" นาย นายครับนาย นายครับ"
อาชวีลืมตาขึ้นมาเห็นลูกน้องยืนมองอยู่ มองไปรอบๆตัวนี่มันห้องนอนเขาที่บ้านใหญ่นี่นา
" ใคร ใครพากูกลับมา"
" เอ่อ ก็พวกเพื่อนๆนายนั่นแหละครับ"
" นี่กี่โมงแล้ว"
" 6โมงครึ่งครับนาย"
" 6โมงครึ่ง พึ่งจะ6โมงครึ่งแล้วพวกมึงมาปลุกกูทำไม ห๊า หรือพวกมึงอยากตกงานกัน"
" ไม่ ไม่อยากครับนาย คือพวกผมมีเรื่องด่วนจึงรีบมารายงานนายครับ"
" เรื่องอะไร"
" นี่ครับนาย"
อาชาส่งแท็บเเลตที่เปิดหน้าข่าวค้างไว้ อาชวีอ่านข่าวแล้วแสยะยิ้มหัวเราะลั่น ผบ.ตรทัดเทพ พ่อของอัญญาอร ถูกจับข้อหาทุจริตและเอี่ยวการพนันออนไลน์ ถูกส่งเข้าคุกและยึดทรัพย์ทั้งหมดที่มี สมน้ำหน้า ชอบทำตัวกร่างเบ่งอำนาจดีนัก
" ยังมีอีกเรื่องครับนาย"
อาชวีรีบขับรถมาที่สถาบันวิจัยทันทีที่ลูกน้องรายงานว่าธารธาราอยู่ที่นี่ เขาเหยียบเกือบมิดไมล์ เมื่อรถเลี้ยวเข้าสถาบันก็สวนทางกับรถตู้คันหนึ่งที่ขับออกไป โดยไม่รู้ว่าธารธาราก็นั่งอยู่ในรถตู้คันนั้น และกำลังจะเดินทางไปหุบเขามรณะ
บรืนน เอี๊ยดดดด ปัง
อาชวีเปิดประตูลงจากรถก็เจอศาสตราจารย์ที่กำลังจะเดินเข้าข้างในศาสตราจารย์หันกลับมามองดูอาชวี
" ผมมาหาธารธารา"
" เธอไม่ได้อยู่ที่นี่"
" อย่ามาโกหก คิดว่าผมจะเชื่อเหรอ หลีกไป"
" น้ำ น้ำครับ ผมมารับแล้ว น้ำกลับไปกับผมเถอะ น้ำ น้ำ"
อาชวีไม่สนใจเดินกระแทกบ่าศาสตราจารย์เข้าไปข้างในร้องเรียกหาธารธาราแต่ก็ไม่พบ
" ผมบอกคุณแล้วว่าเธอไม่ได้อยู่ที่นี่"
" เป็นไปไม่ได้ เธอต้องอยู่ที่นี่แน่ คนของผมบอกว่าเธอเข้าทำงานที่นี่ บอกมาว่าคุณเอาเธอไปซ่อนไว้ที่ไหน"
" เธอทำงานที่นี่จริงๆแต่เธอไปแล้ว"
" ไปไหน "
" เธอเดินทางไปเก็บชิ้นงานมาทำวิจัย"
" ผมไม่สนว่าเธอจะไปเก็บอะไร บอกมาว่าเธอไปที่ไหน"
" หุบเขามรณะ"
" ห๊า หุบเขาอะไรนะ"
" หุบเขามรณะ"
" ฮ่าฮ่าฮ่า นี่คุณเห็นผมเป็นเพื่อนเล่นเหรอผมไม่ตลกด้วยนะ"
" ทีมงานของเรากำลังจะเดินทางไปตามหากล้วยไม้สีรุ้ง ที่เชื่อว่ามีสรรพคุณยับยั้งเซลล์มะเร็ง แล้วกล้วยไม้นั่นก็อยู่ในหุบเขามรณะ ที่มีส่วนหนึ่งอยู่ฝั่งพาม่า พวกเขาพึ่งออกเดินทางไปเมื่อกี้ น่าจะสวนกับคุณพอดี"
" เมื่อกี้"
อาชวีนึกถึงรถตู้คันนั้นที่สวนทางออกไปตอนเขาขับเข้ามา
" รถตู้คันนั้นใช่ไหม"
ศาสตราจารย์พยักหน้า
" แล้วไอ้หุบเขามรณะเนี่ยมันต้องไปที่ไหน"
" ต้องไปเริ่มต้นที่ชายแดนจังหวัดตาก พวกเขาต้องไปจ้างพรานที่เคยไปให้นำทาง"
ลูกน้องเข้ามากระซิบข้างหูอาชวี
" นายครับไอ้หุบเขาที่ว่าเนี่ยผมเคยได้ยินปู่ผมเล่าให้ฟัง ว่าคนที่ไปไม่มีใครเคยกลับออกมาเลยนะครับ แล้วป่าแถบชายแดนตะวันตกมันเป็นป่าดิบเต็มไปด้วยอันตราย"
อาชวีได้ฟังก็ใจหายวาบชี้หน้าด่าศาสตราจารย์
" ไอ้แก่มึงหลอกให้เธอไป รู้ทั้งรู้ว่าที่นั่นมีแต่อันตรายไปแล้วก็อาจไม่ได้กลับมา แต่ก็ยังให้เธอไป"
" เธอเต็มใจไปเอง ทุกคนที่เดินทางไปล้วนเต็มใจไม่มีการบังคับ แล้วก็ลงชื่อยินยอมในเอกสารกันทุกคน ถ้าคุณไม่เชื่อผมจะเอาเอกสารให้คุณดู"
อาชวีมองดูลายเซ็นของธารธาราในเอกสารยินยอมก็แทบคุมสติไม่อยู่ เธอหนีเขามา ยอมเข้าป่าไปเสี่ยงอันตรายเพราะไม่อยากจะพบเจอเขาอีก เขาไม่ยอมให้เธอมีอันตราย เขาไม่ยอมให้เธอไป ใช่ ถ้าตามไปตอนนี้น่าจะยังทัน
" มึงขับให้มันเร็วกว่านี้ไม่ได้รึไงวะ"
" เร็วกว่านี้จะเกิดอันตรายนะครับนาย สองข้างทางมีแต่เหว ถ้าขับเร็วกว่านี้นายจะตายก่อนจะได้เจอเมียนายนะครับ อุ๊ย"
ดำรงหุบปากแทบไม่ทัน เมื่อหันไปเห็นอาชวีทำตาขวางใส่ ก็เขาพูดผิดที่ไหนหล่ะ เร็วกว่านี้ก็หลุดโค้งไปนอนอยู่ใต้หุบเหวแล้ว
" อีกไกลไหมกว่าจะถึงไอ้หมู่บ้านปะปะอะไรวะที่ว่าเนี่ย"
" หมู่บ้านปะละทะครับนาย"
อาชาบอก
" เออนั่นแหละชื่อห่าอะไรเรียกยาก ใกล้จะถึงรึยัง"
" ใกล้แล้วครับ ใกล้แล้วอีกประมาณ100กว่ากิโลเอง"
" _ "
คณะทีมวิจัยเดินทางมาถึงช่วงบ่ายรถตู้จอดลงที่ชายป่า ข้างหน้ามีธารน้ำขวางอยู่
" อ้าว จอดทำไมหล่ะถึงแล้วเหรอ"
" ยังครับ แต่รถเข้าได้แค่นี้ที่เหลือพวกคุณต้องไปกันเอง"
" ไปกันเอง ไปยังไงอ่ะ เดินไปเหรอ"
" ก็เดินไปสิ ยังไงก็ต้องเดินอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ กล้วยไม้มันอยู่ในป่าในหุบเขาลึกนะ ยังไงรถก็เข้าไปไม่ถึงอยู่ดี"
ดุษฎีพูดขึ้นมา
" ก็รู้แล้วว่าต้องเดิน แต่ไม่คิดว่าจะต้องเดินตั้งแต่ยังไม่ถึงหมู่บ้านแบบนี้ แล้วนี่อีกไกลไหมอ่ะกว่าจะถึงหมู่บ้าน"
" ถ้าพวกคุณไม่เดินก็หาแพล่องไปตามน้ำสักประมาณสองชั่วโมงก็จะถึงหมู่บ้าน"
" แล้วพวกเราจะไปหาแพมาจากที่ไหนหล่ะ"
" ถ้าโชคดีจะมีชาวบ้านเข้าเมืองมาซื้อของก็ขอติดแพพวกเขาไปได้ แต่ถ้าไม่เจอพวกชาวบ้าน พวกคุณก็เดินเท้าเข้าไป ข้ามน้ำนี่ไปแล้วเดินไปประมาณ3-4ชั่วโมงเดี๋ยวก็ถึง ผมส่งพวกคุณได้แค่นี้แหละ"
ทุกคนมองดูรถตู้ที่วิ่งออกไปไกลลับตา แล้วมองดูรอบตัวที่เงียบสงัด มองไปทางไหนก็มีแต่ป่าความรู้สึกเหมือนถูกนำมาปล่อยทิ้งยังไงยังงั้น
" เอาไงกันดีวะกรุ๊ป ตอนนี้จะบ่ายสองแล้วเราจะเสี่ยงดวงรออยู่ที่นี่เผื่อมีแพชาวบ้านผ่านมา หรือว่าจะเดินไปเลย"
ภาสกรเดินเข้าไปถามกิตติศักดิ์ในฐานะที่กิตติศักดิ์เป็นหัวหน้าทีม
" แต่ถ้าเรารออยู่ที่นี่แล้วไม่มีแพชาวบ้านมาเราจะเสียเวลาเปล่า ลุงคนขับรถบอกว่าต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ3-4ชั่วโมง นั่นเท่ากับว่าถ้าเราเริ่มเดินทางตอนนี้ก็จะถึงหมู่บ้านช่วงเย็นประมาณ5-6โมง แต่ถ้าช้ากว่านี้กว่าจะถึงหมู่บ้านก็จะค่ำ ฉันคิดว่าเราควรรีบเดินไปกันตอนนี้เลย"
ธารธาราออกความเห็น
" อือผมก็เห็นด้วยกับน้ำนะ ยิ่งค่ำมืดก็ยิ่งอันตราย ที่นี่ในป่า4โมง5โมงก็มืดแล้ว ทุกคนคิดว่าไง"
กิตติศักดิ์พูดขึ้นและถามความเห็นของคนอื่นๆ ทุกคนต่างก็เห็นด้วยจึงพากันเดินข้ามธารน้ำไปอีกฝั่ง มุ่งตรงไปหมู่บ้านปะละทะ
" พี่กรุ๊ป แล้วพี่รู้ทางเหรอว่าหมู่บ้านมันไปทางไหน โทรศัพท์ก็ไม่มีสัญญาณใช้จีพีเอสนำทางก็ไม่ได้"
" รู้สิ ศาสตราจารย์ให้แผนที่มาด้วย"
" ศาสตราจารย์ทำแผนที่ขึ้นมาเองเหรอ งั้นแสดงว่าเขาก็ต้องเคยไปที่หมู่บ้านใช่ไหม"
" ก็ต้องเคยอยู่แล้ว เพราะศาสตราจารย์รู้จักกับพรานมู่เลที่จะเป็นคนนำทางพวกเรา"
" นายครับ นั่นใช่รถตู้คันที่สวนกับเราตอนเข้าไปสถาบันวิจัยไหมครับ"
อาชวีมองตามรถตู้สีขาวที่สวนทางกันอีกครั้ง
"ขับตามไปปาดหน้ามัน"
"จัดไปครับนาย"
บรืนนเอี๊ยดด
" เฮ้ย ขับรถภาษาอะไรวะ นี่มึงจงใจปาดหน้ากูใช่ไหม"
อาชากับลูกน้องอีกสามคนลงจากรถ เข้ามาใช้ปืนจ่อให้คนขับรถตู้ลงมา
" อย่า อย่าทำอะไรผมเลย นี่ นี่เงินผมมีแค่นี้เอาไปเอาไปให้หมดเลย ขออย่างเดียวอย่าทำอะไรผมเลยลูกผมยังเล็กเมียผมก็ยังรออยู่ที่บ้าน"
" หุบปาก พวกกูไม่ได้จะมาปล้นมึง นายของพวกกูแค่มีเรื่องจะถามมึงนิดหน่อย ตามมา"
ทีมงานเดินทางมาถึงหมู่บ้านก็ช่วงหัวค่ำพอดี หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางป่าโอบล้อมด้วยหุบเขา ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก มีแม่น้ำไหลผ่านหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านที่นี่คงใช้วิธีออกจากหมู่บ้านด้วยการล่องแพ ซึ่งเป็นวิธีที่ประหยัดเวลาและรวดเร็วกว่าเดินเท้า บ้านทุกหลังใช้ใบไม้ทำเป็นหลังคาและฝาบ้าน ทุกคนดีใจแทบหายเหนื่อยเลยทีเดียว พอก้าวขาเข้าหมู่บ้านชาวบ้านก็พากันมองมาที่ทุกคนด้วยสายตาแปลกๆ" ทำไมพวกเขามองเราแบบนั้นวะ"" ก็คงเห็นว่าพวกเราเป็นคนแปลกหน้าล่ะมั้ง"" แต่ฉันว่าสายตามันดูแปลกๆอ่ะ หวังว่าหมู่บ้านนี้คงจะไม่ใช่แบบหมู่บ้านกินคนหรอกนะ"ได้ฟังดุษฎีพูดทุกคนก็ลังเลที่จะเดินต่อ ดารินกับโมรีขยับเข้าหากันจับมือกันแน่นสายตามองดูรอบๆตัวด้วยความหวาดระแวง" เฮ้ยไอ้กรุ๊ป มึงแน่ใจนะว่าพาพวกเรามาถูกหมู่บ้านหน่ะ "ภาสกรที่เดินนำหน้าเข้าหมู่บ้านพร้อมดุษฎีถอยหลังกลับไปถามกิตติศักดิ์ " ไม่ผิด ที่นี่แหละกูมาตามแผนที่ที่ศาสตราจารย์ให้มาเลย "" ศาสตราจารย์ได้บอกไหมว่าแถวนี้มันมีกี่หมู่บ้าน เราอาจจะมาผิดหมู่บ้านก็ได้นะ"ดารินถามขึ้นมา " ไม่ได้ถาม แต่ถึงยังไงเราก็มาถึงที่นี่แล้วถึงต่อให้ผิดยังไง คืนนี้เราก็คงต้องพั
" แก ฉัน ฉันว่าฉันปวดท้องแล้วหล่ะ "ดารินเอามือกุมท้อง แล้วเรื่องที่เธอไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้นจริงๆ ไม่ใช่ปวดฉี่แต่ปวดอึต้องเป็นอาหารที่กินเข้าไปเมื่อตอนค่ำแน่เลย กระเพาะลำไส้เธอไม่ค่อยดีกินอาหารแปลกไปทีไรท้องเสียทุกที" แกไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ"" ให้ฉันไปเฝ้าแกขี้เนี่ยนะ ไม่เอาอ่ะฉันกลัวผี"" แต่เซโพบอกว่าห้ามไปคนเดียวต้องมีเพื่อนไปด้วย แล้วแกก็เป็นเพื่อนของฉันถ้าแกไม่ไปแล้วจะให้พี่กรุ๊ปไปรึไง"" แต่ฉันก็กลัวนะ"" แกคิดว่าฉันไม่กลัวรึไง เราถึงต้องไปด้วยกันนี่ไง"" แกหน่ะปวดอะไรไม่รู้จักเวล่ำเวลา อั้นเอาไว้ก่อนไม่ได้รึไง อดเอาเดี๋ยวก็เช้าแล้ว"" โอ้ยจะบ้าเหรอ ฉันปวดจะแย่แล้ว เหมือนจะท้องเสียด้วยไม่ไหวแล้ว "ธารธาราเห็นทั้งสองคุยกัน โมรีก็ดูท่าจะไม่ยอมไปด้วยเลยอาสาไปเป็นเพื่อน" เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อนเอง ไปเถอะ"ดารินหันขวับไปมองธารธารา ไม่คิดว่าในยามลำบากคนที่ไม่รู้จักกันดีจะช่วยเธอ แต่เพื่อนสนิทที่คบกันมาหลายปีจะไม่สนใจเธอเเบบนี้ธารธาราถือตะเกียงพาดารินตรงไปที่ป่าหลังบ้าน" ฉันยืนรอตรงนี้นะ รีบไปเถอะ"" ได้ๆขอบใจนะ บุญคุณครั้งนี้ฉันจะไม่ลืมเลย กลับไปกรุงเทพฉันจะเลี้ยงหมูกะทะเธอเลย"
" รีบเก็บของแล้วรีบไปจากบ้านของข้าซะแล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก ข้าจะให้คนถ่อแพไปส่งพวกเอ็งที่ทางเข้าหมู่บ้าน"" เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนสิครับพราน ขอแค่พรานนำทางพวกผมไป พรานต้องการเท่าไหร่ว่ามาเลย นี่นี่ครับ พรานดูก่อน"ดุษฎีเปิดกระเป๋าที่ภายในเต็มไปด้วยเงินเป็นปึกให้มูเล่ดู มูเล่มองด้วยแววตาเฉยชาต่อให้เอามากองท่วมหัวเขาก็ไม่เอา เพราะการไปหุบเขามรณะมันทำให้พ่อของเขาต้องตาย ตั้งแต่วันนั้นเขาก็โทษตัวเองมาตลอด ว่าถ้าไม่ใช่เพราะเขา พ่อของเขาก็คงไม่ต้องตาย" หรือว่าไม่พอ งั้นก็เอาไปแค่นี้ก่อนกลับออกมาผมจะบอกศาสตราจารย์ให้เอามาให้อีก"มูเล่มองหน้าทุกคนแล้วพูดเสียงแข็งกร้าว" ต่อให้พวกเอ็งขนเอามากองท่วมหัวข้าก็ไม่สน พวกเอ็งรีบไปจากบ้านข้าเดี๋ยวนี้เลย ไป๊"" ใจเย็นๆ เรื่องนี้เราคุยกันได้ "" ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับพวกเอ็ง "" แต่พรานคะพวกเราขอร้องเถอะค่ะ นะคะ"" ทำไงดี ถ้าพรานไม่นำทางพวกเราแล้วเราจะไปหุบเขามรณะได้ยังไง"" ก็ถ้าเขาเล่นตัวไม่ยอมไป ก็หาพรานคนอื่นสิ ไม่เห็นจะยาก"ดุษฎีออกความเห็น ก็แค่พรานไม่ใช่เหรอในหมู่บ้านนี้คงไม่ได้มีพรานแค่คนเดียวหรอก" จริงอย่างที่ไอ้ด้วงมันพูด ในเมื่อพรานมูเล่ไม่ยอมนำท
" นายครับคุณน้ำเธอคงไปหุบเขามรณะแล้ว แล้วนายจะเอายังไงต่อครับ"อาชวีหันไปมองดูเขาสูงตะหง่านเบื้องหน้าด้วยสายตาเยือกเย็น เซโพกอดลาลูกเมียบอกทั้งสองไม่ต้องเป็นห่วง แล้วสั่งให้เมียเอาเช็คไปขึ้นที่ธนาคารในเมืองให้เรียบร้อย เขาจำเป็นต้องใช้เงินเพื่ออนาคตของลูกชายและลูกอีกคนที่อยู่ในท้องที่กำลังจะเกิดมา หากมีโอกาสรอดชีวิตกลับมา เขาตั้งใจจะพาลูกเมียย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง แต่หากเขาไม่ได้กลับมาเงินค่าจ้างที่ได้มาหลักล้านก็เพียงพอที่จะทำให้ลูกเมียของเขาอยู่ได้สุขสบาย" มึงแน่ใจว่าจะตามทัน"" แน่ใจ แต่ต้องใช้เวลาหน่อย"" นานไหม"" บอกไม่ได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์"เซโพแกะรอยตามมูเล่ไปเรื่อยๆจนกระทั่งใกล้ค่ำจึงหยุดเดิน" อ้าว หยุดทำไมวะ"" ใกล้ค่ำแล้วพวกเราต้องหาที่พัก เอ็งสองคนไปช่วยกันหากิ่งไม้มาสุมไฟ หามาเยอะๆพวกสัตว์ป่ามันกลัวไฟ เราต้องสุมไฟให้ติดทั้งคืนจะได้ไม่มีอันตราย"ลูกน้องสองคนมองหน้าอาชวีเมื่ออาชวีพยักหน้า พวกเขาก็เดินออกไปหากิ่งไม้ทันทีพอก่อกองไฟเสร็จ เซโพก็หยิบของบางอย่างใส่ลงไปในกองไฟ ก่อนจะลุกขึ้นโรยผงสีขาวรอบๆบริเวณเป็นวงกลมล้อมรอบทุกคนเอาไว้" พราน พรานโรยผงอะไรอ่ะ"ดำรงถามด้วยคว
พวกลูกน้องมองหน้ากัน พวกเขาก็เหนื่อยมาทั้งวันต่างก็ง่วงนอน ถึงได้หลับไปด้วยความเพลีย ใครจะไปคิดว่าจะเกิดเหตุขึ้น ทั้งที่พรานก็เตือนแล้วว่าอย่าออกนอกเส้นที่ขีดไว้ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นายของพวกเขาดันคิดถึงเมียมาก เห็นเสือสมิงแปลงกายเป็นเธอก็หน้ามืดตามัวรีบตามออกไป ทั้งที่เรียกพวกเขาคนใดคนหนึ่งไปเป็นเพื่อนก็ได้แต่ที่ไม่เรียกเพราะคิดว่าจะไปแอบเย่กันหน่ะสิ แต่แทนที่จะได้เย่เมีย ดันเกือบถูกเสือกินแทน แล้วทีนี้ก็มาโทษลูกน้องอย่างพวกเขาอาชารีบเข้าไปกอดขาอาชวี" พวกผมผิดไปแล้วครับนาย ยกโทษให้พวกเราด้วยเถอะครับ ต่อไปพวกเราจะไม่หลับพร้อมกันอีกแล้ว ตั้งแต่คืนพรุ่งนี้พวกเราจะแบ่งเวรกัน ผลัดกันเฝ้ายามครับนาย "แสงแดดสาดส่องลงมาแม้เป็นเวลาสายแต่ก็ไม่ร้อนมาก เพราะมีต้นไม้ใหญ่หนาบดบัง เซโพเดินนำหน้าพาอาชวีกับลูกน้องเดินลัดเลาะขึ้นเขาข้ามลำธาร จนกระทั่งพบซากกองไฟ เซโพตรงเข้าไปทันที" ซากกองไฟนี่ยังใหม่ๆอยู่ แสดงว่าพวกเขาพึ่งไปได้ไม่นาน"" จะเป็นพวกน้ำไหม"อาชวีรีบถามขึ้นมาด้วยความดีใจ เซโพมองไปรอบๆซากกองไฟมีผงขาวโรยรอบอยู่ก็พยักหน้า " คนที่รู้วิธีโรยผงป้องกันแบบนี้มีเพียงพ่อข้ากับข้าเท่านั้น ข้าคิดว
ธารธาราหยิบที่ตรวจครรภ์ออกมาดูแล้วยิ้มกว้าง มองไปที่ประตูห้องน้ำอย่างใจจดใจจ่อ รอบอกข่าวดีกับเขา เขาจะดีใจเหมือนเธอไหมนะแกร็ก อาชวีเปิดประตูห้องน้ำเดินออกมาท่อนล่างมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียว " จ้องผมแบบนี้หรือว่าอยากได้อีก "เขาเดินเข้ามารวบเอวเธอเข้ามากอด จมูกโด่งซุกไซร้ซอกคอ มือบีบขยำเต้าอวบ" พะ พอแล้วค่ะ "ธารธาราผลักเขาออก พึ่งจะร่วมรักกันไปสามครั้งติดๆ เธอไม่อยากทำบ่อยเกินไปกลัวจะกระทบกับลูกในท้อง" วีคะ"" หือ""ฉันมีเรื่องจะบอกคุณ"" เรื่องอะไร"เธอกำลังเอาที่ตรวจครรภ์ออกมา แต่เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน เขาหยิบโทรศัพท์มาดูแล้วยิ้มก่อนจะรีบกดรับ" ฮัลโหล อืม ได้สิ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย"เขารีบสวมใส่เสื้อผ้าคว้ากุญแจรถหมุนตัวออกไปโดยไม่สนใจเธอเลย " วีคะ"" มีอะไรรีบพูดมาผมรีบ"" คุณไม่ไปไม่ได้เหรอ ฉัน ฉันไม่ค่อยสบาย อยากให้คุณอยู่เป็นเพื่อน"เธอเข้าไปกอดแขนเขาไว้ เขาปัดมือเธอออก" ไม่สบายก็ไปหายากินไม่ก็ไปหาหมอ ผมผมไม่ใช่หมอนะ บอกแล้วจะช่วยอะไรได้"เขาพูดเสียงแข็งกร้าว แล้วรีบเดินออกไป ปิดประประตูกระแทกเสียงดัง ปังน้ำตาของเธอไหลรินออกมา ใช้มือลูบท้องที่ยังแบนราบ ไม
อาชวียกแก้วเหล้าสาดลงคอ ไม่รู้ทำไมวันนี้หงุดหงิดแปลกๆมองดูโทรศัพท์อยากจะโทรหาธารธาราแต่กลัวเสียฟอร์ม จึงได้แต่รอให้เธอโทรมาแต่ก็ไม่มีวี่แวว " มึงเป็นอะไรวะไอ้วี อัญกลับมาแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมมึงดูไม่มีความสุขเลยวะ"" นั่นสิ เห็นว่าที่กลับมาเพราะเลิกกับผัว ทีนี้ก็เป็นโอกาสของมึงแล้วนะเพื่อน มึงรอเสียบอยู่ไม่ใช่รึไง เขาก็กลับมาให้มึงเสียบแล้วก็จัดสิวะรอไร"" แหมเล่นตัวอยู่นานตอนมึงสารภาพรักทำเป็นปฏิเสธ แล้วเป็นไงตอนนี้โดนผัวฝรั่งทิ้งรีบกลับมาซบอกไอ้วีอย่างไว"" เห็นเธอลงไอจีว่าไปทำงานที่บริษัทมึงด้วยนี่ ใช่ไหม"" อือ เธอขอให้กูหางานให้กูเลยให้ไปทำงานที่บริษัทกู"" แล้วเด็กมึงหล่ะ น้องน้ำนมโตนั่น มึงไม่เอากูขอเอาต่อเอง แม่งโคตรน่ารักหุ่นอย่างกับนางเอกเอวี"ปึก อาชวีวางแก้วเหล้าเสียงดังมองเจตพิพัฒน์ตาขวาง" ก็น้องเขาน่ารักน่าเย่ขนาดนั้น จะทิ้งขว้างก็เสียดายของ มึงไม่เห็นค่าน้องเขากูเห็นค่าเอง มึงให้เขาเป็นเมียเก็บ แต่กูจะให้เป็นตัวจริง"" ของของกู ถึงต่อให้กูทิ้งก็ยังเป็นของกู มึงไม่มีสิทธิ์"" อ้าวไอ้นี่ ยังงี้แม่งหวงก้างนี่หว่า"" พอๆไอ้พัฒน์ มึงก็ชอบไปยั่วโมโหมัน"เจษพิพัฒน์ไม่สนใจ เขาร
" กุ้งนางบอกว่าคุณอยากพบฉัน"" นั่งสิ"อัญญาอรมองดูธารธาราตั้งแต่หัวจรดเท้ายอมรับว่าผู้หญิงตรงหน้าเธอสวยจริงๆ" เธอสวยจริงๆ สมแล้วที่วีให้เป็นของเล่นของเขามาหลายปี แต่ตอนนี้ของเล่นอย่างเธอถูกเขี่ยทิ้งซะแล้ว"" ถ้าคุณไม่มีเรื่องงานจะพูดฉันขอตัว"" เดี๋ยวก่อนสิ นั่งลง ฉันเป็นหัวหน้าเธอนะเธอต้องทำตามคำสั่งฉัน"ธารธาราพยายามควบคุมอารมณ์แล้วนั่งลง" เอาโครงการที่ทำอยู่มาให้ฉันดูทั้งหมดอธิบายมาอย่างละเอียด"หลังจากอธิบายเรื่องโครงการเสร็จก็เดินออกไป อัญญาอรมองดูแผนงานโครงการในจอคอมแล้วแสยะยิ้มหลายวันต่อมาบริษัทจัดงานเซ็นสัญญา " โครงการนี้สำเร็จเพราะเพื่อนน้ำคนสวยอีกแล้ว โบนัสปีนี้ต้องได้เยอะแน่ๆเลย"" ใช่ๆน้ำนี่ทั้งสวยทั้งเก่งเลยน้า"พิชาภากับมานิตาชื่นชมธารธาราอยู่ข้างๆพนักงานคนอื่นๆในแผนกต่างก็เห็นด้วย" น้ำเดี๋ยวเตรียมตัวขึ้นไปบนเวทีนะ เดี๋ยวฉันจะถ่ายรูปสวยๆให้หลายๆรูปเลย "ธารธารายิ้มรับ ถือเอกสารโครงการเตรียมจะเดินขึ้นเวทีแต่ต้องหยุดชะงัก เมื่ออัญญาอรเดินขึ้นไปบนเวทีแล้วทำหน้าที่แทนเธอพูดอธิบายแผนงานโครงการแบบคร่าวๆ พูดจบทุกคนก็ปรบมือให้ อธิปประธานบริษัทจรดปากกาเซ็นสัญญา" ขอบคุณมากค
พวกลูกน้องมองหน้ากัน พวกเขาก็เหนื่อยมาทั้งวันต่างก็ง่วงนอน ถึงได้หลับไปด้วยความเพลีย ใครจะไปคิดว่าจะเกิดเหตุขึ้น ทั้งที่พรานก็เตือนแล้วว่าอย่าออกนอกเส้นที่ขีดไว้ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นายของพวกเขาดันคิดถึงเมียมาก เห็นเสือสมิงแปลงกายเป็นเธอก็หน้ามืดตามัวรีบตามออกไป ทั้งที่เรียกพวกเขาคนใดคนหนึ่งไปเป็นเพื่อนก็ได้แต่ที่ไม่เรียกเพราะคิดว่าจะไปแอบเย่กันหน่ะสิ แต่แทนที่จะได้เย่เมีย ดันเกือบถูกเสือกินแทน แล้วทีนี้ก็มาโทษลูกน้องอย่างพวกเขาอาชารีบเข้าไปกอดขาอาชวี" พวกผมผิดไปแล้วครับนาย ยกโทษให้พวกเราด้วยเถอะครับ ต่อไปพวกเราจะไม่หลับพร้อมกันอีกแล้ว ตั้งแต่คืนพรุ่งนี้พวกเราจะแบ่งเวรกัน ผลัดกันเฝ้ายามครับนาย "แสงแดดสาดส่องลงมาแม้เป็นเวลาสายแต่ก็ไม่ร้อนมาก เพราะมีต้นไม้ใหญ่หนาบดบัง เซโพเดินนำหน้าพาอาชวีกับลูกน้องเดินลัดเลาะขึ้นเขาข้ามลำธาร จนกระทั่งพบซากกองไฟ เซโพตรงเข้าไปทันที" ซากกองไฟนี่ยังใหม่ๆอยู่ แสดงว่าพวกเขาพึ่งไปได้ไม่นาน"" จะเป็นพวกน้ำไหม"อาชวีรีบถามขึ้นมาด้วยความดีใจ เซโพมองไปรอบๆซากกองไฟมีผงขาวโรยรอบอยู่ก็พยักหน้า " คนที่รู้วิธีโรยผงป้องกันแบบนี้มีเพียงพ่อข้ากับข้าเท่านั้น ข้าคิดว
" นายครับคุณน้ำเธอคงไปหุบเขามรณะแล้ว แล้วนายจะเอายังไงต่อครับ"อาชวีหันไปมองดูเขาสูงตะหง่านเบื้องหน้าด้วยสายตาเยือกเย็น เซโพกอดลาลูกเมียบอกทั้งสองไม่ต้องเป็นห่วง แล้วสั่งให้เมียเอาเช็คไปขึ้นที่ธนาคารในเมืองให้เรียบร้อย เขาจำเป็นต้องใช้เงินเพื่ออนาคตของลูกชายและลูกอีกคนที่อยู่ในท้องที่กำลังจะเกิดมา หากมีโอกาสรอดชีวิตกลับมา เขาตั้งใจจะพาลูกเมียย้ายเข้าไปอยู่ในเมือง แต่หากเขาไม่ได้กลับมาเงินค่าจ้างที่ได้มาหลักล้านก็เพียงพอที่จะทำให้ลูกเมียของเขาอยู่ได้สุขสบาย" มึงแน่ใจว่าจะตามทัน"" แน่ใจ แต่ต้องใช้เวลาหน่อย"" นานไหม"" บอกไม่ได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์"เซโพแกะรอยตามมูเล่ไปเรื่อยๆจนกระทั่งใกล้ค่ำจึงหยุดเดิน" อ้าว หยุดทำไมวะ"" ใกล้ค่ำแล้วพวกเราต้องหาที่พัก เอ็งสองคนไปช่วยกันหากิ่งไม้มาสุมไฟ หามาเยอะๆพวกสัตว์ป่ามันกลัวไฟ เราต้องสุมไฟให้ติดทั้งคืนจะได้ไม่มีอันตราย"ลูกน้องสองคนมองหน้าอาชวีเมื่ออาชวีพยักหน้า พวกเขาก็เดินออกไปหากิ่งไม้ทันทีพอก่อกองไฟเสร็จ เซโพก็หยิบของบางอย่างใส่ลงไปในกองไฟ ก่อนจะลุกขึ้นโรยผงสีขาวรอบๆบริเวณเป็นวงกลมล้อมรอบทุกคนเอาไว้" พราน พรานโรยผงอะไรอ่ะ"ดำรงถามด้วยคว
" รีบเก็บของแล้วรีบไปจากบ้านของข้าซะแล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก ข้าจะให้คนถ่อแพไปส่งพวกเอ็งที่ทางเข้าหมู่บ้าน"" เดี๋ยว เดี๋ยวก่อนสิครับพราน ขอแค่พรานนำทางพวกผมไป พรานต้องการเท่าไหร่ว่ามาเลย นี่นี่ครับ พรานดูก่อน"ดุษฎีเปิดกระเป๋าที่ภายในเต็มไปด้วยเงินเป็นปึกให้มูเล่ดู มูเล่มองด้วยแววตาเฉยชาต่อให้เอามากองท่วมหัวเขาก็ไม่เอา เพราะการไปหุบเขามรณะมันทำให้พ่อของเขาต้องตาย ตั้งแต่วันนั้นเขาก็โทษตัวเองมาตลอด ว่าถ้าไม่ใช่เพราะเขา พ่อของเขาก็คงไม่ต้องตาย" หรือว่าไม่พอ งั้นก็เอาไปแค่นี้ก่อนกลับออกมาผมจะบอกศาสตราจารย์ให้เอามาให้อีก"มูเล่มองหน้าทุกคนแล้วพูดเสียงแข็งกร้าว" ต่อให้พวกเอ็งขนเอามากองท่วมหัวข้าก็ไม่สน พวกเอ็งรีบไปจากบ้านข้าเดี๋ยวนี้เลย ไป๊"" ใจเย็นๆ เรื่องนี้เราคุยกันได้ "" ข้าไม่มีอะไรจะคุยกับพวกเอ็ง "" แต่พรานคะพวกเราขอร้องเถอะค่ะ นะคะ"" ทำไงดี ถ้าพรานไม่นำทางพวกเราแล้วเราจะไปหุบเขามรณะได้ยังไง"" ก็ถ้าเขาเล่นตัวไม่ยอมไป ก็หาพรานคนอื่นสิ ไม่เห็นจะยาก"ดุษฎีออกความเห็น ก็แค่พรานไม่ใช่เหรอในหมู่บ้านนี้คงไม่ได้มีพรานแค่คนเดียวหรอก" จริงอย่างที่ไอ้ด้วงมันพูด ในเมื่อพรานมูเล่ไม่ยอมนำท
" แก ฉัน ฉันว่าฉันปวดท้องแล้วหล่ะ "ดารินเอามือกุมท้อง แล้วเรื่องที่เธอไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้นจริงๆ ไม่ใช่ปวดฉี่แต่ปวดอึต้องเป็นอาหารที่กินเข้าไปเมื่อตอนค่ำแน่เลย กระเพาะลำไส้เธอไม่ค่อยดีกินอาหารแปลกไปทีไรท้องเสียทุกที" แกไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ"" ให้ฉันไปเฝ้าแกขี้เนี่ยนะ ไม่เอาอ่ะฉันกลัวผี"" แต่เซโพบอกว่าห้ามไปคนเดียวต้องมีเพื่อนไปด้วย แล้วแกก็เป็นเพื่อนของฉันถ้าแกไม่ไปแล้วจะให้พี่กรุ๊ปไปรึไง"" แต่ฉันก็กลัวนะ"" แกคิดว่าฉันไม่กลัวรึไง เราถึงต้องไปด้วยกันนี่ไง"" แกหน่ะปวดอะไรไม่รู้จักเวล่ำเวลา อั้นเอาไว้ก่อนไม่ได้รึไง อดเอาเดี๋ยวก็เช้าแล้ว"" โอ้ยจะบ้าเหรอ ฉันปวดจะแย่แล้ว เหมือนจะท้องเสียด้วยไม่ไหวแล้ว "ธารธาราเห็นทั้งสองคุยกัน โมรีก็ดูท่าจะไม่ยอมไปด้วยเลยอาสาไปเป็นเพื่อน" เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อนเอง ไปเถอะ"ดารินหันขวับไปมองธารธารา ไม่คิดว่าในยามลำบากคนที่ไม่รู้จักกันดีจะช่วยเธอ แต่เพื่อนสนิทที่คบกันมาหลายปีจะไม่สนใจเธอเเบบนี้ธารธาราถือตะเกียงพาดารินตรงไปที่ป่าหลังบ้าน" ฉันยืนรอตรงนี้นะ รีบไปเถอะ"" ได้ๆขอบใจนะ บุญคุณครั้งนี้ฉันจะไม่ลืมเลย กลับไปกรุงเทพฉันจะเลี้ยงหมูกะทะเธอเลย"
ทีมงานเดินทางมาถึงหมู่บ้านก็ช่วงหัวค่ำพอดี หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางป่าโอบล้อมด้วยหุบเขา ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก มีแม่น้ำไหลผ่านหมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านที่นี่คงใช้วิธีออกจากหมู่บ้านด้วยการล่องแพ ซึ่งเป็นวิธีที่ประหยัดเวลาและรวดเร็วกว่าเดินเท้า บ้านทุกหลังใช้ใบไม้ทำเป็นหลังคาและฝาบ้าน ทุกคนดีใจแทบหายเหนื่อยเลยทีเดียว พอก้าวขาเข้าหมู่บ้านชาวบ้านก็พากันมองมาที่ทุกคนด้วยสายตาแปลกๆ" ทำไมพวกเขามองเราแบบนั้นวะ"" ก็คงเห็นว่าพวกเราเป็นคนแปลกหน้าล่ะมั้ง"" แต่ฉันว่าสายตามันดูแปลกๆอ่ะ หวังว่าหมู่บ้านนี้คงจะไม่ใช่แบบหมู่บ้านกินคนหรอกนะ"ได้ฟังดุษฎีพูดทุกคนก็ลังเลที่จะเดินต่อ ดารินกับโมรีขยับเข้าหากันจับมือกันแน่นสายตามองดูรอบๆตัวด้วยความหวาดระแวง" เฮ้ยไอ้กรุ๊ป มึงแน่ใจนะว่าพาพวกเรามาถูกหมู่บ้านหน่ะ "ภาสกรที่เดินนำหน้าเข้าหมู่บ้านพร้อมดุษฎีถอยหลังกลับไปถามกิตติศักดิ์ " ไม่ผิด ที่นี่แหละกูมาตามแผนที่ที่ศาสตราจารย์ให้มาเลย "" ศาสตราจารย์ได้บอกไหมว่าแถวนี้มันมีกี่หมู่บ้าน เราอาจจะมาผิดหมู่บ้านก็ได้นะ"ดารินถามขึ้นมา " ไม่ได้ถาม แต่ถึงยังไงเราก็มาถึงที่นี่แล้วถึงต่อให้ผิดยังไง คืนนี้เราก็คงต้องพั
" นาย นายครับนาย นายครับ"อาชวีลืมตาขึ้นมาเห็นลูกน้องยืนมองอยู่ มองไปรอบๆตัวนี่มันห้องนอนเขาที่บ้านใหญ่นี่นา" ใคร ใครพากูกลับมา"" เอ่อ ก็พวกเพื่อนๆนายนั่นแหละครับ"" นี่กี่โมงแล้ว"" 6โมงครึ่งครับนาย"" 6โมงครึ่ง พึ่งจะ6โมงครึ่งแล้วพวกมึงมาปลุกกูทำไม ห๊า หรือพวกมึงอยากตกงานกัน"" ไม่ ไม่อยากครับนาย คือพวกผมมีเรื่องด่วนจึงรีบมารายงานนายครับ"" เรื่องอะไร"" นี่ครับนาย"อาชาส่งแท็บเเลตที่เปิดหน้าข่าวค้างไว้ อาชวีอ่านข่าวแล้วแสยะยิ้มหัวเราะลั่น ผบ.ตรทัดเทพ พ่อของอัญญาอร ถูกจับข้อหาทุจริตและเอี่ยวการพนันออนไลน์ ถูกส่งเข้าคุกและยึดทรัพย์ทั้งหมดที่มี สมน้ำหน้า ชอบทำตัวกร่างเบ่งอำนาจดีนัก" ยังมีอีกเรื่องครับนาย"อาชวีรีบขับรถมาที่สถาบันวิจัยทันทีที่ลูกน้องรายงานว่าธารธาราอยู่ที่นี่ เขาเหยียบเกือบมิดไมล์ เมื่อรถเลี้ยวเข้าสถาบันก็สวนทางกับรถตู้คันหนึ่งที่ขับออกไป โดยไม่รู้ว่าธารธาราก็นั่งอยู่ในรถตู้คันนั้น และกำลังจะเดินทางไปหุบเขามรณะบรืนน เอี๊ยดดดด ปังอาชวีเปิดประตูลงจากรถก็เจอศาสตราจารย์ที่กำลังจะเดินเข้าข้างในศาสตราจารย์หันกลับมามองดูอาชวี" ผมมาหาธารธารา"" เธอไม่ได้อยู่ที่นี่"" อย่
เพล้ง โครมอาชวีปัดข้าวของบนโต๊ะหล่นกระจายก่อนเข้าไปเตะต่อยลูกน้องที่ยืนเรียงแถว แล้วชี้หน้าด่าลูกน้องด้วยความโมโห" ไม่ได้เรื่อง พวกมึงมันไม่ได้เรื่อง แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆคนเดียวหลายวันแล้วพวกมึงยังหาไม่เจอ นี่กูจะเลี้ยงพวกมึงไว้ทำไมห๊า ไป ไปเลยนะ ถ้าหาเมียกูไม่เจอพวกมึงก็อย่ากลับมาให้กูเห็นอีก ไป๊ ไสหัวไป"อัญญาอรเดินเข้ามาสวนทางกับบอดี้การ์ดนับสิบที่รีบเร่งเดินออกไป แต่ละคนหน้าตาบวมช้ำปากแตก" วีคะเกิดอะไรขึ้น พวกนั้นทำอะไรให้คุณไม่พอใจเหรอ"" มาทำไม"อาชวีตะคอกใส่เสียงดังจนอัญญาอรสะดุ้ง" วีฉัน"" ผมบอกคุณไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าคุณไม่ต้องมาทำงานที่นี่แล้ว แล้วทำไมยังมาอีก"" ฉัน ฉันคิดถึงคุณ ก็คุณไม่ยอมไปหาฉันเลย โทรไปก็ไม่รับส่งข้อความก็ไม่ตอบกลับ ฉันเลยต้องมาหาคุณที่นี่"" แล้วทำไมผมต้องไปหาคุณ ทำไมต้องรับสายคุณต้องตอบข้อความคุณด้วย คุณไม่ได้เป็นอะไรกับผมสักหน่อย"" ทำไมคุณพูดแบบนี้ ฉันเป็นเมียคุณนะเราเอากันแล้ว"" เฮอะ แค่ครั้งสองครั้งผมไม่นับหรอก "" วี ทำไมคุณพูดกับฉันแบบนี้"" ทำไมจะพูดไม่ได้ ผมก็แค่สนุกกับคุณก็แค่เล่นๆ ตอนนี้ผมไม่ต้องการคุณแล้ว ออกไปแล้วอย่ามาให้ผมเห็นหน้าอีก เพร
ย้อนนึกไปถึงตอนนั้น เธอเรียนคณะวิทยาศาสตร์ ตั้งใจว่าจบมาจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ ด้วยผลการเรียนและงานวิจัยของเธอ ทำให้สถาบันวิจัยมาจองตัวเธอให้เข้าทำงานตั้งแต่ยังเรียนไม่จบ แต่เพราะความรักบังตา ทำให้เธอปฏิเสธการเข้าทำงานที่สถาบันวิจัยแห่งชาติ แต่กลับไปสมัครงานที่บริษัทเล็กๆของอาชวีช่วยทำโครงการหลายโครงการ จนบริษัทประสบผลสำเร็จเข้าตลาดหลักทรัพย์ กลายเป็นบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่อย่างทุกวันนี้ เธอยอมทิ้งความฝันเพื่อผู้ชายที่ให้เธอเป็นแค่ของเล่น ไม่มีตัวตน ไม่เคยยอมรับเธอเหตุการณ์ที่เขาทำร้ายเธอเพื่อผู้หญิงในใจของเขาจนเธอต้องเสียลูกไป มันทำให้เธอคิดได้ และชีวิตนี้เธอจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเขาอีก " ตอนนี้ทางสถาบันกำลังวิจัยเรื่องการยับยั้งเซลล์มะเร็ง เรื่องนี้สำคัญมากเพราะมีข่าวว่ามีการค้นพบกล้วยไม้สีรุ้ง"" กล้วยไม้สีรุ้ง มันเกี่ยวอะไรกับการวิจัยเหรอค่ะศาสตราจารย์"" เกี่ยวสิเกี่ยวแน่นอน เพราะในตำราบอกไว้ว่ามันสามารถยับยั้งเซลล์มะเร็งได้"" ศาสตราจารย์หมายความว่ากล้วยไม้สีรุ้งช่วยรักษามะเร็งได้"" ถูกต้อง"" แต่ศาสตราจารย์ครับ ในตำราโบราณจะเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน"" ผมเชื่อนะ ถ้าเราได้ตัวอย่าง
โรงพยาบาลธารธาราร้องไห้สะอึกสะอื้นกอดพิชาภา ทั้งพิชาภาและมานิตาพูดปลอบใจอยู่ข้างๆ ตั้งแต่รู้ว่าแท้งลูก ธารธาราก็ร้องไห้ไม่หยุด" น้ำอย่าร้องอีกเลยนะ ฉันรู้ว่าแกเสียใจ แต่คิดซะว่าเขากับแกไม่มีวาสนาต่อกัน เขาเลยมาอยู่กับแกแค่นี้"" หรือไม่บางทีเขาอยากอยู่กับแก อยากมีแกเป็นแม่ แต่ไม่ต้องการให้คนอย่างอีตาวีเป็นพ่อ ก็เลยไปรอแกอยู่ที่ที่เขาจากมา รอให้แกหาพ่อใหม่ให้เขาได้ เดี๋ยวเขาก็กลับมาอยู่กับแกอีก เชื่อฉันนะ"" หยุดร้องได้แล้วดูสิตาบวมหมดแล้ว"พิชาภาดันตัวธารธาราออก เช็ดน้ำตาให้เพื่อน แล้วพูดขึ้นมาด้วยความโมโห" ถ้าเขาได้รู้ความจริงว่าเป็นคนฆ่าลูกของเขาเองกับมือ เขาจะรู้สึกเสียใจบ้างไหมนะ"" ไม่ เขาไม่รู้สึกอะไรหรอก ฉันไม่เคยมีค่าสำหรับเขา ฉันเป็นแค่ของเล่น เป็นคนคั่นเวลารอตัวจริงของเขากลับมาอย่างที่ทุกคนพูดกัน"" โธ่น้ำ แกตัดใจจากเขาเถอะนะ ยังไงเรื่องแกกับเขาก็ไม่มีวันเป็นไปได้ ยิ่งแกทำใจได้เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดีกับแกเท่านั้น"" แกหิวไหมเดี๋ยวฉันไปหาซื้ออะไรมาให้กิน"" แกไปซื้อไปนิ เดี๋ยวฉันอยู่เป็นเพื่อนน้ำมันเอง"มานิตาออกไปซื้อของกินขึ้นมา เดินผ่านห้องพิเศษห้องหนึ่ง พยาบาลเปิดประตูออก