เอวาฉันยังคงรู้สึกแย่กับการกระทำของโรแวนเมื่อสองสามวันก่อน ฉันไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เขาพยายามทำลายความสัมพันธ์กับเอมม่าหรือยังไง? เขาต้องการให้ฉันมีปัญหากับเธอมากขึ้นหรือยังไง?เอมม่าคิดว่าฉันพยายามจะจับผู้ชายของเธออยู่แล้ว คิดว่าฉันกำลังทำทุกวิถีทางเพื่อแย่งเขามาจากเธอ สิ่งที่เธอไม่เข้าใจก็คือฉันแค่ต้องการความสงบสุข ฉันไม่ต้องการโรแวน ฉันเคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว ฉันเคยพยายามทำแบบนั้นและได้เรียนรู้บทเรียนจากประสบการณ์ที่ยากลำบาก“เธอแน่ใจเหรอ?” เสียงเล็ก ๆ ที่น่ารำคาญถามฉัน “เธอปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอชอบจูบนั้น เธอจินตนาการให้เขาจูบเธอแบบนั้นมาเสมอ แบบที่เต็มไปด้วยความต้องการและความหลงใหล”ฉันสลัดความคิดนั้นออกไป มันผิด ฉันตั้งใจที่จะตัดใจจากโรแวนและค้นหาชีวิตและความรักของตัวเอง แค่เพราะร่างกายของฉันทรยศมันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย การตอบสนองของฉันเป็นเพียงการตอบสนองทางชีววิทยาเท่านั้น ไม่มีอะไรมากกว่านั้น“โกหกตัวเองต่อไปเถอะ” เสียงนั้นเถียงฉันไม่ได้โกหกตัวเอง หรือบางทีฉันอาจจะโกหกก็ได้ สิ่งสำคัญคือฉันจะไปใส่ใจพฤติกรรมที่ไม่ปกติของโรแวนหรือการจูบที่ไม่คาดคิดของเขาฉันละทิ้งคว
พูดตามตรง เล็ตตี้กลายเป็นคนสำคัญสำหรับฉันมากในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เรารู้จักกัน เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดที่ฉันไม่เคยรู้ว่าต้องการมาก่อน เป็นเพื่อนที่ฉันไม่เคยได้มีในสมัยมัธยมเพราะฉันหมกมุ่นอยู่กับการทำให้โรแวนสนใจฉันมากเกินไป“ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีเลย” ฉันบอกเธออย่างเขินอายใบหน้าของเธอสดใสขึ้นและรอยยิ้มก็ปรากฏ “เล่าทุกอย่างให้ฉันฟังหน่อย”“ไม่มีอะไรให้เล่ามากเลยเล็ตตี้ เราไปทานอาหารเย็นที่ร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง แล้วเขาก็พาฉันไปกินไอศกรีม ซึ่งเป็นส่วนที่ฉันชอบที่สุดของคืนนั้น”“เขาได้จูบคุณหรือเปล่า?” ความตื่นเต้นปรากฏชัดบนใบหน้าของเธอฉันหัวเราะ เหมือนกับสิ่งที่ฉันเล่าไปไม่ได้เข้าหูเธอเลย เธอแค่อยากรู้ว่าคืนนั้นจบลงอย่างไร“เปล่า” ฉันตอบเธอ “ฉันรู้ว่าเขาต้องการนะแต่เขาไม่ได้ทำ ฉันไม่แน่ใจว่าฉันควรจะผิดหวังดีหรือเปล่า”“ทำไมล่ะ?”“เพราะใจหนึ่งฉันอยากให้เขาทำแบบนั้น ฉันแค่อยากรู้ว่าการถูกใครสักคนที่ต้องการฉันจูบมันจะรู้สึกอย่างไร แต่อีกส่วนหนึ่งของฉันก็ดีใจที่เขาไม่ได้จูบฉัน เพราะฉันไม่แน่ใจว่าฉันพร้อมหรือยัง”เธอเงียบและจ้องมองฉัน ฉันเห็นความคิดของเธอทำงานอย่างหนักขณะที่เธอนึกถึ
“คุณสมควรได้รับการจูบราวกับว่าวาระสุดท้ายของโลกกำลังจะมาถึง” คำพูดของเล็ตตี้ทำให้ฉันหลุดจากภวังค์ เธอจับมือฉันไว้และคอยให้กำลังใจฉันฉันมองดูเธอและถอนหายใจด้วยความโล่งใจ เธอไม่ได้มองฉันด้วยความสงสารหรือเห็นใจ นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ฉันต้องการจากเธอ“นอกจากเรื่องนั้นแล้วทุกอย่างก็สมบูรณ์แบบใช่ไหมคะ?” เธอถาม“ใช่ ฉันเห็นโรแวนและเอมม่าด้วย ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไปออกเดตกัน”“จริงเหรอเนี่ย?”“ใช่ค่ะ” ฉันตอบพลางจิบเครื่องดื่มและพยายามลืมไปว่าพวกเขาดูสมบูรณ์แบบแค่ไหนเมื่ออยู่ด้วยกันเอมม่าพูดถูก เธอและโรแวนถูกสร้างมาคู่กัน ในตอนนั้นทุกคนต่างก็เห็นตรงกันและในที่สุดฉันก็เริ่มเห็นแล้วตอนนี้“ฉันหวังว่าเขาได้เห็นว่าคุณสวยจนน่าตกใจแค่ไหน และฉันหวังว่าเขาจะสำนึกเสียใจที่ทิ้งความงามที่แท้จริงไป”ฉันหัวเราะ ฉันบอกแล้วว่าเล็ตตี้ดีต่อความภูมิใจในตัวเองของฉัน ในที่สุดก็มีมนุษย์อีกคนที่ไม่หมกมุ่นอยู่กับความสวยงามของเอมม่า ในที่สุดก็มีคนที่ไม่เปรียบเทียบฉันกับพี่สาวหรือเอาความงามของเธอมาข่มต่อหน้าฉัน“แค่นั้นเหรอคะ? ไม่มีอะไรน่าสนใจเกิดขึ้นอีกเลยเหรอ?” เธอถาม“ไม่มีแล้ว” ฉันส่ายหัวฉันอยากจะเล่าเร
ฉันเพิ่งทำความสะอาดเสร็จเมื่อโทรศัพท์ดังขึ้น ด้วยเหตุผลบางอย่างฉันรู้สึกว่าการทำความสะอาดช่วยผ่อนคลายได้เสมอ มันเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ฉันลืมเรื่องที่ทำให้ฉันเครียดได้เมื่อฉันกลับมาตั้งหลักได้อีกครั้งและสามารถดูแลตัวเองได้ ฉันจึงได้เลิกจ้างลิเดีย เธอช่วยฉันได้มากแต่ฉันไม่ต้องการพยาบาลอีกต่อไปแล้ว นอกจากนี้ฉันยังชอบเป็นอิสระมากกว่าฉันเดินข้ามห้องและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ชั่วขณะหนึ่งฉันเกือบจะวางสายเมื่อเห็นชื่อของเล็ตตี้ปรากฏขึ้น ฉันยังคงโกรธเธออยู่เล็กน้อย แต่ใจส่วนหนึ่งของฉันก็เข้าใจเธอเช่นกัน ฉันคงทำทุกอย่างเพื่อผู้ชายที่ฉันรัก รวมถึงการพยายามทำให้เขากับน้องสาวที่พรากกันไปได้กลับมาอยู่ด้วยกัน“ว่าไง” ฉันตอบขณะเดินขึ้นไปที่ห้องของฉัน“ฉันขอโทษจริง ๆ นะเอวา ฉันล้ำเส้นไปทั้ง ๆ ที่ฉันสัญญาว่าจะไม่พูดถึงทราวิส” อารมณ์ในน้ำเสียงของเธอทำให้ฉันตั้งตัวไม่ติดเธอฟังดูจริงใจและเศร้าเล็กน้อย ฉันรู้สึกประหลาดใจและไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ฉันไม่เคยชินกับการที่คนอื่นขอโทษฉันอย่างตั้งใจจริงเลย จริง ๆ แล้วไม่มีใครรอบตัวฉันเลยที่ขอโทษเมื่อพวกเขาทำผิดต่อฉัน“เล็ตตี้…”เธอตัดบทฉันก่อนที่ฉันจะทันได้พ
“ได้สิ ฉันเข้าใจ” เธอกล่าวก่อนที่จะหยุดชะงัก “แต่เราโอเคกันใช่ไหม? ฉันสาบานว่าฉันจะรักษาสัญญาและจะไม่พูดถึงทราวิสอีก”“ใช่ เราโอเคแล้ว อย่าคิดมาก” ฉันบอกเธออย่างจริงใจทุกคำ“ขอบคุณนะ” เธอกล่าวอย่างตื่นเต้น “ฉันจะปล่อยคุณไปคุยกับโนอาแล้ว ฝากทักทายเขาด้วยนะ ราตรีสวัสดิ์”“เช่นกันจ้ะ เล็ตตี้”ฉันวางสายและหายใจเข้าลึก ๆ เนื่องจากโนอาได้วางสายไปแล้ว ฉันจึงโทรกลับไปหาเขา“ฮัลโหล?” ฉันนิ่งอึ้งเมื่อได้ยินเสียงของคุณแม่ดังมาจากอีกฝั่งฉันไม่ได้คุยกับแม่อีกเลยตั้งแต่วันนั้นที่สนามบิน ในบรรดาคนที่ทำให้ฉันเจ็บปวด แม่เป็นคนที่ทำให้ฉันเจ็บปวดที่สุด แม่ควรจะรักและทะนุถนอมลูก ๆ ของตน แต่ฉันไม่ได้อะไรจากแม่เลย แม่ไม่สนใจใยดีฉันได้อย่างไร? เธอปฏิบัติกับฉันเหมือนว่าฉันไม่มีค่าเลยได้อย่างไร?ตอนนี้ฉันเป็นแม่คนเองแล้ว ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแม่ถึงทำแบบนั้นได้ ฉันไม่สามารถนึกภาพตัวเองทำแบบนั้นกับโนอาได้เลย“เอวา เป็นยังไงบ้าง?” แม่ถามเบา ๆ เสียงสั่นเล็กน้อยไม่มีอะไรหลุดออกมาจากริมฝีปากของฉัน ฉันยังคงนิ่งเงียบ ไม่ใช่เพราะฉันไม่มีอะไรจะพูดกับเธอ แต่เพราะฉันมีเรื่องมากมายที่จะพูดและไม่มีคำไหนดีเลย ฉั
ฉันลืมตาขึ้นมาและพบว่าตัวเองอยู่ในห้องนั่งเล่น มือของฉันถูกมัดไว้กับพนักเก้าอี้“อ่า ตื่นสักที ฉันกำลังสงสัยพอดีว่าเธอจะใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะตื่น เพราะยังไงฉันก็อยากให้เหยื่อของฉันมีสติก่อนที่ฉันจะลงมือฆ่า” เสียงของชายคนนั้นทำให้ฉันขนลุกไปทั้งตัวเขาเดินอ้อมมาและฉันก็ได้เห็นเขา อย่างน้อยก็บางส่วนของเขาเพราะเขาปิดหน้าเอาไว้ เขาเป็นผู้ชายตัวใหญ่และบึกบึน แขนของเขาเพียงข้างเดียวดูเหมือนว่าจะสามารถบดขยี้หัวคนให้แหลกได้ เขาเผยถึงความอันตรายและไม่ใช่เพราะว่าตอนนี้ฉันเป็นเหยื่อของเขา แค่มีบางอย่างที่น่าหวาดกลัวอยู่ในตัวเขาเขานั่งลงตรงหน้าฉันพร้อมกับถือแก้วไวน์ในมือ แก้วของฉันและไวน์ของฉัน เขาดูสบายใจมากราวกับว่านี่คือบ้านของตนฉันพยายามดิ้นรนหนี แต่เชือกก็รัดแน่น“เธอสามารถพยายามดิ้นได้ตามต้องการเลย แต่คราวนี้เธอจะหนีจากฉันไม่ได้แน่” เขาหัวเราะ “เธอทำให้ฉันมีปัญหามากพอแล้ว และฉันไม่ชอบปัญหา”“คุณเป็นใครและคุณต้องการอะไรจากฉัน?” ฉันถามเขาบางทีถ้าฉันทำให้เขาพูดได้ ฉันอาจจะได้อะไรบางอย่างจากเขาและซื้อเวลาให้ตัวเองได้บ้าง ไม่มีทางที่ไม่มีใครสังเกตเห็นว่ามีคนบุกรุกบ้านของฉันใช่ไหม?“เอาเ
“เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าการหนีฉันมันจะง่ายขนาดนั้น?” เขาเยาะเย้ยฉันยกขาทั้งสองข้างขึ้นและยกเข่าอัดลูกอัณฑะของเขา ทำให้เขาต้องร้องตะโกนออกมา ฉันวิ่งหนีออกไปอีกครั้งโดยไม่สนใจว่าจะไปที่ไหน ฉันแค่จะหนีไปให้พ้นแค่นั้นเขาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วเพราะไม่นานหลังจากนั้นฉันก็รู้สึกว่ามีมือมาคว้าข้อเท้าไว้ เขากระชากจนฉันล้มลงอย่างแรง คางของฉันกระแทกกับพื้น เขาพุ่งมาถึงตัวฉันก่อนที่ฉันจะทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ“นางนี่!” เขาร้องตะโกนก่อนจะตบหน้าฉันอย่างแรงชั่วขณะนั้น ฉันมึนงงและสายตาก็พร่ามัว การถูกผู้ชายตบมันเจ็บสาหัสมาก“ยิ่งเธอทำให้ฉันลำบากแค่ไหน ฉันจะยิ่งเล่นสนุกกับเธอให้หนำใจก่อนที่จะฆ่าเธอ” เขากล่าวอย่างชั่วร้ายฉันไม่จำเป็นต้องมีคนมาช่วยแปลเพื่อตีความว่าเขาหมายถึงอะไร ฉันรู้สึกถึงมือของเขาที่สะโพกของฉันขณะที่เขาพยายามดึงกางเกงนอนของฉันลง ความกลัวเข้าปกคลุมฉัน ฉันจะตายแบบนี้เหรอ? ถูกข่มขืนแล้วฆ่าในบ้านของตัวเองฉันต่อสู้กับเขาแต่เขาตรึงมือของฉันไว้ที่ด้านข้าง ฉันก็ยังไม่หยุดดิ้นรนต่อสู้“ได้โปรดหยุดเถอะ ถ้าคุณต้องการเงิน ฉันสามารถให้คุณได้” ฉันวิงวอนตอนนี้มือของเขาล้วงเข้ามาในกางเกงของฉ
โรแวน“เจ้านายครับ?” เดรคโทรหาผมด้วยน้ำเสียงสั่นเครือผิดปกติผมละสายตาจากเอมม่าที่นอนอยู่บนอกของผมในขณะที่เราดูหนังกัน ผมต้องทุ่มเทไปมากกว่าเธอจะให้อภัยผมในที่สุด ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเธอมากไปกว่านี้ ผมอยากให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิม เหมือนเมื่อเรายังวัยเยาว์ผมยังสับสนสุด ๆ และไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ จูบน้องสาวคนหนึ่งในขณะที่คบหาดูใจกับพี่สาว ผมยังคงสัมผัสได้ถึงรสชาติของริมฝีปากของเอวาสองสามวันหลังจากวันนั้น แต่เหมือนกับทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ ผมผลักไสเอวาและจูบนั้นไปไว้ลึกที่สุดของความคิดของผมผมรอที่จะอยู่กับเอมม่ามานานมากแล้ว ผมจะไม่ทำลายโอกาสของผมกับเธออีก ไม่ว่าผมจะรู้สึกอย่างไรกับเอวานั้นไม่มีความหมายเลย นอกจากโนอาแล้ว เอมม่าคือโลกทั้งใบของผม เธอเป็นแบบนั้นมาตลอด ผมจะไม่ยอมให้สิ่งใดมาขัดขวางผมอีก“อะไร?!” ผมถามเขาด้วยความหงุดหงิด โกรธที่เขามาขัดจังหวะคืนเดตของผมกับเอมม่าวันนี้ผมควรจะค้างคืนที่บ้านของเธอ เราทั้งคู่ไม่มีใครอยากออกไปข้างนอก ดังนั้นเราจึงตัดสินใจที่จะดูหนังกันแทนเขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ลักษณะนิสัยของเขาเลย“พูดมาสิเดรค ฉันไม่ได้มีเวลาทั