Share

บทที่ 18

Author: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
“ก็นายเล่นจ้องเมียเก่ากับฮีโร่เธอซะขนาดนั้น” เกเบรียลให้เหตุผล

“มันไม่ใช่ฮีโร่อะไรทั้งนั้น!”

“เขาเป็นสิ…เผื่อลืมไปว่าเขาพยายามเข้าไปช่วยเอวานะ แค่นั้นก็ทำให้เธอมองเขาว่าเป็นฮีโร่แล้ว”

เธอหันไปมองเจ้าหมอนั่นด้วยสายตาที่ผมไม่เคยได้รับมาก่อน ซึ่งทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย

“หุบปากไปเลย เกเบรียล” ผมตะคอก

เจ้าน้องชายหัวเราะชอบใจ เห็นได้ชัดว่าเขาคิดว่าเรื่องนี้น่าขัน

“นี่ หักห้ามใจตัวเองเอาไว้บ้างเถอะ วันนี้นายมากับเอมม่า ดังนั้นจะเอาแต่มองเอวาทั้งวี่ทั้งวันไม่ได้หรอกมั้ง เอมม่าเป็นคนที่นายรักนะจำได้ไหม อีกอย่างเธอคงสังเกตเห็นแล้วแหละว่านายโดนดึงความสนใจไป”

คำถากถางดึงสติผมกลับมา ผมหันไปมองเอมม่าและพบว่าเธอกำลังนั่งอยู่ มือคู่นั้นวางบนหน้าตักใบหน้าเหี่ยวเฉา โธ่เอ้ย! เกเบรียลพูดถูกทั้งหมด เอมม่าไม่ควรต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เราควรเริ่มเดินหน้าความสัมพันธ์กันใหม่ แต่ตอนนี้ผมกลับมัวแต่สนใจเอวาที่ดูเหมือนว่าเริ่มเปิดใจให้คนใหม่ไปแล้ว

ผมวางปืนลงและเดินไปนั่งข้างเอมม่า

“ผมขอโทษนะเอมม่า วันนี้ใจผมไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลย”

ผมไม่ได้โกหกแต่อย่างใด เพราะเหตุผลบางอย่าง วันนี้เอวาทำเอาผมปั
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter
Mga Comments (1)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
ผู้ชายใจโลเลสมแล้วกับผู้หญิงส่รเลวอย่างเอมม่า ปล่อยให้เอวาไปเจอกับคนที่ดีอย่างอีธานเถอะค่ะ ส่วนอีเอมม่ามึงพูดออกมาได้เน๊อะว่าอีธานอาจจะไม่ใช่คนที่ดี อย่าอิจค่ะ
Tignan lahat ng Komento

Kaugnay na kabanata

  • ธุลีใจ   บทที่ 19

    เอวา“ถ้างั้น โรแวนก็เป็น?” อีธานเอ่ยถามขณะเราทั้งสองขับรถกลับบ้านหลังจากเหตุการณ์ในห้องน้ำเมื่อครู่ ฉันไม่ต้องการอยู่ใกล้กับโรแวนอีก ดังนั้นสามสิบนาทีต่อมาฉันจึงขอร้องให้อีธานช่วยพาฉันกลับบ้าน“เป็นสามีเก่าของฉันค่ะ” ฉันตอบคำถามนั้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ และเราทั้งสองต่างก็เงียบกันไปฉันยังทำใจเชื่อไม่ลงจริง ๆ ว่าโรแวนจะเหิมเกริมขนาดไล่ต้อนให้ฉันจนมุมในห้องน้ำเช่นนั้น ซึ่งนั่นยังแย่ไม่พอ เขายังเกือบจูบฉันอีกด้วย จูบฉันเนี่ยนะ! โรแวนไม่เคยเป็นฝ่ายเริ่มรุกจูบฉันมาก่อนเลย ดังนั้นแค่บอกว่าฉันตกใจก็คงจะยังน้อยไปฉันเกือบยอมจำนนเสียแล้ว เพราะว่านี่เป็นสิ่งที่ฉันใฝ่หามาโดยตลอด แต่ฉันตระหนักได้ว่าเขาอยู่กับเอมม่า เขาน่าจะจูบเธอแล้วทำอะไร ๆ กับเธอด้วย เรื่องนี้ทำให้ฉันรวบรวมกำลังผลักเขาออกไปให้ห่าง ฉันยอมให้เขาเล่นสนุกกับฉันไม่ได้ พอกันเสียที เขามีเอมม่าอยู่ด้วยและฉันไม่มีสถานะอะไรอีก นอกจากเป็นแม่ของลูกชายเขาเพียงเท่านั้นโรแวนไม่เคยนึกหึงหวงหรือรู้สึกเป็นเจ้าเข้าเจ้าของฉันมาก่อน เขาเคยทำแบบนี้กับเอมม่าสมัยยังเป็นวัยรุ่น และฉันคิดว่าเร่าร้อนไม่น้อย ฉันจินตนาการไปว่ามันจะดีเพียงใดหากโรแวน

  • ธุลีใจ   บทที่ 20

    หลังจากถูกปลุกให้ตื่นด้วยความรู้สึกหงุดหงิด ฉันสวมใส่ชุดคลุมอาบน้ำและรีบร้อนลงไปด้านล่าง ใครก็ตามที่กล้ามากวนใจฉันแบบนี้เตรียมตัวหูชาได้เลยฉันบิดประตูเปิดออกไป พร้อมสบถใส่ผู้อยู่ตรงหน้า แต่ฉันก็ต้องชะงักไป บุคคลที่ฉันไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะได้เจอมายืนอยู่ตรงหน้าบ้านฉันตอนนี้“มาที่นี่ต้องการอะไร เอมม่า?” ฉันต่อว่าฉันยังไม่ตื่นดีพอที่จะรับมือกับเธอ“ฉันถ่อมาถึงที่นี่เพราะอยากมาเตือนให้หล่อนอยู่ให้ห่างจากโรแวนเสีย เขาเป็นของฉัน ฉันไม่ยอมให้ปล่อยให้หล่อนขโมยเขาไปอีกเด็ดขาด” เธอแผดเสียงใส่คิ้วของเธอขมวดเป็นปมแน่น และเปลวเพลิงแห่งความเดือดดาลลุกโชนอยู่ภายในดวงตาฉันแค่นหัวเราะ “เธอแหกขี้ตามาบ้านฉันตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าเพื่อจะเตือนให้อยู่ห่างจากโรแวนเนี่ยนะ? เธอหาเรื่องผิดคนแล้วล่ะมั้ง เอมม่า”ฉันไม่ใช่เด็กน้อยผู้ใสซื่อแสนโง่เขลาที่โดนเธอทิ้งห่างแบบไม่เห็นฝุ่นแล้ว ฉันคงจะเป็นคนบ้าถ้าปล่อยให้เธอมาเหยียบย่ำฉันได้ “โรแวนเป็นของฉันนะ เอวา! เขาเป็นของฉันมาโดยตลอด ฉันเสียเวลาไปเก้าปีไม่ได้อยู่กับคนที่ฉันรัก เพราะหล่อน และฉันก็ไม่ยอมให้หล่อนได้ทำตามใจอีกเป็นครั้งสองแน่”“ฉันไม่มีวันจะกลับไปอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 21

    ศีรษะของฉันปวดตุบไปหมด ที่จริงปวดหัวนั่นมันแค่ส่วนเล็กน้อย ความเจ็บปวดแล่นทั่วร่างกาย ฉันพยายามลืมตาแต่กลับทำไม่ได้ ราวกับเปลือกตาทั้งสองถูกหินหนักถ่วงเอาไว้ ฉันพยายามร้องเรียกหาโนอา แต่กลับไม่มีเสียงใดเล็ดลอดจากลำคอได้เลยฉันกำลังขยับตัว หรือไม่ก็ใครสักคนเคลื่อนย้ายร่างกายฉัน ยิ่งขยับเขยื้อนร่างกายมากเท่าใด ความเจ็บปวดยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ฉันหวังเพียงว่าให้เขาพาฉันไปอย่างช้า ๆ หรือไม่ก็เลิกขยับตัวฉันไปเลย“ตามหมอมาที!” ใครสักคนตะโกนออกมาฉันไม่เข้าใจว่าพวกเขากำลังพูดเรื่องอะไรแล้วทำไมต้องเรียกหาหมอ หรือแม้แต่ตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ฉันพยายามประคองสติเอาไว้ให้ได้แต่ความมืดมิดโอบกอดฉันเอาไว้อีกครั้งก่อนที่ฉันจะดำดิ่งลงไปในความมืด…เมื่อได้สติกลับมาอีกครั้ง ฉันไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างใด กระนั้นดวงตายังลืมไม่ขึ้นรวมถึงยังขยับเขยื้อนร่างกายไม่ได้ด้วย ฉันรู้สึกแขนขาหนักอึ้งเหมือนถูกถ่วงเอาไว้ ราวกับว่าฉันถูกกักขังไว้ภายในร่างกายตนเอง ฉันได้ยินเสียงผู้คนรอบกายพูดคุยกันอยู่ไกล ๆ เหมือนว่าคนเหล่านั้นพูดอยู่ใต้น้ำหรืออะไรแบบนั้น ไม่มีเรื่องใดที่เกิดขึ้นตอนนี้สมเหตุสมผลเลย และฉันไม่เข้าใจว่

  • ธุลีใจ   บทที่ 22

    “คุณชาร์พครับ ดีใจที่คุณฟื้นขึ้นมานะครับ… ก่อนนี้เราห่วงกันอยู่” คุณหมอเกริ่นพร้อมรอยยิ้ม “ตอนนี้คุณรู้ว่าตอนนี้ตนเองอยู่ที่ไหนและเกิดอะไรขึ้นกับคุณหรือเปล่าครับ?”ฉันพยักหน้าตอบรับ “ที่โรงพยาบาลค่ะ… มีบางอย่างผลักฉันกระเด็นออกมาอย่างแรงตอนที่ปลดล็อกรถน่ะค่ะ ฉันเลยหัวฟาดเพราะแรงผลักนั่น”ฉันพยายามไม่นึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับฉันตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้น เพราะรู้สึกหวาดกลัวที่จะยอมรับความเป็นจริงที่ว่าฉันเกือบจากโลกไปนี้แล้ว“ครับ รถของคุณระเบิด คุณกระเด็นออกมาเพราะแรงระเบิดนั้น” เขาหยุดพูดครู่หนึ่ง “แล้วปีนี้ปีอะไรครับ?” ฉันตอบคำตอบคุณหมอไปมือของเขาก็จดรายละเอียด โรแวนกุมมือฉันแน่น ฉันเหลือบมองเขาอยู่บ้าง บางสิ่งปรากฎในแววตาคู่นั้น แต่มันหายไปก่อนที่ฉันจะทันได้เข้าใจความหมายฉันรู้สึกตื่นตระหนกไม่น้อยเลย ไม่เคยคิดเคยฝันมาก่อนว่าจะเกิดเหตุรถยนต์ระเบิดเช่นนี้ ด้วยความตึงเครียดจากเรื่องต่าง ๆ ทำให้ฉันรู้สึกปวดหัวและความรู้สึกเจ็บปวดเริ่มกลับมา“เอาเป็นว่าการที่คุณระบุว่าปีนี้คือปีอะไรได้ คุณจำชื่อตนเองได้ รู้ว่าคุณวูดส์คือใครถือได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดี แต่ว่าเราจะขอทำการทดสอบเพิ่มเติมนะครั

  • ธุลีใจ   บทที่ 23

    โรแวน“โรแวน เอวาเป็นไงบ้าง?” เคทผู้เป็นแม่ของเอวาเอ่ยถามความกังวลแฝงมากับน้ำเสียงนั้นออกมาจากใจจริง สัมผัสได้ว่าเคทต้องพยายามมากเท่าใดที่จะหักห้ามไม่ให้ตนเองร้องไห้ สองสามวันนี้เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบาก ผมเองก็ยังทำใจกับการที่เกือบเสียเอวาไปไม่ได้“เมื่อวานเอวาตื่นขึ้นมาคุยสักสองสามนาทีแล้วก็นอนต่อ แต่คุณแม่ไม่ต้องกังวลเพราะหมอบอกว่านี่เป็นอาการปกติของคนไข้ที่ได้รับการกระทบกระเทือนทางสมองครับ”ผมได้ยินเสียงเธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก เคทเปลี่ยนไปนับตั้งแต่สามีเธอจากโลกนี้ไป เธอต้องการสนิทสนมกับเอวา แต่เอวากลับตัดสินใจเด็ดขาดว่าจะไม่ข้องแวะอะไรกับครอบครัวตัวเองอีก ที่จริงเธอไม่ต้องการจะข้องเกี่ยวอะไรกับพวกเราเลยสักคน“ลูกจะไม่เป็นไรใช่ไหม? จะกลับมาหายดีเป็นปกติใช่ไหม?”“ครับ คุณหมอดูมั่นใจ แต่ว่าพวกเขาเองก็ยังยืนยันไม่ได้นะครับว่าเอวาจะกลับมาสมบูรณ์เต็มร้อยเหมือนเดิม ตอนนี้ยังคงเร็วเกินไปที่จะบอกแหละครับ แต่หมอบอกว่าผู้ป่วยสมองกระทบกระเทือนอาจมีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ได้”ซึ่งจุดนี้ทำให้ผมรู้สึกกังวลไม่หาย ด้วยความสัตย์จริงผมต้องการเพียงแค่ให้เธอกลับมาหายดีเป็นปกติ“อย่ากังวลไปเลยครั

  • ธุลีใจ   บทที่ 24

    ผมหันหลังกลับไปเห็นเอมม่า ผู้ที่ยืนอยู่ข้างเธอนั้นคือทราวิส เขาดูไม่จืดเลยเมื่อเทียบกับเอมม่า“เอวาได้สติหรือยัง?” ทราวิสเอ่ยถามเสียงอ่อนสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ทำให้เขาตระหนกไม่น้อย ไม่เพียงแต่ทราวิสเท่านั้น ทุกคนก็ไม่ต่างกัน เขาเกือบจะสูญเสียน้องสาวไป และนั่นทำให้เขาได้ตระหนัก“ยัง” ผมตอบกลับ“คุณกลับบ้านไปก่อนดีกว่านะ โรแวน” เอมม่าเอ่ย “ไปอาบน้ำล้างเนื้อตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วค่อยกลับมาก็ได้นะ สภาพคุณตอนนี้เหมือนซอมบี้เลย”“ผมไม่กลับ เอมม่า” ผมปฏิเสธออกไปผมไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น หากว่ามีอะไรเกิดขึ้นขณะผมไม่อยู่ที่นี่เล่า?“ถ้าคุณทรุดลงไปอีกคนหนึ่งเล่า มันไม่ได้ดีต่อเอวาหรือใครเลยนะ… กลับบ้านเถอะ ฉันมั่นใจว่าคุณอาบน้ำแต่งตัวให้เรียบร้อยมันใช้เวลาไม่นานหรอก” เอมม่าโต้แย้งทราวิสมองผมพร้อมทั้งเสริมขึ้น “เอมม่าพูดถูกแล้วโรแวน ฉันสัญญาเลยนะว่าจะไม่ให้เอวาคลาดสายตาสักวินาทีเดียว”ผมหันไปมองเอวา เธอยังคงนอนหลับอยู่และดูเหมือนว่าจะยังไม่ตื่นเร็ว ๆ นี้“ถ้างั้นก็ได้ แต่ห้ามทิ้งเธอให้อยู่คนเดียวเด็ดขาดนะ” ผมกล่าวคำขาดเธอเพิ่งโดนลอบฆ่ามา ใครจะไปรู้ว่าคนร้ายพวกนั้นอาจพยายามกลับมาจัด

  • ธุลีใจ   บทที่ 25

    อีธานนั่งอยู่ฝั่งขวาของเอวาพร้อมการ์ดหลายใบ ส่วนเอวานั่งเอนอยู่ ถ้าไม่นับว่ามีผ้าพันแผลพันอยู่รอบศีรษะรวมถึงรอยขีดข่วนบนใบหน้า เธอก็กำลังยิ้มอยู่ซึ่งแปรเปลี่ยนสีหน้าของเธออย่างสิ้นเชิงเมื่อเห็นหน้าของผม รอยยิ้มนั้นเลือนหายไปทันตา“ออกไป” เธอออกคำสั่งผมเดาได้เลยว่าเธอกลับมาเย็นชาอีกครั้ง“ไม่ออกไปแน่ เอวา” ผมโต้ตอบกับเธออย่างใจเย็นพร้อมเดินไปนั่งฝั่งซ้ายของเธอใบหน้านั้นเริ่มเต็มไปด้วยความเดือดดาล สายตาฉายแววคมปลาบ เมื่อวานนี้เธอยังดี ๆ อยู่แล้วตอนนี้มันเกิดขึ้นอะไรขึ้นกันแน่?“ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณที่นี่ ดังนั้นช่วยออกไปเสียตอนนี้ พาสองคนข้างนอกนั้นไปด้วย… ฉันไม่ต้องการพวกคุณสักคนที่นี่”ผมเดาว่าเธอหมายถึงเอมม่าและทราวิส มีบางสิ่งเกิดขึ้นแน่นอน เมื่อวานนี้ท่าทีของเธอเป็นมิตรอย่างมากแต่วันนี้กลับกลายเป็นคนละคน ผมไม่ควรปล่อยเธอไว้กับเอมม่าและทราวิสจริง ๆ“คุณใจเย็นก่อนนะเอวา คุณยังไม่หายดี ดังนั้นไม่ควรทำให้ตัวเองเครียดขนาดนี้นะ” อีธานกล่าวขัดจังหวะเจ้าหนุ่มนั่นกุมมือเธออย่างอ่อนโยน เธอหันมองมือทั้งสองที่ประสานกันจากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของเขา สายตาเธอช่างอ่อนโยนและความ

  • ธุลีใจ   บทที่ 26

    เอวา“ผมคิดถึงแม่จัง ทำไมแม่ไม่โทรมาหาผมเลย?” โนอาถามฉันด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้าสิ่งที่ฉันปรารถนามากที่สุดตอนนี้คือโอบกอดลูกชายเอาไว้ในอ้อมแขน เพื่อให้มั่นใจว่าฉันยังอยู่กับเขา ยังไม่ได้ปล่อยให้เขาเป็นเด็กกำพร้าแม่“แม่ขอโทษนะลูกรัก โทรศัพท์แม่หายเลยต้องยืมของพ่อลูกมาแทนก่อนน่ะจ้ะ”“ขอวิดีโอคอลได้ไหมครับ? ผมอยากเห็นหน้าแม่” เด็กน้อยเอ่ยปากฉันรับรู้ได้ว่าโนอาจับสังเกตสิ่งผิดปกติได้ แต่ฉันก็ไม่สามารถให้เขาเห็นฉันนอนป่วยอยู่บนเตียงโรงพยาบาลได้เพราะเด็กชายต้องเป็นกังวลและอยากกลับบ้านแน่ แถมตอนนี้ฉันยังกลายเป็นเป้าหมาย ฉันก็ยิ่งไม่อาจเสี่ยงพาคนที่จ้องโจมตีฉันให้ไปเจอลูกชายได้ฉันยังไม่อยากเชื่อว่าจะมีโอกาสที่ฉันกลายเป็นเป้าหมายหลักของเหตุครั้งนี้ ไม่อยากเชื่อว่ามีคนต้องการให้ฉันตาย“ตอนนี้ยังไม่ได้นะลูก พอดีว่าที่แม่อยู่ตอนนี้เขาไม่ให้วิดีโอคอล” ฉันโกหกออกไป“กฏงี่เง่าชะมัด! ใครมันเป็นคนสร้างกฎแบบนี้นะ?” เด็กชายโวยวายผ่านโทรศัพท์แม้รู้ว่าลูกชายอารมณ์เสียมากเพียงใด แต่ฉันก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้“โนอา…”“ผมแค่อยากเห็นหน้าแม่นี่ครับ ให้พ่อทำให้พวกเขาไม่ยุ่งกับแม่ได้ไหม?

Pinakabagong kabanata

  • ธุลีใจ   บทที่ 539

    ฉันหยุดหายใจเเพราะความตกใจ และผละออกจากเขา ในขณะที่ร่างเล็ก ๆ กระโดดขึ้นมาบนตัวเรา"สุขสันต์วันคริสต์มาส!" เขาตะโกนอย่างมีความสุขด้วยเสียงร้องเพลง“หัวจะปวด” ทั้งกาเบรียลและฉันครางอย่างหงุดหงิดจะมาช้ากว่านี้สักชั่วโมงไม่ได้หรืออย่างไร? ถ้ามีใครสักคนในครอบครัวนี้ที่ชอบขัดจังหวะเรา มันก็ต้องเป็นลูกคนที่สอง แอนดรูว์ คนนี้แน่นอน เราเรียกเขาว่าดรูว์เขาอาจจะไม่รู้ว่าเขาเป็นตัวขัดจังหวะแค่ไหน แต่ก็ไม่สำคัญยังไงเขาก็ทำอยู่ดี"ตื่นครับ! ตื่น!" เขาตะโกนเสียงดัง จนชั่วขณะหนึ่งฉันไม่ได้ยินอะไรเลย นอกจากเสียงก้องของเจ้าลูกชาย"ไม่ต้องตะโกนก็ได้ ดรูว์" เกเบรียลบ่น "พ่อแม่ได้ยินชัดเจนโดยที่หนูไม่ต้องทำให้แก้วหูพ่อแม่แตกก็ได้"ดูเหมือนดรูว์จะไม่ฟังเลย เขาเด้งขึ้นเด้งลงบนเตียง มีความสุขแผ่ซ่านออกมาจากตัวเขาเกเบรียลขยับตัวใต้ผ้าห่ม คงพยายามขยับทุกอย่างให้เข้าที ฉันขยับร่างกายขึ้นและพิงหัวเตียง ก่อนจะคว้าลูกชายที่กระตือรือร้นและอยู่ไม่นิ่งมา สิ่งสุดท้ายที่เราต้องการคือเขาทำร้ายพ่อของเขาด้วยการเผลอเหยียบเข้ากลางตัวเขาหรืออะไรทำนองนั้น"หนูพยายามห้ามเลียมแล้วนะคะ แต่แม่ก็รู้ว่าเขาเป็นยังไงเวลาต

  • ธุลีใจ   บทที่ 538

    ฮาร์เปอร์ฉันกำลังล่องลอยอยู่บนปุยเมฆสีขาวนุ่มฟูแห่งการนอนหลับ ฉันรู้สึกอบอุ่น รู้สึกสงบ และรู้สึกได้รับความรักฉันเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาทีละน้อย เกเบรียลนอนอยู่ข้างหลังฉัน แขนโอบกอดฉันไว้ เขาทำแบบนี้ทุกครั้งที่เรานอนหลับด้วยกัน เขากอดฉันไว้แน่นในอ้อมแขน ราวกับว่าเขากลัวว่าฉันจะหายไปหากไม่ทำเช่นนี้ฉันขยับตัวเล็กน้อยเพื่อหลุดออกจากอ้อมแขนของสามี ทว่าแทนที่จะปล่อยฉันไป เขากลับกระชับมือแน่นขึ้น ซึ่งดันฉันเข้าไปแนบชิดมากขึ้นฉันหยุดขยับเมื่อรู้สึกถึงเขา ฉันรู้สึกถึง น้องน้อยที่ตื่นมาเคารพธงชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา ฮอร์โมนของฉันพลุ่งพล่าน และฉันก็ต้องการเขาขึ้นมาทันที ฉันอยากให้เขาสอดแทรกเข้ามาในร่างนี้เรื่องบนเตียงของเราสองช่างสมบูรณ์ แต่ก็มีบางครั้งที่ต้องการมากกว่านี้ อาจเพราะมีลูกด้วยกันถึงสามคนแล้ว บางเวลามันก็ยากที่จะมีเวลาส่วนตัวที่ไม่ถูกรบกวนได้"อืม" เกเบรียลร้องครางเมื่อฉันถูบั้นท้ายกับเป้าของเขาเสียงนั้นเดินทางลงไปจนถึงจุดนั้นของฉัน ฉันถูอีกครั้ง กระตุ้นเสียงครางแสนเร้าอารมณ์จากเขาอีกเกเบรียลเริ่มประทับจูบตามหลัง ไหล่ และคอ มันผ่านมาสองสามวันแล้ว และฉันก็โหยหาเขา

  • ธุลีใจ   บทที่ 537

    "ใช่เลยครับ" เขาตอบรับรอยยิ้มของฉัน ขณะที่คิลเลียนเดินเข้ามาหาเรา"ผมมาขโมยภรรยาแสนสวยของผมคืนแล้วครับ" เสียงเขาแหบพร่า และฉันอดไม่ได้ที่จะละลายไปกับโทนเสียงนั้น มันเซ็กซี่สุด ๆ ไปเลย“เธอเป็นของคุณแล้วนะ” คาลวินปล่อยมือจากฉันและหลีกทาง ก่อนจะเดินจากไปคิลเลียนดึงฉันเข้าไปในอ้อมกอดเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีช่องว่างระหว่างเรา "เป็นยังไงบ้าง? ปวดหลังหรือเปล่า? ขาเป็นยังไง?"เห็นไหม ฉันบอกแล้วไง เขาเป็นเสือร้ายในคราบทนายความ แต่ดูแลเอาใจใส่และรักใคร่ในฐานะคู่ครอง ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าฉันมีสเปคแบบไหน จนกระทั่งฉันได้พบเขา"สบายดีค่ะ ที่รัก ไม่ต้องเป็นห่วงขนาดนั้นก็ได้" ฉันหัวเราะเบา ๆ ดันตัวเองเข้าไปใกล้เขามากขึ้น"ผมเคยบอกว่าผมรักคุณแล้วหรือยัง?" เขาถามฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มขณะที่เขย่งปลายเท้าและกระซิบชิดริมฝีปากของเขา "ประมาณพันครั้งแล้วค่ะวันนี้ แต่ฉันไม่ได้บ่นอะไรนะ""คุณคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เคยเกิดขึ้นกับผมเลยนะครับ เอมม่า ผมนึกไม่ออกเลยว่าชีวิตผมจะเป็นยังไงหากไม่มีคุณ ผมรู้ว่าเราได้กล่าวคำสาบานกันไปแล้ว แต่ผมสัญญาว่าจะรักและทะนุถนอมคุณเสมอ เพราะคุณคือของขวัญที่เบื้องบนประทานมา ผมสัญญา

  • ธุลีใจ   บทที่ 536

    มอลลี่เป็นหนึ่งในเพื่อนเจ้าสาว เช่นเดียวกับเอวา คอนนี่ เล็ตตี้ ฮาร์เปอร์ และคินลีย์ พวกเธอเป็นเพื่อนสาวกันมาสี่ปีแล้วตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุวันนั้น แน่นอนว่าฉันไม่มีวันหาใครมาแทนมอลลี่ได้ เธอเป็นเพื่อนสนิทที่สุด แต่ฉันก็รู้สึกขอบคุณที่มีพวกเธออยู่เช่นกันอีกอย่างเมื่อวานนี้มอลลี่บอกฉันว่าเธอกำลังคิดจะย้ายมาอยู่ที่นี่ ฉันตื่นเต้นมาก ฉันรักเธอ แต่เรายอมรับว่าเป็นเพื่อนระยะไกลกันมันรักษาความสัมพันธ์กันได้ยาก ฉันมีความสุขมากที่เธอจะย้ายมาอยู่ใกล้ ๆเสียงเพลงช้าลง และกันเนอร์ก็เดินเข้ามา ตัดบทสนทนาทั้งหมด“เต้นรำกันหน่อยไหมครับ แม่?”มีเสียง ว้าว ดังขึ้นเป็นระลอก และฉันสาบานได้ว่าหัวใจฉันละลายไปตรงนั้นเลย"แน่นอนสิจ๊ะ สุดหล่อของแม่" ฉันตอบก่อนจะจับมือเขาตอนนี้กันเนอร์อายุสิบสี่ เป็นวัยรุ่นแล้วเชื่อไหมล่ะ? เขาสูงเท่าฉันแล้ว และฉันมั่นใจว่าอีกไม่กี่ปีเขาจะสูงกว่าฉัน ฉันไม่ว่าอะไรหรอก เขาก็จะเป็นลูกชายตัวน้อยของฉันเสมอคาลวินและฉันตัดสินใจส่งเขาไปเข้ารับการบำบัดทันทีที่ฉันออกจากโรงพยาบาล เราเข้าร่วมการบำบัดร่วมกันบ้าง และพูดคุยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรา และเกี่ยวกับวันที่เกิดอุบัติเหตุ

  • ธุลีใจ   บทที่ 535

    เอมม่าฉันเต้นรำกับมอลลี่ ปล่อยให้เสียงเพลงโอบล้อมตัวไว้ ฉันรู้สึกปวดหลังเล็กน้อยแต่ก็ไม่สำคัญอะไรเลยเมื่อฉันมีความสุขสุด ๆ แบบนี้ชุดเดรสสะบัดไปมาขณะที่เราตะโกนเนื้อเพลง หน้าร้อนแสนสาหัส ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ออกมาสุดเสียง เอวาที่กำลังตั้งครรภ์ท้องแก่ก็เข้าร่วมกับเราด้วย ฉันหัวเราะเพราะเธอคิดว่าเธอกำลังเต้นอยู่เลยแต่เปล่าเลย ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเรียกสิ่งที่เธอกำลังทำว่าอะไรดีจำนวนครั้งที่ฉันเรียกว่าตนเองมีความสุขนั้นสามารถนับนิ้วได้เลย หนึ่งคือตอนที่ฉันสอบเนติบัณฑิตได้ สองคือตอนที่กันเนอร์เรียกฉันว่าแม่เป็นครั้งแรกหลังจากผ่านมานาน และสามคือวันนี้ งานแต่งของฉันคุณได้ยินไม่ผิดหรอกค่ะ ฉันแต่งงานแล้วและฉันมีความสุขอย่างที่สุดจำทนายหนุ่มน่ารักที่ฉันเล่าให้เอวาฟังในวันเกิดของเจมส์ได้ไหมคะ? จะว่าอย่างไรดี เขาไม่เคยละความพยายามเลยค่ะ ไม่ว่าฉันจะปฏิเสธเขากี่ครั้งก็ตาม เขาขอฉันคบหาอยู่เรื่อย ๆ และที่ฉันบอกว่าเรื่อย ๆ ก็คือเขาขอเกือบทุกวัน ฉันเบื่อที่จะได้ยินคำถามเดิม ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนวันหนึ่งฉันก็ตอบตกลง ปรากฏว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตนี้เลยฉันชะลอฝีเท้าลง ดวงตามองหาเจ้าบ

  • ธุลีใจ   บทที่ 534

    กันเนอร์มีน้องชายแล้ว งงกันอยู่ใช่ไหมคะ? เพราะเมื่อกี้ฉันกับเอวากำลังคุยเรื่องแฟนกันอยู่เลย เชสไม่ใช่ลูกชายของฉันค่ะ เขาเป็นลูกชายตัวน้อยของคาลวินและคินลีย์ พวกเขาแต่งงานกันเมื่อปีที่แล้วแล้วมีเชสตัวน้อยน่ารักคนนี้เป็นลูกน้อยคาลวินและฉันสนิทกันมากขึ้นตั้งแต่อุบัติเหตุ เหมือนกับกันเนอร์ เขายกโทษให้ฉัน และพวกเราก็สามารถสร้างมิตรภาพที่สวยงามได้คินลีย์เป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ เธอเข้ากับพวกเราทุกคนได้ เธอใจดีและน่ารัก และที่สำคัญที่สุด เธอทำให้คาลวินมีความสุขและปฏิบัติต่อกันเนอร์เหมือนลูกชายของเธอเอง"ไม่จ้ะ ไม่เคยเกินจริงเลย" เอวาแก้ตัว "น้าแค่อยากให้แม่หนูเล่าเรื่องทนายความน่ารักที่ที่ทำงานให้ฟังมากกว่านี้""ผมขอจบตรงนี้นะครับ ไปดีกว่า" เขาพูด ดูเหมือนจะขยะแขยงเล็กน้อย "แม่ดูน้องได้ใช่ไหมครับ หรือผมควรจะพาน้องไปด้วย?"“แม่สบายมากจ้ะ…ไปเล่นกับเพื่อน ๆ เถอะ”เขาพยักหน้าก่อนที่จะวิ่งไปหาโนอาและคนอื่น ๆ คาลวินใจดีพอที่จะแก้ไขข้อตกลงเรื่องการดูแลบุตร ตอนนี้พวกเราดูแลกันเนอร์ร่วมกัน ลูกอยู่กับคาลวินวันธรรมดาและใช้วันหยุดสุดสัปดาห์กับฉัน"เอาล่ะ กลับมาเรื่องผู้ชายน่ารักคนนั้นก่อนนะ

  • ธุลีใจ   บทที่ 533

    สามปีต่อมาเอมม่า"จริงจังนะ เอมม่า เมื่อไหร่เธอจะหาแฟนสักที?" เอวาเอ่ยถามพร้อมนั่งลงข้าง ๆ ฉันฉันมองออกไปที่สวนหลังบ้านและยิ้มออกมาอย่างอดไม่ได้ วันนี้เป็นวันเกิดของเจมส์ลูกชายของทราวิสและเล็ตตี้ ซึ่งตั้งชื่อตามพ่อของพวกเราและเจมส์กำลังจะอายุครบหนึ่งขวบเล็ตตี้และทราวิสแต่งงานกันเมื่อประมาณสองปีที่แล้ว ทราวิสคุกเข่าขอเธอแต่งงานทันทีที่ฉันได้สติขึ้นหลังจากอุบัติเหตุที่เกือบจะพรากชีวิตฉันไป คุณอาจจะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนขับรถคนนั้น เขาถูกจำคุกห้าปีในข้อหาขับรถโดยประมาท ฉันหวังว่าเขาจะได้รับบทเรียนนะกลับมาที่ทราวิสและเล็ตตี้ ฉันคิดว่าการเห็นฉันอยู่ในโรงพยาบาลทำให้เขารู้ว่าชีวิตสั้นแค่ไหน เขาขอเธอแต่งงานและเล็ตตี้ก็ตอบตกลง พวกเขาแต่งงานกันซึ่งเป็นงานแต่งงานฤดูใบไม้ผลิที่สวยงามตอนนี้ัฉันได้กลายเป็นเพื่อนกับเอวาก็เลยถูกดึงเข้ามาในวงจรนี้ด้วย คอนนี่และรีเปอร์แต่งงานกันแบบงานแต่งงานเล็ก ๆ ที่เป็นกันเองกับเพื่อนสนิทและครอบครัว สี่เดือนต่อมาทั้งสองก็อ้าแขนรับลูกสาวของพวกเขา เฮเวน ตอนนี้คอนนี่ก็กำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่สองซึ่งเป็นลูกสาวอีกคนฮาร์เปอร์และเกเบรียลก็กำลังจะมีลูกด้วยกันอีก

  • ธุลีใจ   บทที่ 532

    "ไม่ไหวแล้ว! ฉันต้องเบ่งเดี๋ยวนี้" ฉันคำรามพร้อมจับเสื้อเกเบรียลไว้ฉันรู้สึกบ้าไปแล้ว เหมือนฉันเสียสติไปแล้ว ความเจ็บปวดกำลังทำให้ฉันบ้าไปแล้วจริง ๆโชคดีที่พวกเราไปถึงห้องคลอดก่อนที่ฉันจะคลอดลูกตรงทางเดินของโรงพยาบาล ฉันถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อเดินไปถึงห้องคลอด และเจ้าหน้าที่ก็เริ่มเตรียมพร้อมให้ฉันเอวาอยู่ในห้องเรียบร้อย ฉันรู้สึกขอบคุณที่มีคนเข้าใจความรู้สึกตอนที่ช่องคลอดฉีกออกเป็นสองส่วนเพื่อให้เด็กตัวน้อย ๆ ออกมาดูโลก"ฉันไม่ไหวแล้ว" ฉันกัดฟันพูด ก่อนที่จะยกตัวขึ้นและเบ่งสุดแรงฉันสาบานว่าฉันรู้สึกเหมือนก้นจะแตกและมันก็เพิ่มความเจ็บปวดให้ฉันมากขึ้น"ความผิดคุณเลย!" ฉันกรีดร้องใส่เกเบรียลขณะที่จับมือเขาไว้แน่นฉันจ้องเขม็งไปที่เขา ลมหายใจถี่กระชั้น และรูจมูกบานออกเพื่อพยายามสูดอากาศเข้าไปในปอดให้ได้มากที่สุด"เตรียมนะ เธอ เบ่งเลย" เอวาเร่งเร้าฉันขณะที่เช็ดเหงื่อออกจากหน้าผากให้ฉัน "เกเบรียลไม่สำคัญแล้วตอนนี้""อ้าว ใจร้ายนะ เอวา" เกเบรียลพึมพำพร้อมจ้องเขม็งไปยังเอวา เธอจ้องเขม็งกลับราวกับจะบอกให้เขาหุบปากและทำตามน้ำไปฉันบีบมือพวกเขาเมื่อมดลูกหดตัวอีกครั้ง และฉันก็ออ

  • ธุลีใจ   บทที่ 531

    "สบายมากจ้ะ หมีน้อยลิลลี่ แม่กำลังจะคลอดลูก... จำที่แม่บอกหนูได้ไหมว่าอะไรจะเกิดขึ้นตอนถึงเวลาแบบนี้?"เธอพยักหน้า "ค่ะ แม่บอกว่าแม่จะเจ็บท้อง แต่หนูไม่ต้องห่วง เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้น้องเกิดมาค่ะ""ดีมากจ้ะ" ฉันเบ้หน้าเมื่อการหดเกร็งตัวจู่โจมฉันอีกครั้ง "นั่นคือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้ ดังนั้นอย่ากลัวไปนะจ๊ะ"เกเบรียลจับมือและช่วยให้ฉันเดินออกจากห้อง ฉันหายใจเข้าทางจมูกและหายใจออกทางปาก แต่พูดตามตรงมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย"หนูแค่ไม่เข้าใจน่ะค่ะ ทำไมแม่ต้องเจ็บด้วย? ทำไมเด็กถึงออกมาจากท้องแม่ไม่ได้โดยไม่ทำให้แม่เจ็บล่ะคะ?"สิ่งที่ฉันไม่ต้องการที่สุดคือทำให้ลูกสาวหวาดกลัวโดยต้องอธิบายให้เธอฟังว่าความเจ็บปวดนั้นจำเป็นสำหรับการออกแรงเบ่งเด็กออกมาจากร่างกายฉัน เธอจะอยากรู้ว่าทำไมต้องเบ่งลูกออกมาด้วย และฉันจะต้องอธิบายว่าเพราะลูกตัวใหญ่และทางออกเล็กกว่า ดังนั้นการหดเกร็งตัวเหล่านั้นจึงจำเป็นสำหรับการเบ่งลูกออกมา จากนั้นเธอจะอยากรู้ว่าทางออกนั้นคืออะไร และฉันจะต้องบอกเธอว่าลูกออกมาทางนั้นอย่างไรเล่าอย่างที่คุณเห็น นั่นไม่ใช่บทสนทนาที่เธอเตรียมใจรับได้นัก เธอจะตกใจกลัวเมื่อรู้ว

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status