ตำหนักองค์ชายใหญ่หลิวเสวียนเยี่ยนที่ตอนนี้เพิ่งจะปรนนิบัติจ้าวเหวินเรียบร้อยก็ให้สาวใช้ยกน้ำ นางแต่งเป็นสนมของเขา และเขาโปรดปรานนางมากที่สุด แต่เพราะตอนที่เผยซ่างกวนขอพระราชโองการถอนหมั้นกับนาง ทำให้นางไม่อาจได้ตำแหน่งพระชายา ยิ่งจ้าวเหวินโปรดปรานนางมากเท่าใดก็ยิ่งถูกพระชายาเอกและชายารองรังแกยามที่เขาไม่อยู่ ในอ่างอาบน้ำ รอยถูกกรีดที่แผ่นหลังมีเลือดซึมออกมา จ้าวเหวินไม่รู้เขาต้องการนางและนางก็ตอบสนอง ยามนี้เขาอาบน้ำร่วมกับนางจึงได้เห็น"อาเยี่ยน ใครทำอันใดเจ้ากัน""ไม่มี ไม่มีเพคะ ฮึกๆ""พระชายาหรือ เดี๋ยวนี้นางช่างกล้ามากยิ่งนัก หึรอก่อนเถอะ ตอนนี้ข้ายังต้องอาศัยกำลังบิดานาง หากงานลุล่วงคนแรกที่ข้าจะสังหารก็คือนางสารเลว เหวินจิ่นคนนี้""องค์ชาย อย่าทรงห่วงหม่อมฉันเลยเพคะ เพื่อพระองค์ อาเยี่ยนทนได้" "เด็กดี ที่ผ่านมาลำบากเจ้าแล้ว ข้าจะให้เผยซ่างกวนชดใช้ ป่านนี้ลูกกับเมียของมันคงอยู่ที่รังโจรแล้ว กลับเมืองหลวงมาแล้วอย่างไร ลูกเมียตายไปอยากเห็นหน้ามันนัก"ทั้งสองกอดตระกองในอ่างน้ำก่อนจะเริ่มบทรัก แต่ยังไม่ทันได้สอดใส่ให้สุขสมเสียงกรี๊ดก็ดังมาจากด้านหน้าของต
มีเสียงฝีเท้าเดินมาจากด้านใน สตรีรูปร่างอ้อนแอ้นมือถือกระบี่เล่มยาวที่เปื้อนเลือด ปลายกระบี่มีเลือดหยดตามทางเดินที่เคลื่อนผ่าน ส่วนอีกคนเป็นบุรุษรูปงามมากนัก เขาเดินออกมาพร้อมกับสตรีนางนั้น เสิ่นหลิวเห็นใบหน้าชัดเจนก็เอ่ยเรียกทันที"เจ้าไม่ใช่เจ้าใหญ่ เจ้าคือ เจ้าคือ""อารองไม่เจอกันนานนะขอรับ ข้าเอง เสิ่น ชิง ชิว"เสิ่นชิงชิวเน้นชื่อตัวเองทีละคำ น้ำเสียงที่เปล่งออกมาคือเสียงของบุรุษที่เหี้ยมโหด หัวหน้ากองโจรถึงกับผงะ นี่เขาถูกหลอกหรือ ก่อนจะคว้าดาบเดินมาหาเสิ่นชิงชิว เขาเงื้อกระบี่ในมือเพื่อจะจ้วงแทง แต่กลับช้ากว่าเสิ่นชิงชิวที่วาดเท้าหมุนออกก่อนจะจับข้อมือของฝ่าหม่าจนหัก กระบี่หลุดออกจากมือทันที"เจ้าๆ เด็กๆไปเอาบุตรชายนางมา วันนี้ข้าจะฆ่าหลานชายเจ้าต่อหน้าเจ้าซะ"โม่จิ่วหัวเราะออกมาเสียงดัง จนกลุ่มโจรต้องหันไปมอง"ฮ่าๆๆๆ เจ้านี่นะอยากฆ่าข้าหรือ มีปัญญาแค่ไหนกันล่ะ เผยจ้าวหยวนคนนั้นคือใครหรือ ทำไมข้ารู้สึกว่าเป็นตัวเองนะ" น้ำเสียงยียวนเต็มที่จนฝ่าหม่ารู้สึกไม่ดี"เจ้าๆๆๆ เจ้าเป็นใครมาจากไหนกัน"ข้าคือโม่จิ่ว ส่วนที่ว่าข้ามาได้อย่างไร มิใช่เจ้าเอาข้าใส่
ปลายยามเฉินบรรยากาศในวังหลวงนั้นอึมครึมจนน่ากลัว ฮ่องเต้ยังไม่ออกว่าราชการให้คนมาแจ้งว่ายามซื่อจึงจะออกมา ขุนนางที่มารอต่างก็งงว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ปกติฝ่าบาทไม่เคยเลื่อนเวลาประชุมจ้าวเหวินที่ตอนนี้กำลังรอให้ถึงเวลาเขาจะเปิดโปงความโหดร้ายของเผยซ่างกวนต่อหน้าฝ่าบาทและขุนนางในราชสำนัก เมื่อได้ตรากองทัพมาแล้วยังจะมีใครคุมอำนาจอีก ที่เขาต้องการหลิวเสี่ยวเหยียนก็เพราะปู่ของนางมีกองกำลังถึงสามแสนนาย แม้จะเล็กกว่าของเผยซ่างกวนแล้วอย่างไรขอแค่คุมเมืองหลวงได้ยังจะมีใครกล้าเสียงดังใส่เขาอีกแต่ไอ้แก่นั่นก็ท่าเยอะจนน่ารำคาญ กลับรักใคร่แต่หลานสาวบุตรสาวอนุอย่างหลิวเย่ฉาง ตอนนี้เขารอเสิ่นหลิวส่งข่าวมา แต่กลับเงียบเชียบไร้วี่แวว"เสิ่นหลิวล่ะ ส่งสารมาหรือยัง""ทูลองค์ชายใหญ่ ยังเลยพ่ะย่ะค่ะ""เหตุใดเงียบเชียบนัก คงไม่เกิดเรื่องหรอกนะ"จ้าวเหวินรู้สึกใจคอไม่ดี เขาจะเข้าประชุมวันนี้เพื่อใส่ร้ายเผยซ่างกวน รอเพียงเวลาเท่านั้น ไม่นานองครักษ์ของเขาก็มารายงานว่าถึงเวลาประชุมแล้ว จ้าวเหวินตรงมายังท้องพระโรง ในนั้นมีขุนนางอยู่เขาเดินเข้าไปอย่างองอาจ ไม่นานฮ่องเต้ก็มาถึง ฉลองพระองค์สีทองนั่งเด่นเป็น
จ้าวเหวินเงื้อมือสุดปลายแขนเพื่อฟาดลงไปยังใบหน้าของเสิ่นชิงเวย แต่เผยซ่างกวนไวกว่าเขาจับข้อมือของจ้าวเหวินพร้อมกับออกแรงบีบจนเกิดเสียงกระดูกลั่นดังกร๊อบ"องค์ชาย ต่อหน้าพระพักตร์ทรงตบตีคน หรือว่าไม่ทรงเห็นฝ่าบาทอยู่ในสายตาหรือพ่ะย่ะค่ะ พระชายาของกระหม่อมนางตั้งครรภ์อยู่ จะทรงทำอันใด ที่ส่งคนไปหวังทำร้ายให้นางแท้งบุตร ระหว่างเราสองคนยังไม่ได้คิดบัญชีกันเลยนะพ่ะย่ะค่ะ"เผยซ่างกวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงคกคามน่ากลัว ขุนนางที่เข้าข้างองค์ชายใหญ่ตอนนี้ใจคอไม่ดีเสียแล้ว อะไรนะ ส่งคนไปลอบสังหารภรรยาคนอื่น นี่มันไม่ใช่แค่เรื่องการเมืองเสียแล้ว พวกเขาแค่ไม่ชอบจ้านอ๋องที่มีอำนาจอีกทั้งฝ่าบาทไว้วางพระทัย แต่ถึงขนาดฆ่าคนวางเพลิงพวกเขารับโทษจากความโกรธแม่ทัพใหญ่แห่งต้าหลี่ไม่ไหวแน่ๆ ก่อนจะได้ยิน ฮ่องเต้ตรัสเสียงดังทำให้ทุกคนหยุดมือ"ซ่างกวน...ปล่อยเขาซะ องค์ชายใหญ่เจ้าช่างใจกล้ามากนัก ต่อหน้าข้ายังกำเริบเพียงนี้ เป็นจ้านอ๋องที่ข่มเหงเจ้าจริงๆหรือเป็นเจ้าที่ข่มเหงผู้อื่นกันแน่ เรื่องที่เจ้าส่งคนไปนั่นจริงเท็จข้าจะสืบเอง ไสหัวไปซะ""สะ เสด็จพ่อ ลูกๆ คือว่าลูก"จ้าวเหวินเซถลาทั
เมื่อองค์ชายใหญ่ที่กำลังจะถึงตัวนาง เสิ่นชิงเวยยึดไหล่สามีก่อนจะเงื้อเท้าขึ้นสูง ใช้ส้นเท้าฟาดลงที่บ่าหนาของเขาจนจ้าวเหวินทรุดลงไป องครักษ์กรูกันเข้ามาจับตัวเขากดเอาไว้ เสิ่นชิงเวยมองหน้าคนที่วันแรกที่นางมาอยู่ที่นี่ก็จะตบนางเจอกันครั้งที่สองก็ยังจะตบนาง ไม่เลิกล้มความตั้งใจคิดทำร้ายนางกับลูกในท้อง นี่ใครกันฉันเจ้าแม่สายลับ ฉายารัตติกาลแห่งยมโลกเชียวนะ ไม่ติดว่าอยู่ต่อหน้าพระพักตร์ล่ะก็ นางจะกระทืบให้กระอักเลือดเลยเชียว"นางแพศยาเจ้ากล้าทำร้ายองค์ชายหรือ""องค์ชายหรือ เจ้าคู่ควรหรือ ฝ่าบาททรงมีพระทัยเมตตา แต่เจ้าเล่าโหดร้ายทารุณ สตรีวัยกำดัดไม่ถูกเจ้าข่มเหงก็ถูกส่งไปขาย ที่นายึดเอามาเป็นของตนเอง เลี้ยงดูโจรให้ปล้นฆ่าราษฎร อยากเป็นฮ่องเต้แต่กลับไม่ใยดีไพร่ฟ้า ข้าสงสัยจริงๆ นะองค์ชายใหญ่ ว่าเหตุใดเจ้ากลับไม่มีนิสัยคล้ายฝ่าบาทสักนิด หรือว่าในตัวเจ้าไม่มีสายพระโลหิตของฝ่าบาท ลองไปตำหนักเย็นถามมารดาเจ้าดีกว่าไหม ว่าตกลงเจ้าเป็นลูกผู้ใดกัน"ทันทีที่เสิ่นชิงเวยพูดจบขุนนางก็อื้ออึงทั้งท้องพระโรง นางกล้าสงสัยในสายพระโลหิตเชียวหรือ แม้แต่ฮ่องเต้ยังสะอึก นางช่าง เฮ้อมิน่าซ่างกวนถึงได้รักนาง ช่า
ตำหนักเย็นโจวลิ่วผิงที่ตอนนี้นั่งคุกเข่า เนื้อตัวสั่นเทา ตามร่างกายมีร่องรอยการถูกทำร้ายไม่น้อย ตอนยังเป็นที่โปรดปรานทำตัวกร่างไปทั่ว อาศัยตระกูลบิดาหาเรื่องใส่ร้ายเหล่าสนมด้วยกันไม่น้อย เมื่อมาอยู่ที่ตำหนักเย็นจึงมีเหล่าสนมที่นางเคยให้ร้าย หลายคนที่ถูกส่งมาที่นี่ก็เพราะนาง จึงลงไม้ลงมือกับนางเมื่อนางตกต่ำเมื่อฮ่องเต้เสด็จมาเองถึงที่นี่เหล่าสนมก็สงบเสงี่ยม เผื่อว่าฝ่าบาทอาจจะนึกถึงพวกนางและรับกลับไป แต่กลายเป็นว่าฝ่าบาทมาเพราะนางกาลกิณีโจวลิ่วผิง ฮ่องเต้มองคนที่คุกเข่าอยู่ก็ถอนหายใจ นางงามมากนัก ในบรรดาสนมทั้งหมดนางงามที่สุดเขาเกือบจะแต่งตั้งนางเป็นกุ้ยเฟยแล้ว หากไม่ใช่เพราะนางร้อนใจก่อการอุกอาจเสียก่อนที่ราชโองการของเขาจะประกาศ ฮ่องเต้เอ่ยกับนางด้วยพระสุรเสียงเยือกเย็นราวกับว่าตอนนี้นางยืนอยู่ท่ามกลางหิมะที่หนาวเย็น"สนมรัก...บุตรชายของข้ามาพบเจ้าบ่อยหรือไม่""ทูลฝ่าบาท เหวินเอ๋อร์มิค่อยได้มาเพคะ ที่นี่มิใช่ที่ควรอยู่ หากเขามาจะไม่เป็นมงคลได้เพคะ""อ้อ...ที่นี่ไม่ใช่ที่ให้คนอยู่ เจ้ากำลังตำหนิข้าอยู่หรือไม่เล่าสนมรัก""ฝ่าบาททรงพระเมตตา หม่อมฉันมิได้หมายความว่าเช่นนั้นเพคะ"โจวลิ่
เมื่อเรื่องราวปราบกบฏเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็เริ่มปรับตัว ในเมืองหลวงตระกูลใหญ่ๆต่างก็ระส่ำระสาย ไม่เว้นแม้แต่ตระกูลหลิว เนื่องจากผู้นำตระกูลรั้งอยู่ชายแดนเรื่องราวในเมืองหลวงจึงไกลห่างให้เขายื่นมือหลังจากองค์ชายใหญ่ถูกเนรเทศ บรรดาชายาและสนมกับขันทีและข้ารับใช้ถูกส่งไปตามอารามต่างๆและห้ามมิให้ลงเขาตลอดชีวิต วันนี้เป็นวันที่หลิวเสวียนเยี่ยนต้องเดินทางไปยังอารามไท้ส่วยเพื่อออกบวช นางร้องไห้กอดท่านย่าและมารดาของตนแน่น เป็นจังหวะเดียวกันกับที่หลิวเย่วฉางเดินทางมาเยี่ยมบิดาพอดี เพราะทางนี้ส่งข่าวไปให้มาหารถม้ามาจอดที่หน้าจวน หลิวเย่วฉางลงจากรถม้าตามลงมาด้วยเพ่ยเพ่ย ซึ่งหยางไท่ไท่ยกสาวใช้คนใหม่ให้นาง เนื่องจากซู่ซู่ตั้งครรภ์ และที่สำคัญตอนนี้ไปอยู่จวนสวีเรียบร้อยแล้วใต้เท้าสีกับสวีฮูหยินมิได้รังเกียจชาติกำเนิดของนาง พวกเขารู้ดีว่าแม้มู่เหวินซีมารดาของหลิวเย่วคลุ้มคลั่งจะเป็นเพียงเมียรอง แต่การสั่งสอนบุตรนั้นฮูหยินเอกมิอาจเทียบได้เลย สวีฮูหยินเชื่อว่าซู่ซู่ที่ได้รับการอบรมจากมู่เหวินซีจะต้องเป็นสตรีที่คู่ควรแก่สวีไหลฝูบุตรชายแน่นอนหลิวเย่วฉางลงมายืนข้างๆรถม้า เพ่ยเพ่ยที่อุ้มคุณชายน้อยก็ส่งบ
สิ่นชิงเวยเน้นทีละคำ ไม่นานหยางเช่อก็มาถึง เขาเห็นสภาพเมียถูกทำร้ายก็โกรธจัด หยางเช่อไม่ได้สนใจเสียงร้องไห้ของบุตรชายเขาตรงมาอุ้มหลิวเย่วฉางขึ้น ก่อนจะรู้สึกเหนียวที่อ้อมแขน โลหิตสีแดงเประกระโปรงที่สวมใส่"ฉางเอ๋อร์ นี่มัน คนดีของพี่เจ้าเป็นอะไรบอกพี่สิ""ท่าน ท่านพี่ ชะ ช่วย ช่วย ละ ลูก ขะ ของเรา ด้วย ข้า ข้า""ลูกของเราหรือ พระชายา ฉางเอ๋อร์นางกล่าวอันใด""ท่านอาหยาง นางตั้งครรภ์ไม่ผิดแน่ พวกเขาลงมือกับนางๆจึงไม่กล้าตอบโต้เพราะเป็นห่วงบุตรในครรภ์ แต่ใครจะรู้สกุลหลิวเลวกว่าเดรัจฉานเสียอีก ท่านพานางไปโรงหมอก่อนเถอะ คนพวกนี้เอาไว้ก่อน"หยางเช่อไม่รอช้าเขาอุ้มนางพาดีดตัวเหินไปทันที ไม่นานก็มาถึงโรงหมอ หลิวเย่วฉางนอนอ่อนแรง หมอตรวจนางพักใหญ่ก่อนจะเดินออกมา เสิ่นชิงเวยที่ตอนนี้สีหน้าไม่ดีนัก นางแพ้ท้องอีกทั้งที่นี่มีแต่กลิ่นยา นางเหม็นจนเวียนหัวเผยซ่างกวนที่ได้ข่าวเรื่องของหลิวเย่วฉางก็มาทันที ครั้งนี้สกุลหลิวคงไม่รอดแล้ว หยางเช่อเห็นสุขุมรอบคอบแต่หากโกรธขึ้นมาเขาคือมัจจุราชดีๆนี่เอง หมอเดินออกมาทั้งหมดลุกขึ้น เสิ่นชิงเวยเวียนหัวจนสวามีต้องประคองหยางเช่อรีบถามไถ่อาการทันที"ท่านหมอ ฮูหย
จวนอ๋องนอกเมืองผ่านมาห้าเดือนแล้วนับตั้งแต่วันที่ฮ่องเต้องค์ใหม่ขึ้นครองบัลลังก์ ราษฎรต่างร่มเย็นเป็นสุข ทุกวันจะมีคนสรรเสริญฮ่องเต้องค์ใหม่กับฮองเฮาไม่หยุด ที่ดินที่เสิ่นชิงเวยรับขวัญสะใภ้ใหญ่ ท่านตาของนางมาปรึกษากับแม่สามีว่าควรทำตลาดแบบใดเสิ่นชิงเวยให้เขาทำตลาดค้าส่ง และตลาดค้าปลีก อีกด้านทำถนนคนเดิน และตลาดโต้รุ่ง จากนั้นก็ให้เขาปล่อยเช่าที่ดินให้กับคนที่จะสร้างโรงเตี๊ยมหรือเหล่าอาหารเสิ่นชิงเวยกำลังวาดแบบร่างอยู่ เผยซ่างกวนเห็นร่างที่อุ้ยอ้ายกำลังทำงานก็เดินมาหาก่อนจะแย่งพู่กันจากในมือนางมาแล้วอุ้มร่างอุ้ยอ้ายไปนั่งบนที่นอนหนานุ่ม"ใกล้คลอดแล้ว อย่าเหนื่อยนักเลยวันๆ เคยหยุดพักบ้างหรือไม่""หม่อมฉันร่างสัญญาเช่าที่ดินให้กับเหลียนเอ๋อร์อยู่เพคะ จริงสิทรงให้คนไปติดต่อพ่อค้าเร่ได้ความเช่นไรบ้างเพคะ""พวกเขายินดีจะมาร่วมเป็นพันธมิตรอะไรที่เจ้าว่านั่นแหละ ว่าแต่ทำไมถึงสร้างตลาดใหญ่โตเหลือเกินเว่ยเว่ย แปดร้อยหมู่เชียวนะ""ท่านอ๋อง...หากมีตลาดก็มีพ่อค้า เมื่อมีพ่อค้าก็มีลูกค้า เมื่อมีลูกค้าคนก็มีการสร้างงาน เมื่อมีการสร้างงานก็ต้องหาคน เมื่อนั้นชาวบ้านก็มีงานทำ ชาวบ้านที่ไม่มีเงินไม่ม
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยจ้าวเผยหยวนฮ่องเต้พระองค์ใหม่และเสิ่นชิงผิงฮองเฮาพระองค์ใหม่ก็เสด็จออกมาพร้อมกัน ทั้งสองคนนั่งบนบัลลังก์มองลงมายังขุนนางที่ร่วมกันฝ่าฟันและเปลี่ยนแปลงการปกครองหลายอย่าง ฮ่องเต้กล่าวเปิดงานเลี้ยงจากนั้นทุกคนก็เริ่มดื่มกิน ได้ยินเสียงฝ่าบาทตรัสออกมา"จ้านอ๋อง ที่ผ่านมาต้องขอบใจท่านยิ่งนัก และพระชายาของท่านด้วย กฎหมายใหม่ที่ห้ามซื้อขายคนในครอบครัวเราทำสำเร็จแล้ว รวมถึงภาษีการปล่อยเช่าที่ดิน แม้จะถูกต่อต้านจากพวกคหบดีและขุนนางที่มีผลประโยชน์ไม่น้อย แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี""ล้วนเป็นเพราะพระปรีชาของพระองค์พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมกับพระชายาเพียงแค่ลองเสนอ แต่ทุกอย่างเป็นเพราะพระองค์ทรงผลักดันจนสำเร็จ""เราขอบใจขุนนางทุกคนที่อยู่ตรงนี้ที่ช่วยให้ต้าหลี่มีอำนาจและแสงยานุภาพจนอยู่เหนือแคว้นทั้งหลาย แม่ทัพเสิ่นเราขอบใจท่าน การเจรจากับแคว้นต่างๆ แม้บางคนจะต่อต้านการเจรจาครั้งนี้ อีกทั้งยังกล่าวหาว่าท่านอ่อนแอไม่กล้าสู้รบ แต่กลับกลายเป็นว่านอกจากไม่เสียเลือดเนื้อแล้วต้าหลี่ของเรายังได้ประโยชน์ไม่น้อย เรามีอาหารพวกเขามีเครื่องนุ่งห่ม มีแร่เหล็ก ไม่ต้องปล้นชิงไม่ต้องทำสงคราม แค่
ยามเหมากู้ชิงเหลียนตื่นก่อนนางจะลุกมาเตรียมน้ำล้างหน้าให้กับสามีแต่เช้า เผยจ้าวหยวนคว้าเอวบางรั้งให้นางลงมานอนข้างๆกอดนางเอาไว้ เขาพลิกกายเกยนางไว้ครึ่งตัวสบสายตาคู่งามก่อนจะจุมพิตเปลือกตา กู้ชิงเหลียนยอมให้เขาเชยชมจนพอใจ ร่างสูงทำท่าจะปลดอาภรณ์อีกครั้งแต่นางคว้ามือเขาเอาไว้"ท่านพี่..ยามเหมาแล้ววันนี้ต้องไปยกน้ำชาคารวะเสด็จพ่อกับเสด็จแม่นะเจ้าคะ จะสายไม่ได้""พี่ยังอยากรักเจ้าอีก""ให้เสร็จตามประเพณีก่อนนะเจ้าคะ ข้าไม่หนีท่านไปไหนหรอก ท่านลางานไว้เจ็ดวันมิใช่หรือคนหื่น""อยู่ใกล้เจ้าแล้วคิดอย่างอื่นไม่ออกเลย อยากรักแต่เจ้าคนดี""ลูกไม้ใต้ต้นจริงๆเชียว""หืม อะไรนะ หมายถึงพี่หรือ"กู้ชิงเหลียนหน้าแดงก่อนจะเอ่ยอ้อมแอ้มๆกับคนตัวโต"ข้าเคยได้ยินท่านพ่อเอ่ยกับท่านแม่บ่อยๆว่าจะมาหาเสด็จพ่อต้องดูฤกษ์ยามก่อน คนอะไรขยันรักเมียได้ทุกเวลาให้บ่าวไพร่ให้คนอื่นรอเป็นวันๆ บางครั้งไปแล้วไม่ได้อะไรกลับมาก็มีเพราะท่านอ๋องเอาแต่กักพระชายาไว้ในห้อง ท่านก็คงเหมือนเสด็จพ่อใช่หรือไม่เจ้าคะ""ฮ่าๆๆ คนงามสินสอดพี่ยาวกว่าเสด็จพ่อกับเสด็จอารัชทายาทอีกนะ เช่นนั้นพี่ต้องเก่งกว่าเสด็จพ่อสิ พร้อมไหมรับมือพี่ไหวหรื
วันนี้เป็นวันมงคลของเผยจ้าวหยวนกับกู้ชิงเหลียน ทั้งคู่เห็นกันมาตั้งแต่เด็กยามที่ท่านลุงหานมาหาท่านตากู้แต่งงานยียน ท่านป้าเซียวเซียวมักจะพาเด็กๆมาเล่นด้วยกัน ฉินเซียวเซียวแต่งงานกับกู้หานมีบุตรด้วยกันสี่คน กู้ชิงเหลียนเป็นบุตรสาวคนโต ยามนี้อายุสิบหกปีแล้วภายในห้องแต่งตัว เจ้าสาวสวมชุดเจ้าสาวสีเขียวแดงตามธรรมเนียม ข้างๆมีพัดที่ประดับสายไข่มุกห้อยเอาไว้ กู้ชิงเหลียนนั่งให้บรรดาแม่เฒ่าที่ครองรักยาวนานช่วยหวีผมให้ ฉินเซียวเซียวรอให้บุตรสาวแต่งตัวเรียบร้อยก็ให้ทุกคนออกไปรอข้างนอกก่อน"แม่เฒ่า หมัวมัวพวกท่านออกไปก่อนเถอะ ข้ามีเรื่องจะสั่งบุตรสาวเป็นการส่วนตัวสักหน่อย""เจ้าค่ะฮูหยิน"เหล่าสตรีอาวุโสพากันออกไปจากห้องเนื่องจากทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว เมื่อทุกคนออกไปเถาจื่อก็ปิดประตูแล้วยินเฝ้าอยู่ด้านนอก เพราะว่าฉูหยินมีเรื่องจะบอกกล่าวแก่คุณหนูใหญ่ กู้ชิงเหลียนมองหน้ามารดาอย่างมีคำถามก่อนจะเอ่ยออกไป"ท่านแม่...มีเรื่องอันใดหรือเจ้าคะ เหตุใดดูท่านมีลับลมคมในนัก""เหลียนเอ๋อร์..แม่มีเรื่องอยากกำชับเจ้า รับปากแม่ได้หรือไม่""ท่านแม่บอกมาเถอะเจ้าค่ะ ลูกยินดีทำตามที่ท่านแ
รุ่งเช้าเสิ่นชิงเวยตื่นตั้งแต่ยามเหมาเพื่อมาเตรียมตัว วันนี้จวนอ๋องต้องไปส่งมอบสินสอดให้กับสกุลกู้ เผยจ้าวหยวนเตรียมตัวตั้งแต่เมื่อคืน ปีหน้านางกับเขาก็จะแต่งงานกันแล้ว เสด็จแม่บอกว่ารอให้นางโตอีกสักปีเขาจึงรอมาจนถึงป่านนี้ด้านนอกหับสีแดงและกล่องเครื่องประดับวางเรียงราย วันนี้เป็นวันดีเผยจ้าวหยวนไปส่งสินสอด ยามบ่ายสกุลหยางเองก็จะมาเจรจาเรื่องหมั้นหมายระหว่างหยางเยี่ยเฟยกับเผยชิงเหลียนอย่างเป็นทางการเมื่อแสงทองจับขอบฟ้าเผยซ่างกวนก็ตื่นนอน ก่อนจะงัวเงียเดินมากอดภรรยาที่กำลังนั่งอ่านรายการสินสอดอยู่ นางมีบุตรให้เขาแล้วห้าคนเขาเคยโกรธเกลียดนางในครั้งแรกที่ถูกวางยา แต่เมื่อได้รับรู้ว่านางเองก็เป็นเพียงคนที่โชคร้ายที่บังเอิญผ่านเข้ามาในคืนนั้นเขาก็ตามหานางมาตลอด เผยซ่างกวนกอดนางก่อนจะฝังจมูกโด่งลงบนแก้มขาวนวล"ทำอะไรอยู่คนดี""ตรวจดูสินสอดของหยวนเอ๋อร์เพคะ หม่อมฉันเกรงว่าจะไม่ครบ ลูกชายเราแต่งงานทั้งที อีกอย่างเขาเคยประกาศหน้าพระพักตร์ฝ่าบาทเมื่อตอนที่ได้ห้าขวบว่าจะส่งสินสอดให้ชิงเหลียนยาวยี่สิบลี้ ให้ยาวกว่าของพวกเรากับของพระชายาไท่จื่อเสียอีกเพคะ คิกๆๆ"เสิ่นชิงเวย
ยามเหมาเผยชิงหลานตื่นมาเพื่อดูอาการของหยางเยี่ยเฟยอีกครั้ง นางใช้หลังมือแตะหน้าผากของเขา ท่านหมอบอกว่าเขาอาจมีไข้กลางคืน เมื่อคืนเขาตื่นมาดื่มน้ำและยาลดไข้จากนั้นก็หลับจนกระทั่งถึงตอนนี้"พี่เยี่ยเฟย..พี่ได้ยินหรือไม่ข้าจะไปเตรียมตัวปัดกวาดสุสานท่านย่า ยามอู่จะเซ่นไหว้ข้าจะไปบอกหูเปียวให้มาดูแลท่านนะเจ้าคะ"หยางเยี่ยเฟยตื่นนานแล้วแต่เขายังไม่ลืมตา เมื่อได้ยินดรุณีน้อยตรงหน้าเอ่ยกับเขา หยางเยี่ยเฟยจึงค่อยลืมตาขึ้นราวกับคนที่เพิ่งตื่นนอนก่อนจะเอ่ยกับนางน้ำเสียงัวเงียเล็กน้อย"หลานเอ๋อร์ เจ้าตื่นเช้ายิ่งนัก เมื่อคืนนี้ลำบากเจ้าแล้ว""มิลำบากเลยเจ้าค่ะ หากไม่ได้ท่านข้างต้องฝังอยู่ที่นี่เสียแล้ว อีกอย่างข้าต้องไปปัดกวาดสุสาน วันนี้จะไหว้ท่านย่าน่ะเจ้าค่ะ""ให้พี่ไปช่วยดีหรือไม่ แค่กๆ""พี่พักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ มีท่านย่ารองกับท่านปู่อยู่ บ่าวไพร่มากมายนักอีกอย่างท่านบาดเจ็บเพราะช่วยเหลือข้าๆจะให้ท่านไปลำบากอีกได้อย่างไร"หยางเยี่ยเฟยมองหน้านางก่อนจะยิ้ม นางงามมากนักงามเหมือนท่านน้าเว่ยเว่ยจริงๆ เขาไม่เป็นอะไรแล้ว เดิมทีเขามีวรยุทธพิษงูนั่นก็ถูกเขาสกัดเอาไว้ก่อนท่านหมอจ
รุ่งเช้าเสิ่นชิงเวยเตรียมข้าวของเรียบร้อยแล้ว เผยปินกับหยุนหลานเองก็ตื่นมาเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว วันนี้นอกจากเผยปินยังมีเผยจ้าวหยวน เผยชิงหลาน เผยชิงอี้ที่จะไปเซ่นไหว้สุสานของท่านย่าเผยซ่างกวนแจ้งว่าเขาจะถึงเมืองหลวงแล้ว แต่เขาจะแวะไปอารามก่อนเพื่อเซ่นไหว้มารดา เสิ่นชิงเวยจัดเตรียมรถม้าสามคัน แฝดคู่เล็กไม่ได้ไปด้วยเนื่องจากจวนต้องมีคนดูแล ส่วนจ้าวเหลียนซินที่มาหานางแต่เช้าแล้วเพราะได้ยินว่าสามีนางกับจ้านอ๋องกำลังจะถึงเมืองหลวงแล้วข้าวของที่นำไปเพื่อเซ่นไหว้เตรียมเรียบร้อยแล้ว รถม้าจากจวนอ๋องทั้งห้าคันเคลื่อนออกจากจวนปลายยามเซิน กว่าจะถึงอารามก็พลบค่ำพอดี รุ่งขึ้นถึงจะไปปัดกวาดเตรียมเซ่นไหว้ วันนี้หลิวเย่วมาหานางรวมถึงซู่ซู่ อีกไม่นานฝ่าบามจะสละราชบัลลังให้รัชทายาทจ้าวเผยหยวนขึ้นครองราชย์ เสิ่นชิงผิงกำลังจะได้เป็นฮองเฮา นางมีพระโอรสสองพระองค์ พระธิดาหนึ่งองค์ และตอนนี้กำลังตั้งครรภ์คนที่สี่สาวใช้นำขนมกับน้ำชามาที่ศาลารับลม หลิวเย่วฉางจิบชาดอกบัวที่เสิ่นชิงเวยเป็นคนคั่วเองอย่างละเมียดละไม ก่อนจะเอ่ยถึงเรื่องบุตรชายคนโต"พระชายา เยี่ยนเฟยปีนี้สิบหกแล้วยังไ
เวลาล่วงเลยไปเก้าปียามนี้เสิ่นชิงเวยมีบุตรกับเผยซ่างกวนห้าคน ส่วนคนโตอย่างเผยจ้าวหยวนที่ยามนี้อายุสิบแปดปีแล้ว เขาได้หมั้นหมายกับกู้ชิงเหลียนอบย่างที่ตั้งใจเอาไว้และกำลังจะไปส่งสินสอดในอีกสามวันข้างหน้าเสิ่นชิงเวยกำลังทำขนมเพื่อให้พ่อสามีกับหยุนหลานไปเคารพสุสานของแม่สามี เผยซ่างกวนเดินทางไปชายแดนตะวันออกกับเสิ่นชิงชิวเพื่อเจรจาเรื่องเกลือสมุทร กว่าจะกลับคงไม่ทันเผยปินและหยุนหลานจึงไปก่อนด้านนอกเสียงจ้อกแจ้กจอแจดังมา คู่แฝดไม่เหมือนพี่ชายเช่นเผยจ้าวหยวนสักนิด ทั้งซุกซนและเจ้าเล่ห์มากนัก เผยซ่างกวนรู้สึกถึงนิสัยภรรยาของเขาทีเดียว"ชิงอี้...เสด็จแม่ไม่อยู่กำลังทำขนมพวกเราไปนอกจวนกันไหม"เผยชิงหลานท่านหญิงใหญ่เอ่ยชวนน้องชายเผยชิงอี้ ตอนนี้ทั้งคู่อายุสิบสองปีแล้ว ซุกซนยิ่งนักถึงเวลาเรียนก็ไม่เรียนหนังสือ เผยชิงอี้ที่กลัวมารดาก็ส่ายหน้าก่อนจะเอ่ยกับพี่สาว"พี่หญิง เสด็จแม่จับได้ก็จะถูกคัดกฎบรรพชนอีกหรอก ท่านไม่กลัวหรือ""เพ้ยๆๆ เจ้าพูดอะไรนั่น อัปมงคลจริงๆเลย ใครจะอยากไปเขียนหนังสือกัน ยึกยือๆน่าเบื่อจะตาย ข้าจะไปล่าไก่ฟ้าเจ้าไม่ไปก็ตามใจ"เผยชิงอี้จำต้องตามพี่สาวไ
เสิ่นชิงชิวกลับมาก็เตรียมงานแต่งงานทันที วันนี้เป็นวันแต่งงานของเขา พี่สาวตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัวให้น้องชายไปรับเจ้าสาว ขบวนรับเจ้าสาวใหญ่โตยิ่งนัก เสิ่นชิงชิวในชุดแต่งงานสีแดงปักลวดลายด้วยไหมสีทองที่รีดจากทองแม้จนเป็นเส้นเล็กๆขบวนรับเจ้าสาวนั้นมีหาบขนมและลูกกวาดรวมทั้งเงินตำลึงมากมายยิ่งนัก อาชาสีขาวบริสุทธิ์ตัดกับชุดเจ้าบ่าวที่เขาสวมใส่ทำให้ดูมีราศีราวกับเทพเซียน เสิ่นชิงเวยส่งน้องชายออกจากจวน นางมานอนที่ในเมืองเพื่อจะได้จัดงานได้ราบรื่น เผยจ้าวหยวนเองก็ตื่นแต่เช้า เขาเห็นน้าชายในชุดเจ้าบ่าวงามสง่าก็นึกถึงตอนที่เสด็จแม่กับเสด็จพ่อแต่งงานกัน เสด็จพ่อทรงรูปงามมากนัก กระทั่งเสิ่นชิงเวยเดินเข้ามาหาเขาจึงได้รู้ตัว"หยวนหยวน..ท่านน้าหล่อเหลาหรือไม่""หล่อเหลารูปงามมากนักขอรับท่านแม่ หากลูกโตขึ้นลูกจะจัดงานแต่งงานกับชิงเหลียนให้ยิ่งใหญ่แบบเสด็จพ่อกับเสด็จอารัชทายาทขอรับ""ดูเจ้าสิ อายุเท่าไหร่กันเอ่ยปากคำก็ชิงเหลียน สองคำก็ชิงเหลียน"เผยจ้าวหยวนยิ้มให้มารดา จากนั้นก็เห็นว่าขบวนรับเจ้าสาวไปไกลแล้ว มารดาเตรียมเรื่องพิธีการ แม่นมที่เสิ่นชิงผิงส่งมาช่วยงานทำให้เสิ่นช