แชร์

บทที่ 239

ผู้เขียน: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
“พ่อครับ แม่อยู่ไหนเหรอ? ผมถามลุงคาลว่าทำไมถึงมารับผมแทนแม่ แต่ลุงบอกว่าพ่อจะอธิบายทุกอย่างเอง” โนอาพูด น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลซึ่งแสดงออกผ่านใบหน้าอย่างชัดเจน

บ้าเอ๊ย นี่มันยากจริง ๆ ผมมีเวลามากมายเตรียมคำอธิบายเรื่องนี้เอาไว้ แต่ตอนนี้กลับพูดไม่ออกเลย

“แม่กำลังจะคลอดน้องใช่ไหม? เราเลยต้องมาโรงพยาบาลกันใช่ไหมครับ?” เขาย้ำถาม

ผมสูดลมหายใจลึกๆ เพื่อสงบสติอารมณ์ก่อนจะเอ่ยออกไป

“แม่เขาได้รับบาดเจ็บหนักมาก หนุ่มน้อย ตอนนี้หมอกำลังรักษาแม่อยู่ คุณหมอทุกคนกำลังพยายามกันมาก ๆ ให้แม่หายดีนะลูก”

หัวใจของผมแทบแหลกสลายเมื่อเห็นน้ำตาที่เอ่อคลอในดวงตาลูกชาย เด็กคนนี้ไม่ควรต้องมาเจอกับอะไรแบบนี้เลย เขาไม่ควรต้องมานั่งกังวลเรื่องแม่ที่เขารักมาก

“แล้วน้องล่ะครับ?” น้ำเสียงแหบพร่าเมื่อถามออกมา

ผมยิ้มให้เขา “ลูกมีน้องสาวนะ โนอา เหมือนที่ลูกต้องการเลย”

ดวงตาของเขาเบิกกว้าง ความตื่นเต้นและประหลาดใจแสดงออกชัดเจน จากนั้นรอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้า

“ไปเจอน้องได้ไหมครับ?”

“ตอนนี้ยังไม่ได้ลูก ต้องรอให้หมอตรวจน้องให้เรียบร้อยก่อน”

รอยยิ้มนั้นยังคงอยู่สักพักก่อนจะค่อย ๆ เลือนหายไป น้ำตาที่เขาพยายาม
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ธุลีใจ   บทที่ 240

    “โคม่า หมายความยังไงครับคุณหมอ?” ธีโอเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสั่นไหวอย่างเห็นได้ชัดหัวใจของผมเต้นกระหน่ำราวกับจะทะลุออกมานอกอก ราวกับว่ามันกำลังปล่อยหมัดกระแทกเข้าหน้าอกอย่างไม่หยุดหย่อนผมพยายามคิดให้ชัดเจน แต่สมองกลับหยุดทำงาน ทุกอย่างดูเหมือนจะช้าลงขณะที่หมอกำลังพูด สิ่งเดียวที่ผมได้ยินคือเสียงหึ่ง ๆ ดังระงมในหูผมเซถอยไปนั่งลงบนเก้าอี้ที่เคยลุกออกมา เกเบรียลและพ่อพยายามแตะตัวปลอบผม แต่ผมสะบัดมือพวกเขาออก ผมไม่ต้องการคำปลอบใจจากใคร ผมต้องการให้หมอบอกว่าการผ่าตัดสำเร็จแล้ว และอีกไม่กี่ชั่วโมงเอวาจะฟื้นขึ้นมาได้“คนไข้ถูกยิงทั้งหมดสี่นัดครับ หนึ่งนัดที่ศีรษะ หนึ่งนัดที่หน้าอก อีกหนึ่งที่ช่องท้อง และนัดสุดท้ายที่ต้นขา เราสามารถนำกระสุนสามนัดออกได้สำเร็จ ยกเว้นกระสุนตรงกระโหลกศีรษะซึ่งฝังลึกเกินไปครับ ถ้าฝืนพยายามเอาออกมา คุณเอวาอาจเสียชีวิตได้”โธ่เอ้ย ผมไม่รู้ว่าจะรู้สึกหรือคิดอย่างไรดี หมอกำลังบอกเราว่าเอวาจะต้องอยู่กับกระสุนที่ยังฝังอยู่ในหัวไปตลอด ชีวิตมันยุติธรรมตรงไหน? เมื่อเช้านี้ทุกอย่างยังปกติดีอยู่แท้ ๆ แต่แล้วทุกอย่างจะเลวร้ายลงเสียอย่างนั้น‘อย่างน้อยเธอก็ยังมีชีวิตอยู่นะ

  • ธุลีใจ   บทที่ 241

    "คุณหมอบอกว่าไม่แน่ใจเลยลูก เราทำได้แค่รอและภาวนา" ผมตัดสินใจพูดความจริงถ้าผมโกหก แล้วพระเจ้ากลับเล่นตลกจนเกิดเอวาไม่ฟื้นขึ้นมา โนอาอาจเกลียดผมไปตลอดชีวิตเพราะหลอกว่าแม่เขาสบายดีก็ได้โนอาไม่ได้พูดอะไรออกมาเพียงแค่จ้องหน้าผมสักพักแล้วก้มมองพื้น หลังจากความเงียบครู่ใหญ่ ผมก็หันไปพูดกับคนอื่น ๆ"วันนี้เราเยี่ยมเขาเอวากันไม่ได้แล้ว ผมว่าทุกคนกลับบ้านไปพักผ่อนก่อนดีกว่า แล้วค่อยมาวันพรุ่งนี้นะครับ"“ไม่” โครินและเล็ตตี้พูดขึ้นพร้อมกัน ตามมาด้วยโนราและธีโอผมพยายามเกลี้ยกล่อมว่าจะส่งข่าวบอกพวกเขาทันทีหากมีอะไรเกิดขึ้น แต่ไม่มีใครยอมใจอ่อนกันเลย สุดท้ายทุกคนก็ตัดสินใจอยู่ต่อ เว้นแต่เอมม่า คาลวิน เคท และพ่อแม่ของผมพ่อแม่ผมยอมกลับบ้านก็เพราะว่าผมไม่อยากให้โนอาอยู่ที่โรงพยาบาล และต้องมีคนดูแลเด็กน้อยด้วย ส่วนคาลวินเห็นด้วยเพราะเจ้าหนูกันเนอร์เริ่มง่วงแล้ว แม้จะเห็นความกังวลในแววตาของเด็กคนนั้นก็ตามเมื่อทั้งหมดกลับออกไป เกเบรียลก็มานั่งข้างผม พวกเรานั่งเงียบกันอยู่พักใหญ่ จนกระทั่งไบรอันมาถึง“ขอโทษที่ผมมาช้านะครับ เราต้องสอบสวนพยานเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่คุณเอวาถูกยิง ผมเสียใจจริง ๆ ก

  • ธุลีใจ   บทที่ 242

    “เอมม่าจะทำอะไรแบบนั้นได้เหรอ ไม่มีทางหรอก” ทราวิสเอ่ยปกป้องน้องสาวแน่นอนเขาอาจจะโกรธเธอ แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ยังคงเป็นน้องสาวสุดน่ารักอยู่ดี และเขาจะปกป้องเธอด้วยทุกสิ่งที่เขามี“นี่พ่อหนุ่ม ในสายงานนี้ ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น” ไบรอันกล่าวเรียบ ๆจากนั้นเขาหยิบสมุดโน้ตขึ้นมาและเริ่มจดบางอย่างลงไป ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก่อนเงยหน้าขึ้นมามองพวกเรา“แต่มองกันจริง ๆ เอมม่าไม่มีทางทำร้ายเอวาแน่นอน จริงอยู่ที่เธอกับเอวาไม่ถูกกัน แต่ไม่มีทางทำร้ายเอวาไปได้” ทราวิสยืนยัน ขณะที่คนอื่นยังคงเงียบผมเองอยากเชื่อว่าเอมม่าจะไม่ทำอะไรแบบนี้ แต่ตอนนี้ก็ไม่แน่ใจอีกต่อไปแล้ว ผู้หญิงที่กลับมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ไม่ใช่คนเดียวกับผู้หญิงที่จากไปเมื่อหลายปีก่อนเธอเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความเกลียดชังต่อเอวา ซึ่งนั่นมากเสียจนเธอเคยพูดข่มขู่เด็กคนหนึ่งและกุเรื่องโกหกเพียงเพื่อจะทำให้เอวาเดือดร้อน“ผมไม่ได้บอกว่าเธอเป็นคนทำ แค่บอกว่าเป็นผู้ต้องสงสัย” ไบรอันชี้แจง “ความโกรธและความเกลียดชังเป็นแรงจูงใจที่รุนแรงมากพอที่จะทำให้ใครบางคนฆ่าอีกคนเพื่อเป็นการแก้แค้น อีกอย่างนี่ดูไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เหตุการ

  • ธุลีใจ   บทที่ 243

    ความโกรธของผมเริ่มเดือดพล่านอยู่ภายใน ผมรู้ว่าสิ่งที่ไบรอันพูดหมายถึงอะไร แต่ผมยังไม่ตัดเจ้ารีเปอร์ออกจากรายชื่อผู้ต้องสงสัยเป็นอันขาดจะบ้าหรือไง ให้ตายสิ หมอนั่นเคยลักพาตัวเอวาไป ไม่มีใครเสียสติพอทำอะไรแบบนั้นหรอกหากไม่มีแรงจูงใจที่ซ่อนเร้นอยู่ อีกทั้งคำพูดของไบรอันมันก็ฟังดูไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด หากไม่อยากให้เธอได้รับบาดเจ็บจริง ๆ ทำไมมันต้องลักพาตัวไปแล้วบังคับให้ผมตัดสินใจด้วยล่ะ?“ไอ้เวรนี่ มาทำอะไรที่นี่วะ?” ผมคำรามใส่ทันทีสายตาของมันกวาดมองผ่านตัวผมไปยังคนอื่นในห้อง ทุกคนลุกขึ้นยืนในท่าพร้อมป้องกันตัว แต่ดูเหมือนสิ่งนั้นจะไม่ได้ทำให้เขาสะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อยสิ่งหนึ่งที่ทำให้รีเปอร์อันตรายจนเกินจะรับมือได้ ก็คือมันเป็นคนวิกลจริตเต็มขั้น แน่นอนว่าผมเองก็เย็นชา แต่เจ้ารีเปอร์นั่นไปไกลกว่านั้นมาก มันเป็นทั้งรังเกียจสังคมและจิตวิปริตรวมอยู่ในตัวเดียวเหมือนของขวัญสุดอันตรายที่ถูกพันด้วยริบบิ้นน่าเกลียดและร้ายกาจ“ก็มาหาเอวาสิ ไม่งั้นคิดว่าฉันจะมาที่นี่ทำไม? ให้มาดูแกทำหน้าเศร้า ๆ หรือไง?” เขาพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ผมกัดฟันแน่นพยายามสะกดกลั้นตัวเองไม่ให้เริ่มเรื่องวิวาทในโรงพย

  • ธุลีใจ   บทที่ 244

    “ฟังจากที่แกพูดแล้ว ดูเหมือนว่าแกวนเวียนอยู่รอบตัวลูกสาวฉันสินะ” "จะว่าวนเวียนก็ไม่เชิง...เราติดต่อกันอยู่" มันเริ่มต้นจากนั้นจึงเริ่มเล่าทุกอย่าง มันเล่าถึงแผนการในวันที่ลักพาตัวเอวา รวมถึงการที่มันไปหาเธอหลังจากนั้นเพื่อขอร้องให้ได้มีตัวตนในชีวิตของเด็กที่กำลังจะเกิด เอวาผู้มีจิตใจที่บริสุทธิ์ยอมรับมันไว้ในชีวิตแม้ว่าสักวันอาจพาเธอไปสู่ความยุ่งยาก“แกรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าถ้าตำรวจรู้ว่าแกติดต่อกับเอวาอยู่ เธอจะเกิดปัญหาแน่? โครินถาม“เป็นห่วงไม่เข้าท่านะ ฉันก็มีแผนการที่ดูเข้าท่าอยู่แล้วเหมือนกัน” มันเผยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ แต่ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม“ในเมื่อแกบอกว่าติดต่อกันอยู่ เอวาเคยพูดถึงเรื่องอะไรบ้างไหม? อย่างรู้สึกไม่ปลอดภัยหรือโดนคุกคามอยู่แบบนี้? อะไรก็ได้ทั้งนั้น” ผมขอร้องมัน เราจำเป็นต้องมีข้อมูลบางอย่างเพื่อเริ่มต้นการแกะรอยเจ้ารีเปอร์เล่าเกี่ยวกับจดหมายที่เอวาได้รับครั้งแรก และยังมีอีกสองฉบับที่ตามมา มันบอกว่าจดหมายฉบับสุดท้ายมาถึงเธอเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่เธอถูกยิงความรู้สึกบางอย่างที่ไม่น่าพิศมัยพลันตีตื้นขึ้นในใจเมื่อคิดว่าเธอไปหาเจ้ารีปเปอร์แทนที

  • ธุลีใจ   บทที่ 245

    ผมจ้องมองลูกชายตนเองและรู้สึกภูมิใจในตัวเขาเหลือเกิน รวมถึงสายสัมพันธ์ที่เจ้าตัวน้อยมีต่อแม่ของเขาด้วย ไม่มีใครเลย แม้แต่เพื่อนสนิทหรือพ่อแม่ของเธอ ที่รู้ชื่อที่เธอเลือกไว้ แต่กลับบอกโนอา“ดีมากเลยจ้ะ” แมรี่พูดพร้อมรอยยิ้มที่ส่งให้โนอา “หนูเริ่มต้นการเป็นพี่ชายที่น่ารักได้ดีมาก”โนอาเพียงแค่พยักหน้า จากนั้นก็เงยหน้ามองมาที่ฉัน“ก็มีอยู่วันหนึ่ง เราอยู่บนเตียงในห้องแม่กัน กำลังกินไอศกรีมกันอยู่ด้วยเพราะว่าแม่บอกว่าอยากกินมาก ๆ นะเลยแหละครับ ผมก็เลยถามแม่ว่าตั้งชื่อว่าอะไรดี แล้วจากนั้นเราสองคนก็ค้นชื่อกันอยู่ตั้งหลายชั่วโมงจนในที่สุดก็ได้มีสองชื่อครับ เราสองคนหัวเราะเพราะรู้สึกสนุกกันมาก ๆ เลย”น้ำตาลูกชายเริ่มคลอเบ้าตาอีกครั้ง ผมจึงดึงเขาเข้ามากอดไว้ใกล้ ๆ มันเจ็บลึกถึงหัวใจที่ต้องเห็นเขาเสียใจ เห็นเขาเจ็บปวด ผมอยากจะช่วยบรรเทาความทุกข์ในใจบ้าง แต่กลับไร้พลังใด ๆ จะช่วย“แม่จะดีขึ้นเมื่อไหร่ครับ? ผมคิดถึงแม่มาก” เขาพูดพร้อมกับร้องไห้ออกมาผมนิ่งเงียบเพราะแม้แต่หมอก็ยังไม่รู้ว่าเอวาจะฟื้นขึ้นมาหรือเปล่า ผมเองก็จนปัญญาจะหาคำตอบเช่นกัน แมรี่ย่อตัวลงให้อยู่ในระดับสายตาของโนอา เธอค่

  • ธุลีใจ   บทที่ 246

    ผมพยักหน้าและเดินตามพวกเขาไป เราเข้าไปในห้องแยกซึ่งพยาบาลทำการฆ่าเชื้อพวกเราก่อนจะมอบชุดกาวน์ทางการแพทย์ ถุงมือ และหน้ากากให้สวมใส่ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราก็ถูกพาไปยังห้องในแผนกบำบัดพิเศษทารกแรกเกิด เรามองผ่านเตียงที่มีเด็กทารกในตู้อบหลายคนก่อนจะหยุดอยู่ที่เตียงหนึ่งโดยเฉพาะ แมรี่ยิ้มให้เราสอง “โนอา นี่ไง หนูไอริส”เพียงแรกพบ หัวใจก็เหมือนถูกพันธนาการไว้ด้วยนิ้วเล็ก ๆ ของเธอแล้ว เธออาจจะไม่ได้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขโดยตรง แต่กลับครอบครองหัวใจของผมไปหมดสิ้นไอริสแม้จะตัวเล็ก แต่ก็สวยงาม เธอหลับตาอยู่ทำให้ผมยังมองไม่เห็นสีตา แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งจมูก ริมฝีปาก และเส้นผมที่โผล่พ้นหมวกสีชมพูนั้น มันเหมือนกับเอวาไม่มีผิด เธอคือภาพสะท้อนของแม่เธอชัด ๆหัวใจผมแทบแหลกสลายเมื่อเห็นท่อและสายระโยงระยางพาดผ่านร่างเล็กนี้ หนูน้อยไม่สมควรต้องเจอกับเรื่องนี้ เธอควรจะยังอยู่ในครรภ์ของแม่ที่คอยปกป้องต่างหากไอริสยังมีชีวิตอยู่ใช่ นั่นแหละคือสิ่งสำคัญ“ขออุ้มได้ไหมครับ?” โนอาเอ่ยถามด้วยเสียงเล็กแมรี่พูดถูก โนอากำลังจะกลายเป็นพี่ชายที่ยอดเยี่ยม ความรักและความห่วงใยที่เขามีต่อไอริสฉายชั

  • ธุลีใจ   บทที่ 247

    อีธานเมื่อได้รับข่าวจากนักโทษคนหนึ่งว่าเอวาถูกยิง มันรู้สึกราวกับหัวใจถูกทุบด้วยค้อนเหล็ก ทุกสิ่งทุกอย่างภายในตัวได้พังทลายลงเมื่อคนคนนั้นเสริมว่าไม่มีข่าวเพิ่มเติมอีกเลยนอกจากคำเล่าลือว่าเธอคงไม่รอดเพราะไม่มีใครสามารถรอดจากเหตุการณ์ยิงสยองขวัญนั้นได้เลย ยิ่งกว่านั้นครอบครัวของเธอก็เงียบงัน และไม่มีรายงานทางการใด ๆ ออกมาฉันรักเอวาและยิ่งรักลูกมากกว่า การที่รู้ว่าทั้งสองคนอาจจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกต่อไป มันเกือบทำให้ฉันเสียสติฉันเฝ้ารออยู่ตลอดเวลาอย่างหัวใจแทบหยุดเต้น เฝ้ารอให้พ่อแม่ติดต่อมาเพื่อแจ้งข่าวร้าย ทว่าเมื่อคืนก็ผ่านไปโดยไม่มีคำพูดใด ๆ ฉันก็มั่นใจว่าข่าวลือเหล่านั้นอาจเป็นความจริง เพราะถ้าไม่ใช่ทำไมถึงยังไม่ได้รับการติดต่อมาเลยล่ะ?ฉันแทบไม่นอนหลับตลอดทั้งคืน ความกังวลและความหวาดกลัวคอยหลอกหลอนทุกขณะ บีบคั้นจิตใจจนแทบจะกลายเป็นคนเสียสติ ความคิดแสนเจ็บปวดวนเวียนอยู่ภายในถึงจุดหนึ่ง ฉันร้องไห้อ้อนวอนต่อพระเจ้า ขอให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย แม้ไม่เคยเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ แต่ในช่วงเวลานั้น ฉันยอมเชื่อในอะไรก็ตามที่สามารถบอกฉันได้ว่าสองแม่ลูกยังมีชีวิตอยู

บทล่าสุด

  • ธุลีใจ   บทที่ 416

    “สวัสดี” ไม่รู้เพราะอะไร ฉันถึงพูดออกมาเสียงแปลก ๆการได้เจอกับเอวาตัวต่อตัวแบบนี้ มันเหมือนกับการได้เจอคนที่เราแอบชอบมาตลอด จู่ ๆ ฉันก็เหงื่อซึมและรู้สึกประหม่าเธอไม่ตอบอะไรแต่กลับดึงฉันเข้าไปกอดแน่น กอดนั้นอบอุ่น ราวกับได้กอดตุ๊กตาหมีนุ่ม ๆ“ยินดีที่ได้เจออย่างเป็นทางการนะ ฮาร์เปอร์ ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวของเราจ๊ะ” เธอกระซิบก่อนจะผละออกไปเกเบรียลพาฉันเดินไปยังพื้นที่จัดเลี้ยงกลางแจ้งที่เต็มไปด้วยอาหารหลากหลายบนโต๊ะ เขาจัดที่นั่งให้ฉันนั่งอยู่ข้าง ๆเขาจะรู้ไหมว่าฉันมีเหตุผลที่ไม่อยากอยู่ใกล้เขา?ไม่กี่วินาทีต่อมา ทุกคนก็เริ่มลงมือรับประทานอาหารกัน“แล้วนี่ฮาร์เปอร์ หนูทำงานอะไรล่ะ?” แม่ของเกเบรียลถามฉันกลืนน้ำลายเมื่อทุกสายตาหันมาที่ฉัน ฉันไม่ชอบเลยเวลาที่คนสนใจฉันแบบนี้“นักออกแบบภายในค่ะ” ฉันตอบโดยพยายามไม่หลบตาถ้ามีสิ่งหนึ่งที่แม่ฉันสอนฉันก็คือการสบตาสำคัญมาก โดยเฉพาะกับคนที่อยู่ในโลกแบบเรา คนรวยและมีอิทธิพลมองว่าการหลบสายตาเป็นสัญญาณของความอ่อนแอ แม่ปลูกฝังให้พวกเราไม่มีวันแสดงความอ่อนแอนั้นออกมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม“พอดีเลย” เอวาพูดเสริม “ฉันอยากปรับเปลี่ยน

  • ธุลีใจ   บทที่ 415

    “เขาแต่งงานกับเอวาเหรอ?” ฉันถามด้วยความตกใจ“ก็ใช่น่ะสิ” เกเบรียลตอบก่อนจะหรี่ตาใส่ฉัน “ทำไมคุณถึงดูตกใจกับเรื่องนี้ขนาดนั้น?”ฉันยักไหล่พร้อมตอบ “ก็คงเพราะฉันตกใจจริง ๆ”และฉันตกใจจริง ๆ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น ไม่เคยแม้แต่นิดเดียว จากที่ฉันจำได้ โรแวนเกลียดเอวามาก แล้วเขาลงเอยกับเธอได้ยังไง? อะไรทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปมากขนาดนี้จนเขามีความสุขสุด ๆ แบบนี้?โรแวนที่ฉันจำได้เป็นคนอารมณ์ร้าย ขมขื่น และเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขามีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา และแทบไม่ยิ้มเลย ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปหลังจากเขานอนกับเอวาและเลิกกับเอมม่าโรแวนคนใหม่ที่ฉันเห็นนี้ทำให้ฉันนึกถึงตอนที่เขาอยู่กับเอมม่า ตอนนั้นใบหน้าของเขาจะสดใสขึ้นทันทีที่เห็นเธอหรืออยู่ใกล้เธอ เขายิ้มอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับว่าแค่การมีเอมม่าอยู่ในชีวิตก็ทำให้เขามีความสุขด้วยเหตุนี้ คุณคงเข้าใจว่าทำไมฉันถึงสงสัยว่าเอวาเป็นคนที่ทำให้เขามีความสุขขนาดนี้ เว้นแต่มีอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไปในช่วงที่ฉันไม่อยู่ หรือพวกเขาแค่ตัดสินใจอยู่ด้วยกันเพราะเห็นแก่ความสุขลูก ๆ“ไม่ดีเลยนะที่ไปตัดสินคนอื่นแบบนั้น” เสียงของเกเบรียลดึงฉันอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 414

    โรแวนดูมีความสุขในตอนนี้ ซึ่งทำให้ฉันคิดว่าเขาคงกลับไปคบกับเอมม่าอีกครั้ง นั่นน่าจะเป็นคำอธิบายเดียวที่เป็นไปได้ จากที่เกเบรียลเคยเล่าให้ฟัง โรแวนเคยเกลียดเอวาแบบสุดใจ เช่นเดียวกับที่เกเบรียลเคยเกลียดฉันสายตาของฉันเลื่อนไปที่เด็กผู้หญิงตัวน้อย เธอดูคุ้น ๆ แต่ฉันนึกไม่ออกว่าเคยเห็นเธอที่ไหน บางทีเธออาจเป็นลูกสาวของโรแวนกับเอมม่าก็ได้ ถึงแม้เธอจะดูไม่เหมือนเอมม่าที่ฉันจำได้เลยก็ตาม บางทีอาจเป็นเพราะพันธุกรรมที่แปลกประหลาด“แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นล่ะ?” ฉันถาม“ชื่อไอริส” เกเบรียลตอบ พร้อมกับยืนใกล้ฉันจนทำให้รู้สึกแปลก ๆฉันขยับถอยหลังเล็กน้อยเพื่อรักษาระยะห่างฉันมองไอริสต่อ เธอเหมือนพลังงานน้อย ๆ ที่สดใส ดวงตาสีฟ้าสวยส่องประกายจนฉันมองเห็นได้ชัดเจนแม้จากที่ที่ฉันยืนอยู่ เธอไม่เหมือนเอมม่าเลย แต่ถ้าจำไม่ผิด เอมม่ามีดวงตาสีฟ้า ดังนั้นไอริสน่าจะได้มาจากแม่“งั้นโรแวนก็กลับไปคบกับเอมม่าแล้วใช่ไหม” ฉันพูดเบา ๆ “พวกเขากลับไปคบกันตอนไหน แล้วเอวารับมือกับมันยังไง?”ฉันไม่เคยคิดว่าเอมม่าจะเป็นคนไม่ดี เราทุกคนเคยเรียนที่โรงเรียนเดียวกัน เธออายุมากกว่า ในขณะที่เอวากับฉันรุ่นเดียวกันเอมม่าต่

  • ธุลีใจ   บทที่ 413

    ฉันไม่สามารถหยุดขยับตัวอย่างกระวนกระวายได้เลย ขณะที่ฉันและเกเบรียลเดินตามพ่อแม่ของเขาเข้าไปข้างใน หากพูดตรง ๆ การพูดคุยในออฟฟิศนั้นดีกว่าที่ฉันคาดไว้มาก ฉันไม่แน่ใจว่าฉันคาดหวังอะไร แต่ฉันไม่ได้คาดว่าจะเจอความสงบแบบนี้ หรืออาจจะเป็นเพียงความสงบก่อนพายุจะมา?ฉันยังไม่เข้าใจว่าทำไมเกเบรียลไม่บอกพวกเขาว่าเราเคยแต่งงานกันมาก่อน แม้การแต่งงานของเราจะจบลงอย่างเลวร้าย แต่มันก็เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลที่สุด ฉันไม่ชอบที่เขาปิดบังเรื่องนี้“ไหวไหม?” เสียงของเขาดึงฉันกลับมาสู่ปัจจุบันฉันเงยหน้าขึ้นมองเขา และพบว่าสายตาเขาจ้องมาที่ฉันอย่างแน่วแน่ มันช่างลึกซึ้งเหมือนว่าเขากำลังอ่านฉันจนถึงจิตวิญญาณ ฉันดึงสายตาจากเขาแล้วมองไปข้างหน้าแทน“ไหว แต่ก็ยังรู้สึกประหม่าอยู่ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน” ฉันตอบตามตรงส่วนที่ยากที่สุดผ่านไปแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงรู้สึกกระวนกระวายอยู่ บางทีอาจเป็นเพราะวันนี้ฉันต้องใช้เวลาทั้งวันอยู่กับครอบครัวของเขา บางทีอาจเป็นเพราะฉันยังคงรู้สึกถึงลมหายใจของเขาบนผิวของฉันเมื่อตอนที่เขาเกือบจะจูบฉัน หรือบางทีอาจเป็นเพราะเขายอมรับความผิดทั้งหมดในความล้มเหลวของความสัม

  • ธุลีใจ   บทที่ 412

    ขอบคุณพี่ชายของเธอที่ทำให้ผมรู้ว่าเธอต้องการผม และมันก็กลายเป็นอาวุธที่ดีที่สุดในการต่อต้านเธอ ผมอยากทำร้ายเธอ อยากทำลายเธอและทำให้เธอเจ็บปวดเพราะเธอพรากอิสระไปจากผม ไม่ต้องเป็นอัจฉริยะก็รู้ได้ทันทีว่าการนอกใจจะทำให้เธอเจ็บปวด ผมเลยทำ และผมก็ทำให้เธอรู้ด้วย ผมอยากให้เธอเสียใจที่คิดจะวางกับดักผมและมันได้ผล ทุกครั้งที่ผมเห็นเธอ ผมเห็นความเจ็บปวดในดวงตาของเธอ ผมรู้ว่ามันทำให้ผมเป็นคนเลว แต่การเห็นความเจ็บปวดในตาเธอมันทำให้ผมพอใจ“เวลาผ่านไปก็นานแล้วนะ แล้วลูกไปเจอเธออีกครั้งได้ยังไง?” แม่ถามต่อเมื่อผมไม่ตอบอะไรเกี่ยวกับข้อสังเกตของพ่อ“ผมออกตามหาเธอครับ” ผมยักไหล่ “พวกกรรมการบริหารนั่นอยากให้ผมแต่งงานเป็นหลักเป็นแหล่งสักที ผมเลยทำแบบนี้”สายตาของแม่หันไปทางฮาร์เปอร์ “แล้วเธอยอมแต่งงานกับเขา ทั้งที่เขาปฏิบัติกับเธออย่างเลวร้ายขนาดนั้นเหรอ?”ผมสะดุ้งกับคำพูดของแม่ ผมเกลียดที่ทำให้แม่ผิดหวัง แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เหมือนกับผม ฮาร์เปอร์ยักไหล่ตอบ “เขามีสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันก็เลยตอบตกลงค่ะ”พ่อกับแม่หันมามองหน้ากัน ก่อนจะหันกลับมาทางเรา“หมายถึงอะไร?” พ่อถามด้วยสายตาที่จ้องจับผิด“บริษั

  • ธุลีใจ   บทที่ 411

    ผมรู้ว่าปฏิกิริยาของพวกเขาจะต้องรุนแรงแน่ ๆ ใครล่ะจะไม่ตกใจเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกบอกว่ามีลูกสะใภ้กับหลานสาวที่ไม่เคยรู้มาก่อนพ่อเริ่มเดินไปเดินมา และผมก็รู้ทันทีว่าเขากำลังคิดอะไร พ่อพร่ำสอนผมกับโรแวนเสมอ เรารู้เสมอว่าเขาคิดอะไรอยู่เพราะเราเองก็คิดแบบเดียวกันเขาน่าจะกำลังสงสัยว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง สงสัยว่าผมตรวจดีเอ็นเอแล้วหรือยังว่าลิลลี่เป็นลูกสาวของผมจริง หรือเปล่า และเขาคงสงสัยด้วยว่าฮาร์เปอร์หลอกล่อหรือวางกับดักอะไรผมหรือเปล่า เขากำลังพยายามคิดถึงทุกแง่มุม“แล้ว…มันเกิดขึ้นได้ยังไง? ไปมีเมียมีลูกตอนไหนยังไง?” แม่เอ่ยถามอย่างตะกุกตะกักใบหน้าของเธอยังเต็มไปด้วยความตกตะลึง ดวงตาเลื่อนจากผมไปที่ฮาร์เปอร์ ซึ่งกำลังก้มหน้ามองพื้นอย่างเงียบ ๆ เธอดูประหม่าและตื่นตระหนกน ผมรู้สึกอยากจะโอบกอดเธอ อยากปลอบโยนเธอด้วยสัมผัสของผมความรู้สึกที่รุนแรงต่อเธอนั้นทำให้ผมงุนงง มันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนตอนที่เรายังแต่งงานกัน แล้วมันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ ๆ ผมถึงอยากทำในสิ่งที่ผมไม่เคยอยากทำมาก่อน?“ตอบแม่สิ เกบ” เสียงเข้มของพ่อทำให้ผมหลุดจากความคิด“เราเคยมีความสัมพันธ์กันเมื่อหลายปีก่อน” ผมเริ่มพู

  • ธุลีใจ   บทที่ 410

    เกเบรียล“แม่ครับ!” ผมตะโกนเรียกพลางรีบวิ่งไปหาเธอแม่กำลังนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ไม่ต้องมีใครบอก ผมก็รู้ว่าที่เธอเป็นแบบนี้ก็เพราะช็อกตอนเห็นลิลลี่ เหมือนตอนที่ผมเจอครั้งแรก เธอแค่เห็นตาสีเทาคู่นั้นครั้งเดียวก็รู้ทันทีว่าลิลลี่เป็นหนึ่งในสายเลือดของตระกูลวู้ดผมค่อย ๆ ตบแก้มของแม่เบา ๆ แต่เธอก็ยังไม่ฟื้น ผมจึงค่อย ๆ สอดแขนข้างหนึ่งใต้บ่า และอีกข้างหนึ่งใต้หัวเข่าของแม่ แล้วยกเธอขึ้นมาวางบนโซฟาที่ใกล้ที่สุด“พ่อ! โรแวน!” ผมตะโกนเรียกอย่างร้อนรน เพราะไม่อยากทิ้งแม่ไว้คนเดียว“คุณย่าจะเป็นอะไรไหมคะ?” ลิลลี่ถามเสียงแผ่วเบาและเปราะบาง “หนูทำอะไรผิดหรือเปล่า? หรือที่คุณย่าเป็นแบบนี้เพราะหนูใช่ไหมคะ?”น้ำตาที่เอ่ออยู่ในดวงตาของเธอทำให้ผมใจอ่อน ในเวลาไม่นาน ลิลลี่ก็กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตผม การเห็นเธอร้องไห้ทำให้ผมเจ็บปวด ผมคิดว่าในชีวิตนี้ผมไม่เคยรักใครมากเท่าที่ผมรักลิลลี่ แม้แต่โรแวน ฝาแฝดของผมเอง ก็ยังไม่อาจเทียบได้ก่อนที่ผมจะตอบคำถามของเธอ ฮาร์เปอร์ก็พูดแทรกขึ้นมา“ไม่หรอกจ้ะ ลูกรัก” ฮาร์เปอร์ตอบพร้อมวางผ้าชุบน้ำเย็นลงบนหน้าผากแม่ ผมไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอไปเอาผ้ามาเมื่อไหร่“

  • ธุลีใจ   บทที่ 409

    เสียงโทรศัพท์ของเกเบรียลทำให้ฉันลุกขึ้นจากที่เดิมที่ลิลลี่ทิ้งฉันไว้ ฉันยังไม่อยากเชื่อว่าเธอจะพูดแบบนั้นกับฉันได้ ตอนที่เลียมยังมีชีวิตอยู่ เธอไม่เคยกังวลที่ไม่มีพี่น้อง เธอไม่เคยขอมีพี่น้องด้วยซ้ำ ฉันเลยสงสัยว่าอะไรทำให้เธอเปลี่ยนไปแบบนี้กะทันหันฉันรู้ว่าตอนนี้คุณอาจสงสัยว่าทำไมฉันกับเลียมถึงไม่มีลูก ทั้งที่แต่งงานกันมานานขนาดนั้น เรื่องจริงก็คือ เราพยายามแล้ว เลียมอยากมีครอบครัว อยากมีลูกที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาเอง ฉันรู้ว่าเขารักลิลลี่เหมือนลูกแท้ ๆ ของเขา แต่เขาก็อยากมีลูกที่เป็นสายเลือดของตัวเองด้วยฉันเองก็อยากจะให้เขามีสิ่งนั้น ฉันอยากขอบคุณเขาที่อยู่เคียงข้างฉันในตอนที่ฉันไม่มีใคร ที่แต่งงานกับฉันและมอบครอบครัวให้กับลิลลี่ การมีลูกให้เขาสักคนไม่ได้เป็นสิ่งที่มากเกินไป และฉันก็ไม่เห็นปัญหาอะไรอย่างที่บอก เราพยายามแล้ว แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งหนึ่งปีก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาถึงยอมไปตรวจสุขภาพ ผลปรากฏว่ามันเป็นเรื่องที่ทำให้หัวใจสลาย เราได้รู้ว่าเขาไม่สามารถมีลูกได้ วันที่เราอยู่ที่คลินิก ฉันเห็นแสงบางอย่างในตัวเขาดับลงไป การรู้ว่าเขาไม่สามารถเป็นพ่อได้เหมือนทำลา

  • ธุลีใจ   บทที่ 408

    ลิลลี่มองพวกเราสลับไปมาระหว่างฉันกับพ่อเธอ ฉันเห็นคำถามมากมายในสายตาเธอ ความสงสัยเกี่ยวกับฉันและเกเบรียลอย่างที่ฉันพูดไปแล้วว่ามันไม่ควรจะเป็นแบบนี้ ฉันไม่ควรจะรู้สึกดึงดูดใจต่อเกเบรียลอีกหลังจากที่ห่างกันไปหลายปี ฉันเคยคิดว่าความรู้สึกที่มีต่อเขาจะจบลงไปแล้ว การปฏิบัติที่เขาเคยทำกับฉันเมื่อหลายปีก่อนควรจะฆ่าความรู้สึกทั้งหมดที่ฉันเคยมีต่อเขาแต่ฉันคิดผิด เพราะตอนนี้ฉันกลับมายืนอยู่ตรงนี้ เกือบจะจูบเขา ฉันรู้สึกแย่มากที่ปล่อยให้ตัวเองอ่อนแอเพียงชั่วขณะ และปล่อยให้ร่างกายพาฉันหลงใหลในตัวเขา“สองคนจะจูบกันเหรอคะ?” ลิลลี่ถามอย่างไร้เดียงสา ฉันอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเข้าลึกจิตใจฉันวุ่นวาย ฉันไม่รู้จะตอบเธออย่างไร ควรจะบอกความจริงเธอไหม? แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็โกหกไม่ได้เมื่อเธอเห็นเต็มสองตา“เอ่อ…เอ่อ...” ฉันพยายามหาคำพูดที่เหมาะสมจะตอบในหัวของฉันยังคิดถึงเรื่องเลียม เขาเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวที่ลิลลี่เคยเห็นฉันจูบ ผู้ชายคนเดียวที่เคยอยู่ในชีวิตของเรา ฉันกลัวว่าถ้าฉันบอกว่า ‘ใช่’ เธอจะเข้าใจผิด ฉันรู้ว่าเกเบรียลพยายามสร้างความสัมพันธ์กับเธอ แต่ตลอดเวลาห้าปีที่ผ่านมา เลียมคือพ่อของเธอ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status