สังเกตเห็นว่ามีบางสิ่งฉายอยู่ในดวงตาเขาแวบหนึ่ง แต่มันก็หายไปก่อนที่ฉันจะสามารถตีความได้ว่ามันสื่อถึงสิ่งใด“ฉันไม่ทำร้ายเด็กหรอกนะ คนในองค์กรของเราเห็นพ้องต้องกันแบบนั้น”ฉันประหลาดเมื่อได้ยินเช่นนั้น อย่างไรก็ตามก็สามารถซ่อนได้ทัน มันก็ไม่ใช่ประเด็นเลยเพราะเขาต้องใช้ฉันเป็นเครื่องมือต่อกรกับโรแวนแน่“แกมาทำอะไรที่นี่ แล้วต้องการอะไรกันแน่?” ฉันถามกลับ“เอามีดลงก่อน” เขาสั่ง“ไม่มีวัน ฉันไม่ได้โง่นะ มีอะไรก็พูดออกมาเลยดีกว่า แต่อย่าหวังว่ามีดมันจะกลับไปอยู่ที่ของมันเชียวล่ะ”“ใจกล้าดี ฉันชอบ”นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันอยากได้ยินจากคนอย่างรีปเปอร์เลยแม้แต่น้อย เขาดูผิดปกติจนเรียกได้ว่าอันตรายและน่ากลัวมาก“แกต้องการอะไร?” ฉันเอ่ยถามซ้ำบ้าเอ๊ย! ทำไมถึงไม่หยิบโทรศัพท์มือถือในห้องนั่งเล่นมาด้วยนะ ไม่แน่ ฉันอาจแอบส่งข้อความไปหาโรแวนได้แล้ว“ฉันได้ข้อความจากแฟนเธอน่ะสิ” เขาเอ่ยพร้อมรอยยิ้มเล็ก ๆฉันจ้องมองเขาอย่างสับสน กำลังพูดเรื่องบ้าอะไรอยู่กันแน่?“แฟนเฟินที่ไหน? ฉันไม่มีแฟน” “ก็อีธานไง นึกออกยังล่ะ?”ร่างกายฉันนิ่งไป อีธานทำบ้าอะไรอีกล่ะเนี่ย? เขารู้บ้างไหมว่ากำลังเล่นกับใครอ
ว่าอะไรนะ? ฉันต้องหูฝาดไปแล้วแน่ ๆ เพราะมั่นใจว่ามันไม่ใช่สิ่งที่คาดหวังว่าจะได้ยินมาก่อน“เป็นไปไม่ได้…ฉันไม่มีพี่น้องสักคน ดังนั้นเด็กคนนี้จะเป็นหลานแกไม่ได้หรอก หรือว่า…”และนั่นเป็นสิ่งที่กระทบจิตใจอย่างมาก ราวกับว่าถูกค้อนปอนด์ฟาดเข้าอย่างจัง ทำไมถึงได้เป็นเช่นนี้ตลอดเลยนะ แค่นี้ฉันยังเครียดยังไม่มากพอจนตอนนี้ส่งไอ้โรคจิตนี่มาเกี่ยวข้องกับลูกฉันอีก“คงเข้าใจขึ้นมาแล้วสินะ” เขาโน้มตัวเข้ามา “ฉลาดไม่เบา”“แล้วเขารู้ไหม?” ฉันค่อย ๆ เอ่ยถาม ภายในสมองยังคงสับสนอยู่“ไม่นะ มันจำไม่ได้ด้วยซ้ำ ตอนนั้นอีธานเพิ่งขวบหนึ่งเอง ฉันก็ถูกส่งตัวไปสถานพินิจเพราะภารกิจที่พ่อสั่งให้ทำ ฉันไม่รู้เลยว่ามันเกี่ยวกับสิ่งผิดกฎหมาย หรือไม่รู้ว่าพ่ออยากให้ฉันสืบทอดกันแน่ ตอนที่ออกมาได้ พ่อก็ตายแล้วเจ้าอีธานก็ถูกรับเลี้ยงไปแล้ว”รีปเปอร์เงียบไปชั่วครู่ ความทรงจำต่าง ๆ ไหลผ่านแววตา ไม่เหมือนกับชายที่โรแวนพรากชีวิตไป รอนนี่เกิดและเติบขึ้นมาอย่างทั่วไปแต่กลับถูกบังคับให้เดินเส้นทางนี้ตั้งแต่เด็ก ฉันเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง“ตอนที่แกออกมาก็น่าจะอายุมากพอแล้วนี่ ทำไมไม่ไปรับเขามาอยู่ด้วยล่ะ?” ฉันเอ่ยถาม และเขาก็
โรแวนผมจ้องมองประตูพลางนึกสงสัยว่ามาทำบ้าอะไรอยู่ตรงนี้กันแน่ ผมควรให้เอวาได้มีเวลาอยู่กับตนเอง แต่ให้ตายสิ ดูเหมือนว่าผมไม่สามารถอยู่ห่างจากเธอได้เลย มันมีอะไรบางอย่างดึงดูดผมให้มาหา ซึ่งผมเองก็ไม่สามารถอธิบายได้เลยผมเคาะประตูและเฝ้ารออย่างร้อนใจว่าเมื่อไหร่ประตูจะถูกเปิดออก นาทีหนึ่งหลังจากนั้น โนอาก็เปิดประตูออกมา“พ่อนี่” ลูกชายพุ่งตัวมากอดผม “คิดว่าจะต้องรอเจอพ่อวันเสาร์แล้วนะเนี่ย”พ่อกอดเขาอย่างแนบแน่น รู้สึกผ่อนคลายและอบอุ่นอย่างมาก “ไง หนุ่มน้อย”ผมนึกสงสัยตัวเองขึ้นมาว่าทำไมเคยเกลียดชังเอวาขนาดนั้น เธอคลอดโนอาที่เป็นดั่งของขวัญที่ดีที่สุดแก่ผม ผมควรจะเห็นคุณค่าเธอตั้งแต่ตอนนั้น ไม่ใช่ไปลงโทษเธอ คืนนั้นที่ผมคิดว่าเป็นคืนที่เลวร้ายที่สุด กลับกลายเป็นคืนที่มอบสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดแทนตอนนั้นผมมองไม่เห็นสิ่งนี้เลยเพราะเอาแต่มุดหัวอยู่ในหลืบจนมองไม่เห็นอะไรเลย แต่ตอนนี้ดวงตาของผมเปิดกว้างจนเห็นทุกอย่างได้อย่างชัดเจน เอวาพูดถูกเสมอ ผมเสียใจเพราะเรื่องคืนนั้นเสมอ โดยที่ไม่เคยคิดเลยว่าหากไม่มีเรื่องคืนนั้นเกิดขึ้น โนอาคงไม่อยู่ตรงนี้ และไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ผมก็ไม่มีวันเสียใจที่ม
มันเป็นความรู้สึกที่มากกว่าความต้องการทางกาย เป็นความรู้สึกที่รุนแรงเป็นอย่างมาก“ปล่อยมือออกจากฉันเดี๋ยวนี้” เอวาตวาดเสียงใส่ แต่ผมก็ไม่คิดจะปล่อยเธอไป ผมกลับดันร่างเข้าหาเธอมากขึ้น และระวังไม่กระทบท้องเธอมากจนเกินไปเธอพยายามผลักผมออกไป แต่ผมก็แข็งแรงกว่านั้นมากจนเธอไม่สามารถขยับร่างผมเลยได้แม้แต่น้อย ไม่ใช่เพียงเพราะความแข็งแรง แต่เพราะผมไม่ยอมปล่อยเธออกไปแม้ต้องการขนาดไหนก็ตาม เธอช่างเหมาะสมกับอ้อมแขนนี้มาก ผมอยากอยู่แบบนี้ไปตลอดกาล“ไม่มีวันซะหรอก เอวา ทำไมผมถึงต้องไปจากที่ที่ผมอยากอยู่กับคุณด้วยล่ะ? คุณเป็นของผมนะ”“พูดบ้าบออะไรออกมา? ฉันไม่ใช่ของของคุณ ไม่เคยเป็นเลยสักครั้ง ตอนนี้ก็ปล่อยฉันได้แล้ว ก่อนที่โนอาจะมาเจอเราในสภาพแบบนี้แล้วคิดไปเองว่าเราคืนดีกันแล้ว”“โนอาจะได้มีความสุขสักทีไง ส่วนเรื่องอื่นก็ช่างมัน คุณเป็นของผม และจะเป็นของผมเสมอ ผมไม่มีวันปล่อยให้คุณไปมั่วกับผู้ชายที่ไหนหรอก”ดวงตาเธอสั่นไหว เปลวเพลิงกำลังลุกไหม้ในนัยน์ตาสีน้ำตาลคู่นั้น ผมไม่ทันสังเกตว่ามือของเธอขยับ หมัดนั้นต่อยเข้ามาอย่างจัง และเพราะความตกใจผมถึงปล่อยเธอ“มั่วเหรอ? อันดับแรกเผื่อลืมนะ ตอนท
เกเบรียลผมครางออกมาอย่างพอใจเมื่อปลดปล่อยน้ำบนแผ่นหลังของเธอ นี่แหละคือสิ่งที่ต้องการ วิธีปลดปล่อยและผ่อนคลายที่ดีที่สุดในแบบของผม“พรุ่งนี้เรามาสนุกกันแบบนี้อีกดีไหมคะ?” เธอเอ่ยถามด้วยดวงตาเป็นประกายเธอดูผ่อนคลายขึ้น ผมเดาว่าเธอเองก็คงต้องการแบบนี้เหมือนกัน ผมช่วยเช็ดคราบจากแผ่นหลังของเธอ แต่ไม่ได้ให้คำตอบอะไรไป เธอรู้กติกาดีแล้ว ผมเป็นฝ่ายเรียกแล้วเธอตอบ ไม่ใช่ในแบบที่สลับกันหลังจากเสร็จแล้ว เธอก็เริ่มสวมใส่เสื้อผ้า ตอนนี้เลยสี่ทุ่มแล้ว ผมอยากพักผ่อนให้เต็มที่ก่อนต้องเผชิญหน้ากับวันพรุ่งนี้อันแสนวุ่นวายต่ออย่างที่บอกไป เธอรู้กติกาดี เธอจะไม่นอนค้างคืน และผมก็ไม่เช่นกัน เราเป็นแค่เพื่อนนอนเท่านั้น“เกเบรียล?”เธอเป็นคนเดียวที่เรียกชื่อเต็มของผม ผมเกลียดชื่อนี้ เพราะมันทำให้นึกถึงชื่อของเทวทูตเพราะผมตรงกันข้ามกับคำว่าเทวดาทุกอย่าง"เงียบซะ คุณไม่มีสิทธิ์ออกคำสั่ง เราจะทำอะไรกันหรือไม่ ผมก็เป็นคนตัดสินใจเองทั้งหมด" ผมพูดด้วยเสียงกร้าว ความอึดอัดที่เกิดจากคำถามนั้นมันน่ารำคาญมากผมเห็นแววตาเศร้าสลดผ่านสีหน้าของเธอ แต่ผมเลือกที่จะไม่สนใจ เธอรู้อยู่แล้วว่าตนเองยินยอมเข้ามาอยู่
เธอไม่มีเวลาคบใครและผมเองก็เช่นกัน ดังนั้นความสัมพันธ์นี้จึงเหมาะที่สุด นอกจากนี้เธอก็เป็นแค่เลขา ของผม แม้ว่าผมจะคบกับเธอ เธอก็คงไม่เหมาะกับโลกของผมได้อยู่ดี“ผมคิดว่าคุณคงเอาอยู่ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่เลย ดังนั้นนี่เป็นครั้งสุดท้ายแล้วล่ะที่เราจะทำอะไรแบนี้ คุณก็ทำงานต่อไปแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรานะ เข้าใจตรงกันใช่ไหม เอเดน?”เธอจ้องมองผม สายตามองลึกเข้ามาในตาของผม"ฉันเองก็ไม่ไหวแล้วเหมือนกันค่ะ" เสียงอันแผ่วเบาดังขึ้นพร้อมน้ำตาคลอ "ฉันรักคุณนะคะ แต่รู้แล้วว่าคุณไม่มีวันรักฉันได้จริง ๆ ในเมื่อรู้ว่าคุณจะไม่มีวันตอบรับความรักนี้ ฉันก็นอนกับคุณไม่ได้อีก"เธอเป็นเลขาที่ดีมาก แต่ช่างมันเถอะ“เดาว่านี่คงถึงเวลาที่คุณจะเขียนใบลาออกแล้วใช่เปล่า?” ผมยิ้มเยาะเย้ยใส่เธอเธอไม่ตอบเพียงแค่ส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะหันหลังเดินออกไปเงียบ ๆ ผมถอนหายใจออกมา แต่ก็ไม่ได้ตามเธอไป แค่ใช้โทรศัพท์เปิดประตูให้เธอออกไป พอเธอไปแล้ว ผมก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงเธอพูดถูก ผมปิดกั้นหัวใจตัวเองไว้ สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ยอมตกหลุมรักใคร แน่นอนว่าพ่อแม่ผมมีชีวิตแต่งงานอันยอดเยี่ยมและรักกันมาก แต่กรณีของพวกท่านเป็
ผมเดินลงบันไดมาได้ทันเวลาพอดีที่เห็นเขาเดินสะดุดประตูหน้าบ้านของผม“โรแวน? อะไรเนี่ย?“ ผมถามขณะที่ผมพยุงปีก ประคองตัวเขาขึ้นมาเขาเมา มันเดาได้ไม่ยาก ปกติเขาจะไม่ดื่มมากเกินไปเพราะเคยเกิดเรื่องมาก่อน ดูเหมือนวันนี้เรื่องราวจะแตกต่างออกไป ซึ่งมันทำให้ผมเป็นกังวลมากเพราะคราวก่อนที่เขาเมาหนักขนาดนี้มันเป็นช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดของเขาผมช่วยให้เขานั่งลงจากนั้นผมก็นั่งลงข้างเขา“เกิดอะไรขึ้น โร?” ผมถามอย่างกังวล“นายพูดถูก ถูกมาตลอด” เขาพูกตะกุกตะกัก “ฉันทำพลาดไปอย่างมาก ฉันจะแก้ไขสิ่งที่ฉันทำลายมันไปแล้วด้วยมือของฉันเองยังไงวะ?” ผมรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดในน้ำเสียงของเขาและมันทำให้ผมเจ็บด้วย ผมรักพี่ชายของผมมากกว่าสิ่งอื่นใด เมื่อเขาทุกข์ใจ ผมก็รู้สึกทุกข์ใจตามไปกับเขา ผมจะทำทุกสิ่งอย่างเพื่อเอาความเจ็บปวดของเขาออกไป ความเจ็บปวดใจของเขานั้น แต่ผมก็รู้ว่าผมไม่สามารถทำได้ ถึงอย่างไรก็ไม่ได้เลยจริง ๆ “อธิบายมาสิว่าทำไมนายถึงคิดว่านายทำผิดพลาดไปและตรงไหนที่นายผิดพลาดไปกันแน่?” เขาดูสิ้นหวัง เหมือนกับว่าโลกของเขาเพิ่งพังทลายถล่มทับบนตัวเขาเอง“ฉันรักเธอ เกบ ฉันโคตรรักเธอเลย” เขาตะโก
โรแวนผมเบิกตากว้างขึ้น ลำแสงจากแสงจ้ากระทบใบหน้าคมเข้มของผม ผมครางครวญด้วยความเจ็บปวด หัวของผมเต้นกระหน่ำราวกับว่ามีใครบางคนกำลังใช้มันเป็นกลองต้องใช้เวลาสักพักถึงจะตระหนักได้ว่าผมอยู่ในห้องของตัวเองในบ้านของเกบ มันเป็นสิ่งที่พวกเราทั้งคู่ทำไว้ เขามีห้องที่บ้านของผมและผมก็มีห้องในบ้านของเขาผมลุกขึ้นและตรงไปยังห้องน้ำพร้อมเสียงร้องครวญคราง ผมเปิดฝักบัวและก้าวไปยืนใต้สายน้ำ ใช้มือตัวเองพยุงไว้ ผมยืนพิงพนังและพยายามเรียบเรียงความคิดที่ยุ่งเหยิงของผม ผมจำเรื่องเมื่อคืนไม่ได้มากนักยกเว้นการดื่มแม่งเอ้ย! ผมมาที่นี่ได้ยังไงเนี่ย? มันจะเป็นไปได้ยังไงที่ผมตกหลุมรักเอวาและผมไม่รู้ตัวให้เร็วกว่านี้? วินาทีแห่งการตระหนักรู้นั้นทำให้ผมเศร้ามาก ผมมุ่งตรงไปยังคลับ ผมแทบจะไม่เคยเมาเลย ผมเคยสัญญากับตัวเองเอาไว้ว่าจะไม่เมาเด็ดขาดหลังจากโนอาเกิดมา ปกติแล้ว ผมจะดื่มแค่แก้วสองแก้วและนั่นก็เพียงพอแล้ว แต่เมื่อวานยังไงก็เถอะผมต้องการจะเมา ผมต้องการมาก ไม่มียารักษาที่ไหนสำหรับสิ่งที่ผมกำลังรู้สึกอยู่นี้ ไม่มีทางรักษาได้เลย คุณจะเริ่มจัดการกับความรู้สึกที่คุณรักผู้หญิงที่คุณเคยเกลียดได้ยังไง? ผู้หญิง
"ผมไม่ได้ใช้คุณ เอวา ผมต้องการคุณจริง ๆ" เขาพูดขณะเก็บกุญแจเข้ากระเป๋า ดูท่าว่าฉันคงออกจากห้องนี้ไม่ได้ง่าย ๆ แล้ว"คุณต้องการฉันจริง ๆ เหรอ? แล้วทำไมทันทีที่คุณเสร็จก็รีบลุกไปอาบน้ำละ? ทำไมคุณถึงไม่เคยมีอะไรกับฉันโดยไม่ใส่ถุงยาง? ทำไมคุณถึงไม่เคยปล่อยตัวไปกับฉันเลย? โอ๊ย! คุณแทบจะไม่เคยจูบฉันที่ปากด้วยซ้ำ แล้วคุณมาบอกว่าคุณต้องการฉัน? เชื่อก็บ้าแล้วเถอะ?"ความรู้สึกทั้งหมดที่ฉันพยายามกลบซ่อนมานานทะลักออกมา ฉันเกลียดตัวเองที่ปล่อยให้มันทำให้ฉันรู้สึกอ่อนแอ ฉันเลยแทนที่มันด้วยความโกรธ“หนึ่งในความทรงจำที่ฉันนึกขึ้นได้หลังจากเดตของเราคือการนอนกับอีธาน มันคือสิ่งที่เซ็กส์ควรจะเป็น เต็มไปด้วยความเร่าร้อนและอารมณ์ กับอีธานฉันรู้สึกเหมือนเป็นที่ต้องการ รู้สึกว่าตัวเองมีค่า แต่กับคุณ มันเหมือนเป็นหน้าที่ เป็นการบ้าน คุณบอกว่าคุณต้องการฉัน แต่ทั้งหมดนั้นมันโกหก อีธานทำให้ฉันเห็นว่าการเป็นที่ต้องการของผู้ชายจริง ๆ เป็นยังไง"ความทรงจำเกี่ยวกับอีธานโผล่เข้ามาในหัวอย่างไม่ทันตั้งตัว เหมือนกับความทรงจำอื่น ๆ มันยังแสดงให้ฉันเห็นว่าสิ่งที่ขาดหายไปในความสัมพันธ์ทางกายระหว่างฉันกับโรแวนคืออะไร ฉั
“ผมก็ยังไม่ชอบเธอ และคงจะไม่มีวันชอบเธอได้หรอก แต่ผมก็เข้าใจแม่แล้วเหมือนกัน” เขาพูดขึ้นหลังจากเงียบไปพักใหญ่ “ผมชวนเธอมาก็ได้ แต่ไม่ต้องคาดหวังว่าผมจะเป็นเพื่อนกับเธอได้นะ”ฉันพยักหน้า ยิ้มกว้างขึ้นกว่าเดิม “ขอบคุณนะ ลูกรัก”เขากอดฉันไว้และหัวใจก็สงบลงเสียที ฉันไม่ได้กอดลูกชายตัวน้อยมาเกือบสองอาทิตย์แล้ว การได้กอดเขาอีกครั้งทำให้หัวใจอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก. “ผมรักแม่นะครับ” เขาพึมพำพลางซบอกฉันหัวใจฉันพองโต มีบางสิ่งที่พิเศษมากเมื่อได้ยินลูกเรียกเราว่าแม่ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เจ้าตัวน้อยเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ฉันอธิบายไม่ได้ แต่มันเป็นความรู้สึกที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง“แม่ก็รักลูกเหมือนกันจ้ะ ตัวน้อยของแม่” ฉันกระซิบตอบเบา ๆ “เอาล่ะ รีบไปเตรียมตัวเถอะ ไม่งั้นจะไปโรงเรียนสายนะ”เราถอนตัวออกจากอ้อมกอดของกันและกัน ฉันจูบหน้าผากเขาเบา ๆ ก่อนจะออกจากห้องและเดินลงไปชั้นล่าง ฉันทักทายเทเรซาที่กำลังง่วนอยู่กับการเตรียมอาหารเช้า ก่อนจะหยิบน้ำหนึ่งแก้วกับยาแก้ปวด แล้วเดินขึ้นบันไดไปอีกครั้งเมื่อฉันเปิดประตูห้องนอนใหญ่ หวังว่าโรแวนจะยังหลับอยู่และฉันจะวางน้ำกับยาไว้ให้เฉย ๆ แต่โชคไม่ดี เขาตื่นแล้ว
ฉันตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของโรแวนที่นอนกอดฉันจากด้านหลัง เมื่อวานนี้ไม่รู้เพราะอะไร แต่หลังจากที่เขาขอให้ฉันอยู่ต่อ ฉันก็ไม่สามารถลุกหนีไปได้ ทั้งที่ฉันอยากจะไป ฉันพยายามต่อสู้กับความรู้สึกนั้น แต่สุดท้ายฉันก็แพ้ เมื่อฉันตัดสินใจจะนอนร่วมเตียงกับเขา โรแวนก็กลับหลับไปเสียแล้ววงแขนของเขาโอบรอบเอวฉันไว้แน่น ราวกับว่าเขากลัวว่าฉันจะหายไป แม้ในยามหลับสนิท ในอ้อมกอดนี้ ฉันรู้สึกเหมือนได้รับความรักและการดูแล รู้สึกปลอดภัย และความเจ็บปวดในอดีตทั้งหลายก็พลันจางหายไป ฉันรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนของเขาที่ไล่แตะต้นคอ ส่งผลให้ขนทั่วร่างลุกซู่ฉันพยายามอย่างระมัดระวังไม่ให้เขาตื่น ขยับตัวลุกจากเตียงช้า ๆ เพราะต้องไปดูให้แน่ใจว่าโนอาตื่นแล้ว จะได้ไม่ไปโรงเรียนสายฉันย่องข้ามห้องและออกจากห้องนอนของเราอย่างเงียบเชียบ หลังจากแวะไปตรวจดูไอริส ฉันก็ตรงไปยังห้องของโนอา“โนอา” ฉันเรียก แต่ดูเหมือนไม่จำเป็นเลย เพราะเขาตื่นอยู่แล้วเขามองฉันโดยไม่พูดอะไร ก่อนจะกลับไปติดกระดุมเสื้อเชิ้ตนักเรียนต่อ“ยังโกรธแม่อยู่หรือเปล่า?” ฉันจึงถามขณะเดินเข้าไปในห้อง จากนั้นนั่งลงบนเตียงเขาจ้องมองฉันหรือจะพูดให้ถูกคื
เอวา“หนูอยากเข้าไปหาพรุ่งนี้ได้ไหม? พอดีว่ามีเรื่องอยากคุยด้วยนิดหน่อยค่ะ”ฉันกำลังคุยโทรศัพท์กับโนราอยู่พอดี หรือฉันควรเรียกว่าแม่ดีล่ะ ฉันคิดไม่ตกกับเรื่องนี้อยู่หลายวันและตัดสินใจลองให้โอกาสพวกเขาดูทั้งโนราและธีโอดูเป็นคนดี และตัวฉันเองก็เรียกร้องหาความรักจากพ่อแม่อยู่เช่นกัน ตอนนี้อาจถึงเวลาแล้วก็ได้ที่จะเปิดใจ ฉันต้องการทำความรู้สึกทั้งสองให้มากขึ้นและต้องการส้รางความสัมพันธ์ด้วยมันก็ไม่ใช่ความผิดอะไรของเคทและเจมส์ที่เป็นพ่อและแม่แสนแย่ และฉันเองก็ไม่สามารถเอาประสบการณ์สมัยเด็กแสนทุกข์ทรมานมาเป็นเครื่องตัดสินทั้งสองด้วย“ดีเลยสิจ๊ะ เอวา เราคิดถึงลูกกับหลาน ๆ มากเลยนะ แม่อยากโทรคุยหรือไม่ก็ไปหาเลย แต่ก็ยังไม่อยากเร่งรีบอะไรถ้าหนูยังรู้สึกไม่พร้อม” เธอเอ่ยอย่างยินดีฉันเผยยิ้มออกมา พูดตามตรง ฉันไม่ยิ้มออกมาเลยสักครั้งนับตั้งแต่คืนนั้น“กี่โมงดีคะ?”“เอวา ลูกเป็นลูกสาวเรานะจ๊ะ หนูจะมาตอนกลางวันหรือกลางคืน หรือเวลาไหน ๆ เราก็สะดวกหมดแหละ”หลังจากคุยกับเธออยู่สักพัก เราจึงวางสายไป ฉันถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อนพร้อมวางโทรศัพท์ลงพลางจ้องมองโทรทัศน์อย่างว่างเปล่าจิตใจของฉ
“แล้วทำไมมานั่งดื่มเหล้าอยู่ที่นี่แทนที่จะอยู่บ้านเป็นเพื่อนเอวา” เกเบรียลเอ่ยถามขณะเข้ามานั่งข้างผมตอนนี้ผมอารมณ์ไม่ดีมากนักถึงขั้นที่มองว่าสิ่งต่าง ๆ จากบริษัทน่ารำคาญ รวมถึงน้องชายตนเองด้วย ผมจึงเมินเฉยต่อคำถามเขาและดื่มวิสกี้เข้าไปอีกหนึ่งอึกผมนั่งอยู๋ในโซนวีไอพีของหนึ่งในร้านเหล้าที่เราชื่นชอบ เพลงเปิดเสียงดังกระหึ่ม ผีเสื้อราตรีต่างพากันโยกย้านและออกลวดลายกันอย่างสนุกสนาน พร้อมน้ำเมาที่ลอยล่อง และไม่สิ่งใดเป็นผลกับผมเลยค่ำคืนนี้ผมเพียงต้องการลืมเลือน ลืมภาพแห่งความทุกข์ระทมของเอวา ผมรู้ดึว่าอาจเป็นเป็นเพิ่งเรื่องเพ้อเจ้อหากคิดจะลืมเลือนนั้นเพราะว่าภาพนั้นยังคงฝังแน่นในจิตใจ แต่ผมก็อยากลองลืมภาพเหล่านั้นการอยู่บ้านกลายเป็นสิ่งที่น่าอึดอัดใจขึ้นมา บรรยากาศแห่งความรื่นรมย์น่ายินดีไม่มีอีกต่อไปแล้ว ผมปรารถนาให้มันกลายไปเป็นอย่างเดิมที่ควร แต่ก็ไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไร ผมไม่รู้เลยจริง ๆ ว่า จะต้องแก้ไขเรื่องเหล่านี้อย่างไรดีคำพูดที่เคยออกจากปากไม่มีวันหวนกลับและไม่มีวันลบออกไปได้ ผมไม่สามารถย้อนเวลาไปแก้ไขความผิดพลาดได้ หากเป็นไปได้ ผมคงรีบลงมือทำไปแล้วเพราะผมรักเธอเหลือเ
หัวใจของผมแทบหยุดเต้นลง เมื่อความกลัวว่าเธอจำเรื่องทุกอย่างแล้วประดังเข้ามา“บอกผมหน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้น เอวา ผมช่วยไม่ได้ถ้าผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” ผมวิงวอนเธอน้ำตาของเธอยังคงไหลรินลงมาบนใบหน้า ความเจ็บปวดรวดร้าวบดบังดวงตาของเธอ มันทำให้หัวใจผมสลายจริง ๆ ที่เห็นเธอเป็นแบบนี้“ความทรงจำฉันกลับมาแล้ว” เธอกล่าวก่อนจะเริ่มหัวเราะราวกับเป็นบ้า “รู้ไหม ฉันอยากมีเซ็กส์กับคุณ ฉันอยากนอนกับคุณ แถมฉันยังบอกให้ตัวเองคุยกับคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะฉันต้องการคุณมาก พอฉันเห็นคุณช่วยตัวเองในห้องน้ำ ฉันก็อยากจะร่วมด้วย ฉันถึงกับจินตนาการว่าตัวเองกำลังออรัลเซ็กส์กับคุณในขณะที่คุณหลั่งบนหน้าอกของฉัน”ผมขมวดคิ้วแต่ก็เงียบไว้ อะไรบางอย่างบอกผมว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น และผมจะไม่ชอบสิ่งที่เธอจะพูดต่อไป “ฉันเคยรู้สึกกระหายคุณ โหยหาคุณ แต่สมองของฉันกลับย้ำเตือนบางสิ่งที่คุณเคยพูด” เธอสะอื้น “คุณอยากรู้ไหมว่ามันคืออะไร”ผมไม่อยากรู้ เพราะผมรู้ว่ามันจะทำลายการพัฒนาเล็ก ๆ ที่เรามีร่วมกัน แต่ผมก็ยังพยักหน้าตอบ“คุณพยายามจะทำให้ดีในการมีเซ็กส์ แต่คุณไม่เก่งเลย ทุกครั้งที่ผมอยู่ข้างในคุณ คนที่ผมต้องการคือเอ
โรแวนการเดตนั้นสมบูรณ์แบบ ถ้าผมเลือกได้ ผมคงไม่อยากให้มันจบลง ทุกช่วงเวลาที่ผมอยู่กับเธอเหมือนอยู่ในสวรรค์ และผมหวังว่าผมจะได้อยู่กับเธอเร็วกว่านี้ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมผมถึงไม่เคยให้โอกาสตัวเองได้มีความสุขกับเอวาเลย ผมรู้สึกแย่ที่เราอาจจะได้มีความสุขกันมาตลอดหลายปีนี้ถ้าผมปล่อยเอมม่าไปความรักที่ผมมีต่อเอมม่าคือความรักของวัยรุ่น มันคงไม่ยืนยาว เมื่อมันถูกทดสอบก็พังทลายลง สิ่งที่ผมรู้สึกต่อเอวานั้นเป็นแบบผู้ใหญ่ แข็งแกร่งและลึกซึ้งกว่าสิ่งที่ผมคิดว่ามันคือความรักตอนอายุสิบเจ็ดผมเริ่มเชื่อว่าเกเบรียลพูดถูก ความรักไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว เหมือนอย่างที่เขาพูด ผมคิดว่าลึก ๆ แล้วผมรักเอวา ผมแค่ปล่อยให้ความรู้สึกผิดที่ทำร้ายเอมม่าครอบงำผม ผมยื้อเอมม่าไว้เพราะรู้สึกว่าผมต้องการควบคุม ซึ่งการแต่งงานกับเอวาและอยู่กับเธอก็ทำให้รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของผมผมยังเชื่อด้วยว่าการปล่อยให้ความรู้สึกของผมที่มีต่อเอวาเติบโตขึ้นนั้นเหมือนกับการทรยศต่อความรักที่ผมมีต่อเอมม่า สิ่งที่ผมไม่รู้ในตอนนั้นก็คือความรักนั้นได้ตายไปนานแล้วผมถอนหายใจและถอดเสื้อผ้าออกก่อนจะมุ่งหน้าไปอา
“งั้นก็ตกลงตามนี้ เราจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ในบ้านนี้” โรแวนพูดขณะที่ฉันจ้องมองเขาฉันรู้สึกตกใจ แต่ก็มีความสุขไปพร้อม ๆ กัน ฉันอยากเปลี่ยนอะไรหลายอย่างมานานแล้ว แต่ฉันก็รู้ว่าเขาคงไม่ยอมแน่ไม่รู้สิ เหมือนกับว่านี่เป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเขาปล่อยวางจากเอมม่าได้จริง ๆ และแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจฉันจริง“โอเค” ฉันยิ้มให้เขา ปล่อยให้ความจริงนั้นซึมลึกเข้าไปในใจ"เราสามารถปรึกษากับนักออกแบบตกแต่งภายในได้พรุ่งนี้ ผมมั่นใจว่าเบียงก้า เมเยอร์ส จะสามารถรับงานเราได้ แม้เธอจะมีตารางงานแน่นแค่ไหนก็ตาม คุณสามารถบอกเธอได้เลยว่าอยากได้อะไรแล้วปล่อยให้เธอจัดการ หรือจะเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยก็ได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคุณ"และเซอร์ไพรส์ก็ยังไม่หมด ทุกคนรู้จักเบียงก้า เมเยอร์ส เธอเป็นนักออกแบบตกแต่งภายในที่เก่งที่สุดในประเทศ และเธอทำงานเฉพาะให้กับคนรวยและผู้มีอิทธิพลเท่านั้น ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันจะได้ร่วมงานกับเธอ“ตกลง” ฉันบอกเขาโดยพยายามเก็บความตื่นเต้นไม่ให้ล้นจนเกินไป “แต่ฉันอยากให้คุณกับโนอามีส่วนร่วม เพราะยังไงที่นี่ก็เป็นบ้านของพวกคุณเหมือนกัน และฉันก็อยากให้พวกคุณรู้สึกสบายใจที่นี่”"ผ
“ใช่แล้ว มันเป็นเรื่องจริง” ในที่สุดเขาก็ตอบฉันตกใจมาก ฉันคิดเสมอว่ามันเป็นแค่ข่าวลือโง่ ๆ“มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน แล้วตอนนั้นคุณอายุเท่าไร? ไม่ใช่ว่าฉันตัดสินหรืออะไรทำนองนั้นนะ”“ผมอายุสิบเจ็ด ส่วนหล่อนอายุยี่สิบหก ผมคิดว่า... ผมเป็นเด็กหนุ่มฮอร์โมนพลุ่งพล่าน แถมแมนดี้โคตรเซ็กซี่ ผมอยากมีเซ็กส์กับคนที่อายุมากกว่าผมเสมอ และหล่อนก็ยิ่งทำให้มันง่ายขึ้นเมื่อหล่อนเอาหน้าอกของหล่อนมาแนบหน้าผม หรือกางขาออกในขณะที่ใส่กระโปรงตัวจิ๋วทุกครั้งที่หล่อนเรียกผมไปที่โต๊ะของหล่อน”ฉันประทับใจแต่ในขณะเดียวกันก็รังเกียจแมนดี้ ฉันหมายถึงเธอเป็นครูนะ ให้ตายเถอะ แต่กลับพยายามล่อลวงนักเรียนของตัวเอง ฉันเองก็เป็นครูเหมือนกัน และฉันจะไม่มีวันก้าวข้ามเส้นนั้นเด็ดขาด“คุณเป็นคนขอเองนะ” โรแวนพูดเมื่อสังเกตเห็นหน้านิ่วคิ้วขมวดของฉัน “ฉันรู้ แต่ฉันรู้สึกไม่สบายใจที่ครูตั้งใจจะล่อลวงนักเรียนอายุสิบเจ็ดปี”เขาเพียงแค่ยักไหล่ เหมือนกับว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ หลังจากนั้นการสนทนาก็ผ่อนคลายลง ฉันเพลิดเพลินไปกับมันอย่างเต็มที่ ราวกับมันเป็นความฝันและฉันไม่อยากให้เดตจบลง เราคุยกันทุกเรื่องเป็นชั่วโมงภายใต้แสงจันท