"ขอโทษเรื่องที่กดดันเธอไง ฉันเอาแต่กดดันให้เธอคิดเรื่องโรแวนอยู่นั่น ไม่ได้คิดเลยว่ามันทำร้ายเธอแค่ไหน ฉันแค่อยากให้เธอมีความสุข ในใจก็คิดว่าโรแวนเป็นความสุขของเธอ เธอรักเขามานานจนไม่อยากเชื่อว่าความรักทั้งหมดจะหายไปแล้ว""เล็ตตี้..." ฉันพยายามจะพูด แต่เธอไม่ให้โอกาสนั้นเลย"ฉันอยากให้เธอได้มีโอกาสที่จะรู้จักกับความสุขสักครั้ง เธอเคยบอกฉันว่าเคยหวังให้โรแวนมีความรู้สึกอะไรกับเธอบ้าง แต่ตอนนี้พอเหมือนว่าเขาจะรู้สึกแบบนั้น เธอกลับไม่เชื่อและปฏิเสธลูกเดียว ฉันก็ไม่เข้าใจ"ฉันถอนหายใจ อีกแล้วเหรอ?ฉันเริ่มจะเบื่อที่ต้องได้ยินใครต่อใครพูดถึงโรแวนและความรู้สึกพวกนั้นเต็มที ฉันรู้สึกเหมือนหัวจะระเบิดทุกครั้ง โรแวนไม่ได้มีบทบาทอะไรในชีวิตฉันอีกต่อไปแล้ว ความรู้สึกของเขาเองก็เช่นกัน เขาจะเก็บรักษา โยนทิ้งความรู้สึกบ้าบอพวกนี้ก็แล้วแต่เลยฉันไม่สนใจ"ฉันจะอธิบายแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ แล้วหลังจากนี้ฉันไม่อยากได้ยินเรื่องนี้อีก" ฉันสูดหายใจก่อนจะพูดต่อ"ฉันเคยรักโรแวน และเสี้ยวหนึ่งของหัวใจก็ยังรักอยู่ แน่นอนความรักนี้ลบเลือนไปง่าย ๆ ที่ไหน แต่ความรักมันถูกทำลายช้า ๆ จากการกระทำของคนที่เรารั
ฉันหมุนตัวกลับมา แล้วก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อเห็นว่าโรแวนยืนอยู่ข้างหลังวันนี้มันจะแย่ไปกว่านี้ได้อีกไหม? ฉันคร่ำครวญในใจ"โรแวน?" ฉันร้องเสียงหลงอย่างไม่ทันตั้งตัว "คุณมาทำอะไรที่นี่เนี่ย?"มีเวลาให้ฉันบังเอิญเจอเขาตั้งมากมาย ทำไมถึงต้องเจอเขาตอนน้ที่ฉันกำลังยืนอยู่หน้าร้านขายของเล่นผู้ใหญ่ด้วยนะ? นี่มันต้องเป็นเรื่องน่าอับอายที่สุดในชีวิตฉันแน่ ๆ“ผมคงต้องถามแบบเดียวกับคุณเลย” เขากล่าวพร้อมมองไปด้านหลังฉันแก้มฉันร้อนผ่าว เพราะรู้ว่าไม่ว่าฉันจะพูดอะไรออกไปก็ไม่สามารถหนีออกจาสถานการณ์นี้ได้แน่ ฉันยืนอยู่หน้าร้านที่ในตู้โชว์เต็มไปด้วยเซ็กซ์ทอยหลากหลายรูปแบบ มันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าร้านนี้ขายอะไร.ฉันเหลือบมองร้านอีกรอบก่อนจะหันมามองเขาอย่างประหม่า ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงรู้สึกประหม่า แต่ก็รู้สึกเช่นนั้นไปแล้ว“มาซื้อของใช้คนท้องแล้วก็ซื้อของให้เด็กด้วย” ฉันโกหกออกไปเขามองฉัน คิ้วซ้ายเลิกขึ้นข้างหนึ่ง "ในร้านเซ็กซ์ทอยเนี่ยนะ? ผมว่าคุณคงหาของใช้ที่ต้องการไม่เจอหรอกมั้ง เว้นแต่ว่าคุณมีอย่างอื่นในใจ”ริมฝีปากยกขึ้นเป็นสัญญาณบอกให้รู้ว่าเขากำลังแกล้งฉันอยู่ ซึ่งมันเป็นอะไรที่แป
พนักงานในร้านยิ้มและผายมือให้เรา "เชิญตามมาทางนี้เลยค่ะ ดิฉันชื่อเวนดี้ ทางร้านเราเพิ่งได้รับชุดใหม่สวย ๆ มีเอกลักษณ์เข้ามาค่ะ มั่นใจได้เลยค่ะว่าคุณภรรยาต้องชอบแน่"ก่อนที่ฉันจะทันได้แก้ไขความเข้าใจผิดของเธอ โรแวนก็จับมือฉันอย่างอ่อนโยนแล้วดึงเข้าไปในร้าน เดินตามหลังเวนดี้อย่างกับลูกเป็ดตัวน้อยเธอพาเราทั้งสองนั่งบนโซฟาแล้วเดินออกไป ฉันหันไปมองโรแวนด้วยความโกรธสุด ๆ“บ้าบออะไรไปแล้วล่ะทีนี้?” ฉันเดือดดาล ความรู้สึกโกรธเกรี้ยวปะทุถึงขีดสุดเขามองฉันอย่างเอื่อยเฉื่อย ก่อนจะตอบด้วยคำถามอีกครั้ง“อะไรล่ะ?”"เลิกเล่นอะไรไร้สาระสักที! เรียกฉันว่าภรรยาต้องการอะไร ลืมไปแล้วเหรอว่าเราหย่ากันแล้ว? ไม่ใช่ว่าตอนนี้คบกับเอมม่าอยู่หรอกเหรอ?""นี่ค่ะ ชุดที่ว่า" เวนดี้แนะนำ เธอเดินกลับมาพร้อมกับเสื้อผ้าในมือเธอเป็นใครกันเนี่ยถึงได้มาขัดจังหวะเราเช่นนี้ ตอนนี้ฉันรู้สึกโกรธเกรี้ยวจนพาลไปหมดเพราะโรแวนกวนใจแท้ ๆ"เริ่มจากตัวนี้ไหมคะ?" เธอถามพร้อมยื่นชุดเดรสยาวแสนสวยมาให้ฉันดูหากไม่ใช่เพราะอารมณ์ที่กำลังเดือดพล่านอยู่ขณะนี้ ฉันคงชื่นชมความสวยงามของชุดนี้ไปแล้ว“ลองใส่ดูสิ” โรแวนเอ่ยโดยที่ไม่รู
โรแวนบ้าเอ้ย! ผมมองดูเอวาวิ่งหนีออกจากร้านไป แม้อยากจะตามไป แต่ก็รู้ดีว่าตนเองทำพลาดครั้งใหญ่แล้วผมเห็นความตื่นตระหนกในแววตาเธอ แต่ผมราวกับตกอยู่ในภวังค์ ความคิดหยุดนิ่งทันทีเมื่อเห็นร่างเกือบโป๊เปลือยของเธอผมไม่รู้สึกตัวเลยว่าตนเองเคลื่อนไหวหรือต้อนเธอให้จนมุม จนกระทั่งเธอผลักผมออก นั่นแหละผมถึงรู้ว่าตัวเองกำลังจะทำอะไรเธอเคยเป็นภรรยาของผมแท้ ๆ แต่กลับไม่เคยทำให้ผมรู้สึกอะไรในระดับนี้มาก่อน แม้เห็นร่างเปลือยของเธอมานับครั้งไม่ถ้วน แต่นี่มันแตกต่างออกไป ผมอธิบายสิ่งใดไม่ได้ ทว่ามันราวกับว่าผมเพิ่งเห็นเธอในสภาพเช่นนี้เป็นครั้งแรกเรื่องบนเตียงของเรานับได้ว่าดี แต่ผมก็ได้แต่เก็บกดความรู้สึกไว้เสมอ ผมยังรักเอมม่าในตอนนั้น และทุกครั้งที่ผมต้องการจะอิงแอบแนบชิดกับเอวา ผมรู้สึกเหมือนทรยศเอมม่าในช่วงแรกของชีวิตแต่งงาน ผมรู้สึกจมลึกลงไปในความผิดทุกครั้งที่สัมผัสเอวา ผมมักจะเมาจนหมดสติหลังจากเราเสร็จกิจเรียบร้อย หลังจากนั้นผมเรียนรู้ที่จะละเลยความรู้สึกผิดนั้น เก็บมันไว้ลึก ๆ เพื่อให้ร่างกายได้สนองความต้องการแม้ไม่ได้รักเอวา แต่ผมก็ไม่เคยคิดจะนอกใจ เพราะหลังจากที่ได้เห็นชีวิตสมรสขอ
“คะ คุณโรแวน?” เธอรับสายอย่าวรวดเร็ว“มันมีข่าวเกี่ยวกับผมกับเอวาเผยแพร่อยู่ตอนนี้ ลบมันทิ้งไปเดี๋ยวนี้” ผมคำรามลั่นด้วยความโกรธเกรี้ยว“รับทราบค่ะ ขอเวลาสิบนาที”“แล้วบอกให้รู้เลยนะว่าถ้ามีใครหน้าไหนกล้าพาดหัวข่าวเกี่ยวกับชีวิตส่วนของเอวาแบบนี้อีกล่ะก็ พวกมันล้มจมแน่”“รับทราบค่ะ”ผมตัดสายเธอทิ้ง และยังคงเดือดดาลอยู่เอวาเป็นคนรักความเป็นส่วนตัวเสมอ ผมจะคอยปกป้องชีวิตส่วนของเธอไม่ว่าต้องแลกกับอะไร หรือต้องเสียอะไรไปก็ตาม“โรลูก เกิดอะไรขึ้นระหว่างลูกกับเอวาหรือเปล่า?” แม่เอ่ยถามจากนั้นเพียงครู่ สายตาของเธอพุ่งตรงมายังผมราวกับว่ากำลังควานหาคำตอบจากภายในจิตใจของผมผมดีใจมากที่เธอไม่เอ่ยถามว่าข่าวเอวาตั้งครรภ์เป็นเรื่องจริงหรือไม่ แม้ว่าจะไม่ใช่ความลับอะไร แต่ผมเองก็ไม่อยากบอกแม่อยู่ดี“ไม่รู้ครับ” ผมตอบแม่ด้วยความหงุดหงิด“เคทเล่าให้แม่ฟังว่าลูกตีตัวออกหากจากเอมม่า หนูเอมม่าเล่าว่าลูกเลิกรากับเธอแล้ว และไม่ต้องการคุยกันอีก นั่นเป็นเพราะเอวาหรือเปล่าลูก?”ผมคิดว่าจะโกหกแม่ไป แต่นั่นมันจะเป็นประโยชน์อะไรเล่า“ก็มีส่วนครับ”ผมได้ยินเสียงแม่ถอนหายใจเสียงดัง ผมไม่ได้มองใบหน้าเธอ
เอวาทันทีที่เห็นพ่อแม่ยืนรออยู่หน้าประตูบ้าน ฉันรู้เลยว่าพวกท่านต้องได้เห็นพาดหัวข่าวนั่นแล้วอย่างแน่นอนเล็ตตี้ส่งลิงก์ข่าวนั้นมาให้ฉันเพียงไม่กี่นาทีหลังจากกลับถึงบ้าน มันทำให้ฉันหงุดหงิดมากกว่าเดิม เพราะฉันยังไม่พร้อมที่จะบอกใคร แต่พวกปาปารัซซี่กลับปล่อยข่าวลงอินเทอร์เน็ตซะแล้วฉันไม่ได้กังวลว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร ความกังวลของฉันมีเพียงพ่อกับแม่เท่านั้น ฉันยังไม่รู้จะบอกพวกท่านอย่างไรว่าฉันตั้งครรภ์ สถานการณ์ยิ่งซับซ้อนขึ้นเพราะอีธานยังไม่ยอมคุยกับพวกท่านเลยบทความนั้นถูกลบออกไปไม่กี่นาทีก่อนที่พ่อแม่จะมาถึง ฉันมีลางสังหรณ์ว่าโรแวนต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้แน่ เพียงชื่อของเขา ฉันก็รู้สึกโกรธแค้นขึ้นมาอีกครั้ง ฉันสะบัดความคิดเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องลองเสื้อออกไป แล้วหันมาให้ความสนใจกับพ่อแม่ที่กำลังมองฉันด้วยความสงสัย“อ่านข่าวนั่นแล้วใช่ไหมคะ?” ฉันเอ่ยถามอย่างตรงไปตรงมาบ้านเงียบสนิท ส่วนหนึ่งก็เพราะโนอายังไม่กลับจากโรงเรียน“ใช่ลูก” พ่อกล่าวตอบ สายตาเขาจับจ้องมายังฉัน"แม่รู้ว่าเราไม่ได้ใช้เวลาร่วมกันนานมากขนาดนั้นนะ เอวา แต่ทำไมลูกถึงไม่บอกเราเลยล่ะ? " แม่เอ่ยด้วยเสี
นี่เป็นหนึ่งในเรื่องกังวลแสนหนักอึ้งเสมอมา ฉันไม่อยากให้ลูกมองฉันในแง่ลบ ฉันสามารถบอกความจริงกับเขาได้ แต่การทำแบบนั้นจะทำให้พ่อของลูกดูเหมือนคนป่วยทางจิตแม่ลุกขึ้นมานั่งข้าง ๆ และดึงฉันเข้าสู่อ้อมกอดแน่น ฉันสัมผัสได้ถึงน้ำตาที่เริ่มจะเอ่อล้นออกมาจากดวงตาทั้งสองฮอร์โมนนี่นะ“ไม่เป็นไรนะลูก อย่ากังวลไปเลย เรายังรักลูกเสมอ รวมถึงรักหลานคนนี้ด้วย” พ่อเสริมขึ้นมาพร้อมกับเข้ามาร่วมกอดพวกเราโอบกอดกันอยู่นานก่อนจะผละออกจากกัน“หลานอีกคน วิเศษไปเลย เดี๋ยวแม่ออกไปหาซื้อของดีกว่า” แม่พูดอย่างตื่นเต้น ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เธอแทบจะกระโดดโลดเต้นเหมือนสาวน้อยเลยเชียว“มันจะมีสักกี่คนกันเชียวที่ได้เป็นคุณยายตอนอายุสี่สิบสามเนี่ย? แม่คงเป็นคุณยายสาวสุดเลิศเลยแหละ พลังงานล้นเหลือพอจะวิ่งเล่นกับหลาน ๆ ได้สบาย”พ่อกับฉันหัวเราะอย่างสนุกสนานเมื่อแม่หมุนตัวรอบห้องนั่งเล่นเหมือนนักบัลเลต์ พ่อยืนขึ้นและดึงแม่เข้าสู่อ้อมกอดแล้วจูบเธอ จากนั้นเขาหมุนเธอในอากาศขณะที่แม่หัวเราะด้วยความสุขฉันส่งรอยยิ้มเมื่อเห็นทั้งสอง นี่แหละคือชีวิตแต่งงานที่ใฝ่หา ความรักที่ฉันปรารถนา หัวใจรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา แต
“ขอบคุณมากนะลูกรัก” ฉันฝืนส่งยิ้มออกมา “เดี๋ยวแม่ไปเตรียมข้าวเย็นให้นะ รีบทำอะไรให้เสร็จแล้วไปอาบน้ำให้เรียบร้อยนะลูก”ฉันทิ้งกล่องเสื้อผ้านั้นเอาไว้และเดินตรงไปยังห้องครัว ฉันไม่ยังไม่มั่นใจว่าควรทำอย่างไรดีกลับเสื้อผ้าพวกนั้น ฉันไม่ต้องการสิ่งใดจากโรแวน หากพูดกันตามตรง นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้สิ่งของจากผู้ชายเสื้อผ้านั้นทำให้ฉันนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องลองชุดวันนั้น ฉันยังไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไรกันแน่ บางสิ่งมันไม่ถูกต้อง เขาทำตัวแปลกประหลาดไม่ใช่อย่างที่เคยเป็นฉันเกลียดที่ได้เห็นความปรารถนาในดวงตาคู่นั้น ฉันเกลียดที่สัมผัสได้ถึงน้องน้อยของโรแวนกำลังแข็งปั๋งทิ่มหน้าท้องฉันอยู่ โรแวนไม่เคยมองว่าฉันนั้นเร้าอารมณ์เลยสักครั้ง ไม่เคยจ้องมองราวกับว่าจะกลืนกินฉันมาก่อน แล้วอะไรกันที่ทำให้เขาเปลี่ยนไปแบบนี้“เอวา”ฉันหันขวับไปตามเสียงเขา ฉันจ้องมองเขาด้วยความตกตะลึง ชายหนุ่มปรากฎตัวอยู่ตรงประตูห้องครัว“นี่คุณมาทำบ้าอะไรที่นี่มิทราบ แล้วเข้ามาได้ยังไง?” ฉันเอ่ยถาม พร้อมกับความเดือดดาลพุ่งสูงขึ้น“โนอาเปิดให้ผมเข้ามา” เขาตอบพร้อมเดินเข้ามาใกล้ฉันไม่ต้องการให้เขาเข้ามาในบ้าน ฉันไ
“แล้วทำไมมานั่งดื่มเหล้าอยู่ที่นี่แทนที่จะอยู่บ้านเป็นเพื่อนเอวา” เกเบรียลเอ่ยถามขณะเข้ามานั่งข้างผมตอนนี้ผมอารมณ์ไม่ดีมากนักถึงขั้นที่มองว่าสิ่งต่าง ๆ จากบริษัทน่ารำคาญ รวมถึงน้องชายตนเองด้วย ผมจึงเมินเฉยต่อคำถามเขาและดื่มวิสกี้เข้าไปอีกหนึ่งอึกผมนั่งอยู๋ในโซนวีไอพีของหนึ่งในร้านเหล้าที่เราชื่นชอบ เพลงเปิดเสียงดังกระหึ่ม ผีเสื้อราตรีต่างพากันโยกย้านและออกลวดลายกันอย่างสนุกสนาน พร้อมน้ำเมาที่ลอยล่อง และไม่สิ่งใดเป็นผลกับผมเลยค่ำคืนนี้ผมเพียงต้องการลืมเลือน ลืมภาพแห่งความทุกข์ระทมของเอวา ผมรู้ดึว่าอาจเป็นเป็นเพิ่งเรื่องเพ้อเจ้อหากคิดจะลืมเลือนนั้นเพราะว่าภาพนั้นยังคงฝังแน่นในจิตใจ แต่ผมก็อยากลองลืมภาพเหล่านั้นการอยู่บ้านกลายเป็นสิ่งที่น่าอึดอัดใจขึ้นมา บรรยากาศแห่งความรื่นรมย์น่ายินดีไม่มีอีกต่อไปแล้ว ผมปรารถนาให้มันกลายไปเป็นอย่างเดิมที่ควร แต่ก็ไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไร ผมไม่รู้เลยจริง ๆ ว่า จะต้องแก้ไขเรื่องเหล่านี้อย่างไรดีคำพูดที่เคยออกจากปากไม่มีวันหวนกลับและไม่มีวันลบออกไปได้ ผมไม่สามารถย้อนเวลาไปแก้ไขความผิดพลาดได้ หากเป็นไปได้ ผมคงรีบลงมือทำไปแล้วเพราะผมรักเธอเหลือเ
หัวใจของผมแทบหยุดเต้นลง เมื่อความกลัวว่าเธอจำเรื่องทุกอย่างแล้วประดังเข้ามา“บอกผมหน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้น เอวา ผมช่วยไม่ได้ถ้าผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” ผมวิงวอนเธอน้ำตาของเธอยังคงไหลรินลงมาบนใบหน้า ความเจ็บปวดรวดร้าวบดบังดวงตาของเธอ มันทำให้หัวใจผมสลายจริง ๆ ที่เห็นเธอเป็นแบบนี้“ความทรงจำฉันกลับมาแล้ว” เธอกล่าวก่อนจะเริ่มหัวเราะราวกับเป็นบ้า “รู้ไหม ฉันอยากมีเซ็กส์กับคุณ ฉันอยากนอนกับคุณ แถมฉันยังบอกให้ตัวเองคุยกับคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะฉันต้องการคุณมาก พอฉันเห็นคุณช่วยตัวเองในห้องน้ำ ฉันก็อยากจะร่วมด้วย ฉันถึงกับจินตนาการว่าตัวเองกำลังออรัลเซ็กส์กับคุณในขณะที่คุณหลั่งบนหน้าอกของฉัน”ผมขมวดคิ้วแต่ก็เงียบไว้ อะไรบางอย่างบอกผมว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น และผมจะไม่ชอบสิ่งที่เธอจะพูดต่อไป “ฉันเคยรู้สึกกระหายคุณ โหยหาคุณ แต่สมองของฉันกลับย้ำเตือนบางสิ่งที่คุณเคยพูด” เธอสะอื้น “คุณอยากรู้ไหมว่ามันคืออะไร”ผมไม่อยากรู้ เพราะผมรู้ว่ามันจะทำลายการพัฒนาเล็ก ๆ ที่เรามีร่วมกัน แต่ผมก็ยังพยักหน้าตอบ“คุณพยายามจะทำให้ดีในการมีเซ็กส์ แต่คุณไม่เก่งเลย ทุกครั้งที่ผมอยู่ข้างในคุณ คนที่ผมต้องการคือเอ
โรแวนการเดตนั้นสมบูรณ์แบบ ถ้าผมเลือกได้ ผมคงไม่อยากให้มันจบลง ทุกช่วงเวลาที่ผมอยู่กับเธอเหมือนอยู่ในสวรรค์ และผมหวังว่าผมจะได้อยู่กับเธอเร็วกว่านี้ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมผมถึงไม่เคยให้โอกาสตัวเองได้มีความสุขกับเอวาเลย ผมรู้สึกแย่ที่เราอาจจะได้มีความสุขกันมาตลอดหลายปีนี้ถ้าผมปล่อยเอมม่าไปความรักที่ผมมีต่อเอมม่าคือความรักของวัยรุ่น มันคงไม่ยืนยาว เมื่อมันถูกทดสอบก็พังทลายลง สิ่งที่ผมรู้สึกต่อเอวานั้นเป็นแบบผู้ใหญ่ แข็งแกร่งและลึกซึ้งกว่าสิ่งที่ผมคิดว่ามันคือความรักตอนอายุสิบเจ็ดผมเริ่มเชื่อว่าเกเบรียลพูดถูก ความรักไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว เหมือนอย่างที่เขาพูด ผมคิดว่าลึก ๆ แล้วผมรักเอวา ผมแค่ปล่อยให้ความรู้สึกผิดที่ทำร้ายเอมม่าครอบงำผม ผมยื้อเอมม่าไว้เพราะรู้สึกว่าผมต้องการควบคุม ซึ่งการแต่งงานกับเอวาและอยู่กับเธอก็ทำให้รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของผมผมยังเชื่อด้วยว่าการปล่อยให้ความรู้สึกของผมที่มีต่อเอวาเติบโตขึ้นนั้นเหมือนกับการทรยศต่อความรักที่ผมมีต่อเอมม่า สิ่งที่ผมไม่รู้ในตอนนั้นก็คือความรักนั้นได้ตายไปนานแล้วผมถอนหายใจและถอดเสื้อผ้าออกก่อนจะมุ่งหน้าไปอา
“งั้นก็ตกลงตามนี้ เราจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ในบ้านนี้” โรแวนพูดขณะที่ฉันจ้องมองเขาฉันรู้สึกตกใจ แต่ก็มีความสุขไปพร้อม ๆ กัน ฉันอยากเปลี่ยนอะไรหลายอย่างมานานแล้ว แต่ฉันก็รู้ว่าเขาคงไม่ยอมแน่ไม่รู้สิ เหมือนกับว่านี่เป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเขาปล่อยวางจากเอมม่าได้จริง ๆ และแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจฉันจริง“โอเค” ฉันยิ้มให้เขา ปล่อยให้ความจริงนั้นซึมลึกเข้าไปในใจ"เราสามารถปรึกษากับนักออกแบบตกแต่งภายในได้พรุ่งนี้ ผมมั่นใจว่าเบียงก้า เมเยอร์ส จะสามารถรับงานเราได้ แม้เธอจะมีตารางงานแน่นแค่ไหนก็ตาม คุณสามารถบอกเธอได้เลยว่าอยากได้อะไรแล้วปล่อยให้เธอจัดการ หรือจะเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยก็ได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคุณ"และเซอร์ไพรส์ก็ยังไม่หมด ทุกคนรู้จักเบียงก้า เมเยอร์ส เธอเป็นนักออกแบบตกแต่งภายในที่เก่งที่สุดในประเทศ และเธอทำงานเฉพาะให้กับคนรวยและผู้มีอิทธิพลเท่านั้น ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันจะได้ร่วมงานกับเธอ“ตกลง” ฉันบอกเขาโดยพยายามเก็บความตื่นเต้นไม่ให้ล้นจนเกินไป “แต่ฉันอยากให้คุณกับโนอามีส่วนร่วม เพราะยังไงที่นี่ก็เป็นบ้านของพวกคุณเหมือนกัน และฉันก็อยากให้พวกคุณรู้สึกสบายใจที่นี่”"ผ
“ใช่แล้ว มันเป็นเรื่องจริง” ในที่สุดเขาก็ตอบฉันตกใจมาก ฉันคิดเสมอว่ามันเป็นแค่ข่าวลือโง่ ๆ“มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน แล้วตอนนั้นคุณอายุเท่าไร? ไม่ใช่ว่าฉันตัดสินหรืออะไรทำนองนั้นนะ”“ผมอายุสิบเจ็ด ส่วนหล่อนอายุยี่สิบหก ผมคิดว่า... ผมเป็นเด็กหนุ่มฮอร์โมนพลุ่งพล่าน แถมแมนดี้โคตรเซ็กซี่ ผมอยากมีเซ็กส์กับคนที่อายุมากกว่าผมเสมอ และหล่อนก็ยิ่งทำให้มันง่ายขึ้นเมื่อหล่อนเอาหน้าอกของหล่อนมาแนบหน้าผม หรือกางขาออกในขณะที่ใส่กระโปรงตัวจิ๋วทุกครั้งที่หล่อนเรียกผมไปที่โต๊ะของหล่อน”ฉันประทับใจแต่ในขณะเดียวกันก็รังเกียจแมนดี้ ฉันหมายถึงเธอเป็นครูนะ ให้ตายเถอะ แต่กลับพยายามล่อลวงนักเรียนของตัวเอง ฉันเองก็เป็นครูเหมือนกัน และฉันจะไม่มีวันก้าวข้ามเส้นนั้นเด็ดขาด“คุณเป็นคนขอเองนะ” โรแวนพูดเมื่อสังเกตเห็นหน้านิ่วคิ้วขมวดของฉัน “ฉันรู้ แต่ฉันรู้สึกไม่สบายใจที่ครูตั้งใจจะล่อลวงนักเรียนอายุสิบเจ็ดปี”เขาเพียงแค่ยักไหล่ เหมือนกับว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ หลังจากนั้นการสนทนาก็ผ่อนคลายลง ฉันเพลิดเพลินไปกับมันอย่างเต็มที่ ราวกับมันเป็นความฝันและฉันไม่อยากให้เดตจบลง เราคุยกันทุกเรื่องเป็นชั่วโมงภายใต้แสงจันท
ฉันจ้องมองเขาอย่างมึนงง ไม่รู้จะพูดหรือทำอะไรดี“คุณชอบกลิ่นหอม และคุณชอบกลิ่นที่มีเบอร์รี่ผสมอยู่มากกว่า ขอแค่น้ำหอมหรือสบู่เหลวอาบน้ำมีส่วนผสมของเบอร์รี่ คุณก็จะยอมซื้อ คุณไม่มีอาหารจานโปรดจริง ๆ เพราะคุณจะกินอะไรก็ได้ตราบใดที่มันอร่อย คุณชอบอาบน้ำอุ่นนาน ๆ เพราะมันทำให้คุณผ่อนคลาย คุณเกลียดความสูง คุณเกลียดการไปสาย และคุณเกลียดการขึ้นเครื่องบินด้วย คุณเกลียดแมลงสาบ คุณมักจะพูดว่าอยากให้บ้านของคุณเต็มไปด้วยแมงมุมมากกว่าพวกแมลงสีน้ำตาลน่ารังเกียจนั่น... ให้ผมจะพูดต่อไหม”เขาไม่ให้โอกาสฉันตอบ“คุณชอบรวบผมเป็นหางม้าและมวยผม คุณไม่ชอบแต่งหน้ามากนักและแต่งหน้าเฉพาะเมื่อจำเป็นหรืออยากแต่ง คุณไม่ชอบนอนหงายเพราะมันทำให้คุณนึกถึงคนตายในโลงศพ คุณเกลียดความไม่เป็นระเบียบและสีเหลืองด้วย…”ฉันยกมือให้เขาหยุดพูดเพราะฉันพูดอะไรไม่ออกเลย ทุกอย่างที่เขาพูดเป็นความจริง ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเขารู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไง เพราะเราไม่เคยสนิทกันมาก่อน ครอบครัวชาร์พคงไม่ได้บอกเขาหรอก เพราะพวกเขาแทบจะไม่รู้จักฉันด้วยซ้ำ“ได้ยังไง?” ฉันพูดติดขัด ในหัวไม่สามารถประมวณผลทุกอย่างได้“ผมบอกคุณแล้ว” เขากล่าวพร้
ฉันมองออกไปนอกรถแล้วตะลึงงัน สถานที่แห่งนี้ดูราวกับเป็นสวรรค์ มันเป็นพื้นที่โล่งกว้างที่มีหญ้าเขียวขจีและคงมีดอกไม้มากมายนานาพันธุ์ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันชอบที่สุดของที่นี่ แต่มันคือเพราะทิวทัศน์ต่างหาก ดวงดาวนับพันเปล่งแสงระยิบระยับราวกับกำลังเห็นด้วยกับเดตนี้“คุณชอบไหม” โรแวนถาม และคำตอบเดียวของฉันคือการพยักหน้าฉันค่อย ๆ ออกจากรถ สูดอากาศบริสุทธิ์และชมทิวทัศน์ที่สวยงามจับใจ ฉันเดินไปเกือบถึงขอบถนนและมองลงไปที่เมืองเบื้องล่าง ฉันไม่รู้ว่าโรแวนไปเจอสถานที่แห่งนี้ได้อย่างไร และฉันก็ไม่สนใจฉันหลับตาลง รู้สึกว่าความกังวลทั้งหมดมลายหายไป นี่คือฉากในแบบที่ฉันชอบ ฉันชอบมันมากเมื่อฉันหันกลับไป ฉันพบว่าโรแวนจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว มีผ้าห่มและตะกร้าปิกนิกพร้อมสิ่งที่ฉันเดาว่าเป็นช็อกโกแลต สตรอเบอร์รี่และไวน์ นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารที่เราสั่งอยู่ด้วยฉันเดินช้า ๆ ไปหาเขา ถอดรองเท้าและนั่งลงข้าง ๆ เขา “นี่มันสุดยอดเลย โรแวน ขอบคุณนะคะ”เขาพยักหน้า “อะไรก็ตามที่จะทำให้คุณมีความสุขที่รัก ตอนนี้เรามาทานอาหารกันเถอะ เพราะผมหิวจะแย่แล้ว”เราทานอาหารกันเงียบ ๆ ฉันใช้โอกาสนี้ชื่นชมทิวทัศน์
การเดินทางใช้เวลาไม่นานนัก และนอกจากการคุยกันเล็กน้อยเป็นครั้งคราว เราก็เงียบกันเกือบตลอดเวลา แต่ก็เป็นครั้งแรกเท่าที่ฉันจำได้ ที่ความเงียบระหว่างเราให้ความรู้สึกสบายใจในช่วงเวลาที่หาได้ยากที่เราขับรถไปด้วยกัน โรแวนมักจะพยายามทำเป็นไม่สนใจฉัน ขณะที่ฉันพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อชวนเขาคุย ซึ่งมันมักจะทำให้บรรยากาศดูอึดอัดและแปลก ๆ เสมอ“คุณยิ้มทำไม” ฉันถามเขาเมื่อเขาลงจากรถเพื่อช่วยฉันออกจากรถรอยยิ้มของเขาควรจะเป็นอาวุธทำลายล้างสำหรับผู้หญิงโดยแท้ แน่นอนว่าเขาหล่ออยู่แล้ว แต่เมื่อโรแวนยิ้ม มันยิ่งทำให้ความหล่อของเขาก้าวไปอีกระดับหนึ่ง“ผมจะมีความสุขที่พาผู้หญิงของตัวเองออกมาข้างนอกไม่ได้เหรอ” เขาถามพร้อมเอียงศีรษะเล็กน้อยไม่รู้ทำไม ฉันถึงหัวเราะคิกคักขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ปกติฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่จะหัวร่อต่อกระซิก ฉันไม่เคยหัวเราะแบบนี้มาก่อนเลยทั้งชีวิต จริง ๆ แล้วฉันเคยคิดว่ามันดูน่ารังเกียจด้วยซ้ำเมื่อเห็นผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่แล้วทำแบบนี้ แต่ตอนนี้ฉันกลับเป็นคนที่ทำเสียเอง“ขอโทษที ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงหัวเราะแบบนั้น” ฉันเอ่ยขอโทษขณะที่พยายามรวบรวมสติเขาจับมือฉัน และฉันก็คล้อ
ฉันมองตัวเองในกระจก และมีความสุขกับลุคของตัวเอง ฉันเกล้าผมเป็นมวยต่ำและม้วนผมเป็นลอนเข้ากับกรอบหน้า คืนนี้ฉันต้องการอะไรที่แปลกใหม่ เพราะเป็นเดตครั้งแรกของฉันกับโรแวน ฉันจึงตัดสินใจเลือกอายแชโดว์สีสโมกี้ที่ดูไม่ฉูดฉาดแต่เย้ายวนกับลิปสติกสีแดงส่วนชุดเดรส ฉันเลือกชุดเดรสสีดำยาวระดับเข่า มีคอเสื้อเว้าลึกที่ยึดด้วยสายรัดบาง ๆ เผยให้เห็นเนินอกเล็กน้อย พอให้ดูยั่วยวนแต่ไม่เกินงาม อีกทั้งเป็นชุดเปิดหลังซึ่งฉันมั่นใจว่าจะทำให้บรรดาหนุ่ม ๆ ต้องคลั่งฉันยังคงจ้องมองตัวเองในขณะที่ลูบมือไปตามเนื้อผ้าที่นุ่มนวล ชุดนี้เข้ารูปพอดีตัว และต้องขอบคุณที่ฉันเพิ่งผ่านช่วงตั้งครรภ์ เลยทำให้ตอนนี้ฉันมีส่วนเว้าโค้งที่พอดิบพอดี“โอ้โหที่รัก ถ้าฉันไม่ได้ชอบผู้ชาย ฉันคงจีบเธอไปแล้วแน่ ๆ” เล็ตตี้กล่าวชมด้วยน้ำเสียงปลื้มปริ่ม “เธอเซ็กซี่มาก แบบที่ไม่มีอะไรจะเทียบได้เลย” “เธอพูดถูก” โครินพูดเสริมพวกเธอกลับไปเมื่อสองสามชั่วโมงก่อน ตอนนี้เรากำลังคุยกันทางวิดิโอคอล เพราะฉันต้องการฟังความคิดเห็นที่จริงใจของพวกเธอ เดตครั้งนี้สำคัญมาก อย่างที่ฉันบอก นี่เป็นเดตครั้งแรกของโรแวนกับฉัน ฉันจึงอยากให้ทุกอย่างออกมาสมบูร