ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าใครแย่กว่ากันระหว่างโรแวนที่ใช้ฉันเพื่อมีเซ็กส์ในขณะที่เขาคิดถึงเอมม่า หรืออีธานที่หลอกฉันและยังใช้ฉันเพื่อมีเซ็กส์ในขณะที่เขาวางแผนจะฆ่าฉันเธอถอนหายใจ “ฉันไม่อยากพูดจาหยาบคาย แต่ฉันจะพูดความจริงกับคุณ ถ้าฉันรู้ว่าคุณคิดแบบนี้มาตลอด ฉันคงหยุดมันไปแล้ว”“คุณกำลังพูดถึงอะไร?”“คุณจะคอยตามหาผู้ชายที่รักคุณไม่ได้” เธอถอนหายใจอีกครั้ง “ฉันจะอธิบายเรื่องนี้โดยไม่ทำให้คุณเจ็บปวดไปกว่านี้ได้อย่างไร… คุณคบกับอีธานเพราะต้องการให้ใครสักคนรักคุณ คุณไม่สามารถทุ่มความคาดหวังทั้งหมดของคุณกับคนอื่นได้ คุณจะคิดว่าผู้ชายที่รักคุณจะรักษาบาดแผลที่โรแวนและครอบครัวของคุณทำเอาไว้ไม่ได้”ฉันไม่ทันได้พูดอะไรก่อนที่เธอจะพูดต่อ“คุณสร้างจินตนาการนี้ขึ้นมาและฉันไม่เคยรู้จนกระทั่งเมื่อเร็วนี้ คุณคิดว่าเมื่อคุณพบผู้ชายที่รักคุณ ทุกอย่างจะลงตัว แต่คนเดียวที่จะสามารถรักษาบาดแผลนั้นในหัวใจของคุณได้ก็คือตัวคุณเอง คุณเท่านั้นที่จะสามารถรักตัวเองในแบบที่คุณต้องการให้คนอื่นรัก คุณต้องรักตัวเองก่อน และจากที่ฉันเห็น คุณไม่เคยรักตัวเองเลย” เธอทรุดตัวลงบนพนักพิงโซฟา“คุณคิดผิด” ฉันจ้องเธอด้วยท่าทางป้
“เข้ามาก่อนค่ะ” เล็ตตี้พูดจากด้านหลังฉัน ทำให้ฉันตกใจสุดขีดฉันรู้ตัวว่าเพิ่งจ้องพวกเขาอย่างโง่เขลา ไม่รู้จะพูดอะไรกับพวกเขาดีฉันขยับเข้าไปข้าง ๆ แล้วปล่อยให้พวกเขาเดินผ่านไป จิตใจของฉันยังคงสั่นคลอนจากความจริงที่ว่าตอนนี้ครอบครัวโฮเวลล์อยู่ในบ้านของฉัน และพวกเขาก็อาจจะเป็นครอบครัวของฉัน“คุณออกมาได้ยังไง?” ฉันหันไปถามอีธานทันทีที่เราทุกคนนั่งลงเขาพูดเพียงว่า “ประกันตัว” สายตาของเขามองไปทุกที่ยกเว้นที่ฉันเมื่อวานนี้ ไบรอันได้ถามฉันว่าฉันต้องการแจ้งความกับอีธานหรือไม่ เขาบอกว่ามันจะทำให้คดีของเรากับอีธานแข็งแกร่งขึ้นฉันไม่สามารถตอบเขาได้เพราะไม่แน่ใจ ใช่ ฉันเข้าใจว่าสิ่งที่เขาทำกับฉันมันแย่มาก และฉันไม่รู้ว่าฉันจะให้อภัยเขาหรือลืมเขาได้หรือเปล่าแต่นอกเหนือจากนั้น อีธานก็ยังสอนอะไรฉันหลายอย่างเกี่ยวกับตัวฉันและชีวิต ฉันแค่ไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถดำเนินคดีกับเขาได้หรือไม่ทราวิสตัดสินใจแจ้งความและกรมตำรวจก็เช่นกัน เพื่อเข้าไปในองค์กรนั้น อีธานได้ปลอมแปลงเอกสาร แม้ว่าฉันเองจะแจ้งดำเนินคดีต่อเขาไม่ได้ แต่ไบรอันก็บอกว่าพวกเขาจะยังดำเนินคดี เพราะพวกเขาได้เปิดคดีเกี่ยวกับฉันเมื่อเร
ฉันอยากจะเชื่อเธอแต่ทำไม่ได้ ครอบครัวที่เลี้ยงฉันมาไม่รักฉันเลย และพวกเขาอยู่กับฉันมา 28 ปีแล้ว ฉันไม่คาดหวังว่าโนรากับธีโอจะรักฉัน พวกเขาไม่รู้จักฉัน และจากสิ่งที่เห็น พวกเขาก็รักอีธานจริง ๆ“คุณแน่ใจได้ยังไงว่าฉันเป็นลูกสาวของคุณ?” ฉันถามขึ้น “อีธานอาจจะสับสน หน้าตาของฉันไม่คล้ายพวกคุณด้วยซ้ำ”พวกเขาหน้าตาดีจนเหมือนไม่ได้มาจากโลกใบนี้ ส่วนฉันแค่หน้าตาธรรมดา ๆ รูปลักษณ์ของฉันไม่มีอะไรโดดเด่นเลยอีธานตอบพร้อมส่งซองจดหมายให้ฉัน “ผมเอาเส้นผมของคุณไปตรวจดีเอ็นเอแล้ว พบว่าตรงกันร้อยเปอร์เซ็นต์”ฉันเปิดอ่านเนื้อหา เขาไม่ได้โกหก จริงอยู่ที่ดีเอ็นเอของฉันตรงกับของโนราและธีโอ“หนูได้ผมสีน้ำตาลจากฉัน และดวงตาสีน้ำตาลสวยงามจากแม่ของหนู” ธีโอพูดต่อหลังจากอีธาน “ถึงแม้จะไม่มีลักษณะทางกายภาพเหล่านั้น ฉันก็ยังรู้ได้อยู่ดี ลึกๆ แล้ว ฉันรู้ว่าหนูเป็นลูกสาวที่ถูกพรากจากเราไปเมื่อยี่สิบแปดปีก่อน”ฉันหันหลังให้พวกเขาเมื่อน้ำตาของฉันเริ่มไหล มันมากเกินไปที่จะรับได้ ชีวิตของฉันทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก ฉันไม่รู้ว่าจะรับมือกับมันอย่างไร ทุกการดูถูกที่ฉันได้รับจากครอบครัวชาร์พ ทุกความเกลียดชัง ทุกความเจ็บป
“ไอ้เวรนั่นมาทำอะไรที่นี่?” โรแวนตะโกนเสียงดัง ดวงตาสีเทาเย็นชาจ้องไปที่อีธานอย่างดุร้ายฉันไม่อยากให้ค่ากับความงอแงของเขาเลยจริง ๆ ใช่ เขาช่วยฉันไว้เมื่อวาน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะมีสิทธิ์ตัดสินใจว่าใครสามารถเข้าบ้านฉันได้บ้างธีโอ หรือฉันควรพูดว่าพ่อของฉันกระแอม ฉันคงต้องใช้เวลาสักพักถึงจะชินกับการที่จะเรียกเขาว่าพ่อเสียงของเขาดึงดูดสายตาของทุกคนให้หันไปหาเขา“ธีโอ โฮเวลล์เหรอ?” โรแวนถามด้วยความประหลาดใจแต่เขาก็รีบซ่อนมันไว้ “คุณมาทำอะไรที่นี่ครับ?”โรแวนมองระหว่างพวกเราทุกคน สายตาของเขามองจากธีโอและโนราแล้วมองกลับมาที่ฉัน ขณะที่เชื่อมโยงจุดต่าง ๆ เข้าด้วยกันอย่างช้า ๆ“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะโรแวน แต่ฉันขอพูดไว้เลยว่าฉันไม่ปลื้มกับวิธีที่นายปฏิบัติต่อลูกสาวของฉัน” ธีโอพูดด้วยรอยยิ้มอันตราย“ที่เขาจะบอกก็คือ เราโกรธมากกับวิธีที่คุณและครอบครัวของคุณปฏิบัติต่อลูกสาวของเรา และเราไม่อยากร่วมงานกับคนนิสัยแบบนั้น” โนราเสริม เธอไม่ได้ยิ้ม และนี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เธอมาที่บ้านของฉันที่ฉันรู้สึกถึงความเป็นศัตรูและความเกลียดชังที่แผ่ออกมาจากตัวเธอ“เป็นไปได้ยังไง?” ทราวิสตกใจจน
ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น ฉันถึงได้ลงเอยกับพวกเขา“แล้วทำไมคุณถึงรับเลี้ยงฉันล่ะถ้าคุณไม่ได้ต้องการฉัน?” ฉันถามทุกคนเงียบขณะที่เธอตอบ “เมื่อทราวิสอายุได้สองขวบ เขาวิ่งออกจากบ้าน พอฉันรู้ตัว เขาก็กำลังจะข้ามถนนแล้วและมีรถกำลังวิ่งเข้ามา ฉันรู้ว่าฉันจะไปหาเขาไม่ทัน ฉันกรีดร้องด้วยความกลัว ความกลัวของฉันคงทำให้วินนี่ตื่นตัว ฉันไม่รู้ว่าเธอทำได้อย่างไร หรือเธออยู่ที่ไหน หรือเธอเคลื่อนไหวอย่างไร แต่เธอช่วยทราวิสไว้ในวันนั้น สุดท้ายเธอก็โคม่าเป็นเวลาสองเดือน พวกเขาตัดมือขวาของเธอออกเพราะมันเสียหายมากเกินไป เธอยังเดินกะเผลกตั้งแต่นั้นมาเพราะสะโพกได้รับบาดเจ็บถาวร”เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะปล่อยลมหายใจออกมา “เราตอบรับคำขอของเธอเพราะรู้สึกว่าเราเป็นหนี้เธอ แม้เราจะพยายามชดเชยให้เธอมากเพียงใด มันก็ไม่เคยเพียงพอต่อการช่วยชีวิตทราวิสและสิ่งที่เธอต้องเผชิญ ดังนั้นเมื่อเธอเสียชีวิต เราจึงรับเอวามาเลี้ยง”ฉันก้มหน้าลงและบ่นพึมพำ “คุณไม่น่าทำแบบนั้นเลย คุณควรจะเอาฉันไปส่งสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้า มันคงดีกว่าชีวิตที่ฉันได้รับจากตอนที่อยู่กับคุณ”ฉันจำไม่ได้เลยว่าเคยมีความทรงจำดี ๆ กับพวกเขา พวกเขาล้
เอมม่า“ฉันยังคงไม่อยากเชื่อว่าเอวาเป็นลูกตระกูลโฮเวลล์” ทราวิสพูดขณะที่เราเข้าไปในบ้านของพ่อแม่เราฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อข่าวนี้เช่นกัน ทุกอย่างดูไม่จริงเลย เหมือนกับว่าไม่ว่าจะอย่างไรฉันก็ไม่สามารถเชื่อสิ่งที่ถูกเปิดเผยได้“ใช่ไหม?” ฉันพึมพำฉันคิดว่าฉันมีข้อได้เปรียบเหนือเธอ การรู้ว่าเธอถูกอุปถัมภ์เป็นความรู้สึกที่ดีที่สุด หลังจากที่อีธานบอกเราว่าพ่อแม่ของเธอเป็นคนรวย ความรู้สึกดี ๆ ทุกอย่างก็พังทลายลง ฉันอยากให้เธอมาจากครอบครัวที่ยากจน นั่นจะทำให้ฉันมีข้อได้เปรียบเหนือเธอ แม้ว่าตอนนี้เธอจะรวยก็ตามถ้าเธอมาจากครอบครัวที่ยากจน ฉันก็คงจะดีกว่าเธอเสมอ เหนือกว่าเธอในทางหนึ่ง ในสังคมของเราคุณจะได้รับความเคารพมากกว่าหากครอบครัวของคุณมีเส้นสาย หากครอบครัวของคุณมีรากฐานและสืบเชื้อสายมาจากครอบครัวที่มีฐานะดี ถ้าคุณร่ำรวยเอง พวกเขาก็จะเคารพคุณ แต่คุณจะได้รับความเคารพมากกว่าหากมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยอยู่แล้วฉันหวังว่าจะเป็นอย่างนั้นเมื่ออีธานบอกเราว่าเธอถูกอุปการะ ฉันคิดว่าพ่อแม่ของเธออาจไม่มีเงินเลี้ยงเธอ หรืออาจเป็นเพราะติดยา และพวกเขาจึงตัดสินใจให้คนอื่นอุปการะเธอ นั่นคงเป็นรอยด่างใหญ
แม้แต่ตอนนี้ที่ฉันกลับมาและมั่นใจว่าทุกอย่างกำลังไปได้ดีกับโรแวน แม่นั่นก็ทำให้ทุกอย่างพังลง โรแวนแทบไม่สนใจฉันเลยในตอนนี้ นับตั้งแต่งานเลี้ยงอาหารเย็นวันนั้น เขาไม่เคยโทรหรือมาดูเลยว่าฉันเป็นอย่างไรบ้างความสนใจของเขาเอนเอียงไปหาเอวาทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ฉันจึงเกลียดผู้หญิงคนนั้นมากขึ้นไปอีก เพราะนี่เป็นอีกครั้งที่หล่อนพรากเขาไปจากฉัน สำหรับฉันมันยากที่จะยอมรับได้ว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป โรแวนไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวกับคนที่รักฉันหมดทั้งใจคนนั้นอีกแล้ว ตัวเขาเองอาจไม่รู้ แต่ฉันสามารถพูดได้เต็มปากว่าเขามีความรู้สึกมากมายให้แก่เอวา ฉันไม่รู้ว่าความรู้สึกเหล่านั้นคืออะไร แต่มันมีอยู่แน่นอน ฉันกลัวเหลือเกินว่าเขาจะตกหลุมรักแม่นั่น ฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรถ้ามันเป็นเรื่องจริง มันคงทำให้ใจฉันแตกสลายฉันคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเพื่อนสนิท“หวัดดีค่ะเพื่อน” มอลลี่รับสายตั้งแต่เสียงเรียกเข้าแรกดังฉันล้มตัวลงบนเตียงและพยายามกลั้นน้ำตา “ทุกอย่างกำลังพังไปหมดเลยมอลลี่ ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว”ฉันรู้สึกเหนื่อยล้าและหมดแรง ทุกสิ่งช่างน่าหน่ายใจเหลือเกิน และรู้สึกเหมือนกำลังแบกภาระหนักบนบ่า“เล่ามาก่อ
เอวาพวกคุณเคยรู้สึกเหมือนกำลังใช้ชีวิตไปวัน ๆ บ้างไหม? รู้สึกเหมือนผู้คนหรือทุกอย่างรอบตัวไม่จริงบ้างหรือเปล่า? ฉันเคยลองค้นหาในกูเกิ้ลมันบอกว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของความรู้สึกพยายามหลีกหนีสังคมภายนอก มักเกิดขึ้นกับบุคคลที่เคยประสบกับเหตุการณ์เลวร้ายในวัยเด็กโดยเฉพาะ นับว่าเป็นกลไกการเผชิญปัญหาที่ทำให้บุคคลนั้นแยกตัวออกจากสิ่งที่ส่งผลเลวร้ายหรือก่อให้เกิดความเครียดหลังจากอ่านบทความจบ ฉันก็คิดว่าเล็ตตี้อาจพูดถูก ฉันอาจต้องการความช่วยเหลือจริง ๆ ความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญเลยแหละ ควรเริ่มจากการไปพบจิตแพทย์ก่อน ฉันรู้สภาพปัญหาของตนเองดีว่ามีบาดแผลภายในใจที่ฉันไม่สามารถก้าวข้ามได้ฉันถอนหายใจจากนั้นยืนขึ้นและเริ่มเดินไปมาในห้อง จิตใจวกวนไปมาไม่หยุด ไม่ว่าจะพยายามมากเพียงใด จิตใจก็สงบลงไม่ได้เลย เมื่อมีใครก็ตามมาหาฉันถึงหน้าบ้าน ฉันก็ผลักไสพวกเขากลับไป ไม่แม้แต่โทรหาหรือพูดคุยกับใครเลยฉันเพียงแค่ต้องการอยู่คนเดียวเพื่อทบทวนทุกสิ่งกับตนเอง บางครั้งฉันก็รู้สึกเหมือนทุกอย่างกำลังถาโถมใส่ และมันยากเกินจะรับมือได้ บางครั้งมันก็มากเกินไปจนฉันรู้สึกว่าภายในใจว่างเปล่า เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทำล
“แล้วทำไมมานั่งดื่มเหล้าอยู่ที่นี่แทนที่จะอยู่บ้านเป็นเพื่อนเอวา” เกเบรียลเอ่ยถามขณะเข้ามานั่งข้างผมตอนนี้ผมอารมณ์ไม่ดีมากนักถึงขั้นที่มองว่าสิ่งต่าง ๆ จากบริษัทน่ารำคาญ รวมถึงน้องชายตนเองด้วย ผมจึงเมินเฉยต่อคำถามเขาและดื่มวิสกี้เข้าไปอีกหนึ่งอึกผมนั่งอยู๋ในโซนวีไอพีของหนึ่งในร้านเหล้าที่เราชื่นชอบ เพลงเปิดเสียงดังกระหึ่ม ผีเสื้อราตรีต่างพากันโยกย้านและออกลวดลายกันอย่างสนุกสนาน พร้อมน้ำเมาที่ลอยล่อง และไม่สิ่งใดเป็นผลกับผมเลยค่ำคืนนี้ผมเพียงต้องการลืมเลือน ลืมภาพแห่งความทุกข์ระทมของเอวา ผมรู้ดึว่าอาจเป็นเป็นเพิ่งเรื่องเพ้อเจ้อหากคิดจะลืมเลือนนั้นเพราะว่าภาพนั้นยังคงฝังแน่นในจิตใจ แต่ผมก็อยากลองลืมภาพเหล่านั้นการอยู่บ้านกลายเป็นสิ่งที่น่าอึดอัดใจขึ้นมา บรรยากาศแห่งความรื่นรมย์น่ายินดีไม่มีอีกต่อไปแล้ว ผมปรารถนาให้มันกลายไปเป็นอย่างเดิมที่ควร แต่ก็ไม่รู้เลยว่าจะต้องทำอย่างไร ผมไม่รู้เลยจริง ๆ ว่า จะต้องแก้ไขเรื่องเหล่านี้อย่างไรดีคำพูดที่เคยออกจากปากไม่มีวันหวนกลับและไม่มีวันลบออกไปได้ ผมไม่สามารถย้อนเวลาไปแก้ไขความผิดพลาดได้ หากเป็นไปได้ ผมคงรีบลงมือทำไปแล้วเพราะผมรักเธอเหลือเ
หัวใจของผมแทบหยุดเต้นลง เมื่อความกลัวว่าเธอจำเรื่องทุกอย่างแล้วประดังเข้ามา“บอกผมหน่อยสิว่าเกิดอะไรขึ้น เอวา ผมช่วยไม่ได้ถ้าผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” ผมวิงวอนเธอน้ำตาของเธอยังคงไหลรินลงมาบนใบหน้า ความเจ็บปวดรวดร้าวบดบังดวงตาของเธอ มันทำให้หัวใจผมสลายจริง ๆ ที่เห็นเธอเป็นแบบนี้“ความทรงจำฉันกลับมาแล้ว” เธอกล่าวก่อนจะเริ่มหัวเราะราวกับเป็นบ้า “รู้ไหม ฉันอยากมีเซ็กส์กับคุณ ฉันอยากนอนกับคุณ แถมฉันยังบอกให้ตัวเองคุยกับคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะฉันต้องการคุณมาก พอฉันเห็นคุณช่วยตัวเองในห้องน้ำ ฉันก็อยากจะร่วมด้วย ฉันถึงกับจินตนาการว่าตัวเองกำลังออรัลเซ็กส์กับคุณในขณะที่คุณหลั่งบนหน้าอกของฉัน”ผมขมวดคิ้วแต่ก็เงียบไว้ อะไรบางอย่างบอกผมว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น และผมจะไม่ชอบสิ่งที่เธอจะพูดต่อไป “ฉันเคยรู้สึกกระหายคุณ โหยหาคุณ แต่สมองของฉันกลับย้ำเตือนบางสิ่งที่คุณเคยพูด” เธอสะอื้น “คุณอยากรู้ไหมว่ามันคืออะไร”ผมไม่อยากรู้ เพราะผมรู้ว่ามันจะทำลายการพัฒนาเล็ก ๆ ที่เรามีร่วมกัน แต่ผมก็ยังพยักหน้าตอบ“คุณพยายามจะทำให้ดีในการมีเซ็กส์ แต่คุณไม่เก่งเลย ทุกครั้งที่ผมอยู่ข้างในคุณ คนที่ผมต้องการคือเอ
โรแวนการเดตนั้นสมบูรณ์แบบ ถ้าผมเลือกได้ ผมคงไม่อยากให้มันจบลง ทุกช่วงเวลาที่ผมอยู่กับเธอเหมือนอยู่ในสวรรค์ และผมหวังว่าผมจะได้อยู่กับเธอเร็วกว่านี้ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าทำไมผมถึงไม่เคยให้โอกาสตัวเองได้มีความสุขกับเอวาเลย ผมรู้สึกแย่ที่เราอาจจะได้มีความสุขกันมาตลอดหลายปีนี้ถ้าผมปล่อยเอมม่าไปความรักที่ผมมีต่อเอมม่าคือความรักของวัยรุ่น มันคงไม่ยืนยาว เมื่อมันถูกทดสอบก็พังทลายลง สิ่งที่ผมรู้สึกต่อเอวานั้นเป็นแบบผู้ใหญ่ แข็งแกร่งและลึกซึ้งกว่าสิ่งที่ผมคิดว่ามันคือความรักตอนอายุสิบเจ็ดผมเริ่มเชื่อว่าเกเบรียลพูดถูก ความรักไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว เหมือนอย่างที่เขาพูด ผมคิดว่าลึก ๆ แล้วผมรักเอวา ผมแค่ปล่อยให้ความรู้สึกผิดที่ทำร้ายเอมม่าครอบงำผม ผมยื้อเอมม่าไว้เพราะรู้สึกว่าผมต้องการควบคุม ซึ่งการแต่งงานกับเอวาและอยู่กับเธอก็ทำให้รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุมของผมผมยังเชื่อด้วยว่าการปล่อยให้ความรู้สึกของผมที่มีต่อเอวาเติบโตขึ้นนั้นเหมือนกับการทรยศต่อความรักที่ผมมีต่อเอมม่า สิ่งที่ผมไม่รู้ในตอนนั้นก็คือความรักนั้นได้ตายไปนานแล้วผมถอนหายใจและถอดเสื้อผ้าออกก่อนจะมุ่งหน้าไปอา
“งั้นก็ตกลงตามนี้ เราจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ในบ้านนี้” โรแวนพูดขณะที่ฉันจ้องมองเขาฉันรู้สึกตกใจ แต่ก็มีความสุขไปพร้อม ๆ กัน ฉันอยากเปลี่ยนอะไรหลายอย่างมานานแล้ว แต่ฉันก็รู้ว่าเขาคงไม่ยอมแน่ไม่รู้สิ เหมือนกับว่านี่เป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าเขาปล่อยวางจากเอมม่าได้จริง ๆ และแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจฉันจริง“โอเค” ฉันยิ้มให้เขา ปล่อยให้ความจริงนั้นซึมลึกเข้าไปในใจ"เราสามารถปรึกษากับนักออกแบบตกแต่งภายในได้พรุ่งนี้ ผมมั่นใจว่าเบียงก้า เมเยอร์ส จะสามารถรับงานเราได้ แม้เธอจะมีตารางงานแน่นแค่ไหนก็ตาม คุณสามารถบอกเธอได้เลยว่าอยากได้อะไรแล้วปล่อยให้เธอจัดการ หรือจะเข้าไปมีส่วนร่วมด้วยก็ได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับคุณ"และเซอร์ไพรส์ก็ยังไม่หมด ทุกคนรู้จักเบียงก้า เมเยอร์ส เธอเป็นนักออกแบบตกแต่งภายในที่เก่งที่สุดในประเทศ และเธอทำงานเฉพาะให้กับคนรวยและผู้มีอิทธิพลเท่านั้น ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าฉันจะได้ร่วมงานกับเธอ“ตกลง” ฉันบอกเขาโดยพยายามเก็บความตื่นเต้นไม่ให้ล้นจนเกินไป “แต่ฉันอยากให้คุณกับโนอามีส่วนร่วม เพราะยังไงที่นี่ก็เป็นบ้านของพวกคุณเหมือนกัน และฉันก็อยากให้พวกคุณรู้สึกสบายใจที่นี่”"ผ
“ใช่แล้ว มันเป็นเรื่องจริง” ในที่สุดเขาก็ตอบฉันตกใจมาก ฉันคิดเสมอว่ามันเป็นแค่ข่าวลือโง่ ๆ“มันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน แล้วตอนนั้นคุณอายุเท่าไร? ไม่ใช่ว่าฉันตัดสินหรืออะไรทำนองนั้นนะ”“ผมอายุสิบเจ็ด ส่วนหล่อนอายุยี่สิบหก ผมคิดว่า... ผมเป็นเด็กหนุ่มฮอร์โมนพลุ่งพล่าน แถมแมนดี้โคตรเซ็กซี่ ผมอยากมีเซ็กส์กับคนที่อายุมากกว่าผมเสมอ และหล่อนก็ยิ่งทำให้มันง่ายขึ้นเมื่อหล่อนเอาหน้าอกของหล่อนมาแนบหน้าผม หรือกางขาออกในขณะที่ใส่กระโปรงตัวจิ๋วทุกครั้งที่หล่อนเรียกผมไปที่โต๊ะของหล่อน”ฉันประทับใจแต่ในขณะเดียวกันก็รังเกียจแมนดี้ ฉันหมายถึงเธอเป็นครูนะ ให้ตายเถอะ แต่กลับพยายามล่อลวงนักเรียนของตัวเอง ฉันเองก็เป็นครูเหมือนกัน และฉันจะไม่มีวันก้าวข้ามเส้นนั้นเด็ดขาด“คุณเป็นคนขอเองนะ” โรแวนพูดเมื่อสังเกตเห็นหน้านิ่วคิ้วขมวดของฉัน “ฉันรู้ แต่ฉันรู้สึกไม่สบายใจที่ครูตั้งใจจะล่อลวงนักเรียนอายุสิบเจ็ดปี”เขาเพียงแค่ยักไหล่ เหมือนกับว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่ หลังจากนั้นการสนทนาก็ผ่อนคลายลง ฉันเพลิดเพลินไปกับมันอย่างเต็มที่ ราวกับมันเป็นความฝันและฉันไม่อยากให้เดตจบลง เราคุยกันทุกเรื่องเป็นชั่วโมงภายใต้แสงจันท
ฉันจ้องมองเขาอย่างมึนงง ไม่รู้จะพูดหรือทำอะไรดี“คุณชอบกลิ่นหอม และคุณชอบกลิ่นที่มีเบอร์รี่ผสมอยู่มากกว่า ขอแค่น้ำหอมหรือสบู่เหลวอาบน้ำมีส่วนผสมของเบอร์รี่ คุณก็จะยอมซื้อ คุณไม่มีอาหารจานโปรดจริง ๆ เพราะคุณจะกินอะไรก็ได้ตราบใดที่มันอร่อย คุณชอบอาบน้ำอุ่นนาน ๆ เพราะมันทำให้คุณผ่อนคลาย คุณเกลียดความสูง คุณเกลียดการไปสาย และคุณเกลียดการขึ้นเครื่องบินด้วย คุณเกลียดแมลงสาบ คุณมักจะพูดว่าอยากให้บ้านของคุณเต็มไปด้วยแมงมุมมากกว่าพวกแมลงสีน้ำตาลน่ารังเกียจนั่น... ให้ผมจะพูดต่อไหม”เขาไม่ให้โอกาสฉันตอบ“คุณชอบรวบผมเป็นหางม้าและมวยผม คุณไม่ชอบแต่งหน้ามากนักและแต่งหน้าเฉพาะเมื่อจำเป็นหรืออยากแต่ง คุณไม่ชอบนอนหงายเพราะมันทำให้คุณนึกถึงคนตายในโลงศพ คุณเกลียดความไม่เป็นระเบียบและสีเหลืองด้วย…”ฉันยกมือให้เขาหยุดพูดเพราะฉันพูดอะไรไม่ออกเลย ทุกอย่างที่เขาพูดเป็นความจริง ฉันไม่เข้าใจเลยว่าเขารู้เรื่องทั้งหมดนี้ได้ยังไง เพราะเราไม่เคยสนิทกันมาก่อน ครอบครัวชาร์พคงไม่ได้บอกเขาหรอก เพราะพวกเขาแทบจะไม่รู้จักฉันด้วยซ้ำ“ได้ยังไง?” ฉันพูดติดขัด ในหัวไม่สามารถประมวณผลทุกอย่างได้“ผมบอกคุณแล้ว” เขากล่าวพร้
ฉันมองออกไปนอกรถแล้วตะลึงงัน สถานที่แห่งนี้ดูราวกับเป็นสวรรค์ มันเป็นพื้นที่โล่งกว้างที่มีหญ้าเขียวขจีและคงมีดอกไม้มากมายนานาพันธุ์ นั่นไม่ใช่สิ่งที่ฉันชอบที่สุดของที่นี่ แต่มันคือเพราะทิวทัศน์ต่างหาก ดวงดาวนับพันเปล่งแสงระยิบระยับราวกับกำลังเห็นด้วยกับเดตนี้“คุณชอบไหม” โรแวนถาม และคำตอบเดียวของฉันคือการพยักหน้าฉันค่อย ๆ ออกจากรถ สูดอากาศบริสุทธิ์และชมทิวทัศน์ที่สวยงามจับใจ ฉันเดินไปเกือบถึงขอบถนนและมองลงไปที่เมืองเบื้องล่าง ฉันไม่รู้ว่าโรแวนไปเจอสถานที่แห่งนี้ได้อย่างไร และฉันก็ไม่สนใจฉันหลับตาลง รู้สึกว่าความกังวลทั้งหมดมลายหายไป นี่คือฉากในแบบที่ฉันชอบ ฉันชอบมันมากเมื่อฉันหันกลับไป ฉันพบว่าโรแวนจัดเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว มีผ้าห่มและตะกร้าปิกนิกพร้อมสิ่งที่ฉันเดาว่าเป็นช็อกโกแลต สตรอเบอร์รี่และไวน์ นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารที่เราสั่งอยู่ด้วยฉันเดินช้า ๆ ไปหาเขา ถอดรองเท้าและนั่งลงข้าง ๆ เขา “นี่มันสุดยอดเลย โรแวน ขอบคุณนะคะ”เขาพยักหน้า “อะไรก็ตามที่จะทำให้คุณมีความสุขที่รัก ตอนนี้เรามาทานอาหารกันเถอะ เพราะผมหิวจะแย่แล้ว”เราทานอาหารกันเงียบ ๆ ฉันใช้โอกาสนี้ชื่นชมทิวทัศน์
การเดินทางใช้เวลาไม่นานนัก และนอกจากการคุยกันเล็กน้อยเป็นครั้งคราว เราก็เงียบกันเกือบตลอดเวลา แต่ก็เป็นครั้งแรกเท่าที่ฉันจำได้ ที่ความเงียบระหว่างเราให้ความรู้สึกสบายใจในช่วงเวลาที่หาได้ยากที่เราขับรถไปด้วยกัน โรแวนมักจะพยายามทำเป็นไม่สนใจฉัน ขณะที่ฉันพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อชวนเขาคุย ซึ่งมันมักจะทำให้บรรยากาศดูอึดอัดและแปลก ๆ เสมอ“คุณยิ้มทำไม” ฉันถามเขาเมื่อเขาลงจากรถเพื่อช่วยฉันออกจากรถรอยยิ้มของเขาควรจะเป็นอาวุธทำลายล้างสำหรับผู้หญิงโดยแท้ แน่นอนว่าเขาหล่ออยู่แล้ว แต่เมื่อโรแวนยิ้ม มันยิ่งทำให้ความหล่อของเขาก้าวไปอีกระดับหนึ่ง“ผมจะมีความสุขที่พาผู้หญิงของตัวเองออกมาข้างนอกไม่ได้เหรอ” เขาถามพร้อมเอียงศีรษะเล็กน้อยไม่รู้ทำไม ฉันถึงหัวเราะคิกคักขึ้นมา ทั้ง ๆ ที่ปกติฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่จะหัวร่อต่อกระซิก ฉันไม่เคยหัวเราะแบบนี้มาก่อนเลยทั้งชีวิต จริง ๆ แล้วฉันเคยคิดว่ามันดูน่ารังเกียจด้วยซ้ำเมื่อเห็นผู้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่แล้วทำแบบนี้ แต่ตอนนี้ฉันกลับเป็นคนที่ทำเสียเอง“ขอโทษที ฉันไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงหัวเราะแบบนั้น” ฉันเอ่ยขอโทษขณะที่พยายามรวบรวมสติเขาจับมือฉัน และฉันก็คล้อ
ฉันมองตัวเองในกระจก และมีความสุขกับลุคของตัวเอง ฉันเกล้าผมเป็นมวยต่ำและม้วนผมเป็นลอนเข้ากับกรอบหน้า คืนนี้ฉันต้องการอะไรที่แปลกใหม่ เพราะเป็นเดตครั้งแรกของฉันกับโรแวน ฉันจึงตัดสินใจเลือกอายแชโดว์สีสโมกี้ที่ดูไม่ฉูดฉาดแต่เย้ายวนกับลิปสติกสีแดงส่วนชุดเดรส ฉันเลือกชุดเดรสสีดำยาวระดับเข่า มีคอเสื้อเว้าลึกที่ยึดด้วยสายรัดบาง ๆ เผยให้เห็นเนินอกเล็กน้อย พอให้ดูยั่วยวนแต่ไม่เกินงาม อีกทั้งเป็นชุดเปิดหลังซึ่งฉันมั่นใจว่าจะทำให้บรรดาหนุ่ม ๆ ต้องคลั่งฉันยังคงจ้องมองตัวเองในขณะที่ลูบมือไปตามเนื้อผ้าที่นุ่มนวล ชุดนี้เข้ารูปพอดีตัว และต้องขอบคุณที่ฉันเพิ่งผ่านช่วงตั้งครรภ์ เลยทำให้ตอนนี้ฉันมีส่วนเว้าโค้งที่พอดิบพอดี“โอ้โหที่รัก ถ้าฉันไม่ได้ชอบผู้ชาย ฉันคงจีบเธอไปแล้วแน่ ๆ” เล็ตตี้กล่าวชมด้วยน้ำเสียงปลื้มปริ่ม “เธอเซ็กซี่มาก แบบที่ไม่มีอะไรจะเทียบได้เลย” “เธอพูดถูก” โครินพูดเสริมพวกเธอกลับไปเมื่อสองสามชั่วโมงก่อน ตอนนี้เรากำลังคุยกันทางวิดิโอคอล เพราะฉันต้องการฟังความคิดเห็นที่จริงใจของพวกเธอ เดตครั้งนี้สำคัญมาก อย่างที่ฉันบอก นี่เป็นเดตครั้งแรกของโรแวนกับฉัน ฉันจึงอยากให้ทุกอย่างออกมาสมบูร