เอวาฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างกระทันหัน ไม่รู้ว่าอะไรทำให้ฉันตกใจ อาจจะเป็นความฝัน หรือบางทีอาจเป็นความทรงจำ ฉันไม่แน่ใจ ภาพนั้นพร่ามัวและไม่ชัดเจนฉันค่อย ๆ แกะตัวเองออกจากโรแวนแล้วลุกขึ้นนั่ง มีชื่อหนึ่งที่ดังก้องอยู่ในหัวฉันตลอดเวลาอีธานเขาเป็นคนที่ฉันรู้จักหรือเปล่า? หรือเป็นคนที่ควรรู้จักใช่ไหม? เขาสำคัญกับฉันอย่างไร? คำถามเหล่านี้ผุดขึ้นมาไม่หยุดในขณะที่ฉันพยายามค้นหาคำตอบว่าเขาคือใครกันแน่แสงจันทร์สาดส่องเข้ามาในห้องนอนของเรา มันให้บรรยากาศที่ชวนขนลุก โดยเฉพาะเมื่อฉันเพิ่งตื่นมาด้วยความหวาดผวาจากบางสิ่งในหัว ฉันเปิดไฟเพื่อไล่ความหนาวเย็นและความรู้สึกแปลกประหลาดออกไป“เอวา เป็นอะไรไป?” เสียงงัวเงียของเขาทำให้ฉันหันไปมองเขาดูเย้ายวนเหลือเกิน ดวงตายังดูง่วงงุน ผมยุ่งเหยิง และหน้าอกเปลือยเปล่าทำให้ฉันกลืนน้ำลายลงคอไม่หยุด โรแวนช่างดูเหมือนงานศิลป์ชิ้นเอกที่ทั้งเร่าร้อนและหล่อเหลา ไม่มีที่ติใด ๆ เลย“เอวา?” เขาร้องเรียก นั่นทำให้ฉันผละกลับมาจากห้วงความคิดฉันควรจะบอกเขาดีไหม? นี่ก็เข้าวันที่สองสามแล้วนับตั้งแต่ฟื้นคืนสติ ฉันยังรู้สึกว่าเขากำลังปิดบังอะไรบางอย่างจากฉันอยู่
"คุณบอกฉันว่าฉันไม่เคยนอกใจ แล้วเรื่องของผู้ชายที่ชื่ออีธานนี่คืออะไร? ฉันไปลงเอยกับเขาได้ยังไง?"เนื่องจากเรากำลังพูดถึงเรื่องนี้ ฉันก็อยากได้คำตอบสำหรับคำถามที่ทำให้ฉันแทบจะเสียสติอยู่แล้วเหมือนกันโรแวนไม่ตอบในทันที ฉันเองก็เลือกที่จะเงียบ รอให้เขาเรียบเรียงความคิด ฉันรู้ว่าเขารักไอริส แต่ก็เห็นได้ชัดว่าอีธานเป็นเรื่องที่เขาไม่อยากพูดถึงฉันสงสัยว่าอีธานทำอะไรให้โรแวนไม่ชอบเขาขนาดนี้ และทำไมฉันถึงได้ไปมีอะไรกับผู้ชายคนนี้ มันเป็นการแก้แค้นโรแวนที่ไม่รักฉันหรือเปล่า? ไม่มั่นใจว่าแบบไหน? อาจเป็นการไปนอนกับผู้ชายที่เขาไม่ชอบก็ได้ฉันไม่ใช่คนที่เจ้าคิดเจ้าแค้น แต่ก็เข้าใจว่าความเจ็บปวดและหัวใจที่แตกสลายสามารถผลักดันคนเราให้ทำสิ่งที่ปกติเราไม่ทำได้“ตอนที่เอมม่ากลับมา ผมต้องการกลับไปอยู่กับเธอ” เขาเริ่มพูดคำพูดนั้นทำให้หัวใจฉันเหมือนโดนบีบ ฉันรู้อยู่แล้วว่าวันหนึ่งสิ่งนี้อาจเกิดขึ้นหากเอมม่ากลับมา เพียงแต่ไม่คิดว่ามันจะเจ็บขนาดนี้“ผมรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ดีนักถ้าเราสองคนจบกับแบบกะทันหัน เราจำเป็นต้องค่อย ๆ ทำให้ลูกเข้าใจว่าเราจะไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกแล้ว คุณก็เห็นด้วยแล้วผมก็เ
“แล้วอีธานกับฉันก็คบหากันหลายเดือนเลยใช่ไหม?” ฉันเอ่ยถาม“ใช่”“งั้น ฉันก็ต้องมีอะไรกับกับเขาตลอดช่วงนั้น มันก็เลยเป็นคำตอบเรื่องที่ฉันตั้งท้องสินะ นี่เราไม่ได้ป้องกันตอนมีอะไรกันเหรอ?” ฉันโพล่งเสียงในหัวออกมาจนหมด ฉันครุ่นคิดเรื่องนี้จนลืมไปเสียสนิทว่าโรแวนนั่งอยู่ข้างฉันเขาโอดครวญออกมา คำพูดเหล่านี้ผ่านฟันที่กัดกันแน่น “เอวา ช่วยหยุดพูดถึงผู้ชายคนอื่นกับเรื่องเซ็กซ์พร้อมกัน ๆ ทีเถอะ ผมไม่อยากคิดอะไรมากแล้ว”ฉันเองก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะมีมือผู้ชายคนอื่นเข้ามาโอบกอดร่างฉันไว้ ดังนั้นฉันจึงเงียบไป มันยังคงเป็นเรื่องยากที่จะยอมรับว่ามีผู้ชายคนอื่นที่ได้สัมผัสและลิ้มรสฉัน และมันก็ยากเย็นเช่นกันที่จะยอมรับว่ามีผู้ชายคนอื่นเข้ามาสาดใส่อยู่ในร่างกายฉันเช่นกันฉันสลัดความคิดเหล่านั้นออกไป และกลับมาจดจ่อพลางเอ่ยถามคำถามที่ฉันอยากได้ยินคำตอบมากที่สุด“แล้วคุณล่ะ? คุณมีอะไรกับเอมม่าไหม?”หัวใจของฉันเต้นระรัวด้วยความรู้สึกเจ็บปวดขณธนั่งรอฟังคำตอบจากโรแวนสายตาสีเทาพุ่งตรงเข้ามาหาฉันขณะปากเอ่ยตอบ “ไม่เลย ผมไม่เคยมีอะไรกับเอมม่าเลย ขนาดจูบยังไม่เคยเลยด้วยซ้ำเพราะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที
“ผมยังคิดว่าผมน่าจะอยู่บ้านกับคุณและไอริสดีกว่านะ” ผมพูดพลางสวมเสื้ออย่างไม่เต็มใจ ดวงตาสบกับดวงตาสีน้ำตาลคู่สวยของเอวาผ่านกระจกเธอนั่งอยู่บนเตียงในชุดนอน โนอาไปโรงเรียนแล้ว แม้เจ้าลูกชายจะไม่อยากไปนัก แต่ก็ไม่มีทางเลือก“คุณต้องไปทำงานนะคะ” เธอยืนยันในขณะที่ลุกขึ้นและเดินมาหาผมมือของเธอลูบเบา ๆ บนหน้าอกผมก่อนจะเริ่มติดกระดุมเสื้อให้ สัมผัสนี้พาผมย้อนกลับไปถึงเมื่อคืนที่ผ่านมารสจูบของเธอยังคงติดอยู่บนริมฝีปากอยู่ ภาพของเธอที่ถูไถตัวเองกับแรงปรารถนาของผมยังคงชัดเจนในความคิด เธอช่างดูสวยงามและเย้ายวนในเวลานั้น จนผมอยากจะฉีกชุดนอนสั้น ๆ นั่นออกแล้วครอบครองเธอจนเราสองไม่มีแรงลุกขึ้นเดินความรู้สึกปรารถนาอันรุนแรงนั้นทำให้ผมตกใจ มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่ ร้อนแรง และครอบงำอย่างที่ผมไม่เคยคิดว่าจะรู้สึกกับเธอผมสัมผัสถึงความเปียกชุ่มจากความต้องการของเธอผ่านกางเกงใน และมันต้องใช้ความพยายามทั้งหมดในตัวผมเพื่อหยุดความรู้สึกนี้ผมก็หมายความตามที่พูด ผมจะไม่แตะต้องเธอ จนกว่าหัวใจเธอจะมอบคำว่ารักให้กับผมอีกครั้ง และจนกว่าเธอจะเชื่อว่าผมรักเธอจริง ๆ และไม่มีใครนอกจากเธอ“ก็นั่นแหละ เอวา ผมไม
ผมจ้องกระดาษตรงหน้าด้วยสายตาเบลอ คำที่เขียนอยู่บนกระดาษพร่ามัวจนจับใจความไม่ได้ เพราะสมาธิของผมหลุดลอยไปหมดใจของผมยังคงอยู่กับเอวาที่บ้าน ผมอดไม่ได้ที่จะกังวล แม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่คอยคุ้มกันดูแลพื้นที่ทั้งบริเวณแต่ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นล่ะ? แล้วผมไม่ได้อยู่ที่นั่นเพื่อปกป้องเธอนั่นคือความกังวลที่ใหญ่ที่สุดในตอนนี้ ผมเคยชะล่าใจมาแล้วครั้งหนึ่งนั่นคือตอนที่เธอโดนยิง และผมกลัวจนจับใจว่าสิ่งนั้นจะเกิดขึ้นอีกเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมพุ่งไปหยิบเอาไว้ แต่ต้องผิดหวังเมื่อเห็นชื่อรีเปอร์ปรากฏขึ้นบนหน้าจอผมเพิ่งซื้อโทรศัพท์ใหม่ให้เอวาเมื่อสองสามวันก่อน และหวังว่าสายที่โทรมาจะเป็นเธอผมถอนหายใจแล้วกดรับสาย “มีอะไร?”“ไปกินรังแตนอะไรมาล่ะนั่น?” เสียงของเขาบ่นกลับมาผมยังไม่ชอบไอ้หมอนี่ และเขาเองก็คงเกลียดผมเข้าไส้ แต่เพื่อเอวาและไอริส เราต้องร่วมมือกันเพื่อปกป้องทั้งสอง“นี่แกโทรมาเพราะมีเรื่องสำคัญ หรือแค่จะหาเรื่องฉันกันแน่?” ผมวางกระดาษตรงหน้าลงแล้วเอนหลังพิงเก้าอี้ “ถ้าไม่มีอะไรสำคัญ จะวางสายแล้วนะ เพราะตอนนี้ไม่อยู่ในอารมณ์จะรับมือกับแก” เขาเงียบไปนานจนผมเกือบคิดว่าเขาวางสายไปแล้ว แต
เอวาตอนนี้มันชัดเจนแล้วว่าฉันคิดถึงสามีมากแค่ไหน เพิ่งผ่านไปแค่ไม่กี่ชั่วโมงตั้งแต่โรแวนออกจากบ้าน แต่ฉันแทบอยากจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาเขาเต็มทนทั้งที่ฉันเป็นคนยืนยันให้เขาไปทำงานวันนี้เองแท้ ๆ แต่ตอนนี้กลับเสียใจที่พูดแบบนั้นฉันทำงานบ้านทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว ซึ่งจริงๆ ก็ไม่มากนัก เพราะเทเรซารับหน้าที่ดูแลเรียบร้อยหมดแล้ว ฉันเบื่อจนแทบบ้าเพราะไม่มีอะไรให้ทำ ไอริสก็หลับเกือบตลอดเวลา ส่วนเทเรซาก็ยุ่ง ไม่มีใครให้คุยด้วยเลยฉันลองอบขนมดู แต่ก็ล้มเหลวเหมือนกับตอนทำแพนเค้ก ฉันจำสูตรไม่ได้และยังคำนวณส่วนผสมผิดอีกฉันถอนหายใจพลางหยิบเครื่องเบบี้มอนิเตอร์แล้วเดินออกไปที่สวนหลังบ้าน ฉันมุ่งตรงไปยังศาลาแสนสวยที่ทำให้ฉันตะลึงตั้งแต่แรกเห็นฉันไม่เคยจำได้ว่าศาลานี้เคยอยู่มาก่อน บางทีมันอาจถูกสร้างขึ้นในช่วงสี่ปีที่ฉันสูญเสียความทรงจำไปความจำเสื่อมนี้เป็นได้ทั้งพรและคำสาป มันเป็นพรเพราะโรแวนเปลี่ยนไปมาก เขากลายเป็นทุกอย่างที่ฉันเคยต้องการ ฉันไม่มีอะไรจะบ่นอีกแล้ว ตอนนี้เราเป็นครอบครัวที่ฉันเคยฝันถึงในที่สุดแต่มันก็เป็นคำสาป เพราะมีหลายสิ่งที่เปลี่ยนไป หลายสิ่งใหม่หมด หากพูดกันตามจริง ฉ
มันช่างสับสนและน่าหงุดหงิดสิ้นดี ฉันเกลียดที่ต้องฟังเรื่องราวชีวิตตัวเองจากปากคนอื่น มันควรจะเป็นสิ่งที่ฉันจำได้เอง ไม่ใช่ฟังราวกับเป็นนิทานที่ใครสักคนเล่าให้ฟัง“เมื่อกี้เธอบอกว่าเข้ามาในชีวิตฉันหลังจากที่เอมม่ากลับมา แต่เธอเหมือนรู้เรื่องนี้ดี คือมันเป็นไปได้ยังไงคะ เราเจอกันยังไงเหรอคะ?”“ทราวิสกับฉันคบกันอยู่จ้ะ เราสองคนคบหากันได้เกือบ ๆ สองปีแล้ว ที่ฉันรู้เรื่องเธอกับเอมม่าดีขนาดนี้ก็เป็นเพราะว่าทราวิสเล่าให้ฉันฟังน่ะสิ”เรื่องราวยิ่งน่าสนใจเข้าไปอีก ฉันไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอเรื่องแบบนี้เลย เพราะเท่าที่รู้ทราวิสเกลียดฉันขนาดนั้น ฉันนึกว่าเขาน่าจะเตือนแฟนตัวเองให้เลี่ยงไม่ยุ่งกับฉันเสียด้วยซ้ำแล้วเราสองคนมาเป็นเพื่อนกันได้อย่างไรล่ะ? ทราวิสเป็นคนที่ฉันไม่ชอบเลย และฉันมั่นใจว่าแฟนเขาก็น่าจะเป็นแบบเดียวกัน เพราะอย่างที่เขาว่ากัน คนประเภทเดียวกันมักจะอยู่ด้วยกัน ถูกไหม?เธอคงเห็นความสงสัยในสายตา เธอจึงเอื้อมมือมาจับมือฉัน“ฉันรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่นะ แต่มันไม่ใช่แบบนั้นเลยจ้ะ หลังจากที่ทราวิสเล่าเรื่องให้ฟัง ฉันก็พยายามไม่ยุ่งกับเรื่องนี้ ไม่ใช่เพราะว่าฉันอยากเข้าข้างพวกเขาหรื
เขาเดินกระทืบเท้าอย่างหนักแน่นตรงมาหาเรา เมื่อมาถึงเขากระชากฉันลุกจากเก้าอี้แล้วจูบฉันทันทีปกติฉันไม่เคยรังเกียจจูบของเขาเลย แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป มีบางอย่างในจูบนั้น มันแฝงด้วยความโกรธและความขมขื่นเอาไว้ มันทั้งรุนแรงและบาดลึก ราวกับว่าเขากำลังแสดงความเป็นเจ้าของ หรือพยายามลบชื่อของอีธานออกจากริมฝีปากของฉันฉันยืนนิ่งไม่ตอบสนองต่อจูบของเขา เพราะฉันต้องการคำตอบ และเขาเองก็ขัดจังหวะเล็ตตี้ก่อนที่เธอจะบอกฉันว่าอีธานอยู่ที่ไหนด้วยเมื่อสังเกตเห็นว่าฉันไม่ตอบสนองต่อจูบของเขา เขาก็หยุดและถอยหลังไป ความโกรธในดวงตาสีเทาเข้มยังเดือดพล่าน แต่นั่นไม่ทำให้ฉันหวั่นไหวเลย เพราะตอนนี้สิ่งที่ฉันต้องการคือคำตอบเกี่ยวกับชายคนหนึ่งที่ฉันคิดว่าตัวเองกำลังตกหลุมรัก ชายที่สามารถทำสิ่งที่ฉันคิดว่าเป็นไปไม่ได้ นั่นคือพาฉันออกจากชีวิตของโรแวน"ฉันต้องการคำตอบ โรแวน ต้องการเดี๋ยวนี้" ฉันพูดเสียงกร้าวพร้อมกับกอดอก "บอกฉันมา อีธานอยู่ที่ไหน"พายุในดวงตาสีเทาเข้มของเขากลับทวีความรุนแรงขึ้นแทบจะเป็นความวุ่นวาย"ผมไม่อยากได้ยินชื่อของมันอีก" เขาคำรามด้วยเสียงต่ำพร้อมกำหมัดแน่น "ผมบอกคุณไปแล้วว่าอะไรสำคัญ
“แล้วทำไมมานั่งดื่มเหล้าอยู่ที่นี่แทนที่จะอยู่บ้านเป็นเพื่อนเอวา” เกเบรียลเอ่ยถามขณะเข้ามานั่งข้างผมตอนนี้ผมอารมณ์ไม่ดีมากนักถึงขั้นที่มองว่าสิ่งต่าง ๆ จากบริษัทน่ารำคาญ รวมถึงน้องชายตนเองด้วย ผมจึงเมินเฉยต่อคำถามเขาและดื่มวิสกี้เข้าไปอีกหนึ่งอึกผมนั่งอยู๋ในโซนวีไอพีของหนึ่งในร้านเหล้าที่เราชื่นชอบ เพลงเปิดเสียงดังกระหึ่ม ผีเสื้อราตรีต่างพากันโยกย้านและออกลวดลายกันอย่างสนุกสนาน พร้อมน้ำเมาที่ลอยล่อง และไม่สิ่งใดเป็นผลกับผมเลยค่ำคืนนี้ผมเพียงต้องการลืมเลือน ลืมภาพแห่งความทุกข์ระทมของเอวา ผมรู้ดึว่าอาจเป็นเป็นเพิ่งเรื่องเพ้อเจ้อหากคิดจะลืมเลือนนั้นเพราะว่าภาพนั้นยังคงฝังแน่นในจิตใจ แต่ผมก็อยากลองลืมภาพเหล่านั้นการอยู่บ้านกลายเป็นสิ่งที่น่าอึดอัดใจขึ้นมา บรรยากาศแห่งความรื่นรมย์น่ายินดีไม่มีอีกต่อไปแล้ว ผมปรารถนาให้มันกลายไปเป็นอย่างเดิมที่ควร แต่ก็ไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไร ผมไม่รู้เลยจริง ๆ ว่า จะต้องแก้ไขเรื่องเหล่านี้อย่างไรดีคำพูดที่เคยออกจากปากไม่มีวันหวนกลับและไม่มีวันลบออกไปได้ ผมไม่สามารถย้อนเวลาไปแก้ไขความผิดพลาดได้ หากเป็นไปได้ ผมคงรีบลงมือทำไปแล้วเพราะผมรักเธอเหลือเ
หัวใจของผมแทบหยุดเต้นลง เมื่อความกลัวว่าเธอจำเรื่องทุกอย่างแล้วประดังเข้ามา“บอกผมหน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้น เอวา ผมช่วยไม่ได้ถ้าผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” ผมวิงวอนเธอน้ำตาของเธอยังคงไหลรินลงมาบนใบหน้า ความเจ็บปวดรวดร้าวบดบังดวงตาของเธอ มันทำให้หัวใจผมสลายจริง ๆ ที่เห็นเธอเป็นแบบนี้“ความทรงจำฉันกลับมาแล้ว” เธอกล่าวก่อนจะเริ่มหัวเราะราวกับเป็นบ้า “รู้ไหม ฉันอยากมีเซ็กส์กับคุณ ฉันอยากนอนกับคุณ แถมฉันยังบอกให้ตัวเองคุยกับคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะฉันต้องการคุณมาก พอฉันเห็นคุณช่วยตัวเองในห้องน้ำ ฉันก็อยากจะร่วมด้วย ฉันถึงกับจินตนาการว่าตัวเองกำลังออรัลเซ็กส์กับคุณในขณะที่คุณหลั่งบนหน้าอกของฉัน”ผมขมวดคิ้วแต่ก็เงียบไว้ อะไรบางอย่างบอกผมว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น และผมจะไม่ชอบสิ่งที่เธอจะพูดต่อไป “ฉันเคยรู้สึกกระหายคุณ โหยหาคุณ แต่สมองของฉันกลับย้ำเตือนบางสิ่งที่คุณเคยพูด” เธอสะอื้น “คุณอยากรู้ไหมว่ามันคืออะไร”ผมไม่อยากรู้ เพราะผมรู้ว่ามันจะทำลายการพัฒนาเล็ก ๆ ที่เรามีร่วมกัน แต่ผมก็ยังพยักหน้าตอบ“คุณพยายามจะทำให้ดีในการมีเซ็กส์ แต่คุณไม่เก่งเลย ทุกครั้งที่ผมอยู่ข้างในคุณ คนที่ผมต้องการคือเอ
โรแวนการเดตนั้นสมบูรณ์แบบ ถ้าผมเลือกได้ ผมคงไม่อยากให้มันจบลง ทุกช่วงเวลาที่ผมอยู่กับเธอเหมือนอยู่ในสวรรค์ และผมหวังว่าผมจะได้อยู่กับเธอเร็วกว่านี้ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมผมถึงไม่เคยให้โอกาสตัวเองได้มีความสุขกับเอวาเลย ผมรู้สึกแย่ที่เราอาจจะได้มีความสุขกันมาตลอดหลายปีนี้ถ้าผมปล่อยเอมม่าไปความรักที่ผมมีต่อเอมม่าคือความรักของวัยรุ่น มันคงไม่ยืนยาว เมื่อมันถูกทดสอบก็พังทลายลง สิ่งที่ผมรู้สึกต่อเอวานั้นเป็นแบบผู้ใหญ่ แข็งแกร่งและลึกซึ้งกว่าสิ่งที่ผมคิดว่ามันคือความรักตอนอายุสิบเจ็ดผมเริ่มเชื่อว่าเกเบรียลพูดถูก ความรักไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว เหมือนอย่างที่เขาพูด ผมคิดว่าลึก ๆ แล้วผมรักเอวา ผมแค่ปล่อยให้ความรู้สึกผิดที่ทำร้ายเอมม่าครอบงำผม ผมยื้อเอมม่าไว้เพราะรู้สึกว่าผมต้องการควบคุม ซึ่งการแต่งงานกับเอวาและอยู่กับเธอก็ทำให้รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของผมผมยังเชื่อด้วยว่าการปล่อยให้ความรู้สึกของผมที่มีต่อเอวาเติบโตขึ้นนั้นเหมือนกับการทรยศต่อความรักที่ผมมีต่อเอมม่า สิ่งที่ผมไม่รู้ในตอนนั้นก็คือความรักนั้นได้ตายไปนานแล้วผมถอนหายใจและถอดเสื้อผ้าออกก่อนจะมุ่งหน้าไปอา
“งั้นก็ตกลงตามนี้ เราจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ในบ้านนี้” โรแวนพูดขณะที่ฉันจ้องมองเขาฉันรู้สึกตกใจ แต่ก็มีความสุขไปพร้อม ๆ กัน ฉันอยากเปลี่ยนอะไรหลายอย่างมานานแล้ว แต่ฉันก็รู้ว่าเขาคงไม่ยอมแน่ไม่รู้สิ เหมือนกับว่านี่เป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเขาปล่อยวางจากเอมม่าได้จริง ๆ และแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจฉันจริง“โอเค” ฉันยิ้มให้เขา ปล่อยให้ความจริงนั้นซึมลึกเข้าไปในใจ"เราสามารถปรึกษากับนักออกแบบตกแต่งภายในได้พรุ่งนี้ ผมมั่นใจว่าเบียงก้า เมเยอร์ส จะสามารถรับงานเราได้ แม้เธอจะมีตารางงานแน่นแค่ไหนก็ตาม คุณสามารถบอกเธอได้เลยว่าอยากได้อะไรแล้วปล่อยให้เธอจัดการ หรือจะเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยก็ได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคุณ"และเซอร์ไพรส์ก็ยังไม่หมด ทุกคนรู้จักเบียงก้า เมเยอร์ส เธอเป็นนักออกแบบตกแต่งภายในที่เก่งที่สุดในประเทศ และเธอทำงานเฉพาะให้กับคนรวยและผู้มีอิทธิพลเท่านั้น ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันจะได้ร่วมงานกับเธอ“ตกลง” ฉันบอกเขาโดยพยายามเก็บความตื่นเต้นไม่ให้ล้นจนเกินไป “แต่ฉันอยากให้คุณกับโนอามีส่วนร่วม เพราะยังไงที่นี่ก็เป็นบ้านของพวกคุณเหมือนกัน และฉันก็อยากให้พวกคุณรู้สึกสบายใจที่นี่”"ผ
“ใช่แล้ว มันเป็นเรื่องจริง” ในที่สุดเขาก็ตอบฉันตกใจมาก ฉันคิดเสมอว่ามันเป็นแค่ข่าวลือโง่ ๆ“มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน แล้วตอนนั้นคุณอายุเท่าไร? ไม่ใช่ว่าฉันตัดสินหรืออะไรทำนองนั้นนะ”“ผมอายุสิบเจ็ด ส่วนหล่อนอายุยี่สิบหก ผมคิดว่า... ผมเป็นเด็กหนุ่มฮอร์โมนพลุ่งพล่าน แถมแมนดี้โคตรเซ็กซี่ ผมอยากมีเซ็กส์กับคนที่อายุมากกว่าผมเสมอ และหล่อนก็ยิ่งทำให้มันง่ายขึ้นเมื่อหล่อนเอาหน้าอกของหล่อนมาแนบหน้าผม หรือกางขาออกในขณะที่ใส่กระโปรงตัวจิ๋วทุกครั้งที่หล่อนเรียกผมไปที่โต๊ะของหล่อน”ฉันประทับใจแต่ในขณะเดียวกันก็รังเกียจแมนดี้ ฉันหมายถึงเธอเป็นครูนะ ให้ตายเถอะ แต่กลับพยายามล่อลวงนักเรียนของตัวเอง ฉันเองก็เป็นครูเหมือนกัน และฉันจะไม่มีวันก้าวข้ามเส้นนั้นเด็ดขาด“คุณเป็นคนขอเองนะ” โรแวนพูดเมื่อสังเกตเห็นหน้านิ่วคิ้วขมวดของฉัน “ฉันรู้ แต่ฉันรู้สึกไม่สบายใจที่ครูตั้งใจจะล่อลวงนักเรียนอายุสิบเจ็ดปี”เขาเพียงแค่ยักไหล่ เหมือนกับว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ หลังจากนั้นการสนทนาก็ผ่อนคลายลง ฉันเพลิดเพลินไปกับมันอย่างเต็มที่ ราวกับมันเป็นความฝันและฉันไม่อยากให้เดตจบลง เราคุยกันทุกเรื่องเป็นชั่วโมงภายใต้แสงจันท
ฉันจ้องมองเขาอย่างมึนงง ไม่รู้จะพูดหรือทำอะไรดี“คุณชอบกลิ่นหอม และคุณชอบกลิ่นที่มีเบอร์รี่ผสมอยู่มากกว่า ขอแค่น้ำหอมหรือสบู่เหลวอาบน้ำมีส่วนผสมของเบอร์รี่ คุณก็จะยอมซื้อ คุณไม่มีอาหารจานโปรดจริง ๆ เพราะคุณจะกินอะไรก็ได้ตราบใดที่มันอร่อย คุณชอบอาบน้ำอุ่นนาน ๆ เพราะมันทำให้คุณผ่อนคลาย คุณเกลียดความสูง คุณเกลียดการไปสาย และคุณเกลียดการขึ้นเครื่องบินด้วย คุณเกลียดแมลงสาบ คุณมักจะพูดว่าอยากให้บ้านของคุณเต็มไปด้วยแมงมุมมากกว่าพวกแมลงสีน้ำตาลน่ารังเกียจนั่น... ให้ผมจะพูดต่อไหม”เขาไม่ให้โอกาสฉันตอบ“คุณชอบรวบผมเป็นหางม้าและมวยผม คุณไม่ชอบแต่งหน้ามากนักและแต่งหน้าเฉพาะเมื่อจำเป็นหรืออยากแต่ง คุณไม่ชอบนอนหงายเพราะมันทำให้คุณนึกถึงคนตายในโลงศพ คุณเกลียดความไม่เป็นระเบียบและสีเหลืองด้วย…”ฉันยกมือให้เขาหยุดพูดเพราะฉันพูดอะไรไม่ออกเลย ทุกอย่างที่เขาพูดเป็นความจริง ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเขารู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไง เพราะเราไม่เคยสนิทกันมาก่อน ครอบครัวชาร์พคงไม่ได้บอกเขาหรอก เพราะพวกเขาแทบจะไม่รู้จักฉันด้วยซ้ำ“ได้ยังไง?” ฉันพูดติดขัด ในหัวไม่สามารถประมวณผลทุกอย่างได้“ผมบอกคุณแล้ว” เขากล่าวพร้
ฉันมองออกไปนอกรถแล้วตะลึงงัน สถานที่แห่งนี้ดูราวกับเป็นสวรรค์ มันเป็นพื้นที่โล่งกว้างที่มีหญ้าเขียวขจีและคงมีดอกไม้มากมายนานาพันธุ์ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันชอบที่สุดของที่นี่ แต่มันคือเพราะทิวทัศน์ต่างหาก ดวงดาวนับพันเปล่งแสงระยิบระยับราวกับกำลังเห็นด้วยกับเดตนี้“คุณชอบไหม” โรแวนถาม และคำตอบเดียวของฉันคือการพยักหน้าฉันค่อย ๆ ออกจากรถ สูดอากาศบริสุทธิ์และชมทิวทัศน์ที่สวยงามจับใจ ฉันเดินไปเกือบถึงขอบถนนและมองลงไปที่เมืองเบื้องล่าง ฉันไม่รู้ว่าโรแวนไปเจอสถานที่แห่งนี้ได้อย่างไร และฉันก็ไม่สนใจฉันหลับตาลง รู้สึกว่าความกังวลทั้งหมดมลายหายไป นี่คือฉากในแบบที่ฉันชอบ ฉันชอบมันมากเมื่อฉันหันกลับไป ฉันพบว่าโรแวนจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว มีผ้าห่มและตะกร้าปิกนิกพร้อมสิ่งที่ฉันเดาว่าเป็นช็อกโกแลต สตรอเบอร์รี่และไวน์ นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารที่เราสั่งอยู่ด้วยฉันเดินช้า ๆ ไปหาเขา ถอดรองเท้าและนั่งลงข้าง ๆ เขา “นี่มันสุดยอดเลย โรแวน ขอบคุณนะคะ”เขาพยักหน้า “อะไรก็ตามที่จะทำให้คุณมีความสุขที่รัก ตอนนี้เรามาทานอาหารกันเถอะ เพราะผมหิวจะแย่แล้ว”เราทานอาหารกันเงียบ ๆ ฉันใช้โอกาสนี้ชื่นชมทิวทัศน์
การเดินทางใช้เวลาไม่นานนัก และนอกจากการคุยกันเล็กน้อยเป็นครั้งคราว เราก็เงียบกันเกือบตลอดเวลา แต่ก็เป็นครั้งแรกเท่าที่ฉันจำได้ ที่ความเงียบระหว่างเราให้ความรู้สึกสบายใจในช่วงเวลาที่หาได้ยากที่เราขับรถไปด้วยกัน โรแวนมักจะพยายามทำเป็นไม่สนใจฉัน ขณะที่ฉันพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อชวนเขาคุย ซึ่งมันมักจะทำให้บรรยากาศดูอึดอัดและแปลก ๆ เสมอ“คุณยิ้มทำไม” ฉันถามเขาเมื่อเขาลงจากรถเพื่อช่วยฉันออกจากรถรอยยิ้มของเขาควรจะเป็นอาวุธทำลายล้างสำหรับผู้หญิงโดยแท้ แน่นอนว่าเขาหล่ออยู่แล้ว แต่เมื่อโรแวนยิ้ม มันยิ่งทำให้ความหล่อของเขาก้าวไปอีกระดับหนึ่ง“ผมจะมีความสุขที่พาผู้หญิงของตัวเองออกมาข้างนอกไม่ได้เหรอ” เขาถามพร้อมเอียงศีรษะเล็กน้อยไม่รู้ทำไม ฉันถึงหัวเราะคิกคักขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ปกติฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่จะหัวร่อต่อกระซิก ฉันไม่เคยหัวเราะแบบนี้มาก่อนเลยทั้งชีวิต จริง ๆ แล้วฉันเคยคิดว่ามันดูน่ารังเกียจด้วยซ้ำเมื่อเห็นผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่แล้วทำแบบนี้ แต่ตอนนี้ฉันกลับเป็นคนที่ทำเสียเอง“ขอโทษที ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงหัวเราะแบบนั้น” ฉันเอ่ยขอโทษขณะที่พยายามรวบรวมสติเขาจับมือฉัน และฉันก็คล้อ
ฉันมองตัวเองในกระจก และมีความสุขกับลุคของตัวเอง ฉันเกล้าผมเป็นมวยต่ำและม้วนผมเป็นลอนเข้ากับกรอบหน้า คืนนี้ฉันต้องการอะไรที่แปลกใหม่ เพราะเป็นเดตครั้งแรกของฉันกับโรแวน ฉันจึงตัดสินใจเลือกอายแชโดว์สีสโมกี้ที่ดูไม่ฉูดฉาดแต่เย้ายวนกับลิปสติกสีแดงส่วนชุดเดรส ฉันเลือกชุดเดรสสีดำยาวระดับเข่า มีคอเสื้อเว้าลึกที่ยึดด้วยสายรัดบาง ๆ เผยให้เห็นเนินอกเล็กน้อย พอให้ดูยั่วยวนแต่ไม่เกินงาม อีกทั้งเป็นชุดเปิดหลังซึ่งฉันมั่นใจว่าจะทำให้บรรดาหนุ่ม ๆ ต้องคลั่งฉันยังคงจ้องมองตัวเองในขณะที่ลูบมือไปตามเนื้อผ้าที่นุ่มนวล ชุดนี้เข้ารูปพอดีตัว และต้องขอบคุณที่ฉันเพิ่งผ่านช่วงตั้งครรภ์ เลยทำให้ตอนนี้ฉันมีส่วนเว้าโค้งที่พอดิบพอดี“โอ้โหที่รัก ถ้าฉันไม่ได้ชอบผู้ชาย ฉันคงจีบเธอไปแล้วแน่ ๆ” เล็ตตี้กล่าวชมด้วยน้ำเสียงปลื้มปริ่ม “เธอเซ็กซี่มาก แบบที่ไม่มีอะไรจะเทียบได้เลย” “เธอพูดถูก” โครินพูดเสริมพวกเธอกลับไปเมื่อสองสามชั่วโมงก่อน ตอนนี้เรากำลังคุยกันทางวิดิโอคอล เพราะฉันต้องการฟังความคิดเห็นที่จริงใจของพวกเธอ เดตครั้งนี้สำคัญมาก อย่างที่ฉันบอก นี่เป็นเดตครั้งแรกของโรแวนกับฉัน ฉันจึงอยากให้ทุกอย่างออกมาสมบูร