แชร์

บทที่ 30

ผู้เขียน: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
“ฉันชื่อสการ์เล็ตค่ะ แต่จะเรียกว่าเล็ตตี้ก็ได้นะ…ฉันเป็นแฟนของพี่ชายคุณค่ะ”

ฉันไม่ควรหลวมตัวฟังเสียงในหัวแสนโง่เง่าของฉันจริง ๆ

“โอเค พอกันแค่นี้นะ…เชิญออกไปด้วยค่ะ”

ฉันไม่มีอะไรต้องพูดกับคนที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวเช่นนั้น เพราะอย่างไรเสียคงมีนิสัยไม่ต่างกันและฉันก็พอแล้วกับการยอมให้คนเช่นนี้เข้ามาในชีวิต

“ได้โปรดฟังฉันก่อนนะคะ” เธอขอร้องและฉันก็ยอมฟังทั้งที่ขัดกับความตั้งใจ

ฉันไม่รู้ว่าเธอมีอะไรในตัวเพราะฉันรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ใกล้เธอ ทั้งที่เธอเป็นคนแปลกหน้าและฉันไม่ใช่คนที่จะเชื่อใจใครได้ง่าย ๆ

“จะว่ายังไงดี ฉันรู้ว่าที่ทราวิสทำมันไม่ดี ฉันอาจรักเจ้าซื่อบื้อนั่น แต่ฉันก็ยอมรับด้วยว่าเขาทำตัวเลวร้ายกับคุณมาก ไม่ว่าคุณจะเคยทำเรื่องอะไรมาก็ตาม แต่คุณก็ไม่ควรจะถูกปฏิบัติอย่างที่เขากับคนอื่นในครอบครัวทำกับคุณ”

“ฉันตั้งใจจะมาพบคุณสักพักแล้วล่ะค่ะ แต่ฉันกลัวว่าคุณจะไล่ฉันออกไป พอได้ยินข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณ ฉันจึงคิดว่าต้องมา ฉันรู้ว่าคุณยังไม่รู้จักฉันหรือแม้แต่จะเชื่อใจฉัน แต่ฉันหวังว่าคุณจะให้โอกาสฉันได้เปลี่ยนแปลงเรื่องนี้นะคะ”

ฉันเปลี่ยนอิริยาบถ ยกขาขึ้นมาบนโซฟาและเอน
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (3)
goodnovel comment avatar
Orawin
เรื่องน่าติดตามดีค่ะ อย่าลืมมาลงต่อด้วยน้า
goodnovel comment avatar
Priyanan
อีกกี่วันค่ะจะอัพ รอน๊าา
goodnovel comment avatar
Kanvara Cat Meaw
ซื้อแล้วทำไมไม่ได้อ่านจนจบละคะ
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ธุลีใจ   บทที่ 31

    “ฉันชื่อลิเดียค่ะ คุณชาร์ป” พยาบาลกล่าวโดยยังคงยิ้มอยู่ฉันมองเธออย่างพินิจพิเคราะห์ จากนั้นจึงหันไปหาเล็ตตี้ซึ่งก็ทำแบบเดียวกัน“ฉันไม่เคยจ้างพยาบาลมานะคะ” ฉันบอกทั้งสองคน “ฉันอยากจะบอกว่าคุณมาผิดบ้านแล้ว แต่นั่นก็ดูเป็นไปไม่ได้เพราะคุณรู้ชื่อฉัน ดังนั้นจึงเหลือเพียงตัวเลือกเดียว นั่นก็คือมีคนอื่นจ้างคุณมา หรือไม่นี่อาจจะเป็นเพียงกลอุบายของใครบางคน”อย่าเข้าใจฉันผิดนะ การมีพยาบาลมาดูแลฉันในช่วงสองสามวันหรือสองสามสัปดาห์ข้างหน้าก็คงจะดี แต่นี่มันแปลกจริง ๆลิเดียวางกระเป๋าของเธอลงก่อนจะหันมาหาฉัน “คนที่จ้างฉันมาคือคุณวูดส์ค่ะ และเขายังบอกให้ฉันต้องเริ่มงานทันทีด้วยค่ะ”เสียงโอดครวญอย่างรำคาญใจหลุดออกจากริมฝีปากของฉัน ฉันรู้สึกประหลาดใจและโกรธในเวลาเดียวกันที่เขาทำแบบนี้ พอฉันตัดสินใจว่าไม่ต้องการความช่วยเหลือจากเขา เขาก็อยากเป็นฮีโร่ขึ้นมาทันที แล้วเขาอยู่ไปไหนมาตลอดเวลาที่ฉันต้องการเขาในช่วงที่เราแต่งงานกัน? เขาเมินฉันและปฏิบัติกับฉันราวกับว่าฉันไม่มีตัวตนมาเสมอ“ฉันขอโทษที่คุณเสียเวลามาที่นี่ แต่คุณกลับไปเถอะค่ะ” ฉันบอกเธอขณะนอนลงพิงโซฟาช้า ๆฉันจะไม่รับอะไรจากโรแวนเด็ดขาด สิ่

  • ธุลีใจ   บทที่ 32

    เธอทักทายเขากลับ ฉันก็จ้องมองพวกเขาสองคนอย่างเงียบ ๆ ดูเหมือนว่าฉันจะเป็นคนเดียวที่ไม่รู้ว่าพี่ชายตัวเองมีแฟนอยู่ ฉันสงสัยว่าฉันจะได้รู้เรื่องนี้หรือไม่หากเล็ตตี้ไม่ได้มาหาฉันด้วยตัวเองฉันค่อย ๆ ลุกขึ้นและหันไปหาโรแวน “ฉันซาบซึ้งในสิ่งที่คุณพยายามทำเพราะฉันเป็นแม่ของลูกชายคุณ แต่มันไม่จำเป็น ฉันจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว”ลึก ๆ ฉันรู้ว่านี่คือเหตุผลที่เขาทำแบบนั้น ไม่ใช่เพราะเขาแคร์ฉันหรืออะไร แต่เพราะฉันเป็นแม่ของโนอา ท้ายที่สุดแล้วเขาก็มักจะเตือนฉันถึงความจริงข้อนี้อยู่บ่อยครั้งใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาขมวดคิ้ว “ไม่ใช่อย่างนั้น…”“ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณจริง ๆ ดังนั้นคุณช่วยบอกเขาให้เอารถคืนไปและเลิกจ้างเธอได้ไหม?” ฉันขัดจังหวะเขาก่อนที่เขาจะพูดจบประโยคโดยชี้ไปที่ชายคนนั้นแล้วชี้ไปที่ลิเดีย“คุณไม่ต้องการความช่วยเหลือจริง ๆ เหรอ? ผมไม่เห็นรถคันใหม่ที่ไหนเลยหรือแม้แต่โทรศัพท์ใหม่ และดูจากความซีดเซียวของคุณ ผมบอกได้เลยว่าคุณเหนื่อยมากแล้ว… คุณต้องพักผ่อนและมีคนคอยดูแลคุณ”“อย่างที่ฉันบอก ฉันจัดการทุกอย่างเองได้… ฉันจะสั่งโทรศัพท์เครื่องใหม่พรุ่งนี้และฉันก็มีรถในใจแล้ว ฉ

  • ธุลีใจ   บทที่ 33

    สีหน้าของเขาแข็งกร้าวขึ้น เขาก้าวเข้ามาใกล้ฉัน “ใช้ชีวิตให้มันมีเหตุผลสักครั้งเถอะเอวา”“ฉันมีเหตุผล ฉันไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ ฉันขอหย่าเพื่อที่คุณจะได้ออกไปจากชีวิตของฉันสักที… ทำไมจู่ ๆ คุณถึงอยากจะช่วยฉันทั้งที่คุณไม่เคยสนใจฉันมาก่อนเลย?”“คุณเป็นแม่ของโนอา ยังไงผมต้องสนใจคุณอยู่แล้ว และหากคุณลืมไป ผมไม่สามารถออกไปจากชีวิตคุณได้จริง ๆ หรอก เพราะเรามีลูกชายด้วยกัน ซึ่งทำให้ชีวิตของเราต้องพัวพันกันอยู่ตลอด” เขากัดฟันพูด แววตาลุกเป็นไฟ“อีกแค่สิบปีเท่านั้น และอีกอย่างการเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตโนอา ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตฉันด้วย” ฉันเถียงฉันเริ่มเหนื่อยมากแล้ว ฉันจึงนั่งลงบนเก้าอี้บาร์ด้วยความรู้สึกเหมือนหัวของฉันหนักเป็นตัน ฉันแค่อยากจะนอนอย่างเดียว“รับรถไว้ซะ” เขาสั่งอีกครั้ง“ทำไมคุณไม่เก็บมันไว้ฝังลงหลุมพร้อมคุณเองล่ะ?” ฉันตะคอกด้วยความรู้สึกเหมือนว่าฉันถึงขีดจำกัดของตัวเองแล้วไม่ใช่ว่าฉันไม่รู้จักบุญคุณหรืออะไร ฉันแค่ไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณเขา ฉันยังไม่อยากให้เอ็มม่ามาเยี่ยมเยียนอีก ฉันมั่นใจว่าเธอคงไม่พอใจแน่ ๆ หากรู้ว่าโรแวนกำลังพยายามทำอะไรอยู่

  • ธุลีใจ   บทที่ 34

    ฉันจัดระเบียบฮู้ดของตัวเองเพื่อให้ดูดีขึ้นแทนที่จะดูเหมือนว่าฉันเพิ่งผ่านความเป็นความตายมา“ทำไมแม่ถึงใส่หมวกไหมพรมเหรอครับ?” โนอามองมาที่ฉันอย่างสงสัยเราคุยกันทางวิดิโอคอลหลังจากที่ฉันเลื่อนการสนทนาไปหลายครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะฉันแทบจะลืมตาไม่ได้นานเกินห้านาที แต่วันนี้ฉันรู้สึกดีขึ้นมากแล้วฉันเอนหลังพิงหัวเตียง ฉันใส่หมวกไหมพรมไว้เพื่อปิดแผล โนอายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันและฉันจะไม่มีวันให้เขารู้“ช่วงนี้อากาศเย็น แม่เลยรู้สึกหนาวนิดหน่อยจ้ะ” ฉันโกหกฉันรู้สึกผิดที่โกหกเขา แต่ฉันก็รู้ว่าแบบนี้ดีที่สุดแล้ว ฉันไม่จำเป็นต้องทำให้เขาเป็นกังวล“เรามีฮีตเตอร์นะครับแม่ แม่เปิดฮีตเตอร์ก็ได้นี่ครับ”“มันไม่ทำงาน สงสัยมันจะพัง และแม่ลืมหาใครมาซ่อมมันน่ะ”บ้าเอ้ย ฉันเกลียดการโกหกเขาจริง ๆ ส่วนหนึ่งของฉันรู้สึกเหมือนเป็นแม่ที่แย่มากเพราะดูเหมือนว่าฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากโกหกเขาตั้งแต่ที่พ่อฉันเสีย แต่อีกส่วนหนึ่งของฉันก็เข้าใจว่ามันจำเป็น“อ๋อ ครับ” เขาพึมพำอย่างไม่มั่นใจ“แล้ววันนี้ลูกทำอะไรมาบ้างจ้ะ?” ฉันถามเพื่อเปลี่ยนเรื่องทุกอย่างที่เขาทำทำให้ฉันตื่นเต้น แม้ว่าฉันจะไม่ได

  • ธุลีใจ   บทที่ 35

    เสียงเคาะประตูที่เปิดอยู่ทำให้ฉันเงยหน้าขึ้นมอง“มีคนมาขอพบคุณค่ะ เอวา” ลิเดียพูดในที่สุดฉันก็ทำให้เธอเรียกชื่อฉันแทนคำว่าคุณหญิงหรือคุณนายได้สำเร็จ ฉันรู้สึกขอบคุณที่เล็ตตี้โน้มน้าวฉันยอมให้เธออยู่ต่อ เพราะเธอช่วยฉันได้เยอะมาก เธอยังช่วยทำงานบ้านให้ฉันด้วย ฉันไม่รู้ว่าฉันจะอยู่ได้อย่างไรหากไม่มีเธอ“นั่นใครเหรอครับแม่?”ฉันบอกเธอให้ปล่อยใครก็ตามที่มาหาฉันเข้ามาก่อนที่ฉันจะหันกลับมาสนใจลูกชายสุดที่รักของฉัน“เป็นผู้หญิงน่ารักคนหนึ่งชื่อลิเดีย เธอมาช่วยแม่ทำงานบ้านจ้ะ” ฉันตอบเขา ในใจฉันนึกไปแล้วว่าใครกันที่มาเยี่ยมฉันถ้าฉันเดาถูกก็คงเป็นเล็ตตี้หรืออีธาน ทั้งสองคนมักจะแวะมาหาฉันอยู่บ่อยครั้ง“ทำไมแม่ถึงต้องการความช่วยเหลือเหรอครับ? แม่ไม่เคยต้องการความช่วยเหลือจากใครมาก่อนเลย แม่เป็นแม่ที่เก่งมากมาเสมอ” เขาจ้องมาที่ฉันอย่างสงสัยแน่นอนว่าเขาพูดถูก ฉันทำทุกอย่างด้วยตัวเองเสมอ แม้แต่ตอนที่ฉันอาศัยอยู่ที่คฤหาสน์ของโรแวน ฉันอยากจะทำให้เขาเห็นฉันในมุมมองที่ต่างออกไป เขาจะได้เห็นว่าฉันไม่ได้เอาแต่ใจเหมือนเอ็มม่าที่ต้มน้ำไม่เป็นด้วยซ้ำ นั่นจะเป็นข้อเสียของเอ็มม่าแต่ฉันคิดผิดไปมาก เข

  • ธุลีใจ   บทที่ 36

    โรแวนผมนั่งดูเอกสารด่วนที่โต๊ะของตัวเอง ผมพยายามจะมีสมาธิแต่ก็ทำไม่ได้ผมยังนึกถึงความจริงที่ว่าเอวาไม่รับสายผมอีกแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะผมจ้างลิเดีย ผมคงไม่รู้ว่าเธอเป็นยังไงบ้างผมยังไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ พูดได้เต็มปากเลยว่าเอวาที่ผมรู้จักหายไปนานแล้ว เหลือแค่คนแปลกหน้าโดยสิ้นเชิงเมื่อเอ็มม่าตัดสินใจย้ายกลับมา ผมกลัวว่าเอวาจะสร้างปัญหาให้พวกเรา เธอคงจะเป็นตัวป่วนเหมือนตอนสมัยที่เธอเป็นวัยรุ่น แต่เธอก็พิสูจน์ให้ผมเห็นว่าผมคิดผิดผมควรจะดีใจที่เธอรักษาระยะห่างและไม่ได้สร้างปัญหาให้ผม แต่ผมกลับรู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้ มันแปลกมากที่ผมกังวลใจและเกลียดที่เธออยู่ในความคิดของผมตลอดเวลาในที่สุดผมก็ยอมแพ้กับการพยายามตั้งสมาธิและลุกขึ้นยืน ผมเดินไปที่หน้าต่างและจ้องออกไปข้างนอกเพื่อพยายามลบเรื่องเอวาออกจากหัว“ท่านคะ หัวหน้าผู้ตรวจการมาถึงแล้วค่ะ” คริสติน เลขาของผมกล่าวผมจมอยู่กับความคิดจนไม่ได้ยินเสียงเธอเข้ามาในห้องทำงานของผมด้วยซ้ำ“ให้เขาเข้ามา” ผมหันไปมองเธอก่อนจะเดินกลับไปที่เก้าอี้ของผมไบรอัน หัวหน้าผู้ตรวจการเข้ามาพอดีตอนที่ผมกำลังนั่งลง พวกเราจับมือกั

  • ธุลีใจ   บทที่ 37

    ผมรู้ว่าเขาคงสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทุกคนรู้ดีว่าผมไม่เคยสนใจเอวาเลย ก็คิดดูทั้งที่พวกเราแต่งงานกันและผมมีทั้งอิทธิพลและศัตรู แต่ผมไม่เคยสั่งให้บอดี้การ์ดไปติดตามเธอเลย ในขณะที่โนอามีถึงสองคนเอวาเองก็เคยถามผมว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม ทำไมผมถึงสนใจความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของเธอขึ้นมาทันทีทันใดแบบนี้ ทุกคนคงคิดเหมือนเธอเพราะผมเองก็สับสนเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงมีความสำคัญกับผมขึ้นมากะทันหันแบบนี้ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าผมดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือแล้วก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาหกโมงแล้ว ผมควรจะไปพบกับทราวิสและเกเบรียลเพื่อดื่มกันตอนหกโมงครึ่งก่อนจะกลับบ้านผมออกจากสำนักงานพร้อมกับเอกสารต่าง ๆ ผมอารมณ์ไม่ดี พนักงานของผมจึงไม่มีใครกล้าแม้แต่จะทักผมด้วยซ้ำผมไปถึงคลับทันเวลาและรีบตรงไปที่โซนส่วนตัว นี่เป็นคลับพิเศษแห่งหนึ่งจากหลาย ๆ แห่งที่เกเบรียลและผมเป็นเจ้าของ“มาถึงสักที… นายช่วยจัดการเขาหน่อยได้ไหม? ฉันทนความขี้ขลาดของเขาไม่ไหวแล้ว” เกเบรียลบ่นก่อนจะยกเครื่องดื่มของเขาและมองทราวิสด้วยความรังเกียจ“เกิดอะไรขึ้น?” ผมหันไปหาทราวิสสภาพเขาดูแย่มาก“ฉันไปหาเอวามาเมื่อสองสามวันก่อน และเธอไล่ฉั

  • ธุลีใจ   บทที่ 38

    เอวาฉันรู้สึกประหม่ามากขณะเตรียมตัวออกเดตกับอีธาน ตอนนี้ผ่านไปสองสัปดาห์แล้วตั้งแต่ฉันออกจากโรงพยาบาลและทุกอย่างก็ดีขึ้น คุณหมอบอกว่าฉันหายดีแล้วและฉันก็กลับไปทำงานได้ตั้งแต่เมื่อสองสามวันก่อนในช่วงสองสัปดาห์นั้นมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เล็ตตี้กับฉันสนิทกันมากขึ้น และอีธานกับฉันเองก็เช่นกัน เขาขอฉันออกเดตเมื่อสองสามวันก่อน ฉันตอบตกลงอย่างเต็มใจอีธานช่วยเรื่องความภูมิใจในตัวเองของฉัน เขาทำให้ฉันหัวเราะและผ่อนคลาย ฉันรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่กับเขา เมื่อฉันอยู่ใกล้เขา ฉันลืมโรแวนได้ ฉันลืมหัวใจที่แตกสลายของตัวเองได้“ปล่อยผมหรือรวบผมดี?” ฉันถามเล็ตตี้เราคุยกันผ่านวิดีโอคอลและเธอก็ช่วยฉันเตรียมตัวพูดตามตรงนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันออกเดต เหมือนที่ฉันเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่ผู้ชายจะชวนออกเดตมาก่อนตอนที่ฉันแต่งงาน โรแวนไม่เคยพาฉันออกไปข้างนอกเลย จริง ๆ แล้วเราไม่เคยทำอะไรแบบที่คู่รักทำกัน เราไม่เคยไปทานอาหารค่ำด้วยกันเลยด้วยซ้ำ แค่โรแวนกลับบ้านมาทานอาหารค่ำเกือบทุกวันได้ก็ถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจแล้ว“แน่นอนว่าต้องรวบผม คุณมีคอที่ยาวระหง คุณควรอวดมัน” เล็ตตี้พูดเพ

บทล่าสุด

  • ธุลีใจ   บทที่ 418

    ผมพยักหน้าแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟา ขณะที่โรแวนรินบรั่นดีให้ผมแก้วหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมต้องการ“ฉันต้องเห็นด้วยกับที่แม่พูดเลยนะ ลิลลี่เหมือนนายไม่มีผิด เธอทำให้ฉันประหลาดใจกับความฉลาดนั่น และเธอยังรู้เรื่องเงินทองเยอะมากด้วย” โรแวนพูดขึ้นหลังจากจิบบรั่นดีในแก้วผมยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “ก็เหมือนกับโนอาที่เหมือนนายไง เขาเก่งมากเรื่องมองออกหมดว่าบริษัทไหนมีศักยภาพ”มันเป็นเรื่องจริง โนอาเฉียบคมเรื่องการมองศักยภาพของบริษัทเหมือนกับโรแวน โรแวนสามารถวิเคราะห์ศักยภาพของบริษัทใหม่ ๆ หรือแม้แต่บริษัทที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วได้และก็เป็นเพราะเขา เราไม่เคยทำการลงทุนที่ผิดพลาดเมื่อเข้าซื้อกิจการบริษัทใหม่“ฉันรู้สึกว่าพวกเขาสองคนจะได้ครองโลกธุรกิจแน่ พวกเขาจะพาบริษัทวู้ด คอเปอร์เรชั่นของเราไปสู่ความสำเร็จยิ่งกว่าเดิม เหมือนกับพวกเราที่เป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบกันไง” โรแวนเอ่ยสิ่งที่ผมก็คิดเช่นเดียวกันผมหยิบแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด แล้วรินเพิ่มอีกครั้ง ของเหลวที่ไหลลงคอทำให้รู้สึกร้อนวาบ แต่ผมไม่ได้ใส่ใจอะไร หลังจากดื่มแก้วที่สอง ผมเริ่มรู้สึกว่าความตึงเครียดในร่างกายผ่อนคลายลง“เล่ามาได้แล้วล่ะ” โรแ

  • ธุลีใจ   บทที่ 417

    เกเบรียล“คืนนี้ทั้งสองคนอยู่กันได้นะ?” ผมถามขณะเปิดประตูรถให้ฮาร์เปอร์และลิลลี่“ค่ะ” เธอตอบ แต่หลบสายตาผมอย่างชัดเจน “ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เราสองคนพอหัวถึงหมอนก็คงหลับกันเลย”“โอเค” ผมเดินเข้าไปจูบแก้มลิลลี่เบา ๆ เธอดูเหมือนจะง่วงจนแทบหลับคาที่ “ราตรีสวัสดิ์นะลูกรัก”“ราตรีสวัสดิ์ค่ะพ่อ” เธอพึมพำตอบให้ตายเถอะ ผมไม่คิดว่าผมจะเคยชินกับการที่เธอเรียกผมว่าพ่อแบบนี้ได้ อย่างที่เคยบอกไป ตอนที่รู้เรื่องลิลลี่ใหม่ ๆ ผมวางแผนจะใช้เธอเป็นไม้ตายเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการจากฮาร์เปอร์ แต่ตอนนี้เรื่องมันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงทุกครั้งที่เธอเรียกผมว่าพ่อเหมือนวันนี้ หัวใจผมพองโต ผมรู้สึกถึงความอบอุ่นบางอย่างไหลซึมลึกเข้าไปในตัวผม มันแตกต่างออกไปมาก เป็นความรู้สึกที่ผมไม่เคยมีมาก่อนหลังจากโบกมือลาและได้ยินคำราตรีสวัสดิ์จากฮาร์เปอร์ เธอและลิลลี่ก็เดินเข้าตึกไป หลังจากมั่นใจว่าพวกเธอเข้าข้างในอย่างปลอดภัย ผมถึงหันกลับมาที่รถโดยไม่สนใจสายตาที่ฮาร์เปอร์มองผม มันเต็มไปด้วยความไม่ไว้ใจ เหมือนเธอคิดว่าผมจะไปเจอผู้หญิงคนอื่น หรือพูดง่าย ๆ คือคิดว่าผมจะนอกใจผมไม่ได้บอกเธอว่าผมกำลังจะไปไหน ตอนที่บอก

  • ธุลีใจ   บทที่ 416

    “สวัสดี” ไม่รู้เพราะอะไร ฉันถึงพูดออกมาเสียงแปลก ๆการได้เจอกับเอวาตัวต่อตัวแบบนี้ มันเหมือนกับการได้เจอคนที่เราแอบชอบมาตลอด จู่ ๆ ฉันก็เหงื่อซึมและรู้สึกประหม่าเธอไม่ตอบอะไรแต่กลับดึงฉันเข้าไปกอดแน่น กอดนั้นอบอุ่น ราวกับได้กอดตุ๊กตาหมีนุ่ม ๆ“ยินดีที่ได้เจออย่างเป็นทางการนะ ฮาร์เปอร์ ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวของเราจ๊ะ” เธอกระซิบก่อนจะผละออกไปเกเบรียลพาฉันเดินไปยังพื้นที่จัดเลี้ยงกลางแจ้งที่เต็มไปด้วยอาหารหลากหลายบนโต๊ะ เขาจัดที่นั่งให้ฉันนั่งอยู่ข้าง ๆเขาจะรู้ไหมว่าฉันมีเหตุผลที่ไม่อยากอยู่ใกล้เขา?ไม่กี่วินาทีต่อมา ทุกคนก็เริ่มลงมือรับประทานอาหารกัน“แล้วนี่ฮาร์เปอร์ หนูทำงานอะไรล่ะ?” แม่ของเกเบรียลถามฉันกลืนน้ำลายเมื่อทุกสายตาหันมาที่ฉัน ฉันไม่ชอบเลยเวลาที่คนสนใจฉันแบบนี้“นักออกแบบภายในค่ะ” ฉันตอบโดยพยายามไม่หลบตาถ้ามีสิ่งหนึ่งที่แม่ฉันสอนฉันก็คือการสบตาสำคัญมาก โดยเฉพาะกับคนที่อยู่ในโลกแบบเรา คนรวยและมีอิทธิพลมองว่าการหลบสายตาเป็นสัญญาณของความอ่อนแอ แม่ปลูกฝังให้พวกเราไม่มีวันแสดงความอ่อนแอนั้นออกมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม“พอดีเลย” เอวาพูดเสริม “ฉันอยากปรับเปลี่ยน

  • ธุลีใจ   บทที่ 415

    “เขาแต่งงานกับเอวาเหรอ?” ฉันถามด้วยความตกใจ“ก็ใช่น่ะสิ” เกเบรียลตอบก่อนจะหรี่ตาใส่ฉัน “ทำไมคุณถึงดูตกใจกับเรื่องนี้ขนาดนั้น?”ฉันยักไหล่พร้อมตอบ “ก็คงเพราะฉันตกใจจริง ๆ”และฉันตกใจจริง ๆ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น ไม่เคยแม้แต่นิดเดียว จากที่ฉันจำได้ โรแวนเกลียดเอวามาก แล้วเขาลงเอยกับเธอได้ยังไง? อะไรทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปมากขนาดนี้จนเขามีความสุขสุด ๆ แบบนี้?โรแวนที่ฉันจำได้เป็นคนอารมณ์ร้าย ขมขื่น และเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขามีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา และแทบไม่ยิ้มเลย ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปหลังจากเขานอนกับเอวาและเลิกกับเอมม่าโรแวนคนใหม่ที่ฉันเห็นนี้ทำให้ฉันนึกถึงตอนที่เขาอยู่กับเอมม่า ตอนนั้นใบหน้าของเขาจะสดใสขึ้นทันทีที่เห็นเธอหรืออยู่ใกล้เธอ เขายิ้มอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับว่าแค่การมีเอมม่าอยู่ในชีวิตก็ทำให้เขามีความสุขด้วยเหตุนี้ คุณคงเข้าใจว่าทำไมฉันถึงสงสัยว่าเอวาเป็นคนที่ทำให้เขามีความสุขขนาดนี้ เว้นแต่มีอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไปในช่วงที่ฉันไม่อยู่ หรือพวกเขาแค่ตัดสินใจอยู่ด้วยกันเพราะเห็นแก่ความสุขลูก ๆ“ไม่ดีเลยนะที่ไปตัดสินคนอื่นแบบนั้น” เสียงของเกเบรียลดึงฉันอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 414

    โรแวนดูมีความสุขในตอนนี้ ซึ่งทำให้ฉันคิดว่าเขาคงกลับไปคบกับเอมม่าอีกครั้ง นั่นน่าจะเป็นคำอธิบายเดียวที่เป็นไปได้ จากที่เกเบรียลเคยเล่าให้ฟัง โรแวนเคยเกลียดเอวาแบบสุดใจ เช่นเดียวกับที่เกเบรียลเคยเกลียดฉันสายตาของฉันเลื่อนไปที่เด็กผู้หญิงตัวน้อย เธอดูคุ้น ๆ แต่ฉันนึกไม่ออกว่าเคยเห็นเธอที่ไหน บางทีเธออาจเป็นลูกสาวของโรแวนกับเอมม่าก็ได้ ถึงแม้เธอจะดูไม่เหมือนเอมม่าที่ฉันจำได้เลยก็ตาม บางทีอาจเป็นเพราะพันธุกรรมที่แปลกประหลาด“แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นล่ะ?” ฉันถาม“ชื่อไอริส” เกเบรียลตอบ พร้อมกับยืนใกล้ฉันจนทำให้รู้สึกแปลก ๆฉันขยับถอยหลังเล็กน้อยเพื่อรักษาระยะห่างฉันมองไอริสต่อ เธอเหมือนพลังงานน้อย ๆ ที่สดใส ดวงตาสีฟ้าสวยส่องประกายจนฉันมองเห็นได้ชัดเจนแม้จากที่ที่ฉันยืนอยู่ เธอไม่เหมือนเอมม่าเลย แต่ถ้าจำไม่ผิด เอมม่ามีดวงตาสีฟ้า ดังนั้นไอริสน่าจะได้มาจากแม่“งั้นโรแวนก็กลับไปคบกับเอมม่าแล้วใช่ไหม” ฉันพูดเบา ๆ “พวกเขากลับไปคบกันตอนไหน แล้วเอวารับมือกับมันยังไง?”ฉันไม่เคยคิดว่าเอมม่าจะเป็นคนไม่ดี เราทุกคนเคยเรียนที่โรงเรียนเดียวกัน เธออายุมากกว่า ในขณะที่เอวากับฉันรุ่นเดียวกันเอมม่าต่

  • ธุลีใจ   บทที่ 413

    ฉันไม่สามารถหยุดขยับตัวอย่างกระวนกระวายได้เลย ขณะที่ฉันและเกเบรียลเดินตามพ่อแม่ของเขาเข้าไปข้างใน หากพูดตรง ๆ การพูดคุยในออฟฟิศนั้นดีกว่าที่ฉันคาดไว้มาก ฉันไม่แน่ใจว่าฉันคาดหวังอะไร แต่ฉันไม่ได้คาดว่าจะเจอความสงบแบบนี้ หรืออาจจะเป็นเพียงความสงบก่อนพายุจะมา?ฉันยังไม่เข้าใจว่าทำไมเกเบรียลไม่บอกพวกเขาว่าเราเคยแต่งงานกันมาก่อน แม้การแต่งงานของเราจะจบลงอย่างเลวร้าย แต่มันก็เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลที่สุด ฉันไม่ชอบที่เขาปิดบังเรื่องนี้“ไหวไหม?” เสียงของเขาดึงฉันกลับมาสู่ปัจจุบันฉันเงยหน้าขึ้นมองเขา และพบว่าสายตาเขาจ้องมาที่ฉันอย่างแน่วแน่ มันช่างลึกซึ้งเหมือนว่าเขากำลังอ่านฉันจนถึงจิตวิญญาณ ฉันดึงสายตาจากเขาแล้วมองไปข้างหน้าแทน“ไหว แต่ก็ยังรู้สึกประหม่าอยู่ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน” ฉันตอบตามตรงส่วนที่ยากที่สุดผ่านไปแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงรู้สึกกระวนกระวายอยู่ บางทีอาจเป็นเพราะวันนี้ฉันต้องใช้เวลาทั้งวันอยู่กับครอบครัวของเขา บางทีอาจเป็นเพราะฉันยังคงรู้สึกถึงลมหายใจของเขาบนผิวของฉันเมื่อตอนที่เขาเกือบจะจูบฉัน หรือบางทีอาจเป็นเพราะเขายอมรับความผิดทั้งหมดในความล้มเหลวของความสัม

  • ธุลีใจ   บทที่ 412

    ขอบคุณพี่ชายของเธอที่ทำให้ผมรู้ว่าเธอต้องการผม และมันก็กลายเป็นอาวุธที่ดีที่สุดในการต่อต้านเธอ ผมอยากทำร้ายเธอ อยากทำลายเธอและทำให้เธอเจ็บปวดเพราะเธอพรากอิสระไปจากผม ไม่ต้องเป็นอัจฉริยะก็รู้ได้ทันทีว่าการนอกใจจะทำให้เธอเจ็บปวด ผมเลยทำ และผมก็ทำให้เธอรู้ด้วย ผมอยากให้เธอเสียใจที่คิดจะวางกับดักผมและมันได้ผล ทุกครั้งที่ผมเห็นเธอ ผมเห็นความเจ็บปวดในดวงตาของเธอ ผมรู้ว่ามันทำให้ผมเป็นคนเลว แต่การเห็นความเจ็บปวดในตาเธอมันทำให้ผมพอใจ“เวลาผ่านไปก็นานแล้วนะ แล้วลูกไปเจอเธออีกครั้งได้ยังไง?” แม่ถามต่อเมื่อผมไม่ตอบอะไรเกี่ยวกับข้อสังเกตของพ่อ“ผมออกตามหาเธอครับ” ผมยักไหล่ “พวกกรรมการบริหารนั่นอยากให้ผมแต่งงานเป็นหลักเป็นแหล่งสักที ผมเลยทำแบบนี้”สายตาของแม่หันไปทางฮาร์เปอร์ “แล้วเธอยอมแต่งงานกับเขา ทั้งที่เขาปฏิบัติกับเธออย่างเลวร้ายขนาดนั้นเหรอ?”ผมสะดุ้งกับคำพูดของแม่ ผมเกลียดที่ทำให้แม่ผิดหวัง แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เหมือนกับผม ฮาร์เปอร์ยักไหล่ตอบ “เขามีสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันก็เลยตอบตกลงค่ะ”พ่อกับแม่หันมามองหน้ากัน ก่อนจะหันกลับมาทางเรา“หมายถึงอะไร?” พ่อถามด้วยสายตาที่จ้องจับผิด“บริษั

  • ธุลีใจ   บทที่ 411

    ผมรู้ว่าปฏิกิริยาของพวกเขาจะต้องรุนแรงแน่ ๆ ใครล่ะจะไม่ตกใจเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกบอกว่ามีลูกสะใภ้กับหลานสาวที่ไม่เคยรู้มาก่อนพ่อเริ่มเดินไปเดินมา และผมก็รู้ทันทีว่าเขากำลังคิดอะไร พ่อพร่ำสอนผมกับโรแวนเสมอ เรารู้เสมอว่าเขาคิดอะไรอยู่เพราะเราเองก็คิดแบบเดียวกันเขาน่าจะกำลังสงสัยว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง สงสัยว่าผมตรวจดีเอ็นเอแล้วหรือยังว่าลิลลี่เป็นลูกสาวของผมจริง หรือเปล่า และเขาคงสงสัยด้วยว่าฮาร์เปอร์หลอกล่อหรือวางกับดักอะไรผมหรือเปล่า เขากำลังพยายามคิดถึงทุกแง่มุม“แล้ว…มันเกิดขึ้นได้ยังไง? ไปมีเมียมีลูกตอนไหนยังไง?” แม่เอ่ยถามอย่างตะกุกตะกักใบหน้าของเธอยังเต็มไปด้วยความตกตะลึง ดวงตาเลื่อนจากผมไปที่ฮาร์เปอร์ ซึ่งกำลังก้มหน้ามองพื้นอย่างเงียบ ๆ เธอดูประหม่าและตื่นตระหนกน ผมรู้สึกอยากจะโอบกอดเธอ อยากปลอบโยนเธอด้วยสัมผัสของผมความรู้สึกที่รุนแรงต่อเธอนั้นทำให้ผมงุนงง มันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนตอนที่เรายังแต่งงานกัน แล้วมันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ ๆ ผมถึงอยากทำในสิ่งที่ผมไม่เคยอยากทำมาก่อน?“ตอบแม่สิ เกบ” เสียงเข้มของพ่อทำให้ผมหลุดจากความคิด“เราเคยมีความสัมพันธ์กันเมื่อหลายปีก่อน” ผมเริ่มพู

  • ธุลีใจ   บทที่ 410

    เกเบรียล“แม่ครับ!” ผมตะโกนเรียกพลางรีบวิ่งไปหาเธอแม่กำลังนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ไม่ต้องมีใครบอก ผมก็รู้ว่าที่เธอเป็นแบบนี้ก็เพราะช็อกตอนเห็นลิลลี่ เหมือนตอนที่ผมเจอครั้งแรก เธอแค่เห็นตาสีเทาคู่นั้นครั้งเดียวก็รู้ทันทีว่าลิลลี่เป็นหนึ่งในสายเลือดของตระกูลวู้ดผมค่อย ๆ ตบแก้มของแม่เบา ๆ แต่เธอก็ยังไม่ฟื้น ผมจึงค่อย ๆ สอดแขนข้างหนึ่งใต้บ่า และอีกข้างหนึ่งใต้หัวเข่าของแม่ แล้วยกเธอขึ้นมาวางบนโซฟาที่ใกล้ที่สุด“พ่อ! โรแวน!” ผมตะโกนเรียกอย่างร้อนรน เพราะไม่อยากทิ้งแม่ไว้คนเดียว“คุณย่าจะเป็นอะไรไหมคะ?” ลิลลี่ถามเสียงแผ่วเบาและเปราะบาง “หนูทำอะไรผิดหรือเปล่า? หรือที่คุณย่าเป็นแบบนี้เพราะหนูใช่ไหมคะ?”น้ำตาที่เอ่ออยู่ในดวงตาของเธอทำให้ผมใจอ่อน ในเวลาไม่นาน ลิลลี่ก็กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตผม การเห็นเธอร้องไห้ทำให้ผมเจ็บปวด ผมคิดว่าในชีวิตนี้ผมไม่เคยรักใครมากเท่าที่ผมรักลิลลี่ แม้แต่โรแวน ฝาแฝดของผมเอง ก็ยังไม่อาจเทียบได้ก่อนที่ผมจะตอบคำถามของเธอ ฮาร์เปอร์ก็พูดแทรกขึ้นมา“ไม่หรอกจ้ะ ลูกรัก” ฮาร์เปอร์ตอบพร้อมวางผ้าชุบน้ำเย็นลงบนหน้าผากแม่ ผมไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอไปเอาผ้ามาเมื่อไหร่“

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status