ตึก ตึก ตึก
เสียงรองเท้าส้นสูงก้าวกระทบพื้นดังขึ้นใต้ตึกของคณะนิเทศศาสตร์ดึงดูดสายตาของผู้คนให้หันหน้ามองไปยังผู้มาใหม่ แม้เธอจะไม่ได้ส่งสายตามองใครแต่ทว่ากลับเป็นที่ดึงดูดความสนใจจากผู้คนรอบข้าง 'สวยเป็นบ้า ผู้หญิงอะไรวะ' 'นั่นสิ อิจฉาไอ้พระเพลิงมันนะได้เมียสวยขนาดนี้'เสียงเลื่องลือเรื่องความสวยไม่เป็นสองรองใครของ'ธารน้ำ'ดังขึ้น แต่เธอก็ยังคงก้าวขาไปตามเส้นทางอย่างไม่คิดจะหันกลับไปมอง ร่างสวยของเธอในชุดนักศึกษาพอดีตัวกระโปรงสั้นเลยเข่าเป็นที่ดึงดูดสายตาไม่ว่าจะเป็นทั้งหญิงและชาย รูปร่างอันแสนเพอร์เฟคมีสัดส่วนที่ลงตัวตอบรับกับใบหน้าเรียวสวยทำให้ผู้ชายหลายคนต่างหลงใหลในรูปร่างและอยากจะได้เธอมาครอบครอง แต่มันติดตรงที่ว่าเธอมีเจ้าของหัวใจอยู่แล้วนั่นเอง "เอ๊ะ ใบหม่อนไม่มาเรียนอย่างนั้นเหรอกอหญ้า" "ไม่อะ ฉันยังไม่เห็นใบหน่อนมาเรียนเลยนะ"กอหญ้าเพื่อนในกลุ่มเดียวกับหันมาตอบผู้มาใหม่ ธารน้ำนั่งลงบนโต๊ะซึ่งอยู่ใกล้พลางมองไปยังโต๊ะที่ยังว่างซึ่งมักจะมีร่างของเพื่อนร่วมกลุ่มอีกคนนั่งอยู่ "เธอไม่ได้บอกใบหม่อนเหรอว่าวันนี้มีสอบ"ด้วยความสงสัยว่าเพื่อนหายไปไหนธารน้ำจึงหันไปถามกอหญ้าซึ่งเพื่อนสนิททั้งสองพักอยู่หอพักเดียวกันแต่คนละชั้น "ฉันทั้งโทรทั้งส่งข้อความไปบอกแล้วแต่ใบหม่อนก็ไม่เปิดอ่าน"กอหญ้าตอบกลับพร้อมโชว์หลักฐานในมือถือ "เป็นอะไรไปนะ หรือว่าจะไม่สบาย" "ฉันเองก็ไม่รู้ ไปเคาะประตูเมื่อเช้าก็ไม่มีเสียงตอบรับ" "เดี๋ยวฉันโทรตามดีกว่า ถ้าใบหม่อนขาดสอบวิชานี้คงได้เอฟสมใจแน่"เนื่องด้วยอีกฝ่ายไม่ค่อยจะสนใจในการเรียนสักเท่าไหร่ทำให้ธารน้ำและกอหญ้าคอยตามให้ใบหม่อนมาเรียนอยู่บ่อยครั้ง อีกทั้งยังคอยติวเรื่องเรียนไม่เว้นแม้แต่ติวข้อสอบ 'บริการฝากหมายเลขโทรกลับ' "ปิดเครื่อง"ธารน้ำถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ คิ้วโก่งดั่งคันศรบนใบหน้าสวยขมวดเข้าหาเมื่อเธอไม่สามารถติดต่อเพื่อนสนิทอีกคนได้ อีกทั้งในตอนนี้นักศึกษาคนอื่น ๆ ต่างก็ทยอยกันเข้ามาด้านในซึ่งมันใกล้จะถึงเวลาสอบภายอีกในไม่ช้า "อีกแค่เทอมเดียว ทำไมทำตัวเหลวไหลแบบนี้นะใบหม่อน" "นั่นสิ อีกแค่เทอมเดียวพวกเราก็จะเรียนจบแล้วแท้ ๆ "สีหน้าของกอหญ้าในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากธารน้ำ ทั้งคู่พยายามเคี่ยวเข็ญเพื่อที่จะให้เพื่อนอีกคนเรียนจบไปพร้อมกัน แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ต้องการแบบนั้น ใบหม่อนเพื่อนในกลุ่มของเธอยังคงคิดสนุกเที่ยวเป็นว่าเล่นจนบางครั้งพวกเธอทั้งสองเองก็เหนื่อยใจที่จะตักเตือน สุดท้ายแล้วการสอบภายในวันนี้ก็ไม่มีแม้แต่เงาของใบหม่อนจนหมดเวลาสอบของวันนี้ เพื่อนสนิทที่แสนดีอย่างธารน้ำและกอหญ้าก้าวขาลงมาจากบันไดก่อนทั้งคู่จะพากันไปนั่งพักยังม้านั่งใต้คณะ กอหญ้ายังคงก้มหน้ากดโทรศัพท์ต่อสายหาใบหม่อนแต่ทว่า 'บริการฝากหมายเลขโทรกลับ' "ยังติดต่อใบหม่อนไม่ได้เลยอะ ทำไงดี"กอหญ้าบ่นออกมาก่อนจะวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะตรงหน้า "ฉันว่าเราไปหาใบหม่อนที่ห้องอีกครั้งดีไหม" "ไม่ต้องหรอก ฉันส่งข้อความไปถามเจ้าของหอแล้ว เขาตอบกลับมาว่าใบหม่อนยังไม่กลับมาที่ห้อง"เพราะเมื่อเช้าเธอไปดูก็เห็นประตูห้องคล้องด้วยแม่กุญแจลูกใหญ่ "หายไปไหนกันนะ"ธารน้ำพึมพำออกมาด้วยความเป็นกังวลเพราะกลัวว่าเพื่อนสนิทอีกคนจะได้รับอันตราย ครืด ครืด ครืด แต่ในระหว่างที่เธอกำลังจมอยู่ในห้วงแห่งความคิด โทรศัพท์เครื่องหรูก็มีสายเรียกเข้าดังขึ้นทำให้เจ้าของโทรศัพท์ต้องก้มหน้าลงไปมองบนหน้าจอว่าเป็นใครที่โทรเข้ามา 'คุณพ่อ'สีหน้าของธารน้ำเริ่มเปลี่ยนไปเมื่อเห็นเบอร์โทรของใครแสดงอยู่บนหน้าจอ เธอนั่งนิ่งจ้องหน้าจอโทรศัพท์อยู่อย่างนั้นปล่อยให้มันถูกตัดไป ครืด ครืด ครืด แต่เพียงไม่ถึงหนึ่งนาทีก็มีสายจากเบอร์เดิมโทรเข้ามาใหม่ โทรเข้ามาย้ำ ๆ จนเกิดเป็นหลายสายแต่ธารน้ำก็ไม่คิดจะยื่นมือเข้าไปคว้าขึ้นมากดรับ "บางทีท่านอาจจะมีธุระด่วนก็ได้นะน้ำ" "หึ ไม่มีอะไรหรอกคงจะเป็นแค่เรื่องเดิม ๆ "หญิงสาวพูดถึงบิดาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูขบขันแต่ทว่าในใจของเธอกลับปวดร้าว โทรศัพท์ของเธอยังมีสายเรียกเข้าจากเบอร์เดิมไม่หยุดจนในที่สุดธารน้ำก็ตัดสินใจที่จะกดรับสาย "ฮัลโหลค่ะ" "แกมัวทำอะไรอยู่ ไม่เห็นหรือไงว่าฉันโทรไปตั้งกี่สาย"เสียงโวยวายที่ดังมาจากปลายสายทำให้ธารน้ำหลับตาสูดลมหายใจลงปอดก่อนเธอจะถามอีกฝ่ายไปด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูจริงจัง "คุณพ่อที่ธุระอะไรกับหนูหรือเปล่าคะ" "มีสิ ถ้าฉันไม่มีธุระสำคัญฉันก็ไม่อยากจะโทรหาแกนักหรอก" "..." "วันนี้แกสอบเสร็จแล้วใช่ไหม" "ค่ะ" "ถ้าแกสอบเสร็จแล้วเย็นนี้ก็มาหาฉันที่บ้าน ฉันมีธุระสำคัญจะคุยกับแก" "แต่หนู" "ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น ฉันสั่งให้แกมาบ้านแกก็ต้องมา"เปลือกตาบางหลับลงอีกครั้งหลังจากได้ฟังคำพูดด้วยน้ำเสียงห้วน ๆ ของบิดา "ค่ะ แต่หนูจะเข้าไปช่วงเย็น ๆ สักหน่อยนะคะ" "อย่าช้านักล่ะ" ติ๊ด น้ำเสียงที่ฟังดูไร้เยื่อใยมันไม่ได้เกิดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่มันเกิดขึ้นกับเธอตั้งแต่ตอนที่มารดาเสียชีวิตได้เพียงไม่นานแล้วบิดาก็พาภรรยาคนใหม่กับลูกของผู้หญิงติดเข้ามาในบ้าน นับตั้งแต่วันนั้นท่านก็ทำเหมือนกับว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ ๆ "แกโอเคนะ"กอหญ้ายื่นมือเข้ามากุมด้วยความเป็นห่วงหลังจากได้เห็นสีหน้าไม่สู้ดีของเพื่อนสนิทหลังจากที่วางสายบิดา ธารน้ำมักจะมีสีหน้าแบบนี้ทุกครั้งหลังจากที่บ้านติดต่อมาหา "ไหวสิ ขอบคุณมากนะ" "ถ้าหากไม่ไหวก็ระบายมาได้นะ อย่าลืมสิว่ายังมีฉันอยู่" "อืม ขอบใจเธอมากนะกอหญ้า"เพื่อนรักทั้งสองคนที่คบหากับมาตั้งแต่เข้ามหาลัยปีหนึ่งสบตากันอย่างลึกซึ้ง "แล้วนี่เธอจะกลับเลยหรือเปล่า" "อื้อ ว่าจะกลับเลยฉันกะว่าจะแวะซื้อยาไปให้เพลิงด้วย เห็นบ่นว่าปวดหัวมาตั้งแต่เมื่อวานไม่รู้วันนี้จะหายดีแล้วหรือยัง" "ถ้าอย่างนั้นฉันกับเธอแยกย้ายกันตั้งแต่ตรงนี้นะ ฉันเองก็จะไปดูว่าใบหม่อนกลับมาที่ห้องพักแล้วหรือยัง" "โอเค งั้นเจอกันพรุ่งนี้"สองเพื่อนซี้โบกมือลา ธารน้ำเดินกลับมาขึ้นรถคันหรูที่แฟนหนุ่มซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่แล้ว บรืน รถคันหรูเคลื่อนตัวออกไปจากรั้วมหาวิทยาลัย เจ้าของใบหน้าสวยตั้งใจขับรถมุ่งหน้าไปยังคอนโดสุดหรูของชายหนุ่ม หญิงสาวตั้งใจแวะซื้อยาแก้ปวดหัวและยาลดไข้รวมไปถึงอาหารให้กับชายหนุ่มด้วยความตั้งใจ เธอโชคดีที่มีแฟนหนุ่มซึ่งมีฐานะร่ำรวย แม้ที่บ้านของเธอจะมีฐานะก็ใช่ว่าจะเทียบกับทางบ้านของพระเพลิงได้ ธารน้ำเธอได้ย้ายออกมาเช่าหอพักอยู่เพียงคนเดียวหลังจากประสบปัญหาภายในบ้านอย่างหนักจากฝีมือของสองแม่ลูกมันทำให้เธอตัดสินใจเป็นฝ่ายย้ายออกมาจากบ้านหลังใหญ่ทำงานหาเลี้ยงส่งเสียตัวเองเรียนแทนที่จะแบมือขอเงินจากบิดาเหมือนครั้งก่อน ซึ่งตอนนี้ชีวิตของเธอกำลังไปได้ดี เธอใกล้จะเรียนจบดั่งที่ตนเองวาดฝันเอาไว้ มีแฟนหนุ่มคอยอยู่ข้างกายคอยให้กำลังใจแม้บางครั้งทั้งสองจะต้องมีเรื่องทะเลาะหรือไม่เข้าใจกันแต่ธารน้ำนั่นก็ยังเลือกที่จะให้อภัย แต่มันคงไม่ใช่สำหรับในครั้งนี้ เพราะทันทีที่เธอไขประตูห้องพักของแฟนหนุ่มเข้ามาก็ต้องพบกับเรื่องที่เกินความคาดหมาย เสื้อผ้าของชายหญิงคู่หนึ่งกระจัดกระจายเกลื่อนเต็มห้องรับแขก ถุงยางที่ถูกใช้แล้วนับสิบชิ้นถูกทิ้งเรี่ยราดตั้งแต่โซฟาดวงตาของธารน้ำสั่นเครือเหมือนมีใครกดวิดีโอฉายซ้ำเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาอีกครั้ง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเปิดประตูห้องพักของแฟนหนุ่มเข้ามาแล้วพบกับเสื้อผ้าของผู้หญิงคนอื่นและถุงยางที่ถูกใช่แล้ว แต่นี่เป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ที่เธอต้องมาเจอสภาพห้องนอนของแฟนหนุ่มตกอยู่ในสภาพแบบนี้ สภาพที่คนเป็นแฟนอย่างเธอเกินกว่าจะรับไหวได้ สองเท้าบนรองเท้าส้นสูงของธารน้ำก้าวผ่านเศษซากเสื้อผ้าและถุงยางอนามัยที่ถูกใช้แล้วไปอย่างเชื่องช้า ดวงตาคู่สวยสั่นเครือมองไปยังประตูห้องนอนของแฟนหนุ่มที่ถูกเปิดแง้มอยู่ มือไม้ที่กำลังจะเอื้อมไปผลักประตูเริ่มสั่นอาการของเธอนั้นในตอนนี้ไม่ต่างจากครั้งแรกที่จับได้ว่าแฟนหนุ่มพาผู้หญิงคนอื่นเข้ามามีอะไรถึงในห้องนอน หัวใจของเธอในตอนนี้มันชั่งอ่อนล้ามือไม้ที่อ่อนแรงดันประตูห้องนอนให้เปิดออกอย่างเชื่องช้า ดวงตาคู่สวยแดงก่ำเบิกกว้างเมื่อเห็นร่างของแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทที่เธอตามหามาตลอดทั้งวันนอนกอดกันกลมอยู่บนเตียงนอนหลังนั้น ปึก ข้าวของในมือของธารน้ำร่วงลงสู่พื้นอย่างทันควัน หัวใจดวงน้อยของเธอนั้นแตกสลายอีกครั้งเมื่อเห็นว่าแฟนหนุ่มกับเพื่อนสนิทของเธอนั้นมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้ง "พระเพลิง ใบหม่อน"ธารน้ำเรียกชื่อของทั้งสองคนด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรง ร่างสวยในชุดนักศึกษาโซเซล้มลงกระแทกประตูจนเกิดเสียงดัง ปึง "เหี้ยอะไรวะ"เสียงล้มกระแทกที่ดังปลุกให้ชายหนุ่มรู้สึกดีดตัวขึ้นมานั่ง และเสียงร้องด้วยความตกใจของพระเพลิงก็ปลุกให้หญิงสาวที่นอนหลับใหลไปด้วยความเหนื่อยเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา "เกิดอะไรขึ้นคะเพลิง เมื่อคืนทั้งคืนคุณยังไม่อิ่มอีกเหรอคะ"ใบหม่อนยันกายลุกขึ้นมาโอบกอดร่างเปลือยเปล่าทั้งที่ยังไม่ลืมตา เธอซบใบหน้าสวยลงบนแผงอกของชายหนุ่มอย่างออดอ้อนก่อนเปลือกตาสวยจะเปิดขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงของชายข้างกายเปล่งเสียงเรียกชื่อของใครอีกคนซึ่งกำลังนั่งพิงประตูมองพวกเขาทั้งคู่ด้วยสายตาที่แสดงถึงความเจ็บปวด "ธารน้ำ" "นะ...น้ำ""ธารน้ำมันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะคือว่าฉันกับใบหม่อน"พระเพลิงรีบดีดตัวลุกขึ้นชายหนุ่มรีบคว้าผ้าเช็ดตัวที่ตกอยู่ขึ้นมาพันเอวสอบก่อนจะเดินเข้าไปหาร่างสวยของแฟนสาวด้วยสีหน้าร้อนรน แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ยื่นมือเข้าไปสัมผัสท่อนแขนร่างของธารน้ำก็เบี่ยงตัวหลบทำให้ฝ่ามือใหญ่ชะงัก"กี่ครั้งแล้วเพลิง""มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ ฉันกับใบหม่อนเราสองคน""หยุดโกหกได้แล้วเพลิง สิ่งที่ฉันเห็นมันเป็นหลักฐานช่วยยืนยันได้ว่านายกับเพื่อนของฉันเอากันเมื่อคืน"ริมฝีปากหยักเม้มเข้าหากันอย่างคนหมดหนทางที่จะอธิบาย ธารน้ำหันไปมองหน้าเพื่อนสนิทอีกคนภายในกลุ่มซึ่งตอนนี้ความรู้สึกของเธอยามเมื่อได้มองหน้าเพื่อนสนิทคนนี้มันกำลังเริ่มเปลี่ยนไป"รู้ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงยังทำ""...""รู้ทั้งรู้ว่าผู้ชายคนนี้คือแฟนเพื่อนทำไมยังคัน"ความอัดอั้นภายในใจมันกำลังปะทุออกมาเมื่อเห็นอดีตเพื่อนสนิทนั่งนิ่งไม่ยอมโต้ตอบอะไรกลับมาธารน้ำรวบรวมเรี่ยวแรงลุกขึ้นยืน แววตาของเธอยามเมื่อมองทั้งคู่เริ่มเปลี่ยนไป คำว่าโอกาสเธอให้แฟนหนุ่มมาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ แต่ครั้งนี้มันหนักหนาเกินไปสำหรับเธอ"ฉันเคยบอกนายแล้วใช่ไหมว่าถ้ามีครั้งต่อ
หัวใจของธารน้ำแตกละเอียดย่อยยับไม่เหลือชิ้นดี แม้หัวใจของเธอจะรักและมั่นคงต่อพระเพลิงคนเดียวแต่มันก็ดูเหมือนว่ามันจะไร้ความหมายในสายตาของเขา ตลอดเวลาเกือบสี่ปีที่ผ่านมาชีวิตรอบกายของชายหนุ่มมักจะมีเรื่องผู้หญิงเข้ามาวุ่นวายอยู่ตลอด เธอจับได้ว่าเขาแอบไปมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นมาแล้วก็หลายครั้งให้โอกาสกันมาแล้วก็หลายหน หรือเพราะว่าการที่เธอให้อภัยเขาอย่างง่าย ๆ มันจึงทำให้พระเพลิงไม่เคยเห็นคุณค่าของเธอปึก"ไปไหนครับ""บ้าน สิวานนท์ค่ะ"ธารน้ำบอกกับคนขับแท็กซี่ก่อนที่เธอจะหันหน้ามองออกไปยังนอกหน้าต่าง น้ำตาบนใบหน้าสวยเหือดแห้งตั้งแต่ตอนนั้นและมันก็ไม่ได้ไหลออกมาอีกเลย แม้หัวใจในตอนนี้ของธารน้ำจะแตกย่อยยับไม่เหลือชิ้นดี แต่เธอก็ไม่ยอมแสดงความอ่อนแอให้ใครได้เห็นเป็นอันขาด บรืนใช้เวลาในการเดินทางร่วมชั่วโมงธารน้ำก็เดินทางมาถึงบ้านหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า หญิงสาวก้าวขาลงจากรถแท็กซี่หลังจากจ่ายเงินเสร็จ หญิงสาวในชุดนักศึกษาเงยหน้ามองบ้านหลังใหญ่ที่เธอเคยอยู่มาตั้งแต่ยังเป็นเด็กด้วยความรักและคิดถึง บ้านของแม่ที่ตกทอดกันมาตั้งแต่สมัยรุ่นปู่ย่าตายาย นับตั้งแต่แม่ของเธอจากไปจากบ้านหลังใ
'ถ้าแกยังเห็นแก่แม่ของแกที่ตายไป ก็แต่งงานตามที่ฉันสั่งเข้าใจไหม'แกรกหญิงสาวในชุดนักศึกษาก้าวขาเข้ามาในห้องพักก่อนธารน้ำจะเดินไปล้มตัวลงนอนบนเตียงขนาดกลางอย่างเหนื่อยล้าน้ำตาที่อัดอั้นเป็นเวลานานไหลออกมาทันทีเมื่อเธอปิดเปลือกตา เรื่องราวมากมายถาโถมเข้ามาในชีวิตของเธอไม่ยอมหยุดตั้งแต่ที่เธอสูญเสียผู้เป็นแม่ไปธารน้ำรู้สึกว่าตอนนี้ชีวิตของเธอกำลังล่องลอยอยู่ท่ามกลางแม่น้ำกว้างใหญ่ที่มองไปทางไหนก็ไม่เห็นฝั่ง แม้จะออกมาใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังโดยไม่พึ่งพาใครแต่สุดท้ายที่บ้านก็พาปัญหามาให้เธอจนได้'ฉันเอาบริษัทกับบ้านหลังนี้ที่เป็นของแม่แกไปจำนองกับคุณอัคนีเมื่อหลายปีก่อน ถ้าแกไม่อยากให้มันถูกยึดก็ทำตามที่ฉันสั่ง''...''ถ้าแกรักแม่ของแก ก็แต่งงานซะ'ไร้ซึ่งความเห็นใจในแววตาของบิดา การแต่งงานที่เธอไม่ได้เต็มใจนั่นคือสิ่งที่เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ปึง ปึง ปึงเสียงทุบประตูหนัก ๆ ดังขึ้นตามด้วยเสียงเรียกชื่อของเธอดังในเวลาถัดมาทำให้หญิงสาวซึ่งกำลังนอนปิดตาร้องไห้ตื่นขึ้นมาโดยทันที"ธารน้ำ เปิดประตูให้ฉันหน่อย"เจ้าของห้องซุกใบหน้าลงบนหมอนพลางร้องไห้ออกมาโดยที่เสียงเรียกชื่อของเธอและเสียงทุบ
รุ่งเช้าอันแสนสดใสแต่คงไม่ใช่ชีวิตของธารน้ำ เธอต้องตื่นตั้งแต่เช้าเพื่ออาบน้ำแต่งตัวมาสอบในวันสุดท้าย เมื่อคืนเธอแทบจะนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะมัวเอาแต่นอนร้องไห้กับเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากไล่ให้พระเพลิงอดีตแฟนหนุ่มเดินออกไป"ธารน้ำ ทำไม"กอหญ้าไม่กล้าปริปากถามถึงสาเหตุว่าทำไมเพื่อนสนิทถึงได้มาอยู่ในสภาพราวกับซอมบี้แบบนี้ ทั้งที่เมื่อวานก็ยังปกติดี"กอหญ้า""หืม""ฉันเลิกกับเพลิงแล้วนะ"เธอพยายามแอบซ่อนความเสียใจเอาไว้สุดกำลัง แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่สามารถปิดบังเพื่อนรักที่คบหากันมานานได้กอหญ้ารีบย้ายพาตัวเองไปนั่งข้างกายธารน้ำ ไหล่ของเพื่อนสนิทกลายเป็นที่พักพิงให้กับเธอในตอนนี้"ร้องไห้ออกมาเลยนะถ้ามันจะทำให้เธอสบายใจขึ้น""...""ถ้าหากยังไม่พร้อมที่จะเล่าก็ไม่เป็นไร แต่ฉันจะไม่ทิ้งเธอไปไหนธารน้ำ""ขอบใจนะกอหญ้า ขอบใจที่เธอยังอยู่ข้างฉัน"ธารน้ำก้มหน้าซุกไหล่ของกอหญ้าพลางปล่อยน้ำตาให้มันไหลออกมาเงียบ ๆ ไร้ซึ่งเสียงสะอื้น ซึ่งกอหญ้าเองก็สัมผัสได้ถึงน้ำตาของเพื่อนสนิทที่ไหลเปียกชุ่มตรงบริเวณหัวไหล่จนเวลาผ่านไปการร้องไห้ในครั้งนี้ของธารน้ำได้สิ้นสุดลงแต่ความเสียใจก็ยังคงไม่เลือนหายไปจากแววตาข
"แกทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อยจะได้ไหม แค่ทำหน้าให้มีดีกว่านี้จะตายหรือยังไง"เสียงหมดอาลัยของเอกรินทร์ดังขึ้นแต่ทว่าธารน้ำเธอยังคงแสดงสีหน้าเรียบนิ่งอยู่ภายในรถซึ่งตอนนี้ทั้งคู่กำลังเดินทางไปพบกับชายหนุ่มที่เอกรินทร์หมายมั่นที่จะให้ลูกสาวคนโตแต่งงานด้วย"ธารน้ำ""ต้องการอะไรอีก แค่หนูยอดแต่งงานกับผู้ชายที่พ่อหามาให้ยังไม่พอใจอีกเหรอ"หญิงสาวในชุดเดรสสีดำเปิดไหล่หันมามองหน้าของบิดาดวงตาสั่นเครือ"ถ้าแกยังทำหน้าเหมือนคนใกล้จะตายอยู่แบบนี้ก็อย่าหวังว่าคุณอัคนีเขาจะดีใจยอมลดดอกเบี้ยให้ บ้านกับบริษัทของแม่แกได้ถูกยึดไปแน่""นี่พ่อยังเห็นว่าหนูเป็นลูกอยู่ไหม"ชายวัยกลางคนมองหน้าลูกสาวเพียงครู่เดียวก่อนจะหันหน้ามองออกไปยังนอกหน้าต่าง"พรุ่งนี้เตรียมตัวย้ายกลับเข้ามาอยู่ที่บ้าน ฉันไม่ชอบพูดอะไรซ้ำ ๆ หวังว่าแกจะเข้าใจ"เปลือกตาสวยปิดลงคำพูดของเธอคงไม่สะท้อนเข้าไปถึงหัวใจของคนฟังข้างกาย ทำไมชีวิตของเธอถึงได้มาเจอเรื่องราวอะไรแบบนี้ครืดเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นอยู่ในกระเป๋าใบสวยทำให้หญิงสาวต้องเปิดเปลือกตา ใบหน้าสวยของธารน้ำชะงักไปเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา'พระเพลิง'ริมฝีปากสวยเม้มเข้าหากันจนเป็น
ธารน้ำนั่งนิ่งหลังจากทุกคนทานอาหารเสร็จ หัวใจของเธอมันเต้นไม่เป็นจังหวะอีกทั้งยังมีความหวาดหวั่นกับผู้ชายตรงหน้าอยู่บ้าง "อย่างที่ผมเคยแจ้งให้คุณอัคนีทราบ ตอนนี้ทางบริษัทของผมกำลังมีปัญหา เรื่องที่ผมเคยเอาบ้านกับบริษัทของภรรยาไปค้ำประกันในการกู้เงิน"ถ้อยคำที่ผู้เป็นพ่อเกริ่นออกมาในแววตาของชายวัยกลางคนไร้ซึ่งความรู้สึกผิด ทำให้ลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างธารน้ำรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจ ท่านทำราวกับว่าบริษัทและบ้านของมารดาจะสามารถเอาไปทำยังไงก็ได้โดยที่ไม่คิดถึงจิตใจของเธอเลยสักนิด"ผมอยากจะขอยื่นเวลาในการชดใช้หนี้""แต่เงินที่คุณกู้ผมไปมันไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะครับ และไหนจะดอกเบี้ย...""ธารน้ำจะมาเป็นดอกเบี้ยในระหว่างที่ผมหาเงินมาใช้หนี้ให้กับคุณครับ คุณอัคนี"ครืด"หนูขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ"ธารน้ำไม่สามารถนั่งทนฟังคำพูดของพ่อตัวเองต่อไปไหวลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกไปจากห้องทานอาหารส่วนตัวโดยมีสายตาคนเข้มซึ่งยากจะคาดเดามองตามแผ่นหลังเล็กที่กำลังเปิดประตูเดินออกไปซ่าเสียงสายน้ำที่ดังขึ้นตรงอ่างล้างหน้าดังก้อง หญิงสาวในชุดเดรสสีสวยมองรูปหน้าของตัวเองผ่านเงาสะท้อนของกระจกบานใหญ่ คำพูดของบิดาเมื่อคร
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวในชุดเดรสสีหวานให้ความสนใจ เธอเหลือบตาตาไปมองนาฬิกาก่อนจะเดินไปคว้ากระเป๋าในสวยขึ้นมาสะพายไหล่แกรก"คุณท่านให้หนูขึ้นมาตามคุณธารน้ำค่ะ"หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยพยักหน้า ก่อนธารน้ำจะเดินออกมาจากห้องพักซึ่งเป็นห้องนอนเก่าของเธอตึก ตึก ตึกเสียงฝีเท้ายามเมื่อเธอก้าวขาลงบันไดดังขึ้น เสียงพูดคุยของบิดากับผู้มาใหม่ดังแว่วหูมาแต่ไกล "นั่นไงครับธารน้ำ มาพอดีเลย"ธารน้ำเดินเข้าไปหาเธอไม่สนใจสายตาของสองแม่ลูกที่มองมาด้วยความไม่พึงพอใจตั้งแต่เธอย้ายเข้ามาอยู่ภายในบ้านหลังนี้ได้หนึ่งอาทิตย์พอดิบพอดี"สวัสดีค่ะคุณอัคนี""สวัสดีครับ"ชายหนุ่มในชุดสูทดูดียิ้มรับเมื่อเห็นว่าที่เจ้าสาวเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้ายิ้มรับ"ลูกรู้แล้วใช่ไหมธารน้ำว่าวันนี้คุณอัคนีจะพาลูกไปดูชุดกับเลือกการ์ดแต่งานและของขวัญ""ค่ะ หนูทราบแล้ว"เพราะเมื่อคืนชายหนุ่มได้ส่งข้อความมาบอกเธอแล้วว่าเช้าของวันนี้จะมารับเพื่อไปดูชุดแต่งงานซึ่งการแต่งงานระหว่างเธอกับอัคนีจะถูกจัดขึ้นภายในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้าทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากแม้ธารน้ำจะรู้อยู่เต็มอกว่าเธอจะต้องแต่งงานแต่ก็ไม่คิดว่า
เพล้ง"ไอ้เพลิง"เสียงตะโกนเรียกชื่อของชายหนุ่มดังขึ้นพร้อมกับเสียงแก้วเหล้าที่แตกละเอียดและหยาดเลือดที่รินไหลออกมา"ไอ้สัสเพลิง มึงทำเหี้ยอะไรวะ"รันเวย์ชักสีหน้าก่อนจะเข้ามาดึงแก้วเหล้าที่แตกออกจากฝ่ามือของเพื่อนสนิท"ไอ้นักรบมึงไปเอาทิชชูมาที""เออ ๆ "เสียงดังเอะอะของเพื่อนทั้งสองไม่เข้าโซนประสาทหูของพระเพลิงเลยสักนิด สมองของเขาไม่รับรู้เรื่องอะไรอีกต่อไปหลังจากได้ฟังคำบอกเล่าจากปากของรันเวย์"มึงใจเย็น ๆ ดิวะ"รันเวย์บ่นไปตามประสาในขณะที่ทำแผลให้เพื่อน แม้บาดแผลมันจะไม่ลึกมากแต่ก็ยังคงมีเลือดไหลซึมออกมาสีหน้าของพระเพลิงในตอนนี้เรียบนิ่ง แต่แววตาของเขานั้นมันไม่สามารถปิดบังความเจ็บปวดเอาไว้ได้นอกจากฝ่ามือที่เริ่มมีความรู้สึกเจ็บหัวใจของเขาในตอนนี้ก็เจ็บแปลบไม่ต่างกัน'กูเห็นธารน้ำกับเฮียอัคนีในร้านชุดแต่งงาน''มึงว่าอะไรนะ'รันเวย์สีหน้าไม่สู้ ดีในใจของเขามีความหนักหน่วงแต่เรื่องนี้เขาจำเป็นต้องบอกให้เพื่อนสนิทได้ทราบว่าแฟนสาวกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กับคนอื่น'วันนี้กูพามีนาไปเดินห้างมา กูเห็นธารน้ำกับเฮียอัคนีพี่ชายของมึงเดินเลือกชุดแต่งงานด้วยกัน''...''ที่มึงเคยบอกว่าเฮียอัคนีจะแต่งง
"ธารต้องกราบขอโทษคุณพ่อด้วยนะคะสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น"เจ้าสัวหิรัญมองหญิงสาวเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่ตรงกลางโดยมีลูกชายของตัวเองนั่งขนาบข้างไม่ห่างไปไหนวันนี้คือวันที่ทั้งสามคนก้าวขาเข้ามาพบพร้อมกับอธิบายต้นสายปลายเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้นซึ่งมันตรงกับสิ่งที่เขาได้สืบหามาตั้งแต่วันที่เขาได้เห็นภาพถ่ายซึ่งได้ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของลูกชายคนเล็กในวันนั้น"พ่อไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไรหนูธารเลยสักนิดหนูไม่ต้องคิดมากนะลูก"เจ้าสัวผู้ใจดียังคงมองหน้าลูกสะใภ้คนดีด้วยแววตาโทนอบอุ่นธารน้ำเป็นผู้หญิงที่เก่งและมีความสามารถการเรียนก็ไม่เป็นสองรองใคร งานบ้านก็เรียกว่าใช้ได้ทั้งซักผ้ารีดผ้าและการทำอาหารคาวหวานที่เขาได้ชิมอยู่บ่อยครั้ง"พ่อดีใจนะที่ลูกชายของพ่อทั้งสองคนได้มีหนูมาช่วยดูแล"คำพูดของท่านเจ้าสัวเรียกรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าของหญิงสาวได้"ส่วนน้องเล็ก""ครับ""เรื่องหนูลิลลี่ พ่อจัดการเคลียร์กับทางนั้นให้เรียบร้อยแล้วนะลูกทางนั้นเขาไม่ว่าอะไรอีกทั้งยังเข้าใจดี"เป็นอีกเรื่องที่น่ายินดีสำหรับธารน้ำและพระเพลิง เด็กหนุ่มซึ่งกำลังใกล้จะจบการศึกษายิ้มออกมาได้ด้วยความดีใจก่อนจะหันไปคว้าร่างสวยของหญ
หัวใจของธารน้ำในตอนนี้นั้นสั่นเต้นรัวเร็ว แม้เธอจะเคยสัมผัสของทั้งสองคนมาแล้ว แต่มันก็ครั้งละคนไม่ใช่พร้อมกันทั้งสองแท่งแบบนี้ เธอพยายามบังคับไม่ให้ตัวเองตื่นตระหนกมากเกินไป มันก็เหมือนครั้งก่อนเพียงแค่ตอนนี้เธอต้องควบสองเท่านั้นเองพรึ่บเมื่อคิดได้แล้วเธอก็คุกเข่านั่งลงบนพรมผืนหนานั่งอยู่ระหว่างกลางของชายทั้งสอง ฝ่ามือเล็ก ๆ ของเธอยื่นไปกอบกุมลำกายยาวใหญ่สีหวานของทั้งคู่ สายตาของเธอตอนนี้เหมือนเด็กน้อยที่กำลังอยากรู้อยากลิ้มลองกับของเล่นชิ้นใหม่ตรงหน้า"เต็มที่เลยนะครับธาร เพราะเฮียเองก็จะเต็มที่กับธารเหมือนกัน อ๊าส์""อย่างนั้นแหละธารน้ำ อืม แบบนั้นแหละคนดี"เสียงกระเส่าอย่างมีความสุขของทั้งสองถูกเปล่งออกมาด้วยสีหน้าเคลิ้มฝันมีความสุขกับสิ่งที่เธอทำให้"อืม ดี แบบนั้น""เร็วอีก เมียจ๋า"ยิ่งพวกเขาเอ่ยชมด้วยสีหน้ามีความสุข เธอก็ยิ่งขยับฝ่ามือเร็วขึ้นจนพวกเขารู้สึกเกร็งแขม่วท้องเป็นลอนสวยของตัวเองยิ่งเธอใช้ฝ่ามือเล็ก ๆ ขยับมัน ร่างของเขาทั้งสองก็สั่นสะท้าน ความทรมานกำลังเข้าครอบงำ"อืม ธารครับ""อ๊าส์ ธารน้ำ"หญิงสาวเงยหน้าเรียวเล็กมองหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างกล้าหาญ และยิ่งเธอใช้ฝ่ามือเ
ธารน้ำหอบหายใจหนักเมื่อเห็นร่างกำยำของคนรักทั้งสองค่อย ๆ ใช้มือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตอย่างเชื่องช้า สายตาราวกับสัตว์ป่าหิวกระหายจ้องมองมายังเธอไม่วางตา พรึ่บซิกแพคอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเรียงตัวเป็นลอนสวยแสดงชัดอยู่ตรงหน้า ไหลหนาผายผึ่ง ท่อนแขนกำยำ กล้ามเนื้อเรียงตัวสวยงามทำเอาหญิงสาวต้องกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก"อึก"ชะตาสวาทของเธอกำลังจะขาด ขนาดไซซ์บ้องข้าวหลามของทั้งสองเธอได้สัมผัสมันมาหมดแล้ว ของคนแรกทั้งยาวและใหญ่ ส่วนของอีกคนก็ไม่คิดจะน้อยหน้า คนน้องลีลาเด็ด เอวถี่พลิ้วไหวทำเอาเธอแทบขาดใจตายคาเตียงมาตั้งหลายครั้ง ความดุดันเร่าร้อนอย่างไม่บันยะบันยังทำเอสเธอสลบเหมือดคาเตียงมาตั้งหลายคนส่วนอีกคนแม้ภายนอกดูสุขุมนุ่มลึกของคุณหมอแต่แอบซ่อนลูกเล่นความเผ็ดร้อนเอาไว้ด้วยเม็ดมุกรอบลำกายทำเอาเธอขาสั่นจนเดินไม่ไหวนอนซมอยู่บนเตียงตั้งหลายหนถ้าหากพวกเขาสองคนเข้ามาพร้อมกันเธอจะรับมันได้ไหม จะไหวหรือเปล่า"ธะ...ธารว่าพวกเราสามคนอาบน้ำนอนกันดีกว่านะคะ"เธอยังคงพยายามหาทางเอาตัวรอดแม้เปอร์เซ็นต์ในการรอดจะมีน้อยนิดก็ตามเมื่อเทียบกับความต้องการที่พุ่งสูงเฉียบร้อยเปอร์เซ็นต์ของชายหนุ่มทั้งสอง
"อยากออกไปหาอะไรทานไหม หรืออยากจะไปเที่ยวที่ไหนไหม""ไม่อะ อยากนอนอยู่ห้องมากกว่า"ธารน้ำเงยหน้าตอบเจ้าของห้องซึ่งกำลังวุ่นวายอยู่กับการแต่งตัวเพื่อเตรียมจะไปทำงาน "อยู่แต่ในห้องมาสองวันติดแล้วนะ ไม่เบื่อหรือไง"กอหญ้าถามเพื่อนรักในขณะที่หยิบแป้งฝุ่นเทลงบนฝ่ามือ ดวงตากลมโตจ้องมองเพื่อนสาวในชุดอยู่บ้านสบาย ๆ ผ่านเงากระจกซึ่งกำลังนั่งหน้าหงอยอยู่บนเตียงนอนขนาดห้าฟุตของเธอ"เบื่อสิ แต่ไม่รู้จะออกไปเที่ยวที่ไหน"ไม่อยากออกไปเดินเพ่นพ่านกลัวว่าอัคนีจะรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ เธอยังไม่พร้อมจะกลับไปเจอหน้าใครในตอนนี้ มันยังไม่พร้อมที่จะเจอใครโชคยังดีที่สองวันนี้ไม่มีเรียน เธอไม่จำเป็นต้องพาร่างออกไปเดินเที่ยวเตร่ที่ไหน แต่ใจก็ย่อมรู้ดีว่าตัวเธอจะเอาแต่หลบซ่อนอยู่แต่ภายในห้องแบบนี้ไม่ได้ วันหนึ่งวันใดอัคนีก็ต้องตามหาเธอเจออยู่ดี และไม่แน่ก็อาจจะเป็นพรุ่งนี้ก็ได้ ใครจะไปรู้"ฉันไม่อยู่ก็ล็อกประตูดี ๆ ด้วยล่ะ วันนี้เด็กเสิร์ฟที่ร้านลาสองคนฉันคงต้องทำงานหนักเพิ่มเป็นสองเท่า และคงต้องอยู่ช่วยเขาปิดร้านด้วย"กอหญ้าบอกธารน้ำก่อนจะหยิบกระเป๋าใบเก่าขึ้นมาสะพาย แต่สิ่งที่ธารน้ำหยิบยื่นมาทำให้กอหญ้าชะงักไป"อ
หมัดหนัก ๆ ของน้องชายซัดเข้าใส่ใบหน้าของพี่ชายอันเป็นที่รักอย่างหนักหน่วงจนอัคนีได้เลือดไหล และเมื่อพี่ชายตั้งตัวได้เขาเองก็ไม่คิดจะยอมให้น้องชายอย่างพระเพลิงกระทำต่อเขาแค่เพียงฝ่ายเดียว อัคนีปล่อยหมัดหนัก ๆ กลับไปให้น้องชายจนพระเพลิงเองก็ได้ตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับเขา ใบหน้าหล่อเหลาของสองพี่น้องมีเลือดไหล ก่อนทั้งคู่จะพุ่งเข้าใส่กอดรัดฟัดเหวี่ยงปล่อยหมัดใส่ให้แก่กันผลัวะ ผลัวะ ผลัวะ"เป็นผัวภาษาเหี้ยอะไรวะ เมียคนเดียวยังไม่มีปัญญาดูแลได้""นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอเพลิง""ใช่ ผมกำลังบ้า และผมจะบ้าได้มากกว่านี้อีกถ้าหากวันนี้ผมยังไม่เห็นธารกลับมาที่บ้าน"สองพี่น้องยื้อยุดฉุดดึงกันไปมา "อย่าทำอะไรให้มันเกินหน้าที่ของตัวเองเพลิง นายเป็นน้องชายของเฮียควรอยู่ในส่วนไหนหันเจียมตัวเอาไว้ซะ""แล้วเฮียแหละเป็นผัวภาษาอะไรวะ เมียคนเดียวยังดูแลไม่ได้ทำไมปล่อยให้ธารหนีไป"พระเพลิงพ่นวาจาหยาบคายใส่พี่ชายหลังจะได้รับหมัดหนัก ๆ ดวงตาของไฟทั้งสองดวงลุกโชนจนแทบจะเผาไหม้คฤหาสน์หลังใหญ่ให้วอดวายเพล้ง ผลัวะเสียงข้าวของหล่นแตกกระจาย เสียงดังเอะอะโวยวายทำให้สาวใช้ที่กำลังยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่ต่างพากันกรีดร้องด้
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้นหลายครั้งติดกันทำให้เจ้าของห้องต้องลุกขึ้นจากโซฟาเดินไปเปิดประตูให้กับผู้มาใหม่ปังร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีขาวโทนสะอาดตาปรากฏอยู่ตรงหน้าของกอหญ้า และทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นใครเธอจึงเปล่งเสียงแผ่วเรียกชื่อของเขาออกมา"คุณหมออัคนี""ผมมาหาธารน้ำ เธออยู่ที่นี่ไหมครับ"เสียงที่แผ่วเบาดังราวกับกระซิบของเขาดังขึ้น ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นที่สุดท้ายหลังออกตามหาภรรยาตัวน้อยไปทั่วทุกพื้นที่ ที่ที่เขาคิดว่าเธอจะไปแต่กลับไม่พบ"ธารไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกค่ะ"กอหญ้าตอบเขาด้วยท่าทีสงบนิ่งแววตาของเธอเหลือบมองเข้าไปในห้องพักของตัวเองอัคนีมองตามสายตาของเธอ กรอบดวงตาของเขาแดงก่ำของเขาทำเอาคนพบรู้สึกเห็นใจ แววตาของเขาในตอนนี้แม้จะมีแว่นตาหนาเตอะบดบังอยู่แต่ก็ไม่อาจปกปิดความเจ็บปวดนั้นได้"ถ้าคุณเจอธาร ฝากบอกเธอด้วยนะครับว่าผมรักเขามาก"อัคนีบอกเพื่อนรักของภรรยาสาว เขาก้มหน้าล้วงเอากระเป๋าสตางค์ออกมา ธนบัตรสีเทาหลายสิบใบพร้อมกับบัตรสีดำวงเงินไม่จำกัดถูกส่งไปตรงหน้าของกอหญ้า เธอเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยความสงสารจับใจ'ฝากให้ธารด้วยครับ เผื่อเธอหิวอยากจะออกไปซื้ออะไร"กอหญ้าอ่านริมฝีป
ร่างสูงใหญ่ของคุณหมอหนุ่มในชุดสำหรับเตรียมการผ่าตัดกำลังเคร่งเครียด จากที่คิดว่าจะต้องเข้าไปเซ็นเอกสารในบริษัทกลับต้องขับรถเข้าโรงพยาบาลเป็นการด่วนเมื่อมีเคสฉุกเฉินเข้ามา และตอนนี้เขากำลังตั้งหน้าตั้งตาผ่าตัดให้กับคนไข้เพื่อต้องการรักษาให้มีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้สองชั่วโมงผ่านไป นั่นคือการที่เขาได้ใช้เวลาอยู่ในห้องผ่าตัด เมื่อก้าวขาออกมาก็ต้องพบกับร่างของญาติคนไข้"ตอนนี้คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ เดี๋ยวอีกสักพักหมอจะให้พยาบาลพาคนไข้ไปนอนพักที่ห้องพักฟื้น คงต้องพักดูอาการอีกสักระยะหนึ่งถึงจะกลับบ้านได้""ขอบคุณนะครับคุณหมอที่ช่วยเหลือชีวิตของแม่ผมเอาไว้""ไม่เป็นอะไรครับหมอยินดี ขอตัวก่อนนะครับ"ร่างสูงใหญ่ของคุณหมอหนุ่มในชุดกาวน์สีขาวสะอาดตากล่าวลาญาติของคนไข้ก่อนจะเดินออกเพื่อจะกลับไปยังห้องพักของตัวเองแต่แล้วคุณหมอหนุ่มก็นึกขึ้นได้ว่า วันนี้ภรรยาตัวน้อยของเขามีเรียนวิชาเดียว โทรศัพท์ที่ถูกปิดเสียงอยู่ก็รีบถูกล้วงออกมาจากกระเป๋ากางเกง 'ธารเลิกเรียนแล้วนะคะ'ข้อความข้างบนซึ่งเป็นข้อความแรกถูกส่งมาก่อนจะตามด้วยข้อความถัดไป'ตกลงว่าเฮียจะมารับหรือว่าจะให้ธารนั่งรถไปหาที่บริษัทดีคะ''
แม้บรรยากาศภายในโต๊ะอาหารจะเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยของสองเพื่อนรักแต่ธารน้ำกลับรู้สึกว่าตัวเองกำลังลอยอยู่ใต้ผืนผิวน้ำท่ามกลางความเงียบงันกับคำว่า คู่หมั้นของแฟนเก่า มันกำลังตีแสกหน้าของเธอไม่ต่างอะไรจากท่อไม้ท่อนใหญ่มันทั้งเจ็บ จุก จนพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองควรจะเรียบเรียงความรู้สึกพวกนี้ยังไงก่อนดี อาหารมากมายหน้าตาหน้าทานถูกวางอยู่บนโต๊ะอาหาร กลิ่นหอมยั่วยวนของมันก็ไม่อาจทำให้หญิงสาวในตำแหน่งลูกสะใภ้ใหญ่กระหายหิวได้ "หนูลิลลี่จะกลับมาอยู่เมืองไทยถาวรแล้วใช่ไหม""ค่ะ""ดีเลย ลูกชายคนเล็กของลุงก็ใกล้จะเรียนจบแล้วเหมือนกัน หนูกับลูกชายของลุงจะได้มีเวลาทำความรู้จักเพื่อรักษาความสัมพันธ์ในวันข้างหน้า"เจ้าสัวหิรัญพูดออกมาด้วยความพึงพอใจในตัวลูกสาวของเพื่อน "ลูกสาวของฉันพึ่งจะกลับมา แกก็จะพูดถึงเรื่องหมั้นเลยเหรอวะ""จะให้ช้าได้ยังไง ฉันจองหนูลิลลี่ลูกสาวของนายไว้ให้ลูกชายของฉันไว้ตั้งหลายปีแล้ว อีกไม่กี่เดือนพระเพลิงก็จะเรียนจบ หมั้นกันไปฉันก็จะได้หมดห่วง"ประมุขของบ้านนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี แต่สีหน้าของเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันทั้งสามคนนั้นในตอนนี้ไม่ได้แตกต่างกันส
ริมฝีปากสีธรรมชาติของอัคนีคลี่ยิ้มกว้างทันทีเมื่อเขากลับบ้านมาแล้วเห็นว่าภรรยาตัวน้อยในชุดนักศึกษากำลังช่วยแม่บ้านจัดเตรียมอาหารสำหรับมื้อเย็นในวันนี้"ธารครับ"เสียงอ่อนโยนของอัคนีทำให้เธอต้องหมุนตัวกลับมา ขาเรียวยาวที่โผล่พ้นกระโปรงตัวสวยนั้นกำลังเดินมาหา ธารน้ำสวมผ้ากันเปื้อนสีฟ้าลายน่ารักยิ่งทำให้เธอดูน่ามองในสายตาของเขา"กลับมาถึงนานแล้วเหรอคะ""เปล่าครับ เฮียพึ่งกลับมาถึง แล้วนี่ธารกำลังทำอะไรอยู่""กำลังช่วยพี่ ๆ เขาทำอาหารเย็นค่ะ อีกสักแป๊บก็จะเสร็จแล้ว"เธอตอบเขาพร้อมยิ้มกว้าง อัคนีมองเลยร่างเล็กไปยังในครัวซึ่งวันนี้ดูจะครึกครื้นเป็นพิเศษ"เห็นว่าวันนี้จะมีแขกพิเศษมา ธารเลยอาสามาช่วยพวกพี่ ๆ เขา"ธารน้ำตอบอัคนีทั้งที่เธอเองก็ยังไม่รู้ว่าแขกพิเศษที่ว่านั้นเป็นใคร รู้เพียงแต่ว่าเป็นคนสำคัญของท่านเจ้าสัวหิรัญที่ล่วงรู้ทุกอย่างแต่กลับไม่มีความกล้าเอ่ยบอกเธอไปเขากลัวว่าเธอจะเสียใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้ธารน้ำตัดสินใจขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวกับอัคนีบนชั้นสองเพราะงานในครัวยังเหลืออะไรไม่มาก ทันทีเมื่อทั้งสองข้าวขาขึ้นไปถึงห้องพัก เสียงเครื่องยนต์ของรถคันหรูก็ดังขึ้นก่อนตัวรถจะถูกข