องค์หญิงสิบสามเลิกคิ้วมองเขาด้วยความสงสัย สามีของนางผู้ใดบังอาจขัดใจเขาอีก แต่ก็ช่างเถิดนางมองหยางเอ้อหลางเพียงแว๊บเดียวก็หันมาสนใจผู้เป็นพี่ชายที่ไม่ได้พบกันมานานเช่นเดิมองค์หญิงสิบสามส่งยิ้มให้เกาะเกี่ยวมือพี่ชายเอาไว้ ยังไม่ทันได้กอดอ๋องฉางอันเป็นครั้งที่สอง คนผู้หนึ่งก็ดึงร่างของอ๋องฉางอันไปกอดเสียเอง เขาตบหลังอ๋องฉางอันแล้วเอ่ยขึ้นว่า“ไม่พบท่านเกือบเดือนแล้วข้าผู้เป็นน้องเขยคิดถึงท่านเช่นกัน”อ๋องฉางอันด้วยความตกใจไม่คิดว่าบุรุษเช่นแม่ทัพหยางจะกระทำการเช่นนี้ แย่งเขาจากองค์หญิงสิบสามไปกอดต่อหน้าต่อตาอีกทั้งน้ำเสียงที่บอกว่าคิดถึงเขานั้นไม่ได้อ่อนโยนสักนิด ตรงกันข้ามเหมือนจะท้ารบเสียอย่างนั้นอ๋องฉางอันถอนหายใจออกมาพลางยกมือโอบกอดแม่ทัพหยางอย่างแรงแล้วเอ่ยขึ้น“ข้าก็คิดถึงน้องเขยเช่นกัน”หยางเอ้อหลางกับอ๋องฉางอันกอดกันแน่นผู้คนด้านนอกกำลังมองด้วยความประหลาดใจในขณะที่คนทั้งสองต่างใช้กำลังภายในสู้รบกันอย่างเอาเป็นเอาตาย หลังของอ๋องฉางอันรู้สึกเจ็บนักเมื่อแรงตบจากฝ่ามือของหยางเอ้อหลางมากถึงเพียงนั้น เขาไม่ยอมแพ้ตบหลังของหยางเอ้อหลางลงไปด้วยกำลังเต็มส่วนเช่นกันองค์หญิงสิบสามเองในใ
อีกทั้งน้ำเสียงของเขาดูเศร้าหมองเรียกความสนใจได้อย่างชัดเจน องค์หญิงสิบสามมีความยุติธรรมพอเมื่อดูแลพี่ชายดีแล้วครานี้ต้องดูแลสามีบ้าง“มาข้าจะเช็ดให้ท่าน”นางเอ่ยขึ้นพร้อมกับจะใช้ผ้าเช็ดหน้าในมือเช็ดให้เขา หยางเอ้อหลางจับมือของนางไว้แล้วเอ่ยต่อ“ผ้าผืนนี้สกปรกแล้ว เจ้าใช้ผืนใหม่ดีกว่า”เขาแย่งผ้าออกจากมือภรรยาพร้อมยัดผ้าผืนใหม่ให้ องค์หญิงสิบสามยิ้มพลางพยักหน้ารับผ้าจากมือเขาแล้วเช็ดใบหน้าให้อย่างเบามือ ในขณะที่ปากก็บ่นอุบอิบต่อว่าพวกเขาทั้งคู่ให้ระมัดระวังหยางเอ้อหลางลอบมองอ๋องฉางอันส่งสายตาเยาะหยันคืนไป ในมือที่ถือผ้าผืนนั้นไว้เขาแอบปล่อยทิ้งโดยไม่ให้องค์หญิงสิบสามรู้ตัว ก่อนจะใช้เท้าเหยียบผ้าที่หล่นลงพื้นคล้ายไม่ตั้งใจอ๋องฉางอันเห็นการกระทำเช่นนั้นได้แต่ร้อง เฮะ ในใจไม่คิดว่าหยางเอ้อหลางจะแก้แค้นเขาคืนได้เร็วเพียงนี้ ในใจพลันรู้สึกเจ็บปวดและยอมรับแต่โดยดีไม่ได้เมื่อเห็นว่าน้องสาวของตนมีความสุขเพียงใดที่ได้อยู่เคียงข้างแม่ทัพหยางเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในสายตาขององค์หญิงใหญ่ตลอดเวลา แม่ทัพหยางนั้นเฝ้าขี่ม้าวนเวียนมาดูแลองค์หญิงสิบสามด้วยความห่วงใย ยิ่งเห็นแววตาที่เขามองมายังองค์
เมื่อใคร่ครวญดูอีกทีองค์หญิงสิบสามก็รู้สึกปวดใจยิ่งนัก อาจจะเป็นไปได้ว่าพี่หญิงใหญ่ถูกหยางเอ้อหลางปฏิเสธจนรู้สึกเสียหน้าและโกรธเคืองนิสัยพี่หญิงใหญ่องค์หญิงสิบสามย่อมรู้ดี นางได้รับการตามใจมาตั้งแต่เด็กคนอื่นล้วนถูกนางรังแกแต่ไม่มีผู้ใดกล้าเอ่ยปาก ภายนอกพี่หญิงดูเพรียบพร้อมแต่ก็เป็นสตรีที่เอาแต่ใจที่สุดในใต้หล้าเพียงแต่ที่ผ่านมาพี่หญิงใหญ่ดีต่อนางองค์หญิงสิบสามจึงไม่ใคร่ได้ใส่ใจในเรื่องนี้ เมื่อสงสัยว่าพี่สาวของตนเองจะสังหารสามีองค์หญิงสิบสามยิ่งคิดหนัก อย่างน้อยต้องระงับเหตุไม่ให้เกิด แผนการของนางในคืนนี้จึงเกิดขึ้นก่อนอื่นนางต้องนัดพี่หญิงใหญ่มาพบ อีกทั้งต่อมาให้อาชิงไปตามสามีบอกว่านางมีเรื่องต้องการคุยด้วย หลังจากนั้นก็วางแผนให้ทั้งคู่พบกันพูดคุยความในใจกันให้กระจ่าง ที่ผ่านมาองค์หญิงสิบสามเข้าใจว่าเพราะสามีกับองค์หญิงใหญ่ไม่ได้มีโอกาสสนทนากันสองต่อสอง จึงทำให้หยางเอ้อหลางมองข้ามพี่หญิงใหญ่ไปบ้าง แต่เมื่อได้สนทนากันองค์หญิงสิบสามเชื่อว่าไม่มีผู้ใดสามารถทนเสน่ห์แห่งสตรีอันดับหนึ่งแห่งแคว้นต้าชิงไปได้เป็นแน่วันหน้าหยางเอ้อหลางได้แต่งพี่หญิงนางก็วางใจแล้ว ต่อไปหากชีวิตนางมีอันต้อง
"มะ ไม่ต้อง ท่านเป็นสามีสมควรเป็นข้าที่ต้องปรนนิบัติ" องค์หญิงสิบสามตกใจปฏิเสธเป็นพัลวัลเขายิ้มพลางดีดหน้าผากของนางเบาๆ แล้วเอ่ยว่า"หากรอให้ท่านปรนนิบัติชาตินี้ข้าคงได้ตายก่อน ข้าปรนนิบัติท่านแทนเห็นจะง่ายกว่า""ท่านหาว่าข้าบกพร่องหรือ" นางย่นจมูกอย่างแง่งอน "ไม่ใช่เช่นนั้นเพียงแต่อยากบอกให้ท่านเข้าใจว่า ข้ายินดีปรนนิบัติภรรยาของข้าอย่าได้คิดมากเลย"องค์หญิงสิบสามถอนหายใจ ความจริงเรื่องการดูแลสามีนั้นนางศึกษามาพอสมควร แต่หลายครั้งที่มักคิดว่าเขาก็เป็นบุรุษแข็งแรงมีมือมีเท้าครบ ผ่านศึกสงครามมามากเรื่องพวกนั้นเขาน่าจะทำเองได้และโดยส่วนตัวที่นางสังเกตเห็นหยางเอ้อหลางมักทำทุกสิ่งด้วยตนเองคงเป็นเพราะเขาอยู่ในสนามรบตั้งแต่เด็กไม่เคยชินกับการมีคนรับใช้เฉกเช่นคุณชายในเมืองทั่วไป มีสามีอยู่ง่ายกินง่ายเช่นนี้นับว่าประเสริฐยิ่งองค์หญิงสิบสามจึงไม่ใคร่เห็นความจำเป็นที่ต้องดูแลเขาเท่าใดนัก "เช่นนั้นท่านออกไปก่อนได้หรือไม่ข้าอยากจะอาบน้ำเสียหน่อย"เขายิ้มแล้วพยักหน้าตั้งใจให้เวลาเป็นส่วนตัวกับนาง ไม่อยากวู่วามให้นางตระหนกจนเกินไปเขาจึงออกจากกระโจมไปอย่างว่าง่ายองค์หญิงสิบสามครั้นเห็นสามีออกไ
เขากระชับอ้อมกอดแน่นหนา กลิ่นหอมอ่อนๆ ของกายสาวลอยเข้าจมูก หยางเอ้อหลางจุมพิตศีรษะของนางก่อนจะไล้จมูกระเรื่อยลงมายังพวงแก้มองค์หญิงสิบสามคิดว่าตนเองพลาดแล้วเพียงชั่วครู่ที่อยากให้เขาอยู่เคียงข้างจึงลืมสงบจิตใจตนเองกระทำการที่ล่อแหลมต่อหัวใจเช่นนั้นความรู้สึกหวานล้ำค่อยๆเกาะกุมหัวใจการมีเขาอยู่ข้างกายทำให้นางลืมทุกสิ่งไปโดยสิ้น ลืมสัญญาที่ให้ต่อพี่หญิงใหญ่ ลืมว่ามีหินจันทราที่พร้อมจะคร่าชีวิตตนอยู่ในร่างกาย ลืมเรื่องขุ่นข้องหมองใจทุกอย่างที่มี นางชอบที่มีเขาอยู่เช่นนี้ "ข้าไม่อยากเป็นต้นเหตุให้ท่านเสียงานราชการไปเฝ้าเสด็จพ่อเถิด"นางกล่าวอึกอักอย่างไม่เต็มคำ เสียงดังยิ่งกว่าแมลงหวี่ทำให้หยางเอ้อหลางฟังไม่เต็มประโยคนัก สตรีผู้นี้กำลังขัดเขินใบหน้าแดงซ่านลามไปจนใบหูเขาขยับมุมปากยกยิ้มใช้นิ้วเขี่ยใบหูของนางเล่น องค์หญิงสิบสามรู้สึกจั๊กจี้จึงกำนิ้วของเขาเอาไว้ หยางเอ้อหลางรวบมือของนางไปเกาะกุมก่อนจะไล่จุมพิตนิ้วเรียวทีละนิ้วอย่างอ่อนโยนนางจะทำเช่นไรดีหนอทำไมถึงได้รู้สึกขัดเขินถึงเพียงนี้ ริมฝีปากของเขาที่ไต่ไล่ไปตามนิ้วส่งผลต่อจิตใจของนางเป็นอย่างมาก เช่นนี้นางจะถอนตัวถอนใจได้อย่างไร
ความจริงเขาไม่พอใจนักที่ไป๋อี้บุรุษหนุ่มหน้าตาดีซึ่งเป็นหนึ่งในคณะราชทูตดูเหมือนจะลอบมององค์หญิงสิบสามบ่อยครั้ง อีกทั้งสายตานั้นยังบ่งบอกถึงความสนใจอย่างไม่ปิดบัง หยางเอ้อหลางเห็นแล้วขัดเคืองตายิ่ง ไม่สมควรมีผู้ใดจ้องมองฮูหยินของเขาเช่นนั้น"ข้าไม่ไปเด็ดขาด หากไม่เห็นว่าท่านปลอดภัยดีข้าก็ไม่สบายใจยิ่ง""ท่านห่วงข้าด้วยใจจริงหรือ"องค์หญิงสิบสามพยักหน้าไม่ปิดบัง"ท่านเป็นสามีที่ดีที่สุดเป็นวาสนาของสิบสามแล้วที่ได้แต่งกับท่าน ความห่วงใยนี้มาจากใจจริงที่มี"องค์หญิงสิบสามเห็นแล้วว่ามีคนผู้หนึ่งลอบมองตนมาตั้งแต่พบกันเมื่อออกเดินทาง อีกทั้งเขายังหาทางมาพูดคุยอยู่เสมอหากไม่มีสามีคอยขัดขวางเห็นว่านางคงได้คุยกับเขาไปแล้วว่ากันว่าแคว้นเว่ยเป็นแคว้นที่มีแร่หยกชั้นดีหากได้ติดต่อทำการค้านางคงทำกำไรได้มาก องค์หญิงสิบสามจึงอยากผูกสัมพันธ์กับราชทูตผู้นั้นไว้การอยู่ร่วมงานเลี้ยงนอกจากจะเพื่อปกป้องหยางเอ้อหลางแล้วการหาโอกาสพูดคุยกับคนผู้นั้นก็เป็นความต้องการอีกประการหนึ่ง"ท่านอ่านนิทานมาหรือไม่ดูเหมือนจะลอกเลียนคำพูดพวกนั้นมาสินะ"หยางเอ้อหลางหัวเราะเบาๆ หลายวันก่อนเดินทางพ่อบ้านของเขารายงานว่าช่วงน
เมื่อนางชิงจอกหยกมาได้องค์หญิงสิบสามก็วางใจเพียงสัมผัสถูกจอกหยกนี้นางกลับรู้สึกปั่นป่วนอีกทั้งเจ็บปวดภายในกายเป็นอย่างยิ่ง หินจันทรากำลังเคลื่อนไหวรุนแรงนางจึงเอ่ยว่องไวไม่ปล่อยให้ผู้ใดเห็นความผิดปกตินี้“ทุกท่านข้าเมาแล้วขอตัว”กล่าวจบนางพลันเดินออกมาโดยไม่สนใจผู้ใดอีก องค์หญิงใหญ่ที่นั่งตรงข้ามสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของน้องสาวอย่างละเอียด มีบางสิ่งผิดปกติเป็นแน่"ข้าจะไปส่งท่าน"หยางเอ้อหลางเอ่ยพลางประคองภรรยารู้สึกว่านางกำลังฝืนทนกับบางสิ่ง หรือความเจ็บปวดที่เป็นโรคประจำกายของนางเกิดขึ้นอีกแล้ว"ไม่เป็นไรข้าไปเองได้ กระโจมอยู่ใกล้เพียงนี้ท่านอย่าได้ห่วง""ข้าไม่วางใจ""ปล่อยสิบสามไปพักผ่อนเถิด กระโจมก็อยู่ใกล้เพียงนี้ให้องครักษ์ฝานตามไปส่งนาง เจ้ายังไม่ได้ยกสุราเลยสักจอกมาราชบุตรเขยดื่ม" เมื่อฝ่าบาทตรัสขึ้นหยางเอ้อหลางแม้จะห่วงองค์หญิงสิบสามมากเขาก็ไม่กล้าขัดพระราชประสงค์ จึงเพียงแต่ให้องครักษ์ฝานติดตามไปดูแลองค์หญิงส่วนตนเองนั่งลงร่วมงานเลี้ยงเช่นเดิมองค์หญิงสิบสามยังเป็นห่วงหยางเอ้อหลาง จึงได้เล่าเรื่องในนิมิตให้องครักษ์ฝานฟัง"องค์หญิงตรัสว่าท่านแม่ทัพจะถูกวางยาหรือ""ใช่ในนิ
หลังจากทำความเข้าใจกับอาชิงเรียบร้อย องค์หญิงสิบสามจึงย่องออกจากกระโจมไปยังสถานที่นัดแนะพี่หญิงใหญ่ของนางสถานที่พบกันความจริงเป็นกระโจมที่เก็บสัมภาระ คบไฟถูกจุดสว่างนางเข้าไปในกระโจมอย่างเงียบเชียบ นั่งรอพี่หญิงใหญ่อยู่ชั่วครู่พลันได้ยินเสียงคนแหวกผ้ากระโจมเข้ามา องค์หญิงสิบสามเงยหน้าผู้ที่มาใหม่คืออาชิง นางจึงถามอย่างแปลกใจ"อาชิงเหตุใดพี่หญิงไม่มาตามนัด เจ้าได้แจ้งแก่นางแล้วใช่หรือไม่""แจ้งแล้วเพคะ หรือว่าจะยังไม่สะดวก""พี่หญิงใหญ่วรยุทธ์นับว่าดียิ่ง เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่สะดวกหากเป็นจริงนางก็ต้องส่งคนมาบอกข้าแล้ว"สนทนากันได้สักครู่พลันจมูกได้กลิ่นประหลาดองค์หญิงสิบสามรีบยกมือปิดจมูกทันทีแต่อาชิงที่น่าสงสารสูดดมควันสลบเข้าไปเต็มที่เพียงชั่วครู่นางจึงล้มตึงลงต่อหน้า"อาชิง อาชิง อาชิง"ด้านนอกของกระโจม องค์หญิงใหญ่ที่เฝ้ารอกำลังยกยิ้มด้วยความสะใจกับแผนการที่ตนวางไว้ ในที่สุดคนที่ติดกับกลายเป็นองค์หญิงสิบสามเอง“สิบสามเจ้าคิดว่าข้าโง่หรือที่จะทำตามแผนของเจ้า คงคิดไม่ถึงว่าข้าจะตลบหลังแอบเล่นงานเจ้าเช่นนี้ อย่าหวังว่าจะมีชีวิตรอดกลับไปพบแม่ทัพหยางอีกเลย” ฉับพลันองค์หญิ
ส่วนองค์หญิงใหญ่นั้นแทบจะไม่เคยถามถึงเด็กเลยทั้งนี้คงเป็นเพราะเด็กคนนั้นคือตราบาปของนาง องค์หญิงใหญ่จึงรังเกียจเด็กยิ่งกว่าไส้เดือนกิ้งกือในหัวคิดเพียงแต่เรื่องสังหารเด็กนั่นให้ตายไปเสียให้พ้น องค์หญิงสิบสามถอนหายใจคิดแล้วก็รู้สึกหดหู่ยิ่งหลังออกจากตำหนักองค์หญิงใหญ่ สามีจึงพานางเข้าร่วมงานเลี้ยง ท่านย่าของหยางเอ้อหลางพาท่านชายทั้งสองเข้าร่วมงานด้วย ทุกคนห้อมล้อมเอาอกเอาใจอีกทั้งเด็กทั้งสองยังเป็นหลานรักของฝ่าบาทและขององค์รัชทายาทยิ่ง ไม่ว่าใครต่างก็แสดงความชื่นชมออกมา ก้อนแป้งน้อยของนางทั้งสองยังเด็กแต่รู้ความนัก เมื่อเห็นมารดาเพียงแต่โผหานางเบาๆ ไม่ได้งอแงเหมือนเด็กทั่วไป ภรรยาของขุนนางใหญ่หลายคนต่างหมายตาพวกเขาเอาไว้ พยายามทาบทามตั้งแต่ยังเด็ก องค์หญิงสิบสามเอ่ยปากปฏิเสธเพราะคิดว่าบุตรยังเล็กนัก การกระทำของนางไม่ไว้หน้าผู้ใดกระนั้นก็ไม่มีใครกล้าตำหนิ กลางดึกคืนนั้นหยางเอ้อหลางนอนกอดภรรยาที่ร่างกายเปล่าเปลือยเอาไว้ในอ้อมกอด คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมาระหว่างพวกเขาแล้วอดยิ้มออกมาไม่ได้ องค์หญิงสิบสามหลับแล้วเขากลับยังคงต้องการ เช่นนั้นจึงจับขานางแยกออกแล้วดันกายเข้าไประหว่างขา องค์หญ
องค์รัชทายาทครั้นเห็นว่าพี่หญิงของเขาและพี่เขยมาถึงแล้ว ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวก็สดใสขึ้น องค์หญิงสิบสามยิ้มให้กำลังใจ องค์รัชทายาทที่มีชันษาแปดขวบอีกทั้งรู้ความเป็นอันมากด้วยถูกฮูหยินชราและสตรีสกุลหยางอบรมมาด้วยตนเองจึงเข้าพิธีสถาปนาอย่างกล้าหาญ องค์หญิงสิบสามเห็นน้องชายกำลังเติบโตเช่นนั้นก็ตื้นตันใจนัก นางเกือบหยุดน้ำตาไม่ได้อยู่หลายคราคิดถึงเพื่อนของนางมารดาของรัชทายาทที่จากไปก็พลันสบายใจ คนผู้นั้นคงตายตาหลับแล้วหยางเอ้อหลางเห็นภรรยาเหม่อลอย อีกทั้งมีน้ำใสคลอที่หน่วยตาจึงกุมมือของนางเอาไว้ จวบจนพิธีจบสิ้นองค์รัชทายาทก็ก้าวเข้ามาหาพวกเขาอย่างสง่างามสิ่งที่เอ่ยออกมาคำแรกสร้างความตื้นตันให้กับองค์หญิงสิบสามยิ่ง นางรู้สึกว่าองค์รัชทายาทช่างกตัญญูนักไม่เสียแรงที่นางปกป้องซาลาเปาน้อยก้อนนี้ด้วยชีวิต"พี่หญิงเมื่อข้าโตแล้ว ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของข้าข้าจะยกให้ท่าน"เพราะรัชทายาทพูดแบบนี้นางจึงซาบซึ้งจนไม่อาจกลั้นน้ำตาได้อีกต่อไป หยางเอ้อหลางได้แต่ส่ายหน้าโรคบ้าสมบัติของภรรยาเห็นทีว่าจะรักษาไม่หายจริงๆ หลังจากนั้นแฝดผู้น้องของซาลาเปาน้อยพลันวิ่งมาหานางวันนี้เด็กหญิงตัวน้อยก็ได้รับ
ในขณะที่หยางเอ้อหลางจุมพิตประกบขยี้ไปบนริมฝีปากงามอีกทั้งนิ้วมือของเขายังไต่ลงไปบดขยี้ปลายเกสรเพิ่มความต้องการกระสันอยากให้ภรรยามากขึ้นอีกทั้งยังจ้วงแทงลงมาใช้แรงกระแทกนางถี่ยิบ อ้าปากคว้าเต้าอวบกลมใหญ่ของนาง ปากดูดกลืนสองเต้าเต็มรัก สะโพกแข็งแรงซอยกระแทกรุนแรงจนทำให้ร่างกายขององค์หญิงสิบสามเต้นระริกองค์หญิงสิบสามกอดศีรษะของเขาไว้ ก่อนที่เขาจะจับนางพลิกร่างให้หันหลังอีกทั้งยังขยับสะโพกของนางเข้าหาตน แนบร่างลงมาหานางจากด้านหลัง ให้นางคุกเข่าอยู่บนเก้าอี้กอดตระกองรวบร่างบางเอาไว้ในอ้อมแขนหยางเอ้อหลางดูดแผ่นหลังของนางแรงๆ อีกทั้งยังลากลิ้นเลียนางจนทั่วแผ่นหลังเนียนนุ่มในขณะที่เร่งจังหวะของสะโพกตนอัดร่างลงมาครั้งแล้วครั้งเล่า ปากครางบอกรักภรรยา เนื้อนุ่มนิ่มในอ้อมกอดหอมกรุ่นทำให้มัวเมายิ่ง เขาจุมพิตแผ่นหลังนางจนทั่ว ฝากรอยแดงเอาไว้แทบทุกตารางผิวองค์หญิงสิบสามแหงนใบหน้าหาเขา อ้าปากเย้ายวน หยางเอ้อหลางประกบปากของตนลงมาทันใด สองลิ้นพัวพันต่างคนต่างสูบลมหายใจซึ่งกันและกันแลกจุมพิตหวานฉ่ำรุนแรง ยิ่งจุมพิตยิ่งมัวเมาส่วนสะโพกบดเบียดและจ้วงแทงลงมาจากด้านหลัง นางบีบรัดเขาจนเขาต้องห่อปาก กระนั
หยางเอ้อหลางสัมผัสได้ถึงกลีบอวบอูมที่เต็มปากของตน น้ำหวานพรั่งพรูออกมา เขาสูดปากแรงๆ พร้อมดูดนางเต็มรัก นางบิดกายเร่งเร้า หยางเอ้อหลางหยอกเย้ากลีบนุ่มของนางจนอิ่มเอม ลิ้นร้อนของเขาห่อเป็นแท่งกระแทกเข้าไปในร่องลึก ไซร้สัมผัสกับปลายเกสรสีแดงที่สั่นระริกอยู่ที่ปลายลิ้น ก่อนจะดุนลิ้นตนเองลงมาหนักๆ จนภรรยาแทบจะแดดิ้นอยู่เบื้องล่างองค์หญิงสิบสามที่กำลังสติกระเจิงไปกับรสสวาทบัดนี้หาได้สนใจสิ่งใดไม่ นางยกสะโพกค้างให้เขาใช้ลิ้นรักนางอย่างเต็มที่ ความงดงามอวบอูมของภรรยาทำให้เขาฉ่ำเยิ้มเช่นกัน พูเนื้อของนางช่างเย้ายวนใจโดยแท้"ตรงนี้ของท่านงดงามมากรู้หรือไม่" เขากล่าวจบพลันสูดปากลากลิ้นแทงลงมาเต็มๆ องค์หญิงสิบสามกำเก้าอี้แน่น เขากำลังทำให้นางใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว"อ๊า ท่านพี่ อื้อ" นางครางไม่หยุดปากในขณะที่สามีละเลงลิ้นลากดุนวนไซร้ไปตามกลีบเกสร ดูดกลืนปลายสีแดงสดที่สั่นระริกเต้นเร้า หญิงงามที่กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่เบื้องหน้าดวงตาฉ่ำเยิ้มประดุจมีหมอกจาง ๆ อยู่ด้านในดวงตาคู่งามนั้นช่างยั่วยวนเขายิ่งนักเขาเงยหน้าเพ่งพิศที่เต้าคู่งาม ขยับกายว่องไวอ้าปากแล้วดูดรวบปลายถันไว้ในปาก ดูดแรงๆคล้ายกลั่นแกล
เขาเอ่ยเสียงพร่า พร้อมทั้งแลบลิ้นปาดเลียกลีบเกสรหอมหวานล้ำค่าของภรรยาอย่างเอร็ดอร่อยเมื่อเห็นภรรยาบิดกายร้อนรุ่ม อีกทั้งส่งเสียงครางแผ่วเบาออกมาหยางเอ้อหลางเร่งเติมเชื้อไฟสวาทด้วยการลากไล้นิ้วมือเรียวไปตามโคนขาอ่อนขาวเนียนแผ่วเบา ร่างงามสั่นสะท้านระทดระทวยเอนหลังพิงกำแพงเพื่อช่วยพยุงกายของตนไม่ให้ล้มลงด้วยพลังปลายลิ้นของเขา"ทะท่านพี่ อือ อือ"ปากงดงงามครางครวญ หยางเอ้อหลางยิ่งปลุกเร้าลงบนเนื้ออูมตรงหน้า ร่างของนางกระตุกบิดไปมาอีกทั้งยังอ้าขาของตนให้เขาดูดกินได้ลึกขึ้น จากเดิมที่หวังจะให้เขากระทำการอย่างว่องไวบัดนี้กลับไม่คิดจะเร่งรัดแล้ว ปล่อยให้เขากระทำการอ้อยอิ่งกับร่างกายของตนเองเช่นนี้โดยไร้ซึ่งสติเมื่อเห็นว่าตนเองจู่โจมภรรยาจนนางยืนไม่ติดแล้ว เขาจึงอุ้มนางขึ้นแล้วพานางมานั่งยังเก้าอี้บุขนแกะนุ่ม จับขาของภรรยาแยกออกให้พาดไปที่พนักเก้าอี้ทั้งสองข้าง เผยความงดงามสีแดงสดเบื้องหน้าอย่างเต็มที่ในเวลานี้เป็นเวลากลางวันจึงมองเห็นนางแจ่มชัดเต็มสองตาประตูด้านหน้าถูกปิดแน่นหนาชนิดที่เรียกว่าไม่อาจมีแม้แต่แมลงสักตัวที่สามารถเล็ดลอดเข้ามาได้ หยางเอ้อหลางจึงกระทำกับภรรยาอย่างหย่ามใจอีกทั้ง
คิดแล้วก็ต้องขอบคุณสามีเช่นเขา ทำให้ชะตาชีวิตของนางเปลี่ยนได้ดุจพลิกฝ่ามือนางจึงอดขยับกายจุมพิตปลายคางของเขาอย่างขอบคุณไม่ได้ อีกทั้งมือน้อยยังสอดเข้าไปในสาบเสื้อเพื่อสัมผัสความอบอุ่นด้านในอย่างแนบชิดแม้จะอยู่ในชุดคลุมที่มิดชิดจึงไม่มีผู้ใดเห็นการกระทำอุกอาจไร้ยางอายของนาง แต่หยางเอ้อหลางนั้นรับรู้อีกทั้งยังถูกนางลูบคลำอกของตนไปมาไม่หยุดเช่นนี้ ใบหน้าจึงแดงก่ำ สิ่งที่ควรอ่อนลงกลับผงาดแข็งกร้าวมากกว่าเดิมเพราะนางลูบไล้อกของเขาอีกทั้งซุกอยู่ในอ้อมกอด กลิ่นกายของนางก็หอมยิ่งหอมจนทำให้เขากลัวว่าผู้อื่นจะได้กลิ่นจนทำให้รู้สึกหึงหวงขึ้นมา เขากอดนางแน่นขึ้น เห็นสายตาทหารหลายคนแอบลอบมองภรรยาตนแล้วก็รู้สึกโมโหนัก กระนั้นก็ไม่อาจปัดเรื่องอยากกินนางในตอนนี้ออกจากสมองได้ หัวหน้าขันทีนำพวกสองสามีภรรยาไปยังตำหนักปีกรับรอง อีกทั้งยังรายงานกำหนดการต่าง ๆ ในพิธีแต่งตั้งองค์รัชทายาทอย่างละเอียดให้พวกเขาฟังหยางเอ้อหลางทั้งพยายามควบคุมตนเองจึงทำท่าสนใจข้อมูลที่หัวหน้าขันทีรายงาน แต่องค์หญิงสิบสามนั้นไม่สนใจฟังแม้แต่น้อย สามีพาทำสิ่งใดนางก็แค่ปฏิบัติตามเท่านั้น มือของนางจึงยังป้วนเปี้ยนอยู่แถวหัวนมเล
หยางเอ้อหลางพลันอมยิ้ม เขาชอบที่นางชอบเขาที่สุด แม้จะเป็นสิ่งของเขาก็อดหึงหวงไม่ได้กล่าวจบพลันนางโน้มคอเขาลงมาจุมพิตดูดดื่ม เนื้อตัวของนางนุ่มนิ่ม แม้จะมีบุตรถึงสองคนแล้วร่างกายหาได้เปลี่ยนแปลงไปเช่นสตรีอื่น ที่ควรมีก็มีมากขึ้น อีกทั้งยังตึงแน่นยิ่งกว่าเดิม นับวันเขายิ่งหลงใหลภรรยาจนทนแยกห่างจากนางนานๆ ไม่ได้ยามที่เขาห่างนางต้องไปทำงานต่างเมือง หลายครั้งที่มีสตรีมากมายพยายามปีนขึ้นเตียงส่งสายตาหวานเยิ้มให้ ในใจหยางเอ้อหลางมองพวกนางเหล่านั้นแล้วรู้สึกว่าช่างดูน่ารำคาญ ในสายตาของเขามีเพียงภรรยาผู้เดียวที่สำคัญยิ่ง เขาไม่มีวันชายตาแลสตรีอื่นให้นางน้อยเนื้อต่ำใจเป็นอันขาดองค์หญิงสิบสามเบียดกายเข้าหาเขา หยางเอ้อหลางใช้ผ้าห่มขนสุนัขจิ้งจอกห่อร่างเขาและนางเข้าด้วยกัน พันกายหนาแน่นด้วยกลัวว่านางจะต้องลมเย็นจากด้านนอกจนเจ็บป่วย ร่างกายของเขาแข็งแรง อึกทั้งยังอบอุ่นองค์หญิงสิบสามชอบซุกในอกแข็งแกร่งยิ่งมือของนางซุกซนล้วงเข้าไปในกางเกงเขาแล้วลูบอาวุธเขาเล่นจนผงาดแข็งชัน หยางเอ้อหลางปล่อยให้นางซนเสมอ นางชอบทำอะไรเขาล้วนตามใจโดยเฉพาะเรื่องนี้ เขายิ่งตามใจนางยิ่งกว่าเรื่องใด“ท่านพี่มันโตแล้ว”“
ผู้ช่วยหมอทำคลอดพลันเปิดประตูออกมา หยางเอ้อหลางไม่รอช้า ผลักประตูเข้าไปด้านในแม้คนจะทัดทานเขาก็ไม่สนใจแล้วเขาโผไปหาภรรยาที่เหนื่อยจนหมดสติไปแล้วอย่างว่องไว กุมมือนางไว้ด้วยใบหน้าซีดเซียว"หมินเออร์ ท่านเป็นอย่างไรบ้าง""องค์หญิงปลอดภัยดีเจ้าค่ะ เพียงแต่เหนื่อยมากจึงหลับไป"หมอหญิงผู้เก่งกาจประจำจวนเอ่ยขึ้น หยางเอ้อหลางพยักหน้าแต่ไม่วางใจ เขาดึงภรรยามากอดไว้ สำรวจร่างที่ยังเปียกชื้นด้วยเหงื่อของนางปากก็พร่ำขอโทษภรรยาที่ทำให้นางเจ็บปวดด้วยสำนึกผิดเป็นอย่างยิ่ง"ข้าจะไม่ให้ท่านท้องอีกแล้ว ขอสัญญา ข้าขอโทษ"ความเจ็บปวดของภรรยาในวันนี้ทำให้เขารู้สึกปวดร้าวยิ่ง เขาจะไม่มีวันยอมให้นางเป็นเช่นนี้อีกจวบจนแม่นมอุ้มก้อนแป้งอวบก้อนหนึ่งมาหาเขา หยางเอ้อหลางเห็นหน้าบุตรเป็นครั้งแรก พลันตื้นตันจวบจนน้ำตาจะไหล ความรู้สึกรักและผูกพันท่วมท้นในอก บัดนี้เขาเข้าใจลึกซึ้งแล้ว ว่าบิดามารดารักเขาเพียงใด เขาค่อย ๆ วางร่างภรรยาลงบนเตียงให้ท่านหมอดูแลเต็มที่ ส่วนตัวเองยื่นมือไปรับห่อผ้าสีแดงนั้นมาไว้ในอ้อมกอด"เป็นท่านชายเจ้าค่ะ" แม่นมเอ่ยด้วยความยินดี"ดีมาก ดีจริงๆ "หยางเอ้อหลางหัวเราะทั้งน้ำตาแล้ว ความตื้
กินเสร็จได้ไม่นาน องค์หญิงสิบสามกลับรู้สึกอยากอาบน้ำ"ท่านพี่นอกจากเขาจะเลือกกินแล้ว ยังรักสะอาดยิ่ง อากาศหนาวเช่นนี้ข้ากลับอยากอาบน้ำวันละหลายรอบ"หยางเอ้อหลางจึงสั่งอาชิงให้เตรียมน้ำอุ่น หลังจากนั้นเขากลับเป็นฝ่ายดูแลนางด้วยตนเอง ถอดอาภรณ์ให้นาง ค่อยๆ พานางลงอ่างอย่างระวัง ผิวขององค์หญิงสิบสามเปล่งประกายบอบบาง ส่วนข้อเท้าเนียนนุ่มเล็กๆ ของนาง ยิ่งไม่อาจรับร่างกายที่หนักอึ้งของครรภ์ได้ หยางเอ้อหลางจึงต้องระวังเป็นพิเศษอาบน้ำยังไม่ทันเสร็จ องค์หญิงสิบสามกลับรู้สึกถึงบางสิ่งที่ผิดปกติยิ่ง มีเลือดไหลออกมาจากช่องทางลับของนาง ก่อนที่ความรู้สึกเจ็บปวดจะวิ่งจากท้องน้อยถึงไขสันหลัง นางจับข้อมือของหยางเอ้อหลางแน่นห่อปากด้วยความเจ็บปวด"ท่านพี่ ข้าเจ็บ"เพียงเห็นเลือดที่เริ่มไหลออกมาปนกับน้ำในอ่าง เทพสงครามเช่นหยางเอ้อหลางแทบเป็นลมหมดสติยิ่งเห็นนางเจ็บปวดยิ่งรู้สึกคล้ายหายใจไม่ออก ช่วงท้องบิดมวน ปากร้องตะโกนให้อาชิงที่รออยู่ด้านนอกรีบตามหมอตำแยที่เขานำมาเลี้ยงดูในจวนตั้งแต่เดือนก่อนเพื่อเตรียมความพร้อมให้ภรรยาหยางเอ้อหลางตั้งใจจะอุ้มนางขึ้นจากอ่างน้ำ แต่กลับถูกองค์หญิงสิบสามทั้งข่วนทั้งตบตี