ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเมลลี่คือตัวร้ายในนิยายเรื่องนี้ แน่นอนว่าที่เมลลี่เติบโตไปเป็นคนร้ายกาจส่วนหนึ่งก็เพราะว่าโรวีนาที่ทำร้ายนางทั้งร่างกายและจิตใจ
แต่คงจะไม่มีเรื่องแบบนั้นอีกต่อไปแล้วเพราะว่าฉันคนนี้อยู่ที่นี่แล้วยังไงล่ะ นิยายเรื่องนี้ฉันไม่ได้อ่านแค่รอบเดียวเพราะแบบนั้นนี่มันง่ายมากในเรื่องการหาเงินและการดำเนินเรื่อง ฉันกระชับเสื้อคลุมของตัวเองให้แน่นหนามากกว่าเดิมก่อนจะรีบเดินไปยังลานประมูล ฉันไม่มีเงินสักเหรียญแต่ที่เข้ามาที่นี่ได้เพราะตราประทับของขุนนาง..โชคดีจริงๆ ที่โรวีนาไม่ได้เอามันไปจำนำหรือว่าขายเพื่อแลกกับการไปซื้อชุดเดรสสวยๆ ของนาง เรื่องความสวยไม่เถียงเลยเพราะว่าโรวีนางงดงามมากจริงๆ แต่เรื่องทักษะเอาตัวรอดโรวีนามีมันน้อยไปหน่อย สมบัติของอิไลมีมากมายแต่ถูกญาติและมารดาของอิไลเอาไปจนหมด อีกทั้งอิไล..ติดการพนันอย่างหนักในช่วงหลังๆ เขาเองก็ผลาญสมบัติของตระกูลตัวเองหลงเหลือเศษเงินเอาไว้ให้โรวีนานิดหน่อยแค่นั้น “เราจะเริ่มการประมูลชิ้นแรกกันเลยนะครับ..สร้อยเพชรสีชมพู..” เมื่อเริ่มเปิดลานประมูลก็เริ่มมีผู้คนแย่งชิงกันใส่ราคา เรื่องเครื่องประดับฉันไม่ได้สนใจอยู่แล้ว ในวันนี้มีของสิ่งหนึ่งที่จำเป็นที่ฉันจะต้องประมูลให้ได้ กฎของการประมูลคือหลังจากประมูลไปแล้ว24ชั่วโมงจะต้องเตรียมเงินมาจ่ายให้ครบโดยการนำตราขุนนางของตัวเองวางมัดจำเอาไว้ เมื่อหาเงินมาจ่ายครบถ้วนก็จะสามารถนำตราขุนนางของตัวเองกลับไปได้ เนื่องจากตราขุนนางนั้นสำคัญมากทีเดียวเพราะออกให้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เหล่าขุนนางหรือว่าผู้ประมูลไม่มีทางที่จะยินยอมสูญเสียตราขุนนางของตัวเองไปอย่างแน่นอน แบบนั้นแล้วจึงไม่มีใครประมูลเล่นๆ หรอก “ชิ้นต่อไปต้นมาเบียน..” เสียงที่เงียบกริบนั้นบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าไม่มีใครต้องการต้นไม้ที่มีฤทธิ์เย็นเช่นนั้นหรอก ยกเว้นอยู่คนหนึ่ง “10 เหรียญ” มุมปากของฉันหยักยิ้มขึ้นมาในทันทีที่มีคนเริ่มเปิดประมูล “12 เหรียญ” ฉันเอ่ยออกไปพร้อมกับยกป้ายขึ้นมา แน่นอนว่าอีกฝ่ายมองมาที่ฉันด้วยแววตาไม่พอใจเท่าไหร่นัก “20 เหรียญ” “50เหรียญ” “70....” “นี่ไม่ดีแล้วนะครับนายท่าน เราไม่สามารถสู้ราคาให้มากกว่านี้ได้แล้ว” เจโรมพ่นลมหายใจออกมาด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย เขามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องได้ต้นไม้นั้นไปปรุงยา แต่หากเกินราคา70เหรียญแล้ว มันจะมีปัญหาตามมามากมายหากเขาใส่ราคาเพิ่ม “เช่นนั้นแล้วเราไปขอซื้อต่อจากผู้ประมูลท่านนั้นดีไหมครับ ต้นไม้มีตั้งหลายต้นหากว่าเราขอซื้อในราคา50เหรียญเขาจะต้องยอมขายให้อย่างแน่นอน” “ปิดประมูลที่70เหรียญครับ” ดวงตาสีโทแพซมองไปยังสตรีที่กำลังสวมเสื้อคลุมสีดำ เขายกมือขึ้นลูบคางตัวเองเบาๆ แล้วมองการต่อสู้ของสตรีปริศนากับเจโรมแห่งเวลลิงตันที่กำลังแย่งชิงต้นไม้ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสนใจ แน่นอนว่าคราแรกฟลอยด์มาที่นี่เพื่อมาเที่ยวเฉยๆ แต่ในยามนี้ดูเหมือนว่าเขาจะพบเจอเรื่องน่าสนใจแฮะ ต้นไม้ที่มีราคาไม่ถึง30เหรียญแต่ทว่าในยามนี้ราคาของมันกลับพุ่งขึ้นสูงไปถึง70เหรียญได้ เขามั่นใจว่าทุกคนในลานประมูลแห่งนี้จะต้องสงสัยเหมือนกับที่เขาสงสัยอย่างแน่นอน “ใครกันนะ สตรีที่ทำให้ลานประมูลแห่งนี้ปั่นป่วนขึ้นมา..” เมื่อมีการกล่าวปิดจบการประมูลการประมูลต้นมาเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ลุกขึ้นในทันทีเพื่อเดินไปยังที่ทำการของการประมูล “ขอโทษนะครับ ผมเป็นผู้ที่แข่งขันการประมูลกับเลดี้เมื่อครู่นี้ ทางเรามีความจำเป็นอย่างมากในการที่จะต้องใช้ต้นมาเบียนเพื่อทำยา หากไม่เป็นการรบกวนมากจนเกินไปเลดี้สามารถแบ่งขายต้นมาเบียนให้ข้าสักหน่อยได้ไหมครับ” เจโรม เวลลิงตันนักเวทที่เก่งกาจที่สุดในจักรวรรดิ อีกทั้งยังพ่วงตำแหน่งของเจ้าของโรงพยาบาลกว่าสิบแห่งในจักรวรรดิอีกต่างหาก เท่าที่จำได้ยูนีกบอกกล่าวออกมาว่านางไปตามหมอแต่เพราะไม่มีเงินหมอพวกนั้นเลยไม่ตามมารักษาโรวีนาที่อยู่ในสภาพเจียนตาย บอกตามตรงหากว่ามีทางเลือกแล้วละก็ ฉันไม่มีความคิดที่จะขายของสิ่งนี้ให้กับหมอนี่อย่างเด็ดขาด แต่เพราะการเงินของเรากำลังอยู่ในช่วงวิกฤติแบบสุดๆ “เรื่องนั้นข้ามีน้ำใจอยู่แล้วค่ะ อันที่จริงปริมาณของต้นมาเบียนนั้นมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ..หากว่าท่านต้องการข้ายินดีที่จะแบ่งปันให้อยู่แล้ว” เจโรมพ่นลมหายใจยาวเหยียดออกมาด้วยความโล่งใจ “เช่นนั้นเราแยกไปพูดคุยกับเรื่องราคาดีกว่านะครับ เลดี้ต้องการขายในราคาเท่าไหร่กัน ข้ายินดีรับซื้อ..” เพราะใส่วิกอีกทั้งยังสวมเสื้อคลุมนั่นทำให้ฉันมั่นใจว่าจะไม่มีใครจดจำโรวีนาได้อย่างแน่นอน “80 เหรียญต่อมาเบียนหนึ่งต้นค่ะ..ข้าคือนักเดินทางที่ท่องไปทั่วจักรวรรดิ อีกทั้งนี่คือต้นมาเบียนที่วิเศษมากกว่าต้นอื่นเพราะมันถูกส่งมาจากทางเหนือ ต้นมาเบียนจากทางเหนือนั่นถูกตัดจนหมดแล้ว ถึงแม้ว่าทางใต้จะมีต้นมาเบียนเหมือนกันแต่คุณภาพห่างชั้นจากทางเหนือมากทีเดียว ข้ามาที่นี่เพื่อประมูลต้นมาเบียนไปให้นายท่านของข้าที่เป็นพ่อค้าคณะละคร..” เจโรมกลืนน้ำลายลงคอที่แห้งผากของเขา พร้อมกับกำมือแน่น “80เหรียญ..นั่นมันมากกว่าราคาที่ท่านประมูลอีกนะครับ” เขาจะซื้ออย่างแน่นอนเพราะว่าเขาให้คำมั่นเอาไว้ว่าจะต้องรักษาสตรีผู้หนึ่งให้หาย..และต้นมาเบียนจากทางเหนือคือส่วนประกอบที่สำคัญที่สุด “ข้าบอกท่านไปแล้วว่าข้าไม่ใช่เจ้าของตัวจริง นายท่านของข้าจะขายมันในราคา100เหรียญอย่างแน่นอน และที่น่าประหลาดมากกว่านั้นคือผู้คนจะแย่งชิงกันซื้อเมื่อมันถูกวางขายในคณะละคร..” เจโรมกำมือแน่นอย่างเหลืออด เขาพยายามปกปิดมานานมากและทำการผูกขาดต้นมาเบียนเพียงผู้เดียวที่นี่เพื่อไม่ให้มีใครล่วงรู้ราคาและความสรรพคุณที่แท้จริงของมัน “นายท่านของข้ากำลังเดินทางมาที่นี่และ..เขาจะมาวางขายต้นมาเบียนที่ประมูลได้ในคืนนี้ที่เมืองหลวงแห่งนี้อย่างแน่นอนค่ะ อีกทั้งคณะละครของเรามีการแปรรูปต้นมาเบียนเป็นยาด้วย..และมีการสอนทำยารักษาโรคกามจากต้นมาเบียน..เมื่อถึงเวลานั้นโรงพยาบาลของท่านคงจะว่างเปล่าไปหมดเพราะมียาที่สามารถรักษาโรคที่ท่านบอกว่ามันรักษาไม่ได้..” นี่คงเป็นครั้งแรกที่เจโรมรู้สึกโกรธมากจริงๆ เราร่ำรวยแต่มันมีเหตุผลที่เขาไม่สามารถประมูลแข่งขันกับสตรีผู้นี้ได้อย่างออกหน้าออกตาเพราะเขาต้องการปิดบังมูลค่าที่แท้จริงของมัน “..ช่วยคิดราคาเหมาทั้งหมดให้ข้าด้วยครับ..ข้าจะซื้อต้นมาเบียนทั้งหมดต่อจากเลดี้เอง” ริมฝีปากของโรวีนาแสยะยิ้มออกมา “ต้องอย่างนั้นสิ..เราถึงจะได้พูดคุยกันง่ายหน่อย” เป็นไงล่ะ..ไอ้เจ้าของโรงพยาบาลที่เห็นแก่เงินเจอคนเห็นแก่เงินมากกว่ารู้สึกยังไงบ้างล่ะโว้ย!!ที่เจโรมใส่ราคาประมูลแข่งอย่างโจ่งแจ้งไม่ได้เพราะว่าเขาไม่ต้องการให้มีใครล่วงรู้ถึงมูลค่าที่แท้จริงของต้นไม้ชนิดนี้..ฟลอยด์แค่นหัวเราะเมื่อเขาลอบมองใบหน้าที่อยู่ภายใต้เสื้อคลุมนั้น สตรีใดกันที่เจ้าเล่ห์และกล้าที่จะเล่นกับคนอย่างเจโรมกันนะชักจะน่าสนใจแล้วละสิ..“ข้าต้องการข้อมูลของสตรีผู้นั้นทั้งหมด ไปตรวจดูจากตราขุนนางที่นางใช้วางหลักประกันเอาไว้หน่อยสิ”ไมเนอร์พยักหน้าเพื่อเป็นการรับรู้ เขาเลี่ยงไปอีกทางเพื่อไปหาข้อมูล___“หวังอย่างยิ่งว่าเจ้าจะรักษาคำพูด หากว่าในคาราวานคณะละครสัตว์ของเจ้ายังมียาที่สามารถรักษาโรคกามมาขาย ..รับรองได้เลยว่าพวกเจ้าแม้แต่คนเดียว จะไม่ได้มาเหยียบที่เมืองหลวงในจักรวรรดิอีก”โรวีนาก้มหน้าลง“ด้วยเกียรติของพ่อค้า รับเงินมาแล้วย่อมไม่ผิดสัญญา”ตระกูลเวลลิงตันคือตระกูลที่ร่ำรวยมาจากกิจการโรงพยาบาลที่ขยายสาขาอำนาจอย่างรวดเร็ว หมอที่เรียนจบใหม่ล้วนแล้วแต่ได้ทุนจากโรงพยาบาลของเวลลิงตันทั้งนั้น มันคือธุรกิจที่ผูกขาดอย่างสมบูรณ์ในจักรวรรดิแห่งนี้ ส่วนคนจนที่ไม่มีเงิน แน่นอนว่าก็จะไม่ได้รับการรักษาวันนี้..ฉันทำอะไรเขาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แต่การหลอกเอาเงินก้อนใหญ่มาจ
ชีวิตไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คิดเอาไว้ และฉันเองก็ยังอยากให้เมลลี่มีชีวิตในฐานะเลดี้ชนชั้นสูงต่อไปไม่ว่าอย่างไรฉันจะต้องรักษา บรรดาศักดิ์ยศท่านเคาน์ซารังต์เอาไว้ให้ได้“หากอยากแต่งงานก็จะต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงสิคะท่านเคาน์เตส จริงอยู่ที่ชื่อเสียงของท่านไม่สู้ดีเท่าไหร่นักแต่เหล่าบุรุษพวกนั้นย่อมอยากเป็นท่านเคาน์ด้วยกันทั้งนั้น”อารีเอนกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มให้แก่โรวีนา เธอไม่ชอบใจความงดงามที่เจิดจรัสนั้นเท่าไหร่นัก แต่ก็ปฏิเสธเสน่ห์อันล้นเหลือของเคาน์เตสซารังต์ไม่ได้เลย เธอไม่ชอบที่ท่านเคาน์เตสมีความงดงามมากกว่าเธอ แต่ก็ดันหลงใหลไปกับความงามนั้นจนน่าหงุดหงิดนี่ฉัน..มาปรึกษาเรื่องสำคัญผิดคนรึเปล่านะ ฉันมองเห็นแววตาที่ไม่เป็นมิตรผ่านสายตาของเลดี้แรนเซล แต่นั่นก็ไม่เป็นอะไรหรอก คนอย่างโรวีนาเองก็ไม่ใช่คนดี จริงอยู่ที่ก่อนหน้าที่จะคลอดเมลลี่ โรวีนาไม่มีชู้และไม่เคยชายตามองบุรุษคนไหน แต่ทว่าหลังจากที่คลอดเมลลี่ออกมา เธอกลับลักลอบมีชู้กับบุรุษที่พึงใจ โรวีนาเป็นพวกเกลียดชังบุรุษที่หน้าตาดีเพราะว่าอิไลนั้นหล่อเหลาและนางชอบอิไลเพราะความหล่อเหลากับความอ่อนโยนของเขาในใจจึงจดจำและฝังใจถึงเรื่องนั้น
ในขณะที่โรวีนากำลังจะลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่กำลังนั่งอยู่ หางตาของเธอก็เหลือบไปเห็นใบหน้าของบุรุษผู้หนึ่งซึ่งกำลังยืนมองเธอด้วยอย่างชั่งใจเขาไม่กล่าวคำใดออกมาแม้แต่ครึ่งคำแต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้ลมหายใจของฉันติดขัดรู้สึก..เหมือนกับว่าตัวเองกำลังจะเป็นลมเลย นี่คืออาการในตอนที่ได้พบเจอดาราคนโปรดหรือแม้กระทั่งศิลปินที่ชื่นชอบ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าน้ำตาตัวเองมันกำลังรินไหลออกมาด้วยรึเปล่า ไม่รู้แม้กระทั่งว่าในยามนี้ฉันกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่..“สายัณห์สวัสดิ์ครับเคาน์เตสซารังต์..”คำกล่าวทักทายนั้นทำให้บรรยากาศรอบๆ ตัวของเราทั้งคู่ผ่อนคลายลงเล็กน้อย หากว่าฉันมองไม่ผิด ฉันคิดว่าตัวเองมองเห็นแววตารังเกียจของท่านดยุคไม่เป็นไรหรอก นี่คือเรื่องปกติเพราะวีรกรรมของโรวีนาใช่ย่อยซะที่ไหน สตรีที่นอกใจสามีแล้วหันไปคบหากับชายชู้ ทอดทิ้งและทำร้ายลูกสาวของตัวเอง..จนในยามนี้สถานการณ์ของโรวีนาคนนั้นกำลังจะไม่มีคฤหาสน์ซุกหัวนอนด้วยซ้ำไม่แปลกหรอกหากว่าเขาจะเกลียดชังเธอน่ะ“สายัณห์สวัสดิ์ค่ะท่านดยุค..”เสียงนี้อีกแล้ว ช่วงเวลาที่สตรีเบื้องหน้าของเขากล่าวคำทักทายออกมานั้นริมฝีปากของเธอจะเหมือนกับปีกนกที่กำลัง
ฉันไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ แต่รู้ตัวอีกทีฉันก็เดินเข้ามาในงานเลี้ยงพร้อมกับท่านดยุคฮาสคลาวซะแล้ว แน่นอนว่าสายตาของเหล่าสตรีที่มองมานั้นราวกับต้องการจะแผดเผาฉันทั้งเป็นให้ได้ ก็แน่ล่ะนี่คือบุรุษที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีอันดับหนึ่งของจักรวรรดินะ จะไม่ให้พวกนางแค้นได้อย่างไรกัน “ไม่ยักรู้เลยนะคะว่าเคาน์เตสจะควงท่านดยุคฮาสคลาวเข้ามาในงานเลี้ยง..ไม่อย่างนั้นฉันคงมาพร้อมกับท่านเคาน์เตสแล้วค่ะ” อารีเอนกล่าวพร้อมกับส่งยิ้มพิมพ์ใจให้ฟลอยด์ “อ่า..เราไม่ได้มาด้วยกันค่ะ พอดีว่าฉันนั่งอยู่ในสวนและได้พูดคุยกับท่านดยุค ..หัวใจของฉันนั้นเต้นแรงราวกับว่าตัวเองกำลังตกหลุมรัก เราไม่เคยพูดคุยทำความรู้จักกันมาก่อนเพราะแบบนั้นแล้วพอได้ลองเปิดใจก็พบว่าท่านดยุคและฉันนั้นมีหลายๆ อย่างที่คล้ายคลึงกัน..ใช่ไหมคะ” ฉันหันไปมองหน้าฟลอยด์พร้อมกับเลิกคิ้วขึ้นเพื่อให้เขาตอบรับ “..ครับ ตามที่เคาน์เคสว่ามาเลย” “...เหรอคะ ดีจังเลยนะคะ” อ้าก!! หมั่นไส้ชะมัดเลย เกิดมาสวยแล้วยังคว้าท่านดยุคที่สตรีทุกคนในจักรวรรดิหมายตาไปเป็นคู่ควงอีกงั้นเรอะ ฉันไม่ควรแนะนำให้เคาน์เตสมาที่งานนี้เลยแม้แต่น้อย ไม่ควรบอกนา
“อย่างนั้นเองสินะ ขออภัยด้วยนะครับเคาน์เตส ข้าคงจะจำคนผิด..สตรีชั่วช้าที่อาจหาญกล้าหลอกเงินข้าจะมายืนอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรกัน เป็นข้าเองที่เลอะเลือนไปชั่วขณะ..”น้ำเสียงของเขานั้นหนักแน่นพร้อมกับเน้นย้ำที่ประโยคสำคัญ แต่แน่นอนว่ารอยยิ้มแสนงดงามที่ดูเหมือนกับดอกไม้กำลังผลิบานของฉันไม่ได้เปลี่ยนไปเลย การค่อนแคะเล็กๆ น้อยๆ นี่ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก“ไม่เป็นค่ะท่านเคาน์ ข้าเข้าใจว่าคนเรานั้นสามารถทำเรื่องผิดพลาดกันได้ แต่ไม่ยักรู้เลยนะคะว่าท่านเคาน์ถูกสตรีหลอกลวง..ให้ตายสิท่านเองก็เป็นบุรุษที่หลงใหลในความงดงามเหมือนกันอย่างนั้นสินะคะ”น้ำเสียงของโรวีนานั้นอ่อนละมุนราวกับว่ากำลังมีมือมาแตะลงบนบ่าของเจโรม และนั่นไม่ได้ช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นเลยพับผ่าสิ เขาอยากจะฉุดรั้งข้อมือเล็กๆ ของสตรีผู้นี้แล้วพานางไปคุยในที่ที่เป็นส่วนตัวมากกว่านี้เพื่อหาข้อสรุปว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างที่เขาสงสัยรึเปล่า เธอคือสตรีในคืนนั้นหรือไม่ เขาจะทำทุกอย่างเพื่อให้ปากเล็กๆ นั่นอ้าออกมาบอกเล่าความจริง..“ข้าเหนื่อยแล้วล่ะ เห็นทีว่าข้าคงจะต้องขอตัวกลับก่อนนะเจโรม..ถึงแม้จะยังอยากเล่นสนุกอยู่ที่นี่ต่ออีกหน่อย แต่ทว่าข้าอยา
“จะแต่งงานใหม่อย่างนั้นหรือคะท่าน เคาน์เตส..”ยูนีกเอ่ยถามเมื่อโรวีนาเริ่มลงมือหาเอกสารของอิไล มันถึงเวลาที่จะต้องไปแจ้งแก่ทางการได้แล้วว่าเขาได้ตายจากชีวิตของโรวีนาและตายจากโลกนี้ไปแล้ว หากไม่ตายเขาควรจะกลับมาหาภรรยาและลูกสาวของเขาสิ..แต่นี่สามปีแล้วเขายังไม่กลับมานั่นหมายความว่าเขาตายไปแล้ว หรือไม่ก็..เขาไม่ต้องการโรวีนาและลูกสาวอีกต่อไป“อืม..ข้าปล่อยให้ทางการมาเรียกคืนบรรดาศักดิ์ของเมลลี่ไม่ได้หรอก..เมลลี่ของข้าจะต้องเติบโตขึ้นมาในฐานะเลดี้ของตระกูลซารังต์ที่แสนร่ำรวย..”ฉันตอบคำถามของยูนีกด้วยรอยยิ้ม และนั่นทำให้ยูนีกได้แต่ถอนหายใจออกมา..“ขอแค่ชายผู้นั้นไม่ทำร้ายและเป็นคนดีก็พอค่ะ..”เธอรู้รสนิยมความชอบของท่านเคาน์เตสดี เรื่องหน้าตานั้นตัดทิ้งไปได้เลย ท่านเคาน์เตสไม่ชอบบุรุษรูปหล่ออีกทั้งไม่มีทางที่สามีคนใหม่ของท่านจะเป็นขุนนาง..คราวนี้เป็นใครกันนะ คนสวนหรือว่าชาวไร่กัน“รถม้าของตระกูลฮาสคลาวเดินทางมาถึงแล้วค่ะท่านเคาน์เตส”โรวีนาพยักหน้าเมื่อสาวใช้คนใหม่เดินเข้ามาแจ้งข่าว“มีธุระอะไรที่คฤหาสน์ฮาสคลาวอย่างนั้นหรือคะท่านเคาน์เตส..?”เธอมองยูนีกด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสุข“ข้าจ
สมาชิกในครอบครัวที่เพิ่มขึ้นอย่างนั้นหรือ? คาเรนมองหน้าของท่านพ่อด้วยแววตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง มุมปากของเด็กน้อยโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม..เขาเองก็สามารถมีครอบครัวได้เหมือนกัน“เอาล่ะคาเรน ถึงเวลาที่ลูกจะต้องไปอยู่กับไมเนอร์เป็นการชั่วคราวแล้ว เพราะว่าพ่อและท่านแม่คนใหม่ของลูกนั้นมีเรื่องมากมายที่จะต้องพูดคุยกัน..”นี่คงเป็นครั้งแรกที่คาเรนไม่อยากปล่อยมือออกจากมือของท่านพ่อเลย เขาอยากจะอยู่กับท่านพ่อและท่านแม่คนใหม่ให้มากกว่านี้“ไม่เป็นไร หลังจากที่พ่อและแม่คุยกันจบแล้ว..พ่อย่อมยินยอมให้เจ้าและท่านแม่ทำความรู้จักกัน..”เมื่อได้ยินถ้อยคำที่ยืนยันหนักแน่นเช่นนั้นแล้วคาเรนก็ยิ้มออก เขาปล่อยมือออกจากมือของท่านพ่อและยินยอมเดินตามไมเนอร์ไปถึงแม้ว่าสายตาของเขาจะยังคงจับจ้องที่ใบหน้าของท่านแม่คนใหม่อยู่ก็ตามที“ลูกชายของท่าน..เขา..น่ารักมากๆ เลยค่ะ ให้ตายสิเขาดูเหมือนกับท่านในช่วงเวลาที่ท่านกำลังย่อส่วนอยู่เลย..”รอยยิ้มของโรวีนาแข็งค้างอยู่บนใบหน้าของเธอเมื่อเธอตระหนักได้ว่าตัวเองพูดเรื่องที่ไม่สมควรพูดออกไป เธอไม่ควรชมเชยรูปลักษณ์ของท่านดยุคและคาเรน เรื่องเช่นนี้มันละเอียดอ่อนมากไปหน่
“ชื่อคาเรนสินะคะ ลูกสามารถเรียกแม่ว่าแม่ได้เลยน้า..อันที่จริงแม่เองก็มีลูกสาวที่น่ารักคนหนึ่งเหมือนกัน การเป็นลูกคนเดียวมันเหงามากใช่ไหมล่ะ จากนี้ไปคาเรนจะมีพี่สาว ส่วนเมลลี่ก็จะมีน้องชายที่แสนน่ารัก..”คาเรนยกยิ้มขึ้นมา เขาพยักหน้าตามคำบอกเล่าของท่านแม่ มือของเขานั้นจับมือของท่านแม่โรวีนาเอาไว้ไม่ยอมปล่อยจริงอยู่ที่ท่านพ่อรักเขามากแต่ความรักนั้นมันมักจะมาในรูปแบบของสิ่งของมากกว่าเวลา งานของท่านพ่อยุ่งมากพอสมควร ทำให้เขาและท่านพ่อไม่ได้ใช้เวลาร่วมกันสักเท่าไหร่“ข้า..ชอบท่านแม่ครับ และข้าอยากมีพี่สาว พี่เมลลี่จะต้องสวยเหมือนท่านแม่แน่ๆ เลย”โรวีนาพยักหน้าเร็วๆ“ลูกเองก็งดงามและเจิดจรัสเหมือนท่านพ่อมากเลยนะคาเรน จากนี้ไปก็ขอฝากตัวด้วยนะ”อยากอุ้มกลับไปที่ซารังต์ด้วยชะมัด อยากพาคาเรนไปหาเมลลี่ อยากพาเด็กทั้งสองคนไปทำความรู้จักกันตามเนื้อเรื่องเดิมคาเรนคือพระเอก ส่วนเมลลี่คือตัวร้าย..แต่เมลลี่ไม่ใช่ตัวร้ายที่มาชอบพระเอก แค่นางมีปมในใจและต้องการทำลายนางเอกที่ได้รับความรักจากทุกคนเท่านั้นเอง..อันที่จริงคนแรกที่เมลลี่สังหารคือโรวีนา มารดาของนาง..แต่เรื่องแบบนั้นจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ท่
“หนังสือมาส่งแล้วครับ..”เจ้าของร้านหนังสือรีบออกมารับหนังสือที่ถูกส่งมาในทันที นี่คือหนังสือเดินทางที่ขายดีมากๆ ในช่วงนี้ ไม่ว่าเขาจะสั่งมาขายมากแค่ไหนก็ไม่สามารถเพียงพอต่อความต้องการของผู้คนได้เลยเจ้าของหนังสือคือบุรุษผู้หนึ่งที่เขียนแทนตัวเองว่าเมล เขาเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วทุกดินแดน แล้วเขียนเรื่องเล่ามากมายพร้อมแนบรูปวาดมาในหนังสือด้วย การเขียนที่สนุกเหมือนกับได้ฟังนักเล่าเรื่องเล่า และรูปวาดที่สวยงามเหมือนกับได้มองสถานที่ที่ถุกกล่าวถึงด้วยสายตาของตัวเอง มันยิ่งยกระดับให้หนังสือเล่มนี้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น“รีบๆ ยกเข้ามาได้เลย..แล้วสั่งเพิ่มมาอีกสองร้อยเล่มนะ ชาวเมืองชอบหนังสือการเดินทางนี้มากเลย..”เด็กส่งหนังสือก้มหน้าขอบคุณ“ได้เลยครับนายท่าน..”เพียงแค่วางหนังสือพวกนั้นที่หน้าร้าน ผู้คนมากมายก็เดินทางเข้ามาจับจองหนังสือกันอย่างคับคั่งเมลลี่กำลังยืนมองหนังสือของตัวเองที่ถูกขายออกอย่างรวดเร็ว เธอยกยิ้มด้วยความดีใจก่อนจะสวมหมวกเพื่อปิดบังใบหน้าเธอออกเดินทางครั้งแรกตั้งแต่ตอนอายุสิบห้า มันคือการออกเดินทางไปที่แกรนด์ดัชชีแมทสันกับท่านตา และหลังจากนั้นเธอก็พบกับท่านลุงอาเดน พี่ชาย
“นี่มันอะไรกันอาริ?”โรวีนาเอ่ยถามด้วยความไม่เข้าใจเมื่ออารีเอนส่งบัตรเชิญมาให้เธอ มันเป็นบัตรเชิญการแต่งงานระหว่างอาริเอนและลอร์ดเวนสัน เธอไม่คิดว่ามันจะกะทันหันมากขนาดนี้ นี่ทั้งสองคนไปตกหลุมรักกันตอนนี้ก่อน“กับบางคน ที่ใช่มันจะใช่เลยโรวี่ ท่านบาทีอัสนั้นไม่เรื่องมาก ท่านเป็นคนดี ไม่นอกใจและยกเรื่องเงินทั้งหมดในเวนสันให้ฉันเป็นผู้จัดการ ท่านบอกเกี่ยวกับการใช้ชีวิตสามีภรรยาของเราเอาไว้อย่างชัดเจน ท่านไม่ใช่คนขี้หึงและไม่มีเหตุผล แต่ท่านก็ห้ามไม่ให้ฉันไม่ร่วมงานเลี้ยงโดยที่ไม่มีท่านไปด้วย ท่านยินดีจะไปงานเลี้ยงทุกงานที่ฉันอยากไป และหากว่าเรามีลูกจะใช้ชื่อตระกูลเวนสันก่อน ส่วนลูกคนที่สองจะใช้ชื่อตระกูลแรนเซล โรวี่..เจ้าคิดว่ามีกี่คนกันที่คุยเรื่องการแต่งงานชัดเจนมากขนาดนั้น ฉันคิดว่าฉันหาพ่อของลูกเจอแล้วเพราะแบบนั้นก็เลยตกลงแต่งงานกับเขาในทันที”โรวีนายกมือขึ้นมานวดขมับเบาๆ ส่วน เบียงก้าเธอกำลังหัวเราะอยู่“เรื่องนั้นก็สมกับที่เป็นอารินะคะ ขอให้อาริมีความสุขมากๆ กับการแต่งงานในครั้งนี้”เบียงก้าหย่ากับบารอนลัคเน่แล้ว ตอนนี้นางคือมาดามเจ้าของร้านตัดเสื้อเท่านั้น ไม่ใช่ชนชั้นสูงหรือว่าบ
ฟลอยด์กุมมือของโรวีนาเอาไว้ เขามองท่านพ่อตาที่กำลังอุ้มลูกสาวของเราอยู่ ก่อนจะส่งยิ้มให้ท่าน..“มีใครจะขัดขวางงานแต่งในครั้งนี้ของข้าอีกรึเปล่า หากมีก็ก้าวเท้าออกมาได้เลย!!”เขาตะโกนออกมาเสียงดังลั่นเพื่อให้ทุกคนได้ยินหลังจากที่ทหารของพระราชคุมตัวของอิไลออกไปแล้วเจโรมมองฟลอยด์และโรวีนาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขาแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ ราวกับไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเลย แผนการของเขาล้มเหลวไม่เป็นท่าเพราะถูกฟลอยด์อ่านแผนการออกจนหมด นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน ที่ฟลอยด์จะงัดหลักฐานการหย่าและหลักฐานการจดทะเบียนสมรสของเขาออกมา เขาเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าเป็นอย่างดีขัดขวางไม่ได้จริงๆ สินะ งานแต่งในครั้งนี้ เขาไม่สามารถดึงรั้งสตรีผู้นั้นมาอยู่ข้างกายได้เลยจริงๆ ..เขาแพ้แบบไม่เป็นท่าเลย พ่ายแพ้แบบที่ไม่ได้เฉียดเข้าใกล้โรวีนาแม้แต่นิดเดียว คู่แข่งของเขานั้นน่ากลัวมากจริงๆ“ท่านเคาน์เวลลิงตันครับ นี่เป็นเช็คเงินสดที่ท่านดยุคฝากมาให้พร้อมกับจดหมายครับ”ไมเนอร์เดินเข้าไปส่งมอบของที่ท่าน ดยุคสั่งให้เขาจัดเตรียมเอาไว้ ให้แก่ท่านเคาน์เวลลิงตันเจโรมเปิดจดหมายออกก็พบว่าในจดหม
คาดินันกระแอมออกมาเบาๆ เพราะว่าในยามนี้ท่านดยุคและท่านดัชเชสกำลังแสดงความรักที่มากมายต่อกัน ซึ่งมันอาจจะทำให้เขาทำหน้าที่ต่อไปได้อย่างลำบากโรวีนาละริมฝีปากออกจากกลีบปากของฟลอยด์ด้วยความนึกเสียดาย เธอส่งยิ้มให้เขาก่อนที่เราจะกอบกุมมือกันแน่น“พิธีสาบานของคู่บ่าวสาวทั้งสองเสร็จสิ้นแล้วครับ มีใครจะคัดค้านการแต่งงานในครั้งนี้รึเปล่า? ..”นั่นคือสิ่งที่ฟลอยด์กังวล เขาปรายสายตามองไปที่ยังที่นั่งของแขกที่มาร่วมงาน ราวกับกำลังรอคอยบางอย่างอยู่“ข้าขอคัดค้านการแต่งงานในครั้งนี้ครับ!!..”เจโรมแสยะยิ้มออกมาเมื่ออิไลแสดงตัวในการคัดค้านการแต่งงานครั้งนี้ตามแผนการที่เขาวางเอาไว้ แน่นอนว่าฟลอยด์ไม่ได้คิดยินยอมให้อิไลเข้ามาในงานนี้โดยง่าย รอบๆ วิหารศักดิ์สิทธิ์นั้นเต็มไปด้วยทหารของฮาวคลาวที่กำลังเฝ้าประตูเพื่อตรวจสอบแขกที่เข้ามา หากว่าเขาไม่ให้อิไลปลอมตัวมาก็คงไม่มีทางเข้าในนี้ได้อย่างแน่นอนและเมื่ออิไลซึ่งเป็นสามีเก่าของโรวีนาแสดงตัวออกมา เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นในทันทีท่านดยุคแมทสันจับดาบที่เอว เขาตั้งใจว่าจะพุ่งเข้าไปจัดการ อิไลให้สาสมกับที่ไอ้คนสารเลวนั่นทำให้ลูกสาวของเขาเจ็บปวด แต่ทว่าไมเนอร์จับมื
ฉันกำลังนั่งอยู่ที่ด้านหน้ากระจกเงาบานใหญ่ ในห้องแต่งตัวภายในวิหารศักดิ์สิทธิ์ที่ทั้งหรูหราและคุ้นตาเอาซะเลย สาวใช้จากพระราชวังสามารถทำงานของพวกนางได้อย่างคล่องแคล่วจนน่าตกใจ ในเวลาไม่นานการแต่งกายที่แสนยากลำบากก็เสร็จสิ้นลง มีชุดที่ต้องสวมทับหลายชั้นมากๆ ชุดแต่งงานของดัชเชสนั้นยุ่งยากมาทีเดียว จะต้องสวมกระโปรงที่มีโครงด้านในเพื่อให้กระโปรงบานออกและเป็นรูปทรงที่สวยงาม อีกทั้งยังต้องสวมใส่คลอเซ็ตเพื่อรัดเอวที่เล็กอยู่แล้วในคอดกิ่วยิ่งกว่าเดิม และยังมีการดันทรงชุดชั้นในเพื่อให้เนินอกโผล่พ้นออกมานอกชุดเล็กน้อย แต่การพยายามอย่างหนักของสาวใช้ก็ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นคุ้มค่า ภาพที่สะท้อนในกระจกดูเหมือนกับเทพธิดาที่งดงามราวกับไม่มีอยู่จริง จากเดิมที่โรวีนานั้นงดงามมากๆ อยู่แล้ว แต่ในยามนี้ดูท่าว่าผู้ที่พบเห็นใบหน้านี้ของเธอจะต้องจดจำความงดงามนี้ไปตลอดแน่ๆ“เสร็จเร็วกว่าที่คิดเอาไว้อีกนะโรวี่..”ท่านพ่อของเธออยู่ในชุดดยุคเต็มยศ ท่านแย้มยิ้มออกมาด้วยความอารมณ์ดี..“ลูกงดงามมากจริงๆ ให้ตายเถอะ..ลูกเหมือนกับนางฟ้าตัวน้อยๆ เลย”นางฟ้าตัวน้อยงั้นเหรอ? ทั้งๆ ที่เธอโตมากพอที่จะมีลูกและมีสามีแล้วแต่
“ไม่มีเรื่องอะไรที่จะต้องเป็นกังวลนะครับคุณหนู แค่ท่านยิ้มออกมา แล้วโปรยดอกไม้ไปตามทางเดินเท่านั้นเอง..ท่านดัชเชสจะต้องดีใจมากๆ ที่คุณหนูเป็นผู้โปรยดอกไม้ตามทางเดินของท่าน”โลแวนกำลังให้กำลังใจคาเรนที่แสดงท่าทีประหม่า เขารู้มาว่าคุณหนูตัวน้อยไม่เคยออกงานหรือว่าอยู่ในที่ที่คนเยอะๆ มาก่อน เพราะแบบนั้นจึงหลีกเลี่ยงอาการตื่นเต้นและประหม่าของเด็กชายอายุห้าขวบไม่ได้“...ท่านแม่..จะดีใจมากๆ เลยใช่ไหมโลแวน หากท่านแม่เห็นข้ากำลังโปรยดอกไม้”โลแวนพยักหน้า“เพราะว่าคุณหนู..คือแก้วตาดวงใจของท่านดัชเชสไงครับ วันนี้คือวันที่ท่านดยุคและท่านดัชเชสแต่งงานกัน วันที่ทั้งสองท่านจะประกาศให้ทุกคนล่วงรู้ว่าทั้งสองท่านเป็นครอบครัวเดียวกันโดยสมบูรณ์..”คราแรกที่ท่านดัชเชสบอกกับเขาว่างานของเขามันคือการเป็นพี่เลี้ยงเด็ก บอกตามตรงว่าโลแวนกังวลมากๆ เพราะเขากับเด็กไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ เขาเติบโตมาในเส้นทางที่เปียกปอนไปด้วยเลือด ต้องต่อสู้เท่านั้นถึงจะมีชีวิตรอด ต้องดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองได้หายใจต่อไป..แล้วเขาจะมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กได้ยังไงกันแต่เมื่อเขาได้พบเจอคุณหนูทั้งสอง มันเหมือนกับว่าโลแวนได้พบเจอนางฟ้าและเทพบุต
“ดูเหมือนว่าท่านดัชเชสจะเข้าใจเบลินดาเป็นอย่างดีเลยนะครับ..อันที่จริงผมเองก็คิดมาสักพักแล้วเรื่องการมีภรรยาและการสร้างครอบครัว พรุ่งนี้ผมมีนัดกับเลดี้แรน เชล ..ตามมารยาทแล้วผมควรจะมีของติดไม้ติดมือไปในครั้งแรกที่เรานัดกันใช่ไหมครับ ท่านดัชเชสพอจะรู้ไหมว่าเลดี้แรนเชลชอบหรือว่าไม่ชอบอะไร”มีนัดกับอารีเอนงั้นเหรอ? เธอไม่เห็นเคยรู้มาก่อนเลยว่าอารีเอนสนใจท่านลอร์ด..แต่ความดีของเขาอาจจะทำให้ชีวิตที่แสนวุ่นวายของอารีเอนสงบลงก็ได้นะ ก็นับว่านี่คือคู่ที่เหมาะสมกันมากทีเดียว“ช่อดอกไม้สักช่อก็พอแล้วค่ะ อาริไม่ต้องการของขวัญหรือว่าของมีค่าอะไรหรอก..แค่ท่านไปตามนัดกับนาง นางก็น่าจะดีใจแล้ว”ความไม่มั่นใจของบาทีอัสนั้นจางหายไปนิดหน่อย ตัวเขานั้นไม่เคยคิดถึงเรื่องความรัก จนท่านดัชเชสกล่าวถึงเจตนาที่แท้จริงของเบลินดา นั่นทำให้เขารู้ว่าตัวเองอาจจะใส่ใจน้องสาวมากเกินไป จนทำให้นางรู้สึกผิดกับความหวังดีของเขาก็เป็นได้..“กำลัง..คุยอะไรกันอยู่ครับ?”ฟลอยด์ไม่ค่อยชอบใจที่เขาเห็นรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าของลอร์ดเวนสันในยามที่หมอนี่มองหน้าของโรวีนาเลย เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมตัวเองถึงเป็นพวกขี้หึงจนไม่สนใจส
“ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ..”ฉันกล่าวออกมาพร้อมกับส่งยิ้มให้ท่านลอร์ดบาทีอัส ฟลอยด์บอกกับฉันว่าเขาอยากจะลองต่อสู้กับความกลัวของตัวเองดู เพราะแบบนั้นเขาจึงขอเข้าไปพูดคุยกับ เบลินดาตามลำพัง ฉันก็เลยมานั่งรอที่ด้านนอกกับท่านลอร์ดบาทีอัส“ผมเองก็หวังว่าจะเป็นเช่นนั้นครับ เบลินดาขอย้ายไปอยู่ที่บ้านพักของตระกูลเวนสันในแกรนด์ดัชชีทางเหนือ ที่นั่นอากาศบริสุทธิ์มากกว่าที่เมืองหลวง อีกทั้งยังเงียบสงบมากกว่า..บอกตามตรงว่าผมเองก็อดใจหายไม่ได้เลยครับ เราสองคนพี่น้องอยู่ด้วยกันมาตลอด แต่อีกไม่นานเราต้องแยกจากกันแล้ว..มันอดใจหายไม่ได้เลย”โรวีนาส่งยิ้มให้กับลอร์ดบาทีอัส“ฉันเข้าใจเลดี้เบลินดานะคะ เธอคงคิดว่าเธออยากให้พี่ชายที่แสนดีของเธอได้มีชีวิตของตัวเองบ้าง เพราะที่ผ่านมาท่านทุ่มเทดูแลน้องสาวเพียงอย่างเดียวเลยนี่คะ มันคงถึงเวลาที่ท่านจะหาภรรยาของตัวเองได้สักทีแล้ว ช่วยเข้าใจความหวังดีขอเลดี้เบลินดาด้วยเถอะนะคะ”บาทีอัสมองหน้าของโรวีนาด้วยใบหน้าที่เขินอายเล็กน้อย เขาไม่ได้เขินที่อีกฝ่ายคือสาวงามที่สุดในจักรวรรดิ แต่เขาเขินที่เธอสามารถมองเห็นเจตนาของเบลินดาได้ และเขาเองก็ไม่เคยคิดถึงเ
หลังจากที่เดินขึ้นรถม้าแล้ว ยังไม่ทันที่ฉันจะได้นั่งลงในอีกฝั่งของรถม้า ฟลอยด์ก็เป็นฝ่ายดึงฉันให้นั่งลงบนตักของเขา มือของเขาโอบกอดร่างกายของฉันเอาไว้ในขณะที่รถม้ากำลังเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ ตามถนนหนทางโรวีนาเงียบไปพักหนึ่ง ในยามนี้มีเพียงเสียงหัวใจของใครสักคนดังก้องขึ้นมาเขาซบใบหน้าลงบนไหล่ของเธอเบาๆ ราวกับว่าไหล่เล็กๆของเธอนั้นคือที่พึ่งเพียงสุดท้ายของเขาอย่างน้อยที่สุดในวันนี้ก็มีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้น นั่นก็คือจักรพรรดินีรับปากเขาว่าจะไม่ให้ริโอนามายุ่งเกี่ยวกับเขาอีก เขาวางใจได้ในระดับหนึ่งว่าชีวิตของเขามันไม่ต้องไปพัวพันกับเรื่องที่เขาไม่อยากให้เกิดอีกแล้ว“..จักรพรรดินีรับปากแล้วว่าจะไม่ให้องค์หญิงมารบกวนท่านอีก เช่นนั้นแล้ว..การแต่งงานของเราก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้วอย่างนั้นสินะคะ.."เธอเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาและไม่มั่นคง โรวีนาไม่ได้อยากทำลายบรรยากาศดีๆ ระหว่างเราเลย แต่ทุกคนย่อมต้องยอมรับความจริงที่กำลังจะเกิดขึ้นเมื่อหน้าที่ของเธอจบลงแล้ว เธอไม่จำเป็นจะต้องทำให้เขาเดือดร้อนไปกับเธอด้วย ท่านพ่อเดินทางมาแล้ว เธอไม่ต้องรอคอยบรรดาศักดิ์ของซารังต์อีกต่อไป เมลลี่ก็จะสามารถเป