Share

บทที่ 340

Author: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
เมื่อฉันพยายามละสายตาจากเอมม่า มันกลับยากกว่าที่คิด ความเจ็บปวดของเธอราวกับจับฉันไว้ไม่ปล่อย

เธอยืนอยู่ในมุมหนึ่งตามลำพัง เคทกำลังสังสรรค์กับแขกในงานและทราวิสก็ยุ่งกับการพูดคุย เธอดูเหมือนไม่ต้องการให้ใครเข้าใกล้เลย ท่าทางและสายตาเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน ฉันเข้าใจความเจ็บปวดนั้นดี จะบอกว่าฉันประสบมากี่ครั้งน่ะเหรอ? ก็นับครั้งไม่ถ้วนเลยแหละ

ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าความทุกข์ของเธอมาจากไหน เข้าใจเลยว่าความโศกเศร้าและสิ้นหวังนั้นมีเหตุจากอะไร มันมาจากกันเนอร์ ลูกชายของเธออย่างไรเล่า

“มองอะไรอยู่เหรอ เอวา?” เสียงของเล็ตตี้ดังราวกับอยู่ไกลแสนไกล

เหมือนฉันตกอยู่ในภวังค์ ฉันละสายตาไม่ได้ มองไม่เห็นสิ่งใดนอกจากเธอ

โครินเขย่าตัวฉัน และด้วยความพยายามอย่างยิ่ง ฉันจึงหันไปหาเธอ โครินมองฉันด้วยความสงสัย แม้ว่าจะไม่เข้าใจว่าทำไม แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันอยากเดินเข้าไปปลอบเอมม่า

“ทำไมมองเอมม่าเหมือนตะลึงจนอึ้งค้างอย่างนั้นล่ะ?” โครินถามพร้อมเลิกคิ้ว

ฉันหันกลับไปมองเอมม่า แต่เธอไม่ได้มองฉันอีกแล้ว ดวงตาของเธอกลับจ้องอยู่ที่โต๊ะ

“ความเจ็บปวดของเธอ...” ฉันพึมพำสองคำออกมา แต่ไม่สามารถพูดอะไรต่อได้

“คง
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ธุลีใจ   บทที่ 341

    เมื่อฉันออกไปข้างนอก ฉันตะโกนเรียก "โนอา ได้เวลาตัดเค้กแล้วลูก"เขาหันหน้ามาทางฉันก่อนจะรีบวิ่งเข้ามาพร้อมรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า สักพักหนึ่งโรแวนก็ตามมาหลังจากที่รับไอริสจากพ่อแม่ฉัน"แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยูว์..." พวกเราทุกคนเริ่มร้องเพลง และฉันสัมผัสได้ว่าโนอากำลังดื่มด่ำกับความสุขและความสนใจนี้เมื่อเพลงจบลง เขาเป่าเทียน พร้อมกับเสียงโห่ร้องยินดีดังก้องไปทั่วลานบ้าน ส่วนใหญ่เป็นเสียงของสมาชิกครอบครัวที่มาร่วมงานเสียงดังนั้นทำให้ไอริสตกใจจนร้องไห้ แต่ทันทีที่ฉันกับโรแวนจูบแก้มเธอพร้อมกัน เธอก็หยุดร้อง เราไม่ได้วางแผนไว้ แต่มันเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ และเสียง “อู้วว” จากแขกในงานก็ตามมา"สุขสันต์วันเกิดนะลูก โนอา แม่รักลูกมาก อย่าลืมสิ่งนี้เด็ดขาดนะ" ฉันกอดเขาแน่น และเขาก็โอบตอบกลับมา"ผมก็รักแม่เหมือนกันครับ"จากนั้นเขาตัดเค้ก ฉันป้อนเค้กให้เขา และโรแวนก็เช่นกัน โนอาก็ป้อนเค้กให้เราทั้งสองตอบกลับด้วยเช่นกัน เค้กถูกแบ่งให้แขกในงาน และไม่นานก็ถึงเวลาเปิดของขวัญเห็นเขามีความสุขขนาดนี้ ฉันตระหนักได้ว่าวันนี้ไม่มีเวลาให้ความเสียใจ กันเนอร์ยืนอยู่ข้างเขาพร้อมรอยยิ้มกว้าง และทันใดนั้นฉันก็เข้

  • ธุลีใจ   บทที่ 342

    ฉันยังคงจ้องมองตำรวจด้วยความตกใจ ทุกคนก็เช่นกัน ราวกับว่าเราทุกคนถูกแช่แข็ง ไม่อยากเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าจนกระทั่งพวกเขาจัดการใส่กุญแจมือเอมม่าเสร็จและเริ่มลากตัวเธอไป ทราวิสและเคทถึงได้สติและเริ่มกระทำบางสิ่งตอบโต้"นี่มันเรื่องบ้าอะไร? พวกคุณจับคนผิดแล้ว!" ทราวิสตะโกน แต่ตำรวจเพียงแค่จ้องเขาด้วยสายตาดุดันพวกเขาหยุดและหันมามองทราวิส เอมม่าดูเหมือนอยู่ในความฝัน เหมือนเธอแยกตัวออกจากสถานการณ์ และสีหน้าของเธอก็เต็มไปด้วยความไม่เชื่อ"ผมมั่นใจว่าเราไม่ได้จับผิดคนครับ" ตำรวจผมบลอนด์ตอบ "เธอเองยืนยันว่าเธอคือเอมม่า ชาร์พ ซึ่งเป็นคนที่เราถูกสั่งให้จับกุมที่นี่"เอมม่าไม่ขยับตัว ไม่ดิ้นรน เธอหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสน ฉันเข้าใจเธอนะเพราะฉันเองก็สับสนมาก ทำไมพวกเขาถึงจับเธอ? ทำไมพวกเขาถึงคิดว่าเธอเป็นคนพยายามฆ่าฉัน?“มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ ๆ ค่ะ ต่อให้พวกเขามีปัญหากันยังไง เอมม่าจะไม่มีวันคิดฆ่าเอวาแน่" เคทพูดอ้อนวอน แต่คำพูดของเธอกลับไร้ผล"เราแค่ทำตามคำสั่งครับ ผมแนะนำให้คุณหาเวลาติดต่อทนายดีกว่า" ตำรวจอีกคนกล่าวพวกเขาเริ่มลากตัวเอมม่าออกไป ท่ามกลางเสียงส

  • ธุลีใจ   บทที่ 343

    ฉันพยักหน้าเข้าใจว่าทำไมโทรศัพท์จากหัวหน้าตำรวจถึงทำให้โรแวนรู้สึกกังวลใจ ฉันอยากจะรีบไปที่สถานีตำรวจให้เร็วที่สุด แต่เราก็ยังมีแขกอยู่ และงานวันเกิดของโนอาก็ยังคงดำเนินต่อไป“เราจัดการงานวันเกิดของโนอาให้เสร็จก่อน แล้วค่อยไปพบไบรอันกัน” ฉันบอกพวกเขา พร้อมทั้งลุกขึ้นยืนทุกคนเห็นพ้องกันในเรื่องนี้ และเรากลับไปที่งานปาร์ตี้ ฉันคิดถูก โรแวนฝากไอริสไว้กับพ่อแม่ของฉัน ฉันเดินไปหากลุ่มเพื่อนที่สีหน้าดูกังวลอย่างเห็นได้ชัด“เกิดอะไรขึ้น? แล้วเอมม่า ทราวิส และเคทไปไหนกัน?” เล็ตตี้ถามพลางกวาดสายตาไปรอบ ๆ เหมือนกำลังมองหาแฟนหนุ่มของเธอ“เอมม่าถูกจับ ส่วนทราวิสกับเคทตามไปที่สถานีตำรวจน่ะ”“อะไรนะ?”เสียงอุทานตกใจของพวกเขาทำให้เด็ก ๆ ที่เล่นอยู่ใกล้ ๆ หันมามอง ฉันรีบปรามพวกเขาให้เงียบก่อนจะเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง คาลวินยังคงมีสีหน้าที่เย็นชาและดูห่างเหิน ขณะที่โครินกับเล็ตตี้ดูตกตะลึง“ทำไมพวกเขาถึงคิดว่าเป็นเอมม่า?” โครินถามคำถามที่วนเวียนอยู่ในหัวฉันตั้งแต่เอมม่าถูกจับ“นั่นแหละคือสิ่งที่ฉันอยากรู้” ฉันตอบกลับ “ตำรวจแค่บอกว่าพวกเขาได้รับคำสั่งให้จับเอมม่า พวกเขาไม่ได้ให้คำอธิบายอะไ

  • ธุลีใจ   บทที่ 344

    เราไปถึงสถานีตำรวจ และความวิตกกังวลของฉันก็พุ่งสูงขึ้น ฉันรู้สึกเหมือนเป็นซากปรักหักพังที่เต็มไปด้วยความประหม่า ฉันไม่มั่นใจเลยว่าตัวเองอยากจะฟังสิ่งที่ไบรอันจะพูดจริง ๆ หรือเปล่า ถ้าเธอเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังการพยายามฆ่าฉันล่ะ ฉันควรทำอย่างไรดี?แน่นอนว่าเราไม่ค่อยถูกกัน แต่ฉันรู้จักเธอมาตั้งแต่ยังเด็ก เราเติบโตมาด้วยกัน สำหรับฉัน เธอคือพี่สาว เราอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกันจนกระทั่งเธอจบการศึกษาและย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัย“ไหวไหม?” โรแวนถามด้วยความกังวลที่ฉายชัดบนใบหน้า “ก็แค่กังวลนิดหน่อย”เขาจับมือฉันก่อนจะจูบเบา ๆ ฉันไม่ได้ปฏิเสธ เพราะฉันต้องการสิ่งนี้ ฉันต้องการเขา“ทุกอย่างจะเรียบร้อย ไม่ต้องเครียด” เขาปลอบใจหลังจากถอนจูบออกฉันพยักหน้าและเราก็ลงจากรถ มือของฉันยังอยู่ในมือเขา เราเดินไปยังสถานีตำรวจและเข้าไปข้างใน คนอื่น ตามมาหลังจากนั้นไม่นาน และเราก็ถูกพาไปยังห้องทำงานของหัวหน้าตำรวจ“ขอบคุณที่มานะครับ” เขากล่าวทักทาย พร้อมชี้ไปที่เก้าอี้สองตัว แม่กับฉันนั่งลง ขณะที่ผู้ชายยืนอยู่ด้านหลังเรา“นายบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะบอกกับเรา” โรแวนถามเสียงจริงจัง“ขอเวลาเดี๋ยว” เขาชูนิ้วข

  • ธุลีใจ   บทที่ 345

    เมื่อคืนฉันนอนไม่ค่อยหลับ และมันแสดงออกมาทางรูปลักษณ์ของฉันในเช้าวันนี้ ฉันเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ โรแวนกับฉันไม่ได้เข้านอนในเตียงเดียวกันเลยตั้งแต่คืนที่เราไปออกเดตกัน และนี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่นั้นมาที่ฉันรู้สึกอยากชวนเขา หลังจากกลับจากสถานีตำรวจฉันเดินไปที่ครัวช้า ๆ ตอนนี้ยังเช้ามาก และฉันอาจเป็นคนเดียวที่ตื่นอยู่ ฉันต้องการกาแฟโดยด่วนเพราะวันนี้ฉันต้องพากันเนอร์กลับไป คาลวินบอกว่าเขาจะยุ่งและอาจมารับไม่ได้ ฉันจึงอาสาไปส่งเองฉันหาวจนปากอ้ากว้าง ฉันเดินเข้ามาในครัว แต่ก็ต้องชะงักทันที โรแวนนั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์พร้อมถ้วยกาแฟร้อนในมือเขาหันมามองเมื่อได้ยินเสียง และสายตาเราก็ประสานกัน“นอนไม่หลับเหรอ?” เขาถามพลางลุกขึ้นยืนฉันพยักหน้าเบา ๆ มองเขาเปิดตู้หยิบแก้วอีกใบ โดยที่ฉันยังไม่ได้เอ่ยปาก เขาก็รินกาแฟจากกาให้ฉัน“ฉันนึกว่าฉันตื่นอยู่คนเดียว” ฉันพึมพำขณะนั่งลงที่เก้าอี้ข้าง ๆ“ไม่ใช่หรอก”แม้แต่ตอนนี้ ความคิดของฉันยังคงวนเวียนอยู่กับสิ่งที่ไบรอันบอกเรา หลักฐานนั้นชัดเจนและกล่าวหาเอมม่าอย่างหนักแน่น ไม่มีทางที่จะพิสูจน์เป็นอย่างอื่นได้ ไบรอันบอกเราว่าจะเริ่มการพิจารณาคด

  • ธุลีใจ   บทที่ 346

    “ฉันไม่มั่นใจ แต่เชื่อฉันเถอะ” ในที่สุดฉันก็ตอบเขา “สัญชาตญาณของฉันไม่เคยผิด”เขาดูไม่แน่ใจในตอนแรก จนกระทั่งเขาปรับสีหน้าให้กลับมาเรียบนิ่ง และปัดความสงสัยออกไปจากใบหน้า เขายืนขึ้นและเดินมาข้าง ๆ ฉัน ก่อนที่ฉันจะเข้าใจว่าเขาจะทำอะไร เขาก็จูบฉันเบา ๆ แล้วดึงตัวกลับทันที“ก็ได้” เขาเริ่มพูด “ผมเชื่อคุณ แต่ถ้ามันกลายเป็นแบบตรงกันข้าม ผมจะให้เธอชดใช้กับสิ่งที่เธอทำกับคุณ”น้ำเสียงของเขาแฝงไปด้วยความเด็ดขาดและอันตรายอย่างชัดเจนฉันยอมรับข้อตกลง “ตกลง แต่คุณจะเห็นเองว่าสัญชาตญาณเรื่องนี้ฉันถูก”เขาไม่ได้พูดอะไรต่อ แค่จูบหน้าผากฉันแล้วกลับไปนั่งดื่มกาแฟ เราคุยกันต่ออีกหน่อย ไม่มีเรื่องสำคัญอะไร แต่ความรู้สึกมันดีมากการได้พูดคุยกับเขาและอยู่ใกล้ ๆ เขา มันให้ความรู้สึกเหมือนกลับบ้านหลังจากวันที่เหนื่อยล้า ฉันรักโรแวน และตอนนี้ฉันกำลังได้สิ่งที่ฉันเคยอธิษฐานขอมาโดยตลอด แล้วฉันจะปล่อยเขาไปได้ยังไง? ฉันจะปฏิเสธโอกาสนี้ได้ยังไง?ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสครั้งที่สองในความรัก ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่จะได้เห็นสามีที่เคยหลงผิดเปลี่ยนแปลงตัวเอง เขาทำให้ฉันเจ็บ แต่ฉันต้องปล่อยอดีตไปเสีย ฉันคิดว่า ณ จ

  • ธุลีใจ   บทที่ 347

    "สวัสดีค่ะ" ฉันทักพลางยืนอยู่ตรงทางเข้าห้องครัวกันเนอร์รีบวิ่งไปกอดพ่อของเขาพร้อมเล่าเรื่องช่วงเวลาที่แสนสนุกที่เขาและโนอาใช้เวลาด้วยกันที่บ้านของเรา“สวัสดีครับ เอวา”ฉันหัวเราะเบา ๆ เขากำลังพยายามทำหลายอย่างในเวลาเดียวกัน ทั้งฟังลูกชาย เลี้ยงดูฉัน และยังพยายามทำงานให้เสร็จ"นี่ฉันมารบกวนแต่เช้าหรือเปล่า?" ฉันถาม "ฉันพากันเนอร์กลับไปก่อนได้นะ เพื่อที่คุณจะได้ทำงานต่อโดยไม่ถูกรบกวน""ไม่เป็นไร ขอบคุณนะ ผมเกือบจะเสร็จงานแล้ว" เขาตอบ "อีกอย่างวันนี้วันอาทิตย์ และเรามีกิจกรรมวันอาทิตย์กันด้วย"ฉันยิ้มและพยักหน้า ก่อนจะเตรียมตัวจะขอตัวกลับ แต่แล้วบ้านหลังข้าง ๆ ก็สะดุดสายตาฉันอีกครั้ง ครัวของคาลวินมองเห็นไปยังสนามหลังบ้านของบ้านหลังนั้นพอดี"คาลวินคะ?" ฉันเรียกเขา และเขาเงยหน้าขึ้นมามอง“ครับ?”"บ้านหลังนั้นเป็นของใครเหรอ? ไม่เข้าใจว่าทำไมมันดึงสะดุดตาจัง”"เขาหันหน้ามองตามที่ฉันชี้ไป จากนั้นก็หันกลับมามองหน้าฉันอีกครั้ง"อ้อ นั่นบ้านคุณเองครับ เอวา"ฉันยืนตัวแข็งทื่อ บ้านของฉัน? มันเป็นไปได้ยังไง? แต่พอนึกดูอีกที โรแวนไม่ได้บอกฉันเหรอว่าเราห่างกันไปสักพัก? ถ้าเป็นแบบนั้น บางท

  • ธุลีใจ   บทที่ 348

    โรแวนผมจ้องมองหน้าจอแล็ปท็อปว่างเปล่า ไม่มีอารมณ์ทำงานเลย โนอากำลังเล่นวิดีโอเกม ส่วนไอริสกำลังหลับ เอวาออกไปส่งกันเนอร์ได้สักพักแล้ว เธอน่าจะกลับมาได้แล้วตั้งแต่เหตุการณ์ยิงกัน ผมก็เป็นห่วงเธอไม่หยุด ความกลัวกัดกินใจทุกครั้งที่เธออยู่นอกบ้าน ผมไม่สามารถสลัดความหวาดกลัวที่จะสูญเสียเธอไปได้ ผมเกือบเสียเธอไปครั้งหนึ่งแล้ว และนั่นก็ทิ้งรอยแผลไว้ในใจผมผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าเธอปลอดภัย รวมถึงการส่งคนที่ทำร้ายเธอไปยังที่ซึ่งจะไม่มีทางทำร้ายเอวาได้อีกผมถอนหายใจและลุกขึ้น สิ่งที่รบกวนจิตใจอีกอย่างคือคำพูดของเอวาในวันนี้ ผมไม่เข้าใจว่าทำไมและอย่างไรเธอถึงเชื่อว่าเอมม่าเป็นผู้บริสุทธิ์ ผมรู้ตัวช้าไป แต่เอมม่าเริ่มจ้องเล่นงานเอวาตั้งแต่เธอรู้ว่าความรู้สึกของผมที่มีต่อเอวาเปลี่ยนไปอย่างที่บอก ผมยืนยันได้ว่าเอมม่าที่ผมรักในวัยรุ่นเป็นคนดี แต่เอมม่าในวันนี้ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป หลายสิ่งหลายอย่างชี้ชัดว่าเธอเปลี่ยนไปแล้วลองคิดดูสิ เธอปฏิเสธเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง ซ่อนกันเนอร์และปิดบังความจริงว่าเธอเป็นแม่ของเขา ใช้ชีวิตต่อไปเหมือนกับว่าเขาไม่มีตัวตน ถ้าเธอทำได้ถึงขนาดนี้ คุณคิดจ

Latest chapter

  • ธุลีใจ   บทที่ 432

    “ตัดสินใจแล้วค่ะ ตอนนี้เซียร่ากับหนูเป็นเพื่อนสนิทกันแล้ว” ลิลลี่พูดขึ้นขณะเดินเข้ามาในครัวที่ฉันนั่งดื่มกาแฟอยู่ในตอนที่พ่อครัวกำลังเตรียมอาหารเช้าวันนี้เป็นวันเสาร์ วันหยุดของฉันและเธอก็ไม่มีเรียน วันนี้เราสามารถพักผ่อน นอนเล่น และผ่อนคลายได้ หลังจากที่ต้องเจอความยุ่งวุ่นวายจากการทำงานมาตลอดสัปดาห์ ฉันต้องการเวลาพักผ่อนจริง ๆ“ชอบเธอขนาดนั้นเลยเหรอ?” ฉันจิบกาแฟพลางพยายามซ่อนยิ้ม“แน่นอนค่ะ” เธอปีนขึ้นนั่งบนเก้าอี้บาร์ก่อนหยิบกล้วยขึ้นมาลูกหนึ่ง “พวกเรามีอะไรเหมือนกันเยอะเลย เธอชอบการผจญภัยแล้วก็อ่านหนังสือเหมือนหนูเลยค่ะ”ตอนที่ลิลลี่เล่าเรื่องเซียร่าให้ฟังครั้งแรก ฉันไม่เคยคิดเลยว่าพวกเธอจะกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน ฉันควรจะมองเห็นสัญญาณนี้ตั้งแต่ที่ลิลลี่พูดถึงเธอทุกวันตอนมื้อเย็นลูกรักของฉันไม่เคยมีเพื่อนสนิทมาก่อน อย่างที่บอกไปว่าเธอค่อนข้างหลีกเลี่ยงการสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเด็กคนอื่น ๆ ที่โรงเรียนเก่าฉันไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเป็นเพราะเธอสนใจการเรียนมากกว่าการเล่น หรือเพราะเธอไม่รู้สึกสนิทใจกับคนอื่น หรือเธอคิดว่าตนเองโตเกินไปและเด็กคนอื่นยังดูไร้เดียงสาเกินไปสำหรับเธอ ไ

  • ธุลีใจ   บทที่ 431

    น้ำเสียงของเขาไม่เปิดช่องว่างให้มีการโต้เถียงได้ สิ่งเดียวที่คุณสามารถเลือกได้มีเพียงทำตามเท่านั้น“ค่ะ คุณวู้ด” เธอพูดอย่างติดขัดด้วยความกลัวที่สลักอยู่บนใบหน้าเพราะคำข่มขู่นั้น“ตอนนี้ก็เชิญกลับไปทำงานของคุณได้แล้ว เราไม่ได้จ่ายเงินให้คุณมาทำงานเพื่อหาเพื่อนแล้วจะได้เป็นที่ชื่นชอบอะไรทั้งนั้น”หน้าเธอแดงก่ำเพราะความอับอายก่อนเธอจะหันหลังรีบซอยเท้าออกไปอย่างไว ส่วนที่ผู้คนที่เหลือก็แสร้งทำเป็นไม่เห็นว่าเธอโดนด่าซ้ำเมื่อเรื่องจบ เขาก็ผายมือให้ฉันเข้าไปในลิฟต์ เมื่อประตูปิดลง ฉันก็หันไปหาเขา“คุณกับน้องชายนี่หากอยากทำตัวน่ากลัวก็ร้ายไม่เบานะคะ” ฉันเอ่ยกับโรแวนอย่างตรงไปตรงมาฉันได้ยินเรื่องของทั้งสองมาก่อน เรื่องของคู่หูพี่น้องวู้ด เมื่อก่อนนั้นแม้แต่พ่อแม่ของฉันยังหวาดหวั่นเลย ตอนนั้นอายุทั้งสองยังไม่ยี่สิบสามเลยด้วยซ้ำ พวกเขาสามารถกดข่มได้ทุกคน ใครก็ตามที่กล้ากระดุกหนวดเสือ ผู้นั้นย่อมไม่มีวันได้ใช้ชีวิตเป็นสุข อย่างที่เอวากับฉันก็นับได้ว่าเป็นตัวอย่างที่ดีว่าชีวิตจะโดนพวกเขาทำลายได้อย่างไรบ้างเขายักไหล่ราวกับว่าไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเลย “มันก็เป็นเรื่องของปลาใหญ่กินปลาเล็กล่ะนะ

  • ธุลีใจ   บทที่ 430

    “ช่วยอะไรหน่อย” คริสโตเฟอร์ตอบ “ช่วยไปเก็บรายงานประจำสัปดาห์จากแต่ละแผนกหน่อยได้ไหม? เพราะเรื่องวุ่นวายเมื่อวานทำให้ผมไม่ได้จัดการเรื่องนี้เลย”“ได้เลย ไม่มีปัญหาค่ะ ขอเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องทำงานก่อน แล้วฉันจะไปจัดการให้”หลังจากเขาพยักหน้า ฉันก็เดินตรงไปที่ห้องทำงาน รีบวางของให้เรียบร้อยก่อนจะออกไปที่แผนกอื่น ๆเมื่อฉันไปถึงแผนกแรก บรรยากาศตึงเครียดทันทีที่ฉันก้าวเข้าไป ทุกคน และฉันหมายถึงทุกคนจริง ๆ หันมามองฉันเป็นตาเดียว ฉันเกลียดความสนใจแบบนี้และอยากให้พวกเขาสนใจงานของตัวเองแทน ฉันพยายามเมินเฉยและจัดการสิ่งที่ฉันต้องทำให้เสร็จ ก่อนจะรีบออกมาฉันไม่เคยมีโอกาสได้สร้างมิตรภาพกับใคร เพราะมิลลี่เคยปล่อยข่าวลือว่าฉันเป็นผู้หญิงไร้ยางอายที่นอนกับเกเบรียล แค่นั้นก็เพียงพอให้คนอื่นตัดสินและตีตัวออกห่างจากฉันฉันถอนหายใจโล่งอกเมื่อมาถึงแผนกสุดท้าย บางคนยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้ข่าวเรื่องฉันกับเกเบรียลแพร่ออกไปแล้ว พวกเขาเลยพยายามทำดีด้วย ฉันรู้ดีว่ามีคนที่เข้าหาคุณเพียงเพราะหวังจะได้ประโยชน์จากคุณ“ไง ฮาร์เปอร์” เสียงของรีเบคก้า หนึ่งในลิ่วล้อของมิลลี่ดังข

  • ธุลีใจ   บทที่ 429

    ฮาร์เปอร์เช้าวันรุ่งขึ้น เกเบรียลไม่อยู่ให้เห็นเลยตอนที่ฉันทานอาหารเช้าและเตรียมตัวออกไปทำงาน จนกระทั่งตอนที่ขึ้นรถและถามคนขับว่าเกเบรียลอยู่ที่ไหน ถึงได้รู้ว่าเขาออกไปทำงานก่อนแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่เราต่างคนต่างไปทำงานตั้งแต่ฉันเริ่มทำงานให้เขา ฉันไม่แน่ใจเหมือนกันว่ารู้สึกโล่งใจหรือไม่ในเมื่อเขาไม่อยู่ ฉันเลยตัดสินใจไปส่งลิลลี่ที่โรงเรียนก่อน ความตื่นเต้นของเธอยังไม่จางหาย ตลอดทางเธอพูดถึงแต่เซียร่า ฉันรู้จักลูกสาวของตัวเองดี และรู้ว่าเธอไม่เคยตื่นเต้นหรือมีความสุขกับเด็กผู้หญิงคนไหนมาก่อนแบบนี้แน่นอนว่าเธอมีเพื่อนที่บ้านเก่าที่เราเคยอยู่ แต่ก็ไม่มีใครที่เธอพูดถึงมากขนาดนี้ ฉันคิดว่าเด็กพวกนั้นน่าจะเป็นแค่คนรู้จักมากกว่าเพื่อนของลูกสาวฉันเธอไม่เคยชวนใครมาค้างบ้าน และถ้าใครเชิญเธอไป เธอก็มักจะหาข้ออ้างว่าไปไม่ได้ เธอไม่เคยพูดถึงเพื่อนพวกนั้นมากมายเหมือนที่พูดถึงซีเอร์รา ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันได้แค่วันเดียวแต่ไม่ว่าอะไรที่ทำให้เธอมีความสุข ฉันก็มีความสุขด้วย ถ้าเซียร่าทำให้ลิลลี่กลายเป็นเด็กหญิงที่กรี๊ดกร๊าดและหัวเราะคิกคักได้ แล้วฉันจะมีเหตุผลอะไรไปขัดขวาง?ครั้งแรกเลยที่ฉ

  • ธุลีใจ   บทที่ 428

    เมื่อตัดสินใจได้ว่าจะไม่สนใจพวกเขา ผมลุกขึ้นอีกครั้ง คว้าเสื้อโค้ทแล้วออกจากห้องทำงาน ผมรู้ดีว่าคงไม่มีสมาธิทำงานได้ แล้วจะเสียเวลาไปทำไมกันล่ะ?ผมส่งข้อความหาคนขับรถเพื่อให้เตรียมรถไว้ก่อนจะก้าวขึ้นลิฟต์ ไม่กี่นาทีต่อมา ผมก็อยู่ในลานจอดรถใต้ดิน“คุณวู้ดครับ” เขาก้มศีรษะเล็กน้อยขณะเปิดประตูรถให้ผมผมพยักหน้ารับก่อนจะเข้าไปในรถ เขาก็ขึ้นรถและเริ่มขับออกไปผมตัดสินใจเปิดดูข่าวซุบซิบต่าง ๆ เป็นการฆ่าเวลาเกเบรียล วู้ดเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ประกาศลั่นอย่างเป็นทางการ ข่าวจากวงในวู้ด คอร์เปอร์เรชั่นเกเบรียล วู้ด หนุ่มเนื้อหอมตัวท๊อปของเมืองสละโสดขวัญใจมหาชน เกเบรียล วู้ดลั่นระฆังวิวาห์ปิดประมูลความโสดของหนุ่มฮอต เกเบรียล วู้ดสาวคนไหนกันที่เกเบรียล วู้ด สวมแหวนแต่งงานให้กันนะ?เรื่องแล้วเรื่องเล่า บทความพวกนี้มีแต่เรื่องไร้สาระ บางอันก็ดูโง่เง่า บางอันก็มีส่วนจริงอยู่บ้างเมื่อเดินทางถึงบ้าน ผมปิดโทรศัพท์ก่อนลงจากรถ หลังจากกล่าวลาคนขับแล้ว ผมก็เดินตรงไปยังบ้านของตัวเองผมแปลกใจที่เจอฮาร์เปอร์นั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น“กลับมาบ้านได้สักทีนะคะ” เธอพูดอย่างเหม่อลอย “เห็นข่าวซุบซิบพว

  • ธุลีใจ   บทที่ 427

    เกเบรียลผมนั่งมองเอกสารตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า อารมณ์ยังคงเดือดพล่าน โกรธจัด โกรธจนแทบบ้า มิลลี่คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ถึงได้กล้าพูดจาหยาบคายใส่ฮาร์เปอร์แบบนั้น?เพราะสมาธิที่เตลิดไปจนหมด ผมลุกขึ้นยืนและเริ่มเดินวนไปมา สมองผมทำงานเร็วราวกับกำลังวิ่งไปด้วยความเร็วพันไมล์ต่อวินาที ผมพยายามคิดหาวิธีที่แตกต่างไปซึ่งจะทำให้ชีวิตของมิลลี่เป็นนรกบนดินนายโกรธอะไรนักหนา? ตอนที่แต่งงานกับฮาร์เปอร์เมื่อหลายปีก่อน นายเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ามิลลี่เลยเสียงในหัวเยาะหยันผม แต่ผมไม่อยากฟัง เพราะมันพูดถูกจนน่าหงุดหงิด ตอนนั้นผมไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของเธอเลย ผมทำให้เธอเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วอะไรล่ะที่เปลี่ยนไป?ตอนที่ผมลากฮาร์เปอร์มายืนกลางห้องและขู่ทุกคนที่กล้าทำร้ายเธอ ผมเห็นความตกใจและประหลาดใจในดวงตาเธอตอนอยู่ในห้องทำงานของผม เธอมองผมเหมือนกับว่าไม่รู้จักผมอีกต่อไป เหมือนเธอไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงเลือกอยู่ข้างเธอ มันชัดเจนว่าเธอคิดไม่ออกว่าจะคิดกับผมหรือการกระทำของผมอย่างไรผมยกมือลูบหน้าพร้อมถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ผมจะโทษเธอได้อย่างไรล่ะกับปฏิกิริยานั้น ในเมื่ออดีตผมเคยปฏิบัติกับเธออย่างเลว

  • ธุลีใจ   บทที่ 426

    จากนั้น เขาจับมือฉันพาเดินออกจากห้องไป ก่อนที่ประตูจะปิด ฉันมองเห็นความหวาดกลัวในตาของมิลลี่ ความกลัวนั้นบอกทุกอย่างที่ฉันต้องการรู้ และแน่นอนว่าผลการสอบสวนของเธอคงไม่พูดถึงเธอในทางดีแน่เราขึ้นลิฟต์ไปเงียบ ๆ โดยที่ไม่มีใครพูดอะไร จนเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก เกเบรียลพาฉันไปที่ห้องทำงานของเขา"คุณเป็นอะไรไหม?" เขาถามเมื่อเราเข้าไปในห้อง "ผมส่งเรื่องให้ทีมสื่อข่าวสารประกาศเรื่องการแต่งงานของเราแล้ว ผมอยากลงไปหาเพื่อบอกคุณเรื่องนี้ แต่กลับไม่เจอคุณที่ห้องทำงานตัวเอง ผมก็เลยได้เห็นฉากน่ารังเกียจนั้นกับตา"ฉันดึงมือออกจากมือของเขาแล้วจ้องมองกลับไป "ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องห่วง""แน่ใจนะ?""แน่ใจค่ะ"เรานั่งอยู่ในความเงียบงันสักพัก ฉันเห็นว่าเขาคงอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ดูเหมือนมีบางอย่างที่ยับยั้งเขาเอาไว้ สายตาที่เขาจ้องมาทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันคงกลับบ้านก่อนนะคะ ฉันรู้สึกกังวลมาตลอดทั้งวันเพราะเรื่องลิลลี่" ฉันพูดเบา ๆ ไม่กล้ามองตาเขา"ได้ งานเสร็จเมื่อไหร่ ผมก็จะกลับบ้านเลยเหมือนกัน"ฉันพยักหน้าก่อนจะเดินออกไป ไม่ใช่ว่าฉันไม่ขอบคุณในสิ่งที่เขาทำให้ แต่การกระทำของเข

  • ธุลีใจ   บทที่ 425

    "ภรรยาเหรอ?" มิลลี่ทวนคำพูดราวกับว่าเธอไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่ได้ยินได้"ผมพูดไม่ชัดหรือไง?" เกเบรียลถามเสียงเรียบแต่แฝงความคมกริบทั้งห้องเงียบกริบทันที คนที่เคยพึมพำและชี้นิ้วมาที่ฉันตอนนี้ต่างก้มหน้าลงไม่กล้ามองขึ้นมาฉันไม่ได้ต้องการให้เกเบรียลมาสู้แทนฉันเลย ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขี้กลัวและไม่มีความมั่นใจเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ฉันเปลี่ยนไปมาก แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าฉันชอบที่เขาออกมาปกป้องฉันมิลลี่ตัวสั่นเทิ้ม เธอทั้งตัวแข็งทื่อและความกลัวปรากฏชัดบนใบหน้า นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ฉันทำงานที่นี่ที่เธอไม่ได้ดูเหมือนผู้หญิงเย่อหยิ่งที่ฉันคุ้นเคยด้วยท่าทางของเธอ คุณอาจคิดว่าเธอเป็นเจ้าของบริษัทนี้ เธอชอบสั่งคนอื่น ทั้งหยาบคายและร้ายกาจ โดยเฉพาะกับผู้หญิง เธอปฏิบัติต่อคนอื่นเหมือนพวกเขาต่ำต้อยกว่าฉันแทบไม่เคยลงไปที่ชั้นอื่น ๆ แต่ถ้าฉันจำเป็นต้องไป มิลลี่จะอยู่ที่นั่นเสมอเพื่อพูดจาไร้สาระและปฏิบัติต่อฉันเหมือนขยะ"ดิฉันขอโทษค่ะเกเบรียล ดิฉันไม่ทราบว่าเธอเป็นภรรยาของคุณ" เธอกระซิบ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยการขอร้องความกดดันรอบตัวเกเบรียลยิ่งหนักขึ้นจนแทบหายใจไม่ออก ผู้ห

  • ธุลีใจ   บทที่ 424

    ฉันเพิ่งจะก้าวลงจากรถ แต่ทันใดนั้นเองเขาก็คว้ามือฉันไว้และกระชากมันอย่างแรง ฉันตกใจกับการกระทำนั้น จึงเงยหน้าขึ้นด้วยความสับสน แล้วก็เจอสายตาที่ลุกวาวของเขา“แหวนอยู่ไหน?” เขาพ่นคำถามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด สายตาจ้องมองฉันเขม็งให้ตายเถอะ! อะไรกันเนี่ย?ฉันค่อย ๆ ละสายตาจากเขาไปที่นิ้วมือว่างเปล่าของตัวเอง คุณเคยอยู่ในสถานการณ์ที่สับสนไหม? แบบที่คุณรู้ว่าคนถามอะไร คุณรู้คำตอบ แต่ก็ยังสับสนอยู่ดี? นั่นแหละ ตอนนี้ฉันเป็นแบบนี้“ฮาร์เปอร์ แหวนคุณอยู่ที่ไหน?” เขาเค้นเสียงถามขณะที่ก้าวลงจากรถฉันมองร่างของเขาที่ลุกออกจากรถ แล้วตอนนี้เขาก็ยืนตระหง่านค้ำหัวฉัน ความน่าเกรงขามของเขาทำให้ฉันพูดอะไรไม่ออกเขาเขย่าตัวฉันเล็กน้อยดึงฉันกลับมาอยู่กับปัจจุบัน“ฉันไม่เข้าใจเลยว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น” ฉันพึมพำออกมา ยังคงไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟกับเรื่องเล็ก ๆ แค่นี้สีหน้าของเขามืดครึ้มขึ้นไปอีก เหมือนคำตอบของฉันไปกระตุ้นอะไรบางอย่างในตัวเขาเข้า“เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็คือคุณไม่ได้ใส่แหวนที่ผมเป็นคนให้ และผมก็อยากรู้ด้วยว่าทำไม” เขาคำรามออกมา ใบหน้าเคร่งเครียดฉันตอบกลับไปแบบโง

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status