“ข้าเพียงแต่ให้สาวใช้รั้งนางไว้ก่อน แล้วรีบมาดูท่านในเรือนองค์หญิงบัดนี้คิดว่านางไม่พบองค์หญิงคงจะออกตามหาเช่นกันขอรับ”“ส่งคนไปอารักขานางด้วย สตรีออกมานอกจวนมืดค่ำไม่ปลอดภัย”“ขอรับ”องครักษ์ฝานพุ่งตัวหายไปทันที หยางเอ้อหลางยังยืนอยู่ตรงนั้น หลังจากที่เขาหลับไปได้ไม่นานเป็นองครักษ์ฝานที่นำยาแก้พิษผงยานอนหลับมาให้ อาการแปลกๆของภรรยาที่เกิดขึ้นวันนี้อยู่ในสายตาของหยางเอ้อหลางมาตลอดเพียงแต่เขาคิดไม่ตกถึงเหตุผลที่นางวางยานอนหลับเขาแล้วหายไปเช่นนี้ พลันหยางเอ้อหลางได้ยินเสียงกระพรวน เขาจึงติดตามออกมาด้วยนึกสงสัยตามหาอยู่นานจวบจนกระทั่งบังเอิญพบฉางอ๋องกับเจ้าแมวน้อยเข้าเรื่องราวยิ่งแปลกมากขึ้นไปอีกเมื่อแมวน้อยตนนั้นกลับมีกระพรวนที่ขาเช่นกันในขณะที่องค์หญิงสิบสามหายตัวไป ฉางอ๋องแอบหนีออกมาจากชายแดน เรื่องพวกนี้ยังเป็นปริศนาสำหรับเขานัก เพราะเช่นนี้ความมั่นใจว่าองค์หญิงสิบสามสามารถแปลงกายได้จึงเกิดขึ้นฉางอ๋องนำองค์หญิงสิบสามกลับมาที่จวนของตนเองอย่างเงียบเชียบ ปล่อยให้นางวิ่งเล่นอยู่ในห้องที่เขาจัดเตรียมไว้ให้นางจวบจนใกล้รุ่งสางได้เวลาที่นางคืนร่างองค์หญิงสิบสามจัดแจงอาภรณ์เสร็จนางจึงเปิ
อ๋องฉางอันไม่โต้เถียงกับน้องสาวแล้ว เหตุผลของนางมีเป็นร้อยแปดเขารู้นิสัยนางดี หากนางไม่ยินยอมต่อให้เขายื่นเงินทองเป็นภูเขาให้นางตรงหน้านางก็จะไม่หยิบสักอีแปะเดียว เพียงมีนางอยู่ในอ้อมกอดเพียงได้ปกป้องนางเช่นนี้ และมีเพียงเขาที่ช่วยนางได้เขาก็พึงใจแล้ว"ครานี้เจ้านิมิตเห็นสิ่งใด" "ไม่เห็นสิ่งใดเป็นสาระ ในนิมิตมีบุรุษแปลกหน้าสองคนข้ามองเห็นหน้าเขาไม่ชัดนักอยู่ในตำหนักในวังหลวง พวกเขามีจอกหยกอันหนึ่งเพียงเห็นก็รู้ว่าล้ำค่าเพียงใด เห็นเพียงเท่านั้นก็วิ่งไล่หนูออกมา น่าเสียดายที่ข้าจับมันไม่ได้เสียทีจนมาพบท่านเข้า"นางเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันหากคราหน้านางมีโอกาสได้กลายเป็นแมวอีกเจ้าหนูตนนั้นอย่าได้คิดหนีรอด องค์หญิงสิบสามเจ็บใจนัก"บุรุษสองคนกับจอกหยกหรือ" ผู้เป็นพี่ชายถามขึ้น"ใช่ ดูจากอาภรณ์แล้วน่าจะเป็นคนต่างแคว้น" "เจ้าจำอาภรณ์เขาได้หรือไม่""แม่นยำเลยแหละ เพียงแต่สงสัยว่าเหตุใดคนต่างแคว้นจึงเข้ามาอยู่ในวังหลวงนิมิตของข้าครานี้ดูจะเหลวไหลเกินไปแล้ว""เจ้าเพิ่งแต่งงานเข้าวังไปตำหนักเทพไม่ได้เดี๋ยวจะมีคนสงสัยเอา ข้าจะส่งคนไปเชิญท่านหัวหน้าเทพธิดามาเยี่ยมเจ้าเล่าให้นางฟังอย่างละเอียดมีอะไรก็
กล่าวจบนางก็กลับไปนอนที่เตียงตนเอง ดึงผ้าห่มมาคลุมร่างตั้งใจนอนต่ออย่างสบาย หยางเอ้อหลางลุกขึ้นอีกทั้งยังเดินตรงไปที่เตียงเตาของนาง เขาเลิกผ้าห่มขึ้นสอดกอดเข้าไปภายในดึงร่างของนางเข้ามากอดอย่างว่องไว“เอ๊ะ ท่าน”องค์หญิงสิบสามตีมือเขาที่กำลังวุ่นวายกับร่างของตน ด้านข้างหูได้ยินเสียงนุ่มทุ้มเอ่ยขึ้นพลันชะงักงัน"เหตุใดร่างของภรรยาข้าจึงเย็นเช่นนี้เล่า แอบไปซุกซนที่ไหนมาโดยไม่บอกกล่าวสามีใช่หรือไม่"ภายใต้แสงอ่อนจางองค์หญิงสิบสามเห็นมุมปากของหยางเอ้อหลางขยับเล็กน้อย นางถอนหายใจเบาๆ คิดหาคำแก้ตัวให้ตนเองไปมา ฉับพลันสมองอันชาญฉลาดของนางก็คิดได้"ร่างกายจะไม่เย็นได้อย่างไรข้าเมานอนหลับกับท่านเมื่อคืนไม่ได้ห่มผ้า อากาศก็เย็นนักตัวข้าไม่ค่อยถูกกับอากาศหนาวร่างกายจึงเย็นง่าย""หากเป็นเช่นนี้เห็นทีว่าต้องรีบทำให้ร่างกายของภรรยาอบอุ่นแล้ว"เขากล่าวออกมารั้งร่างของนางให้แนบชิดมากยิ่งขึ้นจวบจนองค์หญิงสิบสามรู้สึกอึดอัดจนหายใจไม่ออก นางวางกับดักตนเองแท้ๆ "ข้าอุ่นมากแล้วท่านไม่ต้องกอดแน่นเช่นนี้ อึดอัดนัก" ลมหายใจของนางติดขัดนัก ร่างกายอบอุ่นของเขา กลิ่นหอมจางๆ โอ๊ย ทำให้นางกำลังจะเป็นบ้าเพราะไม่
คนที่อดทนไม่ได้ที่สุดแล้วคืออาชิง นางยืนคอยืดคอยาวอยู่ด้านหน้าเรือนพลางกัดเล็บจิกนิ้วองครักษ์ฝานเดินมาหยุดอยู่ด้านข้างเขาเพียงเห็นองค์หญิงสิบสามกลับเข้าจวนได้ไม่ถึงครึ่งก้านธูปก็มีเสียงดังโครมครามภายในห้องเสียแล้ว เขามั่นใจว่าท่านแม่ทัพไม่มีทางลงมือกับสตรีแต่องค์หญิงสิบสามผู้นั้นคงไม่โลเลที่จะลงมือกับท่านแม่ทัพ "เจ้าจะทำสิ่งใด" เขาคว้าตัวอาชิงไว้ทันใดเมื่อหญิงสาวทำท่าจะเดินตรงเข้าไปภายในเรือน"ข้าเป็นห่วงองค์หญิงเสียงดังเช่นนี้เห็นชัดว่าต่อสู้กันองค์หญิงหาใช่คู่ต่อสู้ของท่านแม่ทัพ""องค์หญิงเจ้าไม่ต้องห่วง คนที่ควรห่วงคือแม่ทัพของข้า""เหตุใดกล่าวเช่นนี้"อาชิงหันมามององครักษ์ฝานดวงตากลมโตของนางเบิกกว้างดูน่าเอ็นดู ปากเล็กๆของนางขบเม้มเข้าด้วยกันสีแดงระเรื่อคล้ายมีสีกุหลาบเคลือบอยู่ อาชิงผู้นี้ความจริงมีใบหน้าที่งดงามยิ่ง องครักษ์ฝานมองพลางยิ้มจวบจนถูกนางตีเข้าที่ต้นแขนเขาจึงได้สติ"เพราะปกติท่านแม่ทัพไม่ชอบเสียงดังการที่ปล่อยให้องค์หญิงทำเสียงดังเช่นนั้นได้แปลว่าท่านแม่ทัพแพ้แล้ว""ที่เจ้าพูดมา ข้าไม่เข้าใจท่านแม่ทัพจะแพ้ได้อย่างไร ข้าก็จะเข้าไปช่วยองค์หญิง"องครักษ์ฝานดึงมือของน
คนที่อดทนไม่ได้ที่สุดแล้วคืออาชิง นางยืนคอยืดคอยาวอยู่ด้านหน้าเรือนพลางกัดเล็บจิกนิ้วองครักษ์ฝานเดินมาหยุดอยู่ด้านข้างเขาเพียงเห็นองค์หญิงสิบสามกลับเข้าจวนได้ไม่ถึงครึ่งก้านธูปก็มีเสียงดังโครมครามภายในห้องเสียแล้ว เขามั่นใจว่าท่านแม่ทัพไม่มีทางลงมือกับสตรีแต่องค์หญิงสิบสามผู้นั้นคงไม่โลเลที่จะลงมือกับท่านแม่ทัพ "เจ้าจะทำสิ่งใด" เขาคว้าตัวอาชิงไว้ทันใดเมื่อหญิงสาวทำท่าจะเดินตรงเข้าไปภายในเรือน"ข้าเป็นห่วงองค์หญิงเสียงดังเช่นนี้เห็นชัดว่าต่อสู้กันองค์หญิงหาใช่คู่ต่อสู้ของท่านแม่ทัพ""องค์หญิงเจ้าไม่ต้องห่วง คนที่ควรห่วงคือแม่ทัพของข้า""เหตุใดกล่าวเช่นนี้"อาชิงหันมามององครักษ์ฝานดวงตากลมโตของนางเบิกกว้างดูน่าเอ็นดู ปากเล็กๆของนางขบเม้มเข้าด้วยกันสีแดงระเรื่อคล้ายมีสีกุหลาบเคลือบอยู่ อาชิงผู้นี้ความจริงมีใบหน้าที่งดงามยิ่ง องครักษ์ฝานมองพลางยิ้มจวบจนถูกนางตีเข้าที่ต้นแขนเขาจึงได้สติ"เพราะปกติท่านแม่ทัพไม่ชอบเสียงดังการที่ปล่อยให้องค์หญิงทำเสียงดังเช่นนั้นได้แปลว่าท่านแม่ทัพแพ้แล้ว""ที่เจ้าพูดมา ข้าไม่เข้าใจท่านแม่ทัพจะแพ้ได้อย่างไร ข้าก็จะเข้าไปช่วยองค์หญิง"องครักษ์ฝานดึงมือของน
ด้วยเหตุนี้องค์หญิงสิบสามจึงได้สติขึ้นมาหยุดมือทันใด ครั้นเห็นสภาพความเป็นจริงในเรือนนอน ข้าวของราคาแพงที่ท่านย่ามอบให้นางเสียหายหลายชิ้นคนหวงสมบัติเช่นนางพลันตกใจจนอดไม่ได้ที่ต้องหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเสียดาย"ท่านย่าดีกับข้าแต่ข้ากลับเป็นหลานสะใภ้เนรคุณ ทำเช่นไรดี""ข้าดูแล้วแจกันแตกไม่ละเอียดคงนำไปซ่อมแซมได้ข้ารู้จักช่างฝีมืออยู่หลายคน พวกเขาซ่อมแจกันเหล่านี้ได้โดยไม่เหลือร่องรอยท่านอย่าได้เสียใจไปเลย" ในที่สุดคนที่ปลอบโยนนางย่อม"จริงหรือ เขาซ่อมได้จริงหรือมันแตกเช่นนี้จะซ่อมได้อย่างไร" ดวงตากลมโตของนางมีความหวังขึ้นมา นางกำชายเสื้อของเขาแน่นไม่คิดจะตีเขาแล้ว“ท่านเชื่อข้า ข้าไม่ปดท่าน”องค์หญิงสิบสามปาดน้ำตาแล้วเอ่ยขึ้น“เช่นนั้นก็ดียิ่ง ท่านแม่ทัพรีบเอาไปซ่อมวันนี้เลยได้หรือไม่”“ย่อมได้”“ขอบคุณท่าน ข้าไม่ตีท่านแล้ว” “แต่การช่วยท่านครานี้ ต้องมีค่าตอบแทนเป็นท่านที่ก่อเรื่องตีข้าก่อนดังนั้นท่านติดค้างข้าเรื่องหนึ่ง”“ติดค้างหรือ”“ใช่ หากจะให้ข้าซ่อมท่านต้องทำให้ข้าพอใจสักเรื่องหนึ่ง กล่าวจบเขาพลันยกนิ้วจับที่แก้มตนเอง องค์หญิงสิบสามเข้าใจว่าเขาต้องการให้นางจุมพิตที่แก้มเขา นา
เขากำลังถูกท่าทางยั่วยวนของนางทำให้หลงใหลแล้ว สติที่เคยมีบัดนี้พร่าเลือนนักท่านแม่ทัพรู้สึกว่าตนเองนั้นพลาดบางสิ่งเขาขอภรรยาน้อยไปหรือไม่เป็นเพราะไม่คิดว่านางจะตกปากรับคำได้โดยง่ายจึงยังไม่อยากละโมบตอนนี้เห็นท่าทางที่นางมองเขาด้วยดวงตาเป็นประกายหลงใหลแล้วจึงคิดจะเอ่ยปากขอเพิ่ม แต่วาจาที่หลุดออกมาจากปากของนางทำให้เขาถึงกลับต้องหัวเราะออกมาอย่างไม่อาจกลั้นได้"ท่านยามนี้งามนักหากข้าวาดภาพท่านแล้วนำไปขายคงได้ราคาดีมากทีเดียว""นายน้อยหัวหน้าธิดาเทพมาขอพบฮูหยินน้อยขอรับ"พ่อบ้านเข้ามาแจ้งในขณะที่หยางเอ้อหลางยอมนั่งเป็นแบบวาดภาพให้ภรรยาของตนเองหลังจากโดนนางขอร้องอยู่นานหยางเอ้อหลางวางหนังสือในมือลงก่อนจะมองภรรยาเป็นเชิงถามว่าตัวเขาสามารถขยับได้หรือไม่จวบจนนางส่งยิ้มงดงามพลางพยักหน้ามาเขาจึงถอนหายใจเบาๆ กระแอมให้โล่งคอแล้วเอ่ยขึ้น"แจ้งแก่หัวหน้าธิดาเทพข้าและฮูหยินจะออกไปพบอีกสักครู่""ภาพของท่านยังไม่เสร็จดีพรุ่งนี้หากท่านไม่มีธุระท่านมาเป็นแบบให้ข้าอีกครั้งได้หรือไม่""ข้าปฏิเสธได้หรือ"นางส่ายหน้าแล้วตอบว่า"ไม่ได้ท่านรับปากข้าแล้วว่าจะเป็นแบบให้ข้าวาดจนเสร็จ เป็นถึงแม่ทัพใหญ่พูดแล้วห
พ่อบ้านที่เข้ามารายงานคล้ายนึกสิ่งใดได้ จึงเอ่ยขึ้น"นายน้อยขอรับ ช่างที่ท่านให้เข้ามาปรับปรุงห้องตำรามาถึงแล้วจะพบเขาเลยหรือไม่"คำว่าห้องตำราทำให้นางหูผึ่งทันใด หันไปมองหน้าหยางเอ้อหลางเห็นเขาอึกอักอยู่บ้างจึงเอ่ยถามพ่อบ้านชรา"ท่านพ่อบ้านปรับปรุงห้องตำราใหม่หรือ”"ขอรับฮูหยินน้อย นายน้อยสั่งให้ขยายห้องหนังสืออีกทั้งจัดเตรียมหนังสือนิทานจำนวนมากเอาไว้แล้ว บัดนี้หนังสือมาส่งแล้วอยู่ในหีบท่านอยากดูหรือไม่ข้าน้อยสั่งหนังสือนิทานแนวที่คิดว่าท่านต้องชื่นชอบมาเยอะเลยขอรับ" หยางเอ้อหลางทำหน้านิ่งคิดว่า พ่อบ้านของเขาดูพูดมากไปแล้วใบหน้าของเขาแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงเมื่อถูกภรรยาจ้องหน้าด้วยความสงสัย"ท่านคงไม่ทำเพื่อ...ข้าใช่หรือไม่ หนังสือนิทานพวกนั้น"องค์หญิงสิบสามแย้มยิ้มพลางใช้นิ้วจิ้มหน้าอกเขาเบาๆ ดวงตาเป็นประกายแวววาวด้วยความตื่นเต้นยินดี"ข้าอยากอ่านนิทานจะเป็นอะไรไป บุรุษควรมีความรู้กว้างขวางอ่านหนังสือหลากหลายแนวช่วยเพิ่มความรู้" เขารีบปฏิเสธทันใด"อ้อที่แท้เป็นเช่นนี้ ไม่คิดว่าท่านจะมีความคิดที่ดีเช่นข้า การอ่านนิทานช่วยเพิ่มความรู้ได้มาก”องค์หญิงสิบสามโล่งใจเป็นอย่างยิ่ง นางไม่ต้อง
ส่วนองค์หญิงใหญ่นั้นแทบจะไม่เคยถามถึงเด็กเลยทั้งนี้คงเป็นเพราะเด็กคนนั้นคือตราบาปของนาง องค์หญิงใหญ่จึงรังเกียจเด็กยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือในหัวคิดเพียงแต่เรื่องสังหารเด็กนั่นให้ตายไปเสียให้พ้น องค์หญิงสิบสามถอนหายใจคิดแล้วก็รู้สึกหดหู่ยิ่งหลังออกจากตำหนักองค์หญิงใหญ่ สามีจึงพานางเข้าร่วมงานเลี้ยง ท่านย่าของหยางเอ้อหลางพาท่านชายทั้งสองเข้าร่วมงานด้วย ทุกคนห้อมล้อมเอาอกเอาใจอีกทั้งเด็กทั้งสองยังเป็นหลานรักของฝ่าบาทและขององค์รัชทายาทยิ่ง ไม่ว่าใครต่างก็แสดงความชื่นชมออกมา ก้อนแป้งน้อยของนางทั้งสองยังเด็กแต่รู้ความนัก เมื่อเห็นมารดาเพียงแต่โผหานางเบาๆ ไม่ได้งอแงเหมือนเด็กทั่วไป ภรรยาของขุนนางใหญ่หลายคนต่างหมายตาพวกเขาเอาไว้ พยายามทาบทามตั้งแต่ยังเด็ก องค์หญิงสิบสามเอ่ยปากปฏิเสธเพราะคิดว่าบุตรยังเล็กนัก การกระทำของนางไม่ไว้หน้าผู้ใดกระนั้นก็ไม่มีใครกล้าตำหนิ กลางดึกคืนนั้นหยางเอ้อหลางนอนกอดภรรยาที่ร่างกายเปล่าเปลือยเอาไว้ในอ้อมกอด คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาระหว่างพวกเขาแล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้ องค์หญิงสิบสามหลับแล้วเขากลับยังคงต้องการ เช่นนั้นจึงจับขานางแยกออกแล้วดันกายเข้าไประหว่างขา องค์หญ
องค์รัชทายาทครั้นเห็นว่าพี่หญิงของเขาและพี่เขยมาถึงแล้ว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวก็สดใสขึ้น องค์หญิงสิบสามยิ้มให้กำลังใจ องค์รัชทายาทที่มีชันษาแปดขวบอีกทั้งรู้ความเป็นอันมากด้วยถูกฮูหยินชราและสตรีสกุลหยางอบรมมาด้วยตนเองจึงเข้าพิธีสถาปนาอย่างกล้าหาญ องค์หญิงสิบสามเห็นน้องชายกำลังเติบโตเช่นนั้นก็ตื้นตันใจนัก นางเกือบหยุดน้ำตาไม่ได้อยู่หลายคราคิดถึงเพื่อนของนางมารดาของรัชทายาทที่จากไปก็พลันสบายใจ คนผู้นั้นคงตายตาหลับแล้วหยางเอ้อหลางเห็นภรรยาเหม่อลอย อีกทั้งมีน้ำใสคลอที่หน่วยตาจึงกุมมือของนางเอาไว้ จวบจนพิธีจบสิ้นองค์รัชทายาทก็ก้าวเข้ามาหาพวกเขาอย่างสง่างามสิ่งที่เอ่ยออกมาคำแรกสร้างความตื้นตันให้กับองค์หญิงสิบสามยิ่ง นางรู้สึกว่าองค์รัชทายาทช่างกตัญญูนักไม่เสียแรงที่นางปกป้องซาลาเปาน้อยก้อนนี้ด้วยชีวิต"พี่หญิงเมื่อข้าโตแล้ว ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของข้าข้าจะยกให้ท่าน"เพราะรัชทายาทพูดแบบนี้นางจึงซาบซึ้งจนไม่อาจกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป หยางเอ้อหลางได้แต่ส่ายหน้าโรคบ้าสมบัติของภรรยาเห็นทีว่าจะรักษาไม่หายจริงๆ หลังจากนั้นแฝดผู้น้องของซาลาเปาน้อยพลันวิ่งมาหานางวันนี้เด็กหญิงตัวน้อยก็ได้รับ
ในขณะที่หยางเอ้อหลางจุมพิตประกบขยี้ไปบนริมฝีปากงามอีกทั้งนิ้วมือของเขายังไต่ลงไปบดขยี้ปลายเกสรเพิ่มความต้องการกระสันอยากให้ภรรยามากขึ้นอีกทั้งยังจ้วงแทงลงมาใช้แรงกระแทกนางถี่ยิบ อ้าปากคว้าเต้าอวบกลมใหญ่ของนาง ปากดูดกลืนสองเต้าเต็มรัก สะโพกแข็งแรงซอยกระแทกรุนแรงจนทำให้ร่างกายขององค์หญิงสิบสามเต้นระริกองค์หญิงสิบสามกอดศีรษะของเขาไว้ ก่อนที่เขาจะจับนางพลิกร่างให้หันหลังอีกทั้งยังขยับสะโพกของนางเข้าหาตน แนบร่างลงมาหานางจากด้านหลัง ให้นางคุกเข่าอยู่บนเก้าอี้กอดตระกองรวบร่างบางเอาไว้ในอ้อมแขนหยางเอ้อหลางดูดแผ่นหลังของนางแรงๆ อีกทั้งยังลากลิ้นเลียนางจนทั่วแผ่นหลังเนียนนุ่มในขณะที่เร่งจังหวะของสะโพกตนอัดร่างลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ปากครางบอกรักภรรยา เนื้อนุ่มนิ่มในอ้อมกอดหอมกรุ่นทำให้มัวเมายิ่ง เขาจุมพิตแผ่นหลังนางจนทั่ว ฝากรอยแดงเอาไว้แทบทุกตารางผิวองค์หญิงสิบสามแหงนใบหน้าหาเขา อ้าปากเย้ายวน หยางเอ้อหลางประกบปากของตนลงมาทันใด สองลิ้นพัวพันต่างคนต่างสูบลมหายใจซึ่งกันและกันแลกจุมพิตหวานฉ่ำรุนแรง ยิ่งจุมพิตยิ่งมัวเมาส่วนสะโพกบดเบียดและจ้วงแทงลงมาจากด้านหลัง นางบีบรัดเขาจนเขาต้องห่อปาก กระนั
หยางเอ้อหลางสัมผัสได้ถึงกลีบอวบอูมที่เต็มปากของตน น้ำหวานพรั่งพรูออกมา เขาสูดปากแรงๆ พร้อมดูดนางเต็มรัก นางบิดกายเร่งเร้า หยางเอ้อหลางหยอกเย้ากลีบนุ่มของนางจนอิ่มเอม ลิ้นร้อนของเขาห่อเป็นแท่งกระแทกเข้าไปในร่องลึก ไซร้สัมผัสกับปลายเกสรสีแดงที่สั่นระริกอยู่ที่ปลายลิ้น ก่อนจะดุนลิ้นตนเองลงมาหนักๆ จนภรรยาแทบจะแดดิ้นอยู่เบื้องล่างองค์หญิงสิบสามที่กำลังสติกระเจิงไปกับรสสวาทบัดนี้หาได้สนใจสิ่งใดไม่ นางยกสะโพกค้างให้เขาใช้ลิ้นรักนางอย่างเต็มที่ ความงดงามอวบอูมของภรรยาทำให้เขาฉ่ำเยิ้มเช่นกัน พูเนื้อของนางช่างเย้ายวนใจโดยแท้"ตรงนี้ของท่านงดงามมากรู้หรือไม่" เขากล่าวจบพลันสูดปากลากลิ้นแทงลงมาเต็มๆ องค์หญิงสิบสามกำเก้าอี้แน่น เขากำลังทำให้นางใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว"อ๊า ท่านพี่ อื้อ" นางครางไม่หยุดปากในขณะที่สามีละเลงลิ้นลากดุนวนไซร้ไปตามกลีบเกสร ดูดกลืนปลายสีแดงสดที่สั่นระริกเต้นเร้า หญิงงามที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่เบื้องหน้าดวงตาฉ่ำเยิ้มประดุจมีหมอกจาง ๆ อยู่ด้านในดวงตาคู่งามนั้นช่างยั่วยวนเขายิ่งนักเขาเงยหน้าเพ่งพิศที่เต้าคู่งาม ขยับกายว่องไวอ้าปากแล้วดูดรวบปลายถันไว้ในปาก ดูดแรงๆคล้ายกลั่นแกล
เขาเอ่ยเสียงพร่า พร้อมทั้งแลบลิ้นปาดเลียกลีบเกสรหอมหวานล้ำค่าของภรรยาอย่างเอร็ดอร่อยเมื่อเห็นภรรยาบิดกายร้อนรุ่ม อีกทั้งส่งเสียงครางแผ่วเบาออกมาหยางเอ้อหลางเร่งเติมเชื้อไฟสวาทด้วยการลากไล้นิ้วมือเรียวไปตามโคนขาอ่อนขาวเนียนแผ่วเบา ร่างงามสั่นสะท้านระทดระทวยเอนหลังพิงกำแพงเพื่อช่วยพยุงกายของตนไม่ให้ล้มลงด้วยพลังปลายลิ้นของเขา"ทะท่านพี่ อือ อือ"ปากงดงงามครางครวญ หยางเอ้อหลางยิ่งปลุกเร้าลงบนเนื้ออูมตรงหน้า ร่างของนางกระตุกบิดไปมาอีกทั้งยังอ้าขาของตนให้เขาดูดกินได้ลึกขึ้น จากเดิมที่หวังจะให้เขากระทำการอย่างว่องไวบัดนี้กลับไม่คิดจะเร่งรัดแล้ว ปล่อยให้เขากระทำการอ้อยอิ่งกับร่างกายของตนเองเช่นนี้โดยไร้ซึ่งสติเมื่อเห็นว่าตนเองจู่โจมภรรยาจนนางยืนไม่ติดแล้ว เขาจึงอุ้มนางขึ้นแล้วพานางมานั่งยังเก้าอี้บุขนแกะนุ่ม จับขาของภรรยาแยกออกให้พาดไปที่พนักเก้าอี้ทั้งสองข้าง เผยความงดงามสีแดงสดเบื้องหน้าอย่างเต็มที่ในเวลานี้เป็นเวลากลางวันจึงมองเห็นนางแจ่มชัดเต็มสองตาประตูด้านหน้าถูกปิดแน่นหนาชนิดที่เรียกว่าไม่อาจมีแม้แต่แมลงสักตัวที่สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ หยางเอ้อหลางจึงกระทำกับภรรยาอย่างหย่ามใจอีกทั้ง
คิดแล้วก็ต้องขอบคุณสามีเช่นเขา ทำให้ชะตาชีวิตของนางเปลี่ยนได้ดุจพลิกฝ่ามือนางจึงอดขยับกายจุมพิตปลายคางของเขาอย่างขอบคุณไม่ได้ อีกทั้งมือน้อยยังสอดเข้าไปในสาบเสื้อเพื่อสัมผัสความอบอุ่นด้านในอย่างแนบชิดแม้จะอยู่ในชุดคลุมที่มิดชิดจึงไม่มีผู้ใดเห็นการกระทำอุกอาจไร้ยางอายของนาง แต่หยางเอ้อหลางนั้นรับรู้อีกทั้งยังถูกนางลูบคลำอกของตนไปมาไม่หยุดเช่นนี้ ใบหน้าจึงแดงก่ำ สิ่งที่ควรอ่อนลงกลับผงาดแข็งกร้าวมากกว่าเดิมเพราะนางลูบไล้อกของเขาอีกทั้งซุกอยู่ในอ้อมกอด กลิ่นกายของนางก็หอมยิ่งหอมจนทำให้เขากลัวว่าผู้อื่นจะได้กลิ่นจนทำให้รู้สึกหึงหวงขึ้นมา เขากอดนางแน่นขึ้น เห็นสายตาทหารหลายคนแอบลอบมองภรรยาตนแล้วก็รู้สึกโมโหนัก กระนั้นก็ไม่อาจปัดเรื่องอยากกินนางในตอนนี้ออกจากสมองได้ หัวหน้าขันทีนำพวกสองสามีภรรยาไปยังตำหนักปีกรับรอง อีกทั้งยังรายงานกำหนดการต่าง ๆ ในพิธีแต่งตั้งองค์รัชทายาทอย่างละเอียดให้พวกเขาฟังหยางเอ้อหลางทั้งพยายามควบคุมตนเองจึงทำท่าสนใจข้อมูลที่หัวหน้าขันทีรายงาน แต่องค์หญิงสิบสามนั้นไม่สนใจฟังแม้แต่น้อย สามีพาทำสิ่งใดนางก็แค่ปฏิบัติตามเท่านั้น มือของนางจึงยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวหัวนมเล
หยางเอ้อหลางพลันอมยิ้ม เขาชอบที่นางชอบเขาที่สุด แม้จะเป็นสิ่งของเขาก็อดหึงหวงไม่ได้กล่าวจบพลันนางโน้มคอเขาลงมาจุมพิตดูดดื่ม เนื้อตัวของนางนุ่มนิ่ม แม้จะมีบุตรถึงสองคนแล้วร่างกายหาได้เปลี่ยนแปลงไปเช่นสตรีอื่น ที่ควรมีก็มีมากขึ้น อีกทั้งยังตึงแน่นยิ่งกว่าเดิม นับวันเขายิ่งหลงใหลภรรยาจนทนแยกห่างจากนางนานๆ ไม่ได้ยามที่เขาห่างนางต้องไปทำงานต่างเมือง หลายครั้งที่มีสตรีมากมายพยายามปีนขึ้นเตียงส่งสายตาหวานเยิ้มให้ ในใจหยางเอ้อหลางมองพวกนางเหล่านั้นแล้วรู้สึกว่าช่างดูน่ารำคาญ ในสายตาของเขามีเพียงภรรยาผู้เดียวที่สำคัญยิ่ง เขาไม่มีวันชายตาแลสตรีอื่นให้นางน้อยเนื้อต่ำใจเป็นอันขาดองค์หญิงสิบสามเบียดกายเข้าหาเขา หยางเอ้อหลางใช้ผ้าห่มขนสุนัขจิ้งจอกห่อร่างเขาและนางเข้าด้วยกัน พันกายหนาแน่นด้วยกลัวว่านางจะต้องลมเย็นจากด้านนอกจนเจ็บป่วย ร่างกายของเขาแข็งแรง อึกทั้งยังอบอุ่นองค์หญิงสิบสามชอบซุกในอกแข็งแกร่งยิ่งมือของนางซุกซนล้วงเข้าไปในกางเกงเขาแล้วลูบอาวุธเขาเล่นจนผงาดแข็งชัน หยางเอ้อหลางปล่อยให้นางซนเสมอ นางชอบทำอะไรเขาล้วนตามใจโดยเฉพาะเรื่องนี้ เขายิ่งตามใจนางยิ่งกว่าเรื่องใด“ท่านพี่มันโตแล้ว”“
ผู้ช่วยหมอทำคลอดพลันเปิดประตูออกมา หยางเอ้อหลางไม่รอช้า ผลักประตูเข้าไปด้านในแม้คนจะทัดทานเขาก็ไม่สนใจแล้วเขาโผไปหาภรรยาที่เหนื่อยจนหมดสติไปแล้วอย่างว่องไว กุมมือนางไว้ด้วยใบหน้าซีดเซียว"หมินเออร์ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง""องค์หญิงปลอดภัยดีเจ้าค่ะ เพียงแต่เหนื่อยมากจึงหลับไป"หมอหญิงผู้เก่งกาจประจำจวนเอ่ยขึ้น หยางเอ้อหลางพยักหน้าแต่ไม่วางใจ เขาดึงภรรยามากอดไว้ สำรวจร่างที่ยังเปียกชื้นด้วยเหงื่อของนางปากก็พร่ำขอโทษภรรยาที่ทำให้นางเจ็บปวดด้วยสำนึกผิดเป็นอย่างยิ่ง"ข้าจะไม่ให้ท่านท้องอีกแล้ว ขอสัญญา ข้าขอโทษ"ความเจ็บปวดของภรรยาในวันนี้ทำให้เขารู้สึกปวดร้าวยิ่ง เขาจะไม่มีวันยอมให้นางเป็นเช่นนี้อีกจวบจนแม่นมอุ้มก้อนแป้งอวบก้อนหนึ่งมาหาเขา หยางเอ้อหลางเห็นหน้าบุตรเป็นครั้งแรก พลันตื้นตันจวบจนน้ำตาจะไหล ความรู้สึกรักและผูกพันท่วมท้นในอก บัดนี้เขาเข้าใจลึกซึ้งแล้ว ว่าบิดามารดารักเขาเพียงใด เขาค่อย ๆ วางร่างภรรยาลงบนเตียงให้ท่านหมอดูแลเต็มที่ ส่วนตัวเองยื่นมือไปรับห่อผ้าสีแดงนั้นมาไว้ในอ้อมกอด"เป็นท่านชายเจ้าค่ะ" แม่นมเอ่ยด้วยความยินดี"ดีมาก ดีจริงๆ "หยางเอ้อหลางหัวเราะทั้งน้ำตาแล้ว ความตื้
กินเสร็จได้ไม่นาน องค์หญิงสิบสามกลับรู้สึกอยากอาบน้ำ"ท่านพี่นอกจากเขาจะเลือกกินแล้ว ยังรักสะอาดยิ่ง อากาศหนาวเช่นนี้ข้ากลับอยากอาบน้ำวันละหลายรอบ"หยางเอ้อหลางจึงสั่งอาชิงให้เตรียมน้ำอุ่น หลังจากนั้นเขากลับเป็นฝ่ายดูแลนางด้วยตนเอง ถอดอาภรณ์ให้นาง ค่อยๆ พานางลงอ่างอย่างระวัง ผิวขององค์หญิงสิบสามเปล่งประกายบอบบาง ส่วนข้อเท้าเนียนนุ่มเล็กๆ ของนาง ยิ่งไม่อาจรับร่างกายที่หนักอึ้งของครรภ์ได้ หยางเอ้อหลางจึงต้องระวังเป็นพิเศษอาบน้ำยังไม่ทันเสร็จ องค์หญิงสิบสามกลับรู้สึกถึงบางสิ่งที่ผิดปกติยิ่ง มีเลือดไหลออกมาจากช่องทางลับของนาง ก่อนที่ความรู้สึกเจ็บปวดจะวิ่งจากท้องน้อยถึงไขสันหลัง นางจับข้อมือของหยางเอ้อหลางแน่นห่อปากด้วยความเจ็บปวด"ท่านพี่ ข้าเจ็บ"เพียงเห็นเลือดที่เริ่มไหลออกมาปนกับน้ำในอ่าง เทพสงครามเช่นหยางเอ้อหลางแทบเป็นลมหมดสติยิ่งเห็นนางเจ็บปวดยิ่งรู้สึกคล้ายหายใจไม่ออก ช่วงท้องบิดมวน ปากร้องตะโกนให้อาชิงที่รออยู่ด้านนอกรีบตามหมอตำแยที่เขานำมาเลี้ยงดูในจวนตั้งแต่เดือนก่อนเพื่อเตรียมความพร้อมให้ภรรยาหยางเอ้อหลางตั้งใจจะอุ้มนางขึ้นจากอ่างน้ำ แต่กลับถูกองค์หญิงสิบสามทั้งข่วนทั้งตบตี