Share

บทที่ 36

Author: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
โรแวน

ผมนั่งดูเอกสารด่วนที่โต๊ะของตัวเอง ผมพยายามจะมีสมาธิแต่ก็ทำไม่ได้

ผมยังนึกถึงความจริงที่ว่าเอวาไม่รับสายผมอีกแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะผมจ้างลิเดีย ผมคงไม่รู้ว่าเธอเป็นยังไงบ้าง

ผมยังไม่อยากเชื่อเลยว่าเธอจะเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ พูดได้เต็มปากเลยว่าเอวาที่ผมรู้จักหายไปนานแล้ว เหลือแค่คนแปลกหน้าโดยสิ้นเชิง

เมื่อเอ็มม่าตัดสินใจย้ายกลับมา ผมกลัวว่าเอวาจะสร้างปัญหาให้พวกเรา เธอคงจะเป็นตัวป่วนเหมือนตอนสมัยที่เธอเป็นวัยรุ่น แต่เธอก็พิสูจน์ให้ผมเห็นว่าผมคิดผิด

ผมควรจะดีใจที่เธอรักษาระยะห่างและไม่ได้สร้างปัญหาให้ผม แต่ผมกลับรู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้ มันแปลกมากที่ผมกังวลใจและเกลียดที่เธออยู่ในความคิดของผมตลอดเวลา

ในที่สุดผมก็ยอมแพ้กับการพยายามตั้งสมาธิและลุกขึ้นยืน ผมเดินไปที่หน้าต่างและจ้องออกไปข้างนอกเพื่อพยายามลบเรื่องเอวาออกจากหัว

“ท่านคะ หัวหน้าผู้ตรวจการมาถึงแล้วค่ะ” คริสติน เลขาของผมกล่าว

ผมจมอยู่กับความคิดจนไม่ได้ยินเสียงเธอเข้ามาในห้องทำงานของผมด้วยซ้ำ

“ให้เขาเข้ามา” ผมหันไปมองเธอก่อนจะเดินกลับไปที่เก้าอี้ของผม

ไบรอัน หัวหน้าผู้ตรวจการเข้ามาพอดีตอนที่ผมกำลังนั่งลง พวกเราจับมือกั
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
เพื่ออะไร แทนที่จะปล่อยให้เอวาไปพบคนที่ดีกว่า
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ธุลีใจ   บทที่ 37

    ผมรู้ว่าเขาคงสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทุกคนรู้ดีว่าผมไม่เคยสนใจเอวาเลย ก็คิดดูทั้งที่พวกเราแต่งงานกันและผมมีทั้งอิทธิพลและศัตรู แต่ผมไม่เคยสั่งให้บอดี้การ์ดไปติดตามเธอเลย ในขณะที่โนอามีถึงสองคนเอวาเองก็เคยถามผมว่าเกิดอะไรขึ้นกับผม ทำไมผมถึงสนใจความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของเธอขึ้นมาทันทีทันใดแบบนี้ ทุกคนคงคิดเหมือนเธอเพราะผมเองก็สับสนเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงมีความสำคัญกับผมขึ้นมากะทันหันแบบนี้ผมถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าผมดูเวลาที่นาฬิกาข้อมือแล้วก็พบว่าตอนนี้เป็นเวลาหกโมงแล้ว ผมควรจะไปพบกับทราวิสและเกเบรียลเพื่อดื่มกันตอนหกโมงครึ่งก่อนจะกลับบ้านผมออกจากสำนักงานพร้อมกับเอกสารต่าง ๆ ผมอารมณ์ไม่ดี พนักงานของผมจึงไม่มีใครกล้าแม้แต่จะทักผมด้วยซ้ำผมไปถึงคลับทันเวลาและรีบตรงไปที่โซนส่วนตัว นี่เป็นคลับพิเศษแห่งหนึ่งจากหลาย ๆ แห่งที่เกเบรียลและผมเป็นเจ้าของ“มาถึงสักที… นายช่วยจัดการเขาหน่อยได้ไหม? ฉันทนความขี้ขลาดของเขาไม่ไหวแล้ว” เกเบรียลบ่นก่อนจะยกเครื่องดื่มของเขาและมองทราวิสด้วยความรังเกียจ“เกิดอะไรขึ้น?” ผมหันไปหาทราวิสสภาพเขาดูแย่มาก“ฉันไปหาเอวามาเมื่อสองสามวันก่อน และเธอไล่ฉั

  • ธุลีใจ   บทที่ 38

    เอวาฉันรู้สึกประหม่ามากขณะเตรียมตัวออกเดตกับอีธาน ตอนนี้ผ่านไปสองสัปดาห์แล้วตั้งแต่ฉันออกจากโรงพยาบาลและทุกอย่างก็ดีขึ้น คุณหมอบอกว่าฉันหายดีแล้วและฉันก็กลับไปทำงานได้ตั้งแต่เมื่อสองสามวันก่อนในช่วงสองสัปดาห์นั้นมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง เล็ตตี้กับฉันสนิทกันมากขึ้น และอีธานกับฉันเองก็เช่นกัน เขาขอฉันออกเดตเมื่อสองสามวันก่อน ฉันตอบตกลงอย่างเต็มใจอีธานช่วยเรื่องความภูมิใจในตัวเองของฉัน เขาทำให้ฉันหัวเราะและผ่อนคลาย ฉันรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่กับเขา เมื่อฉันอยู่ใกล้เขา ฉันลืมโรแวนได้ ฉันลืมหัวใจที่แตกสลายของตัวเองได้“ปล่อยผมหรือรวบผมดี?” ฉันถามเล็ตตี้เราคุยกันผ่านวิดีโอคอลและเธอก็ช่วยฉันเตรียมตัวพูดตามตรงนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันออกเดต เหมือนที่ฉันเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่ผู้ชายจะชวนออกเดตมาก่อนตอนที่ฉันแต่งงาน โรแวนไม่เคยพาฉันออกไปข้างนอกเลย จริง ๆ แล้วเราไม่เคยทำอะไรแบบที่คู่รักทำกัน เราไม่เคยไปทานอาหารค่ำด้วยกันเลยด้วยซ้ำ แค่โรแวนกลับบ้านมาทานอาหารค่ำเกือบทุกวันได้ก็ถือเป็นเรื่องน่าประหลาดใจแล้ว“แน่นอนว่าต้องรวบผม คุณมีคอที่ยาวระหง คุณควรอวดมัน” เล็ตตี้พูดเพ

  • ธุลีใจ   บทที่ 39

    ฉันดมกลิ่นดอกกุหลาบด้วยความรู้สึกขอบคุณ โรแวนไม่เคยซื้อดอกไม้ให้ฉันเลยสักครั้ง เขาไม่เคยปฏิบัติกับฉันราวกับว่าฉันมีความสำคัญต่อเขาเลย ในความคิดของเขาฉันเป็นเพียงคนน่ารำคาญที่เขามีลูกด้วย“ฉันขอแช่ดอกไม้ในน้ำก่อนที่จะไปนะคะ” ฉันหันหลังกลับและมุ่งหน้าไปที่ห้องครัวหลังจากที่ใส่ดอกไม้ลงในแจกันแล้ว เราก็ออกไปฉันรู้สึกทั้งประหม่าและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน ฉันไม่รู้ว่าจะต้องทำหรือพูดอะไร ระหว่างที่ออกเดต คนเขาทำอะไรกันเหรอ? พวกคุณคุยเรื่องอะไร? และใครควรเป็นคนเริ่มบทสนทนา? ฉันออกนอกกรอบของตัวเองมากจนกลัวว่าจะทำให้ทุกอย่างพัง“แปลกไหมครับที่ผมประหม่าจนตัวสั่น ทั้ง ๆ ที่ผมเคยออกเดตหลายรอบจนนับไม่ถ้วน?” อีธานถามขึ้นและทำลายความเงียบฉันหัวเราะด้วยความโล่งใจ ความวิตกกังวลที่ฉันอดกลั้นเอาไว้ก็หายไป“ไม่เลยค่ะ… ฉันก็เป็นเหมือนกัน ฉันรู้สึกประหม่ามาทั้งวันเลย” ฉันสารภาพ “ฉันเกือบจะเสียสมาธิในการสอนเลยค่ะ”แม้ว่านักเรียนของฉันจะดีใจที่ฉันกลับมา แต่พวกเขาก็รู้ว่าฉันสมาธิล่องลอย พวกเขาถึงกับชี้แจ้งพฤติกรรมผิดปกติของฉันด้วย“ผมต้องยื่นรายงานซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะผมทำพังอยู่เรื่อย” เขาหัวเราะและฉัน

  • ธุลีใจ   บทที่ 40

    “แล้วอะไรคือสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดเกี่ยวกับงานของคุณเหรอคะ?” ฉันเปลี่ยนเรื่องรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเขาเมื่อเขาเริ่มเล่าให้ฉันฟังเกี่ยวกับงานของเขา ไม่นานอาหารของเราก็มาถึงและเราก็ลงมือทานอาหารกันฉันพยายามมีสมาธิ แต่ยิ่งมีคนมากันมากขึ้นเท่าไร ฉันก็ยิ่งรู้สึกประหม่ามากขึ้นเท่านั้น ฉันพยายามผ่อนคลายและจดจ่อกับอีธานแต่ก็ไม่เป็นผล“คุณเป็นไรหรือเปล่าครับเอวา? คุณดูประหม่า ๆ” เขาถามฉันช้า ๆ ราวกับรับรู้ถึงความไม่สบายใจของฉัน“ประหม่าเหรอคะ?” ฉันสำลัก“ใช่ครับ คุณดูกระสับกระส่ายและแถมคุณก็กวาดตามองไปมา” เขาบอกฉัน “คุณไม่สนุกเหรอครับ?”โอ้พระเจ้า! ตอนนี้ฉันรู้สึกแย่มาก ฉันควรบอกความจริงกับเขาหรือจะปล่อยให้มันจะทำลายทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเรา สิ่งสุดท้ายที่ฉันต้องการคือการถูกมองว่าเป็นผู้หญิงที่ไม่รู้จักบุญคุณ“คุณบอกผมได้เลยนะครับ ผมสัญญาว่าจะไม่โกรธ” สายตาของเขาจ้องมาที่ฉันราวกับว่าเขาสามารถเห็นการต่อสู้ที่กำลังเกิดขึ้นภายในตัวฉันได้“ฉันชอบอยู่กับคุณและรู้สึกสนุกที่ได้อยู่ใกล้คุณนะคะ แต่... ฉันรู้สึกไม่สบายใจกับบรรยากาศแบบนี้” ฉันพึมพำอย่างจริงใจ“คุณหมายถึงร้านอาหารเหรอครับ

  • ธุลีใจ   บทที่ 41

    โรแวนวันนี้ผมหวังว่าจะได้ใช้เวลาช่วงเย็นกับเอมม่าอย่างมีความสุข แต่สุดท้ายมันก็พังทลายลงเมื่อผมเห็นเอวามาออกเดตกับอีธาน“โรแวน” เอมม่าเรียกผม แต่เหมือนสมองผมไม่ทำงานเอวากำลังอยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายอีกคน ตอนแรกผมคิดว่าผมตาฝาด ผมหลงดีใจด้วยซ้ำที่เห็นอีธานมาออกเดตกับผู้หญิงคนอื่นเพื่อเป็นข้อพิสูจน์ว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้ จนกระทั่งผมตระหนักว่าผู้หญิงคนนั้นคือเอวาเธอสวยจนน่าทึ่งแบบที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน ผิวกระจ่างไร้ที่ติของเธอถูกเปิดเผย และชุดเดรสสีดำเข้ารูปที่เธอใส่ก็เน้นให้เห็นส่วนโค้งเว้าของเธอแน่นอนว่าผมเคยเห็นเธอเปลือยกายมาก่อน แต่ภาพนี้ทำให้ผมรู้สึกแตกต่างออกไป เธอตั้งใจแต่งตัวแบบที่เธอไม่เคยทำเมื่อเราอยู่ด้วยกัน บางทีอาจเป็นเพราะผมไม่เคยชวนเธอออกเดตและไม่เคยสนใจเธอเลยผมมองดูอีธานทัดผมของเธอไว้หลังหู นั่นทำให้เลือดในกายผมเต้นเร่า แต่ไม่เท่ากับการเห็นเขาลูบแก้มของเธอก่อนจะจูบหน้าผาก การเห็นเขาทำแบบนั้นทำให้ผมถึงกับหน้ามืดด้วยความโมโหเธอส่งยิ้มให้เขา รอยยิ้มนั้นทำให้ผมแทบจะเข่าทรุดโดยไม่ทราบสาเหตุ“โรแวน ฉันเจ็บ!” เอมม่าตวาดตอนนั้นเองที่ผมรู้ตัวว่าผมได้กำมือเธอแน่นมาก ผมคลาย

  • ธุลีใจ   บทที่ 42

    เอมม่าฉันไม่ได้ขยับตัวเลยตั้งแต่ที่โรแวนจากไป ฉันรู้สึกเหมือนกำแพงกำลังปิดล้อมตัวฉันและฉันไม่มีทางหนี ไม่มีทางที่จะระงับความเจ็บปวดที่ฉันรู้สึกอยู่ภายในได้ทุกอย่างมันเจ็บไปหมดและฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะหยุดมันอย่างไร ฉันไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรหรือจะต้องตอบสนองอย่างไรทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้นกับฉัน? นั่นคือคำถามที่ฉันถามตัวเองอยู่เสมอ แต่ฉันไม่เคยได้รับคำตอบเลย ไม่มีแม้แต่คำใบ้ว่าทำไมฉันถึงยังต้องเจอเรื่องแย่ ๆ แม้จะได้ผู้ชายคนนั้นมาครองแล้วก็ตามฉันรู้สึกถึงน้ำตาที่ไหลรินลงมาบนใบหน้า ฉันเกลียดที่ต้องอ่อนแอ ฉันเกลียดที่ต้องร้องไห้ ฉันเช็ดน้ำตาออกไปเพราะโกรธตัวเองที่ปล่อยให้มันไหลลงมาเมื่อตอนที่พ่อเสียชีวิต ฉันพังทลายมาก ฉันเป็นเจ้าหญิงของเขา และเขาคือฮีโร่ของฉัน ฉันไม่ได้ใช้เวลาอยู่กับเขามากนักเพราะฉันย้ายไปอยู่เมืองอื่น แต่เมื่อเราได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน มันก็เยี่ยมมากฉันคิดว่าฉันจะไม่มีวันทำใจได้กับการตายของเขา ฉันคิดว่าโลกนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว จนกระทั่งโรแวนกับฉันได้คุยกัน เขาบอกฉันว่าเขากับเอวาหย่าร้างกันแล้ว และขอโอกาสจากฉันฉันรักเขาตั้งแต่ฉันจำความได้ ฉันไม่เคยหยุดรักเขาเลยแ

  • ธุลีใจ   บทที่ 43

    อย่างที่ฉันเคยบอกไว้ว่า สำหรับเราเอวาไม่ใช่คนสำคัญ แล้วทำไมเธอจะต้องเป็นเป้าหมายของใครด้วย?มอลลี่ถอนหายใจ “ถ้าฉันอยู่ที่นั่น ฉันคงตบเตือนสติเธอไปแล้ว เอมม่าเธอเป็นถึงทนายความ แต่เธอก็ยังเชื่อว่าน้องสาวของเธอสามารถทำแบบนั้นกับตัวเองได้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากโรแวนเหรอ?”“ก็เพราะฉันเป็นทนายความ ฉันถึงเชื่อแบบนั้น เธอไม่รู้เหรอว่าผู้หญิงสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อเรียกร้องความสนใจจากอดีตสามีหลังจากที่อีกฝ่ายมีคนใหม่ไปแล้ว”ฉันเคยรับคดีอดีตภรรยาและอดีตแฟนสาวมาหลายครั้งแล้วหลังจากที่พวกเธอได้ทำร้ายคนอื่นและคนที่พวกตนคิดว่ารักเพียงเพื่อหวังเอาผู้ชายของพวกตนกลับคืนมา“คนเรามักจะทำอะไรบ้า ๆ เมื่อมีความรัก และยัยบ้าก็เป็นฉายาของเอวา” ฉันเสริมตอนที่เราเป็นวัยรุ่น เอวาทำทุกอย่างเพื่อดึงดูดความสนใจของโรแวน เธอถึงกับทำลายเดตของเรา ทำลายชุดที่ฉันเลือกไว้เพื่อไปเจอโรแวน และครั้งหนึ่งเธอยังใส่สีย้อมผมสีเขียวในแชมพูของฉัน นั่นเป็นเพียงบางส่วนที่เธอทำ เธอไม่เคยหยุดจนกระทั่งในที่สุดก็สามารถแย่งโรแวนไปจากฉันได้“ฉันก็ไม่ได้ชอบอะไรเอวานักหนาเพราะสิ่งที่หล่อนเคยทำกับเธอ แต่ฉันคิดว่าหล่อนคงไม่ลดตัวลงไป

  • ธุลีใจ   บทที่ 44

    เอวาฉันยังคงรู้สึกแย่กับการกระทำของโรแวนเมื่อสองสามวันก่อน ฉันไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เขาพยายามทำลายความสัมพันธ์กับเอมม่าหรือยังไง? เขาต้องการให้ฉันมีปัญหากับเธอมากขึ้นหรือยังไง?เอมม่าคิดว่าฉันพยายามจะจับผู้ชายของเธออยู่แล้ว คิดว่าฉันกำลังทำทุกวิถีทางเพื่อแย่งเขามาจากเธอ สิ่งที่เธอไม่เข้าใจก็คือฉันแค่ต้องการความสงบสุข ฉันไม่ต้องการโรแวน ฉันเคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว ฉันเคยพยายามทำแบบนั้นและได้เรียนรู้บทเรียนจากประสบการณ์ที่ยากลำบาก“เธอแน่ใจเหรอ?” เสียงเล็ก ๆ ที่น่ารำคาญถามฉัน “เธอปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอชอบจูบนั้น เธอจินตนาการให้เขาจูบเธอแบบนั้นมาเสมอ แบบที่เต็มไปด้วยความต้องการและความหลงใหล”ฉันสลัดความคิดนั้นออกไป มันผิด ฉันตั้งใจที่จะตัดใจจากโรแวนและค้นหาชีวิตและความรักของตัวเอง แค่เพราะร่างกายของฉันทรยศมันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย การตอบสนองของฉันเป็นเพียงการตอบสนองทางชีววิทยาเท่านั้น ไม่มีอะไรมากกว่านั้น“โกหกตัวเองต่อไปเถอะ” เสียงนั้นเถียงฉันไม่ได้โกหกตัวเอง หรือบางทีฉันอาจจะโกหกก็ได้ สิ่งสำคัญคือฉันจะไปใส่ใจพฤติกรรมที่ไม่ปกติของโรแวนหรือการจูบที่ไม่คาดคิดของเขาฉันละทิ้งคว

Latest chapter

  • ธุลีใจ   บทที่ 530

    ฮาร์เปอร์ฉันขยับตัวไปมาบนเตียงโดยพยายามหาท่าที่สบายที่สุด พูดตามตรงฉันดูเหมือนปลาวาฬและรู้สึกเหมือนปลาวาฬด้วย ฉันกำลังพับผ้าอยู่เพราะดูเหมือนว่านั่นคือสิ่งเดียวที่ฉันได้รับอนุญาตให้ทำเกเบรียลดูแลฉันมากเกินความจำเป็นตั้งแต่เขารู้ว่าฉันตั้งครรภ์ ฉันแทบห้ามขยับร่างกายเลยเพราะอาจทำให้เขาตื่นตระหนกไปหมด ถึงแม้ว่ามันจะทำให้ฉันแทบบ้า แต่ฉันก็รู้สึกว่ามันน่ารักดีฉันเผยยิ้มเมื่อนึกถึงตอนตั้งท้องลิลลี่ เลียมดูแลฉันดีเหมือนกัน เขาไม่ได้ดูแลฉันมากเกินความจำเป็นอย่างที่เกเบรียลทำ แต่เขาก็ดูแลฉันอยู่ดี หมายถึงเขาเคยวิ่งไปซื้อของที่ร้านกลางดึกเพราะฉันรู้สึกหิวโดยไม่บ่นสักคำ มีแต่ผู้ชายที่ใส่ใจเท่านั้นที่จะทำแบบนั้นการตั้งครรภ์ครั้งนี้แตกต่างจากการตั้งครรภ์ลิลลี่ในหลาย ๆ ด้าน ตัวอย่างเช่น ตอนท้องลิลลี่ ฉันแทบไม่แพ้ท้องเลย แต่ครั้งนี้ฉันแพ้ท้องตอนเย็นด้วย และมันอยู่ไปถึงช่วงเข้าเดือนที่สี่ มันแย่จริง ๆ ที่ต้องรู็สึกแย่ตลอดเวลาแล้วก็เรื่องความอยากอาหาร ตอนท้องลิลลี่ ฉันอยากกินของหวาน ๆ แต่ครั้งนี้ฉันอยากกินของคาวและเค็มมากกว่า มันบ้ามาก ฉันไม่อยากกินของหวานเลยตั้งแต่รู้ว่าตัวเองท้อง อย่าพูดถึ

  • ธุลีใจ   บทที่ 529

    ผมนั่งอยู่ข้าง ๆ กันเนอร์และพวกเรามาอยู่ที่โรงพยาบาลกันทุกวัน ทางโรงเรียนของกันเนอร์เข้าใจสถานการณ์ดี เขาเลยไม่ต้องไปโรงเรียน โนอามาเยี่ยมเขาทุกวันและนำการบ้านมาให้เสมอ"พวกเราเคยคุยกันด้วยนะครับ โนอาบอกผมว่าเขารู้สึกยังไง มันรู้สึกดีที่ได้คุยกับเขาเรื่องนี้ ได้คุยกับคนที่เคยผ่านมันมาและเข้าใจว่ามันยากแค่ไหน" เขาหยุดขณะที่คลายปมผมของผู้เป็นแม่ก่อนที่จะพูดต่อ "ไม่ต้องห่วงนะครับ แม่กับโนอาจะเข้ากันได้ดีตอนแม่รู้จักเขาดีขึ้นแล้ว"ขอร้องแหละ เอมม่า ได้โปรดตื่นเถอะ ฟื้นขึ้นมาเพื่อกันเนอร์เถอะนะ ผมขอเท่านี้จริง ๆ ผมภาวนา อ้อนวอนเธอในใจให้ลืมตาขึ้นมา"พวกเรายังเหลืออะไรต้องทำด้วยอีกตั้งเยอะ" กันเนอร์วางหวีลง "อะไรอีกเยอะที่พวกเรายังไม่เคยทำ ผมยังต้องรู้จักแม่ให้มากขึ้นนะครับ และแม่ก็ยังต้องรู้จักผมเหมือนกัน อีกอย่างแม่สัญญากับผมว่าจะให้ของขวัญผมทุกปีที่แม่พลาดไป แม่ให้มาหนึ่งชิ้นแล้ว เหลืออีกสิบเจ็ดชิ้นนะครับ"เช่นเดียวกับสี่วันที่ผ่านมา เอมม่าไม่ได้ตอบกลับ ไม่มีแม้แต่การเคลื่อนไหวที่จะให้ความหวังว่าเธอจะหายดีเสียงถอนหายใจดัง กันเนอร์จับและจูบหลังมือเธอ "ผมไม่เคยได้พูดให้ฟังเลย แต่ผมรัก

  • ธุลีใจ   บทที่ 528

    เรี่ยวแรงทั้งหมดที่มีพลันหายไปและผมก็สะดุดกับคำพูดของคุณหมอ ผมไม่สามารถเข้าใจสิ่งที่เขาพูดหรือความหมายเป็นนัยของคำพูดนี้ได้อย่างเต็มที่เสียงอุทานอย่างตกใจดังขึ้นเต็มห้อง ทุกคนต่างจ้องมองแพทย์ราวกับเขาเป็นมนุษย์ต่างดาวจากนอกโลก"เธอจะได้สติไหมคะ? แล้วพวกเราเข้าเยี่ยมเลยได้ไหม?" เสียงของเอวาดังขึ้น"ตอนนี้ยังไม่ฟื้นครับ เธออยู่ในห้องฉุกเฉินและอนุญาตให้เฉพาะสมาชิกในครอบครัวใกล้ชิดเข้าเยี่ยมได้เท่านั้น" เขาตอบ "ผมจะจัดการให้ในอีกสักครู่... ขอตัวนะครับ ผมต้องไปตรวจเธออีกครั้ง"พวกเราจ้องมองแผ่นหลังคุณหมอขณะที่เขาเดินออกไป ช่างเป็นเรื่องที่น่าเศร้าใจอย่างยิ่งที่ได้ยินว่าเอมม่าอาจจะเดินไม่ได้อีกแล้วผมทรุดตัวลงนั่งเพราขาไม่เหลือเรี่ยวแรงจะยืนต่อไปได้อีกต่อไปผมไม่เข้าใจเลย ตอนนี้เธอกำลังฟื้นฟูสิ่งต่าง ๆ อยู่ และทุกอย่างก็ดำเนินไปได้ด้วยดี เธอฟื้นฟูความสัมพันธ์และประกอบชีวิตตนเองขึ้นมาใหม่ ทำไมเรื่องนี้ถึงเกิดขึ้นกับเธอได้นะ?***"แม่ผมจะฟื้นเมื่อไหร่ครับ?" กันเนอร์ถามแพทย์ที่กำลังยุ่งอยู่กับการตรวจดูอาการของเอมม่าตอนนี้เธอออกจากห้องฉุกเฉินได้แล้ว พวกเขาย้ายเธอออกมาเมื่อประมาณสองวัน

  • ธุลีใจ   บทที่ 527

    ผมพยายามเหยียดตัวแผ่นหลังตรง ขณะฝืนใจสร้างความกล้าหาญจอมปลอมให้กับตนเอง ผมพยายามพูดออกมาให้พยาบาลคนนั้นรู้ว่าตนเองยังไหว แต่ลิ้นกลับแข็งทื่อไปหมดและคำพูดก็ไม่ยอมหลุดออกจากปากเลยสักคำเธอตบไหล่ผมเบา ๆ "ดิฉันเข้าใจค่ะ ไปนั่งพักก่อนดีกว่า ดูเหมือนว่าลูกชายคุณต้องการพี่พักพิงในตอนนี้นะคะ พวกคุณควรเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจซึ่งกันและกัน"ผมทำได้เพียงอย่างเดียวคือพยักหน้าตอบรับก่อนเดินออกไป ผมเดินไปหากันเนอร์และนั่งข้าง ๆ ลูกชาย ก่อนดึงเขามานั่งบนตัก พวกเรากอดกัน เป็นที่ยึดเหนี่ยวให้กันและกันผมไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนแล้วตอนที่ผมรู้สึกว่ามีคนเขย่าตัวเรียก ผมมัวจดจ่อกับเอมม่าและเพิ่งเห็นว่าเอวากำลังจ้องมองอยู่ คิ้วเรียวขมวดมุ่น ริมฝีปากคว่ำลงและดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล"เรามากันหมดบ้านเลยค่ะ" เธอพึมพำเบา ๆ ก่อนที่จะนั่งข้าง ๆ “ยังไม่ออกจากห้องผ่าตัดอีกเหรอคะ?""ครับ" ผมเหมือนต้องใช้พลังทั้งหมดเพื่อเปล่งคำพูดออกมา"มันเกิดอะไรขึ้น?" ทราวิสเอ่ยถามพร้อมกับประคองผู้เป็นแม่ ซึ่งดูเหมือนจะสติหลุดลอยอยู่ในอ้อมแขนเธอเหมือนจวนเป็นลมอยู่รอมร่อ หรือไม่เธออาจกำลังรำลึกถึงอดีตเช่นกัน เพราะเวลาที่

  • ธุลีใจ   บทที่ 526

    ความเย็นยะเยือกเข้าปกคลุมร่างกาย ลมหายใจผมเริ่มถี่กระชั้น ผมรู้สึกหายใจไม่ออกเมื่อความเจ็บปวดในอกทวีความรุนแรงขึ้น ผมดึงกันเนอร์เข้ามาใกล้ตัวแล้วกอดเขาไว้ราวกับเขาเป็นลมหายใจของผมมันจะเป็นอย่างนี้ไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ เธอต้องไม่เป็นอะไรสิผมพูดคำเหล่านั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหมือนบทสวดภาวนา เพราะมันเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ผมไม่เสียสติต่อให้ต้องเสียอะไรก็จะให้เธอจากไปตอนนี้ไม่ได้ ไม่ใช่ตอนที่กันเนอร์เพิ่งตัดสินใจให้โอกาสครั้งที่สองกับเธอและยอมรับเธอกลับเข้ามาในชีวิต ผมรู้จักลูกชายเป็นอย่างดี การที่เอมม่าจากโลกนี้ไปจะต้องทำให้เขาเสียใจมาก ความปรารถนาเดียวของกันเนอร์คือการมีแม่ การให้เอมม่าเป็นแม่และยอมรับเขา มันคงโหดร้ายหากในที่สุดเขาได้รับโอกาสนั้นแต่กลับต้องสูญเสียเธอไป"ไม่เป็นไรแล้วครับ ไม่เป็นไรแล้ว" เอริคประกาศ เสียงเต็มไปด้วยความโล่งใจผมไม่เคยมีความสุขกับการได้ยินคำพูดแบบนี้มาก่อน ความโล่งใจนั้นมากมายมหาศาล ขณะที่แสงแห่งความหวังเริ่มส่องประกายทะลุผ่านเมฆดำมืดที่ปกคลุมพวกเราผมทรุดตัวลงเอนพิงกายในรถพยาบาลนั้น ก่อนทอดถอนใจออกมาด้วยความโล่งอก ผมเฝ้าดูสัญญาณชีพของเธออย่างไม่วางตา ภาวนาไ

  • ธุลีใจ   บทที่ 525

    "ไม่เอาน่า เอมม่า ลืมตาสีฟ้าคู่นั้นขึ้นมาสิ" ผมอ้อนวอนเพื่อตัวผมเองและกันเนอร์ "คุณไม่อยากให้ผมยกโทษให้เหรอไง? ฟื้นเถอะนะ"เธอไม่ตอบสนอง ดวงตายังคงปิดสนิท ใบหน้าซีดขาวเหมือนกระดาษ และผมสีบลอนด์กระจายอยู่ด้านหลัง ถ้าไม่มีเลือดที่เปรอะเปื้อนเต็มไปหมด เธอคงดูเหมือนตุ๊กตาสิ่งที่ทำได้มีเพียงแค่รอเท่านั้นซึ่งทำให้ทรมานใจอย่างมาก ผมคอยจับชีพจรของเธอเพื่อตรวจดูให้แน่ใจว่าเธอยังอยู่กับพวกเรา ตอนนี้มีคนมารวมตัวกันมากขึ้น แต่ก็ไม่สำคัญ พวกเขาไม่สำคัญเลย ไม่ใช่ตอนที่เอมม่าดูเหมือนวิญญาณออกจากร่างแบบนี้ หน้าอกของเธอแทบจะไม่กระเพื่อมขึ้นลงเลย"ช่างแล้วเว้ย" ผมลุกขึ้นเตรียมที่จะเอารถออกจากโรงรถและพาเธอไปโรงพยาบาล เพราะดูเหมือนว่ารถพยาบาลกำลังกินลมชมวิวกันอยู่ตอนกำลังจะหันหลังกลับ ผมก็ได้ยินเสียงไซเรน หัวใจผมคลายลงด้วยความโล่งอก ผมหันไปเห็นรถพยาบาลกำลังเข้ามา คนอื่น ๆ หลีกทางให้พวกเขามาถึงพวกเรา เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลสองคนรีบลงมาจากรถพร้อมเปลหามวิ่งตรงมาที่เรา"ดิฉันชื่อทาช่าค่ะ ส่วนทางนี้คือเอริค เกิดอะไรขึ้นคะ?" เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลหญิงถามหลังจากแนะนำตัวก่อนคุกเข่าลง"ผมไม่ได้ตั้งใจครับ" ชายร้

  • ธุลีใจ   บทที่ 524

    คาลวินวันนี้เป็นวันที่เหมาะแก่การพักผ่อนและผ่อนคลายจริง ๆ ผมไม่ได้มีอะไรทำมากนัก ดังนั้นหลังจากกันเนอร์กับผมทำงานบ้านด้วยกันเสร็จ เขาก็ถามว่าขอไปหาเอมม่าได้ไหมตอนแรกผมก็นึกแปลกใจ แต่ผมสัญญาไว้กับเขาแล้วว่าผมจะตามใจเขา จะเคารพการตัดสินใจของเขาถ้าเขาต้องการทำความรู้จักกับเอมม่าและอนุญาตให้เธอเข้ามาในชีวิตเธอกล่าวทักทายเมื่อทั้งสองเจอกันและเริ่มพูดคุย แม้ว่าเขาจะไม่ค่อยพูดอะไรก็ตาม พูดตามตรงผมคิดว่าเธอเหมือนรู้เวลาที่ทั้งสองสามารถพบเจอกันได้ ไม่ว่าเขาจะไปโรงเรียนและเธอกำลังไปทำงาน หรือเขากลับจากโรงเรียนและเธอกลับจากทำงานแล้วเธอก็ส่งของขวัญวันเกิดให้เจ้าลูกชายแล้ว ผมคิดว่าเธอพยายามซื้อใจเขาด้วยของขวัญ แต่หลังจากที่ผมอ่านข้อความบนการ์ด มันสั้นแต่จริงใจ เธอบอกเขาว่าเธอจะให้ของขวัญวันเกิดและคริสต์มาสให้เขาครบช่วงที่เธอพลาดไปผมควรจะหงุดหงิด แต่กลับไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย ผมรู้ว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าลูกรักตนน้อยลงหากลูกเลือกที่จะทำความรู้จักกับพ่อแม่ที่ทิ้งไป ผมไม่ได้เป็นแบบนั้น สำหรับผม ความสุขของกันเนอร์สำคัญที่สุด ถ้าการทำความรู้จักกับแม่แท้ ๆ และการมีเธออยู่ข้างกายจะทำให้สิ่งต่า

  • ธุลีใจ   บทที่ 523

    ฉันจ้องมองลูกชายอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถอดถุงมือออก"แล้วนั่นทำอะไรอีกล่ะครับ?" เขาดูขบขันกับการกระทำของฉัน"ก็หนูเป็นครูของฉันไง ถ้าคิดว่าใช้มือเปล่าจะดีกว่า ฉันก็จะทำแบบนั้นจ้ะ"ฉันทำตามที่เด็กชายแนะนำและพรวนดินเข้าด้วยกัน ฉันไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะการสัมผัสดินด้วยมือหรือเปล่า หรือการมีเขาอยู่ข้าง ๆ หรือทั้งสองอย่าง แต่ความสงบสุขบางอย่างก็เข้ามาปกคลุมฉัน ฉันรู้สึกเบาและโปร่งสบายราวกับอยู่บนสวรรค์ชั้นเจ็ดความกังวลพลันหายไปในขณะที่กันเนอร์แนะนำฉันเรื่องการทำสวน ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทั้งเขาและเอวาถึงชอบสิ่งนี้มาก มันผ่อนคลายมาก และฉันรู้สึกเชื่อมโยงกับโลกอย่างประหลาด"ขอบคุณสำหรับของขวัญนะครับ" กันเนอร์พูด ดึงความสนใจของฉันไปที่เขาฉันตัดสินใจว่าจะให้ของขวัญวันเกิดและคริสต์มาสแก่เขาสำหรับทุกปีที่ฉันพลาดไป เมื่อไม่กี่วันก่อน ฉันซื้อของขวัญให้เขาชิ้นหนึ่ง ไม่รู้เลยว่าตนเองจะซื้ออะไรให้ดี แต่พนักงานที่ร้านบอกว่าฉันควรซื้อปืนฉีดน้ำไฟฟ้าให้ เขาบอกว่ามันยี่ห้อมันคูย์ คูเบย์รุ่นเอสทู เขาสาธิตวิธีใช้งานให้ฉันดู ซึ่งดูเจ๋งมาก มันน่าจะเป็นสิ่งที่ทราวิส โรแวน และเกบจะต้องชอบมากถ้าทั้งสามยังเป็น

  • ธุลีใจ   บทที่ 522

    เอมม่าฉันจ้องมองความยุ่งเหยิงตรงหน้า ไม่แน่ใจจริง ๆ ว่าจะจัดการกันมันอย่างไร ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ฉันรู้สึกแปลก ๆ และไม่สามารถระบุเหตุผลที่แน่ชัดได้ว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนี้ฉันพยายามคิดทบทวนแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรผุดขึ้นมาในหัวเลย สิ่งที่ฉันรู้คือ ฉันรู้สึกแปลก ๆ เหมือนมีอะไรผิดปกติ หรือกำลังจะมีเรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้น ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ฉันก็ไม่สามารถสลัดความรู้สึกนี้ออกไปได้ มันยังคงอยู่และทับถมอยู่ภายในจิตใจเคยรู้สึกแบบนั้นกันไหม? รู้สึกเหมือนมีลางสังหรณ์ว่ากำลังจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น? มันทำให้ฉันหงุดหงิด เพราะฉันไม่สามารถบอกได้แน่ชัดและมันกำลังทำให้ฉันคลั่งตายอยู่แล้วฉันถอนหายใจพลางมองลงไปยังมือที่สวมถุงมืออยู่ คุณหมอมีอาแนะนำว่าฉันควรทำอะไรสักอย่างเพื่อเบี่ยงเบนความกังวลและผ่อนคลายให้มากขึ้น เมื่อวานฉันคุยกับเอวา และบังเอิญพูดถึงเรื่องนี้ เธอแนะนำว่าฉันควรลองทำสวนดูบ้าง ตามที่เธอพูด มันเคยช่วยเธออยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเธอเครียดและต้องการทำอะไรสักอย่างเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจเอวาบอกฉันว่าเธอเคยปลูกผัก แต่เธอแนะนำให้ฉันลองปลูกดอกไม้ดูถ้าไม่อยากปลูกผักดังนั้นฉันก็เ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status