Share

บทที่ 108

Author: เอเวอลีน เอ็มเอ็ม
“การค้นหาของผมนำพาผมให้มาพบกับคุณ ผมรู้ว่าผมต้องฆ่าคุณ ถ้าคุณไม่มีตัวตน ข้อตกลงนั้นก็ถือเป็นโมฆะ ผมจึงมาที่นี่ และหลังจากถามเกี่ยวกับคุณ ผมก็ได้รับข้อมูลมากมาย เมื่อพิจารณาว่าผู้คนเกลียดคุณมากเพียงใด รวมถึงสามีและครอบครัวของคุณด้วย ผมก็คิดว่าสิ่งที่ผมจะทำจะเป็นการตอบสนองความต้องการของพวกเขา ยังไงซะผู้หญิงที่แย่งแฟนของพี่สาวตัวเองได้ก็ไม่น่าจะเป็นคนที่คุ้มค่าที่จะรู้จักหรือมีดีอะไร”

ฉันหายใจไม่ทันเมื่อได้ยินแบบนั้น ฉันยังคงไม่อยากเชื่อว่าผู้ชายคนที่รับรองกับฉันว่าคืนนั้นกับโรแวนเมื่อเก้าปีก่อนไม่ใช่ความผิดของฉัน คือผู้ชายคนเดียวกันที่คิดว่าฉันไม่สมควรมีชีวิตอยู่เพียงเพราะเรื่องนั้น

ฉันพยายามหายใจเข้าท่ามกลางความเจ็บปวด แต่มันช่างยากเหลือเกิน

“ผมต้องชี้แจงว่าครั้งแรกที่มีคนจะฆ่าคุณไม่ใช่ฝีมือผม แต่ผมคว้าโอกาสนั้นไว้ ผมเห็นโอกาสที่จะเข้าใกล้คุณและผมก็คว้ามันไว้ มีวิธีใดจะดีไปกว่าการเป็นฮีโร่เพื่อให้คุณไว้วางใจ มันได้ผลและคุณก็เปิดประตูต้อนรับผม”

บ้าเอ้ย มันเจ็บปวดมาก การรู้ว่าเขาตั้งใจจะเล่นงานฉันตั้งแต่ต้น และฉันตาบอดเกินกว่าจะมองเห็นความจริง มันทำให้ฉันแตกสลาย

“ทำไมคุณต้องตีสนิทฉัน
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
บุญช่วย หลำอ่วม
ต่ออีกนะคะกำลังสนุกเลยลุ้นอยู่ตลอดเลย
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ธุลีใจ   บทที่ 109

    ฉันตื่นนอนตอนเกือบเที่ยง ตอนแรกฉันคิดว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่ควรจะเป็น แต่แล้วทุกอย่างก็พังทลาย มันไม่ใช่ฝันร้ายอย่างที่ฉันคิด อีธานหักหลังฉันจริง ๆฉันรู้สึกน้ำตาคลอเบ้า ฉันร้องไห้จนหลับไปเมื่อวานและเหนื่อยกับการร้องไห้มาก ฉันเข้านอนโดยหวังว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปเมื่อฉันตื่นขึ้น ฉันภาวนาให้เกิดปาฏิหาริย์ แต่ปรากฏว่าตอนนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย สิ่งที่ฉันต้องการให้เป็นเพียงฝันร้ายคือความจริงฉันค่อย ๆ ลุกจากเตียง ฉันไม่มีพลังงานที่จะทำอะไร แต่ฉันก็รู้ว่าฉันไม่สามารถนอนหลับและจมอยู่กับเตียงตลอดทั้งวันได้ฉันอาบน้ำเนิ่นนานและหวังว่ามันจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น แต่ไม่เป็นอย่างนั้น ฉันไม่คิดว่าจะมีอะไรทำให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นดีขึ้นได้หลังจากที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดและกางเกงโยคะแล้ว ฉันก็ไปที่ห้องครัวเพื่อกินอะไรซักอย่าง ฉันกำลังหยิบไข่ออกมาอยู่พอดีเมื่อกริ่งประตูบ้านของฉันดังขึ้น ฉันถอนหายใจด้วยความพ่ายแพ้ ฉันไม่รู้สึกอยากเจอใครเลย ฉันแค่อยากอยู่คนเดียว“สวัสดี” เล็ตตี้พูดพร้อมรอยยิ้มเล็กน้อยเมื่อฉันเปิดประตูเธอดูเหนื่อยและอ่อนล้าเหมือนกับฉัน แต่เธออาจจะเหนื่อยทางกายมากกว่าฉันที่เ

  • ธุลีใจ   บทที่ 110

    ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าใครแย่กว่ากันระหว่างโรแวนที่ใช้ฉันเพื่อมีเซ็กส์ในขณะที่เขาคิดถึงเอมม่า หรืออีธานที่หลอกฉันและยังใช้ฉันเพื่อมีเซ็กส์ในขณะที่เขาวางแผนจะฆ่าฉันเธอถอนหายใจ “ฉันไม่อยากพูดจาหยาบคาย แต่ฉันจะพูดความจริงกับคุณ ถ้าฉันรู้ว่าคุณคิดแบบนี้มาตลอด ฉันคงหยุดมันไปแล้ว”“คุณกำลังพูดถึงอะไร?”“คุณจะคอยตามหาผู้ชายที่รักคุณไม่ได้” เธอถอนหายใจอีกครั้ง “ฉันจะอธิบายเรื่องนี้โดยไม่ทำให้คุณเจ็บปวดไปกว่านี้ได้อย่างไร… คุณคบกับอีธานเพราะต้องการให้ใครสักคนรักคุณ คุณไม่สามารถทุ่มความคาดหวังทั้งหมดของคุณกับคนอื่นได้ คุณจะคิดว่าผู้ชายที่รักคุณจะรักษาบาดแผลที่โรแวนและครอบครัวของคุณทำเอาไว้ไม่ได้”ฉันไม่ทันได้พูดอะไรก่อนที่เธอจะพูดต่อ“คุณสร้างจินตนาการนี้ขึ้นมาและฉันไม่เคยรู้จนกระทั่งเมื่อเร็วนี้ คุณคิดว่าเมื่อคุณพบผู้ชายที่รักคุณ ทุกอย่างจะลงตัว แต่คนเดียวที่จะสามารถรักษาบาดแผลนั้นในหัวใจของคุณได้ก็คือตัวคุณเอง คุณเท่านั้นที่จะสามารถรักตัวเองในแบบที่คุณต้องการให้คนอื่นรัก คุณต้องรักตัวเองก่อน และจากที่ฉันเห็น คุณไม่เคยรักตัวเองเลย” เธอทรุดตัวลงบนพนักพิงโซฟา“คุณคิดผิด” ฉันจ้องเธอด้วยท่าทางป้

  • ธุลีใจ   บทที่ 111

    “เข้ามาก่อนค่ะ” เล็ตตี้พูดจากด้านหลังฉัน ทำให้ฉันตกใจสุดขีดฉันรู้ตัวว่าเพิ่งจ้องพวกเขาอย่างโง่เขลา ไม่รู้จะพูดอะไรกับพวกเขาดีฉันขยับเข้าไปข้าง ๆ แล้วปล่อยให้พวกเขาเดินผ่านไป จิตใจของฉันยังคงสั่นคลอนจากความจริงที่ว่าตอนนี้ครอบครัวโฮเวลล์อยู่ในบ้านของฉัน และพวกเขาก็อาจจะเป็นครอบครัวของฉัน“คุณออกมาได้ยังไง?” ฉันหันไปถามอีธานทันทีที่เราทุกคนนั่งลงเขาพูดเพียงว่า “ประกันตัว” สายตาของเขามองไปทุกที่ยกเว้นที่ฉันเมื่อวานนี้ ไบรอันได้ถามฉันว่าฉันต้องการแจ้งความกับอีธานหรือไม่ เขาบอกว่ามันจะทำให้คดีของเรากับอีธานแข็งแกร่งขึ้นฉันไม่สามารถตอบเขาได้เพราะไม่แน่ใจ ใช่ ฉันเข้าใจว่าสิ่งที่เขาทำกับฉันมันแย่มาก และฉันไม่รู้ว่าฉันจะให้อภัยเขาหรือลืมเขาได้หรือเปล่าแต่นอกเหนือจากนั้น อีธานก็ยังสอนอะไรฉันหลายอย่างเกี่ยวกับตัวฉันและชีวิต ฉันแค่ไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถดำเนินคดีกับเขาได้หรือไม่ทราวิสตัดสินใจแจ้งความและกรมตำรวจก็เช่นกัน เพื่อเข้าไปในองค์กรนั้น อีธานได้ปลอมแปลงเอกสาร แม้ว่าฉันเองจะแจ้งดำเนินคดีต่อเขาไม่ได้ แต่ไบรอันก็บอกว่าพวกเขาจะยังดำเนินคดี เพราะพวกเขาได้เปิดคดีเกี่ยวกับฉันเมื่อเร

  • ธุลีใจ   บทที่ 112

    ฉันอยากจะเชื่อเธอแต่ทำไม่ได้ ครอบครัวที่เลี้ยงฉันมาไม่รักฉันเลย และพวกเขาอยู่กับฉันมา 28 ปีแล้ว ฉันไม่คาดหวังว่าโนรากับธีโอจะรักฉัน พวกเขาไม่รู้จักฉัน และจากสิ่งที่เห็น พวกเขาก็รักอีธานจริง ๆ“คุณแน่ใจได้ยังไงว่าฉันเป็นลูกสาวของคุณ?” ฉันถามขึ้น “อีธานอาจจะสับสน หน้าตาของฉันไม่คล้ายพวกคุณด้วยซ้ำ”พวกเขาหน้าตาดีจนเหมือนไม่ได้มาจากโลกใบนี้ ส่วนฉันแค่หน้าตาธรรมดา ๆ รูปลักษณ์ของฉันไม่มีอะไรโดดเด่นเลยอีธานตอบพร้อมส่งซองจดหมายให้ฉัน “ผมเอาเส้นผมของคุณไปตรวจดีเอ็นเอแล้ว พบว่าตรงกันร้อยเปอร์เซ็นต์”ฉันเปิดอ่านเนื้อหา เขาไม่ได้โกหก จริงอยู่ที่ดีเอ็นเอของฉันตรงกับของโนราและธีโอ“หนูได้ผมสีน้ำตาลจากฉัน และดวงตาสีน้ำตาลสวยงามจากแม่ของหนู” ธีโอพูดต่อหลังจากอีธาน “ถึงแม้จะไม่มีลักษณะทางกายภาพเหล่านั้น ฉันก็ยังรู้ได้อยู่ดี ลึกๆ แล้ว ฉันรู้ว่าหนูเป็นลูกสาวที่ถูกพรากจากเราไปเมื่อยี่สิบแปดปีก่อน”ฉันหันหลังให้พวกเขาเมื่อน้ำตาของฉันเริ่มไหล มันมากเกินไปที่จะรับได้ ชีวิตของฉันทั้งหมดเป็นเรื่องโกหก ฉันไม่รู้ว่าจะรับมือกับมันอย่างไร ทุกการดูถูกที่ฉันได้รับจากครอบครัวชาร์พ ทุกความเกลียดชัง ทุกความเจ็บป

  • ธุลีใจ   บทที่ 113

    “ไอ้เวรนั่นมาทำอะไรที่นี่?” โรแวนตะโกนเสียงดัง ดวงตาสีเทาเย็นชาจ้องไปที่อีธานอย่างดุร้ายฉันไม่อยากให้ค่ากับความงอแงของเขาเลยจริง ๆ ใช่ เขาช่วยฉันไว้เมื่อวาน แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาจะมีสิทธิ์ตัดสินใจว่าใครสามารถเข้าบ้านฉันได้บ้างธีโอ หรือฉันควรพูดว่าพ่อของฉันกระแอม ฉันคงต้องใช้เวลาสักพักถึงจะชินกับการที่จะเรียกเขาว่าพ่อเสียงของเขาดึงดูดสายตาของทุกคนให้หันไปหาเขา“ธีโอ โฮเวลล์เหรอ?” โรแวนถามด้วยความประหลาดใจแต่เขาก็รีบซ่อนมันไว้ “คุณมาทำอะไรที่นี่ครับ?”โรแวนมองระหว่างพวกเราทุกคน สายตาของเขามองจากธีโอและโนราแล้วมองกลับมาที่ฉัน ขณะที่เชื่อมโยงจุดต่าง ๆ เข้าด้วยกันอย่างช้า ๆ“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะโรแวน แต่ฉันขอพูดไว้เลยว่าฉันไม่ปลื้มกับวิธีที่นายปฏิบัติต่อลูกสาวของฉัน” ธีโอพูดด้วยรอยยิ้มอันตราย“ที่เขาจะบอกก็คือ เราโกรธมากกับวิธีที่คุณและครอบครัวของคุณปฏิบัติต่อลูกสาวของเรา และเราไม่อยากร่วมงานกับคนนิสัยแบบนั้น” โนราเสริม เธอไม่ได้ยิ้ม และนี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เธอมาที่บ้านของฉันที่ฉันรู้สึกถึงความเป็นศัตรูและความเกลียดชังที่แผ่ออกมาจากตัวเธอ“เป็นไปได้ยังไง?” ทราวิสตกใจจน

  • ธุลีใจ   บทที่ 114

    ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้น ฉันถึงได้ลงเอยกับพวกเขา“แล้วทำไมคุณถึงรับเลี้ยงฉันล่ะถ้าคุณไม่ได้ต้องการฉัน?” ฉันถามทุกคนเงียบขณะที่เธอตอบ “เมื่อทราวิสอายุได้สองขวบ เขาวิ่งออกจากบ้าน พอฉันรู้ตัว เขาก็กำลังจะข้ามถนนแล้วและมีรถกำลังวิ่งเข้ามา ฉันรู้ว่าฉันจะไปหาเขาไม่ทัน ฉันกรีดร้องด้วยความกลัว ความกลัวของฉันคงทำให้วินนี่ตื่นตัว ฉันไม่รู้ว่าเธอทำได้อย่างไร หรือเธออยู่ที่ไหน หรือเธอเคลื่อนไหวอย่างไร แต่เธอช่วยทราวิสไว้ในวันนั้น สุดท้ายเธอก็โคม่าเป็นเวลาสองเดือน พวกเขาตัดมือขวาของเธอออกเพราะมันเสียหายมากเกินไป เธอยังเดินกะเผลกตั้งแต่นั้นมาเพราะสะโพกได้รับบาดเจ็บถาวร”เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะปล่อยลมหายใจออกมา “เราตอบรับคำขอของเธอเพราะรู้สึกว่าเราเป็นหนี้เธอ แม้เราจะพยายามชดเชยให้เธอมากเพียงใด มันก็ไม่เคยเพียงพอต่อการช่วยชีวิตทราวิสและสิ่งที่เธอต้องเผชิญ ดังนั้นเมื่อเธอเสียชีวิต เราจึงรับเอวามาเลี้ยง”ฉันก้มหน้าลงและบ่นพึมพำ “คุณไม่น่าทำแบบนั้นเลย คุณควรจะเอาฉันไปส่งสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้า มันคงดีกว่าชีวิตที่ฉันได้รับจากตอนที่อยู่กับคุณ”ฉันจำไม่ได้เลยว่าเคยมีความทรงจำดี ๆ กับพวกเขา พวกเขาล้

  • ธุลีใจ   บทที่ 115

    เอมม่า“ฉันยังคงไม่อยากเชื่อว่าเอวาเป็นลูกตระกูลโฮเวลล์” ทราวิสพูดขณะที่เราเข้าไปในบ้านของพ่อแม่เราฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อข่าวนี้เช่นกัน ทุกอย่างดูไม่จริงเลย เหมือนกับว่าไม่ว่าจะอย่างไรฉันก็ไม่สามารถเชื่อสิ่งที่ถูกเปิดเผยได้“ใช่ไหม?” ฉันพึมพำฉันคิดว่าฉันมีข้อได้เปรียบเหนือเธอ การรู้ว่าเธอถูกอุปถัมภ์เป็นความรู้สึกที่ดีที่สุด หลังจากที่อีธานบอกเราว่าพ่อแม่ของเธอเป็นคนรวย ความรู้สึกดี ๆ ทุกอย่างก็พังทลายลง ฉันอยากให้เธอมาจากครอบครัวที่ยากจน นั่นจะทำให้ฉันมีข้อได้เปรียบเหนือเธอ แม้ว่าตอนนี้เธอจะรวยก็ตามถ้าเธอมาจากครอบครัวที่ยากจน ฉันก็คงจะดีกว่าเธอเสมอ เหนือกว่าเธอในทางหนึ่ง ในสังคมของเราคุณจะได้รับความเคารพมากกว่าหากครอบครัวของคุณมีเส้นสาย หากครอบครัวของคุณมีรากฐานและสืบเชื้อสายมาจากครอบครัวที่มีฐานะดี ถ้าคุณร่ำรวยเอง พวกเขาก็จะเคารพคุณ แต่คุณจะได้รับความเคารพมากกว่าหากมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยอยู่แล้วฉันหวังว่าจะเป็นอย่างนั้นเมื่ออีธานบอกเราว่าเธอถูกอุปการะ ฉันคิดว่าพ่อแม่ของเธออาจไม่มีเงินเลี้ยงเธอ หรืออาจเป็นเพราะติดยา และพวกเขาจึงตัดสินใจให้คนอื่นอุปการะเธอ นั่นคงเป็นรอยด่างใหญ

  • ธุลีใจ   บทที่ 116

    แม้แต่ตอนนี้ที่ฉันกลับมาและมั่นใจว่าทุกอย่างกำลังไปได้ดีกับโรแวน แม่นั่นก็ทำให้ทุกอย่างพังลง โรแวนแทบไม่สนใจฉันเลยในตอนนี้ นับตั้งแต่งานเลี้ยงอาหารเย็นวันนั้น เขาไม่เคยโทรหรือมาดูเลยว่าฉันเป็นอย่างไรบ้างความสนใจของเขาเอนเอียงไปหาเอวาทั้งหมด ด้วยเหตุนี้ฉันจึงเกลียดผู้หญิงคนนั้นมากขึ้นไปอีก เพราะนี่เป็นอีกครั้งที่หล่อนพรากเขาไปจากฉัน สำหรับฉันมันยากที่จะยอมรับได้ว่าทุกอย่างเปลี่ยนไป โรแวนไม่ใช่ผู้ชายคนเดียวกับคนที่รักฉันหมดทั้งใจคนนั้นอีกแล้ว ตัวเขาเองอาจไม่รู้ แต่ฉันสามารถพูดได้เต็มปากว่าเขามีความรู้สึกมากมายให้แก่เอวา ฉันไม่รู้ว่าความรู้สึกเหล่านั้นคืออะไร แต่มันมีอยู่แน่นอน ฉันกลัวเหลือเกินว่าเขาจะตกหลุมรักแม่นั่น ฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรถ้ามันเป็นเรื่องจริง มันคงทำให้ใจฉันแตกสลายฉันคว้าโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเพื่อนสนิท“หวัดดีค่ะเพื่อน” มอลลี่รับสายตั้งแต่เสียงเรียกเข้าแรกดังฉันล้มตัวลงบนเตียงและพยายามกลั้นน้ำตา “ทุกอย่างกำลังพังไปหมดเลยมอลลี่ ฉันไม่รู้ว่าจะทำยังไงแล้ว”ฉันรู้สึกเหนื่อยล้าและหมดแรง ทุกสิ่งช่างน่าหน่ายใจเหลือเกิน และรู้สึกเหมือนกำลังแบกภาระหนักบนบ่า“เล่ามาก่อ

Latest chapter

  • ธุลีใจ   บทที่ 462

    เรียกฉันว่าคนขี้ขลาดก็ได้ ฉันไม่สน แต่ฉันแค่ไม่รู้ว่าจะเผชิญหน้ากับเขาอย่างไรเมื่อฉันไปถึงห้องนั่งเล่น ฉันโทรสั่งอาหารเช้าให้มาส่งที่ห้องของเรา ก่อนจะนั่งลงรอฉันรู้ว่านี่จะเป็นหายนะตั้งแต่ตอนที่เกเบรียลบอกว่าเราจะใช้ห้องร่วมกัน ฉันคิดว่าหมอนจะช่วยได้ แต่ฉันแค่หลอกตัวเอง มันไม่ได้ช่วยอะไรได้เลยเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉันก็เดินไปเปิด"อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณผู้หญิง" พนักงานเสิร์ฟทักทาย พร้อมรอยยิ้มบนใบหน้า"อรุณสวัสดิ์ค่ะ""ให้ดิฉันวางตรงไหนดีคะ?" เธอถามขณะที่ฉันหลีกทางให้เธอเข้ามา"บนโต๊ะอาหารก็ได้ค่ะ" ฉันตอบเธอเธอพยักหน้าและเดินไปที่นั่น เธอเพิ่งวางอาหารเช้าลงและกำลังจะออกไป เกเบรียลก็เดินออกจากห้องนอนพร้อมมือที่กำลังติดกระดุมเสื้อฝีเท้าเธอเริ่มช้าลง และเธอเกือบจะสะดุดเมื่อมองเห็นเขา เกเบรียลเป็นผู้ชายที่ดูดีมาก ดังนั้นฉันจึงไม่โทษเธอหรอก"ขอบคุณค่ะ" ฉันพูดเมื่อรู้ว่าสายตาของเธอยังคงอยู่ที่เกเบรียล ขณะที่สายตาของชายหนุ่มก็อยู่ที่ฉันเสียงของฉันดึงเธอออกจากภวังค์ เธอพยักหน้าก่อนจากไป เมื่อเธอไปแล้ว ฉันก็ปิดประตูให้เรียบร้อย"แล้วยังไงดี คุณจะแกล้งทำเหมือนไม่มีอะไรเก

  • ธุลีใจ   บทที่ 461

    ให้ตายเถอะ แค่คิดถึงคืนนั้นรวมถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นตอนนี้ ก็ทำให้ฉันรู้สึกวูบวาบไปทั้งตัวแล้ว ฉันขยับตัวเล็กน้อย หวังว่าจะช่วยให้รู้สึกสบายขึ้นและบรรเทาความปั่นป่วนในร่างกาย แต่มันกลับทำให้ทุกอย่างแย่ลง เพราะการขยับตัวทำให้ร่างกายแนบชิดกับเกเบรียลมากขึ้นกว่าเดิมเกเบรียลส่งเสียงครางต่ำ แหบพร่า และเร้าอารมณ์ เช่นเดียวกับที่เขาเคยเปล่งออกมาในคืนนั้น ทุกครั้งที่เขาเคลื่อนไหว เสียงนั้นพุ่งตรงเข้าสู่ความรู้สึกของฉัน ทำให้ฉันหยุดพยายามจะขยับตัวให้สบายขึ้นฉันค่อย ๆ หันไปมองเขา หวังว่าเขาจะยังหลับอยู่ พอเห็นว่าเปลือกตาของเขายังคงปิดสนิท ฉันก็รู้สึกโล่งใจ แต่แล้วหัวใจก็เต้นแรงขึ้นเมื่อได้มองใบหน้าของเขาชัด ๆตอนหลับ เขาดูสงบและงดงามเหลือเกิน ขนตายาวทอดเงาบนแก้ม ริมฝีปากเผยอเล็กน้อย เพียงแค่มองฉันก็เกิดความรู้สึกอยากสัมผัสเขา อยากแนบจูบลงไปบนริมฝีปากนั้นฉันกำลังจมดิ่งลงไปอีกครั้ง กับผู้ชายที่กุมหัวใจฉันไว้ตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน คนเดียวกับที่ตอนนี้กำลังขอในสิ่งที่ฉันไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นไปได้ฉันหลงใหลในตัวเขามาก จนกระทั่งฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจนสายเกินไปเสียงครางหลุดออกจากริมฝีปากขอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 460

    มื้อค่ำที่เหลือเป็นไปอย่างเงียบสงัด เขาก็ยังต้องขอโทษฉันอยู่แต่ฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี ถ้าจะพูดตามตรง ฉันไม่เคยคิดว่าเกเบรียลจะมาขอโทษฉันเลย ดังนั้นการที่เขาทำแบบนั้นและทำด้วยความจริงใจแบบนี้ทำให้ฉันพูดไม่ออกจริง ๆเรารับประทานมื้อค่ำเสร็จและโทรเรียกพนักงานจากด้านล่างให้มาเก็บจาน"ฉันจะไปนอนแล้วนะ มีอะไรที่คุณอยากได้ก่อนหรือเปล่า?" ฉันถามเมื่อจานอาหารถูกเก็บไปและพนักงานจากโรงแรมก็ออกจากห้องไปแล้วลึก ๆ ในใจฉันกำลังตกใจและกังวลที่จะต้องนอนในห้องเดียวกับเกเบรียล แต่ความเหนื่อยจากการเดินทางก็ทำให้ความวิตกกังวลหายไป"ผมเองก็จะไปนอนเหมือนกัน เหนื่อยสุด ๆ เลย"ฉันพยายามกลั้นความตกใจที่เริ่มปะทุขึ้นมาในใจ ฉันคิดว่าจะนอนก่อนเขาเหมือนที่เคยทำ นั่นจะทำให้ฉันมีเวลาได้ผ่อนคลายและพักผ่อนก่อนที่เขาจะเข้ามานอน ฉันนึกไว้ว่าจะหลับไปแล้วก่อนที่เขาจะขึ้นมานอนฉันกัดฟันอย่างหงุดหงิดและเครียด ก่อนจะพยักหน้าหงุดหงิดแล้วเดินไปห้องนอน"คุณชอบนอนด้านไหน?" เขาถาม ขณะที่เดินเข้ามาหยุดอยู่ที่ข้างเตียง"ฉันไม่ค่อยมีความชอบอะไรหรอก ขอแค่ได้นอน ด้านไหนก็เหมือนกัน"“รู้เรื่อง งั้นผมนอนฝั่งซ้ายนะ คุณก็ฝั่งขวาแล้

  • ธุลีใจ   บทที่ 459

    "อาบน้ำเสร็จแล้ว" ฉันบอกเกเบรียลเมื่อก้าวออกมาที่ห้องนั่งเล่น"ผมสั่งอาหารไว้แล้ว กินก่อน ไม่ต้องรอผมได้เลยนะครับ" เขาพูดก่อนเดินผ่านฉันเข้าไปในห้องนอนมันรู้สึกแปลกที่จะเริ่มรับประทานโดยที่ไม่มีเขาและฉันก็ไม่ได้หิวมากนัก ฉันเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูอีเมล และดูว่าวันพรุ่งนี้ต้องทำอะไรบ้างฉันไม่ต้องรอนาน เพราะไม่ถึงสิบนาทีต่อมา เกเบรียลก็เดินออกมาจากห้องนอนในเสื้อยืดเก่า ๆ และกางเกงวอร์ม“ยังไม่กินเหรอ?” เขาถามพลางเลิกคิ้ว สายตาจ้องมองอาหาร“ก็รู้สึกไม่ดีนี่นาที่กินก่อนคุณแบบนั้น แถมคุณเป็นคนสั่งอาหารมาด้วย”เขาทิ้งตัวลงนั่ง ก่อนจะเริ่มเปิดจานอาหาร ฉันตักอาหารเล็กน้อยแล้วเริ่มรับประทาน ความเหนื่อยถาโถมเข้ามา แม้ว่าฉันจะได้นอนบนเครื่องบินแล้วก็ตาม ฉันไม่อาจหยุดคิดถึงเตียงได้ ตอนแรกฉันไม่ชอบใจนักเรื่องการนอนร่วมเตียงกับเกเบรียล แต่ตอนนี้ฉันกลับเอาแต่คิดถึงมันเสียแล้ว ร่างกายร้องหาเพียงการพักผ่อน“แล้วคุณล่ะ เคยตกหลุมรักใครไหม?” คำถามเกเบรียลทำเอาฉันประหม่าฉันหันขวับไปมองเขา เจอสายตาคมกริบที่จ้องตรงมา ฉันกลืนอาหารลงคอและให้ปากทำหน้าที่ ตอนนี้คงมีอยู่แค่สองทางเลือก ไม่โกหกออกไป ก็บอ

  • ธุลีใจ   บทที่ 458

    ไม่กี่นาทีต่อมา เรามายืนอยู่หน้าห้องสวีท ความรู้สึกตื่นเต้นแปลก ๆ จู่โจมฉันทันที เกเบรียลไขกุญแจและผลักประตูเข้าไปโถงทางเข้าต้อนรับเราด้วยพื้นหินอ่อนขัดมันที่เปล่งประกายอยู่ใต้แสงนุ่มนวลของโคมไฟระย้าสุดหรู เงาสะท้อนทอดเป็นลวดลายงดงามบนผนังห้องนั่งเล่นกว้างขวางปรากฎสู่สายตา ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดหรู และหน้าต่างสูงจากพื้นจรดเพดานที่เปิดมุมมองสู่ทัศนียภาพของเมืองที่ระยิบระยับราวกับทะเลดาวระบบความบันเทิงล้ำสมัยให้คำมั่นถึงค่ำคืนอันแสนอบอุ่น ขณะที่ครัวสไตล์กูร์เมต์ดึงดูดใจด้วยเครื่องใช้สแตนเลสเงาวาวและเคาน์เตอร์กลางขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการทำอาหาร ห้องรับประทานอาหารสุดเก๋ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการสังสรรค์เล็ก ๆ ที่เป็นกันเอง"ดูท่าทางคุณจะชอบนะ?" เกเบรียลแกล้งเย้าฉันทำได้แค่พยักหน้า อย่างที่บอกไปแล้ว เราเคยรวย และฉันก็เคยพักในโรงแรมดี ๆ มาก่อน แต่ที่นี่คืออีกระดับหนึ่ง มันเป็นนิยามของความหรูหราที่แท้จริงสายตาฉันยังคงกวาดมองไปรอบ ๆ ห้อง แต่จู่ ๆ ฉันก็ชะงักเท้าเมื่อความจริงบางอย่างตีแสกหน้าเข้ามาเต็ม ๆ"เกเบรียล ห้องฉันอยู่ไหนคะ? ฉันเห็นแค่ห้องนอนเดียวเองนะ" ฉ

  • ธุลีใจ   บทที่ 457

    เครื่องบินลงจอดที่รันเวย์ มือของเกเบรียลจับตัวฉันไว้ไม่ให้กระดอนตอนเครื่องบินลงจอด“ไม่เป็นไรนะ?” เขาเอ่ยถามพลางสบตาฉัน“ค่ะ”หลังจากที่เกเบรียลเล่าเรื่องผู้หญิงที่เขาเคยตกหลุมรัก ก็ไม่มีเรื่องอะไรไปมากกว่านั้น บาดแผลนั้นยังคงหลอกหลอนเขาอยู่ บาดแผลที่ฝังลึกลงไปข้างในฉันเห็นมันปรากฎอยู่ในดวงตาเขาอย่างชัดเจนขณะที่เล่าทุกอย่างให้ฟัง เขาไม่ต้องการพูดอะไรมากกว่านี้ เขาเพิ่งจะเปิดเผยความลับบางสิ่งเกี่ยวกับตัวเขาที่ใครคนอื่นไม่เคยรู้ แม้แต่พี่ชายฝาแฝดเขาก็ไม่เคยรู้ฉันไม่ได้บังคับให้เขาเล่าออกมามากกว่านั้น ฉันไม่ได้ขอให้เขาเล่าให้ฟังว่าหลังจากรับรู้ความจริงพวกนั้นมันเป็นอย่างไรต่อหรือเกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนนั้น เขารู้สึกเปราะบาง และฉันก็เข้าใจด้วยว่าเขาต้องการเวลาเพื่อตั้งสติ ดังนั้นฉันจึงให้พื้นที่กับเขาฉันใช้เวลากว่าครึ่งอ่านหนังสือและอีกครึ่งในการนอนหลับพักผ่อน เขายังเอาใจใส่แม้ตอนที่นั่งห่างออกไป เขาถามว่าฉันนั่งสบายไหมหรือต้องการอะไรอีกหรือเปล่าอยู่เป็นระยะมือของเขาเอื้อมมาแตะหน้าท้องฉันจนดึงฉันออกจากภวังค์ ฉันมองลงไปพบว่าเขากำลังปลดเข็มขัดนิรภัยของฉันออก“คุณรู้ใช่ไหมว่าฉันท

  • ธุลีใจ   บทที่ 456

    ก็เป็นความรักที่สวยงามไม่ใช่เหรอ? แต่ฉันรู้สึกได้ว่ามันต้องมีบางสิ่งเกิดขึ้น บางสิ่งที่เปลี่ยนไป ถ้าทุกอย่างมันดีจริง ๆ ตอนนี้เขาก็คงเคียงคู่กับเธอคนนั้นไปแล้ว ไม่น่าจะมาแต่งงานกับฉันแบบนี้เสียงของเขาเริ่มแหบพร่าและเริ่มเล่าต่อ “ทุกสิ่งมันดีไปหมดเลย เธอเป็นผู้หญิงที่สุดยอดมากและผมก็รู้สึกว่าหลงรักเธอมากขึ้นทุกวัน แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้แนะนำเธอให้โรแวนรู้จัก เพราะผมอยากเก็บเธอไว้กับตัว ผมไม่ได้เจตนาจะคบหาแบบเงียบ ๆ แต่แค่อยากใช้เวลากับเธอมากกว่านี้ก่อนที่จะพบครอบครัวผม ทุกวันที่ตื่นขึ้นมาผมนึกว่าตนเองโชคดีขนาดไหนที่ได้พบเจอคนอย่างเธอ อย่างที่คุณรู้ โลกของเรามันหาคู่รักที่เหมาะกันได้ง่ายเสียที่ไหนล่ะ ฮาร์เปอร์”และนั่นแหละก็เป็นสังคมของเรา มันยากมากเลยนะที่จะพบเจอคนที่รักเราจริง บางคู่ที่แต่งกันก็เป็นเพราะเรื่องของธุรกิจ และน้อยคนนักที่จะรักและเคารพจากใจจริง แล้วก็ยังมีพวกหวังรวยทางลัดอีก เป็นพวกที่แต่งงานกับคนรวย ๆ เท่านั้นและฉันว่านี่คงเกิดขึ้นบ่อยด้วย“ผมอยู่ในห้วงความรักเลยและคิดอะไรอย่างมีเหตุผลไม่ค่อยได้ เธอสามารถทำให้ผมเปลี่ยนแปลงตนเองได้เพราะผมไม่อยากทำร้ายจิตใจเธอ ไม่อยากให้เ

  • ธุลีใจ   บทที่ 455

    “ฮาร์เปอร์?” เสียงของเขาเรียกฉันกลับมาสู่ความเป็นจริง“โอ๊ะขอโทษที ฉันคิดอะไรเพลินไปหน่อย” ฉันส่ายหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไป “ค่ะ ฉันเก็บของเสร็จแล้ว”“ดีครับ งั้นไปกันเถอะ”หนึ่งชั่วโมงต่อมา เรานั่งอยู่ในเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของเกเบรียล ครั้งนี้ฉันเดินทางไปกับเขาเพื่อเซ็นสัญญาธุรกิจ“ทุกอย่างเรียบร้อยดีไหม? ต้องการอะไรหรือเปล่า? ผมให้พนักงานต้อนรับเอาอะไรมาให้ได้นะ” กาเบรียลถามขึ้นทันทีที่เครื่องบินเริ่มออกตัวเข้าใจที่ฉันบอกแล้วใช่ไหม? เขาใส่ใจฉันมากเหลือเกินแต่ตอนที่เรายังแต่งงานกัน เขาไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ฉันคิดว่าเขาไม่เคยทำอะไรเพื่อทำให้ฉันมีความสุขเลย จริง ๆ แล้วมันตรงกันข้าม เขาไม่เคยสนใจว่าฉันต้องการอะไร หรือว่าฉันสบายดีไหม ไม่เคยสนใจแม้แต่ฉันยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า เขาแค่ไม่เคยสนใจฉันเลยแต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับเปลี่ยนไป และนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ฉันสับสน มันเหมือนเขาเป็นยักษ์ในตะเกียงวิเศษที่คอยทำให้ความปราถนาของฉันเป็นจริง“ไม่ค่ะขอบคุณ ถ้าต้องการอะไร เดี๋ยวฉันจะบอกพนักงานเองได้ค่ะ” ฉันพึมพำตอบกลับเกเบรียลพยักหน้ารับ ก่อนจะหยิบแล็ปท็อปขึ้นมาเปิดฉันเอนตัวลงกับเบาะหน

  • ธุลีใจ   บทที่ 454

    “แม่ต้องไปจริง ๆ เหรอคะ?” ลิลลี่ถาม สายตามองสลับไปมาระหว่างฉันกับกระเป๋าเดินทางที่เปิดอยู่บนเตียงฉันไม่เคยชอบการเก็บกระเป๋าแบบเร่งรีบในนาทีสุดท้ายแบบนี้เลย แต่ช่วงสองสามวันที่ผ่านมา งานที่ทำงานยุ่งจนแทบไม่มีเวลาหายใจ พอกลับถึงบ้าน สิ่งเดียวที่ฉันคิดได้ก็คือการนอนหลับ ฉันเหนื่อยจนแทบยืนไม่ไหว ไม่มีแรงจะทำอะไรนอกจากกินแล้วก็นอน“ต้องไปจ้ะ” ฉันตอบเธออย่างอ่อนโยน “งานนี้สำคัญมากเลยลูก แล้วพ่อหนูต้องไปจัดการด้วยตัวเอง…”“แต่หนูยังไม่เข้าใจเลยว่าทำไมหนูไปด้วยไม่ได้? หนูอยากเห็นว่าพ่อทำงานยังไง หนูอยากรู้ว่าพ่อจัดการเรื่องงานยังไงค่ะ”ฉันพับเสื้อผ้าชิ้นสุดท้าย ซึ่งเป็นเสื้อไหมสีฟ้า ก่อนจะวางมันลงไปในกระเป๋ากับของที่เหลือ พอทุกอย่างเรียบร้อย ฉันรูดซิปปิดแล้ววางกระเป๋าลงบนพื้น“ลูกก็รู้นี่ ว่าไปไม่ได้” ฉันตอบเธอขณะนั่งลงบนเตียง“ทำไมล่ะคะ?”“เพราะลูกยังเป็นเด็กไง ก็เลยไปไม่ได้ ถูกไหมคะ?”“หนูไม่ใช่เด็กนะคะ หนูจะสิบขวบแล้ว"ฉันกลอกตาให้กับคำโกหกที่ชัดเจน ก่อนจะดึงลิลลี่เข้ามากอดและหอมแก้มเนียนนุ่มของเธอเบา ๆ“หนูก็รู้ดีนะว่าเพิ่งแปดขวบ อีกนานเลยกว่าสิบขวบนะลิลลี่… แล้วอีกอย่าง เด็ก ๆ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status