"คุณหนูใหญ่มาแล้ว"เจียงซือโหรวมองดูสีหน้าของซูเนี่ยน พร้อมกับยืนขึ้นต้อนรับนางซูเนี่ยนพยักหน้า นั่งลงที่ข้าง ๆ ซูฉี เมื่อเดินเข้าใกล้ ใบหน้าของเด็กหนุ่มก็ยิ่งเห็นชัดเจนมากขึ้นซูฉีกับซูเนี่ยนหน้าตาคล้ายกันมาก ไปทางลู่เจียวทั้งคู่ แต่เทียบกับความงดงามของซูเนี่ยนแล้ว ซูฉียังมีความเป็นเด็กมากกว่า ทำให้ดูเป็นหนุ่มน้อยหน้าใสที่น่าเอ็นดูซูฉีเป็นคนตัวสูง แต่ผอมมาก ขอบแขนเสื้อค่อนข้างซีดขาว ซูเนี่ยนเม้มปาก เจียงซือโหรวจะดีต่อซูฉีได้อย่างไร แค่ไม่อยากถูกมองว่าข่มเหงรังแกน้องชายเท่านั้น ลับหลังมีหรือจะปรานีหลายปีนี้นางให้คนแอบช่วยเหลือซูฉี แต่ซูฉีก็เป็นคนระวังตัวสูง ซูเนี่ยนรู้สึกผิดหวังก็จริง แต่ขณะเดียวก็มีความอุ่นใจ"กินข้าวเถอะ" ซูกั๋วกงกวาดสายตาไปยังทุกคน พลางกล่าวเสียงต่ำ"กินข้าว" เจียงซือโหรวพยักหน้าให้หมัวมัวและสาวใช้ บ่าวไพร่เริ่มลำเลียงอาหารมาซูฉีก้มหน้ากินข้าว ในชามจู่ ๆ มีกุ้งใหญ่เพิ่มมาหนึ่งตัว ซ้ำยังแกะเปลือกอย่างเรียบร้อย เนื้อขาวใสของกุ้งถูกวางเด่นอยู่ในชามข้าวซูฉีผินหน้า สบสายตายิ้ม ๆ ของซูเนี่ยน สีหน้าแววตาของนางดูอ่อนโยน มีความคล้ายกับลู่เจียวลู่เจียวเสียไปตอ
"พาข้าไปดู!" ซูเนี่ยนเดินจ้ำอ้าว น้ำเสียงเยียบเย็นยิ่งนัก"ขอรับ" ชิงเหยียนรับคำทุกคนเดินอย่างรีบเร่ง ซูเนี่ยนให้เฟิ่งเอ๋อร์ไปตามหมอ ส่วนตนกับชิงเหยียนตรงไปยังที่พักของซูฉีชิงเหยียนตัวสั่นเล็กน้อย ไม่เจอกันสามปี พระชายาดูมีลักษณะแข็งแกร่งมากขึ้น และนี่เป็นสิ่งที่เขาต้องการจะเห็น เพราะพระชายาจะได้ปกป้องคุณชายของตนได้ซูเนี่ยนเร่งรีบผลักประตูห้อง ข้างในมีกลิ่นคาวเลือดและกลิ่นเหม็นบางอย่างที่แสบจมูกนักซูฉีไม่เพียงกระอักเลือด แม้แต่อาหารก็ออกมาด้วย เขานอนขดตัว เอามือกุมท้อง เหงื่อเย็นผุดออกตามใบหน้าอย่างมากมาย ฟันขบริมฝีปากแน่น จะร้องเจ็บก็ยังเปล่งเสียงไม่ออกซูเนี่ยนขอบตาร้อนผ่าว สายตาแดงก่ำ"ซูฉี" ซูเนี่ยนหยิบผ้าเช็ดหน้าออกจากอก พร้อมซับเหงื่อให้แก่ซูฉี"ท่านพี่ ฉีเอ๋อร์เจ็บเหลือเกิน" ซูฉีเจ็บจนไม่ได้สติ รับรู้ถึงการกระทำของซูเนี่ยน ได้แต่ครวญครางเบา ๆสีหน้าเขาซีดเผือด ราวกับกำลังทนรับความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส ซูเนี่ยนเอานิ้วแตะที่ข้อมือของซูฉี แววตาเปล่งประกายคล้ายกับจะเกิดมรสุมครั้งใหญ่นางกวาดสายตาไปยังสาวใช้แม่บ้านที่ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ซูเนี่ยนยืนขึ้น ตวัดฝ่ามือไปลงที่ใ
“ขอคำนับท่านอ๋อง ท่านอ๋องมาเสียดึกดื่น กระหม่อมเสียใจนักที่ไม่ได้ทำการต้อนรับ หวังว่าท่านอ๋องอภัย”ซูกั๋วกงสะดุ้งกับเสียงของฉู่อี้หาน แต่เขาก็ได้สติอย่างรวดเร็วและทักทายฉู่อี้หานอย่างนอบน้อมฉู่อี้หานไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไรต่อ จ้องมองตรงไปที่ซูกั๋วกง เหมือนมีพายุมาสุมกันอยู่ในดวงตาของเขา ราวกับว่าถ้าซูกั๋วกงพูดอีกแม้แต่ประโยคเดียว เขาก็จะจัดการทันทีซูกั๋วกงโดนฉู่อี้หานจ้องจนรู้สึกอึดอัด นอกจากนี้ยังมีเหงื่อเม็ดใหญ่บนหน้าผากของเขา แม้แต่จักรพรรดิองค์ปัจจุบันก็ยังเกรงกลัวหลีอ๋อง เช่นนั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าขุนนางในราชสำนักจะรู้สึกอย่างไรเจียงซือโหรวแอบส่งสายตาให้ซูเยียนหรันจากด้านหลังซูกั๋วกงซูเยียนหรันเม้มริมฝีปากของเธอแล้วมองฉู่อี้หานด้วยสายตาน่าเอ็นดูแต่นึกไม่ถึงเลยว่าฉู่อี้หานไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำ แถมยังคงจ้องมองแต่ซูเนี่ยนซูเนี่ยนเลิกคิ้ว ท่าทางแบบนี้ ดูท่าฉู่อี้หานจะหายดีแล้ว?มั่วอีที่อยู่ด้านหลังถือดาบไว้ในอ้อมแขนของเขา และแอบขยิบตาให้ซูเนี่ยน ท่านอ๋องของพวกเขายังไม่หายดี หลังจากที่หลิวฝูเฟิงทำการฝังเข็ม เขาก็เริ่มส่งเสียงร้องหาพระชายาทันทีที่เขาตื่นขึ้นมา เมื่อเขารู้ว
“หมัวมัว เจ้าคิดว่าท่านป้าของข้ากำลังทำอะไรอยู่? ท่านป้าของข้าเป็นคนบงการเจ้าหรือเปล่า?” แววตาของซูเนี่ยนเปลี่ยนไปจู่ๆ เจียงซือโหรวก็ถูกพูดถึง หัวใจของเธอเต้นรัว เมื่อเห็นซูเนี่ยนกับหลีอ๋องล้วนมองเธอ เธอก็อดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปากของเธอ สายตาของหลีอ๋องนั้นน่ากลัวจริงๆ“ไม่ใช่หม่อมฉัน หม่อมฉันไม่บังอาจ” เจียงซือโหรวพูดเบาๆ แล้วขยับเข้าไปใกล้ซูกั๋วกงขณะที่ซูกั๋วกงกำลังจะพูดออกมา ฉู่อี้หานก็มองตรงไปที่เขา "ถ้าไม่ใช่เจ้า เช่นนั้นด็ต้องเป็นเขาน่ะสิ"ฉู่อี้หานเหยียดนิ้วชี้ไปที่ซูกั๋วกง ใบหน้าแก่ๆ ของซูกั๋วกงสั่นเทา ทำไมถึงกลายเป็นเขาไปได้ล่ะ?ดวงตาของมั่วอีเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ท่านอ๋องน่าเกรงขามยิ่งนัก เขาบอกท่านอ๋องเพียงบางสิ่งเกี่ยวกับตระกูลซูระหว่างทางมาที่นี่ และท่านอ๋องก็จำทุกอย่างได้แล้วเมื่อเห็นซูกั๋วกงสีหน้าไม่สู้ดี มั่วอีจึงตัดสินใจเติมเชื้อเพลิงลงในกองไฟ"ท่านอ๋อง บุตรที่ชอบด้วยกฎหมายขอจวนกั๋วกงกำลังถูกปฏิบัติเช่นนี้ที่บ้าน หากข่าวแพร่สะพัดออกไป ข้าเกรงว่าท่านอ๋องจะต้องทนรับเรื่องปวดหัวร่วมกับตระกูลซูด้วย ทำไมท่านอ๋องไม่ไปทูลให้องค์จักรพรรดิทราบเป็นการส่วนตัวเกี่ยวกับเร
“ชิงเหยียน นายน้อยกินอะไรไปบ้างเมื่อตอนกลางคืน?”ซูเนี่ยนมองชิงเหยียน“ทูลพระชายา เมื่อคืนนายน้อยกินโจ๊กเมล็ดบัวใส่ลำไยไปเยอะมาก โจ๊กนี้ปรุงเป็นพิเศษสำหรับนายน้อยตามคำสั่งของท่านป้า” ชิงเหยียนกล่าวด้วยความเคารพ“หามิได้เพคะ ฉีเอ๋อร์ชอบโจ๊กเมล็ดบัวใส่ลำไยมาก ดังนั้นหม่อมฉันจึงสั่งให้คนปรุงเป็นพิเศษ หม่อมฉันทำเพื่อฉีเอ๋อร์ ท่านก็รู้ดี” สีหน้าของเจียงซือโหรวดูตื่นตระหนกเล็กน้อยเป็นไปไม่ได้ ซูเนี่ยนไม่มีทางรู้หรอก วิธีนี้มาจากตำราแพทย์ที่นังลู่เจียวนั่นเหลือเอาไว้ ตำราแพทย์นั่นก็ถูกซ่อนไว้ตั้งนานแล้วเป็นไปไม่ได้ที่ซูเนี่ยนจะรู้ว่าเธอใช้ตำราที่ลู่เจียวหลงเหลือไว้เพื่อทำร้ายซูฉี ยิ่งไม่ต้องพูดเลยว่าตอนนี้เธอรู้สึกลำพองใจมากขนาดไหนแต่ตำราแพทย์ถูกเธอซ่อนไว้อย่างดี ใครจะรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร“ท่านป้า คงกำลังคิดว่าซ่อนตำราไว้อย่างดีแล้วสินะ” ซูเนี่ยนปล่อยมือของฉู่อี้หาน เดินไปยังเจียงซือโหรวช้าๆ และกระซิบข้างหูของเจียงซือโหรวด้วยเสียงที่ได้ยินเพียงสองคนเจียงซือโหรวตกใจมากเมื่อเธอได้ยินสิ่งนี้ ในดวงตาของซูเนี่ยนฉายแววพึงพอใจ ราวกับว่าเธอเข้าใจทุกอย่างหมดแล้วซูเนี่ยนสูดลมหายใจอย่างเย็
เจียงซือโหรวเตือนหญิงรับใช้ด้วยสายตา เมื่อหญิงรับใช้ได้ยินดังนั้น เธอก็หยุดทันทีหญิงรับใช้คนนี้เป็นลูกสาวของหมัวมัวในจวน เมื่อไม่กี่ปีก่อน หมัวมัวล้มขาหัก เป็นเรื่องยากที่เจียงซือโหรวจะไม่ไล่เธอออกไปแล้วปล่อยให้อยู่ในจวนเดิมทีเธอต้องการให้หญิงรับใช้คนนี้เป็นหญิงรับใช้ของซูฉี เพื่อจะได้ควบคุมซูฉีได้ง่ายขึ้นในอนาคต แต่เธอไม่เคยคิดเลยว่าเธอจะพลาดซูเนี่ยน! ดวงตาของเจียงซือโหรวเป็นประกายด้วยเจตนาชั่วร้าย"หมัวมัว อุดปากของผู้หญิงคนนี้ซะ" หลังจากที่เจียงซือโหรวพูดจบ จ้าวหมัวมัวก็ก้าวไปข้างหน้าทันทีและยัดผ้าเช็ดหน้าไว้ในปากหญิงรับใช้"ซูกั๋วกง ข้าว่าดูเหมือนท่านป้าจะอายุมากแล้ว เรื่องในบ้านก็เลยจัดการได้ไม่ดีนัก" ซูเนี่ยนมองซูกั๋วกงอย่างเย็นชาจากนั้นก็เดินไปที่ด้านข้างของฉู่อี้หาน ฉู่อี้หานจับมือของซูเนี่ยนทันที จากนั้นก็มองไปที่ซูกั๋วกงอย่างสบายๆ ร่างกายของ ซูกั๋วกงสั่นอีกครั้งเขาหันไปมองเจียงซือโหรว เจียงซือโหรวโดนกระตุ้นมากมายในคืนนี้และอารมณ์ไม่ดี ริ้วรอยเล็กๆ ที่เธอมักจะปกปิดไว้อย่างระมัดระวังก็ถูกเปิดเผยเช่นกัน ซูกั๋วกงรู้สึกรำคาญใจเล็กน้อยเขาเคยคิดว่าเจียงซือโหรวอ่อนโยนแล
มั่วอีเป็นคนเย็นชา แต่เขาสูงและหล่อ เฟิ่งเอ๋อร์หน้าแดงและค่อยๆ ก้มหน้าลง"ถ้างั้นฉีเอ๋อร์…" ซูเนี่ยนเหลือบมองห้อง"ข้าจะส่งคนมาเฝ้าสถานที่แห่งนี้ ท่านวางใจแล้วพาท่านอ๋องไปเถิด" ซูกั๋วกงโบกมือและกระซิบกับหญิงรับใช้เพื่อกำชับ แล้วพูดกับหญิงรับใช้ที่กำลังคุกเข่าอยู่ว่า "ยังไม่รีบไสหัวไปดูแลนายน้อยอีก หากยังไม่ดูแลให้ดีล่ะก็ ข้าจะฆ่าเจ้าเสีย""เจ้าค่ะ เจ้าค่ะ" เหล่าหญิงรับใช้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ถือน้ำ ต้มน้ำ แล้วทุกคนก็ยุ่งกัน"ถ้าเช่นนั้นข้าก็สบายใจ" ซูเนี่ยนพยักหน้าและพูดกับฉู่อี้หาน "ท่านอ๋อง พวกเราไปพักผ่อนกันเถอะ""อืม" ดวงตาของฉู่อี้หานเป็นประกาย และซูเนี่ยนกลัวว่าเขาจะพูดอะไรที่น่าตกใจ เธอจึงรีบรุนเก้าอี้ล้อพาเขาไปซูกั๋วกงก็ติดตามไปด้วย ป้าเว่ยและหญิงรับใช้ของเธอก็จากไปเช่นกัน และองครักษ์ที่สิบแปดก็ล่าถอยไปด้วย ความอึมครึมจากผู้คนมืดมนได้สลายไป และห้องก็กว้างขวางขึ้นทันทีเจียงซือโหรวทรุดตัวลงบนพื้น และซูเยียนหรันก็ช่วยประคองเธออย่างรวดเร็ว"หรันเอ๋อร์ ทำไมหลีอ๋องถึงปกป้องนังนั่นขนาดนี้ ท่านอ๋องไม่ได้ถูกเจ้าจัดการจนยอมเจ้าทุกอย่างหรอกหรือ?" เจียงซือโหรวดึงมือของซูเยียนหรันแ
ดวงตาของหงเย่เป็นประกาย เธอค้นหาทุกที่ในห้องแล้ว เธอไม่คาดคิดว่เจียงซือโหรวจะมีตู้ที่มีกลไกแบบนี้หากเธอดูไม่ผิด กลไกของตู้นี้คือกลไกของเฟิ่งเหมินเจียงซือโหรวยังมีความสามารถใช่เล่น เธอสามารถได้รับสิ่งของจากเฟิ่งเหมิน เป็นไปได้ไหมว่ามีคนหนุนหลังเธออยู่?ในห้อง เจียงซือโหรวมองดูตลับกล่องสีแดงด้วยสีหน้าหลงใหล และหัวเราะเบาๆ ออกมา ซึ่งดูเสียสติและน่ากลัวเล็กน้อยเธอเริ่มถูกล่องอย่างต่อเนื่องและจัดเรียงกล่องเป็นรูปทรงต่างๆ แต่กล่องก็ไม่เปลี่ยนเลยการแสดงออกของเจียงซือโหรวเปลี่ยนไปอีกครั้ง เธอเริ่มดูร้อนใจ เธอยกกล่องให้สูงราวกับว่าเธอต้องการทุบมันให้แตก!หงเย่ตกใจมาก เธอหยิบหินข้างๆ แล้วพุ่งเป้าไปขาของที่จ้าวหมัวมัวที่อยู่ในเรือน"โอ๊ย" จ้าวหมัวมัวจับเอวตัวเองแล้วร้องด้วยความเจ็บปวดเจียงซือโหรวรู้สึกตัวและรีบเก็บกล่องจ้าวหมัวมัวลุกขึ้นยืนแม้จะเจ็บปวด ผลักประตู และเข้าไปในห้องเธอกระซิบข้างหูของเจียงซือโหรว สีหน้าของเจียงซือโหรวเปลี่ยนไปเล็กน้อย และเธอก็เดินออกจากเรือนหลังจากนั้นไม่นาน หงเย่ก็ลงมาจากบนห้องและผลักประตูเข้าไปอย่างเงียบๆ เธอแตะโตะเครื่องแป้งตามวิธีของเจียงซือโหรวเบา
ซูเนี่ยนกรอกตาบน ครั้งแรกเลยที่ได้เห็นคนระลึกความหลังกันแบบนี้กลิ่นยาสมุนไพรลอยมา ขอบตาแดงๆ ของฉู่อี้หานค่อยๆ จางหายไป กลับมาสดใสอีกครั้ง เมื่อเห็นซูเนี่ยนมองค้อนเขาทีหนึ่ง เขาก็กลับมามีสติอีกครั้งมีพวกเราอยู่ก็มีความหวังอย่างนั้นเหรอ?ประโยคนี้ตอนนั้นดูเหมือนเสด็จแม่ของเขาก็เคยพูดไว้ เหตุใดซูเนี่ยนถึงได้พูดประโยคเดียวกัน?เพลงเซียวเซียงเยียนอวี่ที่ซูเนี่ยนเล่นใรงานชมดอกท้อ ความจริงแล้วเป็นบทเพลงที่เสด็จแม่ของเขาเคยบรรเลงร่วมกับลู่เจียว พวกเขาทั้งคู่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก วิธีการดีดพิณก็เหมือนกันในหลายจุดซูเนี่ยนไม่เพียงสามารถดีดพิณได้ วิธีการดีดยังได้รับการสืบทอดมาจากลู่เจียว ครั้งก่อนเขาได้ยินแล้วตอนอยู่อีกเรือน แถมยังส่งมั่วอีไปแอบดูมาแล้วด้วยเขาอยากฟังอีกสักครั้งจัง"ท่านอ๋อง รบกวนหลีกทางหน่อย" ซูเนี่ยนโบกมือไล่ฉู่อี้หานอย่างรำคาญแม่นมไป๋ที่อยู่ด้านหลังรีบเข็นฉู่อี้หานออกไปด้านข้างทันทีไทฮองไทเฮาเม้มปาก มองดูซูเนี่ยนที่ดึงมือของตัวเองไป ความจริงนางค่อนข้างตื่นเต้น เพราะว่านางไม่อยากกินยา และไม่อยากฝังเข็มซูเนี่ยนจับชีพจรให้ไทฮองไทเฮาอย่างละเอียด ทั้งยังตรวจดู
"หึ" แววตาของฉู่อี้หานค่อนข้างร้อนแรง ซูเนี่ยนรู้สึกตกใจจนต้องชักมือกลับไป"ข้าเห็นเจ้าเปลือยหมดแล้ว เจ้าเองก็เห็นข้าเปลือยหมดแล้วไม่ใช่เหรอ ข้ายังไม่เอาเรื่องที่เจ้ามองข้าเลยนะ" น้ำเสียงแหบพร่าดังขึ้นอีกครั้ง สายตาของฉู่อี้หานจับจ้องไปที่ใบหน้าเล็กๆ ขาวสะอาดของซูเนี่ยน"หุบปากนะ!" ซูเนี่ยนหน้าดำ นางเห็นเขาเปลือยตั้งแต่เมื่อไรกัน?"ท่านอ๋อง พระชายา ไทฮองไทเฮาตื่นแล้วเพคะ" ในขณะที่ซูเนี่ยนกำลังจะพูดอะไร แม่นมไป๋ก็เดินเข้ามาหาทั้งสองคนด้วยความดีใจ"ตื่นแล้ว? ไปดูสิ" ซูเนี่ยนพยักหน้า ดูจากเวลา ตอนนี้ไทฮองไทเฮาก็ควรจะตื่นแล้วซูเนี่ยนเดินอยู่ด้านหน้า ฉู่อี้หานเข็นเก้าอี้ล้อตามมาอยู่ด้านหลัง พวกเขาเดินอย่างรีบร้อนเข้าไปในตำหนักของไทฮองไทเฮาตอนนี้ไทฮองไทเฮากำลังนั่งเอนหลังกินข้าวต้มเปล่าด้วยการดูแลของนางกำนัลอยู่บนศรีษะของนางไม่มีเครื่องประดับผมใดๆ สีหน้าขาวซีด ใบหน้าเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่น แต่ใบหน้าเล็กมาก เห็นได้ชัดว่าในตอนสาวๆ ก็เป็นหญิงงามคนหนึ่ง"ไทฮองไทเฮา ท่านอ๋องหลีกับพระชายาหลีมาแล้วเพคะ" แม่นมไป๋พูดรายงานอย่างนอบน้อม"ไม่กินแล้ว" ไทฮองไทเฮาโบกมือให้กับนางกำนัล ข้าวต้ม
มั่วอีค้อมตัวเล็กน้อย เหตุใดใบหน้าของท่านอ๋องถึงมีรอยช้ำได้นะ?ไม่ต้องถามก็รู้ได้ว่าพระชายาคงเป็นคนต่อยแน่ หรือว่าท่านอ๋องทำเรื่องอะไรไม่ดีกับพระชายาอีกแล้วเหรอ?มั่วอีคิดอย่างใจลอย เมื่อสายตาเย็นเยียบของฉู่อี้หานมองมา มั่วอีจึงต้องเร่งมือขึ้นอีกเขาเข็นฉู่อี้หานออกจากบ่อน้ำร้อน อ๋องคังกำลังเดินเตร็ดเตร่อยู่ที่หน้าประตูเมื่อเห็นหน้าของฉู่อี้หานเขาก็ดีใจ แต่เมื่อเห็นรอยช้ำบนใบหน้าเขาก็ต้องยืนอึ้งอยู่อย่างนั้นใครกันที่ไม่กลัวตายแอบลอบทำร้ายเสด็จพี่! ใครกันที่บังอาจขนาดนี้ เขาจะต้องไปพบสักหน่อยแล้ว"ฮ่าๆๆ เสด็จพี่ มะ มุมปากท่าน" อ๋องคังอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาเบาๆ ใบหน้าเย็นชา มีแผลมาประดับไว้ ช่างดูมีสีสันเหลือเกินแค่รู้สึกตลกไปสักหน่อย"มั่วอี พาท่านอ๋องคังไปประลองดาบที่เรือนหน่อยสิ ไม่ต้องรุนแรงมากล่ะ อย่าได้รบกวนไทฮองไทเฮา ข้าอยากจะรู้ว่าหลายปีนี้ท่านอ๋องคังมีฝีมือดีขึ้นบ้างไหม" ฉู่อี้หานหรี่ตาลง มองไปที่อ๋องคังอย่างน่ากลัว เขาอยากจะยกมุมปากขึ้นเหลือเกิน แต่ก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา ฉับพลันความโกรธก็ฉายขึ้นมาในแววตายัยซูเนี่ยนนั่น ไม่ออมมือเลยสักนิด"เอ่อ ฮ่าๆๆ" เดิมทีอ๋องคังก
ท่าทางการต่อสู้ของซูเนี่ยนแปลกประหลาด หลังจากที่ฉู่อี้หานแกล้งนางไปสักพักก็ไม่กล้าที่จะดูถูกฝีมือนางอีกแล้ว ผู้หญิงคนนี้ไม่เคยทำตามกติกาเลยหลังจากที่ซูเนี่ยนทุบตีจนพอใจก็รู้สึกโล่งที่ได้ระบายความแค้น ไม่อยากที่จะมองฉู่อี้หานอีก คิดที่จะออกไปจากสระน้ำทันทีแต่นางไม่ทันสังเกตว่าผ้าม่านที่นางใช้พันร่างกายตรงหน้าอกไว้ค่อยๆ ร่วงหล่นลงจากการที่นางขยับร่างกายมากเกินไปผ้าม่านนั้นได้ล่วงลงในจังหวะเดียวกันกับที่ซูเนี่ยนหมุนตัวเดิมทีฉู่อี้หานที่คิดจะคว้าตัวนางไว้ก็ต้องนิ่งอึ้งไปกับภาพที่ได้เห็นตรงหน้าซูเนี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะ นางรีบหันไปมองฉู่อี้หานที่กำลังอึ้งอยู่อย่างตกใจในหัวสมองของฉู่อี้หานตอนนี้ถูกเจ้าลูกกลมๆ เด้งๆ สองลูกทำเอาเบลอไปหมด ในหัวสมองมีแต่สองคำนี้วนเวียนอยู่ใหญ่...มาก..."อ๊า!"ซูเนี่ยนกรี๊ดออกมาเสียงดัง รีบเอาผ้าม่านกลับมาพันไว้ทันที นางไม่อาจอดกลั้นความโกรธในใจได้อีกต่อไปเตะขาออกไปอย่างแรง จนฉู่อี้หานที่กำลังอึ้งอยู่ต้องล้มลงไปในน้ำ"ข้าจะตีท่านให้ตาย ข้าจะทำให้ท่านจมน้ำตายไปเลย! ลามก! สารเลว!"เสียงตะโกนอย่างโกรธจัดของซูเนี่ยนดังขึ้นไม่หยุด นางกำนัลสองคนที่เฝ
เมื่อซูเนี่ยนมองไปในดวงตาของเขา ก็พบว่าดวงตาของเขายิ่งเข้มขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าก็ดูไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ นางจึงล้มเลิกความคิดที่จะกลั่นแกล้งฉู่อี้หานไปนางอย่าได้ไปหาเรื่องคนโหดร้ายอย่างเขาเลย"หากข้าบอกว่าได้ล่ะ" เขากอดร่างกายของซูเนี่ยนที่พยายามดิ้นแน่นขึ้น ฉู่อี้หานพูดออกมาเบาๆ พร้อมกับมองใบหน้าขาวละเอียดของซูเนี่ยนไปด้วยความสวยของซูเนี่ยนดูไกลๆ ก็น่าประทับใจแล้ว ดูใกล้ๆ ยิ่งราวกับรูปสลักของนางฟ้าบนสวรรค์ ตอนนั้นความสวยของลู่เจียวเป็นที่พูดถึงกันในเมืองหลวงเท่าไร ซูเนี่ยนก็ยิ่งเป็นมากกว่านั้นอีกเพียงแต่เมื่อก่อนซูเนี่ยนเป็นคนอ่อนแอเอาแต่เก็บตัว คนอื่นก็เลยละเลยความสวยของนาง แต่ในตอนนี้ซูเนี่ยนเปล่งประกายความมั่นใจและสงบเยือกเย็นออกมาจากภายใน ก็ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดให้กับใบหน้าที่น่าหลงไหลนี้ เพียงแค่ไม่นานก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนริมฝีปากของซูเนี่ยนกระตุก ทำไมนางถึงรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้กำลังหยอกล้อฉู่อี้หาน แต่เป็นฉู่อี้หานที่กำลังหยอกล้อนางกันนะเมื่อมองฉู่อี้หานใกล้ๆ ก็ทำให้ซูเนี่ยนอดที่จะพิจรณาใบหน้าของคนเย็นชาอย่างเขาไม่ได้ โดยเฉพาะตอนที่เขาจ้องหน้าของนาง ราวกับว่านางเ
ใครให้ฉู่อี้หานดึงเสื้อของนางล่ะ เช่นนั้นนางก็จะทำกับเขาแบบเดียวกัน ดึงเสื้อของนาง นางก็จะให้เขารับรู้ความรู้สึกของการโดนดึงเสื้อบ้าง!ในตอนที่เสื้อถูกดึงออก นอกจากแผ่นหลังที่แข็งแรงและผิวขาวเนียนที่ซูเนี่ยนเห็นแล้ว ก็ยังมีรอยแผลเป็นริ้วๆ ตรงด้านหลังด้วยมีทั้งแผลจากมีดและดาบ รอยโดนลวก...เยอะจนนับไม่ไหว แต่แผลพวกนั้นไม่เพียงไม่ได้ทำให้ฉู่อี้หานน่าเกลียด กลับยังเพิ่มเสน่ห์แบบดิบๆ ให้เขาอีกด้วยฉู่อี้หานเพิ่งพบว่าเขาดูถูกฝีมือของซูเนี่ยนไป ใบหน้าปรากฎเป็นรอยยิ้มอันตรายแววตามีความสนุก ไม่เลว กล้าดึงเสื้อของเขา กล้าไม่เบา แต่ในเมื่อกล้าดึงเสื้อของเขา เช่นนั้นก็ต้องรับผลที่ตามมาด้วยซูเนี่ยนเก็บความได้ใจของตัวเองไป นางสัมผัสได้ถึงความอันตราย หลังจากโยนเสื้อทิ้งไปซูเนี่ยนก็เตรียมหันหลังจะหนี แต่ฉู่อี้หานก็ตามติดนางไม่ปล่อยอีกทั้งฉู่อี้หานยังไม่อยากที่จะเล่นเกมไล่จับอีกต่อไป เขารวบรวมกำลังภายในที่ฝ่ามือ กระแทกน้ำจนสาดกระเซ็นตัวของซูเนี่ยนกระเด็นลอยไปในอากาศ จากนั้นก็จะร่วงลงมาอย่างแรงหากว่าร่วงลงไปแบบนี้ นางคงไม่พ้นตายก็พิการแน่"ฉู่อี้หาน..."ซูเนี่ยนตะโกนออกมาอย่างดัง ใบหน้าเล
คลื่นน้ำนั้นพุ่งกระแทกมาทางซูเนี่ยนอย่างแรงซูเนี่ยนตกใจมาก รีบยื่นมือออกไปคว้าเสื้อเอาไว้ทันทีแต่แรงกระแทกจากคลื่นน้ำนั้นรุนแรง ทำให้ซูเนี่ยนคว้าไว้ได้เพียงแค่เสื้อชั้นในเท่านั้นหมุนตัวหลบการโจมตีจากคลื่นน้ำ ซูเนี่ยนอาศัยจังหวะระหว่างนั้นใช้เสื้อชั้นในห่อร่างกายของตัวเองไว้ แต่เนื่องจากรีบร้อนทำให้เสื้อชั้นในสามารถปกปิดไว้ได้เพียงส่วนสำคัญเท่านั้น ร่างกายส่วนอื่นยังเปิดเผยอยู่อย่างเห็นได้ชัดฉู่อี้หานหรี่ดวงตาทั้งสองข้างมองไปยังเรือนร่างเล็กที่ๆ ที่กำลังหันหลังว่ายหนีตัวเองอย่างรวดเร็วอยู่คิดหนี? ต้องดูด้วยว่าเขายินยอมหรือไม่!เดิมทีเขาก็ไม่วางใจทางด้านไทฮองไทเฮาอยู่แล้ว ดังนั้นเลยส่งสิบแปดองค์รักษ์มาคอยแอบคุ้มกันอีกที คิดไม่ถึงว่าจะมีแอบเข้ามาถึงบ่อน้ำร้อนนี้ได้ แถมยังถูกเขาจับได้พอดี เขาไม่มีทางปล่อยนางไปแน่!ฉู่อี้หานรีบคว้าเอาเสื้อที่อยู่ริมสระน้ำมาสวม จากนั้นก็ยื่นมือคว้าไปทางซูเนี่ยนซูเนี่ยนรับรู้ได้ถึงพลังรุนแรงของฝ่ามือจากด้านหลัง ก็ตกใจรีบหลบทันทีไอน้ำขุ่นมัวล้อมรอบทั้งสองคนเอาไว้ เนื่องจากควันจากไอน้ำหนาเกินไป อีกทั้งซูเนี่ยนก็หัวเหอยุ่งเหยิง ทำให้มองเห็นหน้าไม
"ทำยังไงดีพระชายายังอยู่ข้างในเลย" นางกำนัลที่เฝ้าอยู่ด้านนอกมีสีหน้ากระวนกระวายทำไมอ๋องหลีถึงมาตอนนี้ล่ะ ก่อนหน้านี้อ๋องหลีก็มาแช่น้ำร้อนของไทฮองไทเฮาเช่นกัน ไม่มีใครเคยขวาง แต่ละคนต่างก็เคยชินแล้ว ก็เลยไม่มีใครรายงานก่อนแต่ว่าวันนี้มันต่างกัน ที่ในบ่อน้ำร้อนยังมีคนอื่นอยู่ด้วย"ไม่ต้องกลัว ด้านในก็ไม่ใช่ใครอื่นสักหน่อย เป็นพระชายาอ๋องหลีนะ ท่านอ๋องกับพระชายาจะได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน ไม่ใช่เรื่องดีหรือยังไง" นางกำนัลอีกคนหนึ่งไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูดออกมาเรื่องนี้จะโทษพวกนางไม่ได้ เป็นท่านอ๋องหลีที่น่ากลัวเกินไป พวกนางเจอทีไรเป็นต้องพูดติดๆ ขัดๆ ตลอด รอตอนที่พวกนางจะพูดจริง ก็สายไปซะแล้ว อ๋องหลีเข้าไปแล้วมั่วอีที่ได้ยินบทสนทนาของนางกำนัลทั้งสองคนก็ตกใจ แต่ตอนนี้ใครก็ไม่สะดวกเข้าไปแล้ว จะขวางท่านอ๋องได้อย่างไร?อีกอย่าง เขาเองก็ไม่อยากขวาง ก็เหมือนกับที่นางกำนัลสองคนนี้พูด ให้ท่านอ๋องกับพระชายาใช้เวลาอยู่ร่วมกันก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่เหรอมั่วอีเปลี่ยนทิศทางการเดิน สีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีเลสนัย เดินออกไปทางนอกตำหนักฉู่อี้หานเข็นเก้าอี้ล้อไปทางสระน้ำ ที่ปากของหงส์ท
เยือกเย็นมาก สงบมาก ลักษณะเช่นนี้ขนาดลูกคุณหนูตระกูลใหญ่ทั่วไปยังทำไม่ได้เลยอีกทั้งการปฏิบัติตัวกับคนอื่นก็โอบอ้อมอารี มีมารยาท ใส่ใจแต่เรื่องพวกนี้ นางคิดว่าซูเนี่ยนไม่เพียงสามารถเป็นฐานะพระชายาอ๋องหลีได้ แถมยังคู่ควรกับอ๋องหลีอีกด้วยอีกอย่างดูจากท่าทางของอ๋องหลีเมื่อคืนนี้ เกรงว่าเขาก็คงมีใจให้กับซูเนี่ยนเหมือนกันสิ่งที่แม่นมไป๋คิดอยู่ในใจ ซูเนี่ยนไม่ได้รู้เลยสักนิด นางคิดเพียงอยากจะรีบอาบน้ำ ตอนนี้นางเหม็นตัวเองจะตายอยู่แล้วแม่นมไป๋เดินนำซูเนี่ยนมาจนถึงบ่อน้ำร้อนนี่คือบ่อน้ำร้อนที่จักรพรรดิเต๋อคังสร้างให้ไทฮองไทเฮาโดยเฉพาะ ภายในยังใส่สมุนไพรจีนไว้มากมาย มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากซูเนี่ยนเป็นหมอย่อมต้องดมรู้อยู่แล้วภายในบ่อน้ำร้อนมีควันพวยพุ่ง ขมุกขมัว บ่อน้ำร้อนใหญ่มาก มีปุ่มกดรูปหงส์สยายปีกสร้างไว้โดยรอบ แม่นมไป๋กดปุ่มรูปหงส์อันหนึ่ง ก็เห็นว่าน้ำในบ่อถูกเปลี่ยนอย่างรวดเร็วไม่ใช่บ่อสมุนไพรอีกต่อไป แต่กลายเป็นบ่อน้ำนมสีขาวที่มีกลีบดอกท้อลอยอยู่ด้านบนแทนอุณหภูมิน้ำที่อุ่นทำให้กลิ่นหอมจากกลีบดอกท้อลอยโชยขึ้นมาในอากาศ ซูเนี่ยนสูดหายใจเข้าไปลึกๆ รู้สึกว่าหอมมากสมแ