แชร์

บทที่ 280

ผู้เขียน: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
ฉันนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น กำลังทบทวนคำศัพท์และตัวเลขบางอย่าง หากฉันอยากจะกลับไปสอนอีกครั้ง ฉันก็ต้องเรียนรู้คำศัพท์และตัวเลขใหม่อีกครั้ง

ไอริสกำลังนอนหลับในเปลที่ฉันลากมาจากชั้นบน ฉันไม่ชอบความคิดที่จะทิ้งเธอไว้ในห้องคนเดียวตลอดเวลา ดังนั้นเราจึงมาอยู่ที่นี่ เธอก็นอนหลับในขณะที่ฉันนั่งทบทวนบทเรียนอีกครั้ง

หัวของฉันยังคงปั่นป่วนจากสิ่งที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับอีธานเมื่อวานนี้ ฉันยังไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาหลอกลวงฉันด้วยวิธีที่โหดร้ายขนาดนั้น และฉันก็ไม่เคยนึกเอะใจสงสัยเลยแม้แต่น้อยในช่วงเวลาหลายเดือนที่เราอยู่ด้วยกัน

ฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงได้เข้าหาเขาตั้งแต่แรก เป็นเพราะเอมม่าเดินทางกลับมาหรือเปล่า และฉันอยากให้โรแวนเห็นว่าความสัมพันธ์ของเขากับเอมม่าไม่ได้ส่งผลกระทบกับฉันอย่างนั้นเหรอ? หรือเพราะฉันรู้สึกสิ้นหวังและขาดความรักจนหลงรักผู้ชายคนแรกที่สนใจในตัวฉัน?

ฉันรู้สึกหงุดหงิดที่ไม่เข้าใจว่าตัวเองคิดอะไรถึงปล่อยให้มันเกิดขึ้นหรือสิ่งใดที่กระตุ้นให้ฉันทำเช่นนั้น เว้นเสียแต่ว่าฉันจะได้รับความทรงจำกลับคืนมา ไม่อย่างนั้นฉันคงจะต้องสงสัยเกี่ยวกับแรงจูงใจของการกระทำของฉันตลอดไป

เสียงโทรศัพท์ดังข
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ธุลีใจ   บทที่ 281

    โนรากับธีโอมาถึงราวครึ่งชั่วโมงต่อมา อย่างที่ฉันบอก ฉันไม่เคยออกไปข้างนอกตั้งแต่การเดินทางสั้น ๆ จากโรงพยาบาลคราวนั้นฉันแทบรอไม่ไหวที่จะเห็นว่าเมืองได้เปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน สี่ปีนั้นยาวนานมากสำหรับเมืองที่พัฒนาเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเหมือนกับเมืองนี้ที่คงจะไม่มีทางคงอยู่เหมือนเดิมเมื่อเสียงกริ่งประตูดังขึ้น ฉันลุกขึ้นอย่างตื่นเต้นและเปิดประตู“ลูกกับไอริสพร้อมรึยังจ๊ะ?” โนราถามเธอตื่นเต้นมากเช่นเดียวกับฉัน ฉันให้พวกเขาทั้งสองกอดฉัน การได้อยู่ในอ้อมแขนของพวกเขามันรู้สึกวิเศษและคุ้นเคยมาก เหมือนมันคือบางสิ่งที่ฉันได้รับจากพวกเขามาโดยตลอด“ค่ะ ให้หนูไปรับเธอมานะคะ”ฉันหันหลังกลับและมุ่งกลับไปยังห้องนั่งเล่น โดยอุ้มลูกสาวของฉันขึ้นมา ฉันกล่าวลาอย่างเร่งรีบกับเทเรซา จากนั้นก็ออกจากบ้านไปฉันกำลังจะเข้าไปในรถของพวกเขาในขณะที่บอดี้การ์ดหยุดฉันไว้“ขอโทษครับ คุณผู้หญิง แต่ผมไม่สามารถปล่อยให้คุณไปได้” เขาพูด ทำให้ความตื่นเต้นนั้นลดลงในทันทีฉันไม่รู้ชื่อของเขา แม้ว่าฉันเห็นเขามาสองสามครั้งแล้วในขณะที่เขาเดินลาดตระเวนในบริเวณนั้น“ทำไมล่ะ?” “ผมแค่ทำตามคำสั่งครับ” เขาตอบอย่างนุ่มนว

  • ธุลีใจ   บทที่ 282

    โรแวนผมยังคงไม่สามารถนำคำพูดของเล็ตตี้ออกจากหัวได้ ตอนที่ผมกลับบ้านมาเร็วในวันนั้น ผมคาดหวังว่าจะใช้เวลากับเอวาตามลำพัง สิ่งที่ผมไม่คาดคิดคือได้ยินเล็ตตี้กำลังบอกเอวาว่าเธอได้ตกหลุมรักกับอีธานความเจ็บปวดที่มากมายในหัวใจของผมแทบจะทำให้ผมไร้สติ แม้ว่าผมเกลียดความสัมพันธ์ที่เอวามีต่ออีธาน แต่ผมมักจะคิดเสมอว่ามันเป็นเพียงความสัมพันธ์ทางกายเท่านั้น นั่นคือมันไม่มีอะไรมากไปกว่าการมีเซ็กส์ ความจริงที่ว่าเธอได้ตกหลุมรักกับเขานั้นเจ็บปวดยิ่งกว่าการได้รู้ว่าเธอได้นอนกับเขาเสียอีก มันเกือบจะฆ่าผมที่รู้ว่าเธอเริ่มเห็นอนาคตกับผู้ชายคนนั้นผมปกปิดความเจ็บปวดของผมด้วยความโกรธ ผมไม่รู้ว่าจะบอกเธอยังไงว่าความเป็นไปได้ที่เธอมีความรู้สึกเศษเสี้ยวของความรักต่ออีธานได้ทำลายจิตวิญญาณของผมจนไม่มีชิ้นดี มันเจ็บปวดมากเกินไปสำหรับผมที่จะพูดมันออกมาได้‘ถ้าหากว่า’ คอยแต่วนเล่นในหัวของผม โดยไม่ยอมให้ผมมีจิตใจที่สงบลงได้เลย ผมอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าอีธานไม่ได้กลับกลายเป็นคนเลว เธอจะอยู่กับเขาในตอนนี้หรือไม่? ความรักที่เธอมีให้ผมจะถูกแทนที่ด้วยความรักที่มีต่ออีธานไหม? เธอจะตัดใจจากผมได้โดยสิ

  • ธุลีใจ   บทที่ 283

    “มีอะไรเหรอ?” เกบถามในขณะที่ผมลุกขึ้นผมไม่สามารถคิดได้ชัดเจน พวกเขาควรจะดูแลเอวา แล้วทำไมเธอถึงอยู่ที่โรงพยาบาลได้ล่ะ? นี่คือเหตุผลที่ทำไมผมถึงไม่อยากให้เธอออกจากบ้าน ผมไม่รู้ว่าเกิดบ้าอะไรขึ้น แต่ผมรู้ว่าเธอจะปลอดภัยกว่าที่บ้าน“ธีโอเพิ่งบอกฉันว่าเอวาถูกนำตัวส่งไปที่โรงพยาบาล” ผมกัดฟันตอบผมโกรธมากและเป็นกังวลในเวลาเดียวกัน ผมทนไม่ได้ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ ไม่ในตอนที่ผมเพิ่งได้เธอกลับคืนมา“มา ฉันจะขับรถให้เอง”ผมแค่พยักหน้าก่อนจะมุ่งหน้าออกไป“ยกเลิกการประชุมทั้งหมดของผมซะ” ผมบอกเลขาของผมในขณะที่เดินตรงไปที่ลิฟต์ท่าทางของผมต้องสื่อบางอย่างแน่เพราะคนเหล่านั้นที่อยู่ในโถงทางเดินต่างก็ก้าวหลบทางของผม พวกเขาแยกออกไปเหมือนกับทะเลแหวกหัวใจของผมเต้นรัวกระหน่ำในขณะที่เกบกับผมขึ้นลิฟต์ไปยังลานจอดรถชั้นใต้ดิน ผมไม่สามารถหยุดภาพที่เธอถูกเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลในครั้งสุดท้ายเล่นวนในหัวของผมเหมือนกับเทปที่พังได้เลยความหวาดกลัวครอบงำผมในขณะที่จิตใจของผมเลือกที่จะจดจ่อกับทุกสิ่งที่อาจผิดพลาดได้ ผมต้องการเห็นเธอ ต้องการรู้ว่าเธอโอเคดีพวกเราเข้าไปในรถและเกบก็ขับรถออกไปในทันที“พวกเราเค

  • ธุลีใจ   บทที่ 284

    “เกิดบ้าอะไรขึ้นกัน?” ผมหันไปหาพวกเขาและคำรามออกมาในขณะที่พยายามเบาเสียงไว้ “ผมเชื่อใจคุณให้ดูแลเธอ”“พวกเราทำ” ธีโอตอบกลับ “ฉันไม่รู้ว่าเกิดบ้าอะไรขึ้น เธอขอตัวไปห้องน้ำ ไม่กี่นาทีต่อมาพวกเราเห็นเอมม่ามุ่งหน้ามาทางพวกเราด้วยท่าทางลนลาน เธอคือคนที่บอกพวกเราว่าเอวาล้มลงในห้องน้ำ”โนราพูดต่อจากสิ่งที่สามีของเธอหยุดไว้ “พวกเราไม่มีเวลาถามเธอถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหรือทำไมเธอถึงอยู่ในห้องน้ำกับเอวา ความกังวลหลักของเราในตอนนั้นคือการพาเอวาไปที่โรงพยาบาล”“แล้วเอมม่าอยู่ไหนล่ะครับ?” เกบถาม“พวกเราไม่รู้ เราไม่เห็นเธอเลยตั้งแต่เธอบอกพวกเราเกี่ยวกับเอวา”ความโกรธของผมกำลังพุ่งขึ้น ผมอยากจะต่อยอะไรสักอย่างหรือบางคนจริง ๆ และในขณะนั้นเอง คุณหมอของเอวาก็เดินออกมา“ตอนที่ผมให้เอวาออกจากโรงพยาบาลผมหวังว่าคุณจะดูแลเธออย่างดีนะโรแวน” เขาเริ่มพูดด้วยการว่ากล่าวผม “สิ่งที่ผมไม่คาดคิดคือการได้รับเธอกลับมาอยู่ในความดูแลของผมในสองสัปดาห์หลังจากที่เธอออกจากโรงพยาบาลไป”ผมจ้องพ่อแม่ของเธอเขม็งก่อนจะหันไปหาเขาอีกครั้ง“เธอเป็นไงบ้างครับ?”“คงตัวแล้วในตอนนี้ เธอยังคงหมดสติอยู่แต่เธออาจจะตื่นขึ้นมาในอีกสอง

  • ธุลีใจ   บทที่ 285

    ผมบอกไปแล้วหรือยังว่าผมโมโหแค่ไหน? ผมพลุ่งพล่านไปด้วยความโกรธ มันน่าแปลกที่ควันไม่ได้ออกมาจากจมูกและหูของผมเหมือนในการ์ตูนที่ผมเคยดูเมื่อมาถึงที่รถ ผมก็เข้าไป สตาร์ตเครื่องและขับออกไปจากลานจอดรถผมไม่ได้คิดอะไรนอกเหนือจากสิ่งที่ธีโอกับโนราเล่าให้ผมฟัง ผมแค่ไม่รู้ว่าทำไมเอมม่าถึงไม่ยอมเข้าใจว่ามันจบลงแล้วระหว่างพวกเรา นั่นคือผมสุดจะทนกับเธอแล้วผมรู้ว่าผมให้ความหวังเธอตอนที่ผมขอโอกาสหลังการหย่าของผม แต่ผมทำให้มันชัดเจนในภายหลังแล้วว่าความสัมพันธ์ของเราจะไม่ไปไหน นั่นคือผมไม่อยากอยู่กับเธอผมจะรับทุกอย่างที่เธอโถมปาใส่ผมเองและค่อย ๆ จัดการมันเพราะความสัมพันธ์ในอดีตของเรา แน่นอนว่าผมพยายามทำให้เอวาหึงหวงและเอะอะโวยวาย แต่สิ่งที่ผมจะไม่ทนคือการที่เธอทำร้ายเอวา นั่นคือเส้นที่เธอไม่ควรข้ามโทรศัพท์ของผมดังขึ้น แต่ผมไม่สนใจมัน ผมอยู่ในภารกิจอยู่ และไม่มีอะไรจะขัดขวางผมได้จนกว่าผมจะทำให้มันสำเร็จลุล่วงผมขับรถไปเหมือนคนบ้า บางทีอาจจะฝ่าฝืนกฏจราจรทั้งหมด แต่ผมไม่สน แม้ว่าผมจะถูกเรียกให้จอด ผมจะหาทางออกให้ได้ภายในไม่กี่วินาที ผมคือโรแวน วู้ด ครอบครัวของผมและผมเป็นเจ้าของเมืองนี้เมื่อผมม

  • ธุลีใจ   บทที่ 286

    “ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร ฉันแค่เรียกพ่อแม่ของเธอเพราะเธอหมดสติไปในขณะที่อยู่ในห้องน้ำ” เธอพยายามสงบสติอารมณ์ลง แต่ผมได้ยินการสั่นในน้ำเสียงของเธอ“งั้นเหรอ?”“ค่ะ เธอล้มลงและมันแค่รู้สึกไม่ถูกต้องที่จะทิ้งเธอไว้ที่นั่นดังนั้นฉันจึงเรียกพ่อแม่ของเธอมา”ผมรู้จักเอมม่ามานาน เธออาจจะเปลี่ยนไปแต่ก็ไม่ได้มากนัก ผมบอกได้ง่าย ๆ เลยว่าเธอกำลังโกหกผมอยู่“ถ้าเป็นแบบนั้น แล้วทำไมเอวาถึงมีแผลด้านหลังศีรษะล่ะ?”เธอพยายามแกะมือของผมออกจากกรามของเธอ แต่ผมจับมันไว้แน่น ผมกำลังทำให้เธอเจ็บแต่ผมไม่สนเลยจริง ๆ เพราะเธอทำร้ายผู้หญิงของผม“ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร ฉันแค่พบเธออยู่ที่นั่น นอนอยู่กับพื้น” เธอพยายามแก้ต่างให้ตัวเอง แต่สายตาของเธอทรยศตัวเอง“แล้วคุณไปทำอะไรในร้านอาหารเดียวกันกับเธอ?” ผมต้องรู้เห็นภาพรวมทั้งหมดนี่คือการวางแผนไว้หรือเปล่า? หรือมันคือบางอย่างที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน“คริสตินกับฉันนัดทานข้าวกันค่ะ” เธอพูดตะกุกตะกัก “พวกเราไม่รู้ว่าเอวาและพ่อแม่ของเธอจะมาทานข้าวที่นั่นเหมือนกัน”เธอพยายามปกปิดการกระทำผิด ๆ ของเธอไว้ได้ไม่ดีเลยจริง ๆเมื่อกล่าวถึงคริสตินและรู้

  • ธุลีใจ   บทที่ 287

    เอมม่าฉันขาอ่อนและทรุดตัวลงกับพื้น ฉันยังคงตกใจอยู่ ยังไม่สามารถเชื่อได้ว่าผู้ชายคนที่ฉันรักจะทำกับฉันโหดร้ายขนาดนี้ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะนังตัวดีนั่นฉันเคยเห็นด้านที่โหดเหี้ยมของโรแวนมาก่อน มันไม่ได้รุนแรงเหมือนตอนนี้ แต่มันยังคงเป็นบางสิ่งที่ต้องคำนึงถึง ฉันเคยคิดว่ามันน่ารักดี แต่สิ่งที่ฉันไม่เคยนึกฝันมาก่อน คือวันหนึ่งฉันจะได้รับความกราดเกรี้ยวของเขากรามของฉันเจ็บปวดไปหมด เช่นเดียวกับคางและหนังศีรษะของฉันเขาเย็นชาและใจร้ายมาก ดวงตาของเขามักจะมีความรักเสมอ แต่วันนี้ฉันไม่เห็นอะไรเลยนอกจากความเกลียดและรังเกียจในดวงตานั้นในสายตาของเขา ฉันเห็นความตาย และฉันแค่รู้ว่าถ้าเขาทำอย่างที่ตั้งใจ ฉันยอมหายไปจากโลกนี้เสียดีกว่าฉันพยายามคิดว่ามันเป็นแบบนี้ได้ยังไง แต่ก็ไม่มีอะไรสมเหตุสมผลเลยโรแวนเกลียดฉันและไม่อยากมีอะไรเกี่ยวข้องกับฉัน คาลวินไม่อยากเอาฉันเข้าไปเกี่ยวและเขาก็ไม่อยากมีอะไรเกี่ยวข้องกับฉันเช่นกัน ฉันมีพวกเขาทั้งคู่อยู่ในกำมือแต่ตอนนี้ฉันกลับไม่มีใครเลย“เธอคิดบ้าอะไรอยู่ เอมม่า?” ทราวิสตะคอกใส่ฉัน “ฉันบอกเธอแล้วว่าอยู่ให้ห่างจากเอวากับโรแวนซะ ฉันบอกแล้วว่าเขารักเอวา แล

  • ธุลีใจ   บทที่ 288

    โรแวนผมรีบกลับไปที่โรงพยาบาล ความโกรธของผมยังไม่สงบลง มันยังคงยากที่จะเชื่อว่าเอมม่าจะทำตัวต่ำ ๆแบบนั้น ที่เธอจะทำร้ายเอวาเพียงเพราะผมไม่ต้องการเธออีกต่อไปแล้วทำไมมันถึงยากสำหรับเธอที่จะเข้าใจเรื่องนั้น? ทำไมเธอถึงไม่ยอมรับว่าผมไม่ได้รักเธออีกต่อไปแล้ว?ยิ่งผมคิดเกี่ยวกับมันมากขึ้นเท่าไร ผมก็ยิ่งโกรธมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ผมจับพวงมาลัยไว้แน่นจนทำให้มันยากที่จะบังคับทิศทางรถ ผมบังคับให้ตัวเองคลายการจับแล้วจดจ่อไปที่รอยยิ้มที่สวยงามของเอวา สิ่งสุดท้ายที่พวกเราต้องการคือผมเกิดอุบัติเหตุผมขับรถต่อไปในขณะที่ความคิดถาโถมในใจ ผมยังคงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเอมม่า เธอเคยเป็นคนจิตใจดี มันคือหนึ่งในเหตุผลที่ผมตกหลุมรักเธอ เธอคือนางฟ้าที่มีจิตใจบริสุทธิ์ดั่งทองคำเมื่อมองเธอในตอนนี้ ผมยังคงไม่สามารถเชื่อได้ว่าเธอคือผู้หญิงคนเดียวกันกับที่ผมเคยตกหลุมรักอย่างบ้าคลั่ง ผู้หญิงที่ผมเคยตกหลุมรักเมื่อตอนที่ผมยังเด็กไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนแล้วผู้หญิงที่ผมตกหลุมรักจะไม่ร้ายกาจขนาดที่จะทำร้ายคนอื่นได้ เธอจะไม่อำมหิตจนเมินเฉยและผลักไสไล่ส่งลูกชายของเธอไป เธอจะไม่โหดร้ายพอที่จะคุกคามลูกชายของผมหรือโกหก

บทล่าสุด

  • ธุลีใจ   บทที่ 478

    ขณะที่เราคุยกัน ดวงตาของเอวาก็ยังคงมองกลับไปหาโรแวน คุณจะเห็นความรักในแววตาเธอ จากทุกสิ่งที่เขาทำกับเธอ เธอก็ยังคงให้โอกาสเขาอีกครั้งและแน่นอนดวงตาของโรแวนก็คอยมองไปที่ภรรยาของเขาเช่นกัน มันเหมือนกับว่าเขาไม่สามารถละสายตาจากเธอได้ รวมถึงมือของเขาด้วยเพราะเขาหาทางแตะเนื้อต้องตัวเธอตลอดฉันรู้จากเกเบรียลว่าโรแวนโหดร้ายกับเอวาขนาดไหนในช่วงสามปีของชีวิตแต่งงาน เขาปฏิบัติเหมือนเธอไร้ค่า แต่ตอนนี้เธอดูเหมือนจะเป็นโลกทั้งใบของเขา ความรักที่เขามีต่อเธอแสดงออกมาให้เห็นชัด ฉันไม่เคยคิดว่าเขาจะเปลี่ยนเพื่อเธอมากขนาดนี้ แต่หลักฐานการเปลี่ยนแปลงและความรักของเขาประจักษ์อยู่ตรงหน้าฉัน“มีอะไรกวนใจสิท่า” เอวากระซิบ ดึงฉันออกจากห้วงความคิดฉันหันหน้าไปหา ดวงตากวาดทั่วใบหน้าของเธอ "เธอให้อภัยโรแวนจริง ๆ เหรอ? ทำได้ยังไง? เธอปล่อยวางอดีตได้ไง?”ฉันเพียงแค่ไม่เข้าใจ และถ้าฉันจะพูดตามตรง ฉันกลัวที่จะก้าวเดินไปพร้อมกับเกเบรียลในอนาคตดวงตาเอวาเลื่อนไปมองสามีก่อนที่จะกลับมาที่ฉัน"ฉันยกโทษให้เขาแล้วนะและนั่นเป็นเรื่องง่ายที่สุดด้วย ส่วนเรื่องยากคือการปล่อยวางและลืมมันไป ฉันจะไม่โกหกเธอหรอกนะฮาร์เปอร์

  • ธุลีใจ   บทที่ 477

    “รีบไปกันก่อนจะสายเถอะค่ะ” ฉันบอกหลังจากที่เราหายใจหายคอกันทันแล้วเขาพยักหน้าขณะที่มือลูบไล้มือของฉันก่อนประสานนิ้วของเราเข้าด้วยกันและดึงฉันออกจากห้องนอน"คุณสวยมากเลยค่ะ คุณฮาร์เปอร์!" หนูเซียร่าร้องออกมา น้ำเสียงเต็มไปด้วยความยินดีเมื่อเธอเห็นฉัน"ใช่! แม่สวยมากเลยค่ะ" ลิลลี่กล่าวเสริมพร้อมกระโดดโลดเต้น“ขอบใจจ้ะ สาว ๆ”อีกครู่หนึ่งเซียร่าก็จะกลับบ้านเพราะต้องไปโรงเรียนวันพรุ่งนี้ เนื่องจากทั้งฉันและกาเบรียลไม่อยู่ที่นี่เพื่อรอส่งเธอกลับบ้าน เราจึงได้จัดเตรียมกับคนขับรถให้ไปส่งเธอ เขาจะดูแลให้เธอกลับบ้านอย่างปลอดภัย"ตอนนี้พวกลูกต้องทำตัวดี ๆ กับคุณชารอนด้วยนะ อย่าสร้างปัญหาให้เธอด้วย เข้าใจกันไหมเอ่ย?" ฉันหยอกล้อเชิงตักเตือน“ไม่สร้างปัญหาแน่นอนค่ะ” ทั้งสองพูดพร้อมกันตั้งแต่ที่สบตากับเซียร่า ฉันก็คอยจะมองเธอเสมอ อย่างที่ฉันบอกมีบางอย่างเกี่ยวกับเธอที่ดึงดูดฉัน บางสิ่งที่ดูคุ้นเคยหลังจากบอกลาเด็กหญิงทั้งสองคน เกเบรียลและฉันก็ออกเดินทาง ระหว่างทางเราไม่ได้พูดอะไรกันมากนัก แต่เขาจับมือฉันไว้ตลอดเวลาซึ่งทำให้ฉันรู้สึกสบายใจเราไปถึงสถานที่จัดงานในเวลาอันรวดเร็ว และฉันเริ่ม

  • ธุลีใจ   บทที่ 476

    “เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ”เพราะฉันหาชุดที่เหมาะกับโอกาสเช่นนี้ไม่ได้ เกเบรียลก็เลยให้ความช่วยเหลือ ทีมงานทั้งหมดมาถึงเมื่อประมาณสามชั่วโมงที่แล้วเพื่อช่วยฉันแต่งหน้าและแต่งตัวการแต่งหน้านั้นไร้ที่ติ ช่างแต่งหน้าเลือกใช้แนวหรูหรา ดวงตาแต่งแต้มด้วยอายแชโดว์อันนุ่มนวลแต่โดดเด่นซึ่งช่วยเพิ่มความลุ่มลึกของดวงตาเพิ่มด้วยขนตายาวหนา ทำให้แววตาน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น ช่างแตะแต้มสีทองระยิบระยับที่หัวตาทำให้ดวงตาดูสว่างขึ้นช่วยดึงดูดความสนใจมาที่ดวงตาแสนอบอุ่นนี้ ในขณะที่ทรงผมม้วนเป็นลอนหลวม เงางามเหมือนผ้าไหมภายใต้แสงอ่อนโยนเรื่องชุด เราเลือกชุดราตรีสีแดงยาวเพราะสีแดงกลายเป็นสีโปรดที่เกเบรียลชอบให้ฉันสวม ชุดราตรีเป็นการผสมผสานที่น่าทึ่งระหว่างความเย้ายวนและความสง่างาม ถักทอจากผ้าซาตินสีแดงทับทิมเข้มทิ้งตัวอย่างสวยงามไปตามส่วนโค้งเว้า คอเสื้อเว้าลงเล็กน้อยพอที่จะขับเสน่ห์ออกมา ในขณะที่รายละเอียดลูกไม้อันสลับซับซ้อนตามริมผ้าช่วยเพิ่มความหรูหรา เสื้อท่อนบนที่พอดีเน้นบริเวณเอว ตัวกระโปรงบานออกเล็กน้อยยาวพริ้วลากพื้นเมื่อฉันขยับ ผ้าจะเล่นแสง ส่องประกายเหมือนของผืนน้ำขณะที่เผยเรียวขาให้เห็นเพียงเล็ก

  • ธุลีใจ   บทที่ 475

    "เข้ามาได้" ในที่สุดเขาก็ตอบ ขณะฉันกำลังจะยอมแพ้คิดว่าเขายังหลับอยู่เมื่อเปิดประตูฉันก็เข้าไป ฉันพบเขานั่งอยู่บนเตียง เมื่อเขาเห็นฉัน เขาก็ขยับลงมานั่งอยู่ตรงขอบเตียง ฉันปิดประตูและเดินตรงไปหาเขา"วันของสาว ๆ เป็นยังไงบ้างครับ?" เขาเอ่ยถาม น้ำเสียงงัวเงีย“ว้าวมากค่ะ”“ยังไงครับ?”“ถามอะไรหน่อยได้ไหมคะ? ช่วยสัญญาด้วยนะคะว่าจะพูดความจริง”เขาหันมาหาฉันอย่างเต็มที่ ตอนนี้เขาตื่นเต็มที่แล้ว ดวงตาจ้องมองมาที่ใบหน้าของฉันราวกับว่าเขากำลังพยายามคิดว่าฉันกำลังจะถามอะไร หลังจากนั้นสักครู่ เขาก็พยักหน้า"ฉันรู้ว่าพี่แอนดรูว์ต้องแบล็กเมล์คุณให้แต่งงานกับฉันในครั้งแรกแน่ พอคิดเรื่องที่คุณอกหักแล้ว คุณคงไม่เต็มใจจะแต่งงานในตอนนั้นแน่นอนค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับต้องมาแต่งงานผู้หญิงที่คุณแทบไม่รู้จัก ช่วยบอกทีได้ไหมคะว่าพี่เขาใช้อะไรบังคับคุณ?"ฉันบอกได้ว่าเขาไม่อยากทำจริง ๆ แต่ฉันต้องการคำตอบ ฉันอยากรู้ว่าพี่แอนดรูว์สามารถจัดการเรื่องแต่งงานระหว่างเราได้อย่างไร“ฮาร์เปอร์…”“นะคะ?”“พอโรแวนแต่งงานกับเอวา พี่เขาก็ดูแย่ลงจริง ๆ พี่เขาดูไม่ดีเลย แอนดรูว์ได้หลักฐานว่าโรแวนดื่มเหล้าและใช้ยาเส

  • ธุลีใจ   บทที่ 474

    อย่างที่ฉันบอก ฉันให้อภัยเกเบรียลแล้ว แต่ทำไมฉันยังคงยึดติดกับอดีตอีก? ทำไมฉันยังคงเปรียบเทียบเขากับตัวตนที่เขาเคยเป็น? เห็นได้ชัดว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว แต่สมองยังคงสงสัยเขาคุณรู้จักคำกล่าวที่ว่า 'ถ้าเขาอยากทำ เขาคงทำไปแล้ว?' นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเกเบรียลในตอนนี้ ในตอนนั้นเขาไม่อยากทำ เขาไม่อยากรักฉัน เขาไม่อยากสนใจฉัน ให้ตายสิ เขาแค่ไม่อยากได้ฉันด้วยซ้ำ... และเพราะเขาไม่อยากได้ฉัน เขาเลยปฏิบัติกับฉันเหมือนไม่สำคัญอะไรลึกลงไปฉันเข้าใจเขาดี ถ้าฉันคิดไม่ผิด เขาแต่งงานกับฉันหนึ่งปีครึ่งหลังจากที่ผู้หญิงคนนั้นหักอกเขา หากพี่แอนดรูว์รู้ พี่คงจะแบล็กเมล์เขาหรืออะไรบางอย่างเพื่อให้เกเบรียลแต่งงานกับฉันแน่ฉันไม่ได้คิดถึงมันตอนที่เราแต่งงานกัน อันที่จริงฉันไม่อยากคิดถึงมันเพราะมันจะทำลายภาพลวงตาที่ฉันสร้างว่าเขาแต่งงานกับฉันเพราะเขารู้สึกอะไรบางอย่างกับฉัน หลายปีต่อมาฉันยอมรับว่าเกเบรียลแต่งงานกับฉันเพราะเขาถูกบังคับให้ทำ ไม่ใช่เพราะเขาต้องการฉันทำได้แค่จินตนาการว่าเขารู้สึกอย่างไร เขาอาจจะยังไม่หายอกหักจากแฟนเก่า เขาโกรธและขมขื่น และอาจจะคิดว่าผู้หญิงทุกคนก็เหมือนกัน จากนั้นเขาถูกบังค

  • ธุลีใจ   บทที่ 473

    "ใช่เลย! เขาไม่ต้องหลบซ่อนอีกต่อไปแล้ว" เธอเปล่งประกายความสุขและความตื่นเต้นแพร่กระจายไปทั่ว "เขาถึงกับขอแต่งงานอย่างไม่เป็นทางการแล้วด้วยนะ""หมายความว่ายังไงก่อนเรื่องขอแต่งงานแบบไม่เป็นทางการ?" ฉันถามด้วยความงงงวยเมื่อมองจากท่าทีของคนอื่น พวกเธอก็สับสนเช่นกัน ปกติก็มีแค่ขอกับไม่ได้ขอแต่งงาน ถูกขอแต่งงานอย่างไม่เป็นทางการมันคืออะไรกัน"คืองี้ตอนที่ฉันบอกเขาว่าท้องน่ะ เขาบอกว่าเขาตั้งใจจะขอแต่งงาน แต่ด้วยเจ้าตัวน้อยนี่มาเซอร์ไพรส์เราก่อน เขาเลยจะเลื่อนการขอแต่งงานขึ้นมาเพื่อให้เราแต่งงานกันก่อนที่ลูกจะเกิดไง" เธอตอบ ดวงตายังคงเปล่งประกายด้วยความปิติและความสุขอย่างแท้จริงนั่นสมเหตุสมผล ฉันเข้าใจว่าทำไมเธอถึงเรียกคำพูดนั้นว่าเป็นการขอแต่งงานอย่างไม่เป็นทางการมีเสียงกรีดร้องด้วยความยินดีดังขึ้นขณะที่เรากอดเธอและแสดงความยินดีอีกครั้ง การที่ผู้ชายของเธอกลับมามีผลกระทบอย่างมาก ตอนนี้เธอดูเหมือนเป็นอิสระ ภาระที่เธอแบกไว้เมื่อครั้งที่เราเจอกันไม่มีอีกต่อไป เธอเปล่งประกายหลังจากที่รีเปอร์กลับมาอยู่กับเธอ"แล้วเธอล่ะ เล็ตตี้?" ฉันหันไปหาเธอ "เธอคบกับทราวิสมานานแล้วนะ ทำไมเขายังไม่ขอแ

  • ธุลีใจ   บทที่ 472

    ฉันถอนหายใจและพยายามควบคุมลมหัวใจ นี่คือบทสนทนาหนึ่งที่ฉันไม่เคยคิดว่าจะได้คุยกับลิลลี่ในวัยนี้ สิ่งหนึ่งที่ฉันรู้สึกขอบคุณคือเธอไม่ได้ถามว่าเด็กทารกมาจากที่ไหนกันแน่ นั่นคงจะเป็นบทสนทนาที่ยากมาก“เดี๋ยวแม่ขอกลับไปห้องก่อนแล้วค่อยออกไปนะ” ฉันบอกพวกเขาและเพิกเฉยต่อการพูดคุยเกี่ยวกับเด็กทารกไปเลย“ยังไม่ได้บอกผมเลยว่าจะไปไหน” เกเบรียลถามย้ำฉันคงจะบอกเขาไปแล้วถ้าไม่ได้มัวแต่นึกปัดป้องตนเองอยู่ แต่เขาทำให้ฉันไขว้เขวไปหมด“ฉันจะออกไปกินข้าวกลางวันกับพวกเอวาค่ะ”ฉันรู้สึกอยากจะยกเลิกนัดกับพวกเธอแล้วนอนพักผ่อน แต่ฉันตัดสินใจไม่ทำแบบนั้น เอวาโทรมาสองสามวันก่อนที่เราจะออกจากโตเกียว เธอเอ่ยถามว่าฉันจะไปร่วมทานอาหารกลางวันกับพวกเธอในวันเสาร์ได้ไหม ฉันตอบตกลงทันทีโดยไม่ได้คิดว่าฉันจะเหนื่อยแค่ไหนหลังจากเที่ยวบินสิบสามชั่วโมงรอยยิ้มปรากฏบนริมฝีปากของเขา "ดีใจจริง ๆ ที่เห็นว่าคุณมีเพื่อน"“ค่ะพวกเธอเจ๋งมากเลย”"พูดถึงเพื่อน" ลิลลี่พูดแทรก "คืนนี้เซียร่ามานอนค้างที่บ้านเรานะคะ"“แม่จำได้จ้ะ ลูกรัก” ฉันเอ่ยตอบ “หนูมีอะไรฝากมาแม่ซื้อเตรียมตัวสำหรับคืนนี้บ้างไหมลูก?”เธอส่ายหัว “หนูขอขนมกับน

  • ธุลีใจ   บทที่ 471

    ฮาร์เปอร์ฉันมองตัวเองในกระจกเป็นครั้งสุดท้าย ฉันสวมกางเกงยีนส์เอวสูงและเสื้อผ้าไหม ผมมวยขึ้นเป็นมวยยุ่ง ๆ และนอกจากมาสคาร่าและคอนซีลเลอร์ ฉันไม่ได้แต่งหน้ามากนักเรากลับถึงบ้านประมาณสามทุ่มได้ ลิลลี่หลับไปแล้ว ดังนั้นเราจึงเข้านอนทันทีที่ถึงบ้านฉันหยิบกระเป๋าออกมาจากห้องขณะมองดูเวลา ฉันมีเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงก่อนที่ฉันจะต้องไปที่ร้านอาหาร"จะไปไหนครับ?" เกเบรียลถามทันทีที่ฉันก้าวเข้าไปในห้องครัวให้ตายสิ ผู้ชายคนนี้ดูดีมากฉันรักเกเบรียลที่สวมใส่ชุดสูท เขาดูร้อนแรงมากในชุดสูทเสมอ แต่มันก็มีบางอย่างเวลาที่เขาแค่เท้าเปล่าพร้อมสวมเสื้อยืดรัดรูปและกางเกงวอร์ม แล้วก็เวลาที่เขาไม่ได้ใส่เสื้อแต่ใส่แค่กางเกงวอร์มเอวหลวม ๆ ด้วยไม่ว่าจะภาพลักษณ์แบบไหน ฉันก็เห็นมาทั้งหมดแล้ว และฉันยังตัดสินใจไม่ได้ว่าภาพลักษณ์ไหนที่ฉันชอบที่สุด ไม่แน่อาจเป็นตอนที่เขาไม่ใส่อะไรเลยก็ได้นะ "ฮาร์เปอร์?" เสียงขบขันของเขาดังขึ้น "น้ำลายไหลเยิ้มหมดแล้ว"ฉันหัวเราะเบา ๆ พยายามซ่อนความเขินอายไว้ "เยิ้มที่ไหนล่ะ"วันนี้เขาอยู่ในเสื้อยืดรัดรูปและกางเกงวอร์มตัวหนึ่งและเขาดูน่าอร่อยมาก ฉันอยากจะใช้ลิ้นตนเองทดสอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 470

    คอนนี่ฉันแทบจะยืนไม่อยู่ขณะที่ขึ้นลิฟต์ไปที่เพนท์เฮาส์ของฉัน นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวันผ่านไป ที่ฉันทำงานล่วงเวลาจนเป็นเรื่องปกติเพื่อที่ตนเองจะได้ไม่ต้องกลับมาเจอกับห้องนอนที่ว่างเปล่าฉันคิดถึงรีเปอร์มากจริง ๆตอนที่ฉันได้เห็นเขาครั้งแรกที่โรงพยาบาลหลังจากที่เอวาถูกยิงครั้งนั้น ฉันไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับแรงดึงดูดที่ฉันรู้สึกต่อเขา แน่นอนว่าแรงดึงดูดนั้นเกิดขึ้นทันที และฉันแค่รู้สึกเหมือนจิตวิญญาณตนเองรู้จักเขา แต่เขาคือรีเปอร์เชียวนะ ชายคนเดียวกับที่เคยลักพาตัวเพื่อนสนิทของฉันไปถ้าพูดกันตามตรง ฉันไม่เคยรู้สึกกับผู้ชายคนไหนเหมือนที่ฉันรู้สึกกับรีเปอร์ในครั้งแรกนั้นเลย ฉันไม่เคยรู้สึกดึงดูดกับผู้ชายตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉันเห็นพวกเขา มันเป็นสิ่งที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นเมื่อฉันได้รู้จักพวกเขามากขึ้น ทว่ากับรีเปอร์มันแตกต่างออกไป และนั่นทำให้ฉันกลัวแทบตายฉันคิดว่าการพบกันครั้งแรกนั้นจบแล้ว ว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ฉันได้เจอเขา และในไม่ช้าแรงดึงดูดก็จะจากหายไป และนั่นคือความตั้งใจที่เกิดขึ้น จนกระทั่งเขาปรากฏตัวที่หน้าห้องฉันในคืนหนึ่งฉันควรจะรู้สึกอับอายที่จะบอกว่าฉันยอมนอนกับเขาในคืนนั้

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status