Share

บทที่ 26

Author: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
เอวา

“ผมคิดถึงแม่จัง ทำไมแม่ไม่โทรมาหาผมเลย?” โนอาถามฉันด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า

สิ่งที่ฉันปรารถนามากที่สุดตอนนี้คือโอบกอดลูกชายเอาไว้ในอ้อมแขน เพื่อให้มั่นใจว่าฉันยังอยู่กับเขา ยังไม่ได้ปล่อยให้เขาเป็นเด็กกำพร้าแม่

“แม่ขอโทษนะลูกรัก โทรศัพท์แม่หายเลยต้องยืมของพ่อลูกมาแทนก่อนน่ะจ้ะ”

“ขอวิดีโอคอลได้ไหมครับ? ผมอยากเห็นหน้าแม่” เด็กน้อยเอ่ยปาก

ฉันรับรู้ได้ว่าโนอาจับสังเกตสิ่งผิดปกติได้ แต่ฉันก็ไม่สามารถให้เขาเห็นฉันนอนป่วยอยู่บนเตียงโรงพยาบาลได้เพราะเด็กชายต้องเป็นกังวลและอยากกลับบ้านแน่ แถมตอนนี้ฉันยังกลายเป็นเป้าหมาย ฉันก็ยิ่งไม่อาจเสี่ยงพาคนที่จ้องโจมตีฉันให้ไปเจอลูกชายได้

ฉันยังไม่อยากเชื่อว่าจะมีโอกาสที่ฉันกลายเป็นเป้าหมายหลักของเหตุครั้งนี้ ไม่อยากเชื่อว่ามีคนต้องการให้ฉันตาย

“ตอนนี้ยังไม่ได้นะลูก พอดีว่าที่แม่อยู่ตอนนี้เขาไม่ให้วิดีโอคอล” ฉันโกหกออกไป

“กฏงี่เง่าชะมัด! ใครมันเป็นคนสร้างกฎแบบนี้นะ?” เด็กชายโวยวายผ่านโทรศัพท์

แม้รู้ว่าลูกชายอารมณ์เสียมากเพียงใด แต่ฉันก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

“โนอา…”

“ผมแค่อยากเห็นหน้าแม่นี่ครับ ให้พ่อทำให้พวกเขาไม่ยุ่งกับแม่ได้ไหม?
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
ก็สมควรแล้วที่ถูกไล่ออกให้ไปอยู่หน้าห้อง กรูว่าแล้วที่เอวาไล่ทั้งสองออกจากห้อง เหตุเกิดอีเหี้ยเอมม่าไง
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ธุลีใจ   บทที่ 27

    เอมม่าโผล่หน้ามาที่นี่ทำไม? ใครปล่อยให้เธอเข้ามา ฉันไม่ต้องการเห็นหน้าเธอ ฉันไม่ต้องการให้เธอเข้าใกล้ฉัน ใครจะไปรู้ว่าตอนที่ฉันหลับอยู่ เอมม่าจะทำอะไรลงไปบ้าง“ฉันไม่ได้วางแผนอะไรไว้ทั้งนั้นก็แค่พูดไปตามเนื้อผ้า ฉันภาวนาว่าแก๊งบ้านั้นจะไม่ได้เผลอฆ่าหล่อนตายไปก่อน เพราะฉันอยากให้หล่อนได้เห็นว่าฉันขโมยทุกอย่างมาจากหล่อน แบบที่หล่อนเคยทำกับฉัน รวมถึงลูกชายของหล่อนด้วย อีกไม่นานเขาก็ต้องเรียกฉันว่าแม่”เราทั้งสองเป็นญาติพี่น้องกันได้ยังไงเนี่ย? ฉันรู้ดีว่าสิ่งที่ฉันทำกับเธอลงไปนั้นผิดมหันต์ แต่ให้ตายสิฉันยังชดใช้บาปไม่เพียงพอหรือ?“เธอมันเลวเอมม่า แต่จำใส่กระโหลกเอาไว้นะ โนอาไม่มีวันมองเธอเป็นแม่แน่…จำไม่ได้หรือไง ที่สนามบินวันนั้น เขาไม่ได้ชายตามองเธอด้วยซ้ำ? เธอไม่มีค่าอะไรสำหรับเขาเลย ต่อให้แต่งงานกับโรแวนแล้ว เธอก็ยังไม่มีค่ากับเขาหรอก”ใบหน้าของเธอบิดเบี้ยว ความเดือดดาลเข้าแทนที่สีหน้าของผู้ชนะที่เธอมีเมื่อครู่ไปจนหมด“ก็ดี…อย่างน้อยยามค่ำคืนโรแวนก็จะครางชื่อฉันออกมาอยู่ดี ฉันกับเขาจะบรรเลงเพลงรักกันให้ฉ่ำจนฉันท้อง และเมื่อถึงตอนนั้น เขาก็จะลืมทั้งเธอและเจ้าเด็กเหลือขอนั่น ฉันจะท

  • ธุลีใจ   บทที่ 28

    “หมายความว่ายังไง?” โรแวนนิ่วหน้า“เราทั้งสองต่างรู้ดีว่าฉันเป็นคนที่คุณไม่อยากเจอหน้ามากที่สุด แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่? คุณควรไปอยู่ที่บ้านกับเอมม่าแล้วมีความสุขที่ได้กลับมาอยู่ด้วยกันไม่ใช่หรือ?” ฉันเอ่ยถามอย่างขมขื่น คำพูดของเอมม่ายังวนเวียนอยู่ในหัวเขาถอนหายใจ “คุณกำลังหาหาเรื่องทะเลาะนะ แต่ผมไม่เล่นด้วยหรอก…ผมแค่มารับคุณออกจากโรงพยาบาลแล้วก็พาคุณกลับบ้าน”“ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผู้ชายที่เกลียดฉันเข้าไส้หรอกนะ! กลับไปเถอะโรแวน เราต่างรู้ดีว่าคุณไม่อยากมาอยู่ตรงนี้”“งั้นหรือ? คุณไม่ต้องการความช่วยเหลือจากผมเลยหรือ? แล้วคุณจะโทรขอให้ใครมาช่วยพาออกจากโรงพยาบาลกันเล่า? เพื่อนสักคนก็ยังไม่มีเลยเอวา”“อีธานไง อีธานพาฉันกลับบ้านได้” นั่นคือความจริงที่ว่าฉันไม่มีเพื่อนเลย แต่ถ้าฉันขอ อีธานจะต้องมาช่วยแน่นอนสีหน้าของโรแวนแปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว มือของเขากำแน่น สันกรามสบกันดังกรอด“ข้ามศพผมไปก่อนเถอะ” เขาคำรามลั่น “คุณมีทางเลือกสองทางนะเอวา จะยอมกลับบ้านกับผมดี ๆ หรือว่าจะนอนอยู่ที่โรงพยาบาลต่ออีกสักสองสามวัน ไม่ว่ายังไงเจ้าหมอนั่นก็ไม่มีทางมารับคุณกลับบ้านได้หรอก”“พูดจริง

  • ธุลีใจ   บทที่ 29

    ฉันตื่นขึ้นมาพบว่าตนเองอยู่ลำพังบนเตียง ฉันอดถอนหายใจไม่ได้ เพราะรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเพียงความฝัน ไม่มีวันที่โรแวนจะนอนอยู่บนเตียงเดียวกันฉันได้ ฉันจำสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากผล็อยหลับที่โรงพยาบาลไม่ได้เลย ฉันได้รับยาหลายขนานเกินไปจนเริ่มจินตนาการถึงสิ่งที่ไม่เป็นจริงฉันค่อย ๆ ก้าวลงจากเตียง แต่ต้องเปลี่ยนเป็นนั่งเสียก่อนเพราะเวียนหัวจนห้องหมุน จากนั้นอีกสองสามนาที ฉันจึงค่อย ๆ เดินมุ่งไปยังห้องน้ำอย่างระมัดระวังที่สุดและอาบน้ำ ฉันเพียงต้องชำระล้างกลิ่นโรงพยาบาลที่ติดตามร่างกายออกให้หมดฉันมีหลายสิ่งจะต้องทำ แต่กลับไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มที่ไหนก่อนดี ตอนนี้ฉันไม่มีทั้งโทรศัพท์และรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกฉันว่าโทรศัพท์ฉันพังไปแล้วตอนที่ตัวฉันกระเด็นไปกระแทกกับพื้น ฉันสามารถลางานกับทางโรงเรียนได้สองสามสัปดาห์ แต่ฉันต้องหาทางจัดการปัญหาเรื่องรถก่อนกลับไปทำงานกว่าที่ฉันจะแต่งตัวเรียบร้อย ศีรษะของฉันก็ปวดจนแทบทนไม่ไหว‘ให้ตายสิ! ยาแก้ปวดอยู่ไหนนะ’ ฉันคุยกับตนเองฉันเดินลงมาชั้นล่างพลางสงสัยว่าฉันจะเอาชีวิตรอดอย่างไรในช่วงสองสามวันนี้ ฉันยังอ่อนแออยู่เพียงแค่ยกนิ้วขึ้นมายังเป็นเร

  • ธุลีใจ   บทที่ 30

    “ฉันชื่อสการ์เล็ตค่ะ แต่จะเรียกว่าเล็ตตี้ก็ได้นะ…ฉันเป็นแฟนของพี่ชายคุณค่ะ”ฉันไม่ควรหลวมตัวฟังเสียงในหัวแสนโง่เง่าของฉันจริง ๆ “โอเค พอกันแค่นี้นะ…เชิญออกไปด้วยค่ะ”ฉันไม่มีอะไรต้องพูดกับคนที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวเช่นนั้น เพราะอย่างไรเสียคงมีนิสัยไม่ต่างกันและฉันก็พอแล้วกับการยอมให้คนเช่นนี้เข้ามาในชีวิต“ได้โปรดฟังฉันก่อนนะคะ” เธอขอร้องและฉันก็ยอมฟังทั้งที่ขัดกับความตั้งใจ ฉันไม่รู้ว่าเธอมีอะไรในตัวเพราะฉันรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ใกล้เธอ ทั้งที่เธอเป็นคนแปลกหน้าและฉันไม่ใช่คนที่จะเชื่อใจใครได้ง่าย ๆ “จะว่ายังไงดี ฉันรู้ว่าที่ทราวิสทำมันไม่ดี ฉันอาจรักเจ้าซื่อบื้อนั่น แต่ฉันก็ยอมรับด้วยว่าเขาทำตัวเลวร้ายกับคุณมาก ไม่ว่าคุณจะเคยทำเรื่องอะไรมาก็ตาม แต่คุณก็ไม่ควรจะถูกปฏิบัติอย่างที่เขากับคนอื่นในครอบครัวทำกับคุณ”“ฉันตั้งใจจะมาพบคุณสักพักแล้วล่ะค่ะ แต่ฉันกลัวว่าคุณจะไล่ฉันออกไป พอได้ยินข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณ ฉันจึงคิดว่าต้องมา ฉันรู้ว่าคุณยังไม่รู้จักฉันหรือแม้แต่จะเชื่อใจฉัน แต่ฉันหวังว่าคุณจะให้โอกาสฉันได้เปลี่ยนแปลงเรื่องนี้นะคะ”ฉันเปลี่ยนอิริยาบถ ยกขาขึ้นมาบนโซฟาและเอน

  • ธุลีใจ   บทที่ 31

    “ฉันชื่อลิเดียค่ะ คุณชาร์ป” พยาบาลกล่าวโดยยังคงยิ้มอยู่ฉันมองเธออย่างพินิจพิเคราะห์ จากนั้นจึงหันไปหาเล็ตตี้ซึ่งก็ทำแบบเดียวกัน“ฉันไม่เคยจ้างพยาบาลมานะคะ” ฉันบอกทั้งสองคน “ฉันอยากจะบอกว่าคุณมาผิดบ้านแล้ว แต่นั่นก็ดูเป็นไปไม่ได้เพราะคุณรู้ชื่อฉัน ดังนั้นจึงเหลือเพียงตัวเลือกเดียว นั่นก็คือมีคนอื่นจ้างคุณมา หรือไม่นี่อาจจะเป็นเพียงกลอุบายของใครบางคน”อย่าเข้าใจฉันผิดนะ การมีพยาบาลมาดูแลฉันในช่วงสองสามวันหรือสองสามสัปดาห์ข้างหน้าก็คงจะดี แต่นี่มันแปลกจริง ๆลิเดียวางกระเป๋าของเธอลงก่อนจะหันมาหาฉัน “คนที่จ้างฉันมาคือคุณวูดส์ค่ะ และเขายังบอกให้ฉันต้องเริ่มงานทันทีด้วยค่ะ”เสียงโอดครวญอย่างรำคาญใจหลุดออกจากริมฝีปากของฉัน ฉันรู้สึกประหลาดใจและโกรธในเวลาเดียวกันที่เขาทำแบบนี้ พอฉันตัดสินใจว่าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเขา เขาก็อยากเป็นฮีโร่ขึ้นมาทันที แล้วเขาอยู่ไปไหนมาตลอดเวลาที่ฉันต้องการเขาในช่วงที่เราแต่งงานกัน? เขาเมินฉันและปฏิบัติกับฉันราวกับว่าฉันไม่มีตัวตนมาเสมอ“ฉันขอโทษที่คุณเสียเวลามาที่นี่ แต่คุณกลับไปเถอะค่ะ” ฉันบอกเธอขณะนอนลงพิงโซฟาช้า ๆฉันจะไม่รับอะไรจากโรแวนเด็ดขาด สิ่

  • ธุลีใจ   บทที่ 32

    เธอทักทายเขากลับ ฉันก็จ้องมองพวกเขาสองคนอย่างเงียบ ๆ ดูเหมือนว่าฉันจะเป็นคนเดียวที่ไม่รู้ว่าพี่ชายตัวเองมีแฟนอยู่ ฉันสงสัยว่าฉันจะได้รู้เรื่องนี้หรือไม่หากเล็ตตี้ไม่ได้มาหาฉันด้วยตัวเองฉันค่อย ๆ ลุกขึ้นและหันไปหาโรแวน “ฉันซาบซึ้งในสิ่งที่คุณพยายามทำเพราะฉันเป็นแม่ของลูกชายคุณ แต่มันไม่จำเป็น ฉันจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว”ลึก ๆ ฉันรู้ว่านี่คือเหตุผลที่เขาทำแบบนั้น ไม่ใช่เพราะเขาแคร์ฉันหรืออะไร แต่เพราะฉันเป็นแม่ของโนอา ท้ายที่สุดแล้วเขาก็มักจะเตือนฉันถึงความจริงข้อนี้อยู่บ่อยครั้งใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาขมวดคิ้ว “ไม่ใช่อย่างนั้น…”“ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณจริง ๆ ดังนั้นคุณช่วยบอกเขาให้เอารถคืนไปและเลิกจ้างเธอได้ไหม?” ฉันขัดจังหวะเขาก่อนที่เขาจะพูดจบประโยคโดยชี้ไปที่ชายคนนั้นแล้วชี้ไปที่ลิเดีย“คุณไม่ต้องการความช่วยเหลือจริง ๆ เหรอ? ผมไม่เห็นรถคันใหม่ที่ไหนเลยหรือแม้แต่โทรศัพท์ใหม่ และดูจากความซีดเซียวของคุณ ผมบอกได้เลยว่าคุณเหนื่อยมากแล้ว… คุณต้องพักผ่อนและมีคนคอยดูแลคุณ”“อย่างที่ฉันบอก ฉันจัดการทุกอย่างเองได้… ฉันจะสั่งโทรศัพท์เครื่องใหม่พรุ่งนี้และฉันก็มีรถในใจแล้ว ฉ

  • ธุลีใจ   บทที่ 33

    สีหน้าของเขาแข็งกร้าวขึ้น เขาก้าวเข้ามาใกล้ฉัน “ใช้ชีวิตให้มันมีเหตุผลสักครั้งเถอะเอวา”“ฉันมีเหตุผล ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ ฉันขอหย่าเพื่อที่คุณจะได้ออกไปจากชีวิตของฉันสักที… ทำไมจู่ ๆ คุณถึงอยากจะช่วยฉันทั้งที่คุณไม่เคยสนใจฉันมาก่อนเลย?”“คุณเป็นแม่ของโนอา ยังไงผมต้องสนใจคุณอยู่แล้ว และหากคุณลืมไป ผมไม่สามารถออกไปจากชีวิตคุณได้จริง ๆ หรอก เพราะเรามีลูกชายด้วยกัน ซึ่งทำให้ชีวิตของเราต้องพัวพันกันอยู่ตลอด” เขากัดฟันพูด แววตาลุกเป็นไฟ“อีกแค่สิบปีเท่านั้น และอีกอย่างการเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตโนอา ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฉันด้วย” ฉันเถียงฉันเริ่มเหนื่อยมากแล้ว ฉันจึงนั่งลงบนเก้าอี้บาร์ด้วยความรู้สึกเหมือนหัวของฉันหนักเป็นตัน ฉันแค่อยากจะนอนอย่างเดียว“รับรถไว้ซะ” เขาสั่งอีกครั้ง“ทำไมคุณไม่เก็บมันไว้ฝังลงหลุมพร้อมคุณเองล่ะ?” ฉันตะคอกด้วยความรู้สึกเหมือนว่าฉันถึงขีดจำกัดของตัวเองแล้วไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้จักบุญคุณหรืออะไร ฉันแค่ไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณเขา ฉันยังไม่อยากให้เอ็มม่ามาเยี่ยมเยียนอีก ฉันมั่นใจว่าเธอคงไม่พอใจแน่ ๆ หากรู้ว่าโรแวนกำลังพยายามทำอะไรอยู่

  • ธุลีใจ   บทที่ 34

    ฉันจัดระเบียบฮู้ดของตัวเองเพื่อให้ดูดีขึ้นแทนที่จะดูเหมือนว่าฉันเพิ่งผ่านความเป็นความตายมา“ทำไมแม่ถึงใส่หมวกไหมพรมเหรอครับ?” โนอามองมาที่ฉันอย่างสงสัยเราคุยกันทางวิดิโอคอลหลังจากที่ฉันเลื่อนการสนทนาไปหลายครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฉันแทบจะลืมตาไม่ได้นานเกินห้านาที แต่วันนี้ฉันรู้สึกดีขึ้นมากแล้วฉันเอนหลังพิงหัวเตียง ฉันใส่หมวกไหมพรมไว้เพื่อปิดแผล โนอายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันและฉันจะไม่มีวันให้เขารู้“ช่วงนี้อากาศเย็น แม่เลยรู้สึกหนาวนิดหน่อยจ้ะ” ฉันโกหกฉันรู้สึกผิดที่โกหกเขา แต่ฉันก็รู้ว่าแบบนี้ดีที่สุดแล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องทำให้เขาเป็นกังวล“เรามีฮีตเตอร์นะครับแม่ แม่เปิดฮีตเตอร์ก็ได้นี่ครับ”“มันไม่ทำงาน สงสัยมันจะพัง และแม่ลืมหาใครมาซ่อมมันน่ะ”บ้าเอ้ย ฉันเกลียดการโกหกเขาจริง ๆ ส่วนหนึ่งของฉันรู้สึกเหมือนเป็นแม่ที่แย่มากเพราะดูเหมือนว่าฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากโกหกเขาตั้งแต่ที่พ่อฉันเสีย แต่อีกส่วนหนึ่งของฉันก็เข้าใจว่ามันจำเป็น“อ๋อ ครับ” เขาพึมพำอย่างไม่มั่นใจ“แล้ววันนี้ลูกทำอะไรมาบ้างจ้ะ?” ฉันถามเพื่อเปลี่ยนเรื่องทุกอย่างที่เขาทำทำให้ฉันตื่นเต้น แม้ว่าฉันจะไม่ได

Latest chapter

  • ธุลีใจ   บทที่ 460

    มื้อค่ำที่เหลือเป็นไปอย่างเงียบสงัด เขาก็ยังต้องขอโทษฉันอยู่แต่ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี ถ้าจะพูดตามตรง ฉันไม่เคยคิดว่าเกเบรียลจะมาขอโทษฉันเลย ดังนั้นการที่เขาทำแบบนั้นและทำด้วยความจริงใจแบบนี้ทำให้ฉันพูดไม่ออกจริง ๆเรารับประทานมื้อค่ำเสร็จและโทรเรียกพนักงานจากด้านล่างให้มาเก็บจาน"ฉันจะไปนอนแล้วนะ มีอะไรที่คุณอยากได้ก่อนหรือเปล่า?" ฉันถามเมื่อจานอาหารถูกเก็บไปและพนักงานจากโรงแรมก็ออกจากห้องไปแล้วลึก ๆ ในใจฉันกำลังตกใจและกังวลที่จะต้องนอนในห้องเดียวกับเกเบรียล แต่ความเหนื่อยจากการเดินทางก็ทำให้ความวิตกกังวลหายไป"ผมเองก็จะไปนอนเหมือนกัน เหนื่อยสุด ๆ เลย"ฉันพยายามกลั้นความตกใจที่เริ่มปะทุขึ้นมาในใจ ฉันคิดว่าจะนอนก่อนเขาเหมือนที่เคยทำ นั่นจะทำให้ฉันมีเวลาได้ผ่อนคลายและพักผ่อนก่อนที่เขาจะเข้ามานอน ฉันนึกไว้ว่าจะหลับไปแล้วก่อนที่เขาจะขึ้นมานอนฉันกัดฟันอย่างหงุดหงิดและเครียด ก่อนจะพยักหน้าหงุดหงิดแล้วเดินไปห้องนอน"คุณชอบนอนด้านไหน?" เขาถาม ขณะที่เดินเข้ามาหยุดอยู่ที่ข้างเตียง"ฉันไม่ค่อยมีความชอบอะไรหรอก ขอแค่ได้นอน ด้านไหนก็เหมือนกัน"“รู้เรื่อง งั้นผมนอนฝั่งซ้ายนะ คุณก็ฝั่งขวาแล้

  • ธุลีใจ   บทที่ 459

    "อาบน้ำเสร็จแล้ว" ฉันบอกเกเบรียลเมื่อก้าวออกมาที่ห้องนั่งเล่น"ผมสั่งอาหารไว้แล้ว กินก่อน ไม่ต้องรอผมได้เลยนะครับ" เขาพูดก่อนเดินผ่านฉันเข้าไปในห้องนอนมันรู้สึกแปลกที่จะเริ่มรับประทานโดยที่ไม่มีเขาและฉันก็ไม่ได้หิวมากนัก ฉันเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีเมล และดูว่าวันพรุ่งนี้ต้องทำอะไรบ้างฉันไม่ต้องรอนาน เพราะไม่ถึงสิบนาทีต่อมา เกเบรียลก็เดินออกมาจากห้องนอนในเสื้อยืดเก่า ๆ และกางเกงวอร์ม“ยังไม่กินเหรอ?” เขาถามพลางเลิกคิ้ว สายตาจ้องมองอาหาร“ก็รู้สึกไม่ดีนี่นาที่กินก่อนคุณแบบนั้น แถมคุณเป็นคนสั่งอาหารมาด้วย”เขาทิ้งตัวลงนั่ง ก่อนจะเริ่มเปิดจานอาหาร ฉันตักอาหารเล็กน้อยแล้วเริ่มรับประทาน ความเหนื่อยถาโถมเข้ามา แม้ว่าฉันจะได้นอนบนเครื่องบินแล้วก็ตาม ฉันไม่อาจหยุดคิดถึงเตียงได้ ตอนแรกฉันไม่ชอบใจนักเรื่องการนอนร่วมเตียงกับเกเบรียล แต่ตอนนี้ฉันกลับเอาแต่คิดถึงมันเสียแล้ว ร่างกายร้องหาเพียงการพักผ่อน“แล้วคุณล่ะ เคยตกหลุมรักใครไหม?” คำถามเกเบรียลทำเอาฉันประหม่าฉันหันขวับไปมองเขา เจอสายตาคมกริบที่จ้องตรงมา ฉันกลืนอาหารลงคอและให้ปากทำหน้าที่ ตอนนี้คงมีอยู่แค่สองทางเลือก ไม่โกหกออกไป ก็บอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 458

    ไม่กี่นาทีต่อมา เรามายืนอยู่หน้าห้องสวีท ความรู้สึกตื่นเต้นแปลก ๆ จู่โจมฉันทันที เกเบรียลไขกุญแจและผลักประตูเข้าไปโถงทางเข้าต้อนรับเราด้วยพื้นหินอ่อนขัดมันที่เปล่งประกายอยู่ใต้แสงนุ่มนวลของโคมไฟระย้าสุดหรู เงาสะท้อนทอดเป็นลวดลายงดงามบนผนังห้องนั่งเล่นกว้างขวางปรากฎสู่สายตา ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดหรู และหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานที่เปิดมุมมองสู่ทัศนียภาพของเมืองที่ระยิบระยับราวกับทะเลดาวระบบความบันเทิงล้ำสมัยให้คำมั่นถึงค่ำคืนอันแสนอบอุ่น ขณะที่ครัวสไตล์กูร์เมต์ดึงดูดใจด้วยเครื่องใช้สแตนเลสเงาวาวและเคาน์เตอร์กลางขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการทำอาหาร ห้องรับประทานอาหารสุดเก๋ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสังสรรค์เล็ก ๆ ที่เป็นกันเอง"ดูท่าทางคุณจะชอบนะ?" เกเบรียลแกล้งเย้าฉันทำได้แค่พยักหน้า อย่างที่บอกไปแล้ว เราเคยรวย และฉันก็เคยพักในโรงแรมดี ๆ มาก่อน แต่ที่นี่คืออีกระดับหนึ่ง มันเป็นนิยามของความหรูหราที่แท้จริงสายตาฉันยังคงกวาดมองไปรอบ ๆ ห้อง แต่จู่ ๆ ฉันก็ชะงักเท้าเมื่อความจริงบางอย่างตีแสกหน้าเข้ามาเต็ม ๆ"เกเบรียล ห้องฉันอยู่ไหนคะ? ฉันเห็นแค่ห้องนอนเดียวเองนะ" ฉ

  • ธุลีใจ   บทที่ 457

    เครื่องบินลงจอดที่รันเวย์ มือของเกเบรียลจับตัวฉันไว้ไม่ให้กระดอนตอนเครื่องบินลงจอด“ไม่เป็นไรนะ?” เขาเอ่ยถามพลางสบตาฉัน“ค่ะ”หลังจากที่เกเบรียลเล่าเรื่องผู้หญิงที่เขาเคยตกหลุมรัก ก็ไม่มีเรื่องอะไรไปมากกว่านั้น บาดแผลนั้นยังคงหลอกหลอนเขาอยู่ บาดแผลที่ฝังลึกลงไปข้างในฉันเห็นมันปรากฎอยู่ในดวงตาเขาอย่างชัดเจนขณะที่เล่าทุกอย่างให้ฟัง เขาไม่ต้องการพูดอะไรมากกว่านี้ เขาเพิ่งจะเปิดเผยความลับบางสิ่งเกี่ยวกับตัวเขาที่ใครคนอื่นไม่เคยรู้ แม้แต่พี่ชายฝาแฝดเขาก็ไม่เคยรู้ฉันไม่ได้บังคับให้เขาเล่าออกมามากกว่านั้น ฉันไม่ได้ขอให้เขาเล่าให้ฟังว่าหลังจากรับรู้ความจริงพวกนั้นมันเป็นอย่างไรต่อหรือเกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนั้น เขารู้สึกเปราะบาง และฉันก็เข้าใจด้วยว่าเขาต้องการเวลาเพื่อตั้งสติ ดังนั้นฉันจึงให้พื้นที่กับเขาฉันใช้เวลากว่าครึ่งอ่านหนังสือและอีกครึ่งในการนอนหลับพักผ่อน เขายังเอาใจใส่แม้ตอนที่นั่งห่างออกไป เขาถามว่าฉันนั่งสบายไหมหรือต้องการอะไรอีกหรือเปล่าอยู่เป็นระยะมือของเขาเอื้อมมาแตะหน้าท้องฉันจนดึงฉันออกจากภวังค์ ฉันมองลงไปพบว่าเขากำลังปลดเข็มขัดนิรภัยของฉันออก“คุณรู้ใช่ไหมว่าฉันท

  • ธุลีใจ   บทที่ 456

    ก็เป็นความรักที่สวยงามไม่ใช่เหรอ? แต่ฉันรู้สึกได้ว่ามันต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้น บางสิ่งที่เปลี่ยนไป ถ้าทุกอย่างมันดีจริง ๆ ตอนนี้เขาก็คงเคียงคู่กับเธอคนนั้นไปแล้ว ไม่น่าจะมาแต่งงานกับฉันแบบนี้เสียงของเขาเริ่มแหบพร่าและเริ่มเล่าต่อ “ทุกสิ่งมันดีไปหมดเลย เธอเป็นผู้หญิงที่สุดยอดมากและผมก็รู้สึกว่าหลงรักเธอมากขึ้นทุกวัน แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้แนะนำเธอให้โรแวนรู้จัก เพราะผมอยากเก็บเธอไว้กับตัว ผมไม่ได้เจตนาจะคบหาแบบเงียบ ๆ แต่แค่อยากใช้เวลากับเธอมากกว่านี้ก่อนที่จะพบครอบครัวผม ทุกวันที่ตื่นขึ้นมาผมนึกว่าตนเองโชคดีขนาดไหนที่ได้พบเจอคนอย่างเธอ อย่างที่คุณรู้ โลกของเรามันหาคู่รักที่เหมาะกันได้ง่ายเสียที่ไหนล่ะ ฮาร์เปอร์”และนั่นแหละก็เป็นสังคมของเรา มันยากมากเลยนะที่จะพบเจอคนที่รักเราจริง บางคู่ที่แต่งกันก็เป็นเพราะเรื่องของธุรกิจ และน้อยคนนักที่จะรักและเคารพจากใจจริง แล้วก็ยังมีพวกหวังรวยทางลัดอีก เป็นพวกที่แต่งงานกับคนรวย ๆ เท่านั้นและฉันว่านี่คงเกิดขึ้นบ่อยด้วย“ผมอยู่ในห้วงความรักเลยและคิดอะไรอย่างมีเหตุผลไม่ค่อยได้ เธอสามารถทำให้ผมเปลี่ยนแปลงตนเองได้เพราะผมไม่อยากทำร้ายจิตใจเธอ ไม่อยากให้เ

  • ธุลีใจ   บทที่ 455

    “ฮาร์เปอร์?” เสียงของเขาเรียกฉันกลับมาสู่ความเป็นจริง“โอ๊ะขอโทษที ฉันคิดอะไรเพลินไปหน่อย” ฉันส่ายหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไป “ค่ะ ฉันเก็บของเสร็จแล้ว”“ดีครับ งั้นไปกันเถอะ”หนึ่งชั่วโมงต่อมา เรานั่งอยู่ในเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของเกเบรียล ครั้งนี้ฉันเดินทางไปกับเขาเพื่อเซ็นสัญญาธุรกิจ“ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม? ต้องการอะไรหรือเปล่า? ผมให้พนักงานต้อนรับเอาอะไรมาให้ได้นะ” กาเบรียลถามขึ้นทันทีที่เครื่องบินเริ่มออกตัวเข้าใจที่ฉันบอกแล้วใช่ไหม? เขาใส่ใจฉันมากเหลือเกินแต่ตอนที่เรายังแต่งงานกัน เขาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ฉันคิดว่าเขาไม่เคยทำอะไรเพื่อทำให้ฉันมีความสุขเลย จริง ๆ แล้วมันตรงกันข้าม เขาไม่เคยสนใจว่าฉันต้องการอะไร หรือว่าฉันสบายดีไหม ไม่เคยสนใจแม้แต่ฉันยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า เขาแค่ไม่เคยสนใจฉันเลยแต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป และนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ฉันสับสน มันเหมือนเขาเป็นยักษ์ในตะเกียงวิเศษที่คอยทำให้ความปราถนาของฉันเป็นจริง“ไม่ค่ะขอบคุณ ถ้าต้องการอะไร เดี๋ยวฉันจะบอกพนักงานเองได้ค่ะ” ฉันพึมพำตอบกลับเกเบรียลพยักหน้ารับ ก่อนจะหยิบแล็ปท็อปขึ้นมาเปิดฉันเอนตัวลงกับเบาะหน

  • ธุลีใจ   บทที่ 454

    “แม่ต้องไปจริง ๆ เหรอคะ?” ลิลลี่ถาม สายตามองสลับไปมาระหว่างฉันกับกระเป๋าเดินทางที่เปิดอยู่บนเตียงฉันไม่เคยชอบการเก็บกระเป๋าแบบเร่งรีบในนาทีสุดท้ายแบบนี้เลย แต่ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา งานที่ทำงานยุ่งจนแทบไม่มีเวลาหายใจ พอกลับถึงบ้าน สิ่งเดียวที่ฉันคิดได้ก็คือการนอนหลับ ฉันเหนื่อยจนแทบยืนไม่ไหว ไม่มีแรงจะทำอะไรนอกจากกินแล้วก็นอน“ต้องไปจ้ะ” ฉันตอบเธออย่างอ่อนโยน “งานนี้สำคัญมากเลยลูก แล้วพ่อหนูต้องไปจัดการด้วยตัวเอง…”“แต่หนูยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมหนูไปด้วยไม่ได้? หนูอยากเห็นว่าพ่อทำงานยังไง หนูอยากรู้ว่าพ่อจัดการเรื่องงานยังไงค่ะ”ฉันพับเสื้อผ้าชิ้นสุดท้าย ซึ่งเป็นเสื้อไหมสีฟ้า ก่อนจะวางมันลงไปในกระเป๋ากับของที่เหลือ พอทุกอย่างเรียบร้อย ฉันรูดซิปปิดแล้ววางกระเป๋าลงบนพื้น“ลูกก็รู้นี่ ว่าไปไม่ได้” ฉันตอบเธอขณะนั่งลงบนเตียง“ทำไมล่ะคะ?”“เพราะลูกยังเป็นเด็กไง ก็เลยไปไม่ได้ ถูกไหมคะ?”“หนูไม่ใช่เด็กนะคะ หนูจะสิบขวบแล้ว"ฉันกลอกตาให้กับคำโกหกที่ชัดเจน ก่อนจะดึงลิลลี่เข้ามากอดและหอมแก้มเนียนนุ่มของเธอเบา ๆ“หนูก็รู้ดีนะว่าเพิ่งแปดขวบ อีกนานเลยกว่าสิบขวบนะลิลลี่… แล้วอีกอย่าง เด็ก ๆ

  • ธุลีใจ   บทที่ 453

    คุณเคยโดนคำพูดของใครบางคนทำให้สมองหยุดทำงานไปเลยไหม? แบบที่ทำให้คุณทั้งพูดไม่ออกและตื้อไปเลย? นั่นคือสิ่งที่คำพูดของเขาทำกับฉันฉันตกตะลึงกับคำพูดของเขา คำพูดที่ทำให้ร่างกายฉันสั่นสะท้าน ฉันเห็นได้จากแววตาของเขาและได้ยินมันจากน้ำเสียงของเขา เขาจริงจังอย่างถึงที่สุดและเขากำลังให้คำสัญญา คำสัญญาที่เขามุ่งมั่นว่าจะทำให้เป็นจริงให้ได้เจอแบบนี้แล้วเราจะพูดอะไรได้? จะตอบกลับอย่างไร? จะตอบอะไรได้บ้าง?ด้านนี้ของเขาเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับฉันโดยสิ้นเชิง ช่วยเอาเกเบรียลที่หยาบคายและทำร้ายจิตใจคนนั้นกลับมาเถอะ อย่างน้อยฉันรู้ว่าควรจัดการกับเขาอย่างไร แต่แบบนี้น่ะเหรอ? ฉันไปไม่ถูกเลยเมื่อต้องเผชิญกับเขา ฉันไม่รู้อะไรเลยว่าจะรับมือหรือจัดการกับเขายังไงดีฉันเข้ามาในชีวิตแต่งงานนี้ด้วยจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน ฉันรู้ว่ากำลังก้าวเข้าสู่อะไร ฉันเตรียมตัวมาดีแล้ว... แต่ตอนนี้ เขากลับเปลี่ยนกฎทุกอย่างและทำให้ฉันตั้งตัวไม่ติดฉันกำลังเดินอยู่บนเส้นทางที่เต็มไปด้วยอันตราย และมันจะต้องจบลงด้วยหายนะอย่างแน่นอน เพราะฉันไม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับสิ่งนี้เลยความคิดฉันสับสนวุ่นวายเมื่อสายตาของเขาจ้องลึกซึ้งกว่าเด

  • ธุลีใจ   บทที่ 452

    เขาก้าวไปที่บาร์เล็ก ๆ มุมห้อง แล้วหยิบถุงน้ำแข็งขนาดเล็กออกมาพร้อมห่อด้วยผ้าขนหนู ก่อนจะกลับมาหาฉัน เขาจับมือฉันเบา ๆ แล้ววางถุงน้ำแข็งไว้บนมือ“เจ็บมากไหม?” เขาเอ่ยถามด้วยความอ่อนโยนมากเสียงจนฉันได้ยินไม่ถนัดหู“นิดหน่อย”“ไม่เคยคิดมาก่อนเลยนะว่าคุณจะกล้าต่อยคนอื่นแบบนี้”ฉันหัวเราะเพราะฉันเองก็ไม่คิดว่าตนเองจะทำแบบนี้เหมือนกัน “มันเหลืออดเลยไม่ทันได้คิดอะไรให้ดีก่อนน่ะค่ะ ฉันขอโทษด้วยนะคะที่สร้างปัญหาให้ ฉันไม่ควรไปต่อยเธอแบบนั้นเลย จบกันแล้วภาพลักษณ์แสนดีในฐานะภรรยาประธาน”เขาเอนตัวเข้ามาใกล้และจ้องตาฉัน“คุณไม่ต้องขอโทษเวลาที่ทำอะไรเพื่อป้องกันตัวหรือยืนหยัดเพื่อตัวเองนะ ฮาร์เปอร์ แล้วคุณก็เป็นภรรยาผม พวกเขาต้องรู้เอาไว้ว่าไม่ควรมาล้ำเส้นคุณ”“ฉันแค่ไม่เข้าใจ คุณเคยนอนกับเธอมาก่อนไหม?” ฉันโพล่งคำถามออกไป“ไม่เคย!” เขาคำราม“แล้วทำไมเธอถึงได้ยึดติดกับคุณขนาดนั้นล่ะ? ตลอดเวลาที่มีเรื่องกันเธอเอาแต่บอกให้ฉันอยู่ห่างจากคุณทั้งนั้น เธอทำตัวเหมือนว่าคุณเป็นของเธออะไรแบบนั้นเลย”เขาแค่นเสียงดังจนทำให้ฉันหันหน้าไปมอง คิ้วขมวดเป็นปมด้วยความรังเกียจราวกับว่าเพิ่งจะได้ยินเรื่องที่น

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status