รุ่งเช้าอันแสนสดใสแต่คงไม่ใช่ชีวิตของธารน้ำ เธอต้องตื่นตั้งแต่เช้าเพื่ออาบน้ำแต่งตัวมาสอบในวันสุดท้าย เมื่อคืนเธอแทบจะนอนไม่หลับทั้งคืนเพราะมัวเอาแต่นอนร้องไห้กับเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากไล่ให้พระเพลิงอดีตแฟนหนุ่มเดินออกไป
"ธารน้ำ ทำไม"กอหญ้าไม่กล้าปริปากถามถึงสาเหตุว่าทำไมเพื่อนสนิทถึงได้มาอยู่ในสภาพราวกับซอมบี้แบบนี้ ทั้งที่เมื่อวานก็ยังปกติดี "กอหญ้า" "หืม" "ฉันเลิกกับเพลิงแล้วนะ"เธอพยายามแอบซ่อนความเสียใจเอาไว้สุดกำลัง แต่สุดท้ายแล้วมันก็ไม่สามารถปิดบังเพื่อนรักที่คบหากันมานานได้ กอหญ้ารีบย้ายพาตัวเองไปนั่งข้างกายธารน้ำ ไหล่ของเพื่อนสนิทกลายเป็นที่พักพิงให้กับเธอในตอนนี้ "ร้องไห้ออกมาเลยนะถ้ามันจะทำให้เธอสบายใจขึ้น" "..." "ถ้าหากยังไม่พร้อมที่จะเล่าก็ไม่เป็นไร แต่ฉันจะไม่ทิ้งเธอไปไหนธารน้ำ" "ขอบใจนะกอหญ้า ขอบใจที่เธอยังอยู่ข้างฉัน"ธารน้ำก้มหน้าซุกไหล่ของกอหญ้าพลางปล่อยน้ำตาให้มันไหลออกมาเงียบ ๆ ไร้ซึ่งเสียงสะอื้น ซึ่งกอหญ้าเองก็สัมผัสได้ถึงน้ำตาของเพื่อนสนิทที่ไหลเปียกชุ่มตรงบริเวณหัวไหล่จนเวลาผ่านไปการร้องไห้ในครั้งนี้ของธารน้ำได้สิ้นสุดลงแต่ความเสียใจก็ยังคงไม่เลือนหายไปจากแววตาของเธอ "เป็นไง ดีขึ้นไหม"กอหญ้าถามด้วยความห่วงใยเมื่อเห็นเพื่อนสนิทร้องไห้ออกมา "อื้ม ดีขึ้นเยอะเลยล่ะขอบใจมากนะ" "ไม่เป็นไร ขึ้นห้องสอบกันเถอะใกล้จะถึงเวลาแล้ว" "โอเค"สองเพื่อนรักรีบเก็บของก่อนจะเดินขึ้นไปบนห้องสอบซึ่งวันนี้เป็นวันสอบวันสุดท้ายของเทอมแรก กึก เรียวขาของธารน้ำที่กำลังจะก้าวเข้าไปภายในห้องสอบหยุดชะงักเมื่อเธอมองเห็นร่างของใบหม่อนนั่งอยู่ตรงที่โต๊ะประจำสอบ กอหญ้าเมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทข้างกายเอาแต่ยืนนิ่งจ้องมองไปยังร่างของเพื่อนอีกคนก็ได้แต่ยืนสงสัย เพราะปกติแล้วทั้งสองจะทักทายไม่ใช่เหมือนกับตอนนี้ "ไปกันเถอะ" "อืม"ด้วยความที่โต๊ะสอบของกอหญ้าและธารน้ำอยู่ใกล้ทำให้ทั้งสองได้นั่งใกล้ซึ่งโต๊ะของใบหม่อนนั้นอยู่ในตำแหน่งที่ห่างกันออกไป ธารน้ำไม่คิดจะหันไปมองหน้าอดีตเพื่อนสนิทอย่างใบหม่อนจนทำให้กอหญ้าได้แต่เก็บความสงสัยและคิดอยู่ภายในใจว่าเพื่อนทั้งสองคนคงต้องมีปัญหาอะไรกันแน่ ๆ และมันคงต้องเกี่ยวกันกับเรื่องที่ธารน้ำเลิกกับแฟนหนุ่มอย่างพระเพลิง "ขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิธารน้ำ"ใบหม่อนเดินมาขวางทางเอาไว้ไม่ให้ธารน้ำเดินออกไปจากห้องสอบหลังจากที่ทุกคนต่างพากันสอบเสร็จ "ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับเธอ หลีกไป" "ไม่ ฉันไม่หลีก"ธารน้ำถอนหายใจออกมาด้วยความรำคาญเมื่อใบหม่อนไม่ยอมหลีกทางให้ การยืนเผชิญหน้าของทั้งสองดึงดูดสายตาของนักศึกษาบางส่วนที่อยู่ในบริเวณใกล้ เพราะธารน้ำนั้นเป็นดาวเด่นเป็นที่สนใจของหมู่คนทั้งคณะ "มีอะไรก็พูดมา ฉันไม่อยากเสวนากับคนอย่างเธอนาน" "หึ คิดว่าคนอย่างฉันจะอยากคุยกับคนอย่างเธอนักหนาเหรอฮะ"กอหญ้าที่ได้ยินบทสนทนาก็พอจะเข้าใจแล้วว่าเพื่อนสนิททั้งสองคนคงต้องมีปัญหากันอย่างแน่ ๆ "เอาล่ะ ฉันจะขอเข้าเรื่องเลยก็แล้วกันนะ"ใบหม่อนสะบัดเส้นผมไปทางด้านหลังด้วยท่าทางที่ดูมุ่งมั่นแววตาของอดีตเพื่อนสนิทนั้นมันดูไม่สนิทเหมือนเดิมอีกต่อไป "พระเพลิง ฉันขอ" "หึ นึกว่าเรื่องอะไร ที่แท้ก็เรื่องผู้ชายนี่เอง"ใบหน้างดงามมีเสน่ห์เย้ายวนของธารน้ำสงบนิ่งจนมองอารมณ์ของเธอแทบไม่ออก เธอทำราวกับว่าไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องที่อดีตเพื่อนสนิทพูดออกมา แต่ทว่ามันกลับไม่ใช่กับผู้คนรอบกายที่ได้ยินสิ่งนั้น กอหญ้ารวมไปถึงนักศึกษาทุกคนต่างเบิกตากว้างอ้าปากค้างกับสิ่งที่ใบหม่อนพูดออกมา ทุกคนล้วนไม่คิดเลยว่าผู้หญิงอย่างใบหม่อนจะไร้ยางอายถึงขั้นกล้าขอแฟนหนุ่มของเพื่อนสนิทต่อหน้า "ว่ายังไงล่ะ ตกลงจะให้หรือเปล่า" "อยากได้มากนักก็เอาไปสิ" "ก็ดี ต่อไปนี้พระเพลิงเขาคือผู้ชายของฉัน เธอห้ามไปยุ่งกับเขาอีก" "นี่ใบหม่อน เธอพูดแบบนี้ออกมาได้ยังไง"กอหญ้าโวยวายขึ้นมาเพราะเธอรับไม่ได้กับสิ่งที่ใบหม่อนพูด "ทำไมฉันจะพูดไม่ได้ ก็ในเมื่อฉันเองก็เป็นเมียอีกคนของพระเพลิงเหมือนกัน"ใบหม่อนประกาศเสียงดังลั่นไม่คิดจะอับอายกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำเอาไว้ "ว่ายังไงนะ" "เธอได้ยินไม่ผิดหรอกกอหญ้า ฉันกับธารน้ำเพื่อนรักของเธอเราสองคนมีผัวคนเดียวกัน"ในขณะที่ใบหม่อนประกาศสถานะของตัวเองกับพระเพลิงออกมาอย่างไม่คิดจะอายใคร แต่ธารน้ำกลับยืนฟังนิ่งไม่ได้ปริปากพูดอะไรปล่อยให้อดีตเพื่อนสนิทที่ไม่มีแม้แต่ความไร้ยางอายได้ประกาศความเลวของตัวเองออกมาให้หมดสิ้น "ฉันกับพระเพลิงเราสองคนรักกัน และตอนนี้ฉันก็เป็นเมียของเขาแล้วด้วย" "นี่เธอกล้ายุ่งกับแฟนของเพื่อนอย่างนั้นเหรอใบหม่อน เธอไม่รู้สึกละอายใจบ้างเลยหรือไง"แม้แต่กอหญ้าเองก็แทบไม่อยากจะเชื่อว่าใบหม่อนจะกล้าทำเรื่องแบบนี้ลับหลังอย่างคนไร้ความอาย "จะอายทำไมล่ะกอหญ้า ตกลงว่ายังไงธารน้ำเธอจะยอมยกพระเพลิงให้ฉันจริง ๆ ใช่ไหม" "อืม อยากได้ก็เอาไป" "หึ ขอบใจนะที่ยกพระเพลิงให้ฉัน" "ไม่เป็นไรหรอก แค่อาหารหมาชิ้นเดียวฉันแบ่งให้เธอได้อยู่แล้วใบหม่อน" "นี่แก" "ไปเถอะกอหญ้า อย่ามัวแต่ยืนอยู่แถวนี้เลยหมามันเยอะ" ปึก ธารน้ำพูดจบก็เดินกระแทกไหล่ของอดีตเพื่อนสนิทออกไปด้วยใบหน้าไร้ซึ่งความรู้สึกแต่ดวงตากลมโตฉายแววความเกลียดชังอย่างชัดเจน "ฉันผิดหวังในตัวเธอมากเลยนะใบหม่อน"กอหญ้าพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินตามธารน้ำออกไป เรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีใครคิดว่าเพื่อนที่สนิทกันจะกล้าหักหลังกันได้ลงคอ "ธารน้ำ"น้ำเสียงคุ้นเคยดังขึ้นทำให้ธารน้ำต้องเงยหน้าขึ้นมามองเมื่อร่างสูงใหญ่ของพระเพลิงยืนถือช่อดอกกุหลาบช่อใหญ่อยู่ตรงหน้าตึกของมหาลัย กอหญ้าและใบหม่อนที่เดินตามมาที่หลังหมายจะหาเรื่องธารน้ำอีกครั้งก็ได้แต่ยืนมองภาพตรงหน้า พระเพลิงในชุดนักศึกษาเดินหอบช่อดอกไม้ช่อโตเข้ามาหาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม บนกรอบใบหน้าหล่อเหลามีแว่นกันแดดสวมเอาไว้เพื่อปิดบังกรอบดวงตาบวมช้ำจากการร้องไห้มาตลอดทั้งคืนไม่ต่างกัน "ธารน้ำ" "ใบหม่อนมาขอนายจากฉัน"ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะพูดขอคืนดี ธารน้ำก็ไม่รีรอที่จะพูดถึงเรื่องเมื่อครู่ตรงหน้าห้องสอบออกมาทำให้ใบหม่อนถึงกับรีบก้มหน้าไม่กล้าสบตาทันทีเมื่อพระเพลิงตวัดหน้าหันมามอง "ผู้หญิงของนายเขากลัวว่าฉันจะกลับไปยุ่งกับนายอีก" "ตอนนี้ฉันไม่มีผู้หญิงคนไหนเลยนะธารน้ำ ฉันมีแค่เธอรักแค่เธอคนเดียวนะ" "เหรอ" "ใช่ ฉันรักแค่เธอคนเดียวนะธารน้ำ ส่วนผู้หญิงคนอื่น"พระเพลิงหันไปจ้องหน้าใบหม่อนด้วยสายตาอาฆาตจนอีกฝ่ายเสียวสันหลังวูบวาบ "ฉันไม่เคยรัก และไม่คิดจะรัก" "อย่างนั้นเหรอ" "ใช่ ฉันไม่เคยรักใบหม่อนไม่เคยคิดที่จะยกย่องเอาใบหม่อนมาเป็นเมีย"ชายหนุ่มยื่นมือไปกุมฝ่ามือเรียวบางของหญิงสาว "เธอคือเมียของฉันเพียงคนเดียวเท่านั้นนะธารน้ำ"คำพูดของพระเพลิงเสียงดังฟังชัดจนใครต่อใครต่างพากันหัวเราะออกมาเพื่อสมน้ำหน้าใบหม่อนจนเธอไม่สามารถยืนอยู่ตรงนี้ได้อีกต่อไป ฮ่า ฮ่า อดีตเพื่อนสนิทรีบวิ่งหนีออกไปด้วยความอับอายเป็นอย่างมากเมื่อถูกผู้ชายประกาศชัดว่าไม่เอาเธอและยังพูดย้ำว่าไม่ได้คิดอะไร พูดออกมาขนาดนี้แล้วใครจะยังกล้ายืนต่อไหว "เธอได้ยินชัดแล้วใช่ไหมธารน้ำว่าคนที่ฉันรักและเลือกยังคงเป็นเธอ" "ชัดสิ"ริมฝีปากของชายหนุ่มคลี่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ สุดท้ายแล้วเขาก็ได้รับการให้อภัยจากแฟนสาวอีกครั้ง "ถ้าอย่างนั้นเรากลับมาคืนดีกับนะธารน้ำ เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมกันนะ" "มันไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วล่ะพระเพลิง"หญิงสาวดึงฝ่ามือของตัวเองออกมาจากการกอบกุม "มันไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไปแล้วนับตั้งแต่ที่นายกับใบหม่อนก้าวขาเข้าไปในห้องของนายตั้งแต่คืนนั้น" "..." "ฉันยังคงยืนยันคำเดิมนะพระเพลิง" "กลับไปอยู่ในที่ของนายซะ ต่างคนต่างอยู่"หญิงสาวก้มมองช่อดอกไม้ในมือของชายหนุ่มก่อนที่เธอจะหยิบมันมาแล้วเขวี้ยงลงถังขยะที่วางอยู่ไม่ไกลออกไปสร้างความตื่นตกใจให้ผู้คนที่พบเห็นอยู่ไม่น้อย "รักของเรา มันจบแล้วพระเพลิง""แกทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อยจะได้ไหม แค่ทำหน้าให้มีดีกว่านี้จะตายหรือยังไง"เสียงหมดอาลัยของเอกรินทร์ดังขึ้นแต่ทว่าธารน้ำเธอยังคงแสดงสีหน้าเรียบนิ่งอยู่ภายในรถซึ่งตอนนี้ทั้งคู่กำลังเดินทางไปพบกับชายหนุ่มที่เอกรินทร์หมายมั่นที่จะให้ลูกสาวคนโตแต่งงานด้วย"ธารน้ำ""ต้องการอะไรอีก แค่หนูยอดแต่งงานกับผู้ชายที่พ่อหามาให้ยังไม่พอใจอีกเหรอ"หญิงสาวในชุดเดรสสีดำเปิดไหล่หันมามองหน้าของบิดาดวงตาสั่นเครือ"ถ้าแกยังทำหน้าเหมือนคนใกล้จะตายอยู่แบบนี้ก็อย่าหวังว่าคุณอัคนีเขาจะดีใจยอมลดดอกเบี้ยให้ บ้านกับบริษัทของแม่แกได้ถูกยึดไปแน่""นี่พ่อยังเห็นว่าหนูเป็นลูกอยู่ไหม"ชายวัยกลางคนมองหน้าลูกสาวเพียงครู่เดียวก่อนจะหันหน้ามองออกไปยังนอกหน้าต่าง"พรุ่งนี้เตรียมตัวย้ายกลับเข้ามาอยู่ที่บ้าน ฉันไม่ชอบพูดอะไรซ้ำ ๆ หวังว่าแกจะเข้าใจ"เปลือกตาสวยปิดลงคำพูดของเธอคงไม่สะท้อนเข้าไปถึงหัวใจของคนฟังข้างกาย ทำไมชีวิตของเธอถึงได้มาเจอเรื่องราวอะไรแบบนี้ครืดเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นอยู่ในกระเป๋าใบสวยทำให้หญิงสาวต้องเปิดเปลือกตา ใบหน้าสวยของธารน้ำชะงักไปเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนโทรเข้ามา'พระเพลิง'ริมฝีปากสวยเม้มเข้าหากันจนเป็น
ธารน้ำนั่งนิ่งหลังจากทุกคนทานอาหารเสร็จ หัวใจของเธอมันเต้นไม่เป็นจังหวะอีกทั้งยังมีความหวาดหวั่นกับผู้ชายตรงหน้าอยู่บ้าง "อย่างที่ผมเคยแจ้งให้คุณอัคนีทราบ ตอนนี้ทางบริษัทของผมกำลังมีปัญหา เรื่องที่ผมเคยเอาบ้านกับบริษัทของภรรยาไปค้ำประกันในการกู้เงิน"ถ้อยคำที่ผู้เป็นพ่อเกริ่นออกมาในแววตาของชายวัยกลางคนไร้ซึ่งความรู้สึกผิด ทำให้ลูกสาวเพียงคนเดียวอย่างธารน้ำรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจ ท่านทำราวกับว่าบริษัทและบ้านของมารดาจะสามารถเอาไปทำยังไงก็ได้โดยที่ไม่คิดถึงจิตใจของเธอเลยสักนิด"ผมอยากจะขอยื่นเวลาในการชดใช้หนี้""แต่เงินที่คุณกู้ผมไปมันไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะครับ และไหนจะดอกเบี้ย...""ธารน้ำจะมาเป็นดอกเบี้ยในระหว่างที่ผมหาเงินมาใช้หนี้ให้กับคุณครับ คุณอัคนี"ครืด"หนูขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ"ธารน้ำไม่สามารถนั่งทนฟังคำพูดของพ่อตัวเองต่อไปไหวลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินออกไปจากห้องทานอาหารส่วนตัวโดยมีสายตาคนเข้มซึ่งยากจะคาดเดามองตามแผ่นหลังเล็กที่กำลังเปิดประตูเดินออกไปซ่าเสียงสายน้ำที่ดังขึ้นตรงอ่างล้างหน้าดังก้อง หญิงสาวในชุดเดรสสีสวยมองรูปหน้าของตัวเองผ่านเงาสะท้อนของกระจกบานใหญ่ คำพูดของบิดาเมื่อคร
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้หญิงสาวในชุดเดรสสีหวานให้ความสนใจ เธอเหลือบตาตาไปมองนาฬิกาก่อนจะเดินไปคว้ากระเป๋าในสวยขึ้นมาสะพายไหล่แกรก"คุณท่านให้หนูขึ้นมาตามคุณธารน้ำค่ะ"หญิงสาวเจ้าของใบหน้าสวยพยักหน้า ก่อนธารน้ำจะเดินออกมาจากห้องพักซึ่งเป็นห้องนอนเก่าของเธอตึก ตึก ตึกเสียงฝีเท้ายามเมื่อเธอก้าวขาลงบันไดดังขึ้น เสียงพูดคุยของบิดากับผู้มาใหม่ดังแว่วหูมาแต่ไกล "นั่นไงครับธารน้ำ มาพอดีเลย"ธารน้ำเดินเข้าไปหาเธอไม่สนใจสายตาของสองแม่ลูกที่มองมาด้วยความไม่พึงพอใจตั้งแต่เธอย้ายเข้ามาอยู่ภายในบ้านหลังนี้ได้หนึ่งอาทิตย์พอดิบพอดี"สวัสดีค่ะคุณอัคนี""สวัสดีครับ"ชายหนุ่มในชุดสูทดูดียิ้มรับเมื่อเห็นว่าที่เจ้าสาวเดินเข้ามาหาด้วยสีหน้ายิ้มรับ"ลูกรู้แล้วใช่ไหมธารน้ำว่าวันนี้คุณอัคนีจะพาลูกไปดูชุดกับเลือกการ์ดแต่งานและของขวัญ""ค่ะ หนูทราบแล้ว"เพราะเมื่อคืนชายหนุ่มได้ส่งข้อความมาบอกเธอแล้วว่าเช้าของวันนี้จะมารับเพื่อไปดูชุดแต่งงานซึ่งการแต่งงานระหว่างเธอกับอัคนีจะถูกจัดขึ้นภายในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้าทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากแม้ธารน้ำจะรู้อยู่เต็มอกว่าเธอจะต้องแต่งงานแต่ก็ไม่คิดว่า
เพล้ง"ไอ้เพลิง"เสียงตะโกนเรียกชื่อของชายหนุ่มดังขึ้นพร้อมกับเสียงแก้วเหล้าที่แตกละเอียดและหยาดเลือดที่รินไหลออกมา"ไอ้สัสเพลิง มึงทำเหี้ยอะไรวะ"รันเวย์ชักสีหน้าก่อนจะเข้ามาดึงแก้วเหล้าที่แตกออกจากฝ่ามือของเพื่อนสนิท"ไอ้นักรบมึงไปเอาทิชชูมาที""เออ ๆ "เสียงดังเอะอะของเพื่อนทั้งสองไม่เข้าโซนประสาทหูของพระเพลิงเลยสักนิด สมองของเขาไม่รับรู้เรื่องอะไรอีกต่อไปหลังจากได้ฟังคำบอกเล่าจากปากของรันเวย์"มึงใจเย็น ๆ ดิวะ"รันเวย์บ่นไปตามประสาในขณะที่ทำแผลให้เพื่อน แม้บาดแผลมันจะไม่ลึกมากแต่ก็ยังคงมีเลือดไหลซึมออกมาสีหน้าของพระเพลิงในตอนนี้เรียบนิ่ง แต่แววตาของเขานั้นมันไม่สามารถปิดบังความเจ็บปวดเอาไว้ได้นอกจากฝ่ามือที่เริ่มมีความรู้สึกเจ็บหัวใจของเขาในตอนนี้ก็เจ็บแปลบไม่ต่างกัน'กูเห็นธารน้ำกับเฮียอัคนีในร้านชุดแต่งงาน''มึงว่าอะไรนะ'รันเวย์สีหน้าไม่สู้ ดีในใจของเขามีความหนักหน่วงแต่เรื่องนี้เขาจำเป็นต้องบอกให้เพื่อนสนิทได้ทราบว่าแฟนสาวกำลังจะเข้าพิธีวิวาห์กับคนอื่น'วันนี้กูพามีนาไปเดินห้างมา กูเห็นธารน้ำกับเฮียอัคนีพี่ชายของมึงเดินเลือกชุดแต่งงานด้วยกัน''...''ที่มึงเคยบอกว่าเฮียอัคนีจะแต่งง
ตึก ตึก ตึกเสียงรองเท้าดังกระทบพื้นเกิดขึ้นภายในตึกสูงใหญ่ซึ่งเป็นหอพักที่ธารน้ำเช่าอยู่อาศัย ใบหน้าเปียกชื้นไปด้วยหยาดเหงื่อของสาวสวยเต็มไปด้วยความกังวล เพราะหลังจากที่เธอได้รับข้อความแนบท้ายด้วยคลิปวิดีโอธารน้ำก็รีบตรงดิ่งกลับมายังห้องพักของตัวเองทันทีเพราะเธอไม่ต้องการให้มีเรื่องฆ่ากันตายเกิดขึ้นติ๊ด ติ๊ด ติ๊ดปัง"ฮึก ธารน้ำ""มาแล้วเหรอ เมียจ๋า"น้ำเสียงของชายหญิงเอ่ยทักทายผู้มาใหม่มันช่างแตกต่างกันลิบลับ ธารน้ำมองสภาพอดีตเพื่อนสนิทซึ่งถูกมัดติดไว้กับเก้าอี้โดยมีอดีตแฟนหนุ่มยืนคุ้มกันถืออาวุธร้ายเอาไว้ในมือเสียงสั่นเครือของใบหม่อนทั้งขอร้องอ้อนวอนด้วยความหวาดกลัวขอให้เธอช่วยเหลือโดยมีร่างสูงใหญ่ยืนถือปืนกำลังยืนแสะยิ้มร้ายมองมายังตัวเธอ "ธารน้ำ ฮึก ช่วยฉันด้วย พระเพลิงเป็นบ้าไปแล้ว เขากำลังจะฆ่าฉัน""คิดจะทำอะไร เป็นบ้าอะไรอีกเพลิง"ธารน้ำก้าวขาเดินเข้าไปในห้องพักของตัวเอง ดวงตาสั่นไหวด้วยความกลัวอาวุธในมือของชายหนุ่มเพราะไม่รู้ว่ามันจะลั่นไกออกมาตอนไหน เธอทำใจฮึดสู้ก้าวผ่านความกลัวเดินไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าของทั้งสอง"ฉันไม่ได้บ้า แต่ถ้าฉันไม่ทำแบบนี้เธอก็คงไม่มีวันออกมาเจอหน้าข
ในเมื่อตัดแล้วเธอก็ต้องตัดให้ขาด ธารน้ำจัดการเปลี่ยนเบอร์มือถือใหม่เพื่อไม่ให้พระเพลิงสามารถติดต่อเธอได้เธอใช้ชีวิตอยู่ภายในบ้านหลังใหญ่ของมารดา ตื่นเช้ามาก็ไปเรียนหลังจากเลิกเรียนเสร็จก็รีบกลับบ้าน ส่วนงานที่เธอเคยทำตอนนี้ต้องขอหยุดพักเอาไว้ก่อน รอให้ผ่านพ้นเรื่องงานแต่งไปก่อนเธอก็คงจะกลับไปทำงานเหมือนเช่นดังเดิม"นั่ง ๆ นอน ๆ เป็นคุณนายดูสบายจังเลยเนอะ งานก็ไม่ต้องทำแถมยังจะได้ผัวรวยอีก"เสียงนกเสียงกาดังมาแต่ไกลรบกวนสมาธิในการอ่านหนังสือทำให้ธารน้ำจำต้องถอนหายใจออกมา สาวสวยตวัดสายตาหันหน้าไปมองผู้มาใหม่ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนลูกเลี้ยงคนโปรดของพ่อเธอนั่นเอง"อิจฉาเหรอ"น้ำเสียงเนิบนาบฟังดูคล้ายเยอะเย้ยทำให้เขมิกาหน้าบึ้งขึ้นมาทันตาเห็น สาวสวยในชุดนักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกันเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าคล้ายกับว่าต้องการจะหาเรื่อง"ทำไมฉันต้องอิจฉาคนอย่างแกด้วยฮะนังธารน้ำ คนอย่างแกมีอะไรดีให้คนอย่างฉันต้องอิจฉาจนกินไม่ได้นอนไม่หลับอย่างนั้นเหรอ""ก็ไม่รู้เหมือนกันสินะว่าคนอย่างฉันมันจะมีอะไรดีที่ทำให้เธอนั้นได้อิจฉา"ร่างสูงโปร่งดั่งนางแบบของธารน้ำลุกขึ้นยืนขึ้นเผชิญหน้ากับเขมิกาอย่างไม่เกรงกลัว"ฉ
ภายในห้องนอนสุดหรูสีทึบไม่มีแม้แต่แสงสว่างเล็ดลอดเข้ามาแม้จะเป็นช่วงเวลากลางวันก็ตาม มีร่างสูงใหญ่ของชายคนหนึ่งอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาข้างเตียงนอน ในมือของเขานั้นกำขวดเหล้าเอาไว้แน่นแม้จะอยู่ในสภาพเมามายก็ตาม"ฮึก ธารน้ำ""...""ฉันคิดถึงเธอ"เหล้าสีอำพันในขวดแก้วถูกกระดกลงคอครั้งแล้วครั้งเล่า ความมัวเมาไม่ได้ทำให้เขาลืมเลือนใบหน้าของคนรักได้ ยิ่งเขาดื่มมากเท่าไหร่ภาพใบหน้าของธารน้ำยิ่งฉายชัดอยู่ในหัวสมองของเขา ดวงตาคู่สวยของเธอยังคงตราตรึง พระเพลิงยังคงนึกถึงแฟนสาวของเขาตลอดมาแม้ว่าตอนนี้เธอจะตัดขาดการติดต่อและไม่ยอมออกมาหามาเจอหน้าเขาเลยก็ตาม"ธารน้ำ ฮึก ฉันรักเธอนะ"ชายหนุ่มซึ่งยังคงตกอยู่ในสภาพเมามายยังคงพร่ำเพ้อหาหญิงสาว มืออีกข้างของเขาเอื้อมไปคว้ารูปถ่ายของเธอขึ้นมากอดแนบอกเอาไว้ ดวงตาเหม่อลอยมองไปทั่วบริเวณรอบห้องซึ่งยังคงมีรูปถ่ายของธารน้ำติดเอาไว้มากมาย น้ำตาของลูกผู้ชายไหลทะลักออกมาเมื่อเขาย้อนนึกไปถึงภาพเหตุการณ์วันนั้น ภาพวันที่เธอหันหลังเดินจากไปแล้วไม่คิดจะหันกลับมา ดวงตาว่างเปล่าเมื่อมองหน้าเขาราวกับว่าความรักของเราทั้งสองภายในใจของเธอนั้นมันได้หมดแล้วจ
ธารน้ำยังคงใช้ชีวิตตามปกติโดยที่ไม่มีอดีตแฟนเก่าอย่างพระเพลิงเข้ามารบกวนหรือสร้างความวุ่นวายในชีวิตของเธออีกนับตั้งแต่วันนั้น ซึ่งมันก็ดีต่อการใช้ชีวิตของเธอเป็นอย่างมากแม้จะมีบางครั้งที่เธออยู่ตัวคนเดียวแล้วเผลอนึกถึงเรื่องราวในวันวานระหว่างเธอและชายหนุ่ม'เพลิง อันนั้นมันยังกินไม่ได้''อ้าวเหรอ งำ''พระเพลิง'แฟนสาวเรียกชื่อของชายหนุ่มดังลั่นก่อนที่ร่างสูงใหญ่ของเขานั้นจะออกแรงวิ่งออกจากห้องครัวเมื่อมีสิ่งที่เรียกว่าตะหลิวลอยละลิ่วตามมาฟิ้ว'หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะพระเพลิง''มะ...ไม่ ธารน้ำฉันขอโทษ''นายตายแน่'ความสุขในตอนนั้นเมื่อทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันมันเป็นช่วงที่น่าจดจำสำหรับเธออยู่เสมอ เสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากผู้ชายที่ยิ้มยากมันยังคงดังก้องอยู่ในหูของเธอ'อีกไม่กี่วันก็จะแต่งงานแล้ว อย่าทำตัวเหลวไหลให้ทางคุณอัคนีต้องขายขี้หน้าเข้าใจไหม''...''ฉันถามว่าเข้าใจไหม''ค่ะ หนูเข้าใจ''ถึงแกจะรักกับพระเพลิงยังไง แต่ถ้าแกไม่บากหน้าไปขอเงินมาให้ฉันแกก็ต้องแต่งงานกับคุณอัคนีตามที่ฉันสั่ง'บทสนทนากับบิดาเมื่อเธอก้าวขาเข้ามาภายในบ้านทำให้ความสุขในก่อนหน้านี้ระหว่างเธอกับพระเพลิงเลือนหายไป เสีย
"ธารต้องกราบขอโทษคุณพ่อด้วยนะคะสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น"เจ้าสัวหิรัญมองหญิงสาวเพียงคนเดียวที่นั่งอยู่ตรงกลางโดยมีลูกชายของตัวเองนั่งขนาบข้างไม่ห่างไปไหนวันนี้คือวันที่ทั้งสามคนก้าวขาเข้ามาพบพร้อมกับอธิบายต้นสายปลายเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้นซึ่งมันตรงกับสิ่งที่เขาได้สืบหามาตั้งแต่วันที่เขาได้เห็นภาพถ่ายซึ่งได้ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ของลูกชายคนเล็กในวันนั้น"พ่อไม่ได้โกรธหรือเกลียดอะไรหนูธารเลยสักนิดหนูไม่ต้องคิดมากนะลูก"เจ้าสัวผู้ใจดียังคงมองหน้าลูกสะใภ้คนดีด้วยแววตาโทนอบอุ่นธารน้ำเป็นผู้หญิงที่เก่งและมีความสามารถการเรียนก็ไม่เป็นสองรองใคร งานบ้านก็เรียกว่าใช้ได้ทั้งซักผ้ารีดผ้าและการทำอาหารคาวหวานที่เขาได้ชิมอยู่บ่อยครั้ง"พ่อดีใจนะที่ลูกชายของพ่อทั้งสองคนได้มีหนูมาช่วยดูแล"คำพูดของท่านเจ้าสัวเรียกรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าของหญิงสาวได้"ส่วนน้องเล็ก""ครับ""เรื่องหนูลิลลี่ พ่อจัดการเคลียร์กับทางนั้นให้เรียบร้อยแล้วนะลูกทางนั้นเขาไม่ว่าอะไรอีกทั้งยังเข้าใจดี"เป็นอีกเรื่องที่น่ายินดีสำหรับธารน้ำและพระเพลิง เด็กหนุ่มซึ่งกำลังใกล้จะจบการศึกษายิ้มออกมาได้ด้วยความดีใจก่อนจะหันไปคว้าร่างสวยของหญ
หัวใจของธารน้ำในตอนนี้นั้นสั่นเต้นรัวเร็ว แม้เธอจะเคยสัมผัสของทั้งสองคนมาแล้ว แต่มันก็ครั้งละคนไม่ใช่พร้อมกันทั้งสองแท่งแบบนี้ เธอพยายามบังคับไม่ให้ตัวเองตื่นตระหนกมากเกินไป มันก็เหมือนครั้งก่อนเพียงแค่ตอนนี้เธอต้องควบสองเท่านั้นเองพรึ่บเมื่อคิดได้แล้วเธอก็คุกเข่านั่งลงบนพรมผืนหนานั่งอยู่ระหว่างกลางของชายทั้งสอง ฝ่ามือเล็ก ๆ ของเธอยื่นไปกอบกุมลำกายยาวใหญ่สีหวานของทั้งคู่ สายตาของเธอตอนนี้เหมือนเด็กน้อยที่กำลังอยากรู้อยากลิ้มลองกับของเล่นชิ้นใหม่ตรงหน้า"เต็มที่เลยนะครับธาร เพราะเฮียเองก็จะเต็มที่กับธารเหมือนกัน อ๊าส์""อย่างนั้นแหละธารน้ำ อืม แบบนั้นแหละคนดี"เสียงกระเส่าอย่างมีความสุขของทั้งสองถูกเปล่งออกมาด้วยสีหน้าเคลิ้มฝันมีความสุขกับสิ่งที่เธอทำให้"อืม ดี แบบนั้น""เร็วอีก เมียจ๋า"ยิ่งพวกเขาเอ่ยชมด้วยสีหน้ามีความสุข เธอก็ยิ่งขยับฝ่ามือเร็วขึ้นจนพวกเขารู้สึกเกร็งแขม่วท้องเป็นลอนสวยของตัวเองยิ่งเธอใช้ฝ่ามือเล็ก ๆ ขยับมัน ร่างของเขาทั้งสองก็สั่นสะท้าน ความทรมานกำลังเข้าครอบงำ"อืม ธารครับ""อ๊าส์ ธารน้ำ"หญิงสาวเงยหน้าเรียวเล็กมองหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างกล้าหาญ และยิ่งเธอใช้ฝ่ามือเ
ธารน้ำหอบหายใจหนักเมื่อเห็นร่างกำยำของคนรักทั้งสองค่อย ๆ ใช้มือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตอย่างเชื่องช้า สายตาราวกับสัตว์ป่าหิวกระหายจ้องมองมายังเธอไม่วางตา พรึ่บซิกแพคอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อเรียงตัวเป็นลอนสวยแสดงชัดอยู่ตรงหน้า ไหลหนาผายผึ่ง ท่อนแขนกำยำ กล้ามเนื้อเรียงตัวสวยงามทำเอาหญิงสาวต้องกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก"อึก"ชะตาสวาทของเธอกำลังจะขาด ขนาดไซซ์บ้องข้าวหลามของทั้งสองเธอได้สัมผัสมันมาหมดแล้ว ของคนแรกทั้งยาวและใหญ่ ส่วนของอีกคนก็ไม่คิดจะน้อยหน้า คนน้องลีลาเด็ด เอวถี่พลิ้วไหวทำเอาเธอแทบขาดใจตายคาเตียงมาตั้งหลายครั้ง ความดุดันเร่าร้อนอย่างไม่บันยะบันยังทำเอสเธอสลบเหมือดคาเตียงมาตั้งหลายคนส่วนอีกคนแม้ภายนอกดูสุขุมนุ่มลึกของคุณหมอแต่แอบซ่อนลูกเล่นความเผ็ดร้อนเอาไว้ด้วยเม็ดมุกรอบลำกายทำเอาเธอขาสั่นจนเดินไม่ไหวนอนซมอยู่บนเตียงตั้งหลายหนถ้าหากพวกเขาสองคนเข้ามาพร้อมกันเธอจะรับมันได้ไหม จะไหวหรือเปล่า"ธะ...ธารว่าพวกเราสามคนอาบน้ำนอนกันดีกว่านะคะ"เธอยังคงพยายามหาทางเอาตัวรอดแม้เปอร์เซ็นต์ในการรอดจะมีน้อยนิดก็ตามเมื่อเทียบกับความต้องการที่พุ่งสูงเฉียบร้อยเปอร์เซ็นต์ของชายหนุ่มทั้งสอง
"อยากออกไปหาอะไรทานไหม หรืออยากจะไปเที่ยวที่ไหนไหม""ไม่อะ อยากนอนอยู่ห้องมากกว่า"ธารน้ำเงยหน้าตอบเจ้าของห้องซึ่งกำลังวุ่นวายอยู่กับการแต่งตัวเพื่อเตรียมจะไปทำงาน "อยู่แต่ในห้องมาสองวันติดแล้วนะ ไม่เบื่อหรือไง"กอหญ้าถามเพื่อนรักในขณะที่หยิบแป้งฝุ่นเทลงบนฝ่ามือ ดวงตากลมโตจ้องมองเพื่อนสาวในชุดอยู่บ้านสบาย ๆ ผ่านเงากระจกซึ่งกำลังนั่งหน้าหงอยอยู่บนเตียงนอนขนาดห้าฟุตของเธอ"เบื่อสิ แต่ไม่รู้จะออกไปเที่ยวที่ไหน"ไม่อยากออกไปเดินเพ่นพ่านกลัวว่าอัคนีจะรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ เธอยังไม่พร้อมจะกลับไปเจอหน้าใครในตอนนี้ มันยังไม่พร้อมที่จะเจอใครโชคยังดีที่สองวันนี้ไม่มีเรียน เธอไม่จำเป็นต้องพาร่างออกไปเดินเที่ยวเตร่ที่ไหน แต่ใจก็ย่อมรู้ดีว่าตัวเธอจะเอาแต่หลบซ่อนอยู่แต่ภายในห้องแบบนี้ไม่ได้ วันหนึ่งวันใดอัคนีก็ต้องตามหาเธอเจออยู่ดี และไม่แน่ก็อาจจะเป็นพรุ่งนี้ก็ได้ ใครจะไปรู้"ฉันไม่อยู่ก็ล็อกประตูดี ๆ ด้วยล่ะ วันนี้เด็กเสิร์ฟที่ร้านลาสองคนฉันคงต้องทำงานหนักเพิ่มเป็นสองเท่า และคงต้องอยู่ช่วยเขาปิดร้านด้วย"กอหญ้าบอกธารน้ำก่อนจะหยิบกระเป๋าใบเก่าขึ้นมาสะพาย แต่สิ่งที่ธารน้ำหยิบยื่นมาทำให้กอหญ้าชะงักไป"อ
หมัดหนัก ๆ ของน้องชายซัดเข้าใส่ใบหน้าของพี่ชายอันเป็นที่รักอย่างหนักหน่วงจนอัคนีได้เลือดไหล และเมื่อพี่ชายตั้งตัวได้เขาเองก็ไม่คิดจะยอมให้น้องชายอย่างพระเพลิงกระทำต่อเขาแค่เพียงฝ่ายเดียว อัคนีปล่อยหมัดหนัก ๆ กลับไปให้น้องชายจนพระเพลิงเองก็ได้ตกอยู่ในสภาพเดียวกันกับเขา ใบหน้าหล่อเหลาของสองพี่น้องมีเลือดไหล ก่อนทั้งคู่จะพุ่งเข้าใส่กอดรัดฟัดเหวี่ยงปล่อยหมัดใส่ให้แก่กันผลัวะ ผลัวะ ผลัวะ"เป็นผัวภาษาเหี้ยอะไรวะ เมียคนเดียวยังไม่มีปัญญาดูแลได้""นายเป็นบ้าไปแล้วเหรอเพลิง""ใช่ ผมกำลังบ้า และผมจะบ้าได้มากกว่านี้อีกถ้าหากวันนี้ผมยังไม่เห็นธารกลับมาที่บ้าน"สองพี่น้องยื้อยุดฉุดดึงกันไปมา "อย่าทำอะไรให้มันเกินหน้าที่ของตัวเองเพลิง นายเป็นน้องชายของเฮียควรอยู่ในส่วนไหนหันเจียมตัวเอาไว้ซะ""แล้วเฮียแหละเป็นผัวภาษาอะไรวะ เมียคนเดียวยังดูแลไม่ได้ทำไมปล่อยให้ธารหนีไป"พระเพลิงพ่นวาจาหยาบคายใส่พี่ชายหลังจะได้รับหมัดหนัก ๆ ดวงตาของไฟทั้งสองดวงลุกโชนจนแทบจะเผาไหม้คฤหาสน์หลังใหญ่ให้วอดวายเพล้ง ผลัวะเสียงข้าวของหล่นแตกกระจาย เสียงดังเอะอะโวยวายทำให้สาวใช้ที่กำลังยืนมุงดูเหตุการณ์อยู่ต่างพากันกรีดร้องด้
ก๊อก ก๊อก ก๊อกเสียงเคาะประตูดังขึ้นหลายครั้งติดกันทำให้เจ้าของห้องต้องลุกขึ้นจากโซฟาเดินไปเปิดประตูให้กับผู้มาใหม่ปังร่างสูงใหญ่ในชุดสูทสีขาวโทนสะอาดตาปรากฏอยู่ตรงหน้าของกอหญ้า และทันทีเมื่อเห็นว่าเป็นใครเธอจึงเปล่งเสียงแผ่วเรียกชื่อของเขาออกมา"คุณหมออัคนี""ผมมาหาธารน้ำ เธออยู่ที่นี่ไหมครับ"เสียงที่แผ่วเบาดังราวกับกระซิบของเขาดังขึ้น ซึ่งสถานที่แห่งนี้เป็นที่สุดท้ายหลังออกตามหาภรรยาตัวน้อยไปทั่วทุกพื้นที่ ที่ที่เขาคิดว่าเธอจะไปแต่กลับไม่พบ"ธารไม่ได้อยู่ที่นี่หรอกค่ะ"กอหญ้าตอบเขาด้วยท่าทีสงบนิ่งแววตาของเธอเหลือบมองเข้าไปในห้องพักของตัวเองอัคนีมองตามสายตาของเธอ กรอบดวงตาของเขาแดงก่ำของเขาทำเอาคนพบรู้สึกเห็นใจ แววตาของเขาในตอนนี้แม้จะมีแว่นตาหนาเตอะบดบังอยู่แต่ก็ไม่อาจปกปิดความเจ็บปวดนั้นได้"ถ้าคุณเจอธาร ฝากบอกเธอด้วยนะครับว่าผมรักเขามาก"อัคนีบอกเพื่อนรักของภรรยาสาว เขาก้มหน้าล้วงเอากระเป๋าสตางค์ออกมา ธนบัตรสีเทาหลายสิบใบพร้อมกับบัตรสีดำวงเงินไม่จำกัดถูกส่งไปตรงหน้าของกอหญ้า เธอเงยหน้ามองชายหนุ่มด้วยความสงสารจับใจ'ฝากให้ธารด้วยครับ เผื่อเธอหิวอยากจะออกไปซื้ออะไร"กอหญ้าอ่านริมฝีป
ร่างสูงใหญ่ของคุณหมอหนุ่มในชุดสำหรับเตรียมการผ่าตัดกำลังเคร่งเครียด จากที่คิดว่าจะต้องเข้าไปเซ็นเอกสารในบริษัทกลับต้องขับรถเข้าโรงพยาบาลเป็นการด่วนเมื่อมีเคสฉุกเฉินเข้ามา และตอนนี้เขากำลังตั้งหน้าตั้งตาผ่าตัดให้กับคนไข้เพื่อต้องการรักษาให้มีชีวิตอยู่รอดต่อไปได้สองชั่วโมงผ่านไป นั่นคือการที่เขาได้ใช้เวลาอยู่ในห้องผ่าตัด เมื่อก้าวขาออกมาก็ต้องพบกับร่างของญาติคนไข้"ตอนนี้คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ เดี๋ยวอีกสักพักหมอจะให้พยาบาลพาคนไข้ไปนอนพักที่ห้องพักฟื้น คงต้องพักดูอาการอีกสักระยะหนึ่งถึงจะกลับบ้านได้""ขอบคุณนะครับคุณหมอที่ช่วยเหลือชีวิตของแม่ผมเอาไว้""ไม่เป็นอะไรครับหมอยินดี ขอตัวก่อนนะครับ"ร่างสูงใหญ่ของคุณหมอหนุ่มในชุดกาวน์สีขาวสะอาดตากล่าวลาญาติของคนไข้ก่อนจะเดินออกเพื่อจะกลับไปยังห้องพักของตัวเองแต่แล้วคุณหมอหนุ่มก็นึกขึ้นได้ว่า วันนี้ภรรยาตัวน้อยของเขามีเรียนวิชาเดียว โทรศัพท์ที่ถูกปิดเสียงอยู่ก็รีบถูกล้วงออกมาจากกระเป๋ากางเกง 'ธารเลิกเรียนแล้วนะคะ'ข้อความข้างบนซึ่งเป็นข้อความแรกถูกส่งมาก่อนจะตามด้วยข้อความถัดไป'ตกลงว่าเฮียจะมารับหรือว่าจะให้ธารนั่งรถไปหาที่บริษัทดีคะ''
แม้บรรยากาศภายในโต๊ะอาหารจะเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยของสองเพื่อนรักแต่ธารน้ำกลับรู้สึกว่าตัวเองกำลังลอยอยู่ใต้ผืนผิวน้ำท่ามกลางความเงียบงันกับคำว่า คู่หมั้นของแฟนเก่า มันกำลังตีแสกหน้าของเธอไม่ต่างอะไรจากท่อไม้ท่อนใหญ่มันทั้งเจ็บ จุก จนพูดไม่ออก ไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองควรจะเรียบเรียงความรู้สึกพวกนี้ยังไงก่อนดี อาหารมากมายหน้าตาหน้าทานถูกวางอยู่บนโต๊ะอาหาร กลิ่นหอมยั่วยวนของมันก็ไม่อาจทำให้หญิงสาวในตำแหน่งลูกสะใภ้ใหญ่กระหายหิวได้ "หนูลิลลี่จะกลับมาอยู่เมืองไทยถาวรแล้วใช่ไหม""ค่ะ""ดีเลย ลูกชายคนเล็กของลุงก็ใกล้จะเรียนจบแล้วเหมือนกัน หนูกับลูกชายของลุงจะได้มีเวลาทำความรู้จักเพื่อรักษาความสัมพันธ์ในวันข้างหน้า"เจ้าสัวหิรัญพูดออกมาด้วยความพึงพอใจในตัวลูกสาวของเพื่อน "ลูกสาวของฉันพึ่งจะกลับมา แกก็จะพูดถึงเรื่องหมั้นเลยเหรอวะ""จะให้ช้าได้ยังไง ฉันจองหนูลิลลี่ลูกสาวของนายไว้ให้ลูกชายของฉันไว้ตั้งหลายปีแล้ว อีกไม่กี่เดือนพระเพลิงก็จะเรียนจบ หมั้นกันไปฉันก็จะได้หมดห่วง"ประมุขของบ้านนั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะพูดออกมาอย่างอารมณ์ดี แต่สีหน้าของเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันทั้งสามคนนั้นในตอนนี้ไม่ได้แตกต่างกันส
ริมฝีปากสีธรรมชาติของอัคนีคลี่ยิ้มกว้างทันทีเมื่อเขากลับบ้านมาแล้วเห็นว่าภรรยาตัวน้อยในชุดนักศึกษากำลังช่วยแม่บ้านจัดเตรียมอาหารสำหรับมื้อเย็นในวันนี้"ธารครับ"เสียงอ่อนโยนของอัคนีทำให้เธอต้องหมุนตัวกลับมา ขาเรียวยาวที่โผล่พ้นกระโปรงตัวสวยนั้นกำลังเดินมาหา ธารน้ำสวมผ้ากันเปื้อนสีฟ้าลายน่ารักยิ่งทำให้เธอดูน่ามองในสายตาของเขา"กลับมาถึงนานแล้วเหรอคะ""เปล่าครับ เฮียพึ่งกลับมาถึง แล้วนี่ธารกำลังทำอะไรอยู่""กำลังช่วยพี่ ๆ เขาทำอาหารเย็นค่ะ อีกสักแป๊บก็จะเสร็จแล้ว"เธอตอบเขาพร้อมยิ้มกว้าง อัคนีมองเลยร่างเล็กไปยังในครัวซึ่งวันนี้ดูจะครึกครื้นเป็นพิเศษ"เห็นว่าวันนี้จะมีแขกพิเศษมา ธารเลยอาสามาช่วยพวกพี่ ๆ เขา"ธารน้ำตอบอัคนีทั้งที่เธอเองก็ยังไม่รู้ว่าแขกพิเศษที่ว่านั้นเป็นใคร รู้เพียงแต่ว่าเป็นคนสำคัญของท่านเจ้าสัวหิรัญที่ล่วงรู้ทุกอย่างแต่กลับไม่มีความกล้าเอ่ยบอกเธอไปเขากลัวว่าเธอจะเสียใจกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปจากนี้ธารน้ำตัดสินใจขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวกับอัคนีบนชั้นสองเพราะงานในครัวยังเหลืออะไรไม่มาก ทันทีเมื่อทั้งสองข้าวขาขึ้นไปถึงห้องพัก เสียงเครื่องยนต์ของรถคันหรูก็ดังขึ้นก่อนตัวรถจะถูกข