Share

บทที่ 242

Author: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
“เอมม่าจะทำอะไรแบบนั้นได้เหรอ ไม่มีทางหรอก” ทราวิสเอ่ยปกป้องน้องสาว

แน่นอนเขาอาจจะโกรธเธอ แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ยังคงเป็นน้องสาวสุดน่ารักอยู่ดี และเขาจะปกป้องเธอด้วยทุกสิ่งที่เขามี

“นี่พ่อหนุ่ม ในสายงานนี้ ทุกอย่างเป็นไปได้ทั้งนั้น” ไบรอันกล่าวเรียบ ๆ

จากนั้นเขาหยิบสมุดโน้ตขึ้นมาและเริ่มจดบางอย่างลงไป ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก่อนเงยหน้าขึ้นมามองพวกเรา

“แต่มองกันจริง ๆ เอมม่าไม่มีทางทำร้ายเอวาแน่นอน จริงอยู่ที่เธอกับเอวาไม่ถูกกัน แต่ไม่มีทางทำร้ายเอวาไปได้” ทราวิสยืนยัน ขณะที่คนอื่นยังคงเงียบ

ผมเองอยากเชื่อว่าเอมม่าจะไม่ทำอะไรแบบนี้ แต่ตอนนี้ก็ไม่แน่ใจอีกต่อไปแล้ว ผู้หญิงที่กลับมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ไม่ใช่คนเดียวกับผู้หญิงที่จากไปเมื่อหลายปีก่อน

เธอเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความเกลียดชังต่อเอวา ซึ่งนั่นมากเสียจนเธอเคยพูดข่มขู่เด็กคนหนึ่งและกุเรื่องโกหกเพียงเพื่อจะทำให้เอวาเดือดร้อน

“ผมไม่ได้บอกว่าเธอเป็นคนทำ แค่บอกว่าเป็นผู้ต้องสงสัย” ไบรอันชี้แจง “ความโกรธและความเกลียดชังเป็นแรงจูงใจที่รุนแรงมากพอที่จะทำให้ใครบางคนฆ่าอีกคนเพื่อเป็นการแก้แค้น อีกอย่างนี่ดูไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เหตุการ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ธุลีใจ   บทที่ 243

    ความโกรธของผมเริ่มเดือดพล่านอยู่ภายใน ผมรู้ว่าสิ่งที่ไบรอันพูดหมายถึงอะไร แต่ผมยังไม่ตัดเจ้ารีเปอร์ออกจากรายชื่อผู้ต้องสงสัยเป็นอันขาดจะบ้าหรือไง ให้ตายสิ หมอนั่นเคยลักพาตัวเอวาไป ไม่มีใครเสียสติพอทำอะไรแบบนั้นหรอกหากไม่มีแรงจูงใจที่ซ่อนเร้นอยู่ อีกทั้งคำพูดของไบรอันมันก็ฟังดูไม่สมเหตุสมผลเลยสักนิด หากไม่อยากให้เธอได้รับบาดเจ็บจริง ๆ ทำไมมันต้องลักพาตัวไปแล้วบังคับให้ผมตัดสินใจด้วยล่ะ?“ไอ้เวรนี่ มาทำอะไรที่นี่วะ?” ผมคำรามใส่ทันทีสายตาของมันกวาดมองผ่านตัวผมไปยังคนอื่นในห้อง ทุกคนลุกขึ้นยืนในท่าพร้อมป้องกันตัว แต่ดูเหมือนสิ่งนั้นจะไม่ได้ทำให้เขาสะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อยสิ่งหนึ่งที่ทำให้รีเปอร์อันตรายจนเกินจะรับมือได้ ก็คือมันเป็นคนวิกลจริตเต็มขั้น แน่นอนว่าผมเองก็เย็นชา แต่เจ้ารีเปอร์นั่นไปไกลกว่านั้นมาก มันเป็นทั้งรังเกียจสังคมและจิตวิปริตรวมอยู่ในตัวเดียวเหมือนของขวัญสุดอันตรายที่ถูกพันด้วยริบบิ้นน่าเกลียดและร้ายกาจ“ก็มาหาเอวาสิ ไม่งั้นคิดว่าฉันจะมาที่นี่ทำไม? ให้มาดูแกทำหน้าเศร้า ๆ หรือไง?” เขาพูดพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ผมกัดฟันแน่นพยายามสะกดกลั้นตัวเองไม่ให้เริ่มเรื่องวิวาทในโรงพย

  • ธุลีใจ   บทที่ 244

    “ฟังจากที่แกพูดแล้ว ดูเหมือนว่าแกวนเวียนอยู่รอบตัวลูกสาวฉันสินะ” "จะว่าวนเวียนก็ไม่เชิง...เราติดต่อกันอยู่" มันเริ่มต้นจากนั้นจึงเริ่มเล่าทุกอย่าง มันเล่าถึงแผนการในวันที่ลักพาตัวเอวา รวมถึงการที่มันไปหาเธอหลังจากนั้นเพื่อขอร้องให้ได้มีตัวตนในชีวิตของเด็กที่กำลังจะเกิด เอวาผู้มีจิตใจที่บริสุทธิ์ยอมรับมันไว้ในชีวิตแม้ว่าสักวันอาจพาเธอไปสู่ความยุ่งยาก“แกรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าถ้าตำรวจรู้ว่าแกติดต่อกับเอวาอยู่ เธอจะเกิดปัญหาแน่? โครินถาม“เป็นห่วงไม่เข้าท่านะ ฉันก็มีแผนการที่ดูเข้าท่าอยู่แล้วเหมือนกัน” มันเผยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ แต่ไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม“ในเมื่อแกบอกว่าติดต่อกันอยู่ เอวาเคยพูดถึงเรื่องอะไรบ้างไหม? อย่างรู้สึกไม่ปลอดภัยหรือโดนคุกคามอยู่แบบนี้? อะไรก็ได้ทั้งนั้น” ผมขอร้องมัน เราจำเป็นต้องมีข้อมูลบางอย่างเพื่อเริ่มต้นการแกะรอยเจ้ารีเปอร์เล่าเกี่ยวกับจดหมายที่เอวาได้รับครั้งแรก และยังมีอีกสองฉบับที่ตามมา มันบอกว่าจดหมายฉบับสุดท้ายมาถึงเธอเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่เธอถูกยิงความรู้สึกบางอย่างที่ไม่น่าพิศมัยพลันตีตื้นขึ้นในใจเมื่อคิดว่าเธอไปหาเจ้ารีปเปอร์แทนที

  • ธุลีใจ   บทที่ 245

    ผมจ้องมองลูกชายตนเองและรู้สึกภูมิใจในตัวเขาเหลือเกิน รวมถึงสายสัมพันธ์ที่เจ้าตัวน้อยมีต่อแม่ของเขาด้วย ไม่มีใครเลย แม้แต่เพื่อนสนิทหรือพ่อแม่ของเธอ ที่รู้ชื่อที่เธอเลือกไว้ แต่กลับบอกโนอา“ดีมากเลยจ้ะ” แมรี่พูดพร้อมรอยยิ้มที่ส่งให้โนอา “หนูเริ่มต้นการเป็นพี่ชายที่น่ารักได้ดีมาก”โนอาเพียงแค่พยักหน้า จากนั้นก็เงยหน้ามองมาที่ฉัน“ก็มีอยู่วันหนึ่ง เราอยู่บนเตียงในห้องแม่กัน กำลังกินไอศกรีมกันอยู่ด้วยเพราะว่าแม่บอกว่าอยากกินมาก ๆ นะเลยแหละครับ ผมก็เลยถามแม่ว่าตั้งชื่อว่าอะไรดี แล้วจากนั้นเราสองคนก็ค้นชื่อกันอยู่ตั้งหลายชั่วโมงจนในที่สุดก็ได้มีสองชื่อครับ เราสองคนหัวเราะเพราะรู้สึกสนุกกันมาก ๆ เลย”น้ำตาลูกชายเริ่มคลอเบ้าตาอีกครั้ง ผมจึงดึงเขาเข้ามากอดไว้ใกล้ ๆ มันเจ็บลึกถึงหัวใจที่ต้องเห็นเขาเสียใจ เห็นเขาเจ็บปวด ผมอยากจะช่วยบรรเทาความทุกข์ในใจบ้าง แต่กลับไร้พลังใด ๆ จะช่วย“แม่จะดีขึ้นเมื่อไหร่ครับ? ผมคิดถึงแม่มาก” เขาพูดพร้อมกับร้องไห้ออกมาผมนิ่งเงียบเพราะแม้แต่หมอก็ยังไม่รู้ว่าเอวาจะฟื้นขึ้นมาหรือเปล่า ผมเองก็จนปัญญาจะหาคำตอบเช่นกัน แมรี่ย่อตัวลงให้อยู่ในระดับสายตาของโนอา เธอค่

  • ธุลีใจ   บทที่ 246

    ผมพยักหน้าและเดินตามพวกเขาไป เราเข้าไปในห้องแยกซึ่งพยาบาลทำการฆ่าเชื้อพวกเราก่อนจะมอบชุดกาวน์ทางการแพทย์ ถุงมือ และหน้ากากให้สวมใส่ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราก็ถูกพาไปยังห้องในแผนกบำบัดพิเศษทารกแรกเกิด เรามองผ่านเตียงที่มีเด็กทารกในตู้อบหลายคนก่อนจะหยุดอยู่ที่เตียงหนึ่งโดยเฉพาะ แมรี่ยิ้มให้เราสอง “โนอา นี่ไง หนูไอริส”เพียงแรกพบ หัวใจก็เหมือนถูกพันธนาการไว้ด้วยนิ้วเล็ก ๆ ของเธอแล้ว เธออาจจะไม่ได้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขโดยตรง แต่กลับครอบครองหัวใจของผมไปหมดสิ้นไอริสแม้จะตัวเล็ก แต่ก็สวยงาม เธอหลับตาอยู่ทำให้ผมยังมองไม่เห็นสีตา แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งจมูก ริมฝีปาก และเส้นผมที่โผล่พ้นหมวกสีชมพูนั้น มันเหมือนกับเอวาไม่มีผิด เธอคือภาพสะท้อนของแม่เธอชัด ๆหัวใจผมแทบแหลกสลายเมื่อเห็นท่อและสายระโยงระยางพาดผ่านร่างเล็กนี้ หนูน้อยไม่สมควรต้องเจอกับเรื่องนี้ เธอควรจะยังอยู่ในครรภ์ของแม่ที่คอยปกป้องต่างหากไอริสยังมีชีวิตอยู่ใช่ นั่นแหละคือสิ่งสำคัญ“ขออุ้มได้ไหมครับ?” โนอาเอ่ยถามด้วยเสียงเล็กแมรี่พูดถูก โนอากำลังจะกลายเป็นพี่ชายที่ยอดเยี่ยม ความรักและความห่วงใยที่เขามีต่อไอริสฉายชั

  • ธุลีใจ   บทที่ 247

    อีธานเมื่อได้รับข่าวจากนักโทษคนหนึ่งว่าเอวาถูกยิง มันรู้สึกราวกับหัวใจถูกทุบด้วยค้อนเหล็ก ทุกสิ่งทุกอย่างภายในตัวได้พังทลายลงเมื่อคนคนนั้นเสริมว่าไม่มีข่าวเพิ่มเติมอีกเลยนอกจากคำเล่าลือว่าเธอคงไม่รอดเพราะไม่มีใครสามารถรอดจากเหตุการณ์ยิงสยองขวัญนั้นได้เลย ยิ่งกว่านั้นครอบครัวของเธอก็เงียบงัน และไม่มีรายงานทางการใด ๆ ออกมาฉันรักเอวาและยิ่งรักลูกมากกว่า การที่รู้ว่าทั้งสองคนอาจจะไม่ได้อยู่บนโลกนี้อีกต่อไป มันเกือบทำให้ฉันเสียสติฉันเฝ้ารออยู่ตลอดเวลาอย่างหัวใจแทบหยุดเต้น เฝ้ารอให้พ่อแม่ติดต่อมาเพื่อแจ้งข่าวร้าย ทว่าเมื่อคืนก็ผ่านไปโดยไม่มีคำพูดใด ๆ ฉันก็มั่นใจว่าข่าวลือเหล่านั้นอาจเป็นความจริง เพราะถ้าไม่ใช่ทำไมถึงยังไม่ได้รับการติดต่อมาเลยล่ะ?ฉันแทบไม่นอนหลับตลอดทั้งคืน ความกังวลและความหวาดกลัวคอยหลอกหลอนทุกขณะ บีบคั้นจิตใจจนแทบจะกลายเป็นคนเสียสติ ความคิดแสนเจ็บปวดวนเวียนอยู่ภายในถึงจุดหนึ่ง ฉันร้องไห้อ้อนวอนต่อพระเจ้า ขอให้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย แม้ไม่เคยเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ แต่ในช่วงเวลานั้น ฉันยอมเชื่อในอะไรก็ตามที่สามารถบอกฉันได้ว่าสองแม่ลูกยังมีชีวิตอยู

  • ธุลีใจ   บทที่ 248

    โรแวนผ่านไปแล้วสามเดือน สามเดือนเต็มตั้งแต่วันที่เอวาถูกยิง และเธอยังไม่ได้ฟื้นขึ้นมาเลย ทุก ๆ เดือนที่ผ่านไป ความหวังว่าเธอจะตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็เริ่มเลือนรางลงเรื่อย ๆ มันน่าหงุดหงิดจนแทบคลั่ง แต่ก็ไม่มีอะไรที่ผมจะทำได้เลย ทุกอย่างมันเกินความสามารถของใครจะช่วยได้แล้วหนึ่งเดือนหลังจากอุบัติเหตุ เอวาสามารถถอดเครื่องช่วยหายใจออกได้ เธอไม่ต้องใช้เครื่องช่วยอีกต่อไป เพราะปอดสามารถทำงานได้ดีเองตามธรรมชาติ คุณหมอย้ายเธอไปอยู่ในห้องพักปกติ เราทุกคนคิดว่าเธอน่าจะฟื้นขึ้นมาตอนนั้น แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นเลย สองเดือนถัดมา เราก็ยังคงรออยู่“จะให้ผมรอไหมครับ คุณโรแวน?” คนขับรถเอ่ยถามก่อนที่ฉันจะลงจากรถ“ไม่ต้องก็ได้ เดี๋ยวฉันไปหาหลังจากเสร็จแล้ว”ผมก้าวลงจากรถและเดินเข้าไปในโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กล่าวคำทักทายอย่างคุ้นเคย เพราะช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ผมกลายเป็นแขกประจำที่นี่ไปแล้วผมพยักหน้าเบา ๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร ความเหนื่อยล้าสะสมลามไปถึงกระดูก ผมไม่ได้สัมผัสกับความสงบสุขเลยนับตั้งแต่วันนั้น ทุกคืนก็ไม่สามารถนอนหลับได้อย่างสนิทเลย ได้แต่นอนจ้องเพดานหรือทำงานแทนเนื่องจากสถานการณ์ที่เป็นอยู่

  • ธุลีใจ   บทที่ 249

    ผมจ้องมองเธอด้วยความสับสน ไม่รู้จริง ๆ ว่าควรทำอย่างไรดี “ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ แม่เธอยังไม่ฟื้นเลยครับ”“ดิฉันทราบค่ะ แต่กฎของโรงพยาบาลก็ต้องว่าไปตามกฎ พวกคุณต้องพาเด็กกลับบ้านไม่ว่าคุณเอวาจะฟื้นหรือไม่ก็ตามค่ะ”บ้าชิบ ผมยกมือขึ้นสางผมยุ่งเหยิงด้วยความเครียด “อยู่ที่นี่ต่ออีกสักหน่อยไม่ได้เหรอครับ?”“ขอโทษจริง ๆ ค่ะ แต่ไม่ได้ ทางเราอนุญาตให้อยู่ที่นี่ได้ถึงแค่พรุ่งนี้เท่านั้น”ผมพยักหน้าอย่างหนักใจ “ครับ งั้นผมขอไปคุยกับคุณตาคุณยายก่อน”ไม่รอช้า ผมเดินออกจากห้องเด็กอ่อนและมุ่งหน้าไปยังห้องพักของเอวา พอเดินไปถึงประตู ผมกำลังจะเปิดเข้าไป แต่ประตูกลับถูกเปิดจากข้างในก่อน โนรากับธีโอเดินออกมา“ผมมีเรื่องอยากคุยด้วยพอดีครับ” เสียงของหมอดังขึ้น ทำให้พวกเราทั้งสามคนหันไปมองเขา“มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?” ธีโอเอ่ยถาม พร้อมสีหน้าซึ่งแสดงถึงความกังวลชัดเจน“ครับ ผมอยากให้พวกคุณช่วยเลือกทางเลือกให้คุณเอวาครับ โดยปกติ คนไข้มักจะฟื้นจากอาการโคม่าในเวลาประมาณหนึ่งเดือน แต่การที่คุณเอวายังไม่ฟื้นแบบนี้ ทางเราก็อดกังวลใจไม่ได้จนกลัวว่าเธออาจจะไม่มีวันฟื้นน่ะครับ”ความหวาดหวั่นแล่นวาบไปทั่ว

  • ธุลีใจ   บทที่ 250

    ผมจ้องมองเธอซึ่งไม่มั่นใจเลยว่านี่เป็นความฝันหรือไม่ ดวงตาของเธอไม่สามารถปรับมองเห็นได้ เธอจึงมองสำรวจไปทั่วห้องก่อนกวาดสายตามามองผมในที่สุดผมอาจดูเหมือนเป็นคนโง่เพราะตอนนี้สายตาจับจ้องพร้อมอ้าปากค้างไปเลย ผมรู้ว่าตนเองเฝ้าขอร้องอ้อนวอนแต่ปาฏิหาริย์ ขอร้องให้เธอฟื้นคืนสติ แต่ในตอนที่มันเกิดขึ้น กลับรู้สึกเกินจริงไปมาก“โรแวน? เป็นอะไรไปคะ?” เธอเอ่ยถาม น้ำเสียงเต็มไปด้วยความสับสน“บ้าเอ๊ย เอวา คุณฟื้นแล้ว!” ผมร้องตะโกนด้วยความดีใจ ซึ่งทำให้เธอสับสนอยู่บ้างผมดึงเธอเข้ามากอดแนบอก มันเป็นความรู้สึกที่ดี มันดีอย่างบ้าคลั่งที่ได้เห็นเธอลืมตาขึ้นมาอีกครั้งทุกสิ่งในตัวผมกรีดร้องด้วยความยินดีอย่างล้นหลาม ผมมีความสุข ผมตกตะลึง และผมซาบซึ้งกับปาฏิหาริย์นี้“ทำไมเหรอคะ?” เสียงของเธอแผ่วเบาราวกับถูกกดทับผมผละออกมาเพียงเพื่อจ้องมองเธอ ผมไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ไม่อยากเชื่อว่าปาฏิหาริย์นี้เกิดขึ้นจริงเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ ผมแทบจะหมดความอดทนเพราะหมอบอกให้เราล้มเลิกความตั้งใจไป และตอนนี้เธออยู่ตรงนี้ กำลังหายใจ ลืมตา และตื่นเต็มตา มันคือปาฏิหาริย์ที่แท้จริงผมดึงเธอเข้ามากอดอีกครั้งเ

Latest chapter

  • ธุลีใจ   บทที่ 430

    “ช่วยอะไรหน่อย” คริสโตเฟอร์ตอบ “ช่วยไปเก็บรายงานประจำสัปดาห์จากแต่ละแผนกหน่อยได้ไหม? เพราะเรื่องวุ่นวายเมื่อวานทำให้ผมไม่ได้จัดการเรื่องนี้เลย”“ได้เลย ไม่มีปัญหาค่ะ ขอเอากระเป๋าไปเก็บที่ห้องทำงานก่อน แล้วฉันจะไปจัดการให้”หลังจากเขาพยักหน้า ฉันก็เดินตรงไปที่ห้องทำงาน รีบวางของให้เรียบร้อยก่อนจะออกไปที่แผนกอื่น ๆเมื่อฉันไปถึงแผนกแรก บรรยากาศตึงเครียดทันทีที่ฉันก้าวเข้าไป ทุกคน และฉันหมายถึงทุกคนจริง ๆ หันมามองฉันเป็นตาเดียว ฉันเกลียดความสนใจแบบนี้และอยากให้พวกเขาสนใจงานของตัวเองแทน ฉันพยายามเมินเฉยและจัดการสิ่งที่ฉันต้องทำให้เสร็จ ก่อนจะรีบออกมาฉันไม่เคยมีโอกาสได้สร้างมิตรภาพกับใคร เพราะมิลลี่เคยปล่อยข่าวลือว่าฉันเป็นผู้หญิงไร้ยางอายที่นอนกับเกเบรียล แค่นั้นก็เพียงพอให้คนอื่นตัดสินและตีตัวออกห่างจากฉันฉันถอนหายใจโล่งอกเมื่อมาถึงแผนกสุดท้าย บางคนยิ้มให้ฉันอย่างเป็นมิตร แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้ข่าวเรื่องฉันกับเกเบรียลแพร่ออกไปแล้ว พวกเขาเลยพยายามทำดีด้วย ฉันรู้ดีว่ามีคนที่เข้าหาคุณเพียงเพราะหวังจะได้ประโยชน์จากคุณ“ไง ฮาร์เปอร์” เสียงของรีเบคก้า หนึ่งในลิ่วล้อของมิลลี่ดังข

  • ธุลีใจ   บทที่ 429

    ฮาร์เปอร์เช้าวันรุ่งขึ้น เกเบรียลไม่อยู่ให้เห็นเลยตอนที่ฉันทานอาหารเช้าและเตรียมตัวออกไปทำงาน จนกระทั่งตอนที่ขึ้นรถและถามคนขับว่าเกเบรียลอยู่ที่ไหน ถึงได้รู้ว่าเขาออกไปทำงานก่อนแล้วนี่เป็นครั้งแรกที่เราต่างคนต่างไปทำงานตั้งแต่ฉันเริ่มทำงานให้เขา ฉันไม่แน่ใจเหมือนกันว่ารู้สึกโล่งใจหรือไม่ในเมื่อเขาไม่อยู่ ฉันเลยตัดสินใจไปส่งลิลลี่ที่โรงเรียนก่อน ความตื่นเต้นของเธอยังไม่จางหาย ตลอดทางเธอพูดถึงแต่เซียร่า ฉันรู้จักลูกสาวของตัวเองดี และรู้ว่าเธอไม่เคยตื่นเต้นหรือมีความสุขกับเด็กผู้หญิงคนไหนมาก่อนแบบนี้แน่นอนว่าเธอมีเพื่อนที่บ้านเก่าที่เราเคยอยู่ แต่ก็ไม่มีใครที่เธอพูดถึงมากขนาดนี้ ฉันคิดว่าเด็กพวกนั้นน่าจะเป็นแค่คนรู้จักมากกว่าเพื่อนของลูกสาวฉันเธอไม่เคยชวนใครมาค้างบ้าน และถ้าใครเชิญเธอไป เธอก็มักจะหาข้ออ้างว่าไปไม่ได้ เธอไม่เคยพูดถึงเพื่อนพวกนั้นมากมายเหมือนที่พูดถึงซีเอร์รา ทั้งที่เพิ่งรู้จักกันได้แค่วันเดียวแต่ไม่ว่าอะไรที่ทำให้เธอมีความสุข ฉันก็มีความสุขด้วย ถ้าเซียร่าทำให้ลิลลี่กลายเป็นเด็กหญิงที่กรี๊ดกร๊าดและหัวเราะคิกคักได้ แล้วฉันจะมีเหตุผลอะไรไปขัดขวาง?ครั้งแรกเลยที่ฉ

  • ธุลีใจ   บทที่ 428

    เมื่อตัดสินใจได้ว่าจะไม่สนใจพวกเขา ผมลุกขึ้นอีกครั้ง คว้าเสื้อโค้ทแล้วออกจากห้องทำงาน ผมรู้ดีว่าคงไม่มีสมาธิทำงานได้ แล้วจะเสียเวลาไปทำไมกันล่ะ?ผมส่งข้อความหาคนขับรถเพื่อให้เตรียมรถไว้ก่อนจะก้าวขึ้นลิฟต์ ไม่กี่นาทีต่อมา ผมก็อยู่ในลานจอดรถใต้ดิน“คุณวู้ดครับ” เขาก้มศีรษะเล็กน้อยขณะเปิดประตูรถให้ผมผมพยักหน้ารับก่อนจะเข้าไปในรถ เขาก็ขึ้นรถและเริ่มขับออกไปผมตัดสินใจเปิดดูข่าวซุบซิบต่าง ๆ เป็นการฆ่าเวลาเกเบรียล วู้ดเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ประกาศลั่นอย่างเป็นทางการ ข่าวจากวงในวู้ด คอร์เปอร์เรชั่นเกเบรียล วู้ด หนุ่มเนื้อหอมตัวท๊อปของเมืองสละโสดขวัญใจมหาชน เกเบรียล วู้ดลั่นระฆังวิวาห์ปิดประมูลความโสดของหนุ่มฮอต เกเบรียล วู้ดสาวคนไหนกันที่เกเบรียล วู้ด สวมแหวนแต่งงานให้กันนะ?เรื่องแล้วเรื่องเล่า บทความพวกนี้มีแต่เรื่องไร้สาระ บางอันก็ดูโง่เง่า บางอันก็มีส่วนจริงอยู่บ้างเมื่อเดินทางถึงบ้าน ผมปิดโทรศัพท์ก่อนลงจากรถ หลังจากกล่าวลาคนขับแล้ว ผมก็เดินตรงไปยังบ้านของตัวเองผมแปลกใจที่เจอฮาร์เปอร์นั่งรออยู่ในห้องนั่งเล่น“กลับมาบ้านได้สักทีนะคะ” เธอพูดอย่างเหม่อลอย “เห็นข่าวซุบซิบพว

  • ธุลีใจ   บทที่ 427

    เกเบรียลผมนั่งมองเอกสารตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า อารมณ์ยังคงเดือดพล่าน โกรธจัด โกรธจนแทบบ้า มิลลี่คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ถึงได้กล้าพูดจาหยาบคายใส่ฮาร์เปอร์แบบนั้น?เพราะสมาธิที่เตลิดไปจนหมด ผมลุกขึ้นยืนและเริ่มเดินวนไปมา สมองผมทำงานเร็วราวกับกำลังวิ่งไปด้วยความเร็วพันไมล์ต่อวินาที ผมพยายามคิดหาวิธีที่แตกต่างไปซึ่งจะทำให้ชีวิตของมิลลี่เป็นนรกบนดินนายโกรธอะไรนักหนา? ตอนที่แต่งงานกับฮาร์เปอร์เมื่อหลายปีก่อน นายเองก็ไม่ได้ดีไปกว่ามิลลี่เลยเสียงในหัวเยาะหยันผม แต่ผมไม่อยากฟัง เพราะมันพูดถูกจนน่าหงุดหงิด ตอนนั้นผมไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของเธอเลย ผมทำให้เธอเจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำเล่า แล้วอะไรล่ะที่เปลี่ยนไป?ตอนที่ผมลากฮาร์เปอร์มายืนกลางห้องและขู่ทุกคนที่กล้าทำร้ายเธอ ผมเห็นความตกใจและประหลาดใจในดวงตาเธอตอนอยู่ในห้องทำงานของผม เธอมองผมเหมือนกับว่าไม่รู้จักผมอีกต่อไป เหมือนเธอไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงเลือกอยู่ข้างเธอ มันชัดเจนว่าเธอคิดไม่ออกว่าจะคิดกับผมหรือการกระทำของผมอย่างไรผมยกมือลูบหน้าพร้อมถอนหายใจอย่างหงุดหงิด ผมจะโทษเธอได้อย่างไรล่ะกับปฏิกิริยานั้น ในเมื่ออดีตผมเคยปฏิบัติกับเธออย่างเลว

  • ธุลีใจ   บทที่ 426

    จากนั้น เขาจับมือฉันพาเดินออกจากห้องไป ก่อนที่ประตูจะปิด ฉันมองเห็นความหวาดกลัวในตาของมิลลี่ ความกลัวนั้นบอกทุกอย่างที่ฉันต้องการรู้ และแน่นอนว่าผลการสอบสวนของเธอคงไม่พูดถึงเธอในทางดีแน่เราขึ้นลิฟต์ไปเงียบ ๆ โดยที่ไม่มีใครพูดอะไร จนเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก เกเบรียลพาฉันไปที่ห้องทำงานของเขา"คุณเป็นอะไรไหม?" เขาถามเมื่อเราเข้าไปในห้อง "ผมส่งเรื่องให้ทีมสื่อข่าวสารประกาศเรื่องการแต่งงานของเราแล้ว ผมอยากลงไปหาเพื่อบอกคุณเรื่องนี้ แต่กลับไม่เจอคุณที่ห้องทำงานตัวเอง ผมก็เลยได้เห็นฉากน่ารังเกียจนั้นกับตา"ฉันดึงมือออกจากมือของเขาแล้วจ้องมองกลับไป "ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องห่วง""แน่ใจนะ?""แน่ใจค่ะ"เรานั่งอยู่ในความเงียบงันสักพัก ฉันเห็นว่าเขาคงอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ดูเหมือนมีบางอย่างที่ยับยั้งเขาเอาไว้ สายตาที่เขาจ้องมาทำให้ฉันรู้สึกอึดอัด"ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันคงกลับบ้านก่อนนะคะ ฉันรู้สึกกังวลมาตลอดทั้งวันเพราะเรื่องลิลลี่" ฉันพูดเบา ๆ ไม่กล้ามองตาเขา"ได้ งานเสร็จเมื่อไหร่ ผมก็จะกลับบ้านเลยเหมือนกัน"ฉันพยักหน้าก่อนจะเดินออกไป ไม่ใช่ว่าฉันไม่ขอบคุณในสิ่งที่เขาทำให้ แต่การกระทำของเข

  • ธุลีใจ   บทที่ 425

    "ภรรยาเหรอ?" มิลลี่ทวนคำพูดราวกับว่าเธอไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่ได้ยินได้"ผมพูดไม่ชัดหรือไง?" เกเบรียลถามเสียงเรียบแต่แฝงความคมกริบทั้งห้องเงียบกริบทันที คนที่เคยพึมพำและชี้นิ้วมาที่ฉันตอนนี้ต่างก้มหน้าลงไม่กล้ามองขึ้นมาฉันไม่ได้ต้องการให้เกเบรียลมาสู้แทนฉันเลย ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขี้กลัวและไม่มีความมั่นใจเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว ฉันเปลี่ยนไปมาก แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าฉันชอบที่เขาออกมาปกป้องฉันมิลลี่ตัวสั่นเทิ้ม เธอทั้งตัวแข็งทื่อและความกลัวปรากฏชัดบนใบหน้า นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่ฉันทำงานที่นี่ที่เธอไม่ได้ดูเหมือนผู้หญิงเย่อหยิ่งที่ฉันคุ้นเคยด้วยท่าทางของเธอ คุณอาจคิดว่าเธอเป็นเจ้าของบริษัทนี้ เธอชอบสั่งคนอื่น ทั้งหยาบคายและร้ายกาจ โดยเฉพาะกับผู้หญิง เธอปฏิบัติต่อคนอื่นเหมือนพวกเขาต่ำต้อยกว่าฉันแทบไม่เคยลงไปที่ชั้นอื่น ๆ แต่ถ้าฉันจำเป็นต้องไป มิลลี่จะอยู่ที่นั่นเสมอเพื่อพูดจาไร้สาระและปฏิบัติต่อฉันเหมือนขยะ"ดิฉันขอโทษค่ะเกเบรียล ดิฉันไม่ทราบว่าเธอเป็นภรรยาของคุณ" เธอกระซิบ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยการขอร้องความกดดันรอบตัวเกเบรียลยิ่งหนักขึ้นจนแทบหายใจไม่ออก ผู้ห

  • ธุลีใจ   บทที่ 424

    ฉันเพิ่งจะก้าวลงจากรถ แต่ทันใดนั้นเองเขาก็คว้ามือฉันไว้และกระชากมันอย่างแรง ฉันตกใจกับการกระทำนั้น จึงเงยหน้าขึ้นด้วยความสับสน แล้วก็เจอสายตาที่ลุกวาวของเขา“แหวนอยู่ไหน?” เขาพ่นคำถามออกมาอย่างเกรี้ยวกราด สายตาจ้องมองฉันเขม็งให้ตายเถอะ! อะไรกันเนี่ย?ฉันค่อย ๆ ละสายตาจากเขาไปที่นิ้วมือว่างเปล่าของตัวเอง คุณเคยอยู่ในสถานการณ์ที่สับสนไหม? แบบที่คุณรู้ว่าคนถามอะไร คุณรู้คำตอบ แต่ก็ยังสับสนอยู่ดี? นั่นแหละ ตอนนี้ฉันเป็นแบบนี้“ฮาร์เปอร์ แหวนคุณอยู่ที่ไหน?” เขาเค้นเสียงถามขณะที่ก้าวลงจากรถฉันมองร่างของเขาที่ลุกออกจากรถ แล้วตอนนี้เขาก็ยืนตระหง่านค้ำหัวฉัน ความน่าเกรงขามของเขาทำให้ฉันพูดอะไรไม่ออกเขาเขย่าตัวฉันเล็กน้อยดึงฉันกลับมาอยู่กับปัจจุบัน“ฉันไม่เข้าใจเลยว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น” ฉันพึมพำออกมา ยังคงไม่แน่ใจว่าทำไมเขาถึงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟกับเรื่องเล็ก ๆ แค่นี้สีหน้าของเขามืดครึ้มขึ้นไปอีก เหมือนคำตอบของฉันไปกระตุ้นอะไรบางอย่างในตัวเขาเข้า“เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็คือคุณไม่ได้ใส่แหวนที่ผมเป็นคนให้ และผมก็อยากรู้ด้วยว่าทำไม” เขาคำรามออกมา ใบหน้าเคร่งเครียดฉันตอบกลับไปแบบโง

  • ธุลีใจ   บทที่ 423

    ฉันพยายามดึงมือออก แต่ก็ไม่สำเร็จ เขาจับมันไว้แน่นไม่ยอมปล่อย เขาไม่จับแน่นจนเจ็บ แต่แน่นพอที่ฉันจะดึงมือออกไม่ได้"ฮาร์เปอร์" เขากระซิบเตือนเมื่อฉันพยายามดึงมือออกอีกครั้งทำไมเขาต้องทำให้มันยากขนาดนี้? ปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปไม่ได้เลยเหรอ?"ไม่มีอะไรให้พูดทั้งนั้น" ฉันขู่ฟ่อ ขมวดคิ้วมองใบหน้าหล่อเหลาของเขาความจริงที่ว่าฉันอ่อนระทวยต่อสัมผัสของเขาก็น่าอายพอแล้ว ตอนนี้เขายังอยากจะทำให้ฉันอายมากขึ้นด้วยการพูดเรื่องนี้ระหว่างทางไปทำงานอีก"ตรงนี้แหละที่คุณคิดผิด" เขาจับเอวฉันแล้วดึงเข้าใกล้ตัว "เรามีเรื่องต้องคุยกันเยอะแยะ"เขากำลังทำอะไรอยู่นะ? เสียสติไปแล้วเหรอ? ตอนนี้ต้องมีอะไรบางอย่างผิดปกติกับเกเบรียล เพราะเขากำลังทำอะไรที่ดูไม่ใช่เขาเลยเขากำลังปั่นหัวฉันเล่นเหรอ? เป็นแบบนี้ใช่ไหม? เกมสำหรับเขาสินะ"ปล่อยฉันนะ เกเบรียล" ฉันกระซิบอย่างโกรธจัดในใจ ขณะที่ความคิดที่ไม่สบายใจเริ่มจมลึกลงในหัวโธ่! มันยังเจ็บอยู่เลย เจ็บที่เมื่อก่อนเขาไม่ต้องการฉัน แล้วตอนนี้เขากำลังทำเหมือนฉันเป็นของเล่น"ทำไมล่ะ?" เขาถาม ขณะริมฝีปากของเขาใกล้หูฉัน "ผมทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจหรือเปล่า? ทำให้คุณเร

  • ธุลีใจ   บทที่ 422

    ตอนที่เรากำลังจะออกจากบ้าน ฉันควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้แล้วฉันไม่อยากยอมรับ แต่ความรู้สึกดึงดูดที่ฉันมีต่อเกเบรียลยังคงอยู่ มันผ่านมาหลายปีแล้ว เกือบสิบปี แต่เขาใช้เวลาเพียงเล็กน้อยในการเร้าอารมณ์ฉันฉันเกลียดมัน เกลียดเพราะตอนที่ฉันแต่งงานกับเลียม มันต้องใช้เวลาสักพักกว่าฉันจะรู้สึกตื่นเต้นพอสำหรับเรื่องบนเตียง อย่าเข้าใจผิดนะ เลียมไม่ได้เป็นคู่รักที่แย่ เขาไม่ได้แย่เรื่องเซ็กซ์ แต่ความรู้สึกมีอารมณ์ของฉันไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ ตอนที่เขาอยากจะนอนด้วยแต่กับเกเบรียล มันไม่ได้ยากเลย แค่สายตาที่ร้อนแรงแวบเดียวพร้อมมือที่หยาบกร้านของเขาแตะผิวกาย ฉันก็เปียกชุ่มเพราะเขา พร้อมให้เขาครอบครอง มันบอกอะไรเกี่ยวกับตัวฉันเหรอ? การที่อดีตสามีไม่ได้สัมผัสด้านนี้ของฉันในขณะที่ผู้ชายที่ทำลายฉันกลับทำได้?หลังจากอาบน้ำเย็นเร็ว ๆ เพื่อล้างความเร่าร้อนและความอับอายออกไป ฉันแต่งตัวและลงไปที่โต๊ะอาหาร ระหว่างที่เรากำลังกินข้าว ฉันพยายามหลีกเลี่ยงสายตาที่เหมือนรู้อะไรของเกเบรียล“พร้อมหรือยังลูก?” ฉันถามลิลลี่ในขณะที่เธอหยิบกระเป๋าเป้ขึ้นมาเป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่เกเบรียลประกาศว่าเขาจะไปส่งลิลลี่ไปโรง

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status