“ได้สิ ฉันเข้าใจ” เธอกล่าวก่อนที่จะหยุดชะงัก “แต่เราโอเคกันใช่ไหม? ฉันสาบานว่าฉันจะรักษาสัญญาและจะไม่พูดถึงทราวิสอีก”“ใช่ เราโอเคแล้ว อย่าคิดมาก” ฉันบอกเธออย่างจริงใจทุกคำ“ขอบคุณนะ” เธอกล่าวอย่างตื่นเต้น “ฉันจะปล่อยคุณไปคุยกับโนอาแล้ว ฝากทักทายเขาด้วยนะ ราตรีสวัสดิ์”“เช่นกันจ้ะ เล็ตตี้”ฉันวางสายและหายใจเข้าลึก ๆ เนื่องจากโนอาได้วางสายไปแล้ว ฉันจึงโทรกลับไปหาเขา“ฮัลโหล?” ฉันนิ่งอึ้งเมื่อได้ยินเสียงของคุณแม่ดังมาจากอีกฝั่งฉันไม่ได้คุยกับแม่อีกเลยตั้งแต่วันนั้นที่สนามบิน ในบรรดาคนที่ทำให้ฉันเจ็บปวด แม่เป็นคนที่ทำให้ฉันเจ็บปวดที่สุด แม่ควรจะรักและทะนุถนอมลูก ๆ ของตน แต่ฉันไม่ได้อะไรจากแม่เลย แม่ไม่สนใจใยดีฉันได้อย่างไร? เธอปฏิบัติกับฉันเหมือนว่าฉันไม่มีค่าเลยได้อย่างไร?ตอนนี้ฉันเป็นแม่คนเองแล้ว ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแม่ถึงทำแบบนั้นได้ ฉันไม่สามารถนึกภาพตัวเองทำแบบนั้นกับโนอาได้เลย“เอวา เป็นยังไงบ้าง?” แม่ถามเบา ๆ เสียงสั่นเล็กน้อยไม่มีอะไรหลุดออกมาจากริมฝีปากของฉัน ฉันยังคงนิ่งเงียบ ไม่ใช่เพราะฉันไม่มีอะไรจะพูดกับเธอ แต่เพราะฉันมีเรื่องมากมายที่จะพูดและไม่มีคำไหนดีเลย ฉั
ฉันลืมตาขึ้นมาและพบว่าตัวเองอยู่ในห้องนั่งเล่น มือของฉันถูกมัดไว้กับพนักเก้าอี้“อ่า ตื่นสักที ฉันกำลังสงสัยพอดีว่าเธอจะใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะตื่น เพราะยังไงฉันก็อยากให้เหยื่อของฉันมีสติก่อนที่ฉันจะลงมือฆ่า” เสียงของชายคนนั้นทำให้ฉันขนลุกไปทั้งตัวเขาเดินอ้อมมาและฉันก็ได้เห็นเขา อย่างน้อยก็บางส่วนของเขาเพราะเขาปิดหน้าเอาไว้ เขาเป็นผู้ชายตัวใหญ่และบึกบึน แขนของเขาเพียงข้างเดียวดูเหมือนว่าจะสามารถบดขยี้หัวคนให้แหลกได้ เขาเผยถึงความอันตรายและไม่ใช่เพราะว่าตอนนี้ฉันเป็นเหยื่อของเขา แค่มีบางอย่างที่น่าหวาดกลัวอยู่ในตัวเขาเขานั่งลงตรงหน้าฉันพร้อมกับถือแก้วไวน์ในมือ แก้วของฉันและไวน์ของฉัน เขาดูสบายใจมากราวกับว่านี่คือบ้านของตนฉันพยายามดิ้นรนหนี แต่เชือกก็รัดแน่น“เธอสามารถพยายามดิ้นได้ตามต้องการเลย แต่คราวนี้เธอจะหนีจากฉันไม่ได้แน่” เขาหัวเราะ “เธอทำให้ฉันมีปัญหามากพอแล้ว และฉันไม่ชอบปัญหา”“คุณเป็นใครและคุณต้องการอะไรจากฉัน?” ฉันถามเขาบางทีถ้าฉันทำให้เขาพูดได้ ฉันอาจจะได้อะไรบางอย่างจากเขาและซื้อเวลาให้ตัวเองได้บ้าง ไม่มีทางที่ไม่มีใครสังเกตเห็นว่ามีคนบุกรุกบ้านของฉันใช่ไหม?“เอาเ
“เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าการหนีฉันมันจะง่ายขนาดนั้น?” เขาเยาะเย้ยฉันยกขาทั้งสองข้างขึ้นและยกเข่าอัดลูกอัณฑะของเขา ทำให้เขาต้องร้องตะโกนออกมา ฉันวิ่งหนีออกไปอีกครั้งโดยไม่สนใจว่าจะไปที่ไหน ฉันแค่จะหนีไปให้พ้นแค่นั้นเขาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเพราะไม่นานหลังจากนั้นฉันก็รู้สึกว่ามีมือมาคว้าข้อเท้าไว้ เขากระชากจนฉันล้มลงอย่างแรง คางของฉันกระแทกกับพื้น เขาพุ่งมาถึงตัวฉันก่อนที่ฉันจะทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ“นางนี่!” เขาร้องตะโกนก่อนจะตบหน้าฉันอย่างแรงชั่วขณะนั้น ฉันมึนงงและสายตาก็พร่ามัว การถูกผู้ชายตบมันเจ็บสาหัสมาก“ยิ่งเธอทำให้ฉันลำบากแค่ไหน ฉันจะยิ่งเล่นสนุกกับเธอให้หนำใจก่อนที่จะฆ่าเธอ” เขากล่าวอย่างชั่วร้ายฉันไม่จำเป็นต้องมีคนมาช่วยแปลเพื่อตีความว่าเขาหมายถึงอะไร ฉันรู้สึกถึงมือของเขาที่สะโพกของฉันขณะที่เขาพยายามดึงกางเกงนอนของฉันลง ความกลัวเข้าปกคลุมฉัน ฉันจะตายแบบนี้เหรอ? ถูกข่มขืนแล้วฆ่าในบ้านของตัวเองฉันต่อสู้กับเขาแต่เขาตรึงมือของฉันไว้ที่ด้านข้าง ฉันก็ยังไม่หยุดดิ้นรนต่อสู้“ได้โปรดหยุดเถอะ ถ้าคุณต้องการเงิน ฉันสามารถให้คุณได้” ฉันวิงวอนตอนนี้มือของเขาล้วงเข้ามาในกางเกงของฉ
โรแวน“เจ้านายครับ?” เดรคโทรหาผมด้วยน้ำเสียงสั่นเครือผิดปกติผมละสายตาจากเอมม่าที่นอนอยู่บนอกของผมในขณะที่เราดูหนังกัน ผมต้องทุ่มเทไปมากกว่าเธอจะให้อภัยผมในที่สุด ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเธอมากไปกว่านี้ ผมอยากให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิม เหมือนเมื่อเรายังวัยเยาว์ผมยังสับสนสุด ๆ และไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ จูบน้องสาวคนหนึ่งในขณะที่คบหาดูใจกับพี่สาว ผมยังคงสัมผัสได้ถึงรสชาติของริมฝีปากของเอวาสองสามวันหลังจากวันนั้น แต่เหมือนกับทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ ผมผลักไสเอวาและจูบนั้นไปไว้ลึกที่สุดของความคิดของผมผมรอที่จะอยู่กับเอมม่ามานานมากแล้ว ผมจะไม่ทำลายโอกาสของผมกับเธออีก ไม่ว่าผมจะรู้สึกอย่างไรกับเอวานั้นไม่มีความหมายเลย นอกจากโนอาแล้ว เอมม่าคือโลกทั้งใบของผม เธอเป็นแบบนั้นมาตลอด ผมจะไม่ยอมให้สิ่งใดมาขัดขวางผมอีก“อะไร?!” ผมถามเขาด้วยความหงุดหงิด โกรธที่เขามาขัดจังหวะคืนเดตของผมกับเอมม่าวันนี้ผมควรจะค้างคืนที่บ้านของเธอ เราทั้งคู่ไม่มีใครอยากออกไปข้างนอก ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะดูหนังกันแทนเขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ลักษณะนิสัยของเขาเลย“พูดมาสิเดรค ฉันไม่ได้มีเวลาทั
“โอเค” เธอตอบและลืมตาขึ้นไบรอันพูดแทรก “ไม่ต้องห่วงครับ พวกเขาจะมาถึงในไม่ช้านี้ ระหว่างนี้คุณจะว่าอะไรไหมหากผมขอถามคุณสักสองสามคำถาม?”เอวาส่ายหัวแล้วเบ้หน้าบ้าเอ๊ย! ผมลูบผมตัวเอง เธอกำลังเจ็บปวดและมันทำผมแทบบ้า“ครับ คุณช่วยอธิบายให้ผมได้ไหมว่าผู้ชายที่ทำร้ายคุณหน้าตาเป็นยังไง?” ไบรอันถามเธอเธอหายใจเข้าลึก ๆ “เขาใส่หน้ากาก ฉันเลยบอกไม่ได้ว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง แต่เขามีผมสีน้ำตาลรุงรัง ค่อนข้างสูง อาจจะประมาณหกฟุต และเขาก็มีรูปร่างล่ำหนา”“มีอะไรอีกไหมครับ?”“ไม่มีค่ะ… มีแค่นั้น”“เขาได้พูดอะไรไหม? เช่นทำไมเขาถึงตามล่าคุณ?”“พูดค่ะ เขาบอกว่าเขาไม่ได้เป็นสมาชิกของแก๊งค์ไหน แต่มีคนสัญญาว่าจะจ่ายเงินก้อนโตให้เขาถ้าเขาฆ่าฉันได้ แต่เขาไม่ได้เอ่ยชื่อหรือบอกว่าเขาทำงานให้ใคร” มือของเธอสั่นไปหมดเมื่อเธอพูดจบยิ่งผมได้ยินแบบนั้น ผมก็ยิ่งกลัวและโกรธมาก ผมไม่อยากนึกภาพว่ามีคนตามล่าเธอ แต่หลักฐานก็อยู่ตรงหน้าเราแล้ว“หมายความว่าผมคิดถูกแล้ว การโจมตีเธอไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคำข่มขู่ที่คุกคามทั้งสองครอบครัว ซึ่งหมายความว่ามีคนอื่นตามล่าเธออยู่” ไบรอันดูจะพูดกับตัวเองมากกว่ากับพวกเรา“แต่
มุมมองของผู้ที่ไม่เปิดเผยตัวตนถ้าบอกว่าฉันโกรธมากยังถือว่าน้อยไป ฉันโกรธจนไม่รู้จะโกรธอย่างไรแล้ว ฉันโกรธจนแทบคลั่ง เธอหนีพ้นมือฉันไปได้อีกครั้ง เธอรอดชีวิตมาได้อีกครั้งทั้งที่เธอควรจะตายไปแล้ว“บอกฉันทีว่าเธอยังมีชีวิตรอดอยู่ได้ยังไง?” ฉันถามเบ็น“ผมสาบานว่าครั้งนี้ผมเกือบจัดการได้แล้ว ผมเกือบจะฆ่าเธอได้สำเร็จแต่ไอ้บอดี้การ์ดสารเลวของเธอช่วยเธอไว้ได้” เขาบ่นพึมพำไอ้หมอนี่คิดว่าฉันโง่เหรอ? ฉันไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันไม่ได้อะไรเลยนอกจากข้อแก้ตัวจากเขาตั้งแต่ที่เริ่มปฏิบัติการนี้ สามครั้งที่เขาฆ่าเธอไม่สำเร็จ สิ่งเดียวที่เป็นข้อดีเกี่ยวกับเรื่องนี้คือฉันยังไม่ได้จ่ายเงินให้เขา ลองนึกดูว่าถ้าฉันจ่ายเงินให้เขาแล้วเขายังจัดการเธอไม่สำเร็จสิเขาจะได้รับเงินห้าล้านบาทถ้าเขาทำงานสำเร็จ เงินจำนวนนั้นน่าจะทำให้เขามีแรงจูงใจมากพอที่จะทำงานของเขาให้เสร็จภายในเวลาที่เราตกลงกันไว้ฉันจิบวิสกี้ไปหนึ่งอึก ความรู้สึกหงุดหงิดท่วมท้น“จริงเหรอ? คุณเกือบจะจัดการเธอแล้วเหรอ? นั่นคือเหตุผลที่คุณเลือดออกเหรอ?” ฉันกัดฟันแน่น รู้สึกโกรธมากขึ้นทุกนาทีที่คุยกับไอ้โง่นั่น“ผมสัญญาว่าจะจัดการเธอให้ได
เอวาฉันยังต้องรักษาตัวจากการถูกทำร้าย ฉันได้รับบาดเจ็บทั้งทางร่างกายและจิตใจ และฉันต้องการให้เรื่องนี้จบลงเสียที มีคนพยายามฆ่าฉันถึงสามครั้งและฉันรอดชีวิตมาได้ทั้งสามครั้ง ฉันไม่รู้ว่าโชคของฉันจะหมดลงเมื่อไหร่ เพราะตอนนี้ใครก็ตามที่ต้องการฆ่าฉันดูเหมือนจะมุ่งมั่นที่จะทำให้แน่ใจว่าฉันจะไม่ได้พบกับโนอาอีกฉันตัวสั่นเมื่อนึกถึงว่าฉันเกือบจะได้พบกับพระเจ้าแล้ว หมอนั่นเข้ามาในบ้านของฉัน เขาตั้งใจจะข่มขืนฉันก่อนที่จะฆ่า ฉันน้ำตาคลอเบ้าและใช้พลังทั้งหมดเพื่ออดกลั้นไม่ให้มันไหลออกมาฉันร้องไห้มามากพอแล้วในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ฉันเบื่อกับมันแต่ฉันไม่เข้าใจว่าทำไม ทำไมคนคนหนึ่งถึงอยากให้ฉันตาย? ฉันไม่ได้ทำผิดกับใครเลยยกเว้นเอมม่า แม้แต่กับเธอก็เถอะตอนนี้เธอก็ได้อยู่กับโรแวนแล้ว ดังนั้นบาปที่ฉันทำลงไปก็น่าจะจบไปแล้ว ฉันไม่สมควรได้รับสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันตอนนี้เลยความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันคือพวกเขาจะทำสำเร็จ นั่นหมายความว่าฉันจะไม่ได้เห็นลูกชายของฉันเติบโต ฉันจะพลาดช่วงเวลาสำคัญในชีวิตของเขาไปทั้งหมดและมันทำให้ฉันเสียใจ การคิดถึงอนาคตที่อาจเกิดขึ้นได้นั้นทำให้หัวใจของฉันแตกสลายเป็นล้า
“คริสติน เธอทำทุกอย่างเพื่อเขี่ยฉันให้พ้นทางเพราะคิดว่าโรแวนจะสนใจเธอ แม้แต่ตอนที่เรายังแต่งงานกันอยู่เธอก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะล่อลวงเขา แต่เขาไม่เคยตอบสนองเลย ใช่ เขาไม่ได้รักฉัน แต่ฉันก็เป็นภรรยาของเขา ในขณะที่เธอเป็นแค่เลขานุการที่เขาไม่สนใจ ดังนั้นฉันขอถามกลับหน่อย รู้สึกอย่างไรที่รู้ว่าเธอจะไม่มีวันเป็นผู้หญิงของเขา? เขาจะไม่มีวันมองเธอเป็นอย่างอื่นนอกจากเลขานุการของเขา รู้สึกอย่างไรที่รู้ว่าเขาไม่มีวันจะมองเธอเป็นผู้หญิง? รู้สึกอย่างไรที่เขาชอบมีเซ็กส์กับฉันแม้ว่าเขาจะเกลียดฉัน มากกว่าที่จะรับเธอเป็นเมียน้อยของเขา? และรู้สึกอย่างไรที่รู้ว่าเธอจะไม่มีโอกาสอีกต่อไปแล้วเพราะเอมม่ากลับมาแล้ว” ฉันยิ้มเยาะพลางรู้สึกมีความสุขที่ในที่สุดก็ได้พูดมันออกมา“นังอัปลักษณ์!” เธอตวาดก่อนที่จะพุ่งเข้าหาฉันฉันหลบเธอได้ทันเวลาและเธอก็สะดุดรองเท้าส้นสูงที่แพงมากของตัวเอง เธอลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและพุ่งเข้าหาฉันใหม่ ฉันไม่คิดมากตอนที่หยิบกล่องนมในรถเข็นมาขว้างใส่เธอฉันมองดูชุดเธอที่เปียกโชก เราทั้งคู่มองหน้ากันด้วยความตกใจ เรื่องจากนั้นฉันคงอธิบายได้แค่ว่าเราตีกันจ้าละหวั่น เธอพุ่งเข้าใส