'ถ้าแกยังเห็นแก่แม่ของแกที่ตายไป ก็แต่งงานตามที่ฉันสั่งเข้าใจไหม'
แกรก หญิงสาวในชุดนักศึกษาก้าวขาเข้ามาในห้องพักก่อนธารน้ำจะเดินไปล้มตัวลงนอนบนเตียงขนาดกลางอย่างเหนื่อยล้า น้ำตาที่อัดอั้นเป็นเวลานานไหลออกมาทันทีเมื่อเธอปิดเปลือกตา เรื่องราวมากมายถาโถมเข้ามาในชีวิตของเธอไม่ยอมหยุดตั้งแต่ที่เธอสูญเสียผู้เป็นแม่ไป ธารน้ำรู้สึกว่าตอนนี้ชีวิตของเธอกำลังล่องลอยอยู่ท่ามกลางแม่น้ำกว้างใหญ่ที่มองไปทางไหนก็ไม่เห็นฝั่ง แม้จะออกมาใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังโดยไม่พึ่งพาใครแต่สุดท้ายที่บ้านก็พาปัญหามาให้เธอจนได้ 'ฉันเอาบริษัทกับบ้านหลังนี้ที่เป็นของแม่แกไปจำนองกับคุณอัคนีเมื่อหลายปีก่อน ถ้าแกไม่อยากให้มันถูกยึดก็ทำตามที่ฉันสั่ง' '...' 'ถ้าแกรักแม่ของแก ก็แต่งงานซะ'ไร้ซึ่งความเห็นใจในแววตาของบิดา การแต่งงานที่เธอไม่ได้เต็มใจนั่นคือสิ่งที่เธอไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ปึง ปึง ปึง เสียงทุบประตูหนัก ๆ ดังขึ้นตามด้วยเสียงเรียกชื่อของเธอดังในเวลาถัดมาทำให้หญิงสาวซึ่งกำลังนอนปิดตาร้องไห้ตื่นขึ้นมาโดยทันที "ธารน้ำ เปิดประตูให้ฉันหน่อย"เจ้าของห้องซุกใบหน้าลงบนหมอนพลางร้องไห้ออกมาโดยที่เสียงเรียกชื่อของเธอและเสียงทุบประตูยังคงดังอยู่อย่างนั้น "ฉันรู้นะว่าเธออยู่ข้างใน ถ้าไม่อยากให้ฉันพังประตูเข้าไปก็เปิดประตูออกมาคุยกันดี ๆ "ชายหนุ่มกำคีย์การ์ดในมือแน่น เมื่อแฟนสาวเปลี่ยนรหัสจนเขาไม่สามารถสแกนคีย์การ์ดเปิดประตูเข้าไปได้ แม้จะเป็นหอพักขนาดกลางไม่ได้ใหญ่แต่ระบบการรักษาความปลอดภัยที่นี่ถือว่าไม่น้อยหน้าระบบการรักษาความปลอดภัยเหมือนกับคอนโดใหญ่ ๆ ที่เขาอาศัยอยู่ "..." "ธารน้ำ ฉันบอกให้เธอเปิดประตู" ปึง ปึง ปึง "ธารน้ำ ฉันบอกให้เปิด" เงียบ ปึง ปึง ปึง "อย่าให้ฉันต้องโมโหนะธารน้ำ เธอก็รู้ว่าคนอย่างฉันทำอะไรได้บ้างถ้าหากโมโหขึ้นมา" แกรก ประตูห้องพักของธารน้ำถูกเปิดออกก่อนร่างสูงใหญ่จะพุ่งเข้าไปด้านในก่อนชายหนุ่มจะใช้ฝ่าเท่าเขี่ยปิดประตูพร้อมกับใช้มือดันร่างเล็กในชุดนักศึกษาให้แผ่นหลังประชิดกับผนังห้อง "ธารน้ำ" "มาทำไม"เจ้าของห้องหันหน้าไปมองทางอื่น ปลายจมูกและกรอบดวงตาที่แดงก่ำทำให้อารมณ์คุกรุ่นภายในใจของพระเพลิงเลือนหายไปทันที "เธอร้องไห้เหรอธารน้ำ" เพียะ ฝ่ามือที่กำลังจะยื่นไปซับคราบน้ำตาบนใบหน้าสวยถูกสะบัดออกอย่างรุนแรงด้วยฝีมือของหญิงสาวเจ้าของห้อง "จะมาเก็บของเหรอ ไปเก็บสิแล้วก็รีบออกไปได้แล้ว" "เธอเลิกพูดจาบ้า ๆ ได้แล้วธารน้ำ ฉันบอกแล้วไงว่าไม่มีทางเลิกกับเธอเด็ดขาด" "แต่ฉันอยากเลิก" "..." "ฉันทนกับความเจ้าชู้มักมากของนายมามากพอแล้วพระเพลิง ฉันเหนื่อยที่จะทนแล้วรู้ไหม"ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอยังเจ็บไม่พออีกหรือไง เขาใจร้ายกับเธอมากเลยรู้ไหม ทั้งที่เธอรักและมีแค่เขาเพียงคนเดียวแต่เขากลับไปมีใครต่อใครอีกหลายคนจนมาถึงเพื่อนที่เธอรักและไว้ใจมากที่สุด น้ำตาแห่งความเสียใจและผิดหวังค่อย ๆ ไหลออกมาจากกรอบดวงตาที่แดงก่ำ ทำให้พระเพลิงรีบดึงแฟนสาวเข้ามากอด ให้เธอทุบตีโวยวายใส่เขาเหมือนเมื่อก่อนมันยังดีกว่าที่เธอเอาแต่ยืนร้องไห้เงียบ ๆ อยู่อย่างนี้ "ฉันมันไม่ดีเอง ฉันขอโทษ" "..." "เพลิงขอโทษที่ทำให้น้ำต้องเสียใจอีกแล้ว" "..." "ยกโทษให้เพลิงอีกสักครั้งนะธารน้ำ เพลิงสัญญาว่าต่อจากนี้ไปมันจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ให้โอกาสผู้ชายเลว ๆ คนนี้อีกสักครั้งเถอะนะ"หญิงสาวในอ้อมกอดส่ายหน้าไปมา เธอดันตัวออกจากอ้อมกอดของเขาก่อนจะใช้หลังมือเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าอย่างลวก ๆ "นายอยากจะได้โอกาสไปทำไมกันพระเพลิง ในเมื่อฉันให้โอกาสนายไปไม่รู้ตั้งกี่ครั้งแต่นายก็ยังไม่คิดจะรักษามัน" "แต่ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย เพลิงสัญญา" "อย่ามาสัญญาในสิ่งที่นายไม่มีทางทำมันได้"เพราะชายหนุ่มเคยพูดกับเธอแบบนี้ตั้งหลายครั้งแต่สุดท้ายเขาก็ไม่มีทางทำได้ "นายรู้ไหมพระเพลิง ฉันจะไม่เสียใจหนักขนาดนี้เลยถ้าหากผู้หญิงที่นอนข้างกายของนายไม่ใช่ใบหม่อนเพื่อนสนิทของฉัน" "..." "การที่ฉันจะต้องมาเห็นว่าแฟนกับเพื่อนสนิทของตัวเองมีอะไรกันฉันรับมันไม่ไหวหรอกนะ มันหนักเกินไปพระเพลิง" "แต่ฉันไม่ได้รักไม่ได้คิดอะไรกับใบหม่อน เรื่องระหว่างฉันกับใบหม่อนเราสองคนแค่สนุก ๆ ด้วยกัน" "แล้วถ้าฉันไปสนุกกับผู้ชายคนอื่นบ้าง นายจะยังมายืนฟังคำอธิบายเหมือนกับฉันตอนนี้ไหม"คำถามจากปากของธารน้ำทำให้พระเพลิงถึงกับยืนเงียบไป คิดย้อนกลับกันเขาคงไม่มีอารมณ์มานั่งฟังคำอธิบายจากปากของใครเลยทั้งนั้น หลักฐานคาตาขนาดนั้น เพื่อนสนิทกับแฟนนอนกอดกันกลมอยู่บนเตียงขนาดนั้นใครจะทนไหวกันจริงไหม "ฉันทนกับการเอาไม่เลือกของนายมามากพอแล้วพระเพลิง" "ไม่นะธารน้ำ ฉันขอโอกาสอีกสักครั้งเถอะนะ"ดวงตาของลูกผู้ชายเริ่มแดงก่ำ เขาพยายามดึงร่างของแฟนสาวเข้ามากอดแต่เธอก็พยายามดิ้นหนีให้หลุดออกจากพันธนาการอ้อมแขนของเขา "อย่าทิ้งฉันไปเลยนะธารน้ำ ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ" "เราเลิกกันเถอะพระเพลิง"คำบอกเลิกของเธอราวกับกระแสไฟฟ้าผ่าลงกลางใจของคนฟังอย่างชายหนุ่ม หัวใจที่เต้นรัวเร็วและความรู้สึกเจ็บปวดราวกับถูกแทงเกิดขึ้นเพราะอะไรมีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ตัวดี 'ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเพียงเพราะความเลว ความไม่รู้จักพอของเขาเอง' "ปล่อยฉันไปเถอะนะพระเพลิง ฉันรับมันไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ฮึก" "ฉันปล่อยเธอไปไม่ได้ธารน้ำ ฉันรักเธอ"น้ำตาของลูกผู้ชายไหลออกมาและทันก็ได้หยดลงบนไหล่บางของหญิงสาว เขาร้องไห้พลางโอบกอดคนรักเอาไว้ "ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันคงกลับไปรักนายไม่ได้อีกแล้วพระเพลิง" "..." "เราสองคนเลิกกันเถอะนะ อย่ารั้งกันไว้อีกเลย"เธอวิงวอนขอร้องเขาด้วยความร้าวราน แม้ว่าหัวใจของเธอจะยังคงรักผู้ชายคนนี้แต่ชีวิตของเธอต่อจากนี้ก็ต้องทำหน้าที่สำคัญ เธอจะต้องแต่งงานกับผู้ชายที่บิดาเลือกให้แม้จะต้องแต่งด้วยความไม่เต็มใจแต่แล้วสุดท้ายธารน้ำก็ไม่สามารถขัดคำสั่งของท่านได้ ใบหน้าของมารดาลอยเข้ามาทุกครั้งเมื่อเธอหลับตาลง การปล่อยให้ชายหนุ่มได้ออกไปจากชีวิตของเธอนั่นมันคือทางเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ "ไปจากชีวิตของฉันซะพระเพลิง ออกไปจากชีวิตของฉันต่อไปนี้เราสองคนจะกลายเป็นคนที่ไม่รู้จักกัน" "ไม่ฉันไม่เลิก ธะ...ธารน้ำ เธออย่าทิ้งฉันเลยนะ ฉันขอโทษ"ใบหน้าคมคายของพระเพลิงสะท้อนให้เห็นถึงความเจ็บปวดราวกับถ้อยคำของเธอนั้นเปรียบเสมือนปลายมีดแหลมคมกรีดลงกลางใจ ธารน้ำรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายผลักร่างสูงใหญ่ให้กระเด็นออกไป ธารน้ำสะบัดหน้าหนีสลัดสัมผัสที่อ่อนโยนจากอ้อมกอดของเขาในก่อนหน้านี้ออกไป หัวใจของเธอนั้นเย็นเฉียบไปครึ่งดวงมันเจ็บปวดไม่ต่างอะไรกับหัวใจของชายหนุ่ม แต่เพื่อสมบัติชิ้นสุดท้ายของมารดาที่เธอจะต้องรักษามันเอาไว้ ทำให้ธารน้ำต้องทำในสิ่งที่มันตรงข้ามกับหัวใจของเธอในตอนนี้ "ออกไปจากห้องของฉัน แล้วไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้าของนายอีก" "..." "ต่อไปนี้เรื่องระหว่างนายกับฉัน ขอให้มันจบกันแค่เพียงตรงนี้อย่าได้มีอะไรติดค้างกันอีกต่อไป"รุ่งเช้าอันแสนสดใสแต่คงไม่ใช่ชีวิตของธารน้ำ เธอต้องตื่นตั้งแต่เช้าเพื่ออาบน้ำแต่งตัวมาสอบในวันสุดท้าย เมื่อคืนเธอแทบจะนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะมัวเอาแต่นอนร้องไห้กับเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากไล่ให้พระเพลิงอดีตแฟนหนุ่มเดินออกไป"ธารน้ำ ทำไม"กอหญ้าไม่กล้าปริปากถามถึงสาเหตุว่าทำไมเพื่อนสนิทถึงได้มาอยู่ในสภาพราวกับซอมบี้แบบนี้ ทั้งที่เมื่อวานก็ยังปกติดี"กอหญ้า""หืม""ฉันเลิกกับเพลิงแล้วนะ"เธอพยายามแอบซ่อนความเสียใจเอาไว้สุดกำลัง แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่สามารถปิดบังเพื่อนรักที่คบหากันมานานได้กอหญ้ารีบย้ายพาตัวเองไปนั่งข้างกายธารน้ำ ไหล่ของเพื่อนสนิทกลายเป็นที่พักพิงให้กับเธอในตอนนี้"ร้องไห้ออกมาเลยนะถ้ามันจะทำให้เธอสบายใจขึ้น""...""ถ้าหากยังไม่พร้อมที่จะเล่าก็ไม่เป็นไร แต่ฉันจะไม่ทิ้งเธอไปไหนธารน้ำ""ขอบใจนะกอหญ้า ขอบใจที่เธอยังอยู่ข้างฉัน"ธารน้ำก้มหน้าซุกไหล่ของกอหญ้าพลางปล่อยน้ำตาให้มันไหลออกมาเงียบ ๆ ไร้ซึ่งเสียงสะอื้น ซึ่งกอหญ้าเองก็สัมผัสได้ถึงน้ำตาของเพื่อนสนิทที่ไหลเปียกชุ่มตรงบริเวณหัวไหล่จนเวลาผ่านไปการร้องไห้ในครั้งนี้ของธารน้ำได้สิ้นสุดลงแต่ความเสียใจก็ยังคงไม่เลือนหายไปจากแววตาข
"แกทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อยจะได้ไหม แค่ทำหน้าให้มีดีกว่านี้จะตายหรือยังไง"เสียงหมดอาลัยของเอกรินทร์ดังขึ้นแต่ทว่าธารน้ำเธอยังคงแสดงสีหน้าเรียบนิ่งอยู่ภายในรถซึ่งตอนนี้ทั้งคู่กำลังเดินทางไปพบกับชายหนุ่มที่เอกรินทร์หมายมั่นที่จะให้ลูกสาวคนโตแต่งงานด้วย"ธารน้ำ""ต้องการอะไรอีก แค่หนูยอดแต่งงานกับผู้ชายที่พ่อหามาให้ยังไม่พอใจอีกเหรอ"หญิงสาวในชุดเดรสสีดำเปิดไหล่หันมามองหน้าของบิดาดวงตาสั่นเครือ"ถ้าแกยังทำหน้าเหมือนคนใกล้จะตายอยู่แบบนี้ก็อย่าหวังว่าคุณอัคนีเขาจะดีใจยอมลดดอกเบี้ยให้ บ้านกับบริษัทของแม่แกได้ถูกยึดไปแน่""นี่พ่อยังเห็นว่าหนูเป็นลูกอยู่ไหม"ชายวัยกลางคนมองหน้าลูกสาวเพียงครู่เดียวก่อนจะหันหน้ามองออกไปยังนอกหน้าต่าง"พรุ่งนี้เตรียมตัวย้ายกลับเข้ามาอยู่ที่บ้าน ฉันไม่ชอบพูดอะไรซ้ำ ๆ หวังว่าแกจะเข้าใจ"เปลือกตาสวยปิดลงคำพูดของเธอคงไม่สะท้อนเข้าไปถึงหัวใจของคนฟังข้างกาย ทำไมชีวิตของเธอถึงได้มาเจอเรื่องราวอะไรแบบนี้ครืดเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นอยู่ในกระเป๋าใบสวยทำให้หญิงสาวต้องเปิดเปลือกตา ใบหน้าสวยของธารน้ำชะงักไปเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา'พระเพลิง'ริมฝีปากสวยเม้มเข้าหากันจนเป็น
ธารน้ำนั่งนิ่งหลังจากทุกคนทานอาหารเสร็จ หัวใจของเธอมันเต้นไม่เป็นจังหวะอีกทั้งยังมีความหวาดหวั่นกับผู้ชายตรงหน้าอยู่บ้าง "อย่างที่ผมเคยแจ้งให้คุณอัคนีทราบ ตอนนี้ทางบริษัทของผมกำลังมีปัญหา เรื่องที่ผมเคยเอาบ้านกับบริษัทของภรรยาไปค้ำประกันในการกู้เงิน"ถ้อยคำที่ผู้เป็นพ่อเกริ่นออกมาในแววตาของชายวัยกลางคนไร้ซึ่งความรู้สึกผิด ทำให้ลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างธารน้ำรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจ ท่านทำราวกับว่าบริษัทและบ้านของมารดาจะสามารถเอาไปทำยังไงก็ได้โดยที่ไม่คิดถึงจิตใจของเธอเลยสักนิด"ผมอยากจะขอยื่นเวลาในการชดใช้หนี้""แต่เงินที่คุณกู้ผมไปมันไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะครับ และไหนจะดอกเบี้ย...""ธารน้ำจะมาเป็นดอกเบี้ยในระหว่างที่ผมหาเงินมาใช้หนี้ให้กับคุณครับ คุณอัคนี"ครืด"หนูขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ"ธารน้ำไม่สามารถนั่งทนฟังคำพูดของพ่อตัวเองต่อไปไหวลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกไปจากห้องทานอาหารส่วนตัวโดยมีสายตาคนเข้มซึ่งยากจะคาดเดามองตามแผ่นหลังเล็กที่กำลังเปิดประตูเดินออกไปซ่าเสียงสายน้ำที่ดังขึ้นตรงอ่างล้างหน้าดังก้อง หญิงสาวในชุดเดรสสีสวยมองรูปหน้าของตัวเองผ่านเงาสะท้อนของกระจกบานใหญ่ คำพูดของบิดาเมื่อคร
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวในชุดเดรสสีหวานให้ความสนใจ เธอเหลือบตาตาไปมองนาฬิกาก่อนจะเดินไปคว้ากระเป๋าในสวยขึ้นมาสะพายไหล่แกรก"คุณท่านให้หนูขึ้นมาตามคุณธารน้ำค่ะ"หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยพยักหน้า ก่อนธารน้ำจะเดินออกมาจากห้องพักซึ่งเป็นห้องนอนเก่าของเธอตึก ตึก ตึกเสียงฝีเท้ายามเมื่อเธอก้าวขาลงบันไดดังขึ้น เสียงพูดคุยของบิดากับผู้มาใหม่ดังแว่วหูมาแต่ไกล "นั่นไงครับธารน้ำ มาพอดีเลย"ธารน้ำเดินเข้าไปหาเธอไม่สนใจสายตาของสองแม่ลูกที่มองมาด้วยความไม่พึงพอใจตั้งแต่เธอย้ายเข้ามาอยู่ภายในบ้านหลังนี้ได้หนึ่งอาทิตย์พอดิบพอดี"สวัสดีค่ะคุณอัคนี""สวัสดีครับ"ชายหนุ่มในชุดสูทดูดียิ้มรับเมื่อเห็นว่าที่เจ้าสาวเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้ายิ้มรับ"ลูกรู้แล้วใช่ไหมธารน้ำว่าวันนี้คุณอัคนีจะพาลูกไปดูชุดกับเลือกการ์ดแต่งานและของขวัญ""ค่ะ หนูทราบแล้ว"เพราะเมื่อคืนชายหนุ่มได้ส่งข้อความมาบอกเธอแล้วว่าเช้าของวันนี้จะมารับเพื่อไปดูชุดแต่งงานซึ่งการแต่งงานระหว่างเธอกับอัคนีจะถูกจัดขึ้นภายในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้าทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากแม้ธารน้ำจะรู้อยู่เต็มอกว่าเธอจะต้องแต่งงานแต่ก็ไม่คิดว่า
เพล้ง"ไอ้เพลิง"เสียงตะโกนเรียกชื่อของชายหนุ่มดังขึ้นพร้อมกับเสียงแก้วเหล้าที่แตกละเอียดและหยาดเลือดที่รินไหลออกมา"ไอ้สัสเพลิง มึงทำเหี้ยอะไรวะ"รันเวย์ชักสีหน้าก่อนจะเข้ามาดึงแก้วเหล้าที่แตกออกจากฝ่ามือของเพื่อนสนิท"ไอ้นักรบมึงไปเอาทิชชูมาที""เออ ๆ "เสียงดังเอะอะของเพื่อนทั้งสองไม่เข้าโซนประสาทหูของพระเพลิงเลยสักนิด สมองของเขาไม่รับรู้เรื่องอะไรอีกต่อไปหลังจากได้ฟังคำบอกเล่าจากปากของรันเวย์"มึงใจเย็น ๆ ดิวะ"รันเวย์บ่นไปตามประสาในขณะที่ทำแผลให้เพื่อน แม้บาดแผลมันจะไม่ลึกมากแต่ก็ยังคงมีเลือดไหลซึมออกมาสีหน้าของพระเพลิงในตอนนี้เรียบนิ่ง แต่แววตาของเขานั้นมันไม่สามารถปิดบังความเจ็บปวดเอาไว้ได้นอกจากฝ่ามือที่เริ่มมีความรู้สึกเจ็บหัวใจของเขาในตอนนี้ก็เจ็บแปลบไม่ต่างกัน'กูเห็นธารน้ำกับเฮียอัคนีในร้านชุดแต่งงาน''มึงว่าอะไรนะ'รันเวย์สีหน้าไม่สู้ ดีในใจของเขามีความหนักหน่วงแต่เรื่องนี้เขาจำเป็นต้องบอกให้เพื่อนสนิทได้ทราบว่าแฟนสาวกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กับคนอื่น'วันนี้กูพามีนาไปเดินห้างมา กูเห็นธารน้ำกับเฮียอัคนีพี่ชายของมึงเดินเลือกชุดแต่งงานด้วยกัน''...''ที่มึงเคยบอกว่าเฮียอัคนีจะแต่งง
ตึก ตึก ตึกเสียงรองเท้าดังกระทบพื้นเกิดขึ้นภายในตึกสูงใหญ่ซึ่งเป็นหอพักที่ธารน้ำเช่าอยู่อาศัย ใบหน้าเปียกชื้นไปด้วยหยาดเหงื่อของสาวสวยเต็มไปด้วยความกังวล เพราะหลังจากที่เธอได้รับข้อความแนบท้ายด้วยคลิปวิดีโอธารน้ำก็รีบตรงดิ่งกลับมายังห้องพักของตัวเองทันทีเพราะเธอไม่ต้องการให้มีเรื่องฆ่ากันตายเกิดขึ้นติ๊ด ติ๊ด ติ๊ดปัง"ฮึก ธารน้ำ""มาแล้วเหรอ เมียจ๋า"น้ำเสียงของชายหญิงเอ่ยทักทายผู้มาใหม่มันช่างแตกต่างกันลิบลับ ธารน้ำมองสภาพอดีตเพื่อนสนิทซึ่งถูกมัดติดไว้กับเก้าอี้โดยมีอดีตแฟนหนุ่มยืนคุ้มกันถืออาวุธร้ายเอาไว้ในมือเสียงสั่นเครือของใบหม่อนทั้งขอร้องอ้อนวอนด้วยความหวาดกลัวขอให้เธอช่วยเหลือโดยมีร่างสูงใหญ่ยืนถือปืนกำลังยืนแสะยิ้มร้ายมองมายังตัวเธอ "ธารน้ำ ฮึก ช่วยฉันด้วย พระเพลิงเป็นบ้าไปแล้ว เขากำลังจะฆ่าฉัน""คิดจะทำอะไร เป็นบ้าอะไรอีกเพลิง"ธารน้ำก้าวขาเดินเข้าไปในห้องพักของตัวเอง ดวงตาสั่นไหวด้วยความกลัวอาวุธในมือของชายหนุ่มเพราะไม่รู้ว่ามันจะลั่นไกออกมาตอนไหน เธอทำใจฮึดสู้ก้าวผ่านความกลัวเดินไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของทั้งสอง"ฉันไม่ได้บ้า แต่ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้เธอก็คงไม่มีวันออกมาเจอหน้าข
ในเมื่อตัดแล้วเธอก็ต้องตัดให้ขาด ธารน้ำจัดการเปลี่ยนเบอร์มือถือใหม่เพื่อไม่ให้พระเพลิงสามารถติดต่อเธอได้เธอใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้านหลังใหญ่ของมารดา ตื่นเช้ามาก็ไปเรียนหลังจากเลิกเรียนเสร็จก็รีบกลับบ้าน ส่วนงานที่เธอเคยทำตอนนี้ต้องขอหยุดพักเอาไว้ก่อน รอให้ผ่านพ้นเรื่องงานแต่งไปก่อนเธอก็คงจะกลับไปทำงานเหมือนเช่นดังเดิม"นั่ง ๆ นอน ๆ เป็นคุณนายดูสบายจังเลยเนอะ งานก็ไม่ต้องทำแถมยังจะได้ผัวรวยอีก"เสียงนกเสียงกาดังมาแต่ไกลรบกวนสมาธิในการอ่านหนังสือทำให้ธารน้ำจำต้องถอนหายใจออกมา สาวสวยตวัดสายตาหันหน้าไปมองผู้มาใหม่ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนลูกเลี้ยงคนโปรดของพ่อเธอนั่นเอง"อิจฉาเหรอ"น้ำเสียงเนิบนาบฟังดูคล้ายเยอะเย้ยทำให้เขมิกาหน้าบึ้งขึ้นมาทันตาเห็น สาวสวยในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกันเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าคล้ายกับว่าต้องการจะหาเรื่อง"ทำไมฉันต้องอิจฉาคนอย่างแกด้วยฮะนังธารน้ำ คนอย่างแกมีอะไรดีให้คนอย่างฉันต้องอิจฉาจนกินไม่ได้นอนไม่หลับอย่างนั้นเหรอ""ก็ไม่รู้เหมือนกันสินะว่าคนอย่างฉันมันจะมีอะไรดีที่ทำให้เธอนั้นได้อิจฉา"ร่างสูงโปร่งดั่งนางแบบของธารน้ำลุกขึ้นยืนขึ้นเผชิญหน้ากับเขมิกาอย่างไม่เกรงกลัว"ฉ
ภายในห้องนอนสุดหรูสีทึบไม่มีแม้แต่แสงสว่างเล็ดลอดเข้ามาแม้จะเป็นช่วงเวลากลางวันก็ตาม มีร่างสูงใหญ่ของชายคนหนึ่งอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาข้างเตียงนอน ในมือของเขานั้นกำขวดเหล้าเอาไว้แน่นแม้จะอยู่ในสภาพเมามายก็ตาม"ฮึก ธารน้ำ""...""ฉันคิดถึงเธอ"เหล้าสีอำพันในขวดแก้วถูกกระดกลงคอครั้งแล้วครั้งเล่า ความมัวเมาไม่ได้ทำให้เขาลืมเลือนใบหน้าของคนรักได้ ยิ่งเขาดื่มมากเท่าไหร่ภาพใบหน้าของธารน้ำยิ่งฉายชัดอยู่ในหัวสมองของเขา ดวงตาคู่สวยของเธอยังคงตราตรึง พระเพลิงยังคงนึกถึงแฟนสาวของเขาตลอดมาแม้ว่าตอนนี้เธอจะตัดขาดการติดต่อและไม่ยอมออกมาหามาเจอหน้าเขาเลยก็ตาม"ธารน้ำ ฮึก ฉันรักเธอนะ"ชายหนุ่มซึ่งยังคงตกอยู่ในสภาพเมามายยังคงพร่ำเพ้อหาหญิงสาว มืออีกข้างของเขาเอื้อมไปคว้ารูปถ่ายของเธอขึ้นมากอดแนบอกเอาไว้ ดวงตาเหม่อลอยมองไปทั่วบริเวณรอบห้องซึ่งยังคงมีรูปถ่ายของธารน้ำติดเอาไว้มากมาย น้ำตาของลูกผู้ชายไหลทะลักออกมาเมื่อเขาย้อนนึกไปถึงภาพเหตุการณ์วันนั้น ภาพวันที่เธอหันหลังเดินจากไปแล้วไม่คิดจะหันกลับมา ดวงตาว่างเปล่าเมื่อมองหน้าเขาราวกับว่าความรักของเราทั้งสองภายในใจของเธอนั้นมันได้หมดแล้วจ
"ธารต้องกราบขอโทษคุณพ่อด้วยนะคะสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น"เจ้าสัวหิรัญมองหญิงสาวเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่ตรงกลางโดยมีลูกชายของตัวเองนั่งขนาบข้างไม่ห่างไปไหนวันนี้คือวันที่ทั้งสามคนก้าวขาเข้ามาพบพร้อมกับอธิบายต้นสายปลายเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้นซึ่งมันตรงกับสิ่งที่เขาได้สืบหามาตั้งแต่วันที่เขาได้เห็นภาพถ่ายซึ่งได้ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของลูกชายคนเล็กในวันนั้น"พ่อไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไรหนูธารเลยสักนิดหนูไม่ต้องคิดมากนะลูก"เจ้าสัวผู้ใจดียังคงมองหน้าลูกสะใภ้คนดีด้วยแววตาโทนอบอุ่นธารน้ำเป็นผู้หญิงที่เก่งและมีความสามารถการเรียนก็ไม่เป็นสองรองใคร งานบ้านก็เรียกว่าใช้ได้ทั้งซักผ้ารีดผ้าและการทำอาหารคาวหวานที่เขาได้ชิมอยู่บ่อยครั้ง"พ่อดีใจนะที่ลูกชายของพ่อทั้งสองคนได้มีหนูมาช่วยดูแล"คำพูดของท่านเจ้าสัวเรียกรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าของหญิงสาวได้"ส่วนน้องเล็ก""ครับ""เรื่องหนูลิลลี่ พ่อจัดการเคลียร์กับทางนั้นให้เรียบร้อยแล้วนะลูกทางนั้นเขาไม่ว่าอะไรอีกทั้งยังเข้าใจดี"เป็นอีกเรื่องที่น่ายินดีสำหรับธารน้ำและพระเพลิง เด็กหนุ่มซึ่งกำลังใกล้จะจบการศึกษายิ้มออกมาได้ด้วยความดีใจก่อนจะหันไปคว้าร่างสวยของหญ
หัวใจของธารน้ำในตอนนี้นั้นสั่นเต้นรัวเร็ว แม้เธอจะเคยสัมผัสของทั้งสองคนมาแล้ว แต่มันก็ครั้งละคนไม่ใช่พร้อมกันทั้งสองแท่งแบบนี้ เธอพยายามบังคับไม่ให้ตัวเองตื่นตระหนกมากเกินไป มันก็เหมือนครั้งก่อนเพียงแค่ตอนนี้เธอต้องควบสองเท่านั้นเองพรึ่บเมื่อคิดได้แล้วเธอก็คุกเข่านั่งลงบนพรมผืนหนานั่งอยู่ระหว่างกลางของชายทั้งสอง ฝ่ามือเล็ก ๆ ของเธอยื่นไปกอบกุมลำกายยาวใหญ่สีหวานของทั้งคู่ สายตาของเธอตอนนี้เหมือนเด็กน้อยที่กำลังอยากรู้อยากลิ้มลองกับของเล่นชิ้นใหม่ตรงหน้า"เต็มที่เลยนะครับธาร เพราะเฮียเองก็จะเต็มที่กับธารเหมือนกัน อ๊าส์""อย่างนั้นแหละธารน้ำ อืม แบบนั้นแหละคนดี"เสียงกระเส่าอย่างมีความสุขของทั้งสองถูกเปล่งออกมาด้วยสีหน้าเคลิ้มฝันมีความสุขกับสิ่งที่เธอทำให้"อืม ดี แบบนั้น""เร็วอีก เมียจ๋า"ยิ่งพวกเขาเอ่ยชมด้วยสีหน้ามีความสุข เธอก็ยิ่งขยับฝ่ามือเร็วขึ้นจนพวกเขารู้สึกเกร็งแขม่วท้องเป็นลอนสวยของตัวเองยิ่งเธอใช้ฝ่ามือเล็ก ๆ ขยับมัน ร่างของเขาทั้งสองก็สั่นสะท้าน ความทรมานกำลังเข้าครอบงำ"อืม ธารครับ""อ๊าส์ ธารน้ำ"หญิงสาวเงยหน้าเรียวเล็กมองหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างกล้าหาญ และยิ่งเธอใช้ฝ่ามือเ
ธารน้ำหอบหายใจหนักเมื่อเห็นร่างกำยำของคนรักทั้งสองค่อย ๆ ใช้มือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตอย่างเชื่องช้า สายตาราวกับสัตว์ป่าหิวกระหายจ้องมองมายังเธอไม่วางตา พรึ่บซิกแพคอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเรียงตัวเป็นลอนสวยแสดงชัดอยู่ตรงหน้า ไหลหนาผายผึ่ง ท่อนแขนกำยำ กล้ามเนื้อเรียงตัวสวยงามทำเอาหญิงสาวต้องกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก"อึก"ชะตาสวาทของเธอกำลังจะขาด ขนาดไซซ์บ้องข้าวหลามของทั้งสองเธอได้สัมผัสมันมาหมดแล้ว ของคนแรกทั้งยาวและใหญ่ ส่วนของอีกคนก็ไม่คิดจะน้อยหน้า คนน้องลีลาเด็ด เอวถี่พลิ้วไหวทำเอาเธอแทบขาดใจตายคาเตียงมาตั้งหลายครั้ง ความดุดันเร่าร้อนอย่างไม่บันยะบันยังทำเอสเธอสลบเหมือดคาเตียงมาตั้งหลายคนส่วนอีกคนแม้ภายนอกดูสุขุมนุ่มลึกของคุณหมอแต่แอบซ่อนลูกเล่นความเผ็ดร้อนเอาไว้ด้วยเม็ดมุกรอบลำกายทำเอาเธอขาสั่นจนเดินไม่ไหวนอนซมอยู่บนเตียงตั้งหลายหนถ้าหากพวกเขาสองคนเข้ามาพร้อมกันเธอจะรับมันได้ไหม จะไหวหรือเปล่า"ธะ...ธารว่าพวกเราสามคนอาบน้ำนอนกันดีกว่านะคะ"เธอยังคงพยายามหาทางเอาตัวรอดแม้เปอร์เซ็นต์ในการรอดจะมีน้อยนิดก็ตามเมื่อเทียบกับความต้องการที่พุ่งสูงเฉียบร้อยเปอร์เซ็นต์ของชายหนุ่มทั้งสอง
"อยากออกไปหาอะไรทานไหม หรืออยากจะไปเที่ยวที่ไหนไหม""ไม่อะ อยากนอนอยู่ห้องมากกว่า"ธารน้ำเงยหน้าตอบเจ้าของห้องซึ่งกำลังวุ่นวายอยู่กับการแต่งตัวเพื่อเตรียมจะไปทำงาน "อยู่แต่ในห้องมาสองวันติดแล้วนะ ไม่เบื่อหรือไง"กอหญ้าถามเพื่อนรักในขณะที่หยิบแป้งฝุ่นเทลงบนฝ่ามือ ดวงตากลมโตจ้องมองเพื่อนสาวในชุดอยู่บ้านสบาย ๆ ผ่านเงากระจกซึ่งกำลังนั่งหน้าหงอยอยู่บนเตียงนอนขนาดห้าฟุตของเธอ"เบื่อสิ แต่ไม่รู้จะออกไปเที่ยวที่ไหน"ไม่อยากออกไปเดินเพ่นพ่านกลัวว่าอัคนีจะรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ เธอยังไม่พร้อมจะกลับไปเจอหน้าใครในตอนนี้ มันยังไม่พร้อมที่จะเจอใครโชคยังดีที่สองวันนี้ไม่มีเรียน เธอไม่จำเป็นต้องพาร่างออกไปเดินเที่ยวเตร่ที่ไหน แต่ใจก็ย่อมรู้ดีว่าตัวเธอจะเอาแต่หลบซ่อนอยู่แต่ภายในห้องแบบนี้ไม่ได้ วันหนึ่งวันใดอัคนีก็ต้องตามหาเธอเจออยู่ดี และไม่แน่ก็อาจจะเป็นพรุ่งนี้ก็ได้ ใครจะไปรู้"ฉันไม่อยู่ก็ล็อกประตูดี ๆ ด้วยล่ะ วันนี้เด็กเสิร์ฟที่ร้านลาสองคนฉันคงต้องทำงานหนักเพิ่มเป็นสองเท่า และคงต้องอยู่ช่วยเขาปิดร้านด้วย"กอหญ้าบอกธารน้ำก่อนจะหยิบกระเป๋าใบเก่าขึ้นมาสะพาย แต่สิ่งที่ธารน้ำหยิบยื่นมาทำให้กอหญ้าชะงักไป"อ
หมัดหนัก ๆ ของน้องชายซัดเข้าใส่ใบหน้าของพี่ชายอันเป็นที่รักอย่างหนักหน่วงจนอัคนีได้เลือดไหล และเมื่อพี่ชายตั้งตัวได้เขาเองก็ไม่คิดจะยอมให้น้องชายอย่างพระเพลิงกระทำต่อเขาแค่เพียงฝ่ายเดียว อัคนีปล่อยหมัดหนัก ๆ กลับไปให้น้องชายจนพระเพลิงเองก็ได้ตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับเขา ใบหน้าหล่อเหลาของสองพี่น้องมีเลือดไหล ก่อนทั้งคู่จะพุ่งเข้าใส่กอดรัดฟัดเหวี่ยงปล่อยหมัดใส่ให้แก่กันผลัวะ ผลัวะ ผลัวะ"เป็นผัวภาษาเหี้ยอะไรวะ เมียคนเดียวยังไม่มีปัญญาดูแลได้""นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอเพลิง""ใช่ ผมกำลังบ้า และผมจะบ้าได้มากกว่านี้อีกถ้าหากวันนี้ผมยังไม่เห็นธารกลับมาที่บ้าน"สองพี่น้องยื้อยุดฉุดดึงกันไปมา "อย่าทำอะไรให้มันเกินหน้าที่ของตัวเองเพลิง นายเป็นน้องชายของเฮียควรอยู่ในส่วนไหนหันเจียมตัวเอาไว้ซะ""แล้วเฮียแหละเป็นผัวภาษาอะไรวะ เมียคนเดียวยังดูแลไม่ได้ทำไมปล่อยให้ธารหนีไป"พระเพลิงพ่นวาจาหยาบคายใส่พี่ชายหลังจะได้รับหมัดหนัก ๆ ดวงตาของไฟทั้งสองดวงลุกโชนจนแทบจะเผาไหม้คฤหาสน์หลังใหญ่ให้วอดวายเพล้ง ผลัวะเสียงข้าวของหล่นแตกกระจาย เสียงดังเอะอะโวยวายทำให้สาวใช้ที่กำลังยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่ต่างพากันกรีดร้องด้
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้นหลายครั้งติดกันทำให้เจ้าของห้องต้องลุกขึ้นจากโซฟาเดินไปเปิดประตูให้กับผู้มาใหม่ปังร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีขาวโทนสะอาดตาปรากฏอยู่ตรงหน้าของกอหญ้า และทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นใครเธอจึงเปล่งเสียงแผ่วเรียกชื่อของเขาออกมา"คุณหมออัคนี""ผมมาหาธารน้ำ เธออยู่ที่นี่ไหมครับ"เสียงที่แผ่วเบาดังราวกับกระซิบของเขาดังขึ้น ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นที่สุดท้ายหลังออกตามหาภรรยาตัวน้อยไปทั่วทุกพื้นที่ ที่ที่เขาคิดว่าเธอจะไปแต่กลับไม่พบ"ธารไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกค่ะ"กอหญ้าตอบเขาด้วยท่าทีสงบนิ่งแววตาของเธอเหลือบมองเข้าไปในห้องพักของตัวเองอัคนีมองตามสายตาของเธอ กรอบดวงตาของเขาแดงก่ำของเขาทำเอาคนพบรู้สึกเห็นใจ แววตาของเขาในตอนนี้แม้จะมีแว่นตาหนาเตอะบดบังอยู่แต่ก็ไม่อาจปกปิดความเจ็บปวดนั้นได้"ถ้าคุณเจอธาร ฝากบอกเธอด้วยนะครับว่าผมรักเขามาก"อัคนีบอกเพื่อนรักของภรรยาสาว เขาก้มหน้าล้วงเอากระเป๋าสตางค์ออกมา ธนบัตรสีเทาหลายสิบใบพร้อมกับบัตรสีดำวงเงินไม่จำกัดถูกส่งไปตรงหน้าของกอหญ้า เธอเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยความสงสารจับใจ'ฝากให้ธารด้วยครับ เผื่อเธอหิวอยากจะออกไปซื้ออะไร"กอหญ้าอ่านริมฝีป
ร่างสูงใหญ่ของคุณหมอหนุ่มในชุดสำหรับเตรียมการผ่าตัดกำลังเคร่งเครียด จากที่คิดว่าจะต้องเข้าไปเซ็นเอกสารในบริษัทกลับต้องขับรถเข้าโรงพยาบาลเป็นการด่วนเมื่อมีเคสฉุกเฉินเข้ามา และตอนนี้เขากำลังตั้งหน้าตั้งตาผ่าตัดให้กับคนไข้เพื่อต้องการรักษาให้มีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้สองชั่วโมงผ่านไป นั่นคือการที่เขาได้ใช้เวลาอยู่ในห้องผ่าตัด เมื่อก้าวขาออกมาก็ต้องพบกับร่างของญาติคนไข้"ตอนนี้คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ เดี๋ยวอีกสักพักหมอจะให้พยาบาลพาคนไข้ไปนอนพักที่ห้องพักฟื้น คงต้องพักดูอาการอีกสักระยะหนึ่งถึงจะกลับบ้านได้""ขอบคุณนะครับคุณหมอที่ช่วยเหลือชีวิตของแม่ผมเอาไว้""ไม่เป็นอะไรครับหมอยินดี ขอตัวก่อนนะครับ"ร่างสูงใหญ่ของคุณหมอหนุ่มในชุดกาวน์สีขาวสะอาดตากล่าวลาญาติของคนไข้ก่อนจะเดินออกเพื่อจะกลับไปยังห้องพักของตัวเองแต่แล้วคุณหมอหนุ่มก็นึกขึ้นได้ว่า วันนี้ภรรยาตัวน้อยของเขามีเรียนวิชาเดียว โทรศัพท์ที่ถูกปิดเสียงอยู่ก็รีบถูกล้วงออกมาจากกระเป๋ากางเกง 'ธารเลิกเรียนแล้วนะคะ'ข้อความข้างบนซึ่งเป็นข้อความแรกถูกส่งมาก่อนจะตามด้วยข้อความถัดไป'ตกลงว่าเฮียจะมารับหรือว่าจะให้ธารนั่งรถไปหาที่บริษัทดีคะ''
แม้บรรยากาศภายในโต๊ะอาหารจะเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยของสองเพื่อนรักแต่ธารน้ำกลับรู้สึกว่าตัวเองกำลังลอยอยู่ใต้ผืนผิวน้ำท่ามกลางความเงียบงันกับคำว่า คู่หมั้นของแฟนเก่า มันกำลังตีแสกหน้าของเธอไม่ต่างอะไรจากท่อไม้ท่อนใหญ่มันทั้งเจ็บ จุก จนพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองควรจะเรียบเรียงความรู้สึกพวกนี้ยังไงก่อนดี อาหารมากมายหน้าตาหน้าทานถูกวางอยู่บนโต๊ะอาหาร กลิ่นหอมยั่วยวนของมันก็ไม่อาจทำให้หญิงสาวในตำแหน่งลูกสะใภ้ใหญ่กระหายหิวได้ "หนูลิลลี่จะกลับมาอยู่เมืองไทยถาวรแล้วใช่ไหม""ค่ะ""ดีเลย ลูกชายคนเล็กของลุงก็ใกล้จะเรียนจบแล้วเหมือนกัน หนูกับลูกชายของลุงจะได้มีเวลาทำความรู้จักเพื่อรักษาความสัมพันธ์ในวันข้างหน้า"เจ้าสัวหิรัญพูดออกมาด้วยความพึงพอใจในตัวลูกสาวของเพื่อน "ลูกสาวของฉันพึ่งจะกลับมา แกก็จะพูดถึงเรื่องหมั้นเลยเหรอวะ""จะให้ช้าได้ยังไง ฉันจองหนูลิลลี่ลูกสาวของนายไว้ให้ลูกชายของฉันไว้ตั้งหลายปีแล้ว อีกไม่กี่เดือนพระเพลิงก็จะเรียนจบ หมั้นกันไปฉันก็จะได้หมดห่วง"ประมุขของบ้านนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี แต่สีหน้าของเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันทั้งสามคนนั้นในตอนนี้ไม่ได้แตกต่างกันส
ริมฝีปากสีธรรมชาติของอัคนีคลี่ยิ้มกว้างทันทีเมื่อเขากลับบ้านมาแล้วเห็นว่าภรรยาตัวน้อยในชุดนักศึกษากำลังช่วยแม่บ้านจัดเตรียมอาหารสำหรับมื้อเย็นในวันนี้"ธารครับ"เสียงอ่อนโยนของอัคนีทำให้เธอต้องหมุนตัวกลับมา ขาเรียวยาวที่โผล่พ้นกระโปรงตัวสวยนั้นกำลังเดินมาหา ธารน้ำสวมผ้ากันเปื้อนสีฟ้าลายน่ารักยิ่งทำให้เธอดูน่ามองในสายตาของเขา"กลับมาถึงนานแล้วเหรอคะ""เปล่าครับ เฮียพึ่งกลับมาถึง แล้วนี่ธารกำลังทำอะไรอยู่""กำลังช่วยพี่ ๆ เขาทำอาหารเย็นค่ะ อีกสักแป๊บก็จะเสร็จแล้ว"เธอตอบเขาพร้อมยิ้มกว้าง อัคนีมองเลยร่างเล็กไปยังในครัวซึ่งวันนี้ดูจะครึกครื้นเป็นพิเศษ"เห็นว่าวันนี้จะมีแขกพิเศษมา ธารเลยอาสามาช่วยพวกพี่ ๆ เขา"ธารน้ำตอบอัคนีทั้งที่เธอเองก็ยังไม่รู้ว่าแขกพิเศษที่ว่านั้นเป็นใคร รู้เพียงแต่ว่าเป็นคนสำคัญของท่านเจ้าสัวหิรัญที่ล่วงรู้ทุกอย่างแต่กลับไม่มีความกล้าเอ่ยบอกเธอไปเขากลัวว่าเธอจะเสียใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้ธารน้ำตัดสินใจขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวกับอัคนีบนชั้นสองเพราะงานในครัวยังเหลืออะไรไม่มาก ทันทีเมื่อทั้งสองข้าวขาขึ้นไปถึงห้องพัก เสียงเครื่องยนต์ของรถคันหรูก็ดังขึ้นก่อนตัวรถจะถูกข