Share

บทที่ 36

Author: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
โรแวน

ผมนั่งดูเอกสารด่วนที่โต๊ะของตัวเอง ผมพยายามจะมีสมาธิแต่ก็ทำไม่ได้

ผมยังนึกถึงความจริงที่ว่าเอวาไม่รับสายผมอีกแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะผมจ้างลิเดีย ผมคงไม่รู้ว่าเธอเป็นยังไงบ้าง

ผมยังไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ พูดได้เต็มปากเลยว่าเอวาที่ผมรู้จักหายไปนานแล้ว เหลือแค่คนแปลกหน้าโดยสิ้นเชิง

เมื่อเอ็มม่าตัดสินใจย้ายกลับมา ผมกลัวว่าเอวาจะสร้างปัญหาให้พวกเรา เธอคงจะเป็นตัวป่วนเหมือนตอนสมัยที่เธอเป็นวัยรุ่น แต่เธอก็พิสูจน์ให้ผมเห็นว่าผมคิดผิด

ผมควรจะดีใจที่เธอรักษาระยะห่างและไม่ได้สร้างปัญหาให้ผม แต่ผมกลับรู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้ มันแปลกมากที่ผมกังวลใจและเกลียดที่เธออยู่ในความคิดของผมตลอดเวลา

ในที่สุดผมก็ยอมแพ้กับการพยายามตั้งสมาธิและลุกขึ้นยืน ผมเดินไปที่หน้าต่างและจ้องออกไปข้างนอกเพื่อพยายามลบเรื่องเอวาออกจากหัว

“ท่านคะ หัวหน้าผู้ตรวจการมาถึงแล้วค่ะ” คริสติน เลขาของผมกล่าว

ผมจมอยู่กับความคิดจนไม่ได้ยินเสียงเธอเข้ามาในห้องทำงานของผมด้วยซ้ำ

“ให้เขาเข้ามา” ผมหันไปมองเธอก่อนจะเดินกลับไปที่เก้าอี้ของผม

ไบรอัน หัวหน้าผู้ตรวจการเข้ามาพอดีตอนที่ผมกำลังนั่งลง พวกเราจับมือกั
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ธุลีใจ   บทที่ 37

    ผมรู้ว่าเขาคงสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทุกคนรู้ดีว่าผมไม่เคยสนใจเอวาเลย ก็คิดดูทั้งที่พวกเราแต่งงานกันและผมมีทั้งอิทธิพลและศัตรู แต่ผมไม่เคยสั่งให้บอดี้การ์ดไปติดตามเธอเลย ในขณะที่โนอามีถึงสองคนเอวาเองก็เคยถามผมว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม ทำไมผมถึงสนใจความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของเธอขึ้นมาทันทีทันใดแบบนี้ ทุกคนคงคิดเหมือนเธอเพราะผมเองก็สับสนเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงมีความสำคัญกับผมขึ้นมากะทันหันแบบนี้ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าผมดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือแล้วก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาหกโมงแล้ว ผมควรจะไปพบกับทราวิสและเกเบรียลเพื่อดื่มกันตอนหกโมงครึ่งก่อนจะกลับบ้านผมออกจากสำนักงานพร้อมกับเอกสารต่าง ๆ ผมอารมณ์ไม่ดี พนักงานของผมจึงไม่มีใครกล้าแม้แต่จะทักผมด้วยซ้ำผมไปถึงคลับทันเวลาและรีบตรงไปที่โซนส่วนตัว นี่เป็นคลับพิเศษแห่งหนึ่งจากหลาย ๆ แห่งที่เกเบรียลและผมเป็นเจ้าของ“มาถึงสักที… นายช่วยจัดการเขาหน่อยได้ไหม? ฉันทนความขี้ขลาดของเขาไม่ไหวแล้ว” เกเบรียลบ่นก่อนจะยกเครื่องดื่มของเขาและมองทราวิสด้วยความรังเกียจ“เกิดอะไรขึ้น?” ผมหันไปหาทราวิสสภาพเขาดูแย่มาก“ฉันไปหาเอวามาเมื่อสองสามวันก่อน และเธอไล่ฉั

  • ธุลีใจ   บทที่ 38

    เอวาฉันรู้สึกประหม่ามากขณะเตรียมตัวออกเดตกับอีธาน ตอนนี้ผ่านไปสองสัปดาห์แล้วตั้งแต่ฉันออกจากโรงพยาบาลและทุกอย่างก็ดีขึ้น คุณหมอบอกว่าฉันหายดีแล้วและฉันก็กลับไปทำงานได้ตั้งแต่เมื่อสองสามวันก่อนในช่วงสองสัปดาห์นั้นมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เล็ตตี้กับฉันสนิทกันมากขึ้น และอีธานกับฉันเองก็เช่นกัน เขาขอฉันออกเดตเมื่อสองสามวันก่อน ฉันตอบตกลงอย่างเต็มใจอีธานช่วยเรื่องความภูมิใจในตัวเองของฉัน เขาทำให้ฉันหัวเราะและผ่อนคลาย ฉันรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่กับเขา เมื่อฉันอยู่ใกล้เขา ฉันลืมโรแวนได้ ฉันลืมหัวใจที่แตกสลายของตัวเองได้“ปล่อยผมหรือรวบผมดี?” ฉันถามเล็ตตี้เราคุยกันผ่านวิดีโอคอลและเธอก็ช่วยฉันเตรียมตัวพูดตามตรงนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันออกเดต เหมือนที่ฉันเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่ผู้ชายจะชวนออกเดตมาก่อนตอนที่ฉันแต่งงาน โรแวนไม่เคยพาฉันออกไปข้างนอกเลย จริง ๆ แล้วเราไม่เคยทำอะไรแบบที่คู่รักทำกัน เราไม่เคยไปทานอาหารค่ำด้วยกันเลยด้วยซ้ำ แค่โรแวนกลับบ้านมาทานอาหารค่ำเกือบทุกวันได้ก็ถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจแล้ว“แน่นอนว่าต้องรวบผม คุณมีคอที่ยาวระหง คุณควรอวดมัน” เล็ตตี้พูดเพ

  • ธุลีใจ   บทที่ 39

    ฉันดมกลิ่นดอกกุหลาบด้วยความรู้สึกขอบคุณ โรแวนไม่เคยซื้อดอกไม้ให้ฉันเลยสักครั้ง เขาไม่เคยปฏิบัติกับฉันราวกับว่าฉันมีความสำคัญต่อเขาเลย ในความคิดของเขาฉันเป็นเพียงคนน่ารำคาญที่เขามีลูกด้วย“ฉันขอแช่ดอกไม้ในน้ำก่อนที่จะไปนะคะ” ฉันหันหลังกลับและมุ่งหน้าไปที่ห้องครัวหลังจากที่ใส่ดอกไม้ลงในแจกันแล้ว เราก็ออกไปฉันรู้สึกทั้งประหม่าและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำหรือพูดอะไร ระหว่างที่ออกเดต คนเขาทำอะไรกันเหรอ? พวกคุณคุยเรื่องอะไร? และใครควรเป็นคนเริ่มบทสนทนา? ฉันออกนอกกรอบของตัวเองมากจนกลัวว่าจะทำให้ทุกอย่างพัง“แปลกไหมครับที่ผมประหม่าจนตัวสั่น ทั้ง ๆ ที่ผมเคยออกเดตหลายรอบจนนับไม่ถ้วน?” อีธานถามขึ้นและทำลายความเงียบฉันหัวเราะด้วยความโล่งใจ ความวิตกกังวลที่ฉันอดกลั้นเอาไว้ก็หายไป“ไม่เลยค่ะ… ฉันก็เป็นเหมือนกัน ฉันรู้สึกประหม่ามาทั้งวันเลย” ฉันสารภาพ “ฉันเกือบจะเสียสมาธิในการสอนเลยค่ะ”แม้ว่านักเรียนของฉันจะดีใจที่ฉันกลับมา แต่พวกเขาก็รู้ว่าฉันสมาธิล่องลอย พวกเขาถึงกับชี้แจ้งพฤติกรรมผิดปกติของฉันด้วย“ผมต้องยื่นรายงานซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะผมทำพังอยู่เรื่อย” เขาหัวเราะและฉัน

  • ธุลีใจ   บทที่ 40

    “แล้วอะไรคือสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดเกี่ยวกับงานของคุณเหรอคะ?” ฉันเปลี่ยนเรื่องรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเขาเมื่อเขาเริ่มเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับงานของเขา ไม่นานอาหารของเราก็มาถึงและเราก็ลงมือทานอาหารกันฉันพยายามมีสมาธิ แต่ยิ่งมีคนมากันมากขึ้นเท่าไร ฉันก็ยิ่งรู้สึกประหม่ามากขึ้นเท่านั้น ฉันพยายามผ่อนคลายและจดจ่อกับอีธานแต่ก็ไม่เป็นผล“คุณเป็นไรหรือเปล่าครับเอวา? คุณดูประหม่า ๆ” เขาถามฉันช้า ๆ ราวกับรับรู้ถึงความไม่สบายใจของฉัน“ประหม่าเหรอคะ?” ฉันสำลัก“ใช่ครับ คุณดูกระสับกระส่ายและแถมคุณก็กวาดตามองไปมา” เขาบอกฉัน “คุณไม่สนุกเหรอครับ?”โอ้พระเจ้า! ตอนนี้ฉันรู้สึกแย่มาก ฉันควรบอกความจริงกับเขาหรือจะปล่อยให้มันจะทำลายทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเรา สิ่งสุดท้ายที่ฉันต้องการคือการถูกมองว่าเป็นผู้หญิงที่ไม่รู้จักบุญคุณ“คุณบอกผมได้เลยนะครับ ผมสัญญาว่าจะไม่โกรธ” สายตาของเขาจ้องมาที่ฉันราวกับว่าเขาสามารถเห็นการต่อสู้ที่กำลังเกิดขึ้นภายในตัวฉันได้“ฉันชอบอยู่กับคุณและรู้สึกสนุกที่ได้อยู่ใกล้คุณนะคะ แต่... ฉันรู้สึกไม่สบายใจกับบรรยากาศแบบนี้” ฉันพึมพำอย่างจริงใจ“คุณหมายถึงร้านอาหารเหรอครับ

  • ธุลีใจ   บทที่ 41

    โรแวนวันนี้ผมหวังว่าจะได้ใช้เวลาช่วงเย็นกับเอมม่าอย่างมีความสุข แต่สุดท้ายมันก็พังทลายลงเมื่อผมเห็นเอวามาออกเดตกับอีธาน“โรแวน” เอมม่าเรียกผม แต่เหมือนสมองผมไม่ทำงานเอวากำลังอยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายอีกคน ตอนแรกผมคิดว่าผมตาฝาด ผมหลงดีใจด้วยซ้ำที่เห็นอีธานมาออกเดตกับผู้หญิงคนอื่นเพื่อเป็นข้อพิสูจน์ว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้ จนกระทั่งผมตระหนักว่าผู้หญิงคนนั้นคือเอวาเธอสวยจนน่าทึ่งแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ผิวกระจ่างไร้ที่ติของเธอถูกเปิดเผย และชุดเดรสสีดำเข้ารูปที่เธอใส่ก็เน้นให้เห็นส่วนโค้งเว้าของเธอแน่นอนว่าผมเคยเห็นเธอเปลือยกายมาก่อน แต่ภาพนี้ทำให้ผมรู้สึกแตกต่างออกไป เธอตั้งใจแต่งตัวแบบที่เธอไม่เคยทำเมื่อเราอยู่ด้วยกัน บางทีอาจเป็นเพราะผมไม่เคยชวนเธอออกเดตและไม่เคยสนใจเธอเลยผมมองดูอีธานทัดผมของเธอไว้หลังหู นั่นทำให้เลือดในกายผมเต้นเร่า แต่ไม่เท่ากับการเห็นเขาลูบแก้มของเธอก่อนจะจูบหน้าผาก การเห็นเขาทำแบบนั้นทำให้ผมถึงกับหน้ามืดด้วยความโมโหเธอส่งยิ้มให้เขา รอยยิ้มนั้นทำให้ผมแทบจะเข่าทรุดโดยไม่ทราบสาเหตุ“โรแวน ฉันเจ็บ!” เอมม่าตวาดตอนนั้นเองที่ผมรู้ตัวว่าผมได้กำมือเธอแน่นมาก ผมคลาย

  • ธุลีใจ   บทที่ 42

    เอมม่าฉันไม่ได้ขยับตัวเลยตั้งแต่ที่โรแวนจากไป ฉันรู้สึกเหมือนกำแพงกำลังปิดล้อมตัวฉันและฉันไม่มีทางหนี ไม่มีทางที่จะระงับความเจ็บปวดที่ฉันรู้สึกอยู่ภายในได้ทุกอย่างมันเจ็บไปหมดและฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะหยุดมันอย่างไร ฉันไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรหรือจะต้องตอบสนองอย่างไรทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้นกับฉัน? นั่นคือคำถามที่ฉันถามตัวเองอยู่เสมอ แต่ฉันไม่เคยได้รับคำตอบเลย ไม่มีแม้แต่คำใบ้ว่าทำไมฉันถึงยังต้องเจอเรื่องแย่ ๆ แม้จะได้ผู้ชายคนนั้นมาครองแล้วก็ตามฉันรู้สึกถึงน้ำตาที่ไหลรินลงมาบนใบหน้า ฉันเกลียดที่ต้องอ่อนแอ ฉันเกลียดที่ต้องร้องไห้ ฉันเช็ดน้ำตาออกไปเพราะโกรธตัวเองที่ปล่อยให้มันไหลลงมาเมื่อตอนที่พ่อเสียชีวิต ฉันพังทลายมาก ฉันเป็นเจ้าหญิงของเขา และเขาคือฮีโร่ของฉัน ฉันไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับเขามากนักเพราะฉันย้ายไปอยู่เมืองอื่น แต่เมื่อเราได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน มันก็เยี่ยมมากฉันคิดว่าฉันจะไม่มีวันทำใจได้กับการตายของเขา ฉันคิดว่าโลกนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว จนกระทั่งโรแวนกับฉันได้คุยกัน เขาบอกฉันว่าเขากับเอวาหย่าร้างกันแล้ว และขอโอกาสจากฉันฉันรักเขาตั้งแต่ฉันจำความได้ ฉันไม่เคยหยุดรักเขาเลยแ

  • ธุลีใจ   บทที่ 43

    อย่างที่ฉันเคยบอกไว้ว่า สำหรับเราเอวาไม่ใช่คนสำคัญ แล้วทำไมเธอจะต้องเป็นเป้าหมายของใครด้วย?มอลลี่ถอนหายใจ “ถ้าฉันอยู่ที่นั่น ฉันคงตบเตือนสติเธอไปแล้ว เอมม่าเธอเป็นถึงทนายความ แต่เธอก็ยังเชื่อว่าน้องสาวของเธอสามารถทำแบบนั้นกับตัวเองได้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากโรแวนเหรอ?”“ก็เพราะฉันเป็นทนายความ ฉันถึงเชื่อแบบนั้น เธอไม่รู้เหรอว่าผู้หญิงสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อเรียกร้องความสนใจจากอดีตสามีหลังจากที่อีกฝ่ายมีคนใหม่ไปแล้ว”ฉันเคยรับคดีอดีตภรรยาและอดีตแฟนสาวมาหลายครั้งแล้วหลังจากที่พวกเธอได้ทำร้ายคนอื่นและคนที่พวกตนคิดว่ารักเพียงเพื่อหวังเอาผู้ชายของพวกตนกลับคืนมา“คนเรามักจะทำอะไรบ้า ๆ เมื่อมีความรัก และยัยบ้าก็เป็นฉายาของเอวา” ฉันเสริมตอนที่เราเป็นวัยรุ่น เอวาทำทุกอย่างเพื่อดึงดูดความสนใจของโรแวน เธอถึงกับทำลายเดตของเรา ทำลายชุดที่ฉันเลือกไว้เพื่อไปเจอโรแวน และครั้งหนึ่งเธอยังใส่สีย้อมผมสีเขียวในแชมพูของฉัน นั่นเป็นเพียงบางส่วนที่เธอทำ เธอไม่เคยหยุดจนกระทั่งในที่สุดก็สามารถแย่งโรแวนไปจากฉันได้“ฉันก็ไม่ได้ชอบอะไรเอวานักหนาเพราะสิ่งที่หล่อนเคยทำกับเธอ แต่ฉันคิดว่าหล่อนคงไม่ลดตัวลงไป

  • ธุลีใจ   บทที่ 44

    เอวาฉันยังคงรู้สึกแย่กับการกระทำของโรแวนเมื่อสองสามวันก่อน ฉันไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เขาพยายามทำลายความสัมพันธ์กับเอมม่าหรือยังไง? เขาต้องการให้ฉันมีปัญหากับเธอมากขึ้นหรือยังไง?เอมม่าคิดว่าฉันพยายามจะจับผู้ชายของเธออยู่แล้ว คิดว่าฉันกำลังทำทุกวิถีทางเพื่อแย่งเขามาจากเธอ สิ่งที่เธอไม่เข้าใจก็คือฉันแค่ต้องการความสงบสุข ฉันไม่ต้องการโรแวน ฉันเคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว ฉันเคยพยายามทำแบบนั้นและได้เรียนรู้บทเรียนจากประสบการณ์ที่ยากลำบาก“เธอแน่ใจเหรอ?” เสียงเล็ก ๆ ที่น่ารำคาญถามฉัน “เธอปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอชอบจูบนั้น เธอจินตนาการให้เขาจูบเธอแบบนั้นมาเสมอ แบบที่เต็มไปด้วยความต้องการและความหลงใหล”ฉันสลัดความคิดนั้นออกไป มันผิด ฉันตั้งใจที่จะตัดใจจากโรแวนและค้นหาชีวิตและความรักของตัวเอง แค่เพราะร่างกายของฉันทรยศมันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย การตอบสนองของฉันเป็นเพียงการตอบสนองทางชีววิทยาเท่านั้น ไม่มีอะไรมากกว่านั้น“โกหกตัวเองต่อไปเถอะ” เสียงนั้นเถียงฉันไม่ได้โกหกตัวเอง หรือบางทีฉันอาจจะโกหกก็ได้ สิ่งสำคัญคือฉันจะไปใส่ใจพฤติกรรมที่ไม่ปกติของโรแวนหรือการจูบที่ไม่คาดคิดของเขาฉันละทิ้งคว

Latest chapter

  • ธุลีใจ   บทที่ 418

    ผมพยักหน้าแล้วทิ้งตัวลงบนโซฟา ขณะที่โรแวนรินบรั่นดีให้ผมแก้วหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมต้องการ“ฉันต้องเห็นด้วยกับที่แม่พูดเลยนะ ลิลลี่เหมือนนายไม่มีผิด เธอทำให้ฉันประหลาดใจกับความฉลาดนั่น และเธอยังรู้เรื่องเงินทองเยอะมากด้วย” โรแวนพูดขึ้นหลังจากจิบบรั่นดีในแก้วผมยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “ก็เหมือนกับโนอาที่เหมือนนายไง เขาเก่งมากเรื่องมองออกหมดว่าบริษัทไหนมีศักยภาพ”มันเป็นเรื่องจริง โนอาเฉียบคมเรื่องการมองศักยภาพของบริษัทเหมือนกับโรแวน โรแวนสามารถวิเคราะห์ศักยภาพของบริษัทใหม่ ๆ หรือแม้แต่บริษัทที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วได้และก็เป็นเพราะเขา เราไม่เคยทำการลงทุนที่ผิดพลาดเมื่อเข้าซื้อกิจการบริษัทใหม่“ฉันรู้สึกว่าพวกเขาสองคนจะได้ครองโลกธุรกิจแน่ พวกเขาจะพาบริษัทวู้ด คอเปอร์เรชั่นของเราไปสู่ความสำเร็จยิ่งกว่าเดิม เหมือนกับพวกเราที่เป็นคู่หูที่สมบูรณ์แบบกันไง” โรแวนเอ่ยสิ่งที่ผมก็คิดเช่นเดียวกันผมหยิบแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวจนหมด แล้วรินเพิ่มอีกครั้ง ของเหลวที่ไหลลงคอทำให้รู้สึกร้อนวาบ แต่ผมไม่ได้ใส่ใจอะไร หลังจากดื่มแก้วที่สอง ผมเริ่มรู้สึกว่าความตึงเครียดในร่างกายผ่อนคลายลง“เล่ามาได้แล้วล่ะ” โรแ

  • ธุลีใจ   บทที่ 417

    เกเบรียล“คืนนี้ทั้งสองคนอยู่กันได้นะ?” ผมถามขณะเปิดประตูรถให้ฮาร์เปอร์และลิลลี่“ค่ะ” เธอตอบ แต่หลบสายตาผมอย่างชัดเจน “ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ เราสองคนพอหัวถึงหมอนก็คงหลับกันเลย”“โอเค” ผมเดินเข้าไปจูบแก้มลิลลี่เบา ๆ เธอดูเหมือนจะง่วงจนแทบหลับคาที่ “ราตรีสวัสดิ์นะลูกรัก”“ราตรีสวัสดิ์ค่ะพ่อ” เธอพึมพำตอบให้ตายเถอะ ผมไม่คิดว่าผมจะเคยชินกับการที่เธอเรียกผมว่าพ่อแบบนี้ได้ อย่างที่เคยบอกไป ตอนที่รู้เรื่องลิลลี่ใหม่ ๆ ผมวางแผนจะใช้เธอเป็นไม้ตายเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการจากฮาร์เปอร์ แต่ตอนนี้เรื่องมันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงทุกครั้งที่เธอเรียกผมว่าพ่อเหมือนวันนี้ หัวใจผมพองโต ผมรู้สึกถึงความอบอุ่นบางอย่างไหลซึมลึกเข้าไปในตัวผม มันแตกต่างออกไปมาก เป็นความรู้สึกที่ผมไม่เคยมีมาก่อนหลังจากโบกมือลาและได้ยินคำราตรีสวัสดิ์จากฮาร์เปอร์ เธอและลิลลี่ก็เดินเข้าตึกไป หลังจากมั่นใจว่าพวกเธอเข้าข้างในอย่างปลอดภัย ผมถึงหันกลับมาที่รถโดยไม่สนใจสายตาที่ฮาร์เปอร์มองผม มันเต็มไปด้วยความไม่ไว้ใจ เหมือนเธอคิดว่าผมจะไปเจอผู้หญิงคนอื่น หรือพูดง่าย ๆ คือคิดว่าผมจะนอกใจผมไม่ได้บอกเธอว่าผมกำลังจะไปไหน ตอนที่บอก

  • ธุลีใจ   บทที่ 416

    “สวัสดี” ไม่รู้เพราะอะไร ฉันถึงพูดออกมาเสียงแปลก ๆการได้เจอกับเอวาตัวต่อตัวแบบนี้ มันเหมือนกับการได้เจอคนที่เราแอบชอบมาตลอด จู่ ๆ ฉันก็เหงื่อซึมและรู้สึกประหม่าเธอไม่ตอบอะไรแต่กลับดึงฉันเข้าไปกอดแน่น กอดนั้นอบอุ่น ราวกับได้กอดตุ๊กตาหมีนุ่ม ๆ“ยินดีที่ได้เจออย่างเป็นทางการนะ ฮาร์เปอร์ ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวของเราจ๊ะ” เธอกระซิบก่อนจะผละออกไปเกเบรียลพาฉันเดินไปยังพื้นที่จัดเลี้ยงกลางแจ้งที่เต็มไปด้วยอาหารหลากหลายบนโต๊ะ เขาจัดที่นั่งให้ฉันนั่งอยู่ข้าง ๆเขาจะรู้ไหมว่าฉันมีเหตุผลที่ไม่อยากอยู่ใกล้เขา?ไม่กี่วินาทีต่อมา ทุกคนก็เริ่มลงมือรับประทานอาหารกัน“แล้วนี่ฮาร์เปอร์ หนูทำงานอะไรล่ะ?” แม่ของเกเบรียลถามฉันกลืนน้ำลายเมื่อทุกสายตาหันมาที่ฉัน ฉันไม่ชอบเลยเวลาที่คนสนใจฉันแบบนี้“นักออกแบบภายในค่ะ” ฉันตอบโดยพยายามไม่หลบตาถ้ามีสิ่งหนึ่งที่แม่ฉันสอนฉันก็คือการสบตาสำคัญมาก โดยเฉพาะกับคนที่อยู่ในโลกแบบเรา คนรวยและมีอิทธิพลมองว่าการหลบสายตาเป็นสัญญาณของความอ่อนแอ แม่ปลูกฝังให้พวกเราไม่มีวันแสดงความอ่อนแอนั้นออกมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม“พอดีเลย” เอวาพูดเสริม “ฉันอยากปรับเปลี่ยน

  • ธุลีใจ   บทที่ 415

    “เขาแต่งงานกับเอวาเหรอ?” ฉันถามด้วยความตกใจ“ก็ใช่น่ะสิ” เกเบรียลตอบก่อนจะหรี่ตาใส่ฉัน “ทำไมคุณถึงดูตกใจกับเรื่องนี้ขนาดนั้น?”ฉันยักไหล่พร้อมตอบ “ก็คงเพราะฉันตกใจจริง ๆ”และฉันตกใจจริง ๆ ฉันไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น ไม่เคยแม้แต่นิดเดียว จากที่ฉันจำได้ โรแวนเกลียดเอวามาก แล้วเขาลงเอยกับเธอได้ยังไง? อะไรทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปมากขนาดนี้จนเขามีความสุขสุด ๆ แบบนี้?โรแวนที่ฉันจำได้เป็นคนอารมณ์ร้าย ขมขื่น และเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขามีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา และแทบไม่ยิ้มเลย ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปหลังจากเขานอนกับเอวาและเลิกกับเอมม่าโรแวนคนใหม่ที่ฉันเห็นนี้ทำให้ฉันนึกถึงตอนที่เขาอยู่กับเอมม่า ตอนนั้นใบหน้าของเขาจะสดใสขึ้นทันทีที่เห็นเธอหรืออยู่ใกล้เธอ เขายิ้มอยู่ตลอดเวลาเหมือนกับว่าแค่การมีเอมม่าอยู่ในชีวิตก็ทำให้เขามีความสุขด้วยเหตุนี้ คุณคงเข้าใจว่าทำไมฉันถึงสงสัยว่าเอวาเป็นคนที่ทำให้เขามีความสุขขนาดนี้ เว้นแต่มีอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไปในช่วงที่ฉันไม่อยู่ หรือพวกเขาแค่ตัดสินใจอยู่ด้วยกันเพราะเห็นแก่ความสุขลูก ๆ“ไม่ดีเลยนะที่ไปตัดสินคนอื่นแบบนั้น” เสียงของเกเบรียลดึงฉันอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 414

    โรแวนดูมีความสุขในตอนนี้ ซึ่งทำให้ฉันคิดว่าเขาคงกลับไปคบกับเอมม่าอีกครั้ง นั่นน่าจะเป็นคำอธิบายเดียวที่เป็นไปได้ จากที่เกเบรียลเคยเล่าให้ฟัง โรแวนเคยเกลียดเอวาแบบสุดใจ เช่นเดียวกับที่เกเบรียลเคยเกลียดฉันสายตาของฉันเลื่อนไปที่เด็กผู้หญิงตัวน้อย เธอดูคุ้น ๆ แต่ฉันนึกไม่ออกว่าเคยเห็นเธอที่ไหน บางทีเธออาจเป็นลูกสาวของโรแวนกับเอมม่าก็ได้ ถึงแม้เธอจะดูไม่เหมือนเอมม่าที่ฉันจำได้เลยก็ตาม บางทีอาจเป็นเพราะพันธุกรรมที่แปลกประหลาด“แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นล่ะ?” ฉันถาม“ชื่อไอริส” เกเบรียลตอบ พร้อมกับยืนใกล้ฉันจนทำให้รู้สึกแปลก ๆฉันขยับถอยหลังเล็กน้อยเพื่อรักษาระยะห่างฉันมองไอริสต่อ เธอเหมือนพลังงานน้อย ๆ ที่สดใส ดวงตาสีฟ้าสวยส่องประกายจนฉันมองเห็นได้ชัดเจนแม้จากที่ที่ฉันยืนอยู่ เธอไม่เหมือนเอมม่าเลย แต่ถ้าจำไม่ผิด เอมม่ามีดวงตาสีฟ้า ดังนั้นไอริสน่าจะได้มาจากแม่“งั้นโรแวนก็กลับไปคบกับเอมม่าแล้วใช่ไหม” ฉันพูดเบา ๆ “พวกเขากลับไปคบกันตอนไหน แล้วเอวารับมือกับมันยังไง?”ฉันไม่เคยคิดว่าเอมม่าจะเป็นคนไม่ดี เราทุกคนเคยเรียนที่โรงเรียนเดียวกัน เธออายุมากกว่า ในขณะที่เอวากับฉันรุ่นเดียวกันเอมม่าต่

  • ธุลีใจ   บทที่ 413

    ฉันไม่สามารถหยุดขยับตัวอย่างกระวนกระวายได้เลย ขณะที่ฉันและเกเบรียลเดินตามพ่อแม่ของเขาเข้าไปข้างใน หากพูดตรง ๆ การพูดคุยในออฟฟิศนั้นดีกว่าที่ฉันคาดไว้มาก ฉันไม่แน่ใจว่าฉันคาดหวังอะไร แต่ฉันไม่ได้คาดว่าจะเจอความสงบแบบนี้ หรืออาจจะเป็นเพียงความสงบก่อนพายุจะมา?ฉันยังไม่เข้าใจว่าทำไมเกเบรียลไม่บอกพวกเขาว่าเราเคยแต่งงานกันมาก่อน แม้การแต่งงานของเราจะจบลงอย่างเลวร้าย แต่มันก็เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลที่สุด ฉันไม่ชอบที่เขาปิดบังเรื่องนี้“ไหวไหม?” เสียงของเขาดึงฉันกลับมาสู่ปัจจุบันฉันเงยหน้าขึ้นมองเขา และพบว่าสายตาเขาจ้องมาที่ฉันอย่างแน่วแน่ มันช่างลึกซึ้งเหมือนว่าเขากำลังอ่านฉันจนถึงจิตวิญญาณ ฉันดึงสายตาจากเขาแล้วมองไปข้างหน้าแทน“ไหว แต่ก็ยังรู้สึกประหม่าอยู่ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน” ฉันตอบตามตรงส่วนที่ยากที่สุดผ่านไปแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมฉันถึงรู้สึกกระวนกระวายอยู่ บางทีอาจเป็นเพราะวันนี้ฉันต้องใช้เวลาทั้งวันอยู่กับครอบครัวของเขา บางทีอาจเป็นเพราะฉันยังคงรู้สึกถึงลมหายใจของเขาบนผิวของฉันเมื่อตอนที่เขาเกือบจะจูบฉัน หรือบางทีอาจเป็นเพราะเขายอมรับความผิดทั้งหมดในความล้มเหลวของความสัม

  • ธุลีใจ   บทที่ 412

    ขอบคุณพี่ชายของเธอที่ทำให้ผมรู้ว่าเธอต้องการผม และมันก็กลายเป็นอาวุธที่ดีที่สุดในการต่อต้านเธอ ผมอยากทำร้ายเธอ อยากทำลายเธอและทำให้เธอเจ็บปวดเพราะเธอพรากอิสระไปจากผม ไม่ต้องเป็นอัจฉริยะก็รู้ได้ทันทีว่าการนอกใจจะทำให้เธอเจ็บปวด ผมเลยทำ และผมก็ทำให้เธอรู้ด้วย ผมอยากให้เธอเสียใจที่คิดจะวางกับดักผมและมันได้ผล ทุกครั้งที่ผมเห็นเธอ ผมเห็นความเจ็บปวดในดวงตาของเธอ ผมรู้ว่ามันทำให้ผมเป็นคนเลว แต่การเห็นความเจ็บปวดในตาเธอมันทำให้ผมพอใจ“เวลาผ่านไปก็นานแล้วนะ แล้วลูกไปเจอเธออีกครั้งได้ยังไง?” แม่ถามต่อเมื่อผมไม่ตอบอะไรเกี่ยวกับข้อสังเกตของพ่อ“ผมออกตามหาเธอครับ” ผมยักไหล่ “พวกกรรมการบริหารนั่นอยากให้ผมแต่งงานเป็นหลักเป็นแหล่งสักที ผมเลยทำแบบนี้”สายตาของแม่หันไปทางฮาร์เปอร์ “แล้วเธอยอมแต่งงานกับเขา ทั้งที่เขาปฏิบัติกับเธออย่างเลวร้ายขนาดนั้นเหรอ?”ผมสะดุ้งกับคำพูดของแม่ ผมเกลียดที่ทำให้แม่ผิดหวัง แต่ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้เหมือนกับผม ฮาร์เปอร์ยักไหล่ตอบ “เขามีสิ่งที่ฉันต้องการ ฉันก็เลยตอบตกลงค่ะ”พ่อกับแม่หันมามองหน้ากัน ก่อนจะหันกลับมาทางเรา“หมายถึงอะไร?” พ่อถามด้วยสายตาที่จ้องจับผิด“บริษั

  • ธุลีใจ   บทที่ 411

    ผมรู้ว่าปฏิกิริยาของพวกเขาจะต้องรุนแรงแน่ ๆ ใครล่ะจะไม่ตกใจเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกบอกว่ามีลูกสะใภ้กับหลานสาวที่ไม่เคยรู้มาก่อนพ่อเริ่มเดินไปเดินมา และผมก็รู้ทันทีว่าเขากำลังคิดอะไร พ่อพร่ำสอนผมกับโรแวนเสมอ เรารู้เสมอว่าเขาคิดอะไรอยู่เพราะเราเองก็คิดแบบเดียวกันเขาน่าจะกำลังสงสัยว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง สงสัยว่าผมตรวจดีเอ็นเอแล้วหรือยังว่าลิลลี่เป็นลูกสาวของผมจริง หรือเปล่า และเขาคงสงสัยด้วยว่าฮาร์เปอร์หลอกล่อหรือวางกับดักอะไรผมหรือเปล่า เขากำลังพยายามคิดถึงทุกแง่มุม“แล้ว…มันเกิดขึ้นได้ยังไง? ไปมีเมียมีลูกตอนไหนยังไง?” แม่เอ่ยถามอย่างตะกุกตะกักใบหน้าของเธอยังเต็มไปด้วยความตกตะลึง ดวงตาเลื่อนจากผมไปที่ฮาร์เปอร์ ซึ่งกำลังก้มหน้ามองพื้นอย่างเงียบ ๆ เธอดูประหม่าและตื่นตระหนกน ผมรู้สึกอยากจะโอบกอดเธอ อยากปลอบโยนเธอด้วยสัมผัสของผมความรู้สึกที่รุนแรงต่อเธอนั้นทำให้ผมงุนงง มันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนตอนที่เรายังแต่งงานกัน แล้วมันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ ๆ ผมถึงอยากทำในสิ่งที่ผมไม่เคยอยากทำมาก่อน?“ตอบแม่สิ เกบ” เสียงเข้มของพ่อทำให้ผมหลุดจากความคิด“เราเคยมีความสัมพันธ์กันเมื่อหลายปีก่อน” ผมเริ่มพู

  • ธุลีใจ   บทที่ 410

    เกเบรียล“แม่ครับ!” ผมตะโกนเรียกพลางรีบวิ่งไปหาเธอแม่กำลังนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ไม่ต้องมีใครบอก ผมก็รู้ว่าที่เธอเป็นแบบนี้ก็เพราะช็อกตอนเห็นลิลลี่ เหมือนตอนที่ผมเจอครั้งแรก เธอแค่เห็นตาสีเทาคู่นั้นครั้งเดียวก็รู้ทันทีว่าลิลลี่เป็นหนึ่งในสายเลือดของตระกูลวู้ดผมค่อย ๆ ตบแก้มของแม่เบา ๆ แต่เธอก็ยังไม่ฟื้น ผมจึงค่อย ๆ สอดแขนข้างหนึ่งใต้บ่า และอีกข้างหนึ่งใต้หัวเข่าของแม่ แล้วยกเธอขึ้นมาวางบนโซฟาที่ใกล้ที่สุด“พ่อ! โรแวน!” ผมตะโกนเรียกอย่างร้อนรน เพราะไม่อยากทิ้งแม่ไว้คนเดียว“คุณย่าจะเป็นอะไรไหมคะ?” ลิลลี่ถามเสียงแผ่วเบาและเปราะบาง “หนูทำอะไรผิดหรือเปล่า? หรือที่คุณย่าเป็นแบบนี้เพราะหนูใช่ไหมคะ?”น้ำตาที่เอ่ออยู่ในดวงตาของเธอทำให้ผมใจอ่อน ในเวลาไม่นาน ลิลลี่ก็กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตผม การเห็นเธอร้องไห้ทำให้ผมเจ็บปวด ผมคิดว่าในชีวิตนี้ผมไม่เคยรักใครมากเท่าที่ผมรักลิลลี่ แม้แต่โรแวน ฝาแฝดของผมเอง ก็ยังไม่อาจเทียบได้ก่อนที่ผมจะตอบคำถามของเธอ ฮาร์เปอร์ก็พูดแทรกขึ้นมา“ไม่หรอกจ้ะ ลูกรัก” ฮาร์เปอร์ตอบพร้อมวางผ้าชุบน้ำเย็นลงบนหน้าผากแม่ ผมไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำว่าเธอไปเอาผ้ามาเมื่อไหร่“

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status