฉันสัญญาว่าจะไม่พูดถึงทราวิส” อารมณ์ในน้ำเสียงของเธอทำให้ฉันตั้งตัวไม่ติดเธอฟังดูจริงใจและเศร้าเล็กน้อย ฉันรู้สึกประหลาดใจและไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ฉันไม่เคยชินกับการที่คนอื่นขอโทษฉันอย่างตั้งใจจริงเลย จริง ๆ แล้วไม่มีใครรอบตัวฉันเลยที่ขอโทษเมื่อพวกเขาทำผิดต่อฉัน“เล็ตตี้…”เธอตัดบทฉันก่อนที่ฉันจะทันได้พ

  • ธุลีใจ   บทที่ 48

    “ได้สิ ฉันเข้าใจ” เธอกล่าวก่อนที่จะหยุดชะงัก “แต่เราโอเคกันใช่ไหม? ฉันสาบานว่าฉันจะรักษาสัญญาและจะไม่พูดถึงทราวิสอีก”“ใช่ เราโอเคแล้ว อย่าคิดมาก” ฉันบอกเธออย่างจริงใจทุกคำ“ขอบคุณนะ” เธอกล่าวอย่างตื่นเต้น “ฉันจะปล่อยคุณไปคุยกับโนอาแล้ว ฝากทักทายเขาด้วยนะ ราตรีสวัสดิ์”“เช่นกันจ้ะ เล็ตตี้”ฉันวางสายและหายใจเข้าลึก ๆ เนื่องจากโนอาได้วางสายไปแล้ว ฉันจึงโทรกลับไปหาเขา“ฮัลโหล?” ฉันนิ่งอึ้งเมื่อได้ยินเสียงของคุณแม่ดังมาจากอีกฝั่งฉันไม่ได้คุยกับแม่อีกเลยตั้งแต่วันนั้นที่สนามบิน ในบรรดาคนที่ทำให้ฉันเจ็บปวด แม่เป็นคนที่ทำให้ฉันเจ็บปวดที่สุด แม่ควรจะรักและทะนุถนอมลูก ๆ ของตน แต่ฉันไม่ได้อะไรจากแม่เลย แม่ไม่สนใจใยดีฉันได้อย่างไร? เธอปฏิบัติกับฉันเหมือนว่าฉันไม่มีค่าเลยได้อย่างไร?ตอนนี้ฉันเป็นแม่คนเองแล้ว ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแม่ถึงทำแบบนั้นได้ ฉันไม่สามารถนึกภาพตัวเองทำแบบนั้นกับโนอาได้เลย“เอวา เป็นยังไงบ้าง?” แม่ถามเบา ๆ เสียงสั่นเล็กน้อยไม่มีอะไรหลุดออกมาจากริมฝีปากของฉัน ฉันยังคงนิ่งเงียบ ไม่ใช่เพราะฉันไม่มีอะไรจะพูดกับเธอ แต่เพราะฉันมีเรื่องมากมายที่จะพูดและไม่มีคำไหนดีเลย ฉั

  • ธุลีใจ   บทที่ 49

    ฉันลืมตาขึ้นมาและพบว่าตัวเองอยู่ในห้องนั่งเล่น มือของฉันถูกมัดไว้กับพนักเก้าอี้“อ่า ตื่นสักที ฉันกำลังสงสัยพอดีว่าเธอจะใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะตื่น เพราะยังไงฉันก็อยากให้เหยื่อของฉันมีสติก่อนที่ฉันจะลงมือฆ่า” เสียงของชายคนนั้นทำให้ฉันขนลุกไปทั้งตัวเขาเดินอ้อมมาและฉันก็ได้เห็นเขา อย่างน้อยก็บางส่วนของเขาเพราะเขาปิดหน้าเอาไว้ เขาเป็นผู้ชายตัวใหญ่และบึกบึน แขนของเขาเพียงข้างเดียวดูเหมือนว่าจะสามารถบดขยี้หัวคนให้แหลกได้ เขาเผยถึงความอันตรายและไม่ใช่เพราะว่าตอนนี้ฉันเป็นเหยื่อของเขา แค่มีบางอย่างที่น่าหวาดกลัวอยู่ในตัวเขาเขานั่งลงตรงหน้าฉันพร้อมกับถือแก้วไวน์ในมือ แก้วของฉันและไวน์ของฉัน เขาดูสบายใจมากราวกับว่านี่คือบ้านของตนฉันพยายามดิ้นรนหนี แต่เชือกก็รัดแน่น“เธอสามารถพยายามดิ้นได้ตามต้องการเลย แต่คราวนี้เธอจะหนีจากฉันไม่ได้แน่” เขาหัวเราะ “เธอทำให้ฉันมีปัญหามากพอแล้ว และฉันไม่ชอบปัญหา”“คุณเป็นใครและคุณต้องการอะไรจากฉัน?” ฉันถามเขาบางทีถ้าฉันทำให้เขาพูดได้ ฉันอาจจะได้อะไรบางอย่างจากเขาและซื้อเวลาให้ตัวเองได้บ้าง ไม่มีทางที่ไม่มีใครสังเกตเห็นว่ามีคนบุกรุกบ้านของฉันใช่ไหม?“เอาเ

  • ธุลีใจ   บทที่ 50

    “เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าการหนีฉันมันจะง่ายขนาดนั้น?” เขาเยาะเย้ยฉันยกขาทั้งสองข้างขึ้นและยกเข่าอัดลูกอัณฑะของเขา ทำให้เขาต้องร้องตะโกนออกมา ฉันวิ่งหนีออกไปอีกครั้งโดยไม่สนใจว่าจะไปที่ไหน ฉันแค่จะหนีไปให้พ้นแค่นั้นเขาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเพราะไม่นานหลังจากนั้นฉันก็รู้สึกว่ามีมือมาคว้าข้อเท้าไว้ เขากระชากจนฉันล้มลงอย่างแรง คางของฉันกระแทกกับพื้น เขาพุ่งมาถึงตัวฉันก่อนที่ฉันจะทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ“นางนี่!” เขาร้องตะโกนก่อนจะตบหน้าฉันอย่างแรงชั่วขณะนั้น ฉันมึนงงและสายตาก็พร่ามัว การถูกผู้ชายตบมันเจ็บสาหัสมาก“ยิ่งเธอทำให้ฉันลำบากแค่ไหน ฉันจะยิ่งเล่นสนุกกับเธอให้หนำใจก่อนที่จะฆ่าเธอ” เขากล่าวอย่างชั่วร้ายฉันไม่จำเป็นต้องมีคนมาช่วยแปลเพื่อตีความว่าเขาหมายถึงอะไร ฉันรู้สึกถึงมือของเขาที่สะโพกของฉันขณะที่เขาพยายามดึงกางเกงนอนของฉันลง ความกลัวเข้าปกคลุมฉัน ฉันจะตายแบบนี้เหรอ? ถูกข่มขืนแล้วฆ่าในบ้านของตัวเองฉันต่อสู้กับเขาแต่เขาตรึงมือของฉันไว้ที่ด้านข้าง ฉันก็ยังไม่หยุดดิ้นรนต่อสู้“ได้โปรดหยุดเถอะ ถ้าคุณต้องการเงิน ฉันสามารถให้คุณได้” ฉันวิงวอนตอนนี้มือของเขาล้วงเข้ามาในกางเกงของฉ

  • ธุลีใจ   บทที่ 51

    โรแวน“เจ้านายครับ?” เดรคโทรหาผมด้วยน้ำเสียงสั่นเครือผิดปกติผมละสายตาจากเอมม่าที่นอนอยู่บนอกของผมในขณะที่เราดูหนังกัน ผมต้องทุ่มเทไปมากกว่าเธอจะให้อภัยผมในที่สุด ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเธอมากไปกว่านี้ ผมอยากให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิม เหมือนเมื่อเรายังวัยเยาว์ผมยังสับสนสุด ๆ และไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ จูบน้องสาวคนหนึ่งในขณะที่คบหาดูใจกับพี่สาว ผมยังคงสัมผัสได้ถึงรสชาติของริมฝีปากของเอวาสองสามวันหลังจากวันนั้น แต่เหมือนกับทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ ผมผลักไสเอวาและจูบนั้นไปไว้ลึกที่สุดของความคิดของผมผมรอที่จะอยู่กับเอมม่ามานานมากแล้ว ผมจะไม่ทำลายโอกาสของผมกับเธออีก ไม่ว่าผมจะรู้สึกอย่างไรกับเอวานั้นไม่มีความหมายเลย นอกจากโนอาแล้ว เอมม่าคือโลกทั้งใบของผม เธอเป็นแบบนั้นมาตลอด ผมจะไม่ยอมให้สิ่งใดมาขัดขวางผมอีก“อะไร?!” ผมถามเขาด้วยความหงุดหงิด โกรธที่เขามาขัดจังหวะคืนเดตของผมกับเอมม่าวันนี้ผมควรจะค้างคืนที่บ้านของเธอ เราทั้งคู่ไม่มีใครอยากออกไปข้างนอก ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะดูหนังกันแทนเขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ลักษณะนิสัยของเขาเลย“พูดมาสิเดรค ฉันไม่ได้มีเวลาทั

  • ธุลีใจ   บทที่ 52

    “โอเค” เธอตอบและลืมตาขึ้นไบรอันพูดแทรก “ไม่ต้องห่วงครับ พวกเขาจะมาถึงในไม่ช้านี้ ระหว่างนี้คุณจะว่าอะไรไหมหากผมขอถามคุณสักสองสามคำถาม?”เอวาส่ายหัวแล้วเบ้หน้าบ้าเอ๊ย! ผมลูบผมตัวเอง เธอกำลังเจ็บปวดและมันทำผมแทบบ้า“ครับ คุณช่วยอธิบายให้ผมได้ไหมว่าผู้ชายที่ทำร้ายคุณหน้าตาเป็นยังไง?” ไบรอันถามเธอเธอหายใจเข้าลึก ๆ “เขาใส่หน้ากาก ฉันเลยบอกไม่ได้ว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง แต่เขามีผมสีน้ำตาลรุงรัง ค่อนข้างสูง อาจจะประมาณหกฟุต และเขาก็มีรูปร่างล่ำหนา”“มีอะไรอีกไหมครับ?”“ไม่มีค่ะ… มีแค่นั้น”“เขาได้พูดอะไรไหม? เช่นทำไมเขาถึงตามล่าคุณ?”“พูดค่ะ เขาบอกว่าเขาไม่ได้เป็นสมาชิกของแก๊งค์ไหน แต่มีคนสัญญาว่าจะจ่ายเงินก้อนโตให้เขาถ้าเขาฆ่าฉันได้ แต่เขาไม่ได้เอ่ยชื่อหรือบอกว่าเขาทำงานให้ใคร” มือของเธอสั่นไปหมดเมื่อเธอพูดจบยิ่งผมได้ยินแบบนั้น ผมก็ยิ่งกลัวและโกรธมาก ผมไม่อยากนึกภาพว่ามีคนตามล่าเธอ แต่หลักฐานก็อยู่ตรงหน้าเราแล้ว“หมายความว่าผมคิดถูกแล้ว การโจมตีเธอไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคำข่มขู่ที่คุกคามทั้งสองครอบครัว ซึ่งหมายความว่ามีคนอื่นตามล่าเธออยู่” ไบรอันดูจะพูดกับตัวเองมากกว่ากับพวกเรา“แต่

  • ธุลีใจ   บทที่ 53

    มุมมองของผู้ที่ไม่เปิดเผยตัวตนถ้าบอกว่าฉันโกรธมากยังถือว่าน้อยไป ฉันโกรธจนไม่รู้จะโกรธอย่างไรแล้ว ฉันโกรธจนแทบคลั่ง เธอหนีพ้นมือฉันไปได้อีกครั้ง เธอรอดชีวิตมาได้อีกครั้งทั้งที่เธอควรจะตายไปแล้ว“บอกฉันทีว่าเธอยังมีชีวิตรอดอยู่ได้ยังไง?” ฉันถามเบ็น“ผมสาบานว่าครั้งนี้ผมเกือบจัดการได้แล้ว ผมเกือบจะฆ่าเธอได้สำเร็จแต่ไอ้บอดี้การ์ดสารเลวของเธอช่วยเธอไว้ได้” เขาบ่นพึมพำไอ้หมอนี่คิดว่าฉันโง่เหรอ? ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่ได้อะไรเลยนอกจากข้อแก้ตัวจากเขาตั้งแต่ที่เริ่มปฏิบัติการนี้ สามครั้งที่เขาฆ่าเธอไม่สำเร็จ สิ่งเดียวที่เป็นข้อดีเกี่ยวกับเรื่องนี้คือฉันยังไม่ได้จ่ายเงินให้เขา ลองนึกดูว่าถ้าฉันจ่ายเงินให้เขาแล้วเขายังจัดการเธอไม่สำเร็จสิเขาจะได้รับเงินห้าล้านบาทถ้าเขาทำงานสำเร็จ เงินจำนวนนั้นน่าจะทำให้เขามีแรงจูงใจมากพอที่จะทำงานของเขาให้เสร็จภายในเวลาที่เราตกลงกันไว้ฉันจิบวิสกี้ไปหนึ่งอึก ความรู้สึกหงุดหงิดท่วมท้น“จริงเหรอ? คุณเกือบจะจัดการเธอแล้วเหรอ? นั่นคือเหตุผลที่คุณเลือดออกเหรอ?” ฉันกัดฟันแน่น รู้สึกโกรธมากขึ้นทุกนาทีที่คุยกับไอ้โง่นั่น“ผมสัญญาว่าจะจัดการเธอให้ได

Latest chapter

  • ธุลีใจ   บทที่ 530

    ฮาร์เปอร์ฉันขยับตัวไปมาบนเตียงโดยพยายามหาท่าที่สบายที่สุด พูดตามตรงฉันดูเหมือนปลาวาฬและรู้สึกเหมือนปลาวาฬด้วย ฉันกำลังพับผ้าอยู่เพราะดูเหมือนว่านั่นคือสิ่งเดียวที่ฉันได้รับอนุญาตให้ทำเกเบรียลดูแลฉันมากเกินความจำเป็นตั้งแต่เขารู้ว่าฉันตั้งครรภ์ ฉันแทบห้ามขยับร่างกายเลยเพราะอาจทำให้เขาตื่นตระหนกไปหมด ถึงแม้ว่ามันจะทำให้ฉันแทบบ้า แต่ฉันก็รู้สึกว่ามันน่ารักดีฉันเผยยิ้มเมื่อนึกถึงตอนตั้งท้องลิลลี่ เลียมดูแลฉันดีเหมือนกัน เขาไม่ได้ดูแลฉันมากเกินความจำเป็นอย่างที่เกเบรียลทำ แต่เขาก็ดูแลฉันอยู่ดี หมายถึงเขาเคยวิ่งไปซื้อของที่ร้านกลางดึกเพราะฉันรู้สึกหิวโดยไม่บ่นสักคำ มีแต่ผู้ชายที่ใส่ใจเท่านั้นที่จะทำแบบนั้นการตั้งครรภ์ครั้งนี้แตกต่างจากการตั้งครรภ์ลิลลี่ในหลาย ๆ ด้าน ตัวอย่างเช่น ตอนท้องลิลลี่ ฉันแทบไม่แพ้ท้องเลย แต่ครั้งนี้ฉันแพ้ท้องตอนเย็นด้วย และมันอยู่ไปถึงช่วงเข้าเดือนที่สี่ มันแย่จริง ๆ ที่ต้องรู็สึกแย่ตลอดเวลาแล้วก็เรื่องความอยากอาหาร ตอนท้องลิลลี่ ฉันอยากกินของหวาน ๆ แต่ครั้งนี้ฉันอยากกินของคาวและเค็มมากกว่า มันบ้ามาก ฉันไม่อยากกินของหวานเลยตั้งแต่รู้ว่าตัวเองท้อง อย่าพูดถึ

  • ธุลีใจ   บทที่ 529

    ผมนั่งอยู่ข้าง ๆ กันเนอร์และพวกเรามาอยู่ที่โรงพยาบาลกันทุกวัน ทางโรงเรียนของกันเนอร์เข้าใจสถานการณ์ดี เขาเลยไม่ต้องไปโรงเรียน โนอามาเยี่ยมเขาทุกวันและนำการบ้านมาให้เสมอ"พวกเราเคยคุยกันด้วยนะครับ โนอาบอกผมว่าเขารู้สึกยังไง มันรู้สึกดีที่ได้คุยกับเขาเรื่องนี้ ได้คุยกับคนที่เคยผ่านมันมาและเข้าใจว่ามันยากแค่ไหน" เขาหยุดขณะที่คลายปมผมของผู้เป็นแม่ก่อนที่จะพูดต่อ "ไม่ต้องห่วงนะครับ แม่กับโนอาจะเข้ากันได้ดีตอนแม่รู้จักเขาดีขึ้นแล้ว"ขอร้องแหละ เอมม่า ได้โปรดตื่นเถอะ ฟื้นขึ้นมาเพื่อกันเนอร์เถอะนะ ผมขอเท่านี้จริง ๆ ผมภาวนา อ้อนวอนเธอในใจให้ลืมตาขึ้นมา"พวกเรายังเหลืออะไรต้องทำด้วยอีกตั้งเยอะ" กันเนอร์วางหวีลง "อะไรอีกเยอะที่พวกเรายังไม่เคยทำ ผมยังต้องรู้จักแม่ให้มากขึ้นนะครับ และแม่ก็ยังต้องรู้จักผมเหมือนกัน อีกอย่างแม่สัญญากับผมว่าจะให้ของขวัญผมทุกปีที่แม่พลาดไป แม่ให้มาหนึ่งชิ้นแล้ว เหลืออีกสิบเจ็ดชิ้นนะครับ"เช่นเดียวกับสี่วันที่ผ่านมา เอมม่าไม่ได้ตอบกลับ ไม่มีแม้แต่การเคลื่อนไหวที่จะให้ความหวังว่าเธอจะหายดีเสียงถอนหายใจดัง กันเนอร์จับและจูบหลังมือเธอ "ผมไม่เคยได้พูดให้ฟังเลย แต่ผมรัก

  • ธุลีใจ   บทที่ 528

    เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีพลันหายไปและผมก็สะดุดกับคำพูดของคุณหมอ ผมไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่เขาพูดหรือความหมายเป็นนัยของคำพูดนี้ได้อย่างเต็มที่เสียงอุทานอย่างตกใจดังขึ้นเต็มห้อง ทุกคนต่างจ้องมองแพทย์ราวกับเขาเป็นมนุษย์ต่างดาวจากนอกโลก"เธอจะได้สติไหมคะ? แล้วพวกเราเข้าเยี่ยมเลยได้ไหม?" เสียงของเอวาดังขึ้น"ตอนนี้ยังไม่ฟื้นครับ เธออยู่ในห้องฉุกเฉินและอนุญาตให้เฉพาะสมาชิกในครอบครัวใกล้ชิดเข้าเยี่ยมได้เท่านั้น" เขาตอบ "ผมจะจัดการให้ในอีกสักครู่... ขอตัวนะครับ ผมต้องไปตรวจเธออีกครั้ง"พวกเราจ้องมองแผ่นหลังคุณหมอขณะที่เขาเดินออกไป ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจอย่างยิ่งที่ได้ยินว่าเอมม่าอาจจะเดินไม่ได้อีกแล้วผมทรุดตัวลงนั่งเพราขาไม่เหลือเรี่ยวแรงจะยืนต่อไปได้อีกต่อไปผมไม่เข้าใจเลย ตอนนี้เธอกำลังฟื้นฟูสิ่งต่าง ๆ อยู่ และทุกอย่างก็ดำเนินไปได้ด้วยดี เธอฟื้นฟูความสัมพันธ์และประกอบชีวิตตนเองขึ้นมาใหม่ ทำไมเรื่องนี้ถึงเกิดขึ้นกับเธอได้นะ?***"แม่ผมจะฟื้นเมื่อไหร่ครับ?" กันเนอร์ถามแพทย์ที่กำลังยุ่งอยู่กับการตรวจดูอาการของเอมม่าตอนนี้เธอออกจากห้องฉุกเฉินได้แล้ว พวกเขาย้ายเธอออกมาเมื่อประมาณสองวัน

  • ธุลีใจ   บทที่ 527

    ผมพยายามเหยียดตัวแผ่นหลังตรง ขณะฝืนใจสร้างความกล้าหาญจอมปลอมให้กับตนเอง ผมพยายามพูดออกมาให้พยาบาลคนนั้นรู้ว่าตนเองยังไหว แต่ลิ้นกลับแข็งทื่อไปหมดและคำพูดก็ไม่ยอมหลุดออกจากปากเลยสักคำเธอตบไหล่ผมเบา ๆ "ดิฉันเข้าใจค่ะ ไปนั่งพักก่อนดีกว่า ดูเหมือนว่าลูกชายคุณต้องการพี่พักพิงในตอนนี้นะคะ พวกคุณควรเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจซึ่งกันและกัน"ผมทำได้เพียงอย่างเดียวคือพยักหน้าตอบรับก่อนเดินออกไป ผมเดินไปหากันเนอร์และนั่งข้าง ๆ ลูกชาย ก่อนดึงเขามานั่งบนตัก พวกเรากอดกัน เป็นที่ยึดเหนี่ยวให้กันและกันผมไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วตอนที่ผมรู้สึกว่ามีคนเขย่าตัวเรียก ผมมัวจดจ่อกับเอมม่าและเพิ่งเห็นว่าเอวากำลังจ้องมองอยู่ คิ้วเรียวขมวดมุ่น ริมฝีปากคว่ำลงและดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล"เรามากันหมดบ้านเลยค่ะ" เธอพึมพำเบา ๆ ก่อนที่จะนั่งข้าง ๆ “ยังไม่ออกจากห้องผ่าตัดอีกเหรอคะ?""ครับ" ผมเหมือนต้องใช้พลังทั้งหมดเพื่อเปล่งคำพูดออกมา"มันเกิดอะไรขึ้น?" ทราวิสเอ่ยถามพร้อมกับประคองผู้เป็นแม่ ซึ่งดูเหมือนจะสติหลุดลอยอยู่ในอ้อมแขนเธอเหมือนจวนเป็นลมอยู่รอมร่อ หรือไม่เธออาจกำลังรำลึกถึงอดีตเช่นกัน เพราะเวลาที่

  • ธุลีใจ   บทที่ 526

    ความเย็นยะเยือกเข้าปกคลุมร่างกาย ลมหายใจผมเริ่มถี่กระชั้น ผมรู้สึกหายใจไม่ออกเมื่อความเจ็บปวดในอกทวีความรุนแรงขึ้น ผมดึงกันเนอร์เข้ามาใกล้ตัวแล้วกอดเขาไว้ราวกับเขาเป็นลมหายใจของผมมันจะเป็นอย่างนี้ไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เธอต้องไม่เป็นอะไรสิผมพูดคำเหล่านั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนบทสวดภาวนา เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ผมไม่เสียสติต่อให้ต้องเสียอะไรก็จะให้เธอจากไปตอนนี้ไม่ได้ ไม่ใช่ตอนที่กันเนอร์เพิ่งตัดสินใจให้โอกาสครั้งที่สองกับเธอและยอมรับเธอกลับเข้ามาในชีวิต ผมรู้จักลูกชายเป็นอย่างดี การที่เอมม่าจากโลกนี้ไปจะต้องทำให้เขาเสียใจมาก ความปรารถนาเดียวของกันเนอร์คือการมีแม่ การให้เอมม่าเป็นแม่และยอมรับเขา มันคงโหดร้ายหากในที่สุดเขาได้รับโอกาสนั้นแต่กลับต้องสูญเสียเธอไป"ไม่เป็นไรแล้วครับ ไม่เป็นไรแล้ว" เอริคประกาศ เสียงเต็มไปด้วยความโล่งใจผมไม่เคยมีความสุขกับการได้ยินคำพูดแบบนี้มาก่อน ความโล่งใจนั้นมากมายมหาศาล ขณะที่แสงแห่งความหวังเริ่มส่องประกายทะลุผ่านเมฆดำมืดที่ปกคลุมพวกเราผมทรุดตัวลงเอนพิงกายในรถพยาบาลนั้น ก่อนทอดถอนใจออกมาด้วยความโล่งอก ผมเฝ้าดูสัญญาณชีพของเธออย่างไม่วางตา ภาวนาไ

  • ธุลีใจ   บทที่ 525

    "ไม่เอาน่า เอมม่า ลืมตาสีฟ้าคู่นั้นขึ้นมาสิ" ผมอ้อนวอนเพื่อตัวผมเองและกันเนอร์ "คุณไม่อยากให้ผมยกโทษให้เหรอไง? ฟื้นเถอะนะ"เธอไม่ตอบสนอง ดวงตายังคงปิดสนิท ใบหน้าซีดขาวเหมือนกระดาษ และผมสีบลอนด์กระจายอยู่ด้านหลัง ถ้าไม่มีเลือดที่เปรอะเปื้อนเต็มไปหมด เธอคงดูเหมือนตุ๊กตาสิ่งที่ทำได้มีเพียงแค่รอเท่านั้นซึ่งทำให้ทรมานใจอย่างมาก ผมคอยจับชีพจรของเธอเพื่อตรวจดูให้แน่ใจว่าเธอยังอยู่กับพวกเรา ตอนนี้มีคนมารวมตัวกันมากขึ้น แต่ก็ไม่สำคัญ พวกเขาไม่สำคัญเลย ไม่ใช่ตอนที่เอมม่าดูเหมือนวิญญาณออกจากร่างแบบนี้ หน้าอกของเธอแทบจะไม่กระเพื่อมขึ้นลงเลย"ช่างแล้วเว้ย" ผมลุกขึ้นเตรียมที่จะเอารถออกจากโรงรถและพาเธอไปโรงพยาบาล เพราะดูเหมือนว่ารถพยาบาลกำลังกินลมชมวิวกันอยู่ตอนกำลังจะหันหลังกลับ ผมก็ได้ยินเสียงไซเรน หัวใจผมคลายลงด้วยความโล่งอก ผมหันไปเห็นรถพยาบาลกำลังเข้ามา คนอื่น ๆ หลีกทางให้พวกเขามาถึงพวกเรา เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลสองคนรีบลงมาจากรถพร้อมเปลหามวิ่งตรงมาที่เรา"ดิฉันชื่อทาช่าค่ะ ส่วนทางนี้คือเอริค เกิดอะไรขึ้นคะ?" เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลหญิงถามหลังจากแนะนำตัวก่อนคุกเข่าลง"ผมไม่ได้ตั้งใจครับ" ชายร้

  • ธุลีใจ   บทที่ 524

    คาลวินวันนี้เป็นวันที่เหมาะแก่การพักผ่อนและผ่อนคลายจริง ๆ ผมไม่ได้มีอะไรทำมากนัก ดังนั้นหลังจากกันเนอร์กับผมทำงานบ้านด้วยกันเสร็จ เขาก็ถามว่าขอไปหาเอมม่าได้ไหมตอนแรกผมก็นึกแปลกใจ แต่ผมสัญญาไว้กับเขาแล้วว่าผมจะตามใจเขา จะเคารพการตัดสินใจของเขาถ้าเขาต้องการทำความรู้จักกับเอมม่าและอนุญาตให้เธอเข้ามาในชีวิตเธอกล่าวทักทายเมื่อทั้งสองเจอกันและเริ่มพูดคุย แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยพูดอะไรก็ตาม พูดตามตรงผมคิดว่าเธอเหมือนรู้เวลาที่ทั้งสองสามารถพบเจอกันได้ ไม่ว่าเขาจะไปโรงเรียนและเธอกำลังไปทำงาน หรือเขากลับจากโรงเรียนและเธอกลับจากทำงานแล้วเธอก็ส่งของขวัญวันเกิดให้เจ้าลูกชายแล้ว ผมคิดว่าเธอพยายามซื้อใจเขาด้วยของขวัญ แต่หลังจากที่ผมอ่านข้อความบนการ์ด มันสั้นแต่จริงใจ เธอบอกเขาว่าเธอจะให้ของขวัญวันเกิดและคริสต์มาสให้เขาครบช่วงที่เธอพลาดไปผมควรจะหงุดหงิด แต่กลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย ผมรู้ว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าลูกรักตนน้อยลงหากลูกเลือกที่จะทำความรู้จักกับพ่อแม่ที่ทิ้งไป ผมไม่ได้เป็นแบบนั้น สำหรับผม ความสุขของกันเนอร์สำคัญที่สุด ถ้าการทำความรู้จักกับแม่แท้ ๆ และการมีเธออยู่ข้างกายจะทำให้สิ่งต่า

  • ธุลีใจ   บทที่ 523

    ฉันจ้องมองลูกชายอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถอดถุงมือออก"แล้วนั่นทำอะไรอีกล่ะครับ?" เขาดูขบขันกับการกระทำของฉัน"ก็หนูเป็นครูของฉันไง ถ้าคิดว่าใช้มือเปล่าจะดีกว่า ฉันก็จะทำแบบนั้นจ้ะ"ฉันทำตามที่เด็กชายแนะนำและพรวนดินเข้าด้วยกัน ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะการสัมผัสดินด้วยมือหรือเปล่า หรือการมีเขาอยู่ข้าง ๆ หรือทั้งสองอย่าง แต่ความสงบสุขบางอย่างก็เข้ามาปกคลุมฉัน ฉันรู้สึกเบาและโปร่งสบายราวกับอยู่บนสวรรค์ชั้นเจ็ดความกังวลพลันหายไปในขณะที่กันเนอร์แนะนำฉันเรื่องการทำสวน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทั้งเขาและเอวาถึงชอบสิ่งนี้มาก มันผ่อนคลายมาก และฉันรู้สึกเชื่อมโยงกับโลกอย่างประหลาด"ขอบคุณสำหรับของขวัญนะครับ" กันเนอร์พูด ดึงความสนใจของฉันไปที่เขาฉันตัดสินใจว่าจะให้ของขวัญวันเกิดและคริสต์มาสแก่เขาสำหรับทุกปีที่ฉันพลาดไป เมื่อไม่กี่วันก่อน ฉันซื้อของขวัญให้เขาชิ้นหนึ่ง ไม่รู้เลยว่าตนเองจะซื้ออะไรให้ดี แต่พนักงานที่ร้านบอกว่าฉันควรซื้อปืนฉีดน้ำไฟฟ้าให้ เขาบอกว่ามันยี่ห้อมันคูย์ คูเบย์รุ่นเอสทู เขาสาธิตวิธีใช้งานให้ฉันดู ซึ่งดูเจ๋งมาก มันน่าจะเป็นสิ่งที่ทราวิส โรแวน และเกบจะต้องชอบมากถ้าทั้งสามยังเป็น

  • ธุลีใจ   บทที่ 522

    เอมม่าฉันจ้องมองความยุ่งเหยิงตรงหน้า ไม่แน่ใจจริง ๆ ว่าจะจัดการกันมันอย่างไร ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ฉันรู้สึกแปลก ๆ และไม่สามารถระบุเหตุผลที่แน่ชัดได้ว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนี้ฉันพยายามคิดทบทวนแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรผุดขึ้นมาในหัวเลย สิ่งที่ฉันรู้คือ ฉันรู้สึกแปลก ๆ เหมือนมีอะไรผิดปกติ หรือกำลังจะมีเรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ฉันก็ไม่สามารถสลัดความรู้สึกนี้ออกไปได้ มันยังคงอยู่และทับถมอยู่ภายในจิตใจเคยรู้สึกแบบนั้นกันไหม? รู้สึกเหมือนมีลางสังหรณ์ว่ากำลังจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น? มันทำให้ฉันหงุดหงิด เพราะฉันไม่สามารถบอกได้แน่ชัดและมันกำลังทำให้ฉันคลั่งตายอยู่แล้วฉันถอนหายใจพลางมองลงไปยังมือที่สวมถุงมืออยู่ คุณหมอมีอาแนะนำว่าฉันควรทำอะไรสักอย่างเพื่อเบี่ยงเบนความกังวลและผ่อนคลายให้มากขึ้น เมื่อวานฉันคุยกับเอวา และบังเอิญพูดถึงเรื่องนี้ เธอแนะนำว่าฉันควรลองทำสวนดูบ้าง ตามที่เธอพูด มันเคยช่วยเธออยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเธอเครียดและต้องการทำอะไรสักอย่างเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจเอวาบอกฉันว่าเธอเคยปลูกผัก แต่เธอแนะนำให้ฉันลองปลูกดอกไม้ดูถ้าไม่อยากปลูกผักดังนั้นฉันก็เ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status